ประวัติชาติไทยตั้งแต่ต้นกัป พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ(พิมพ์เป็นตัวอักษร)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เก่ากะลา, 27 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    ทรงบูรณะ คือสร้างพระเจดีย์ใหญ่ครอบองค์เดิม ที่เรียกกันว่า พระปฐมเจดีย์ กระทั่งบัดนี้

    ทรงตั้งโรงพิมพ์ พิมพ์หนังสือราชการ ทรงตั้งหนังสือ อริยก

    ในกาลนี้ พระคณะธรรมยุตติกนิกาย ได้แพร่ออกไปมากตลอดมาจนถึงราชบุรี

    ทรงตั้ง และยกย่องโหราศาสตร์ จะเปลี่ยนตำราสูรย์จันทร์ หรือสุริยุปราคา และจันทรุปราคา ให้เป็นไปตามดาราศาสตร์อันถูกแน่นอน แต่ไม่สำเร็จเสด็จสวรรคต พ.ศ.๒๔๑๑
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  2. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2268530.jpg
    สามชน
    ลายพระหัตถ์ที่ปรากฏนี้ มีพิมพ์ในจารึกสุโขทัย หลักที่๑
    มีบันทึกว่า
    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชทาน เซอร์ยอฮ์น โบวริง มีลายพระหัตถ์คำแปลเป็นภาษาอังกฤษ...”

    ได้นำมาอ้างเพื่อเป็นหลักฐานประจักษ์แจ้ง ด้วยมีนักรู้ไทยชั้น ดร. ศจ. ได้บรรยายว่า จารึกหลักที่๑ นี้ ทรงกระทำขึ้นเพื่อให้มีประวัติสุโขทัย ขุดหลุมในวัง เช้ามืดยกลงซ่อนในหลุม เข้ากลางคืนก็ยกขึ้นมาจารึก ใกล้สว่างก็ยกลงฝัง...
    ที่ทรงกระทำนั้น ได้ลอกเลียนตัวลายสืออย่างนี้ ทรงแปลเป็นภาษาอังกฤษอย่างนี้ ได้พระราชทานไปมีหลักฐานอย่างนี้
    นักรู้ผู้นั้น ทำไมจึงบรรยายโกหกอย่างหน้าชื่นเช่นนั้น ก็ไม่รู้เหมือนกัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0110.jpg
      scan0110.jpg
      ขนาดไฟล์:
      179.5 KB
      เปิดดู:
      2,803
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  3. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269089.jpg

    สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี ๔ประโยค)
    ซ้าย-ในอิริยาบถเดินธุดงค์ อันเป็นสมณธุระกิจวัตร์ของท่าน
    จะเห็นถือกาน้ำ แบกกลด สะพายบาตร พระคุณท่านอาจไปถึงไหนๆก็ได้
    ขวา-ครั้งจุดใต้เข้าพระบรมมหาราชวัง ที่ฐานลงไว้ว่า พ.ศ.๒๔๑๑
    ชุดประดับอย่างเดียวกันนี้องค์อื่นมีเขียนว่า ได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ พ.ศ.๒๔๑๑

    เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯทรงสถาปนาสมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดี เป็นเอก อัครมเหษีแล้ว ทรงพระการุณยภาพว่าเป็นเจ้ากำพร้า และเป็นพระราชปิยนัดดาทรงพระเยาว์มีพระชนมายุได้ย่าง๑๘เท่านั้น ครั้นทรงทราบว่าทรงครรภ์แล้ว จึงเสด็จเยี่ยมและทรงดูแลพระกระยาหารพระภูษาทรงสุขภาพพลานามัยตลอดกาล
    จึงเป็นข่าวแพร่สะพัดออกไปกระทั่งถึงสมเด็จ และได้ทราบ
    พ.ศ.๒๓๙๕ นั้น สมเด็จยังดำรงสมณศักดิ์เป็นพระธรรมกิตติ จึงกระทำปริศนาธรรมทูลความนั้น
    วันหนึ่งได้จุดไต้ไฟลุกโพลงเดินเข้าสู่พระราชมณเฑียรในเวลาเที่ยงเศษๆ พร้อมกับเปล่งสมณวาจาตลอดทางว่า"ฟ้ามืดจริง...ฟ้ามืดจริง...ฟ้ามืดจริง"

    พระบาทสม เด็จพระปรเมนทรมหาราชาธิราชเจ้า ทรงทราบแล้วเสด็จออกต้อนรับ ตรัสนิมนต์ให้นั่งแล้ว ทรงประนมพระหัตถ์ตรัสว่า "ฟ้ายังไม่มืด...ฟ้ายังไม่มืด...ฟ้ายังไม่มืด"
    ที่จุดไต้นี้ ก็คงราวเดือน ๕ ปีนั้น ต่อจากนั้น ไม่เกิน ๕เดือน สมเด็จพระนางเจ้าทรงครรภ์แล้วได้ประชวรตลอด ครั้นพระครรภ์ได้ ๗เดือน ก็ประชวรประสูติพระราชโอรสซึ่งทรงพระชนม์อยู่ได้เพียง ๓ชั่วโมงก็หยุดไปเฉยๆ สมเด็จพระนางเจ้าได้ประชวรหนักกระทั่งเสด็จสวรรคตตามพระราชโอรส

    สมเด็จพระพุฒา จารย์(โต)นี้ พระคุณท่านทรงความรู้และมีปฏิภาณเฉียบแหลมนัก เป็นเปรียญ๔ประโยค เป็นคู่เล่นปริศนาธรรมกับพระจอมเกล้าฯ มีความเป็นเอกอุดมปราชญ์เท่าเทียมกัน
    เมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่ตรัสเรียกว่า"ขรัวโต" แม้ทรงลาออกแล้วก็ตรัสเรียกอย่างนั้น
    สมเด็จขานพระนามว่า ทูลกระหม่อมพระ เมื่อทรงลาสมณเพศออกแล้ว จึงเปลี่ยนเป็นราชาศัพท์ตามพระราชนิยม ซึ่งยืนยันถึงการทรงคุ้นเคยกันมาก

    สากกระเบือออกดอก
    เล่ากันว่า ครั้งหนึ่ง เจ้าพระคุณท่านยังเป็นขรัวโตอยู่วัดอินทรวิหาร เรียนบาลีได้มากแล้ว แต่ยังไม่ได้สอบ
    พระจอมเกล้าฯยังทรงผนวชอยู่ เสด็จไปเยี่ยมถึงห้อง ทรงเห็นท่านวางคัมภีร์ใบลานไว้เกลื่อนห้อง ตรัสถามว่า ขรัวโตทำอะไร พระคุณท่านจึงทูลว่า กำลังเรียนพระไตรปิฏก
    ทรงพระสรวลแล้วตรัสว่า ขรัวโตเรียนพระดตรปิฏกจบ สากกระเบือคงออกดอก
    ที่ตรัสอย่างนี้ คงจะเห็นว่า พระคุณท่านคงมัวแต่จะทำพระ คงไม่มีเวลาจะเล่าเรียน หรือดู อ่านพระไตรปิฏก
    ครั้นเสด็จครองราชสมบัติแล้ว ทรงอาราธนาให้รับสมณศักดิ์เป็นพระธรรมกิตติ เจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ได้กำหนดพระราชทานพระกฐิน พระคุณท่านได้เกณฑ์ชาวบ้านให้นำสากกระเบือมามากพอ แล้วเอาไม้ไผ่ทำต้น เอาสากกระเบือปักยอด ให้ทำพวงมาลัยดอกมะลิสดคล้องหัวตลอดทางเสด็จทั้งสองข้าง
    พระจอมเกล้าฯเสด็จทอดพระเนตรเห็นตลอด ครั้นเสด็จเข้าพระอุโบสถแล้ว ยกพระหัตถ์ประนมตรัสว่า ขรัวโตเรียนพระไตรปิฏกจบแล้ว
    ไม่ทรงลืม และทรงทราบตลอด จึงตรัสให้ทราบ

    เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน
    เจ้าพระคุณแต่เป็นขรัวโตนั้น เรียนบาลีมากแล้ว ได้เข้าสอบสนามหลวงสมัยรัชกาลที่ ๓ แปลไปได้ ๔ประโยค
    ครั้นแปลประโยค ๕
    ได้เปลี่ยน สัตถา ที่แปลเป็นปกติแล้วว่า อันว่าพระศาสดานั้น
    แต่ท่านแปลว่า อันว่าพระสัตถา เพราะเป็นภาษามคธ ไม่ต้องเปลี่ยนเป็นภาษาสันสกฤตไทยว่า พระศาสดา
    พระกรรมการสอบทัก ท่านก็ยืนยันแปลตามของท่าน จึงให้ตก
    ตอนนั้น ถ้าแปลประโยคสูงตก ประโยคต้นๆที่แปลได้แล้วก็พลอยตกไปด้วย
    แต่พระจอมเกล้าฯทรงถือว่าได้แล้ว จึงให้เป็นเปรียญ๔ประโยค เป็นพระมหาโต
    เมื่อทรงตั้งเป็นพระธรรมกิตติแล้ว ตรัสถามว่า ขรัวโต เมื่อรัชกาลที่๓จะทรงตั้ง ทำไมขรัวโตหนีไม่ยอมรับ คราวนี้ได้รับ
    พระคุณท่านได้ถวายพระพรว่า รัชกาลที่๓ทรงเป็นแต่พระเจ้าแผ่นดิน หนีได้
    ส่วนพระมหาบพิตรพระราชสมภารเจ้าทรงเป็น ทั้งเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ถึงจะเหาะหนีก็คงไม่พ้น

    รับว่าเป็นนักปราชญ์
    เมื่อเป็นพระเทพกวีแล้ว มีคณะสอนศาสนาหรือคณะมิชชันนารี ได้ศึกษาภาษาไทยและธรรมวินัยในพระพุทธศาสนามากถึงชำนาญแล้ว ต่างมีความสงสัยว่า จะมีผู้รู้และประพฤติปฏิบัติได้หรือไม่ จึงเข้าเฝ้าพระจอมเกล้าฯ ได้กราบทูลถาม ตรัสรับว่า มี ขรัวโตวัดระฆัง เป็นนักปราชญ์ มีความรู้มากสามารถสนทนาโต้ตอบได้ตลอด
    ตรัสให้พระธรรมการบดี นำไปวัดระฆัง เมื่อคณะไปถึงแล้วเข้าหากราบไหว้แล้ว ก็ออกคำถาม
    ในหลวงรับสั่งว่าท่านเป็นนักปราชญ์ พระคุณเจ้าใช่ไหม
    พระคุณท่านคล้ายกับจะทราบล่วงหน้าถึงพระราชดำรัสนั้นแล้ว จึงออกสมณวาจารับว่า
    ใช่ ฉันเป็นนักปราชญ์จ๊ะ
    ท่านเป็นนักปราชญ์ ผมจะถามอะไร คงตอบได้หมด
    จ๊ะ ฉันตอบได้หมด
    จากนั้นก็ยกข้อธรรมวินัยขึ้นถาม
    เจ้าพระคุณตอบได้คล่องตลอดทุกข้อความ
    หัวหน้าคณะฯจึงกล่าวว่า พระคุณเจ้าคงรู้แต่ทางธรรม ทางโลกคงไม่รู้อย่างพวกกระผม
    พระคุณท่านกล่าวว่า อันว่ารู้แบบโลกวิทู แปลว่า รู้แจ้งโลก เป็นของพระพุทธเจ้านั้น ฉันไม่ใช่พระพุทธเจ้า จึงไม่รู้ ฉันเป็นนักปราชญ์ จึงรู้แค่นักปราชญ์
    หัวหน้าได้กล่าวว่า เช่นเรื่องโลกนี้ว่ากลมหมุนเวียนไปรอบดวงอาทิตย์จึงมีกลางคืนกลางวัน
    พระคุณท่านกล่าวว่า ภูมินักปราชญ์นั้นฉันเป็นอยู่แล้วจึงรู้ และรู้ถึงตรงกลางโลกว่าอยู่ตรงไหน
    คณะนั้นสงสัยจึงขอให้พาไปดู พระึคุณท่านจึงถือไม้เท้าลงจากกุฏิเดินมายืน ณ พื้นดินหน้ากุฏินั้นปักไม้เท้าลงแล้วบอกว่า กลางโลกอยู่ตรงนี้
    พวกนั้นสงสัยกล่าวค้านว่า กลางโลกอยู่ที่ขั้วโลกต่างหาก
    พระคุณท่านอธิบายว่า เมื่อกี้ท่านว่าโลกกลม ก็วัดวงรอบไปจะมาถึงตรงนี้ กลางโลกจึงอยู่ตรงนี้
    คณะนั้นยกมือขึ้นประนมหัวเราะแล้วรับว่า จริงขอรับ กลางโลกอยู่ตรงนี้แน่ พระคุณเจ้าเป็นนักปราชญ์จริง
    คณะนั้นนมัสการลากลับ พระธรรมการบดีได้กลับมากราบทูลให้ทรงทราบความนั้นตลอด
    ก็ทรงเข้าพระทัยตลอดว่า พวกฝรั่งเขาชอบปฏิภาณตอบได้เป็นสำคัญ
    จึงตรัสรับรองว่า ขรัวโตพูดจริงแล้ว ขรัวโตพูดจริงแล้วสมกับที่ว่า ขรัวโตเป็นนักปราชญ์

    เหล็กดี หินดี ตีทีเดียวก็ติด
    เล่ากันว่าในคราวนั้น ทรงโปรดมาก ได้พระราชทานสมณศักดิ์
    มีพระราชดำรัสว่าราชทินนามว่านักปราชญ์ แปลว่าผู้รู้ และชื่อว่า พุทธ ก้แปลว่า ผู้รู้
    จึงโปรดให้จารึกในหิรัญญบัตรว่า พระพุทธาจารย์ อเนกสถานปรีชา
    โปรดให้เป็นเจ้าคณะรอง(ยังไม่ได้เป็นสมเด็จ)
    ที่พิเศษมาแต่แรกคือ พระราชทานพัดใบลานฝ่ายวิปัสสนา
    ซึ่งเป็นพระบรมราชานุญาติให้เข้าเฝ้าทุกสถานที่และทุกเวลา
    ในคราวหนึ่ง เจ้าจอมมารดา พระสนมเอก ได้ประสูติพระราชกุมาร
    แล้วทรงเกิดสงสัย เพราะเสด็จครั้งเดียว
    ได้ทรงซักถาม และไต่สวนความนั้น
    พร้อมกันนั้น พระคุณท่านก็มาปรากฏเฉยๆ ไม่มีใครทราบว่ามาได้อย่างไร
    พระคุณท่านถือพัดพระราชทานพระบรมราชานุญาตินั้น เข้าไปถึงฝ่ายในด้วย
    ครั้นปรากฏเข้าไปแล้ว ก็นั่ง ณ ที่สมควร
    วางพัดแล้วล้วงหยิบชุดหินเหล็กไฟขึ้นมาจากย่ามพร้อมแล้วตีบังเอิญทีเดียวก็ติดชุดทันที
    พระคุณท่่านกล่าวสมณวาจาว่า เหล็กดี หินดี ตีทีเดียวก็ติด
    เล่ากันต่อมาว่า ทรงพระศรวลตรัสรับว่า ขรัวโตพูดจริงแล้ว เหล็กดี หินดี ตีทีเดียวก็ติด
    ทรงหมดสงสัย ยอมรับเป็นพระราชกุมาร
    เป็นอันว่า พระคุณท่านได้ช่วย และทำปริศนาธรรมแก่พระราชวิตกกังวลได้ถวายพระเกษมสำราญพระราชหทัยได้

    ขรัวโตทำบ้าก็ว่าขรัวโตทำดี ขรัวโตทำดีก็ว่าขรัวโตทำบ้า
    คำพังเพยอุทานนี้ พยายามค้น มีผู้กล่าวในกาลที่พระคุณท่านทำอะไร ยังไม่พบ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0150.jpg
      scan0150.jpg
      ขนาดไฟล์:
      262.4 KB
      เปิดดู:
      1,742
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  4. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269136.jpg
    รูปที่เป็นแผ่นผงนี้ ข้างหลังมีรอยเขียนหนังสือไทยไว้ว่า ขรัวโตปุกเสก ทูลเกล้่าถวาย ร.๕เนื่องในวาระเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นสมเด็จพระพุฒาจารย์ พ.ศ.๒๔๑๑---๑ ในสยาม ลาภผล พูนทวี
    มีดวงชตาคู่ ซ้าย-ขวา ตรงกลางระหว่างคู่ดวงมีเขียนว่า พิเศษ
    ขวา-สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)ถือไต้ที่จุดลุกโพลง
    ซ้าย-สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ประนมหัตถ์แด่สมเด็จ


    พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ เสด็จสวรรคต วันขึ้น ๑๕ค่ำ เดือน๑๑ วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๔๑๑
    ได้ทรงประชวรมา ๓๗วัน พระบรมราชโอรสสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาลงกรณ์ก้ทรงประชวรหนักกระทั่งต้องเสด็จพระเก้าอี้หามในการถวายพระสุคนธ์ธารสรงพระบรมศพ
    เมื่อเสด็จผ่าน ท่านผู้หญิงพันภรรยาเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์ พูดขึ้นว่า "พ่อคุณนี่พ่อจะอยู่ได้สักกี่วัน"
    ทรงได้ยิน ตรัสไปว่า "ถ้่าข้าตายก่อน ไปเผาศพข้าด้วย ถ้าแกตายก่อน ข้าต้องไปเผา"

    ในกาลนั้น สมเด็จยังดำรงฐานันดรศักดิ์
    เจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์วัยวัฒน์พระสมุหกลาโหม ได้รับพระบรมราชโองการ
    ให้เป็นประธานพระบรมวงศานุวงศ์และมุขมนตรี
    ทูลอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เถลิงถวัลย์ราชสมบัติ กระทำพระราชพิธีพระบรมราชาภิเษก
    เพราะทรงประชวรหนัก และตั้งผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว
    ก็ต้องเชิญเสด็จ-กราบทูลเชิญเสด็จออกราชการ
    และยังมีอีกหลายเรื่อง นี้เป็นเหตุให้มีข่าวลือมากมาย แม้จะเป็นข่าวอกุศลก็มีคนเชื่อกันมาก
    กระทั่งถึงสมเด็จพระพุฒาจารย์
    เจ้าพระคุณสมเด็จหวังจะกล่าวและให้ปฏิญาณในที่ชุมชนเพื่อระงับข่าวอกุศลนั้น
    ครั้นถึงวันดีเวลาเที่ยง เจ้าพระคุณสมเด็จได้จุดไต้ลุกโพลง เดินเข้าตำหนักประสาทสั่ง
    พร้อมกับเปล่งสมณวาจาว่า "โลกมืดจริง...โลกมืดจริง..."
    ท่านเจ้าพระยาพระสมุหกลาโหม ผู้สำเร็จราชการได้ออกต้อนรับ อาราธนาให้นั่ง ณ เก้าอี้พนัก
    ได้นั่งลง ณ เก้าอี้พนัก แล้วได้ประนมมือกราบเรียนสัจวาจาว่า
    "โลกยังไม่มืดฟ้าสว่างแล้ว ชีวิตเกล้ากระผมอยู่ตราบใด โลกไม่มืดฟ้าสว่างตลอดตราบนั้น เกล้ากระผมเอาชีวิตเป็นประกัน"
    ต่อจากนั้น สมเด็จทั้งสองได้สนทนากันอย่างสบายใจ
    เจ้าพระยาได้กล่าวบรมมหาวาจาว่า
    "พระคุณเจ้า ก็โลกนี้แจ้งมาตลอดทุกแผ่นดิน แผ่นดินสว่างมาตั้งแต่ที่ ๓ กระทั่งแผ่นดินนี้ ทำไมพระคุณเจ้าจึงเปลี่ยนคำว่า โลกมืดจริงๆ"
    สมเด็จได้กล่าวสมณวาจาว่า "อาตมาภาพได้ยินข่าวว่า ทุกวันนี้แผ่นดินมืดมัวนัก เพราะมีคนคิดร้ายจะเอาแผ่นดิน ไม่ทราบว่าจะเท็จจริงประการใด ถ้าแม้เป็นความจริง อาตมาใคร่ขอบิณฑบาตเขาเสียสักครั้งหนึ่ง"
    เ้จ้าพระยาได้กล่าวเป็นบรมมหาวาจาว่า"พระคุณเจ้าอย่าได้วิตกเลย ตราบใดที่กระผมยังมีชีวิตอยู่ จะไม่ให้แผ่นดินมืดมัวลงด้วยผู้ใดแย่งแผ่นดินเป็นอันขาด"
    คำกล่าวนั้นๆได้ยินกันทั่วทุกท่านที่ชุมนุมอยู่นั้นต่างได้นำออกไปแพร่หลายเป้นเหตุให้สงบระงับข่าวอกุศลนั้นได้
    ทั้งนี้เข้าใจว่าจะเป็นระยะกาล พ.ศ.๒๔๑๑ ปลายๆเดือนตุลาคมนั้น
    อาจเพราะเหตุนี้ จึงย้ายออกไปพักแรมที่ ราชบุรี พ.ศ.๒๔๑๒
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0152.jpg
      scan0152.jpg
      ขนาดไฟล์:
      162.9 KB
      เปิดดู:
      1,947
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  5. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269615.jpg
    สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์(ช่วง บุนนาค)

    สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) สืบมาจาก เจ้าพระยามหาอรรคเสนา บุนนาค
    ท่านบุนนาคนี้เป็นเพื่อนกับรัชกาลที่๑ สมัยนายด้วงศิษย์วัด
    เมื่อนายด้วงเป็นหลวงยกกระบัตรเมืองราชบุรี ได้มาอยู่และแต่งงานกับนาก(สมเด็จพระอมรินทรามาตย์) ท่านนากนี้มีน้องสาวชื่อ นวล
    ครั้นรัชกาลที่ ๑ (ด้วง) เข้ารับราชการในสมัยพระเจ้าตากสิน บุนนาคได้มาหาเสมอ และมักไปในพระราชสงครามด้วย จึงมีโอกาสรู้จักกับนวลและได้แต่งงาน
    เมื่อรัชกาลที่๑ ปราบดาภิเษกแล้ว ทรงตั้งบุนนาคเป็นข้าราชการมียศบรรดาศักดิ์กระทั่งเป็นเจ้าพระยามหาอรรคเสนา
    นวล จึงขึ้นเป็น เจ้าคุณนวล บัดนี้เรียกกันว่า ท่านผู้หญิง
    แต่เจ้าคุณนี้มีลูกหลานเป็นสมเด็จ คือ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาประยูรวงศ์ สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ และสมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์

    สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์(ช่วง บุนนาค) ได้รับราชการตั้งแต่รัชกาลที่๓ ได้เป็นพระยาศรีสุริยวงศ์
    ในกาลรัชกาลที่๓ประชวรหนัก ได้เฝ้าใกล้ชิด และได้รับพระบรมราชโองการให้ทูลเชิญผู้สมควรครองสืบต่อไป จึงตกลงร่วมกันทูลอัญเชิญ รัชกาลที่๔ เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติสืบต่อ
    ได้เป็นเจ้าพระยาศรีสุริยวงศ์วัยวัฒน์ และเป็นพระสมุหกลาโหม
    ได้นำเสด็จประพาสราชบุรี กาญจนบุรี
    ได้ทรงพระกรุณาโปรดให้สร้าง พระนครคีรี-เพชรบุรี
    ได้สละทรัพย์ส่วนตัว ๑,๐๐๐ชั่ง ซึ่งร่วมกับพระราชทรัพย์๔๐๐ชั่ง ขุดคลองดำเนินสะดวก เปิดใช้ พ.ศ.๒๔๑๑
    ครั้นวันที่ ๑ ตุลาคม ปีนี้ รัชกาลที่๔ได้ใกล้เสด็จสวรรคต ได้รับพระบรมราชโองการฝากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชเจ้า
    ครั้นเสด็จสวรรคตแล้ว ได้เป็นประธานตกลงร่วมกันกราบทูลอัญเชิญเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติแล้ว
    เป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ขึ้นเทียบที่สมเด็จเจ้าพระยาพระประสาทสั่ง
    พ.ศ.๒๔๑๒ ได้ย้ายครอบครัีวและข้าราชการผู้ใหญ่ผู้น้อยมาตั้งทำเนียบที่ริมบ้านสุด(ต่อมาเป็นศาลากลางมณฑลราชบุรี) ได้สร้างเมืองราชบุรี เกณฑ์คนมาถางป่า ตัดถนนปรับพื้นที่เพื่อสร้างพระราชวังเป็นที่เสด็จประพาส ณ เมืองราชบุรีเหมือนพระนครคีรี เพชรบุรีนั้น
    ได้สร้างค่ายหลวงรับเสด็จประพาส พ.ศ.๒๔๑๔
    ครั้งที่ ๒ สร้าง ณ บริเวณเด่นกระต่ายดอนตะโก
    ครั้งที่ ๓ สร้าง ณ เขาแก่นจันทน์
    ครั้งที่ ๔ ตกลงแน่นอนว่าสร้าง ณ เขาวัง คือ เขาสัตตนารถเดิม ได้ย้ายเป็น วัดสัตตนารถปริวัตร์(ปัจจุบัน) พระสงฆ์ได้ย้ายไปอยู่วัดห้วยหมู(ปัจจุบัน) พระราชวังนี้ ต่อมาได้เป็นวัดเขาวัง
    ครั้น พ.ศ.๒๔๑๖ ได้รับสถาปนาเป็น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ฯพระประสาทสั่งสำเร็จสรรพอาญาสิทธิ์ประหารชีวิตคนที่ถึงแก่อุกฤษฐโทษได้ ผู้ดำรงมหิศวรศักดิ์วรเดชานุภาพ
    ให้ตั้ง จางวางทนาย เป็น หลวงบำรุงวรามาตย์
    ให้ตั้ง ปลัดจางวางทนาย เป็น ขุนประสาทภักดี
    ให้ตั้ง สมุหบัญชีทนาย เป็น หมื่นศรีพยุหรักษ์
    พ.ศ.๒๔๒๐-๒๘ ได้สร้างวัดศรีสุริยวงศ์
    พ.ศ.๒๔๓๘ ได้ให้ตึกทำเนียบ เป็น ศาลากลางมณฑลราชบุรี

    สมเด็จเจ้าพระยา ได้ออกมาสร้า้งเมืองราชบุรี ได้นำเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯมาประทับ
    ทั้งได้สร้าง เขาสัตตนารถ เป็นพระราชวัง ได้นำเสด็จมาประทับหลายครั้ง
    ได้สร้าง ราชบุรี ให้กลับฟื้นขึ้นมาอีก
    เมืองรชบุรีเดิม ซึ่งรัชกาลที่๒ สร้างไว้ก็มิได้ทิ้ง ให้ทำเป็นมณฑลทหารบก ถึงจะย้ายมาอยู่ยังฝั่งตะวันตกก็ตาม จึงเป็นเมืองทั้งพลเรือน และทหารอยู่ด้วยกัน
    เมืองราชบุรี เป็นจังหวัดราชบุรี และ มณฑลราชบุรี จึงเจริญงอกงามขึ้นปรากฏอยู่ถึงปัจจุบัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0153.jpg
      scan0153.jpg
      ขนาดไฟล์:
      157.1 KB
      เปิดดู:
      1,388
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  6. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269758.jpg

    สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช(สา)พระองค์ที่๙ กรุงรัตนโกสินทร์ เป็นพระสหายพรหมจรรย์รุ่นแรก
    หนังสือราชประดิษฐานุสรณ์เล่าว่า เดิมเป็นชาวเมืองราชบุรี ข้างวัดโรงช้าง
    ทรงเป็นสัทธิวิหาริก สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์
    อุปสมบทครั้งแรกเป็นพระเถรร่วมคณะ ๑๐องค์ มีนามมคธว่า ปุสฺโส

    อาจเป็นองค์แรกที่สอบจบประโยค๙ ถึง๒ครั้ง
    สอบได้ ๙ประโยคแต่เป็นสามเณร อายุ๑๘
    ครั้นอุปสมบทแล้ว เป็นพระราชาคณะที่ พระอมรโมลี แล้วลาสิกขา
    เมื่อพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าทรงชวนแล้วได้กลับเข้าอุปสมบทใหม่
    เป็นสัทธิวิหาริกของ สมเด็จปวเรศวร์ฯ พระอุปัชฌาย์ประทานชื่อเดิมอีกว่า ปุสฺส เทโว
    เพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยจึงสอบอีกครั้ง แปลได้จบประโยค๙
    ได้ทรงเป็นต้นชื่อ "สา”เข้าไปเป็นพระราชทินนามว่า พระสาสนโสภน
    สมเด็จพระราชาคณะ เดิมว่า อริยวงศญาณ เมื่อได้รับสถาปนา พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯทรงสถาปนาให้มี "สา”ด้วย
    จึงเป็น สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ
    ได้ทรงเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้ทรงเป็นประธานสังคายนาพระไตรปิฏก อัฏฐกถา ฏีกา ฯลฯ คือคัดลอกจากตัวขอม พิมพ์เป็นตัวไทย ชื่อ สยามรัฏฐเตปิกก
    ทรงแปล และรจนาหนังสือไว้มาก เช่น ปฐมสมโพธิกถา เรียบเรียงมหาปรินิพพาณสูตร และสังคายนา หรือสังคีติกถา
    ด้านการปกครอง ทรงเป็นเจ้าคณะหนเหนือ และทรงบัญชาการคณะสงฆ์แบบเจ้าคณะทั้ง ๔ นั้น ตลอดกลมาถึง พ.ศ.๒๔๔๒

    a.2269735.jpg

    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชเจ้าพระองค์ที่๑๐
    ทรงเป็นพระราชโอรส พระบาทสมเด้จพระจอมเกล้าฯ ประสูติ พ.ศ.๒๔๐๓
    ทรงศึกษาหนังสือไทย หนังสือขอม ภาษาบาลี ภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญแล้ว
    พ.ศ.๒๔๒๓ พระชนมายุ๒๐ ได้ทรงอุปสมบท
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงเป็นอุปัชฌาย์
    พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯทรงเป็นอุปถัมภก
    ทรงสอบได้เปรียญ๕ประโยค
    ทรงจัดลักษณะปกครองคณะสงฆ์ และมีพระราชบัญญัติลักษณธปกครองคณะสงฆ์ ร.ศ.๑๒๑ ออกมา
    ทรงรจนา หลักสูตรนักธรรมตรี โท เอก พร้อมกับตั้งเป็นแบบเรียนกันมาถึงบัดนี้
    ทรงใช้แบบระบบสมณวินิจฉัยธิกรณ์ ตามพระวินัยแม้ทางพระราชอาณาจักรก็รับรองและมอบให้คณะสงฆ์กระทำกันเอง
    ทรงทะนุบำรุงการศึกษาทั้งพุทธจักร และราชอาณาจักร คือ ทรงให้เจ้าคณะจังหวัดทั่วราชอาณาจักร ตั้งสำนักเรียนประจำ
    และให้อุปถัมภ์พระราชอาณาจักร ให้กิจกรรมโรงเรียนประจำเปิดสอนกุลบุตรกุลธิดา ตั้งแต่ประชาบาลถึงประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0108.jpg
      scan0108.jpg
      ขนาดไฟล์:
      204.4 KB
      เปิดดู:
      1,733
    • scan0154.jpg
      scan0154.jpg
      ขนาดไฟล์:
      230 KB
      เปิดดู:
      1,539
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  7. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    [​IMG]

    สมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ ป.๙) วัดโสมนัสวิหาร
    ท่านเป็นพระเถรองค์ที่ ๔ ในพระเถร ๑ๆองค์รุ่นแรกนั้น
    ในประวัติเล่าว่า เมื่อครั้งบวชเป็นสามเณรอยู่วัดสังเวชฯนั้น ได้เล่าเรียนบาลีและสอบเป็นเปรียญได้ในสำนักหรือสนามวังหน้าแล้ว แต่สอบตกในสนามหลวง
    ครั้นได้อุปสมบทเป็นอุปสัมบันภิกขุ ณ วัดเทวราชฯ ได้ถูกพระพี่เลี้ยง(ทับ)นำไปถวายตัวเป็นศิษย์ในสมเด็จพระจอมเกล้าฯครั้งผนวชเป็นพระวชิรญาณอยู่
    ท่านได้ศึกษาจนจบประโยค๙ในตอนนั้น
    ท่านชอบเดิยธุดงค์และเข้าป่าช้า ท่านได้เดินธุดงค์ไปอยู่ที่นครปฐม กระทั่งตั้งใจเป็นอุทิศบรรพชาครั้งที่๗ และได้ธุดงค์มาพักอยู่ ณ วัดอรัญญิกาวาส ราชบุรี ซึ่งในกาลนั้นยังเป็นป่ารกชัฎ เป็นประจำ
    กระทั่งคุ้นเคยกับท่านเจ้าคุณพระสมุทรมุนี ซึ่งในกาลนั้นเป็น พระหน่าย อยู่ ณ วัดมหาธาตุ และชอบกรรมฐานด้วยกัน
    แม้ในกาลสอบพระปริยัติธรรม ในประวัติเล่าว่า เวลานั้น ท่านไปเที่ยวธุดงควัตรตามสมณกิจ พอกลับมาถึง ก็มีรับสั่งให้เข้าแปลหนังสือ
    ในครั้งนั้น พ.ศ.๒๓๗๙ อายุ ๓๑ พรรษา๑๑ ท่านแปลได้ ๗ ประโยค
    ต่อมาจึงแปลได้อีก ๒ ประโยค เป็น ๙ ประโยค
    พ.ศ.๒๓๘๑ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระอริยมุนี
    ได้มาครองเป็นเจ้าอาวา่สวัดโสมนัสวิหาร พ.ศ.๒๓๙๙
    พ.ศ.๒๔๐๐ ได้เลื่อนเป็นพระพรหมมุนี
    พ.ศ.๒๔๑๕ ได้เลื่อนเป็นพระพิมลธรรม
    พ.ศ.๒๔๒๒ ได้สถาปนาเป็น สมเด็จพระวันรัต
    มรณภาพ พ.ศ.๒๔๓๔
    พ.ศ.๒๔๐๐ถึง พ.ศ.๒๔๒๐ ได้เป็นพระอุปัชฌาย์ อุปสมบท พระหน่าย ขมโก(พระสมุทรมุนี) ณ พระอุโบสถวัดโสมนัสนี้ ซึ่งเป็นเหตุให้พระหน่าย ขมโก มีความคิดรื้อฟื้นวัดอรัญญิกาวาสขึ้น เมืิ่อประมาณ พ.ศ.๒๔๒๐ตามที่พระครูวินัยธรรม(อิน)ได้บันทึกไว้
    ในประวัติวัดสัตตนารถ ได้เล่าประวัติไว้ว่า ท่านเจ้าคุณพระสมุทรมุนี(หน่าย)มรณภาพ พ.ศ.๒๔๓๖ อายุ ๖๐ เศษ พรรษา๓๗ ฉะนี้ท่านจึงเกิด พ.ศ.๒๓๗๖ ขณะที่เจ้าพระคุณสมเด็จธุดงค์มานั้น จึงมีอายุได้ ๔-๕ขวบ
    ตามชนบท เมื่อมีพระธุดงค์ไปพัก มักนำอาหารและลูกหลานไปหากัน
    เมื่อได้เป็นเปรียญและเป็นพระราชาคณะแล้ว อาจเดินธุดงค์ไปอีกกระทั่งคุ้นเคยกัน หรืออาจไปเจริญสมณธรรมด้วยกัน
    เมื่อ พระหน่ายอุปสมบท ณ วัดมหาธาตุแล้ว จึงได้ลาเพศออกมาอุปสมบทกับเจ้าพระคุณสมเด็จ ณ วัดโสมนัส พ.ศ.๒๔๐๑ ซึ่งตอนนั้นเจ้าพระคุณสมเด็จได้เลื่อนเป็นพระพรหมมุนีแล้ว
    เมื่อ พระหน่าย ขมโก มีพรรษา๑๐ ได้ออกมาอยู่วัดตาล ซึ่งต่อมาได้ตั้งชื่อใหม่ว่า วัดอมรินทราราม
    พ.ศ.๒๔๑๑ เป็นพระอนุสาวนาจารยอุปสมบทท่านเจ้าพระคุณพระพุทธวิริยาการ(จิต ฉนฺโน)
    เมื่อท่านเจ้าพระคุณพระมหาสมณวงศ์(แท่น โสมทตฺโต)อุปสมบทได้ ๕ พรรษา มาอยู่กับท่านที่วัดอมรินทรารามแล้ว
    เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๒๑ ท่านได้รับเป็น พระครูขันตยาคม
    เจ้าพระคุณสมเด็จได้รับสถาปนา พ.ศ.๒๔๒๒ ในบันทึกท่านพระครูวินัยธรรม ว่ายังเป็นเจ้าอธิการอยู่ถึง พ.ศ.๒๔๒๐เช่นนี้ จึงเห็นกันว่าอาจไม่ใช่ ตอนนั้น สมเด็จพระวันรัต(สมบูรณ์)มรณภาพ พ.ศ.๒๔๑๙ อาจเทียบที่ไว้แล้ว และการเรียบเรียงนี้ ท่านพระครูเรียบเรียงถวายพระราชคณะปลัด
    พ.ศ.๒๔๕๘ เป็นกาลที่เจ้าพระคุณสมเด็จได้รับสถาปนาแล้ว จึงระบุได้ตามที่เป็น
    กับทั้ง ในกาลนั้น พระที่ได้รับสมณศักดิ์ชั้นพระราชคณะขึ้นไป ชาวชนบทเรียกสมเด็จเจ้าทั้งนั้น
    ด้วยประการฉะนี้ ท่านพระครูวินัยธรรม(อิน)จึงเรียบเรียงเรื่องถวายพระราชาคณะปลัดมหาสังฆปรินายก ว่า
    "เจ้าคุณพระมหาสมณวงศ์(แท่น โสมทตฺโต)วัดเขามหาสวรรค์ พระอารามหลวง เพชรบุรี ยังเป็นเจ้าอธิการอยู่วัดเม็ง บางน้อย นั่งกัมมัฏฐานเห็นสมเด็จพระวันรัต(ทับ) ได้ถามท่าน โสปาโก(ปาน)เจ้าอาวาสวัดบางคณฑี ท่านเล่าบอกให้รู้จักแล้ว เกิดเลื่อมใสจึงลาสิกขาออกมาอุปสมบทใหม่ ณ วัดบางคณฑี ได้ห้าพรรษาจึงขึ้นมาพักอยู่ที่วัดตาลอมรินทร์ ท่านเจ้าคุณสมุทรมุนีเมื่อท่านเป็นเจ้าอธิการ(เจ้าอาวาส)อยู่วัดอมรินทร์ได้เล่าบอกว่า มีวัดร้างอยู่วัดหนึ่งทุ่งหน้าเขางู เป็นวัดเก่าแก่ร้างมาช้านาน จะเรียกว่าวัดอะไรก็ไม่ทราบ...ได้ยินแต่เมื่อครั้งก่อนเป็นวัดอยู่นอกเมือง เป็นวัดเป็นที่อยู่ของ สมเด็จพระวันรัต ดูท่าทางทำเลชอบกลอยู่ ถ้าได้ไปปฏิสังขรณ์ขึ้นได้จะเป็นการดีทีเดียว ไว้สำหรับเป็นที่พักอาศัยของภิกษุผู้อยู่ปริวาสกรรม และจะได้เป็นที่อาศัยอยู่ธุดงค์ และเจริญกรรมฐานดีนัก เพราะเป็นที่เงียบสงัดดี ถ้าฉันไปปฏิสังขรณ์ขึ้นแล้ว จะนิมนต์ให้ท่านเป็นสมภารเป็นเจ้าอธิการอยู่รักษาวัดนั้นจะได้ฤามิได้ ท่านรับว่าได้
    ณ ปีวอก นักษัตร์จัตวา (พ.ศ.๒๔๒๕) ได้พาสานุศิษย์และอุปฐากไปแผ้วป่าไม้ไผ่ และป่าหนามที่รกชัฎให้สะอาดเตียนดีแล้ว ได้ปฏิสังขรณ์ก่อสร้างกุฏิหลายหลัง สร้างศาลา ปฏิสังขรณ์สระเก่า
    พระแท่นโสมทตฺโต ได้เป็นพระอธิการอยู่ ท่านเริ่มปฏิสังขรณ์พระเจดีย์ หรือ พระปรางค์ พระพุทธสีหไสยาของเก่า ปฏิสังขรณ์อุโบสถเก่ายาว๑๐วา กว้าง๕วา แต่ชำรุดซุดโวมมาก จึงชวน พระยาธรรมจรรยานุกูลมนตรี ให้สร้างพระอุโบสถขึ้นอีกหลังหนึ่ง แล้วได้เรียกกันว่า วัดอรัญญิกาวาส ต่อมา
    พระเดชพระคุณสมเด็จพระวันรัต (ทับ พุทฺธสิริ ป.๙)เจ้าอาวาสวัดโสมนัส เจ้าคณะหนใต้ เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านพระอุปัชฌายปาน โสปาโก และท่านเจ้าพระคุณพระสมุทรมุนี(หน่าย ขมโก)
    ท่านพระอุปัชฌายปาน ได้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางคณฑี ได้เป็นพระอุปัชฌายของท่านเจ้าพระคุณพระพุทธวิริยากร(จิต ฉนฺโน) และท่านเจ้าคุณพระมหาสมณวงศ์(แท่น โสมทตฺโต)
    ท่านเจ้าคุณพระพุทธวิริยากร ได้เป็นพระอุปัชฌายอุปสมบทอีกหลายท่าน เช่น พระครูเมธีธรรมานุยุต ท่านเจ้าคุณพระพรหมมุนี(ผิน) ท่านเจ้าคุณพระเทพเจติยาจารย์
    เพราะท่านเจ้าพระคุณสมเด็จเคยธุดงค์มาพักอยู่ ณ วัดอรัญญิกาวาส เป็นเหตุให้สัทธิวิหาริกและอันเตวาสิก คือท่านเจ้าคุณพระสมุทรมุนี(หน่าย) และท่านเจ้าคุณพระมหาสมณวงศ์(แท่น) ได้บูรณะปฏิสังขรณ์แล้ว วัดอรัญญิกาวาส จึงกลับฟื้นคืนสภาพขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๒๕ ยั่งยืนมากระทั่งถึงปัจจุบัน
    ถ้านับจาก ขุนหาญบุญไทย สถาปนา พ.ศ.๑๐๓๐ มา ก็คงยืนมากกว่า ๑๕๐๐ปี เพราะพระพุทธสีหไสยา และ พระปรางค์เดิมได้สถิตอยู่นั้นยืนยันมาแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0155.jpg
      scan0155.jpg
      ขนาดไฟล์:
      184 KB
      เปิดดู:
      2,780
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2013
  8. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269911.jpg
    พระบรมรูป ร.๕ และสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ในนี้จะเห็นทรงเรียนภาษาบาลี คือ ธรรมวินัยอันมีพระคัมภีร์ใบลาน มีพระพุทธรูป และพระสงฆ์ ครบพระรัตนไตร
    สมเด็จได้มีสิ่งกระทำอันเป็นอมตไว้ คือ พระพุทธรูป
    ส่วนพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ได้แตกฉานภาษามคธ สันสกฤต อังกฤษ เยอรมัน ฯลฯ
    ได้เปลี่ยนระบบการปกครองทั้งชาติและศาสนาได้ ทรงพิมพ์พระไตรปิฏกเป็นหนังสือไทย
    ได้มาสร้างพระที่นั่ง หรือ วังบ้านปืน ที่เพชรบุรี
    ได้ทรงย้ายเมืองเพชรมาตั้งที่ปัจจุบันนี้ ซึ่งนับว่าทรงสร้างเมืองเพชรบุรี
    กับทรงสร้างพระราชวัง ณ เขาวัง ราชบุรี
    ทรงเชื่อว่า เมืองเพชรเคยเป็นเมืองหลวงหรือกรุงโบราณ จึงนำชื่อไปสถาปนา พระนามพระเจ้าลูกยาเธอ สมเด็จเจ้าฟ้า ว่า กรมหลวงเพชรบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0107.jpg
      scan0107.jpg
      ขนาดไฟล์:
      253.9 KB
      เปิดดู:
      7,601
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  9. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269915.jpg

    พระบาทสมเด็จพระมหาจุฬาลงกรณ์ พระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕

    ฮะเฮ้ยอย่าเยาะเย้ย หยามเด็ก

    พริก-ก็พริกเม็ดเล็ก เผ็ดล้ำ

    ใครเล่าจะกินเหล็ก บ่อล้ำ ฤาชา

    โคแก่จนคอง้ำ เด็กขึ้นขี่คอ

    (พระราชนิพนธ์ ร.๕)

    รัชกาลที่ ๕ พระปิยมหาราช ทรงรับพระราชภาระทั้งพระราชอาณาจักร และพระพุทธจักร สืบต่อจากพระราชบิดา
    คราวแรก ยังไม่ลุนิติภาวะ
    พระองค์ประสูติ พ.ศ.๒๓๙๖
    เมื่อ พ.ศ.๒๔๑๖ ทรงบรรลุนิติภาวะ และทรงผนวชเป็นพระภิกษุแล้ว ได้ทรงรับ และดำเนินรัฐภาระและศาสนภาระ

    พ.ศ.๒๔๒๒ พระองค์เจ้ามนุษยนาคมาณพ ทรงผนวชรับภาระธุระพระพุทธศาสนาต่อมา

    ในตอนแรก แต่ครั้งรัชกาลที่ ๔ กรมพระปรมานุชิตฯ ทรงรับพระพุทธศาสนาแล้ว
    เมื่อรัชกาลที่ ๕ ครอง กรมพระยาปวเรศริยาลงกรณ์ ทรงร่วมรับต่อมา

    เมื่อทรงบรรลุพระบรมราชาภิเศกสมบูรณ์แล้ว
    ได้ข้าราชการ และพระเจ้าน้องๆ ช่วยพระราชภาระนั้น
    ครั้นประสบเรื่องระบอบการปกครองจึงทรงแก้ไข ขัดด้วยหาผู้รู้ไม่ได้พอ
    จึงต้องส่งพระเจ้าลูกเธอทั้งหลายไปศึกษาต่อ ณ ต่างประเทศ

    ในภายใน ทรงเริ่มตั้งแต่ พ.ศ.๒๔๑๗ ค่อยเปลี่ยนจาก จตุสดมภ์ ซึ่งมีที่ปรึกษา
    พ.ศ.๒๔๒๗ ได้มีการร่างธรรมนูญการปกครองเปลี่ยนเป็น กรม
    มี เจ้ากรม

    และต้องทรงประสบพวกฝรั่งเศสยึดดินแดน พ.ศ.๒๔๑๐ ครั้งหนึ่ง
    พ.ศ.๒๔๓๑ เสียลาว
    พ.ศ.๒๔๓๖ ทหารไทยถูกขับออกจากเขมร
    พ.ศ.๒๔๓๖ ถูกยึดจันทรบุรี ต้องเอาดินแดนเขมรแลกคืนได้
    พ.ศ.๒๔๔๗ และ พ.ศ.๒๔๕๐ ต้องยกอาณาเขตหลวงพระบาง ให้ฝรั่งเศส

    พระองค์ต้องประพาสยุโรปถึง ๒ ครั้ง คือ พ.ศ.๒๔๓๙ - ๒๔๔๐
    ครั้งที่ ๒ พ.ศ.๒๔๕๐ - ๒๔๕๑
    ได้ส่งพระราชโอรส ไปศึกษาจบมาเป็นอันมาก

    ทรงสร้างพระราชวัง ณ เขาวัง และทรงสร้างวัดสัตตนารถปริวัตร์ จังหวัดราชบุรี

    ทรงสร้างพระราชวังบ้านปืน จังหวัดเพชรบุรี
    ทรงพระราชดำริว่า จะทรงสละราชสมบัติให้พระบรมโอรสาธิราช
    แล้วจะเสด็จมาประทับอยู่แต่ไม่ทัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0111.jpg
      scan0111.jpg
      ขนาดไฟล์:
      289 KB
      เปิดดู:
      1,451
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  10. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269922.jpg
    พระบรมรูปทรงม้า
    ม้านี้ มีคำเล่าว่าดุร้าย มักทำร้าย
    ได้ทรงรับ และทรงเสกหญ้าตามตำรับไทย
    ครั้นป้อนแล้วก็เชื่องยอมให้ประทับด้วยดี
    เป็นหลักฐานว่า ทรงมีพระเวทมนต์ขลังศักดิ์สิทธิ์


    ภายในประเทศ ได้ทรงเปลี่ยนแปลง ปรับปรุง ทะนุบำรุง
    ทรงเริ่มให้มี สภาเสนาบดี พ.ศ.๒๔๓๖
    และค่อยๆเปลี่ยนจนกระทั่งเป็น คณะเสนาบดี

    ทรงจัดหาเรือกลไฟ สร้างรถไฟ
    ทรงเปิดการศึกษาถึงมหาวิทยาลัย ทรงนำกาชาด
    ในทางพระพุทธศาสนาและประเพณี ทรงสร้างเจดีย์
    และสร้างพระบรมรูปพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์และพระราชธิดา

    ทรงสร้างวัดเบญจมบพิตร วัดราชบพิตร วัดนิเวศธรรประวัตร์
    ทรงจำลองพระชินราชเมืองพิษณุโลกลงมาประดิษฐาน ณ วัดเบญจมบพิตร

    พ.ศ.๒๔๓๑ ทรงอาราธนาพระเถรานุเถร ให้สอบสวนชำระพระบาลี ไตรปิฎกทั้ง อัฎฐกถา และคัมภีร์ต่างๆแล้ว
    ทรงร่วมกับสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ และ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ลอกคัดพระบาลีในใบลานตัวหนังสือขอม ใช้ตัวหนังสือไทย แล้วพิมพ์เป็นเล่มหนังสือชื่อ สยามรฎฺฐเตปิฎก เป็นครั้งแรกในพระราชพิธีรัชฎาภิเษก พ.ศ.๒๔๓๖

    จากนั้น ได้เปลี่ยนตัวหนังสือขอม เป็นหนังสือไทย
    แล้วพิมพ์คัมภีร์ต่างๆที่เป็นหลักสูตรเปรียญ แพร่หลายออก
    พระภิกษุสามเณรและอุบาสกอุบาสิกา ได้หาเรียนง่ายขึ้น
    และมีพระที่มีความรู้ ได้แปล และพิมพ์ธรรมวินัยออกเป็นเครื่องประพฤติปฏิบัติ เช่น
    พระนิกรมมุนี วัดบพิตรภิมุข รจนา มหาขันธกวัณณนา เป็นภาษาไทย
    พระอมราภิรักขิต(เกิด) วัดบรมนิวาส รจนา ปุพพสิกขาวัณณนา เป็นภาษาไทย
    สมเด็จพระวันรัต(ทับ) รจนา สังขิตโตวาท และแปล ภิกขุปาติโมกข เป็นภาษาไทยสมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ ทรงรจนา คัมภีร์สุคตวิทัตถิวิธาน เป็น มูลภาสา คือ คำบาลีมคธ
    สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงคิดตัวหนังสือไทยใช้ในภาษามคธอย่างที่ปรากฎทุกวันนี้
    ทรงจัด มูลกัจจายน คัมภีร์ไวยากรณ์เดิม เป็น บาลีไวยากรณ์ เป็นการเรียนง่ายเข้า
    ทรงรจนา หลักสูตรนักธรรม ตั้งแต่ชั้นตรีถึงชั้นเอก ให้ศึกษาเข้าใจได้ง่าย
    ทางฆราวาสทรงให้ชื่อว่า ธรรมศึกษา เปิดสอนทั่วราชอาณาจักร ตลอดไปถึงต่างประเทศ

    พ.ศ. ๒๔๔๕ มีประกาศใช้ พระราชบัญญัติลักษณะปกครองคณะสงฆ์
    ร.ศ.๑๒๑ จัดเป็น มหาเถรสมาคมเจ้าคณะใหญ่มหานิกาย - ธรรมยุตติก์ เจ้าคณะหน เจ้าคณะเมืองหรือจังหวัด เจ้าคณะแขวงหรืออำเภอ เจ้าคณะหมวดหรือตำบล เจ้าอาวาส
    ทรงจัดลำดับ สมณศักดิ์ เป็น สัญญาบัตร หิรัญบัตร สุพรรณบัฎ

    ทรงเลิกทาสตลอดทั่วราชอาณาจักรไทย
    เสด็จสวรรคต พ.ศ. ๒๔๕๓
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0112.jpg
      scan0112.jpg
      ขนาดไฟล์:
      133.4 KB
      เปิดดู:
      1,380
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  11. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269927.jpg
    พระเอกอัครมเหสี สมเด็จพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน อีกพระนามหนึ่งว่า พระนางเรือล่ม
    พระเอกอัครมเหสี ได้เสด็จสวรรคตพร้อมกับ พระราชโอรสธิดา โดยเรือพระที่นั่งล่ม ที่บางพุด
    ซึ่งทรงเศร้าโศกเสียพระราชหฤทัยมาก ถึงทรงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์ไว้ถึง๓แห่ง แม้พระราชวังเป็นพระที่ประทับอันมีชื่อเดิมว่า วังสุนันทา ก็ได้เป็นวิทยาลัย และมีสร้างพระบรมรูปเหมือนแล้ว
    ไทยได้ยกขึ้นเป็น จ้าวแม่ไทย แล้ว

    a.2269928.jpg
    พระบรมอนุสาวรีย์พระยาโศก พระบรมอนุสาวรีย์ มีพระบรมรูปสมเด็จพระนางเจ้า
    พระราชโอรส ว่ายังอยู่ในพระครรภ์ พระราชธิดาประสูติแล้ว
    ยังทรงให้จารึกพระราชดำรัสประกาศว่า
    จุฬาลงกรณ์ บรมราชผู้เป็นสามีอันได้รับความเศร้าโศกเพราะทุกข์อันแรงกล้าในเวลานั้นแทบจะถึงแก่ชีวิต ถึงกระนั้นก็ยังมิได้หักหาย
    และยังทรงโปรดเกล้าให้แต่งเพลงเป็นที่ระลึก ทั้งทางร้อง ทางเครื่อง และทางเดี่ยว
    ได้ทรงโปรดเกล้าพระราชทานชื่อเป็นที่ระลึกว่า เพลงพระยาโศก พระราชทานไว้ให้เป็นศิลปสมบัติไทยอันยังคงอยู่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0116.jpg
      scan0116.jpg
      ขนาดไฟล์:
      182.1 KB
      เปิดดู:
      1,992
    • scan0117.jpg
      scan0117.jpg
      ขนาดไฟล์:
      324.6 KB
      เปิดดู:
      1,890
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  12. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269933.jpg
    พระบรมฉายาลักษณ์คู่ พระปิยมหาราชเจ้า พระเจ้าซารัสเซีย

    ได้เสด็จพระราชดำเนินไปเจริญพระราชสัมพันธไมตรีกับต่างประเทศ

    อาจเป็นกษัตริย์พระองค์แรกในโลกที่เสด็จต่างประเทศแบบพระราชอัธยาศัยไมตรี


    a.2269934.jpg
    ศาลาไทย ณ ฮัมบูรกเยอรมนี
    พระจุลจอมเกล้าฯ ทรงสร้าง พ.ศ.๒๔๕๐ ได้ทรงเผยแผ่ไทยทั้งทางสถาปัตยกรรม และวัฒนธรรมไทยในต่างประเทศ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0114.jpg
      scan0114.jpg
      ขนาดไฟล์:
      273.4 KB
      เปิดดู:
      1,426
    • scan0115.jpg
      scan0115.jpg
      ขนาดไฟล์:
      254.7 KB
      เปิดดู:
      1,664
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  13. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    [​IMG]
    พระที่นั่ง เรือนยอดไทย
    พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์องค์นี้ ทรงสร้างไว้อย่างสวยงามสุดยอด ยืนยันสติปัญญา ฝีมือ และแบบไทย ที่ได้ทรงโปรดให้สร้าง ทรงจัดช่างผู้มีฝีมือเอก จึงปรากฏขึ้นได้

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0113.jpg
      scan0113.jpg
      ขนาดไฟล์:
      251.1 KB
      เปิดดู:
      2,027
    • scan0118.jpg
      scan0118.jpg
      ขนาดไฟล์:
      230.2 KB
      เปิดดู:
      2,036
    • scan0119.jpg
      scan0119.jpg
      ขนาดไฟล์:
      115.6 KB
      เปิดดู:
      2,032
    • scan0120.jpg
      scan0120.jpg
      ขนาดไฟล์:
      176.8 KB
      เปิดดู:
      1,976
    • scan0121.jpg
      scan0121.jpg
      ขนาดไฟล์:
      186 KB
      เปิดดู:
      2,046
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 กรกฎาคม 2013
  14. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269948.jpg a.2269954.jpg

    สมเด็จพระวชิรกวีมหาธีรราชเจ้า
    พระบาทสมเด็จพระมหาวชิราวุธ พระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖

    พ.ศ.๒๔๕๓ - ๒๔๖๘

    ทรงตั้งชื่อหลักไทยว่า

    ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

    ชาติ. ไทยได้ทรงบ่งตั้งจุด
    ศาสน. พุทธทรงตั้งรังหลักเห็น
    กษัตริย์. จุดสุดยอดตลอดเป็น
    ไทย. ชัดเจนรู้ตนเป็นคนไทย

    พระราชปณิธาน ทรงมีอย่างพระราชนิพนธ์นี้

    บทชวนให้รักชาติ

    เรานี้เกิดมาแล้วชาติหนึ่ง ควรคำนึงถึงชาติศาสนา

    ไม่ควรให้เสียทีที่เกิดมา ในหมู่ประชาชาวไทย
    แม้ใครตั้งจิตคิดรักตัว จะมัวนอนนิ่งอยู่ไฉน

    ควรจะร้อนอกร้อนใจ เพื่อให้พรั่งพร้อมทั่วตน


    ชาติใดไร้รักสมัครสมาน จะทำการสิ่งใดก็ไร้ผล
    แม้ชาติย่อยยับอับจน บุคคลจะสุขอยู่อย่างไร

    ใครมาเป็นเจ้าเข้าครอง คงจะต้องบังคับขับไส


    เคี่ยวเข็ญเย็นค่ำกรำไป ตามวิสัยเชิงเช่นผู้เป็นนาย

    เขาจะเห็นแก่หน้าค่าชื่อ จะนับถือพงศ์พันธุ์นั้นอย่าหมาย

    ไหนจะต้องเหนื่อยยากลำบากกาย ไหนจะอายทั่วทั้งโลกา

    เพราะฉะนั้นชวนกันสวามิภักดิ์ จงรักร่วมชาติศาสนา

    ยอมตายไม่เสียดายชีวา เพื่อรักษาอิสระคณะไทย

    สมานสามัคคีให้ดีอยู่ จะสู้ศึกศัตรูทั้งหลายได้

    ควรคิดจำนงจงใจ เป็นไทยจนสิ้นดินฟ้า
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0122.jpg
      scan0122.jpg
      ขนาดไฟล์:
      200.7 KB
      เปิดดู:
      1,261
    • scan0123.jpg
      scan0123.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29.1 KB
      เปิดดู:
      1,208
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  15. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269959.jpg
    ธงชาติ ไตรรงค์ ๓สี
    คำว่า รงค์-สี นี้ ไทยใช้คำว่า-ชาด ก็ได้
    เมื่อนำคำมคธว่า ชา-ติ เข้ามาใช้ แต่ก็อ่าน-ชาติ เช่นเดียวกัน
    ฉะนี้ ธงชาติ-จึงเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติไทยมาแล้ว

    a.2269960.jpg
    ธงธรรมจักร ซึ่งเป็นสีเหลือง และมีรูปวงล้อธรรมจักรปรากฏอยู่
    ทั้งสี และ ธรรมจักร จึงเป็นเอกลักษณ์ประจำพระพุทธศาสนาไทยมาแล้ว
    อาจนานเป็นพันๆปีทีเดียว


    a.2269961.jpg
    พระมหาพิชัยมงกุฏ ทรงรัสมีช่อ นี้
    ทรงสถาปนาขึ้นเป็นเทริดทรงพระปรมาภิไธยทุกรัชกาลมาแล้ว
    จึงเป็นเอกลักษณ์ประจำพระมหากษัตริย์ไทยได้นานมาแล้ว แต่ พ.ศ.๒๔๗๕


    เครื่องหมายแห่งไตรรงค์

    ขอรำรำพรรณบรรยาย ความคิดเครื่องหมาย
    แห่งสีทั้งสามตามถนัด

    ขาวคือบริสุทธิ์ศรีสวัสดิ์ หมายพระไตรรัตน์
    และธรรมะคุ้มจิตไทย

    แดงคือโลหิตเราไซร้ ซึ่งยอมสละได้
    เพื่อรักษาชาติศาสนา

    น้ำเงินคือสีโสภา อันจอมประชา
    ธโปรดเป็นของส่วนองค์

    จัดริ้วเข้าเป็นไตรรงค์ จึงเป็นสีธง
    ที่รักแห่งเราชาวไทย

    ทหารอวตานนำไป ยงยุทธวิชัย
    วิชิตก็ชูเกียรติสยาม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0124.jpg
      scan0124.jpg
      ขนาดไฟล์:
      75.3 KB
      เปิดดู:
      1,280
    • scan0125.jpg
      scan0125.jpg
      ขนาดไฟล์:
      98.2 KB
      เปิดดู:
      1,629
    • scan0126.jpg
      scan0126.jpg
      ขนาดไฟล์:
      74.7 KB
      เปิดดู:
      2,187
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  16. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269972.jpg
    เรือพระร่วง กองทัพเรือไทย

    a.2269973.jpg
    ทหาร กองทัพบกไทย

    a.2269974.jpg
    เรือบิน กองทัพอากาศไทย

    รัชกาลที่ ๖ สมเด็จพระมหาวชิราวุธพระมงกุฎเกล้าฯทรงสำเร็จการศึกษาจากอังกฤษ พ.ศ.๒๔๕๓

    พ.ศ.๒๔๖๑ ทรงส่งกองทัพไทยไปยุโรป ร่วมกับฝ่ายสัมพันธมิตร
    ทรงจัดระบบบปกครองสืบต่อ สร้างกองทัพบก กองทัพเรือ และทรงตั้งกองทัพอากาศ

    ทรงชำนาญทั้งคำร้อยแก้ว และร้อยกรอง ได้ทรงรจนา วรรณนิยาย และวรรณคดีไว้มาก ทั้งเป็น บทละคอน และเรื่องเป็น กาพย์ กลอน โคลง ฉันท์ ลิลิต เช่น มัทนพาธาทรงพระราชนิพนธ์ เป็น ฉันท์ บทละคอนตลอด และ นารายณ์สิบปาง ทรงพระราชนิพนธ์เป็น ลิลิต

    ทรงสร้างมหาวิทยาลัย โรงเรียนวชิราวุธ
    ทรงสร้างโรงพยาบาล เช่น วชิรพยาบาล

    ทรงให้ ร่าง และออก พระราชบัญญัติแพ่งพาณิช
    ทรงตั้งโรงเรียนและเนติบัณฑิตสภา
    ทรงแก้สนธิสัญญาระหว่างประเทศ ยังไม่เสร็จเรียบร้อย

    ในทางพระพุทธศาสนา ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ๑ พรรษา
    ทรงอุปถัมภ์ นักธรรม โปรดให้พระภิกษุสามเณรผู้สอบนักธรรมได้ได้ผัดผ่อนเกณฑ์ทหาร
    ทรงอุปถัมภ์การพิมพ์คัมภีร์อัฎฐกถาต่างๆ ซึ่งสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระพันปี สมเด็จพระพันวัสสา ทรงออกทุนพระราชทรัพย์พิมพ์ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๖๒

    และทรงใคร่พิมพ์สยามรัฐเตปิฎก ซึ่งพิมพ์แล้วไม่จบ ให้จบ ๔๕ เล่ม และเริ่มพิมพ์ พ.ศ.๒๔๖๘ หลังจากเสด็จสวรรคต

    และเสด็จสวรรคต พ.ศ. ๒๔๖๘
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0129.jpg
      scan0129.jpg
      ขนาดไฟล์:
      104.8 KB
      เปิดดู:
      1,382
    • scan0130.jpg
      scan0130.jpg
      ขนาดไฟล์:
      117.8 KB
      เปิดดู:
      1,243
    • scan0131.jpg
      scan0131.jpg
      ขนาดไฟล์:
      90.2 KB
      เปิดดู:
      1,193
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  17. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269975.jpg

    พระราชนิพนธ์ สยามานุสสติ

    รักราช. จงจิตน้อม ภักดี ท่านนา

    รักชาติ. กอบกรณีย์ แน่วไว้

    รักศาสน์. กอบบุญตรี สุจริต ถ้วนเทอญ

    รักศักดิ์. จงจิตให้ โลกซร้องสรรเสริญ

    ยามเดินยืนนั่งน้อม กะมล

    รำลึกถึงเทศตน อยู่ยั้ง

    เป็นรัฐะมณฑล ไทยอยู่ สราญฮา

    ควรถนอมแน่นตั้ง อยู่เพี้ยงอวสาน

    ใครรานใครรุกด้าว แดนไทย

    ไทยรบจนสุดใจ ขาดดิ้น

    เสียเลือดเนื้อหลั่งไหล ยอมสละ สิ้นแล

    เสียชีพไป่เสียสิ้น ชื่อก้องเกียรติงาม

    หากสยามยังอยู่ยั้ง ยืนยง

    ไทยก็เหมือนอยู่คง ชีพด้วย

    หากสยามพินาศลง ไทยอยู่ ได้ฤา

    เราก็เหมือนมอดม้วย หมดสิ้นสกุลไทย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0127.jpg
      scan0127.jpg
      ขนาดไฟล์:
      156.4 KB
      เปิดดู:
      1,253
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  18. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269976.jpg

    ช่วยกัน

    (ฟังจำได้ ไม่เห็นสิ่งพิมพ์ จะใช่หรือไม่-ไม่แน่)


    ช่วย. กันเถิดพี่น้อง____________ ร่วมชาติ
    ทำ. สิ่งซึ่งยังขาด ______________อยู่แท้
    รั้ว. กั้นศัตรูอาจ_______________ จรเหยียบ
    บ้าน. แตกย่อยยับแล้___________ อยู่ได้ฉันใด

    (โคลงมหาสินธุบาลี ๑ โคลง)

    ประเทศ. ที่สถิตถ้วย____________ อิสรชน
    เป็นบ้าน. สุขทุกคน_____________ ครบคุ้ม
    ทหาร. สะพรั่งอำพน____________ ปราบ-ปก ป้องแฮ
    เป็นรั้ว. ล้อมโอบอุ้ม ____________อู่ยั้งยืนนาน

    พลเรือน. ทั่วทุกชั้น____________ ชุมไทย
    เป็นสิริผล. อำไพ ______________เผล็ดพร้อม
    ชาวชน. ทั่วทับไทย ____________ทำเนียบ
    เป็นเกียรติพันธุ์. ไทยล้อม ________เลิศล้วนไทยเจริญ

    หากหวัง. ไทยอยู่พ้น___________ พาลภัย
    ตั้งสงบ. ชาติชาวไทย___________ทั่วผู้
    เตรียมรบ. สบสิ่งชัย ____________ชนะศัต-รูแฮ
    พร้อมสรรพ. เป็นเกียรติสู้ ________ศึกได้ตลอดกาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0128.jpg
      scan0128.jpg
      ขนาดไฟล์:
      178.4 KB
      เปิดดู:
      1,188
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  19. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2269997.jpg

    สมเด็จพระประชาธิปไตยมหาราชเจ้า
    พระบาทสมเด็จพระมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่๗


    ระบบสมบูรณาญาสิทธิราช เปลี่ยนเป็นระบอบปรมิตาญาสิทธิราช

    พ.ศ.๒๔๖๘ - ๒๔๗๗

    รัชกาลที่ ๗ สมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก กรมขุนสุโขทัยธรรมราชา

    ทรงสำเร็จการศึกษามาจากประเทศอังกฤษ

    เริ่มแรก พระองค์ทรงตั้งอภิรัฐมนตรี และให้พิมพ์พระไตรปิฎก
    ทรงบูรณะ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม
    ทรงสร้างสะพานพระพุทธยอดฟ้าและพระปฐมบรมราชานุสรณ์
    เสร็จให้มีการสมโภช พ.ศ.๒๔๗๕ ครบ ๑๕๐ ปี แห่งกรุงรัตนโกสินทร์

    วันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๗๕ มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง มีสภาผู้แทนราษฎร
    พ.ศ.๒๔๗๗ มีการปฏิวัติและต่อสู้จึงไม่สำเร็จ และทรงสละราชสมบัติ

    a.2270002.jpg
    สะพานพระพุทธยอดฟ้านี้ ได้ทรงนำคนไทยสร้างเป็นตราเจิมกรุงรัตนโกสินทร์ พ.ศ.๒๔๗๕ ซึ่งมีอายุกาลได้ครบ ๑๕๐ปี ทรงโปรดให้เฉลิมฉลองสมโภชน์เป็นตราเจิมกรุงรัตนโกสินทร์ระบอบราชาธิปไตยทรงทศพิธราชธรรมเป็นปฐมกาล
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0132.jpg
      scan0132.jpg
      ขนาดไฟล์:
      246.1 KB
      เปิดดู:
      1,192
    • scan0134.jpg
      scan0134.jpg
      ขนาดไฟล์:
      251.6 KB
      เปิดดู:
      2,160
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
  20. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    a.2270003.jpg

    สมเด็จพระมหายุรราชเจ้า
    พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล รัชกาลที่๘


    พ.ศ.๒๔๗๗ - ๒๔๘๘ รัชกาลที่ ๘
    สมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล ทรงรับทูลอัญเชิญให้ครองต่อ

    พระองค์ทรงศึกษา ณ สวิสประเทศ ทรงมีผู้สำเร็จฯและคณะรัฐมนตรีดำเนินการตลอด

    พ.ศ.๒๔๗๘ แก้สนธิสัญญาได้ตลอด
    พ.ศ.๒๔๘๒ กองทัพไทยเข้ายึดดินแดนคืน
    พ.ศ.๒๔๘๔ เข้ามหาสงครามโลกครั้งที่ ๒ ไปถึงเชียงตุง และแพ้สงคราม
    พ.ศ.๒๔๘๗ จึงต้องเสียดินแดนเหล่านั้นหมด
    เนื่องจากวัดวาอารามมีมากอยู่แล้ว ถึงกระนั้นก็มี วัดพระศรีมหาธาตุ เกิดขึ้น
    เมื่อมหาสงครามสงบแล้วเสด็จกลับ พ.ศ.๒๔๘๘ และทรงมีพระราชปรารภว่าจะทรงอุปสมบท
    ทรงอาราธนาสมเด็จพระสังฆราชเจ้า ให้รจนา บรรพชานิสงค์ แต่ไม่ได้ทรงผนวชเสด็จสวรรคต พ.ศ.๒๔๘๘

    a.2270004.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • scan0137.jpg
      scan0137.jpg
      ขนาดไฟล์:
      283 KB
      เปิดดู:
      2,969
    • scan0138.jpg
      scan0138.jpg
      ขนาดไฟล์:
      112.8 KB
      เปิดดู:
      1,171
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 เมษายน 2017
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...