ประวัติชาติไทยตั้งแต่ต้นกัป พุทธสาสนสุวัณณภูมิปกรณ(พิมพ์เป็นตัวอักษร)

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย เก่ากะลา, 27 สิงหาคม 2012.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    142..............................
     
  2. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    141............................
     
  3. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    138.........................
     
  4. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    139........................
     
  5. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    143...........................
     
  6. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    144................................
     
  7. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    146............................
     
  8. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    148..............................
     
  9. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    149.............................
     
  10. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    145...........................
     
  11. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    150..............................
     
  12. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    147..............................


    ยังพิมพ์ไม่เสร็จจึงขอจองพื้นที่ไว้ก่อนเพื่อความต่อเนื่องของเนื้อหาและสารบาญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤศจิกายน 2012
  13. กิ่งสน

    กิ่งสน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2012
    โพสต์:
    1,068
    ค่าพลัง:
    +2,327
    ขอบคุณที่นำมาลงให้อ่าน ชนชาติอื่นๆเพื่อนบ้านเขาก็มีตำนานเกี่ยวกับแถน พม่าก็มีเรื่องเกี่ยวกับพระพุทธศาสนามาก เราเองก็มีความว่าพระพุทธศาสนาตั้งมั่นรุ่งเรืองที่นี่(ประเทศไทย)มานานแล้ว
     
  14. inzee01

    inzee01 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 เมษายน 2012
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +285
    มีเป็นหนังสือจำหน่ายไหมครับ เนื้อหาน่าสนใจมาก ชอบครับ
     
  15. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    อยากได้หนังสือ ติดต่อได้ที่วัดโสมนัสครับ

    พระสิริปัญญามุนี(เจ้าคุณเต็ม) คณะ๑ วัดโสมนัส กรุงเทพฯ
    วัดโสมนัส 02-2811484
    ทุนนิธิพระราชกวี 02-2800480
     
  16. benzbtx3

    benzbtx3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +949
    ตกลงเมืองหลวงของสุวรรณภูมิ คือนครปฐมหรือราชบุรีครับ อ่านเเล้วเริ่ม งงๆเเล้วที่ที่พระพุทธศาสนามาเผยเเพร่เปนที่เเรกคือที่ไหน เปนนครปฐมหรือราชบุรีครับ
     
  17. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    ราชบุรี(พริบพลี,เพชรพลี) กับนครปฐม(อาณาจักรเถือมทอง,ถมทอง,ไทยทวาลาว)
    ก็คล้ายกับ อาณาจักรสุโขทัย กับ อาณาจักรอยุธยา ในสมัยก่อนครับ
    เป็นคนไทยเหมือนกัน เป็นใหญ่อยู่คนละเมือง ไม่ได้รวมกันแนบสนิทเป็นประเทศเหมือนปัจจุบัน
    แต่เมื่อเป็นคนไทยด้วยกันก็มีความเกี่ยวข้องกันเป็นเมืองพี่เมืองน้อง

    "กาลนั้น การปกครองยังอยู่ในระบอบไทยลว้า คือเป็นขุนเท่าๆกันถือเป็นเมืองญาติพี่น้องตลอด เช่น พระเจ้าโลกลว้า พระบิดาคือ พระเจ้าลือเลอลว้าพระมารดาคือ พระนางพูนเอ็นดู ก็เป็นธิดาของขุนเถือมทอง
    และยังมี ขอมเมืองทองชาวเถือมทอง ผู้เป็นอาของพระนาง มารับราชการอยู่ด้วย
    และพระเทวี คือ พระนางก้านตาเทวี ก็เป็นธิดาของขุนอู่ทอง"

    บางสมัยก็มีรบกันบ้าง แต่ไม่ถึงกับ เข่นฆ่าให้พินาศ จับตัวได้ก็ให้ครองเมืองตามเดิม

    "เลืองแสงฟ้า สุวัณณภูมิ เมื่ออยู่เถือมทอง เมื่อปราบศึกคนคิดแข็งเมือง ขุนเมืองเถือมขับช้างชน ช้างตัวแพ้หนีไปทางเมืองอู่ทอง เลืองแสงฟ้าไปตามจับตัวได้ พามาหาเมียลูก มอบเมืองให้ พุทธกาล ๗๖๓ วันขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๑๒"

    ยังมีเมืองอื่นๆนอกจาก ราชบุรี(พริบพลีเพชรพลี) และเถือมทอง(นครปฐม) เช่น ลโว้

    "เลืองแสงฟ้า เมืองสุวัณณภูมิ เมื่อขึ้นนั่งเมืองนี้ พุทธกาล ๖๗๘ ขึ้น ๕ค่ำเดือน๓ เมื่อนั้นผู้ยังไม่มีเมีย เมืองลโว้แข็งเมืองขึ้น เลืองแสงฟ้าไปปราบเรียบสงบ
    ขุนอู่สีเมืองและเมียให้ลูกชื่อ เวียงบุญทองเป็นเมีย
    เมื่อมาเมืองทอง นางเมียอ้อนขอกราบรอยตีนพระพุทธ เขาพระพุทธบาท(มาอยู่๓ปี ไม่มีลูก จึงกลับไปนำน้องสาวชื่อ บัวดวงแก้ว ขากลับเข้ากราบขอลูกต่อพระพุทธบาท เวียงบุญทองตั้งครรภ์ ประสูติชาย ชื่อ ดิลกธรรมราชา)"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 19 พฤศจิกายน 2012
  18. เก่ากะลา

    เก่ากะลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,311
    ค่าพลัง:
    +3,401
    ในสมัยพุทธกาล
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9B-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3.356194/page-9#post6605240
    พระมหาปุณณเถร เดิมท่านเป็นพ่อค้าชาวไทยสุวรรณภูมิเดินทางไปชมพูทวีปได้พบพระพุทธเจ้า
    และท่านเป็นพระภิกษุไทยองค์แรก ที่พระพุทธเจ้าทรงบวชให้(เอหิภิกขุ ณ ชมพูทวีป)
    และต่อมาท่านก็กลับมายังสุวรรณภูมิ

    และพระพุทธเจ้าก็ทรงเสด็จมาสุวรรณภูมิหลา่ยหน
    ได้ทรงเอหิภิกขุไทยองค์แรก คือ พระสัจจพันธเถร

    และพระเจ้าทับไทยทอง ก็ได้พบพระพุทธเจ้า และภายหลังก็ได้เสด็จไปยังชมพูทวีป ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าได้บรรลุธรรม และเสด็จกลับมาสุวรรณภูมิ

    ยังมีพระพุทธรูปองค์แรกที่สร้างขึ้นในไทย ณ ถ้ำฤษีเขางู โดยพระมหาปุณณเถร
    และ พระพุทธรูปองค์ที่สอง ที่สลัก ณ ถ้ำฝาโถ(ถ้ำฝาตะไกร) โดยพระเจ้าทับไทยทอง

    แต่ถึงกระนั้น พระพุทธศานาก็ยังไม่ได้ตั้งมั่นเป็นปึกแผ่นในไทยอย่างมั่นคง

    พระพุทธศาสนามาตั้งมั่นในไทยจริงๆในสมัยพระเจ้าโลกลว้า และพระนางก้านตาเทวี
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9B-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3.356194/page-11#post6605315

    เรื่องย่อ

    พระปฐมเจดีย์ องค์ฐานเดิม ตามจารึกกเบื้องจารว่าสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๖๕ ในกาลนั้นบริเวณลุ่มน้ำนครไชยสีห์ทั้งสองฝั่งมีบริเวรลึกหลายพันตะรางเส้น เป็นเมืองชื่อเถือมทอง หรือ ถมทอง อยู่แล้ว มีการปกครอง และมีประชาชนอยู่คับคั่งถึงมีขุนเถือมทองเป็นประมุขแบบกษัตริยราช จึงมีธิดาชื่อ สิรินทิราเทพธิดา

    ก่อนนั้น พ.ศ.๒๓๕ เดือนกัตติกมาส คือเดือน ๑๒ไทย
    พระโมคคัลลีติสสเถร และพระเจ้าอโศกมหาราช ได้ส่งพระอรหันตเถร ปัญจวัคคคือ ๕ มาประดิษฐานพระพุทธศาสนา ณ สุวัณณภูมิ คือ
    พระโสณเถร พระฌานียเถร พระภูริยเถร พระอุตตรเถร และ พระมูนียเถร
    และสามเณร คุณ,อิสิธช,นิตฺตย
    เขมกอุบาสก อนีฆาอุบาสิกา
    พราหมณ์๔(พราหมณ์และพราหมณี)
    คณะอำมาตย์อตุลย ท่านผู้หญิงอาตุลยากับประชาชนพุทธบริษัทอีก ๓๘ คน

    พระเจ้าสุวัณณภูมิราชา คือ พระเจ้าโลกลว้ากับ พระนางเจ้าก้านตาเทวี พระราชโอรส ตวันทับฟ้า พร้อมกับพระราชบริพารกับประชาชนไทยได้ต้อนรับที่สุวัณณภูมิ คือที่ คูบัว ราชบุรี
    และสร้างวัดมหาธาตุแดนละว้า ถวาย
    จึงประดิษฐาน ณ ที่นั้นก่อนเมื่อตั้งประดิษฐานจุดแรกเป็นแหล่งสวัสดีแล้ว จากนั้นได้ออกไปเมืองใกล้เคียง

    พระโสณเถร แสดงพรหมชาลสูตร มีประชาชนเลื่อมใสทั้งชายหญิง ขอบวช
    ผู้ชายพระโสณ ได้ให้อุปสมบทที่แพในสระอันมีชื่อว่า อุทกุเขปสีมา หรือสีมาน้ำ และเรียกกันว่าสระโบสถ์ อยู่ที่คูบัวราชบุรี
    ผู้ที่บวช มี พระญาณจรณ(ทองดี)เป็นต้น
    สามณร มีสามเณรธัมมสุนันท(ทองวน)
    ผู้หญิง ไม่มีพระภิกษุณีมา ท่านจึงให้บวชแบบพระสากิยานี หรือ ชี

    เมื่อมีพระสงฆ์ไทยแล้ว ท่านสอนให้สาธยายพระไตรปิฏก ๒ปีจบ จึงซ้อมวิธีสวดช้าๆ
    ที่เรียกว่า สวดสังโยค พร้อมกัน
    แล้วได้จัดให้ปั้นพระพุทธรูปตั้งเป็นประธาน ณ ศาลา
    นำวิธีกราบพระ ตั้ง นโม แล้วให้นั่งเรียงแถว ๕๐องค์
    สวดสาธยายพระไตรปิฏกพร้อมกัน ที่เป็นธรรมเนียมเทศน์และสวดแจงในปัจจุบันนี้่
    ครั้งนั้นทำกัน พ.ศ.๒๓๗
    ตามกเบื้องจารเรียกว่า คณะสัชฌายสังคีติ คือ สังคีติสาธยายเป็นคณะ
    มีผู้ฟังมาก พระเจ้าโลกลว้าก็คงไม่รู้เรื่อง ในกเบื้องจารเห็นมี พระเจ้าตวัน อาราธนาให้ พระญาณจรณะ แปล ธัมมจักกัปปวัตนสูตร ลงกบื้องจาร ยังปรากฏอยู่
    ต่อมาพระเจ้าตวันอธิราช ได้อุปถัมภ์พระสงฆ์ไทย ๒๕๐๐องค์ จารึกพระไตรปิฏก ลงกเบื้องจาร พ.ศ.๓๐๐

    กาลนั้น การปกครองยังอยู่ในระบอบไทยลว้า คือเป็นขุนเท่าๆกันถือเป็นเมืองญาติพี่น้องตลอด เช่น พระเจ้าโลกลว้า พระบิดาคือ พระเจ้าลือเลอลว้าพระมารดาคือ พระนางพูนเอ็นดู ก็เป็นธิดาของขุนเถือมทอง
    และยังมีขอมเมืองทองชาวเถือมทองผู้เป็นอาของพระนาง มารับราชการอยู่ด้วย
    และพระเทวี คือ พระนางก้านตาเทวี ก็เป็นธิดาของขุนอู่ทอง
    ฉะนี้จึงแผ่ออกไปไม่ยาก ทั้งพื้นที่จากสุวัณณภูมิเมืองทอง ออกมาถึงแม่น้ำอ้อมขึ้นมาหลัง บางศรีเพชร ลงแม่น้ำแม่กลอง ขึ้นจากนั้นเรื่อยมาถึง พระปฐมเจดีย์มีลำธารเป็นร่องรอยคลองเดิมติดต่อกันอยู่

    พระโสณเถร และพระเถระอื่นได้มาถึงเถือมทอง(นครปฐม) พระเจ้าโลกลว้า ทรงส่ง ตวันทับฟ้า พระราชโอรสองค์ใหญ่ให้เป็นศิษย์มาด้วย
    ทางเถือมทอง มีพิธีฟ้อนรำสมโภชต้อนรับอย่างครั้งเมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสรู้มีพวกเทพยดาทั้งหลายมาฟ้อนรำกระทำพุทธบูชาในกาลนี้มีเรื่องขึ้นคือ
    ตวันทับฟ้ากับ สิรินทิราเทพธิดา ธิดาขุนเถือมทอง ร่วมฟ้อนรำด้วย ตะวันทับฟ้า ได้จับถูกต้องสิรินทิราเทพธิดา เป็นที่เล่าลือกัน พระเจ้าโลกลว้า จึงต้องขอ สิรินทิราเทพธิดาให้แต่งงานกับ ตวันทับฟ้า
    แต่พระนางมีชนมายุน้อย ครั้นปี พ.ศ.๒๔๓ พระบิดา ได้ส่งตวันทับฟ้า และ สิรินทิราเทพธิดา ไปพริบพลีเพชรบุรี ได้พบสิริงามตัวธิดาขุนพริบพลีศรีเมือง และขุนหญิงศรีทองอ่อน พระนางอนุญาติให้ ตวันทับฟ้าแต่งงานอีก

    เมื่อ พ.ศ.๒๔๕ พระเจ้าโลกลว้าสิ้น ตวันทับฟ้าจึงกลับมาครองสุวัณณภูมิ สิรินทิราเทพธิดาสิ้นเสียแล้ว พระนางสิริงามตัวจึงขึ้นเป็นพระเทวีแทน
    พ.ศ. ๒๔๖ มีพระราชโอรส เดือนเด่นฟ้า พ.ศ.๒๔๘ มีดาวเด่นฟ้า พ.ศ.๒๔๙ มีหญิงชื่อ แสงสายทอง
    และได้เข้าเป็นศิษย์พระโสณเป็นต้นนั้นตลอดถึง พ.ศ.๒๖๔ ซึ่ง เดือนเด่นฟ้า มีอายุได้ ๑๘ พระโสณเถร มีอายุได้ ๑๐ปี

    พิจารณาเห็นว่าจะนิพพาน จึงเรียกประชุมทั้งพระและคฤหัสถ์ สั่งให้เขียนประวัติ
    ท่านขอให้ ตวันอธิราช เสด็จไปบรรเทาสงครามในชมพูทวีป

    และพระโสณท่านได้สั่ง พระนางสิริงามตัวไปสร้างวัดและเมืองพริบพลี เป็นที่ระลึกที่ พระปุณณเถรนำเสด็จพระพุทธเจ้าและอรหันต์ ๕๐๐ องค์มาพักประทับที่วัดพริบพลีนี้
    วัดพริบพลีจึงมีขึ้น พ.ศ.๒๗๒ ว่ากำหนดลูกนิมิตสีมา ขึ้น๔ค่ำ เดือน๔ ปี๒๗๓

    สั่ง เดือนเด่นฟ้า ให้ไปสร้างวัด ณ เถือมทอง สั่ง พระภูริย ไปทำนิมิตพัทธสีมา
    และพยากรณ์ไทยว่าจะรักษาพระพุทธศาสนาอยู่ได้ตลอด ๕,๐๐๐ ปี แล้วจึงนิพพาน ขึ้น ๑๒ ค่ำ เดือน ๖ประชุมเพลิง แรม ๘ ค่ำ เดือน ๖ นั้น
    และ พระเจ้าเดือนเด่นฟ้าอธิราชเจ้าได้จารึกงานชิ้นนี้ไว้ใน กเบื้องจาร จึงรู้ได้ ได้พบ และอ่านเป็นลำดับที่ ๒๘อย่างนี้

    เดือนเด่นฟ้าสุวัณณภูมิ แทนตวันอธิราชพ่อเมืองทอง ไปเมืองเถือมทอง ส้างวัดบรมธาต(๑)เจดียใหญ่ในเมืองเถือมริมทเล หาขอมใจช่างให้หาหินเขางูจำลองพุทธองคนั่งขอฝนไม้จันองคอยู่ปจำเมืองทอง
    ขุนทองเมือง กับ นางสีเมืองผู้ร่วมช่วยทำกเบื้องหนา(๒)
    บางขุนทองคุมก่อองคอุโบสถ
    เดือนเด่นฟ้าคุมก่อเจดีย
    ผู้ญิงเมืองเถือมเอาข้าวเลี้ยง ลูกกินนม ทำเบื้องหนา - หน้าใสหมายบุญทำสุขหน้า
    ช่างดี สลักพุทธองคหมายเอา ๖ (๓) ท้าวราชมีอุบาลี ๑ กวางหมอบธัมจัก ในพุทธกาล ๒๖๕

    พระเจดีย์ และวัดพุทธบรมธาตุ ที่ปรากฎในกเบื้องจารนั้น เป็นองค์แรกและครั้งแรกที่เถือมทอง จริงอยู่ท่านบันทึกว่าริมทะเล อาจห่างมาก แต่เป็นบริเวณริมทะเล ทั้งบันทึกว่า ขุนและขุนหญิง พร้อมทั้งประชาชนชายหญิงชาวเถือมทองร่วมใจกันทำในกาลนั้นถึง๒ปี ได้สร้างพระพุทธรูป มีพระบรมสารีริกธาตุด้วยจึงใช้ชื่อวัดว่า วัดพุทธบรมธาตุ เป็นองค์แรก และเป็นวัดแรกในเถือมทอง(ถมทอง) หรือ ปะถมก็ตาม จึงเรียกว่า พระปะถม วัดประถมก็ได้ เรียกว่า พระปฐมเจดีย์ และวัดพระปฐมก็ได้ มีชื่อมาแล้วว่า พระปฐม

    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9B-%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%93%E0%B8%93%E0%B8%A0%E0%B8%B9%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%93-%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%A9%E0%B8%A3.356194/page-14#post6605454
    เดือนเด่นฟ้า แทนตวันอธิราช เชิญ ภูริยไปเมืองเถือมทอง ร่วมภิกขุ ๕ องค ผูกลูกนิมิตต ขันธสีมา วัดพุทธบรมธาตุ เจดียพุทธรูป ธาตุองคอานนท องคอุบาลี รูปพระมหากัสสป ใส่ในพระเจดีย
    ต้นโพธิตอนต้นเมืองอินทรรัฎฐ องคปุณณมุนีปลูกในสุวัณณภูมิเมืองทอง
    ส้างล้อธัมจักกวางหมอบใหญ่ ตั้งหน้าพุทธองคในอุโบสถ ตามที่มีอย่างในสุวัณณภูมิ ในพุทธกาล๒๖๖

    อย่างไรก็ดี มีหลักฐานที่่บอกว่าอาจมีพระภิกษุในไทยสืบมาตั้งแต่สมัยพุทธกาล

    "เลืองแสงฟ้า สุวัณณภูมิ ลูกขุนร่วงเลอฟ้า เมื่อครองเมืองเถือมทอง ซ่อม(วัดพุทธบรมธาตุ) อุโบสถ เจดีย์ ล้อธัมมจัก กวางนอน ในปี ๗๖๖ เมืองลโว้ สือมาข่า่วแจ้งความมอญเมืองสเทิ้มวรทวาย มาต้อนคนลโว้
    อันตัวเรายกศึกจูมมอญพ่ายไป เมื่ออยู่เมืองลโว้ เริ่มสร้างคูเมืองนี้ มีขุนอู่สีเมือง พร้อมลูกสาวชื่อนางเวียงบุญทองสร้างเจดีย์ อุโบสถ หน้าเมือง ให้นิมนต์พระนิโครธเถร และพระสุธัมมเถร(เป็นต้น) ทำนิมิตเสมา แล้วให้ชื่อว่า วัดหน้าเมือง

    ที่ระบุชื่อพระเถรไว้ ๒องค์นั้น แสดงว่า ลโว้ มีพระพุทธศาสนาอยู่แล้ว อาจมีมาตั้งแต่สมัยที่ พระสัจจพันธเถร รับพระพุทธพจน์ให้อยู่ และบวชสืบๆมา เมื่อสมัยพระโสณเถรเป็นต้นอาจมาสร้างวัดและอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์แล้ว จึงมีพระเถรอยู่ "
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กรกฎาคม 2016
  19. apichayo

    apichayo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    488
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,936
    เป็นกระทู้ที่มีประโยชน์มาก ทำให้ทราบข้อมูลภูมิปัญญาของไทยในหลายๆด้าน
    ท่านจะทึ่งในภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะเรื่องลายสือไทย และเรื่องอื่นๆอีกมากมาย
    ..อยากให้ทุกท่านได้อ่าน

    กราบขอบพระคุณพระราชกวี (อ่ำ ธมฺมทตฺโต) ซึ่งได้เรียบเรียง ค้นคว้า และใช้ญานทัศนะของท่าน ในการเขียนหนังสือฉบับนี้ขึ้นมา เพื่อให้ลูกหลานคนไทยได้ทราบถึงความเป็นมา และขอขอบคุณจขกท. ในความเสียสละนำเสนอข้อมูล ซึ่งต้องใช้ความพยายามอย่างมากเช่นกัน..สาธุครับ
     
  20. มั่นในธรรม

    มั่นในธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +603
    อนุโมทนาสาธุค่ะ อ่านแล้วสบายใจเหมือนย้อนไปในอดีตจริงๆ อยากได้หนังสือเดี๋ยวจะลองโทรไปตามเบอร์ที่ให้ไว้นะคะ อยากเก็บไว้ครอบครัวได้อ่านด้วยค่ะ สาธุ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...