ประวัตินักบุญวาเวนไทน์ 14 กุมภาพันธ์

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย วิหคไพรไร้รัง, 13 กุมภาพันธ์ 2005.

  1. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    นักบุญวาเลนไทน์
    (St.Valentine)

    วันวาเลนไทน์ เดิมเป็นวันฉลองของชาวโรมัน ตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ เรียกว่าวันลูแปร์คาเลีย เป็นฉลองเทพีจูโน ที่เป็นราชินีแห่งความรัก ในวันนี้ ถือว่าเป็นวันแห่งความรัก เป็นวันที่หนุ่มสาวมาฉลอง และเลือกคู่กัน
    ต่อมา เมื่ออาณาจักรโรมัน เปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ จึงเปลี่ยนวันฉลองมาเป็น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งตรงกับวันฉลองนักบุญวาเลนไทน์แทน และยังถือว่าเป็นวันแห่งความรักอยู่นั่นเอง
    นักบุญวาเลนไทน์ เป็พระสังฆราชแห่งเมืองแทร์นี อยู่ห่างจากกรุงโรมประมาณ 60 ไมล์ ท่านช่วยทำให้บุตรสาวของผู้พิพากษาหายจากตาบอด ต่อมาท่านถูกจับเพราะนับถือศาสนาคริสต์ และถูกประหารชีวิต โดยการตัดศีรษะ ประมาณปี ค.ศ. 273

    นักบุญวาเลนไทน์ ทำให้จักรพรรดิที่โรมเกิดความสำนึกและผู้พิพากษาได้กลับใจมาเป็นคาทอลิกเพราะท่านนักบุญทำให้บุตรสาวของเขาหายจากตาบอด วาเลนไทน์บวชเป็นพระสงฆ์ที่กรุงโรมและได้เป็นพระสังฆราชในเวลาต่อมา ท่านได้ถูกจับโดยคำสั่งของจักรพรรดิโกลดิโอ ที่ 2 เพราะท่านขึ้นชื่อลือเด่นในทางบำเพ็ญฤทธิ์กุศลหลายประการ

    ขั้นแรกจักรพรรดิทรงซักถามวาเลนไทน์ด้วยความมักรู้มักเห็น แต่ต่อมาทรงรู้สึกสนพระทัยในคำสอนของคริสตัง ที่สุดพระองค์ตรัสว่า "คำสอนของบุรุษผู้นี้ฟังแล้วจับใจจริงๆ" แต่ในขณะที่พระองค์ทรงเริ่มมีความเชื่อ ท่านผู้ว่าราชการกรุงโรมก็จัดให้ผู้พิพากษานายหนึ่งเข้ามาซักถามท่านวาเลนไทน์

    ผู้พิพากษาคนนี้เยาะเย้ยท่านในเรื่องที่คริสตังชอบกล่าวว่า "พระคริสต์ทรงเป็นองค์ความสว่างของโลก" ลูกสาวของผู้พิพากษาคนนี้ตาบอด วาเลนไทน์ได้ทำอัศจรรย์ให้หาย อัสเตริอุส ผู้พิพากษาจึงกลับใจเชื่อถึงพระเยซูคริสตเจ้า เมื่อเห็นดังนั้น ท่านผู้ว่าราชกาลเกิดความอิจฉาและต้องการกำจัดท่านวาเลนไทน์ จึงจับท่านวาเลนไทน์ไปขังไว้ในคุกมืด แล้วใช้ไม้เป็นปุ่มเป็นตาเฆี่ยนท่านอย่างสาหัส

    ที่สุดนำท่านไปตัดศีรษะ นักบุญวาเลนไทน์ เป็นองค์อุปถัมภ์ของชาวเมืองตารัสก็อง (ภาคใต้ของฝรั่งเศส) ธรรมเนียมเกี่ยวกับการส่งบัตรอวยพร ส่งความรักในวันวาเลนไทน์นั้น ไม่ใคร่ทราบว่าธรรมเนียม นั่นเกิดขึ้นได้อย่างไร แต่เคยมีเรื่องเล่าไว้ว่านกจะเริ่มจับคู่กันในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี ฉะนั้นเราจึงได้ส่งบัตรอวยพรและส่งความรักในวันดังกล่าวซึ่งตรงกับวันฉลองศาสนนามของท่านนักบุญวาเลนไทน์ จึงทำให้ชื่อของท่านปรากฏขึ้นในวันแห่งความรักตามธรรมเนียมดังกล่าว
    [​IMG]
    <!-- / message --><!-- / message -->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 891W_c.jpg
      891W_c.jpg
      ขนาดไฟล์:
      29 KB
      เปิดดู:
      532
  2. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53


    <CENTER>[​IMG]</CENTER>


    Legend of the Valentine

    The 14th of February is the Valentine's Day or the day of love according to the tradition of the western world.This tradition is well embraced among Thais,especially the youths as this is another day they can freely express their love to one another.

    Christians in the Roman empire believed that February is the romantic month.And there are two legends about the Valentine's .The first one says that Valentine is the name of a saint in Rome.Around the third century,during the reign of Emperor Keladius the second,he believed that soldiers who were bachelor made better warriors than soldiers who were married.He therefore announced that marriage among youths was an act of guilt.Valentine,then a priest,strongly opposed to the emperor's rule,and he continued to perform marriage ceremony to the couples in love,secretly.Finally,he was found out,and the Emperor ordered to executed him.Some said that Saint Valentine was killed because he assisted in freeing the Christians who were imprisoned and tortured in the Roman's prison.

    Another legend says that while being imprisoned.Valentine fell in love with a woman who was a daughter of the warden.He was the first person who sent a Valentine's card,and before he died,he wrote that woman a letter and signed .From Your Valentine.This word has been used around the world ever since.

    That is the story of Saint Valentine that has been handed down for generations.People believe he is person who originated Valentine's day.

    Love is a beautiful thing and is always in the heart of every man.To fall in love and nurture it to last is the highest hope that every couple wishes.(f) ​

     
  3. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    ตำนานแห่งวันวาเลนไทน์

    14 กุมภาพันธ์ เป็นวันวาเลนไทน์ หรือ วันแห่งความรัก ตามประเพณีของชาวตะวันตก ซึ่งคนไทยโดยเฉพาะวัยรุ่น ต่างก็ยอมรับกันว่าเป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่พวกเขาจะสามารถแสดงออกถึงความรักที่มีต่อกันได้อย่างเต็มที่

    ชาวคริสเตียนในอาณาจักรโรมัน มีความเชื่อกันว่าเดือนกุมภาพันธ์ เป้นเดือนแห่งความโรแมนติก และมีตำนานอยู่ 2 เรื่อง ที่เล่าขานถึงที่มาของวันวาเลนไทน์

    ตำนานเรื่องหนึ่งเล่าว่า วาเลนไทน์เป็นชื่อของนักบวชท่านหนึ่งในกรุงโรม เมื่อสมัยคริสศตวรรษที่ 3 ซึ่งตรงกับสมัยขององค์จักรพรรดิเคลาดิอุสที่ 2 ในขณะนั้นพระองค์เห็นว่าในบรรดาเหล่าทหารชายโสดมีประสิทธิภาพในการรบที่ดีกว่าชายที่แต่งงานแล้ว จึงมีประกาศออกมาว่า การแต่งงานของเด็กวัยรุ่นนั้นเป็นความผิด นักบวชวาเลนไทน์ไม่เห็นด้วยในมาตรการดังกล่าว และยังคงประกอบพิธีแต่งงานให้ตามศาสนา โดยดำเนินการแบบลับๆ ซึ่งต่อมา การประกอบพิธีดังกล่าวถูกค้นพบ จักรพรรดิเคลาดิอุส จึงมีรับสั่งในนำนักบวชวาเลนไทน์ไปประหารชีวิต แต่บางกระแสก็เล่าต่อกันมาว่านักบวชวาเลนไทน์ถูกฆ่า เพราะพยายามที่จะช่วยเหลือบรรดาคริสเตียนให้หนีออกจากคุกของชาวโรมัน ที่ชาวคริสเตียนต้องถูกทรมานร่างกาย

    ส่วนอีกตำนานหนึ่งเล่าว่า ขณะที่อยู่ในคุก นักบวชวาเลนไทน์ตกหลุมรักกับหญิงสาว ซึ่งเป็นลูกของพัสดีที่มักจะมาเยี่ยมเยือนเขาบ่อยๆ และเขาก็ได้ส่งการ์ดวาเลนไทน์ใบแรกของโลกด้วยตนเอง ก่อนที่จะตาย เขาได้เขียนจดหมายถึงเธอผู้นั้น พร้อมทั้งลงชื่อกำกับไว้ว่า From your Valentine และคำๆ นี้ก็ใช้กันต่อมาจนกระทั้งถึงปัจจุบัน

    นั่นคือ เรื่องราวของนักบวชวาเลนไทน์ที่มีการบอกเล่าต่อกันมา และเชื่อกันว่าเป็นที่มาของวันแห่งความรัก...

    ความรัก เป็นสิ่งที่สวยงามและมีอยู่ในหัวใจของมนุษ์ทุกคนเสมอ ซึ่งดูเหมือนว่าการแสวงหาความรัก ตลอดจนการดูแล ทะนุถนอมให้ความรักนั้น สามารถคงอยู่ในอย่างยั่งยืนต่างเป็นสิ่งที่คู่รักทุกคู่ปรารถนา.
     
  4. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    ตำนานของท่านนักบุญวาเลนไทน์สังฆราช นั้นตามบันทึกของ
    พระศาสนจักรโรมันคาทอลิกเป็นดังนี้ครับ


    นักบุญวาเลนไทน์ ทำให้จักรพรรดิที่โรมเกิดความสำนึก
    และผู้พิพากษาได้กลับใจมาเป็นคาทอลิกเพราะท่าน
    นักบุญทำให้บุตรสาวของเขาหายจากตาบอด
    วาเลนไทน์ บวชเป็นบาทหลวงที่กรุงโรมและได้เป็น
    สังฆราชในเวลาต่อมา ท่านได้ถูกจับโดยคำสั่งของ
    จักรพรรดิโกลดิโอ ที่ 2 เพราะท่านขึ้นชื่อลือเด่นใน
    ทางบำเพ็ญฤทธิ์กุศลหลายประการขั้นแรกจักรพรรดิ
    ทรงซักถามวาเลนไทน์ด้วยความมักรู้มักเห็น แต่ต่อ
    มาทรงรู้สึกสนพระทัยในคำสอนของคริสตัง

    ที่สุดพระองค์ตรัสว่า :
     
  5. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    ที่มาของวาเลนไทน์อีกความเห็นหนึ่งเป็นดังนี้ครับ
    ที่มา :บทความโดย : คุณพ่อ มีเกตุ กาไรซาบาล,คณะเยซุอิต
    บ้านเซเวียร์ กุมภาพันธ์
    นำมาจาก : http://topicstock.pantip.com/cafe/library/K1298439/K1298439.html

    วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ของทุกปี เป็นวันวาเลนไทน์
    ซึ่งพวกหนุ่มสาวมักจะรีบไปซื้อบัตรส่งทักทายกัน
    ส่งใจถึงกัน นับเป็นความนิยมมากขึ้น ประเพณีนี้
    เข้ามาสู่ประเทศไทยทีละเล็กละน้อย และดูเหมือน
    จะเป็นที่นิยมมากขึ้นทุกปี เป็นประเพณีที่หนุ่มสาว
    นิยมกันมากเป็นพิเศษที่สหรัฐอเมริกาและที่ประเทศ
    อังกฤษ
    ทำไมจึงมีชื่อว่า
     
  6. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    ประเพณีเลือกคู่ หรือหาคู่นี้มีมาแต่โบร่ำโบราณในทุก
    ชาติ ดูเหมือนกับว่าได้เกิดขึ้นพร้อมกับวิวัฒนาการของ
    มนุษย์ก็ว่าได้ ประเพณีวาเลนไทน์นี้ก็มีต้นเหตุหรือที่
    มาสมัยที่จักรวรรดิโรมันแผ่อิทธิพลไปทั่ว ชาวโรมันสมัย
    โบราณมีการฉลองเทพเจ้าองค์หนึ่งชื่อ ลูแปร์คูส
    (Lupercus) ซึ่งตรงกับวันที่ 15 กุมภาพันธ์ และถือว่า
    เป็นการฉลองใหญ่ ส่วนหนึ่งของการฉลองใหญ่นี้ก็จะ
    เป็นการจัดงานหาคู่ของพวกหนุ่มสาว ซึ่งจัดขึ้นใน
    วันก่อนวันฉลอง ใหญ่ 1 วัน คือวันที่ 14 กุมภาพันธ์
    นี้จะถือโอกาสให้พวกหนุ่มสาวเสนอตัวเป็นคนรัก
    กันชั่วระยะเวลา 1 ปี ช่วงนี้จะเรียกว่าเป็นช่วงทดลอง
    มิตรภาพเพื่อดูว่าทั้งคู่จะมีนิสัยใจคอเข้ากันได้หรือไม่
    ชาวโรมันเป็นคนศรัทธาในเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์
    ต่าง ๆ ก็มีความเชื่อกันว่าพวกตนมีเทพเจ้าองค์หนึ่ง
    ซึ่งเขาขอให้เป็นผู้ดูแลความรักของเขาในระหว่างช่วง
    ระยะเวลาการทดลองเป็นคู่รักกัน 1 ปี นั้น เทพเจ้า
    องค์นี้เป็นหญิงชื่อเทพธิดา Juno Februata ซึ่งตาม
    เทพนิยายของชาวโรมันเป็นมเหสีของ Jupiter องค์
    มหาเทพเจ้าทั้งหลาย
    ครั้นต่อมา เมื่อชาวโรมันส่วนใหญ่กลับใจมาถือ
    ศาสนาคริสต์ (ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 4 ) ประเพณี
    ของหนุ่มสาวที่จะหาคู่เพื่อทดลองเป็นคนรักกันเพื่อ
    จะแต่งงานกันในเวลาต่อไปนั้นก็ยังนิยมทำกันอยู่
    แม้ว่าจะเป็นคริสตชนแล้วก็ตาม ฉะนั้นเขาก็ยัง
    รักษาประเพณีการเลือกคู่ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์
    นั้นอยู่ตลอดมา เพียงแต่ว่าหนุ่มสาว โรมันชาว
    คริสต์ได้หันมาเปลี่ยนตัวผู้อุปถัมภ์องค์ใหม่ เพราะ
    คริสตชนไม่นับถือเทพเจ้าหรือเทพธิดาอย่างกาลก่อน
    เขาจึงหันมาเลือกหานักบุญในคริสตศาสนาที่มี
    วันฉลองในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งก็มี นักบุญ
    วาเลนไทน์องค์นี้เอง จึงขอยืมชื่อท่านมาเป็นองค์
    อุปถัมภ์แทนเทพเจ้าเดิมของชาวโรมัน เรื่องราว
    ความเป็นมามีดังนี้ ฉะนั้นถ้าท่านนักบุญมีชีวิตอยู่
    ท่านอาจรู้สึกงงงวยในตำแหน่งที่หนุ่มสาวได้เลือก
    ตั้งและแต่งตั้งให้ท่านเป็นผู้อุปถัมภ์ โดยที่ท่านไม่
    ได้รู้เรื่องทางโลกของหนุ่มสาวด้วยเลยแม้แต่น้อย
    ความรักระหว่างหนุ่มสาวนั้นอาจจะเผชิญกับ
    อันตรายบางอย่าง และอาจจะเป็นโอกาสให้
    พลังและความรักนั้นทำลายความสัมพันธ์
    อันสูงส่งระหว่างหนุ่มสาวนั้นเอง ความหมาย
    ของการมีวันวาเลนไทน์นี้ก็คือการช่วยหนุ่มสาว
    หาวิธีการเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ซึ่งกันและ
    กันด้วยใจบริสุทธิ์
    ความหมายเห็นได้ชัดในคำว่า
     
  7. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    [​IMG]
    WHITE ROSE : กุหลาบขาว
    เป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ แสดงความหมายว่ารักอันบริสุทธิ์จากใจ ไม่ต้องการสิ่งตอบแทน สามารถใช้แทนความรักของคนต่างวัยเช่น พ่อ , แม่ , เพื่อน , หรือคนที่เรามีความรู้สึกดีด้วยความบริสุทธิ์ใจ
     
  8. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    [​IMG]


    PINK ROSE : กุหลาบชมพู
    ใช้แทนความรักแบบโรแมนติค และแสดงความเสน่หาต่อกัน
     
  9. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    <TABLE cellPadding=10><TBODY><TR><TD>
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD vAlign=top background=images/siteImages/dropshadow/ds_right.gif>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>​
    YELLOW ROSE : กุหลาบเหลือง
    เป็นสีแห่งความสดใส ใช้แทนความรักแบบเพื่อนและความร่าเริง สนุกสนาน
     
  10. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,040
  11. Kamen rider

    Kamen rider เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2004
    โพสต์:
    3,776
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +1,998
    กูเกิล วัน วาเลนไทล์

    [​IMG]


    (bb-flower
     
  12. jeds22

    jeds22 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    192
    ค่าพลัง:
    +498
    กำพร้าแฟน
     
  13. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]ตำนานดอกกุหลาบ</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>
    [​IMG] กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย
    ความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่านี้มีเฉพาะในแถบบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอดซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย
    [​IMG] ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรด์จีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน เพราะชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย
    กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม
    [​IMG] บางตำนานกล่าวว่ากุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมี เซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาเพื่อประทานพรอมตะ จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบและความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง
    กุหลาบกลายเป็นของขวัญ ของกำนัลสำหรับการแสดงความรัก และมักจะมีผู้เปรียบเทียบความงามของผู้หญิงเป็นเสมือนดอกกุหลาบ และผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์โลกที่ได้รับสมญาว่าเป็นผู้หญิงงามเสมือนดอกกุหลาบคือ พระนางคลีโอพัตรา ซึ่งพระนางยังได้เคยต้อนรับ มาร์ค แอนโทนี คนรักของพระนาง ในห้องซึ่งโรยด้วยดอกกุหลาบหนาถึง 18 นิ้ว หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกุหลาบ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]ตำนานดอกกุหลาบในเมืองไทย</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD> กุหลาบมาจากคำว่า "คุล" ในภาษาเปอร์เชีย แปลว่า "สีแดง ดอกไม้ หรือดอกกุหลาบ" และเข้าใจว่าจากเปอร์เซียได้แพร่เข้าไปในอินเดีย เพราะในภาษาฮินดีมีคำว่า "คุล" แปลว่า "ดอกไม้" และคำว่า "คุลาพ" หมายถึงกุหลาบอย่างที่ไทยเราเรียกกัน แต่ออกเสียงเป็น "กุหลาบ" ส่วนคำว่า "Rose" ในภาษาอังกฤษนั้นมาจากคำว่า "Rhodon" ที่แปลว่ากุหลาบในภาษากรีก
    กุหลาบเข้ามาเมืองไทยสมัยใดไม่ทราบแน่ชัด แต่จากบันทึกของ ลา ลูแบร์ ราชทูตฝรั่งเศสในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช บันทึกไว้ว่าได้เห็นกุหลาบที่กรุงศรีอยุธยา และที่แน่นอนอีกแห่งก็คือ ในกาพย์ห่อโคลงนิราศธารโศกสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ของเจ้าฟ้าธรรมาธิเบศร์ กล่าวถึงกุหลาบไว้ว่า


    <TABLE><TBODY><TR><TD vAlign=top> กุหลาบกลิ่นเฟื่องฟุ้ง
    หอมรื่นชื่นชมสอง
    นึกกระทงใส่พานทอง
    หยิบรอจมูกเจ้า
    </TD><TD vAlign=top width=20> </TD><TD vAlign=top>เนืองนอง
    ก่ำเก้า
    สังวาส
    <NOBR>บ่ายหน้าเบือนเสีย</NOBR>
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    สำหรับตำนานดอกกุหลาบของไทยเล่ากันว่า เป็นบทละครพระราชนิพนธ์ของรัชกาลที่ 6 เรื่อง มัทนะพาธา ในเรื่องเล่าถึงเทพธิดาองค์หนึ่งชื่อ "มัทนา" ซึ่งนางได้มีเทพบุตรองค์หนึ่งชื่อ "สุเทษณะ" ซึ่งพระองค์ทรงหลงรักเทพธิดา "มัทนา" มากแต่นางไม่มีใจรักตอบ จึงถูกสาบให้ไปเกิดเป็นดอกกุหลาบ จึงกลายเป็นตำนานดอกกุหลาบแต่นั้นมา

    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]กุหลาบขาว กับ กุหลาบแดง สีไหนเกิดก่อน ?</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD> มีหลายตำนานเล่าถึงการเกิดกุหลาบสีขาวและกุหลาบสีแดงไว้แตกต่างกัน ตำนานหนึ่งเล่าว่า กุหลาบขาว เกิดขึ้นก่อน กุหลาบแดง เดิมทีมีนกไนติงเกลตัวหนึ่งมาหลงรักเจ้าดอกกุหลาบขาวแสนสวย ขณะที่มันกำลังจะโอบกอดดอกกุหลาบด้วยความรักนั้นเอง หนามกุหลาบก็ทิ่มแทงที่หน้าอกของมัน หยดเลือดของเจ้านกไนติงเกลเลยทำให้ดอกกุหลาบสีขาวกลายเป็นสีแดง เลยมีดอกกุหลาบสีแดงนับแต่นั้นเป็นต้นมา ส่วนอีกตำนานหนึ่งก็เล่าว่ากุหลาบสีแดงใน สวนอีเดน เกิดจาการจุมพิตของ อีฟ เจ้าดอกกุหลาบขาวที่หญิงสาวจุมพิต เลยเกิดอาการขวยเขินจึงเปลี่ยนเป็นสีแดง
    นอกจากนี้ ความหมายของความรักในศาสนาคริสต์ ถือว่ากุหลาบสีขาวแทนความบริสุทธิ์ของ พระแม่มาเรีย และกุหลาบสีแดงเกิดจากหยาดพระโลหิตของ พระเยซูเจ้า เมื่อถูกสวมมงกุฎหนาม มันจึงเป็นสัญลักษณ์ของผู้ประกาศศาสนาที่พลีชีพเพื่อพระผู้เป็นเจ้า

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>​
    (bb-flower (f) (f) (bb-flower
     
  14. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]สีกุหลาบสื่อความหมาย</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>
    ในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก ดอกกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ และของกำนัลของวันนี้ ดังนั้นเวลาที่คิดจะให้ดอกกุหลาบแก่ใครสักคน เราก็น่าจะรู้ความหมายของสีอันเป็นสื่อความหมายของดอกกุหลาบไว้บ้างก็น่าจะดี ซึ่งก็จะมีความดังนี้
    • สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปราถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ
    • สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์
    • สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง
    • [​IMG]สีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ
    • สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
    • กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  15. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD>[​IMG]ช่อกุหลาบสื่อความหมาย</TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE width="80%"><TBODY><TR><TD>
    จำนวนดอกกุหลาบในช่อก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สื่อความหมายได้เช่นกัน และในวันวาเลนไทน์หรือวันไหนๆ ถ้าคุณได้ช่อดอกกุหลาบจากใครสักคน เค้าคนนั้นอาจกำลังต้องการสื่อความหมายอะไรบางอย่างให้คุณรู้ก็เป็นได้
    จำนวนดอกกุหลาบ 1 ดอก แสดงความหมาย "รักแรกพบ"
    จำนวนดอกกุหลาบ 2 ดอก แสดง"ความรู้สึกที่ดีต่อกัน"
    จำนวนดอกกุหลาบ 3 ดอก แสดง "ฉันรักเธอ"
    จำนวนดอกกุหลาบ 7 ดอก แสดง "คุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์"
    จำนวนดอกกุหลาบ 9 ดอก แสดง "เราสองคนจะรักกันตลอดไป"
    จำนวนดอกกุหลาบ 10 ดอก แสดง"คุณเป็นคนที่ดีเลิศ"
    จำนวนดอกกุหลาบ 11 ดอก แสดง"คุณเป็นสมบัติชิ้นที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน"
    จำนวนดอกกุหลาบ 12 ดอก แสดง"ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว"
    จำนวนดอกกุหลาบ 13 ดอก แสดง"มีความเป็นเพื่อนแท้เสมอ"
    จำนวนดอกกุหลาบ 15 ดอก แสดง"ฉันรู้สึกเสียใจจริง ๆ "
    จำนวนดอกกุหลาบ 20 ดอก แสดง"ฉันมีความจริงใจต่อเธอ"
    จำนวนดอกกุหลาบ 21 ดอก แสดง"ชีวิตนี้ฉันมอบเพื่อเธอ"
    จำนวนดอกกุหลาบ 36 ดอก แสดง"ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน"
    จำนวนดอกกุหลาบ 40 ดอก แสดง"ความรักของฉันเป็นรักแท้"
    จำนวนดอกกุหลาบ 99 ดอก แสดง"ฉันรักเธอจนวันตาย"
    จำนวนดอกกุหลาบ 100 ดอก แสดง"ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ"
    จำนวนดอกกุหลาบ 101 ดอก แสดง"ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น"
    จำนวนดอกกุหลาบ 108 ดอก แสดง"คุณจะแต่งงานกับฉันไหม"
    จำนวนดอกกุหลาบ 999 ดอก แสดง"ฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย"
    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     
  16. วิหคไพรไร้รัง

    วิหคไพรไร้รัง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2005
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +53
    <TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=right>[​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]</TD><TD> หากเพื่อนๆ คิดจะมอบดอกไม้ให้กับใครสักคน คงเคยเลือกตามความชอบของตนเองบ้าง หรือตามที่เห็นว่าสวยถูกใจบ้าง หรือไม่ก็ตามความชอบของผู้รับบ้าง แต่เจ้าบุญทุ่มบางคนก็อาจเลือกแพงๆ เข้าไว้ (เพราะกลัวว่าเลือกที่ราคาถูกๆ จะดูเหมือนไม่มีรสนิยม) ไม่ก็...จะถูกจะแพงเอาแดงไว้ก่อน (แม่สอนไว้) แต่ต่อไปนี้นอกจากความชอบ ความสวย ความแพง แล้ว ลองเลือกตามความหมายของดอกไม้ด้วย เพื่อสื่อความนัยจากใจของเพื่อนให้เขา(หรือเธอ)ได้รับรู้ด้วย คงจะง่ายกว่าการใช้วาจาอย่างแน่นอน หรือถ้ามอบดอกไม้แล้วกล่าวคำตามความหมายที่เราเอามาฝากนี้ด้วยแล้ว โครงการ
     

แชร์หน้านี้

Loading...