ประวัติย่อๆและเรียนเชิญบูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ยอด วัดปรือเกียน เจ้าตำรับมีดหมอนาคราช

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย สิ้นภพ, 21 สิงหาคม 2009.

  1. สิ้นภพ

    สิ้นภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +150
    ขอเชิญบูชาสุดยอดวัตถุมงคลของหลวงปู่ยอด อชิโต วัดปรือเกียน จังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าตำรับมีดหมอนาคราชอันลือเลื่อง เกจิอาจารย์อีสานใต้ขนานแท้ แม้กระทั่งหลวงปู่หงษ์ แห่งสุสานทุ่งมน จังหวัดสุรินทร์ยังเคยบอกให้ลูกศิษย์ไปนิมนต์ท่านมาช่วยเสกของด้วยหลายๆๆท่านอาจเคยได้ยินชื่อมาบ้างแล้วแต่บางท่านก็อาจยังไม่รู้จักเลยจะขอกล่าวประวัติท่านให้ทราบกันแบบย่อๆครับffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    หลวงปู่ยอดท่านเป็นคนบ้านปรือเกียน อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์โดยกำเนิด ในครอบครัวของหมอช้างจึงมีพื้นฐานทางพระเวทย์มาตั้งแต่เด็ก พออายุครบบวชก็บวชตามประเพณีหวังแค่ตอบแทนคุณบิดามารดาและศึกษาพระธรรมไม่ได้คิดอะไรมาก หลังจากบวชแล้วนั้นกับชอบคือซึ้งในรสพระธรรมจึงบวชเรื่อยมา สักพักได้ออกธุดงค์แสวงหาความรู้ให้มากกว่า เดิมหลังจากนั้นอาจมีปัญหาทางครอบครัวบ้าอย่างจึงต้องสึกไปช่วยงานทางครอบครัวด้วยความขยันจึงได้รับเลือกเป็นกำนันหรือผู้ใหญ่บ้านนี่แหละผมไม่แน่ใจปกครองและพัฒนาหมู่บ้านอย่างดีเป็นที่นับถือทั่วไป จนท่านเกิดความเบื่อหน่ายในชีวิตจึงกลับมาบวชอีกครั้ง และไม่สึกอีกเลย ท่านได้พัฒนาวัดปรือเกียนให้เจริญมั่นคงขึ้นโดยอาศัยพระเวทย์ที่ท่านเรียนมา โดยเฉพาะ มนต์นาคราช ที่ท่านชำนาญซึ่ง มนต์นาคราช นี้ท่านว่าแรงเป็นมนต์ของเขมรโบราณอานุภาพสูงมากน้อยคนนักที่จะได้ศึกษาไว้ เพราะทำไม่ดีมนต์จะเข้าตัวทำให้เป็นบ้าไปได้แต่ท่านสามารถเรียนได้และทำได้จริงจนสร้างชื่อให้ท่านเป็นอย่างมาก โดยส่วนมากท่านจะใช้เสกกับวัตถุมงคลของท่านทุกชนิดโดยเฉพาะกับมีดหมอ ทำให้ของแรงและเร็วประสบการณ์มีมากมายถึงขั้นท่านห้ามนำมีดของท่านลงน้ำเพราะปลาจะตายหมดเป็นบาป ท่านเคยลองวิชาของท่านโดยนำมีดและเหรียญไปเดินผ่านเครื่องสแกนอาวุธที่สนามบินสตึกเดินผ่านไปผ่านมาอยู่หลายรอบเครื่องก็ไม่ดังจนเจ้าหน้าที่สนามบินสงสัยจึงมาขอค้นตัวดูก็พบมีดและเหรียญเต็มย่ามทั่งๆที่เป็นโลหะแต่เครื่องไม่ส่งสัญญาณ ทำให้เจ้าหน้าสนามบินแห่มาขอบูชาไปจนเกือบหมดย่าม แต่หลังๆท่านไม่ค่อยได้ทำมีดหมอแล้วเพราะท่านเป็นพระบ้านนอกไม่ทุนพอที่จะทำมากนักทำให้มีดของท่านหายาก<O:p></O:p>
    ท่านเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนท่านต้องเดินเท้าไปเรียนจากบุรีรัมย์ ไปอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรีเพื่อเรียนวิชาที่วัดบ้านตะวันเย็นอาจารย์ท่านเป็นพระเขมรแต่มาจำพรรษาที่นี่แต่หลวงปู่จำชื่อไม่ได้เสียแล้วว่าท่านมีชื่อว่าอะไร ตอนแรกท่านจะไม่ไปแต่อาจารย์ท่านมาบังคับให้ท่านไปเรียนสืบไว้วิชาๆจะได้ไม่สูญและเพื่อเอาไปทำประโยชน์แก่พระพุทธศาสนาได้ท่านจึงยอมไป ท่านเดินเท้าไปๆกลับๆๆหลายครั้งเรียกได้ว่าเดินจนถนนสึกท่านว่าอย่างนั้นกว่าจะสำเร็จได้ ระหว่างเรียนนั้นท่านต้องช่วยอาจารย์ท่านลงตะกรุดแจกชาวบ้านเสมอ เพราะอาจารย์ท่านแก่แล้วลงให้ไม่ทัน หลวงปู่ยอดในขณะนั้นลงไปด้วยเสกไปด้วยตามคาถาที่ท่านเรียนมาจาก พระอาจารย์ได้มากพอควรก็นำไปถวายอาจารย์เพื่อแจกชาวบ้าน เมื่ออาจารย์รับไปก็แจกชาวบ้านเลยมิได้เสกซ้ำให้หลวงปู่ยอดขณะนั้นก็วิตกว่าทำไมอาจารย์ของเราไม่เสกตะกรุดซ้ำเลยเป็นห่วงกลัวว่าชาวบ้านนำไปใช้แล้วจะไม้ได้ผล จึงเรียนอาจารย์ว่าตะกรุดนั้นยังไม่ได้เสกเลย อาจารย์ท่านแย้งว่าเสกแล้วท่านเสกแล้วนี่ไงเราไม่ต้องเสกแล้วคาถาท่านก็เรียนไป จากเราหมดแล้วท่านก็ทำได้เหมือนเราเพราะฉะนั้นไม่ต้องเสกซ้ำแล้วท่านจึงเบาใจ ตั้งแต่นั้นมาถ้าชาวบ้านมาขอตะกรุดพระอาจารย์ของท่านก็จะให้มาขอกับหลวงปู่ยอดแทน นับได้ว่าท่านได้วิชาตะกรุดมาด้วยโดยปริยายหลวงปู่ยอดท่านบอกว่าสมัยก่อนลำบากมากว่าจะได้วิชามา<O:p></O:p>
    นอกจากนี้ท่านยังได้เรียนวิชาสีผึ้งมาตั้งแต่สมัยยังวัยรุ่นและท่านเองก็ทำใช้เองตั้งแต่ยังหนุ่มอยู่เลย ท่านว่าสมัยก่อนเน้นทางเสน่ห์อย่างเดียวเพราะท่านยังคะนองอยู่พอเมื่อท่านบวชแล้วก้อหันมาเสกครอบคลุมเรื่องเมตตา เจรจา ค้าขายด้วย ท่านว่าท่านเรียนมาด้วยความมั่นใจมากและท่านนิยมเสกของคนเดียว ครั้งหนึ่งมีคณะศิษย์ของพระเกจิชื่อดังมากจากภาคตะวันออกมาถวายพระประธานแก่ท่าน พร้อมทั้งถามท่านว่าจะจัดพิธีเบิกเนตรและปลุกเสกของบางอย่างด้วยจะให้นิมนต์เกจิรูปไหนมาช่วยไหม หลวงปู่ท่านว่าไม่ต้องแค่อาตมารูปเดียวก็พอนั่นแสดงถึงความมั่นใจในอาคมของท่านทำให้คณะศิษย์ของพระเกจิชื่อดังภาคตะวันออกนับถือท่านมากทีเดียว<O:p></O:p>
    จากประสบการณ์จากการบูชาวัตถุมงคลของท่าน เช่น เรื่องมีดหมอที่ท่านเสกเมื่อมีคนนำไปบูชาแล้วบังเอิญทำตกน้ำปลาในน้ำนั้นตายเรียบ เหรียญท่านโดนยิงไม่เป็นไร พระผงของท่านทำให้ระเบิดด้าน สีผึ้งท่านเมตตาสุดยอดทั้งเสน่ห์ เจรจา ค้าขาย เหล่าบรรดาลูกศิษย์รู้กันดี บัดนี้หลวงปู่ยอดได้ถึงกาลแห่งมรณภาพเสียแล้วเมื่อวันอาสาฬบูชาที่ผ่านมาเป็นที่โศกเศร้าของบรรดาหมู่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก แต่ท่านได้ฝากสุดยอดวัตถุมงคลไว้จำนวนหนึ่งแก่พระลูกศิษย์ใกล้ชิดของท่านรูปหนึ่ง เพื่อได้แบ่งให้ผู้อื่นบูชาต่อไป ผมขออนุญาตเรียกพระรูปนั้นว่าหลวงพี่ก็แล้วกันนะครับ ซึ่งหากว่ามีพี่น้องท่านใดสนใจบูชาวัตถุมงคล ปัจจัยที่ได้ครั้งนี้ถวายหลวงพี่ท่านครับ ก็แล้วแต่ว่าหลวงพี่ท่านจะเอาไปทำอะไรเพราะวัตถุมงคลดังกล่าวท่านได้มอบให้หลวงพี่ไว้ก่อนหลวงปู่จะมรณภาพ แต่ผมคิดว่าหลวงพี่ท่านต้องเอาไปทำการกุศลแน่นอน วัตถุมงคลดังกล่าวมีไม่มาก หลวงพี่ท่านว่าถ้าไม่มีใครบูชาก็ไม่เป็นไรเพราะท่านจะเก็บไว้บูชาเอง ความจริงแล้ววัตถุมงคลดังกล่าวหลวงพี่ท่านจะมอบต่อให้ผมเอาไว้บูชาโดยท่านจะเก็บไว้ส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่ผมเองก็แย้งว่าผมเอามาไว้คนเดียวก็ไม่เกิดประโยชน์เท่าไหร่สู้เอาไปให้คนอื่นบูชาต่อได้ปัจจัยถวายหลวงพี่เผื่อหลวงพี่จะได้เอาปัจจัยนี้ไปทำกุศลต่างๆๆหลวงพี่ท่านก็เงียบแล้วก็ไม่ว่าอะไรต่อ ผมเองจึงขอรับอาสาเอาเรื่องนี้มาโพสต์ลงให้ท่านพี่ๆๆน้องๆๆได้มีของดีไว้ใช้กัน วัตถุมงคลมีรายละเอียดดังนี้ <O:p></O:p>
    ๑ พระผงรูปเหมือนหลวงปู่นั่งเต็มองค์ ถือได้ว่าเป็นรุ่นที่สองที่เป็นวัตถุมงคลรูปเหมือนท่านเพราะรุ่นแรกเป็นเหรียญเนื้ออัลปาก้า แต่รุ่นที่เป็นเหรียญหาไม่ได้แล้วชาวบ้านและลูกศิษย์หวงกันมากเพราะมีประสบการณ์ที่ภาคใต้ พระผงรุ่นนี้หลวงปู่ตั้งใจทำเป็นเนื้อผงเพราะจะได้ใส่มวลสารได้เต็มที่หลวงปู่ใส่มวลสารทั้งหมดที่มี รวมทั้งสีผึ้งรุ่นเก่าๆ ส่วนมากจะเป็นผงที่ได้มาระหว่างที่ท่านธุดงค์และผงที่ทำเองเนื้อหาค่อนข้างแข็ง แต่ พระส่วนมากจะติดคราบฝุ่นและกระเทาะบ้างเล็กน้อยเนื่องจากท่านทำตั้งแต่ปี 2543 ท่านวางพระไว้ในบาตรตลอดเสกเรื่อยมาจนถึงก่อนท่านอาพาธหนัก รุ่นนี้มีประสบการณ์ สืบเนื่องจากวัยรุ่นบ้านปรือเกียนถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารและจะถูกส่งไปที่สามจังหวัดชายแดนใต้จึงมาขอของดีจากหลวงปู่ไปหลวงปู่จึงเมตตาให้เหรียญรุ่นแรกไปเป็นขวัญกำลังใจไปได้ปีกว่าก็กลับมาเยี่ยมบ้านพร้อมกับเพื่อนทหารนับสิบมากราบหลวงปู่และพาเพื่อนมาขอเหรียญรุ่นที่เป็นเหรียญ หลวงปู่บอกว่าหมดแล้วเหลือแต่พระผงรุ่นนี้ ทหารหนุ่มเล่าให้หลวงปู่ฟังว่าตนเองไปลาดตะเวนกับเพื่อนทหารสองสามคน โดนซุ่มโจมตีแต่ตัวเองรอดมาได้คนเดียวทั่งๆที่ไม่น่าจะรอด ทหารหนุ่มเล่าต่อว่าขณะนั้นตนได้ยินเสียงแชะแชะแชะหลายครั้งนึกว่าเพื่อนด้วยกันยิงปืนเล่น จึงลุกขึ้นด่าหยาบๆไม่ทันสิ้นเสียงได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตนเห็นแสงไฟจากลูกปืนวิ่งเข้าหาตนเป็นสายเพราะเป็นชวงค่ำ แต่ไม่โดนตนโดนแต่เพื่อนที่ไปด้วยกันล้มลงหมด พวกโจรใต้เหลานั้นคงคิดว่าตนตายแน่จึงหนีไป วันนี้จึงมากราบหลวงปู่ พร้อมมาขอเหรียญแต่หลวงปู่บอกว่าหมดเหลือแต่พระผงพวกทหารจึงจำต้องรับเอาพระผงไปแทน กลับไปได้ไม่นานทหารเขียนจดหมายมาขอพระผงกันอีกเพราะไปโดนยิงมากลับไม่ได้รับอันตราย ทหารเหล่านั้นติดราชการจึงไปรับเองที่วัดไม่ได้หลวงปู่จึงเมตตาส่งให้ตามความต้องการ ความจริงหลวงปู่บอกพระรุ่นนี้หลวงปู่เสกเน้นทางด้านโชคลาภ เมตตามากกว่าทำไมผลออกมาเป็นแบบนี้หลวงปู่เองก็ยังแปลกใจ<O:p></O:p>
    อีกเรื่องเป็นเรื่องที่หลวงพี่ท่านเล่าให้ฟังครับ มีพระรูปหนึ่งบวชอยู่กับหลวงพี่ที่จังหวัดอุทัยธานี ( อ้อลืมบอกไปครับหลวงพี่ที่เป็นศิษย์หลวงปู่ยอดนั่นท่านอยู่จังหวัดอุทัยธานีครับ ) เพิ่งสึกไปหลวงพี่ท่านมอบพระรุ่นนี้ไปให้หลังจากนั้นไม่นานทิดนั้นไปทำงานเก็บเงินกู้แล้วคงมีเรื่องโดนลูกหนี้แก้แค้นหรืออย่างไรไม่ทราบชักปืนยิงนัดแรกเสียงดังแชะ นัดสองก้อแชะอีก ไม่ทันนัดที่สามทิดใหม่เพิ่งสึกลุกวิ่งหนีลูกหนี้เงินกู้ควักระเบิด คือน่าจะเป็นระเบิดปิงปองนะครับขว้างโดนหัวเต็มๆๆแต่กลับไม่ระเบิดทิดสึกใหม่จึงรอดมาได้และมากราบหลวงพี่กันเป็นแถว <O:p></O:p>
    พระรุ่นนี้หลวงปู่นำเข้าพิธีปลุกเสกพระของหลวงปู่ไหล วัดอัมพวัน ด้วยเพราะหลวงปู่ได้รับนิมนต์ไปปลุกเสกงานนี้ สำหรับหลวงปู่ไหลชาวบุรีรัมย์ น่าจะรู้จักดีชื่อเสียงไม่แพ้หลวงปู่ฤทธิ์ วัดชลประทานราชดำริ เลยครับและงานนี้หลวงปู่ฤทธิ์ท่านก็มาร่วมด้วยพร้อมเกจิชาวอีสานใต้สายเขมรล้วนๆ ซึ่งทั้งหลวงปู่ฤทธิ์และหลวงปู่ไหลก็ยังให้ความนับถือหลวงปู่ยอด ความจริงแล้วหลวงปู่ไม่ได้อยากจะเอาพระไปร่วมพิธีสักเท่าไหร่เพราะท่านมั่นใจในอาคมของท่านอยู่แล้ว แต่ลูกศิษย์ท่านขอร้องครับ บอกก่อนเลยนะครับว่าพระรุ่นนี้ไม่สวยนะครับไม่ใช่พระไฮโซแต่เปรี่ยมด้วยพุทธคุณครับ ให้บูชาองค์ละ 300<O:p></O:p> ภาพ055.jpg ภาพ059.jpg
    ๒. เบี้ยแก้ ตามตำราเขมรประกอบส่วยครับท่านผสมผสานเอาครับ เพราะสายส่วยได้มาทางบรรพบุรุษที่เป็นหมอช้างเรื่องแบบนี้ส่วยก็ไม่แพ้เขมรเลย สืบเนื่องเมื่อหลวงพี่ท่านอยากได้เบี้ยแก้มาบูชาเลยคุยกับหลวงปู่ถามว่าหลวงปู่ทำเป็นไหม ท่านว่าทำเป็นอยู่หลวงพี่เลยคิดทำถวายท่านเมื่อต้นปีหลวงพี่ท่านจัดหาตัวเบี้ย ปรอท มาถวายและท่านสั่งให้ไปขุดชันโรงใต้ดินมาอุดปรอท ท่านบอกว่าต้องแยกเสก ตัวเบี้ย ปรอท ชันโรงแต่ละอย่างก่อน เมื่อเสกเสร็จ ท่านตั้งเครื่องบูชาครูตามแบบฉบับท่านแล้ว ก็เริ่มบรรจงกรอกปรอทและอุดชันโรงท่านทำเองหมดทุกขั้นตอนซึ่งทำได้ไม่มากนัก เบี้ยอีกอย่างที่ท่านทำในคราวเดียวกันนี้ ท่านว่าไม่ต้องกรอกปรอทท่านเอาผงยัดใส่ตัวเบี้ยพร้อมด้วยสีผึ้งนาคราชที่ขึ้นชื่อของท่านและตะกรุดดอกเล็กๆ ปิดทับด้วยเทียนที่ท่านใช้ทำน้ำมนต์บ้าง ชันโรงบ้างเบี้ยแก้ของหลวงปู่จึงมีสองแบบ ท่านว่าแล้วแต่จะอธิษฐานใช้เอาเถิดทั้งแคล้วคลาดเมตตา โชคลาภทำไว้ดีแล้วโดยเฉพาะกันของไม่ดีเข้าตัวนี้ชะงัดนัก และเบี้ยที่อุดผงนั้นผงที่อุดเป็นผงที่ทำยากมากเน้นทางด้านเมตตา โชคลาภท่านทำไว้นานแล้ว ด้วยเหตุที่ว่าท่านทำเองตัวเบี้ยจึงไม่ค่อยสวยบางอันเปื้อนชันโรงเต็มไปหมดแต่รับรองว่าใครบูชาติดตัวดีแน่ ท่านเสกอยู่นานทีเดียวจนมั่นใจว่าใช่ได้ ปาฏิหาริย์ระหว่างเสกมีมากจะไม่ขอเล่าแล้วกันครับ เอาเป็นว่าศิษย์วัดไม่กล้านอนวัดก็แล้วกันครับ เมื่อท่านเสกจนพอใจแล้วจึงบอกให้หลวงพี่ไปรับเบี้ยดังกล่าวคืน แต่หลวงพี่บอกว่าขอถวายหลวงปู่เอาไว้ให้โยมบูชาเอาปัจจัยไปบูรณะวัดของหลวงปู่เอง ในส่วนที่เป็นของหลวงพี่เองให้หลวงปู่เก็บเอาไว้ก่อนเพราะหลวงพี่ยังไม่ว่างที่จะเดินทางไปเอา หลวงปู่ก็เสกต่อไปเรื่อย เป็นเบี้ยเปือยนะครับเพราะหลวงพี่ท่านถามหลวงปู่แล้วว่าจะให้ถักไหมหลวงพี่จะจ้างช่างถักให้หลวงปู่ว่าไม่ต้องให้เลี่ยมใช้ได้เลยเอาเปือยๆแบบนี้แหละดีจะได้สัมผัสไอตัวเราได้ดี หลังจากนั้นลูกศิษย์ก็โทรมาบอกหลวงพี่ว่าหลวงปู่อาพาธ ท่านจึงเดินทางไปเยี่ยม หลวงปู่จึงสั่งให้ศิษย์วัดเอาเบี้ยแก้และของอื่นๆมาถวายคืนหลวงพี่พร้อมกล่าวกับหลวงพี่ว่าอยู่กับผม( หมายถึงหลวงปู่) ไม่ได้ประโยชน์เท่าที่ควรหรอกขอถวายท่านคืนพร้อมกับพระเครื่องของผมส่วนหนึ่งนิมนต์ท่าน(หมายถึงหลวงพี่)นำไปทำประโยชน์เถิดซึ่งเบี้ยแก้ดังกล่าวเมื่อหลวงปู่เสกเสร็จท่านนำออกให้บูชาแล้วส่วนหนึ่งครูโรงเรียนบ้านปรือเกียนกับลูกศิษย์ที่รู้ข่าวบูชาไปแล้วหลายตัวเมื่อขัดหลวงปู่ไม่ได้หลวงพี่ท่านก็น้อมรับไว้ ก่อนลากลับหลวงปู่ท่านกล่าวว่าเบี้ยชุดนี้จะเป็นเก้าบารมีโดยบังเอิญแล้วท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรต่อ หลวงพี่เองก็ยังงง หลังจากหลวงพี่ออกมาจากวัดปรือเกียนแล้ว ผมก็ขอร้องหลวงพี่ให้พาไปกราบ หลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวดหน่อย หลวงพี่ก็พาไปผมนิมนต์ให้หลวงปู่ผาดเสกของให้โดยลืมไปว่าเบี้ยแก้ยังอยู่ในกระเป๋าผมหลวงปู่ผาดเสกให้อยู่นานประมาณ50นาทีได้แล้วก็ลืมตาคลำๆๆเหมือนหาอะไรอยู่นอกกระเป๋าเป้ของผมท่านว่าของสิ่งนี้ดีทำได้แรงดีเท่านั้นแล้วก็ไม่ได้พูดไรต่อแล้วก็พรมน้ำมนต์ให้ผมกราบลาหลวงปู่ผาดกลับ พอออกมาจากศาลา ผมรื้อกระเป๋าว่าที่หลวงปู่ผาดพูดตะกี้หมายถึงอะไรพอเห็นถึงได้รู้ว่าเป็นของๆหลวงปู่ยอด ผมจึงนำเบี้ยแก้ของหลวงปู่ยอดถวายให้หลวงพี่เพราะหลวงพี่ติดธุระจะกลับอุทัยธานีก่อน ส่วนผมอยู่เที่ยวต่อเลยนั่งรถไปส่งหลวงพี่ที่ท่ารถ จากนั้นรุ่งขึ้นผมไปกราบหลวงคำบุ วัดกุดชมพู ศิษย์สายสำเร็จลุนรุ่นน้องญาท่านสวน วัดนาอุดม หลวงปู่จันทร์หอม วัดบ้านบุ้งขี้เหล็ก ศิษย์สายตรงสำเร็จลุน เช่นกัน <O:p></O:p>
    หลวงปู่พา วัดบ้านระรมณ์ ศิษย์หลวงปู่มุม วัดปราสาทเยอร์และหลวงปู่หมุน วักบ้านจานซึ่งผมได้นิมนต์ให้ท่านปลุกเสกของทุกรูป อาทิตย์ต่อมาผมไปเยี่ยมหลวงพี่ที่จังหวัดอุทัยธานีโดยไม่ลืมที่จะเอากระเป๋าเป้สุดรักไปด้วย คุยกับหลวงพี่ได้ไม่นานก็ลากลับ เลยแวะไปกราบ<O:p></O:p>
    หลวงพ่อเกิด วัดเขาดิน ศิษย์สายหลวงพ่อกบ วัดเขาสาริกา หลวงพ่อจักร วัดถ้ำเขารังไก่ ศิษย์หลวงพ่อเชน หลวงพ่อมุ่ยเป็นต้น หลวงพ่อชวน วัดเขาแก้ว ศิษย์หลวงพ่อชวน วัดยางมณี แล้วก็เหมือนเดิมผมนิมนต์ให้ท่านเสกของตามเดิม สุดท้ายได้มีโอกาสไปกราบ หลวงพ่อแดง วัดห้วยฉลองราษฎร์ ศิษย์หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม ก็ให้ท่านปลุกเสกของในกระเป๋าเป้อีกเป็นรูปสุดท้ายท่านเสกพักใหญ่เมื่อเสกเสร็จท่านกล่าวว่า ของนี้แรงดี บูชาแล้วคุ้มครองดวงได้ด้วย ใครทำดี ดี ดีจัง ซึ่งระหว่างนั้นหรือก่อนหน้านี้ผมไม่เคยเปิดกระเป๋าเป้เลยตั้งแต่ไปกราบหลวงปู่ผาด วัดบ้านกรวดคราวนั้น ผมมานึกเอะใจว่าทำไม่กระเป๋าเรามันหนักกว่าเดิมและหลวงปู่แดงท่านพูดหมายถึงอะไร หลังจากกลับจากกราบหลวงปู่แดงแล้วเลยเปิดกระเป๋าดู ตกใจแทบตาย เพราะเบี้ยแก้หลวงปู่ยอดยังอยู่ในกระเป๋าก็ผมจำได้ว่าให้หลวงพี่ไปแล้วเลยโทรหาหลวงพี่ถามเรื่องเบี้ยหลวงพี่ก็บอกว่าเอามาแล้วเลยไปหาดูก็ไม่มีก็จะมีได้ไงครับมันอยู่ที่ผมให้ผมแบกอยู่ตั้งนาน หลวงพี่กับผมงงเป็นไก่ตาแตกซึ่งบังเอิญอาจจะเกิดความผิดพลาดกันตอนส่งหลวงพี่กลับคราวนั้นก็ได้มั้งครับ จนทำให้นึกถึงคำพูดของหลวงปู่ยอดขึ้นมาได้ว่า เบี้ยแก้นี้จะกลายเป็นของเก้าบารมีโดยบังเอิญ มาเข้าใจก็คราวนี้แหละครับเพราะผ่านการปลุกเสกจากเก้าเกจิอาจารย์ และเกจิจารย์ดังกล่าวนั้นขลังทุกรูปด้วยซิครับให้บูชาราคาตัวละ599 ที่เป็นแบบอุดผง ตัวละ499 เป็นราคาเดิมที่หลวงปู่ตั้งไว้ครับ<O:p></O:p> ภาพ076.jpg
    พี่น้องท่านใดสนใจก็ติดต่อขอบูชากับหลวงพี่ท่านเองนะครับ<O:p></O:p>
    ธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.หนองฉาง ในนามพระโสธยา ทนฺตจิตฺโต วัดหนองขุนชาติ ตำบลหนองสรวง อำเภอหนองฉาง จังหวัดอุทัยธานี 61110 โทร.085-1333497 ( ของหลวงพี่)อย่าลืมช่วยค่าจัดส่งตามสมควรกันด้วยนะครับ<O:p></O:p>
    หรือจะโอนเงินเข้าบัญชีเลยก็ได้ครับเป็นของหลวงพี่ท่านเองครับท่านเปิดไว้ตั้งแต่สมัยที่ยังไม่ได้บวช ที่ ธนาคารทหารไทย บัญชี ออมทรัพย์เลขที่ 0687026682 สาขาเมืองใหม่บางพลี ชื่อบัญชี นายโสธยา พันธุยี่ <O:p></O:p>
    ปล. ผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรนะครับปัจจัยทั้งหมดถวายหลวงพี่ทั้งหมดเพราะหลวงพี่ตั้งใจว่าจะรวบรวมปัจจัยนี้ไปทำบุญครบรอบร้อยวันมรณภาพของหลวงปู่และร่วมทำเจดีย์บรรจุอัฐิให้หลวงปู่ด้วยครับผมแค่อาสาช่วยหลวงพี่ประชาสัมพันธ์เท่านั้นครับ<O:p></O:p>
    <!-- google_ad_section_end -->
     

แชร์หน้านี้

Loading...