ประวัติหลวงปู่เทพโลกอุดร

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 12 กันยายน 2007.

  1. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พุทธามหาเวท ปีที่ 3 ฉบับที่ 35 กุมภาพันธ์ 2551

    [​IMG]

    ตัดบัตรแลกฟรี
    จีวรหลวงปู่เทพโลกอุดร
    ผ้าจีวรหลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เทพโลกอุดร พร้อมภาพขนาดเล็กของท่าน
    เพื่อทุกท่านจะได้นำไปใส่กรอบ หรือทำลอกเก็ต พกพาบูชาติดตัว

    ผมเองก็คิดว่านี่ระยะเวลาก็ล่วงมาถึง 4 ปีแล้ว
    ตัดบัตรแลกฟรีจีวรหลวงปู่เทพโลกอุดร จะยังเหลือถึงเราไหมนี่
    เอ้าลองโทรไปที่สำนักงานพุทธามหาเวทดูเป็นอะไร ถ้าตัวเรามีบุญบารมี
    ที่ท่านจะโปรดจะได้ครอบครองจีวรหลวงปู่เทพโลกอุดร ก็ต้องเหลือถึงเรา
    พอโทรไปก็เป็นคุณพี่ผู้หญิงเป็นคนรับสาย ไม่ทราบว่าผมมีตัดบัตรแลกฟรี
    จีวรหลวงปู่เทพโลกอุดร ยังพอมีเหลืออยู่ไหมครับ มีคะทำไมพึงหาเจอหรอคะ
    ครับผมตามชีวะประวัติท่านอยู่ครับ กติกาก็คือ 1 มุมบัตรแลกรับได้หนึ่งชุด
    ช่วยเหลือค่าจัดส่งทางไปรษณีย์ 50 บาทได้ครับแล้วผมก็วางสายไปและก็เกิดจิตที่เป็นอกุศลโทรไปถามคุณพี่ผู้หญิง เออพี่ครับไม่ใช่ว่าไปเอาจีวรที่ห่มรูปเคารพมาให้ผมนะครับ คุณพี่ผู้หญิงก็บอกว่าได้มานานแล้วรู้สึกจะจำไม่ได้แต่รู้สึกว่าน่าจะเป็นหลวงปู่วัย ถ้าเป็นหลวงปู่วัยครับเชื่อถือได้ จากนั้นผมกลัวว่าจีวรหลวงปู่ใหญ่จะถึงบ้านผมช้าไป เพราะผมใส่ระหัสผิดไปสองตัว ก็เลยโทรไปหาคุณพี่ผู้หญิงอีก พี่ครับไม่ทราบว่าคุณพี่ชื่ออะไรครับ พี่จุ๋มพอดีหลายครั้งที่โทรเข้ามาตื่นเต้นมากไปก็เลยไม่ได้ถามเลขทะเบียนของที่จัดส่งให้ครับแล้วคุณพี่จุ๋มท่านน่ารักมาก ไม่บ่นไม่ว่าซักคำเมื่อได้เลขทะเบียนแล้วกราบขอบพระคุณคุณพี่จุ๋มครับ แล้วรีบติดต่อไปรษณีย์ปลายทางระงับการส่งผมจะไปขอติดต่อรับเองที่ไปรษณีย์ ก็ไปกับน้องระหว่างขับรถกันมาเรานั่งน้องขับมาก็เล่าเรื่องหลวงปู่ใหญ่มาตลอดทางจนจะมาถึงบ้านน้องก็จอดรถพี่ดามีพระอยู่บ้านผู้ใหญ่บ้าน
    เมียผู้ใหญ่ก็บอกว่าพระท่านพึ่งจะมาถึงสักพักนี่เองเออจริงแปลกนะก็เลยเดินเข้าไปนมัสการครับพระคุณเจ้า เกิดความเลื่อมใสท่านขึ้นมาก็เลยซื้อเครื่องดื่มให้ท่าน จากนั้นท่านก็ทักเราผมกับท่านก็สนทนาธรรมไปแล้วท่านก็ถามว่าไปไหนกันมาก็บอกว่าโยมออกไปรับจีวรหลวงปู่เทพโลกอุดรขณะนั้นเองตาในเราเห็นหลวงปู่ใหญ่ครอบร่างพระที่กำลังสนทนาธรรมกับผมอยู่หลวงพ่อผมยังมีรูปท่านมาด้วยนะก็เลยถวายรูปให้ท่านดูท่านดูได้สักพักหน้าตาเหมือนครูบาศรีวิชัยเลยนะโยม ผมก็เข้าใจนะและไม่คิดจะแก้คำพูดของท่านเสียด้วยเพราะตัวท่านเองก็ไม่สนใจกับอายุกับชื่อเสียงเลียงนามเสียเท่าไหร่ ก็สนทนาธรรมจนพอผมก็นมัสการขอตัวกลับ พอมาเปิดดูจีวรหลวงปู่ใหญ่เทพโลกอุดร มีชื่ออ.บุญหนาทวีจิตร กับยันต์เกาะเพชรบนจีวรหลวงปู่ใหญ่

    และไม่นานมานี้ยังได้ข้าวเงินข้าวทองหลวงปู่ใหญ่ท่านเสกข้าวเงินข้าวทองให้หลวงปู่ใหญ่ท่านผ่านญาณมาที่ครูบาต้นบุญ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,443
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. hmu111

    hmu111 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    324
    ค่าพลัง:
    +391
    เคยได้ยินมานานมากแล้วครับ เกี่ยวกับหลวงปู่ แต่ก็เป็นเหมือนเรื่องเล่า ล่ำลือเท่านั้น ยากแก่การพิสูตร ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ทำให้รู้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น อนุโมทนาสาธุ
     
  5. ทรงพจน์

    ทรงพจน์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +60
    บางสิ่งพูดมากเกินไปก็ไม่สมควรนะครับผมว่า
    ผมก็เคยได้ฟังมาเหมือนกันครับ แต่ผมว่าอยู่ที่เจตนาและแรงบุญ
    อย่างผมเนี่ยเพิ่งจะบังเอิญมาเจอกระทู้นี้วันนี้เอง
    คือเรารู้เราเคยสัมผัสได้รู้จักนามหรืออิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ของท่านแล้ว
    เราปฏิบัติดี แก้ไขสิ่งผิด ก็คงมีแต่สิ่งที่ดียิ่งๆแล้วละครับ
     
  6. popoui

    popoui สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +0
    มีนิทานมาเล่าให้ฟัง

    ครั้งหนึ่ง ราว พ.ศ.8 หลังการเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว


    พระอรหันต์หมู่ใหญ่ ประชุมกันในหลายเรื่อง ขณะที่มีการรวบรวม ธรรมแห่งพระโคดมไว้เป็นหมวดหมู่ เมื่อสรุปพระธรรมเสร็จสิ้น ยังมีเรื่องหนึ่งที่จำเป็นต้องทำ คือ การจะธำรง พระธรรมแห่งพระโคดมไว้ ให้ถึง 5000 ปี ตามพระดำรัสแห่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งเมื่อถึงกึ่งพุทธกาล เพราะเมื่อหมู่เราทั้งหลายเสด็จนิพพานตามที่สมควร แห่งเราทั้งหลายแล้ว จักไม่มีใครคอยดูแล ผู้คนจะเสื่อมทรามเป็นอันมาก หมู่เราควรจะคัดเลือกหาผู้ที่คอยดูแลและทำนุบำรุงพระธรรมนี้สืบไป คอยตรวจตรา ตรวจสอบ ชี้ทางถูก ลงโทษผู้ทำผิด เมื่อธรรมถูกบิดเบือนก็ให้ทำการสังคยนาธรรมขึ้นใหม่เพื่อความถูกต้องแห่งธรรมที่พระพุทธโคดมได้ตรัสไว้ อย่างถูกต้อง แลปกป้องพระศาสนาสืบไป

    จึงได้หารือกัน แล้วสรุปได้ว่า ให้เลือกพระพุทธสาวก 2 รูป ให้ทำหน้าที่นั้น แล้วสรุปได้ว่า พระอุปคุต และพระบรมครูเทพโลกอุดรเนื่องด้วยพระอุปคุตเป็นผู้มีฤทธิ์ เป็นหนึ่ง มีพระธรรมทุกข้อถึงพร้อม ให้คอยเป็นผู้ตรวจตราในการงานพิธีกรรมต่างๆ ในอนาคตสืบไป และอีกหนึ่งพระอรหันต์ผู้เปี่ยมไปด้วย อภิญญาธรรม อิทฤทธิ์ และความสูงวัยในหมู่สงฆ์ขณะนั้น เพียบพร้อมเป็นหนึ่งไม่มีผู้ใดเหมาะสมไปยิ่งกว่านี้ จึงให้รับหน้าที่ คอยดูแล สั่งสอน ตักเตือน ส่งเสริม ผู้ที่อยู่ในพระพุทธศาสนาสืบไป(พูดง่ายๆ ก็ตำรวจพระ และ คอยเป็นครูชี้ทางนั่นเอง) นั่นคือหลวงปู่ใหญ่ หรือหลวงปู่โลกที่ท่านรู้จักกันนั่นเอง

    จึงได้ อาราธนาท่านทั้งคู่ ให้อยู่ไปจนถึง 5000 ปี เพื่อทำหน้าที่นี้สืบไป



    นิทานขอจบเพียงเท่านี้ครับ

    ที่เล่านิทานให้ฟัง

    เนื่องด้วยผมไปอ่านในหลายที่ หลายกระทู้ หลายแห่ง

    1. มีหลายคำถาม หลายท่านที่บอกว่าเคยได้พบ อยากพบ และยังพยายามที่อยากจะพบปู่โลกอยู่

    1.1 ผมมีคำตอบส่วนตัวให้ ท่านทั้งหลาย

    สำหรับท่านที่เคบพบจริง แสดงว่าท่านมีบุญบารมีสืบเนื่องมาแต่ชาติใดก็แล้วแต่ที่เคยเกี่ยวเนื่องกับกับหลวงปู่ท่านโดยตรงหรือโดยอ้อม และเมื่อชาตินี้ท่านก็ยัง ปฏิบัติตนอยู่ในเส้นทางนั้นสืบมา เดินทางนี้อย่างถูกต้อง เมื่อบารมีเต็ม ถึงพร้อม ท่านจะได้พบเอง ส่วนการจะตามหาท่านนั้นแทบเป็นไปไม่ได้เลย เมื่อท่านถึงพร้อมแล้วเท่านั้น ท่านจะได้พบเอง ไม่ว่าจะโดยตรง หรือผ่านร่างที่ท่านสื่อสารผ่านก็ตาม

    .....แต่การจะออกตามหาท่านตามสถานที่ต่าง ๆ นั้นท่านไม่อาจพบได้

    .....เพราะกายและใจท่านไม่บริสุทธิ์พอ แม้นผู้ที่ฝึกจิตถึงพร้อมแล้วก็ตาม แ ต่กายยังสกปรกอยู่เพราะทานเนื้อสัตว์ ยังมีการเบียดเบียนสัวต์อยู่ ก็ไม่สามารถตามท่านพบได้ ต้องทำกายให้บริสุทธิ์เสียก่อน ด้วยการงดทานเนื้อสัตว์ กินแต่เจเท่านั้น ส่วนเวลานั้นแล้วแต่ร่างกายของท่านสะอาดเพียงใด แต่ที่เคยได้ยินได้ฟังมาก็ราวๆ 6 เดือน แต่หากดึงดันจะไปตามหาตามสถานที่ เขานั้น ถ้ำนี้ หากร่างกายยังไม่สะอาดพอ ก็จะมีเหตุให้ท่าน หลงทาง หลงป่า จนต้องหากินผัก กินหญ้าจนกว่ากายจะสะอาดจึงจะสามารถเดินทางด้วยกายเนื้อต่อไปได้ แต่หากจิตไม่ถึงบารมีเดิมไม่ถึง มักจะไม่รอดตายกลางป่า ไม่งั้นก็ต้องกลับออกมา

    .....หรือไปด้วยจิตเท่านั้น....หากจิตท่านถึง แต่กานท่านยังต้องทำมาหากิน อยู่ในโลกใบนี้ต่อไป.......


    2. มีหลายสถานที่ ที่ปู่โลกปรกฏ ถ้าถามว่าที่ไหนบ้าง ก็ขอบอกเลยว่า...........ท่านอยู่ทุกที่.........คอยดูแล ตักเตือนชี้ทาง ผู้ที่ยังปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เพราะฉนั้น ท่านอยู่ใกล้ที่ใด ก็ให้เดินทางไปนมัสการท่านที่นั้น หากบุญที่ท่านเคยสร้างถึงพร้อมท่านจะได้สัมผัสเอง...........ผู้ปฏิบัติย่อมรู้เอง.......... ส่วนใครที่อยู่แถบอีสาน ผมมีที่แนะนำให้ท่านที่นึง คือวัดพระธาตุภูเพ็ก จังหวัดสกลนคร และวัดถ้ำขาม อยู่ที่ อ.พรรณานิคม อยู่ใกล้ ๆ กัน ถ้าท่านศรัทธาจริงก็ให้ท่านไปลอง นมัสการกันดู ถ้าโชคท่านดีพอ และคำอธิฐานจิตของท่านแรงพอ ท่านอาจจะได้พบ อะไรหลายๆ อย่างที่วัดพระธาตุภูเพ็ก ก็เป็นได้

    4. ปู่เทพนั้นเนื่องจากท่านเป็นผู้มีฤทธิ์ และอภิญาเป็นอันมาก จะสามารถให้เห็นในรูปลักษณ์ใดก็ได้ แล้วแต่เหตุการณ์ และความเหมาะสมในกาลนั้น ๆ

    5. มีหลายคำถามที่ว่า ท่านอยู่มาได้ยังไง ตั้ง 2 พันกว่าปี ตอบเลยว่าท่านมีวิธีของท่าน พระอรหันต์ผู้พร้อมด้วย อิทธิบาท 4 โดยเชี่ยวชาญนั้น การจะอยู่ตลอดไปเลยนั้นก็สามารถทำได้ ** เคยได้ยินเรื่องบ่อเป็น บ่อตาย หรือไม่ ถ้าไม่ก็ลองไปค้นควาศึกษาดูเองเถิด ........ก็เฉกเช่น เมืองลับแล เมืองต่างๆ ที่เป็นที่สิ่งมีชีวิตวิเศษอยู่นั้น ก็ยังมีอยู่จริง และผู้ที่ถึงพร้อมแล้วเท่านั้นจึงจะเดินทางเข้าไปได้ .........เพราะคนทั่วไปนั้น สกปรกด้วย การผิดศีล กินเนื้อสัตว์ ผู้คนวิเศษเหล่านั้นเขาจึงไม่คบหาสมาคมกับเรา





    ขอจบเรื่องราวต่างๆ เพียงเท่านี้ก่อนครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...