ประวัติและคาถาบูชาพระสีวลีเถระเจ้า

ในห้อง 'บทสวดมนต์ - คาถา' ตั้งกระทู้โดย deneta, 28 พฤศจิกายน 2010.

  1. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,711
    ค่าพลัง:
    +5,720
    • [​IMG]
    ประวัติพระสีวลีเถระเจ้า

    พระสีวลี เป็นโอรสของพระนางสุปปวาสา ราชธิดาแห่งโกลิยนคร ตั้งแต่ท่านจุติลงถือปฏิสนธิในครรภ์ของพระมารดา ได้ทำให้ลาภสักการะเกิดขึ้นแก่พระมารดาเป็นอันมาก ท่านอาศัยอยู่ในครรภ์ ของพระมารดา นานถึง ๗ ปี ๗ เดือน ๗ วัน ครั้นเมื่อใกล้เวลาจะประสูติ พระมารดาได้รับทุกขเวทนาอย่างแรงกล้า พระนางจึงขอให้พระสวามีไปกราบบังคมทูลขอพร จากพระบรมศาสดาและพระพุทธองค์ตรัสประทานพรแก่พระนางว่า:
    “ขอพระนางสุปปวาสา พระราชธิดาแห่งพระเจ้ากรุงโกลิยะ จงเป็นหญิงมีความสุข ปราศจากโรคาพยาธิ ประสูติพระราชโอรสผู้หาโรคมิได้เถิด”
    ด้วย อำนาจแห่งพระพุทธานุภาพ ทุกขเวทนาของพระนางก็อันตรธานไป พระนางประสูติพระราชโอรสอย่างง่ายดาย ดุจน้ำไหลออกจากหม้อ พระประยูรญาติทั้งหลายได้ขนานพระนามพระราชโอรสของพระนางสุปปวาสาว่า “สีวลีกุมาร” เมื่อพระนางมีพระวรกายแข็งแรงดีแล้ว มีพระประสงค์ที่จะถวายมหาทานติดต่อกันเป็นเวลา ๗ วัน จึงจึงความประสงค์แก่พระสวามีให้กราบทูลอาราธนาพระบรมศาสดาพร้อมด้วยภิกษุ สงฆ์ มารับมหาทานอาหารบิณฑบาตในพระราชนิเวสน์ ตลอด ๗ วัน ในวันถวายมหาทานนั้น สีวลีกุมาร มีพระวรกายเข้มแข็งดุจกุมารผู้มีพระชนม์ ๗ พรรษา ได้ช่วยพระบิดาและพระมารดาจัดแจงกิจต่าง ๆ มีการนำธมกรก (ธะมะกะหรก = กระบอกกรองน้ำ) มากรองน้ำดื่มและอังคาสพระบรมศาสดาและหมู่พระภิกษุสงฆ์ ในขณะที่สีวลีกุมาร ช่วยพระบิดาและพระมารดาอยู่นั้น ท่านพระสารีบุตรเถระได้สังเกตดูอยู่ตลอดเวลา และเกิดความรู้สึกพอใจในพระราชกุมารน้อยเป็นอย่างมาก ครั้นถึงวันที่ ๗ ซึ่งเป็นวันสุดท้าย พระเถระได้สนทนากับสีวลีกุมารแล้วชักชวนให้มาบวช สีวลีกุมาร ผู้มีจิตน้อมไปในการบวชอยู่แล้ว เมื่อพระเถระชักชวน จึงกราบทูลขออนุญาตจากพระบิดาและพระมารดา เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงติดตามพระเถระไปยังพระอารามพระสารีบุตรเถระ ผู้รับภาระเป็นพระอุปัชฌาย์ ได้สอนพระกรรมฐานเบื้องต้น คือ ตจปัญจกกรรมฐานทั้ง ๕ ได้แก่ เกสา(ผม) โลมา(ขน) นขา(เล็บ) ทันตา(ฟัน) ตโจ (หนัง) ให้พิจารณาของทั้ง ๕ เหล่านี้ว่าเป็นของไม่งานเป็นของสกปรก ไม่ควรเข้าไปยึดติดหลงใหลในสิ่งเหล่านี้ สีวลีกุมาร ได้สดับพระกรรมฐานนั้นแล้วนำไปพิจารณาในขณะที่กำลังจรดมีดโกนเพื่อโกนผม ครั้งแรกนั้นท่านได้บรรลุเป็นพระโสดาบัน จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๒ ท่านได้บรรลุเป็นพระสกทาคามี จรดมีดโกนลงครั้งที่ ๓ ท่านได้บรรลุเป็นพระอนาคามี และเมื่อโกนผมเสร็จ ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
    เมื่อ ท่านอุปสมบทแล้วปรากฏว่าท่านเป็นพุทธสาวกที่มีลาภสักการะมากมาย ด้วยอำนาจบุญบารมีของท่านที่สั่งสมมา ลาภสักการะเหล่านี้ได้เผื่อแผ่ไปยังพระสงฆ์สาวกท่านอื่น ๆ ด้วย แม้พระบรมศาสดาเมื่อทรงพาหมู่ภิกษุสงฆ์เสด็จทางไกลกันดาร ถ้ามี พระสีวลี ร่วมเดินทางไปด้วย ความขาดแคลนอาหารและที่พักอาศัยในระหว่างทางก็จะไม่เกิดขึ้นแก่หมู่ภิกษุ สงฆ์เลย เช่น....
    สมัย หนึ่ง พระบรมศาสดาเสด็จพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์ จำนวน ๕๐๐ รูปไปเยี่ยมพระเรวตะผู้เป็นน้องชายของพระสารีบุตรเถระ ซึ่งจำพรรษาอยู่ ณ ป่าไม้ตะเคียน เมื่อเสด็จมาถึงทาง ๒ แพร่ง พระอานนท์เถระได้กราบทูลสภาพหนทางว่า.....
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ถ้าเสด็จไปทางอ้อม ระยะทางไกล ๖๐ โยชน์ มีประชาชนอยู่อาศัยมาก พระภิกษุไม่ลำบากด้วยภิกขาจาร แต่ถ้าเสด็จไปทางลัดระยะทางประมาณ ๓๐ โยชน์ ไม่มีประชาชนอยู่อาศัย มีสภาพเป็นป่าใหญ่ มีแต่อมนุษย์อยู่อาศัย พระภิกษุสงฆ์จะลำบากด้วยภิกขาจาร”

    พระพุทธองค์ ตรัสถามว่า:-
    “ดูก่อนอานนท์ พระสีวลีมากับเราด้วยหรือไม่?”
    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระเสวลีมากับเราด้วย พระเจ้าข้า”
    พระพุทธองค์ ตรัสว่า:-
    “ดูก่อนอานนท์ ถ้าอย่างนั้นก็จงไปทางลัด ไม่ต้องห่วง ไม่ต้องกังวลด้วยอาหาร
    บิณฑบาต เพราะเทวดาทั้งหลายที่สิงสถิตอยู่ในป่าระหว่างทาง จะจัดสถานที่พักและอาหารบิณฑบาตไว้ถวายพระสีวลีผู้เป็นที่เคารพนับถือของพวกตน เราทั้งหลายก็จะได้อาศัยบุญของพระสีวลี นั้นด้วย”

    ได้รับยกย่องในทางผู้มีลาภมาก

    ด้วย อำนาจบุญที่ท่านพระสีวลี ได้บำเพ็ญสั่งสมอบรมมาตั้งแต่อดีตชาติ เป็นปัจจัยส่งผลให้ท่านเจริญด้วยลาภสักการะ โดยมีเทพยาดา นาค ครุฑ และมนุษย์ทั้งหลาย นำมาถวายโดยมิขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าท่านจะอยู่ในที่ใด ๆ ในป่า ในบ้าน ในน้ำ หรือบนบก เป็นต้นด้วยเหตุนี้ พระพุทธองค์ จึงทรงประกาศให้ปรากฏในหมู่พุทธบริษัทตรัสยกย่องท่านในตำแหน่ง เอคทัคคะ เป็นผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายในทาง ผู้มีลาภมาก นับว่าท่านพระสีวลีเถระเป็นพระมหาสาวกอีกรูปหนึ่งที่ได้ช่วยกิจการ พระศาสนา แบ่งเบาภาระของพระบรมศาสดาเป็นอย่างมาก ท่านดำรงอายุสังขารโดยสมควรแก่กาลเวลาแล้วก็ดับขันธปรินิพพาน


    คำอาราธนาพระสีวลี
    สีวลี จะมหาเถโร เทวะตานะระปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทัมหิ สีวลี จะมหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทัมหิ อะหัง วันทามิตัง สะทา สีวลี เถรัสสะ เอตัง คุณัง สวัสติลาภัง ภะวันตุเม ฯ

    คำบูชาพระสีวลี (พระฉิม)
    อิมินา สักกาเรนะ สีวะลีเถรัง อภิปูชะยามิ

    เมื่อบูชาแล้วกำหนดภาวนาในใจว่า
    สีวะลี จะ มหาเถโร อินโท พรัมมาจะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ประสิทธิเม เถรัสสะ อานุภาเวนะ สัพะโสตถี ภะวันตุเม ฯ

    พระ สีวลีหรือพระฉิมนี้ มีไว้ประจำบ้าน สถานที่ของตนหรือประจำตัวจะเป็นศิริมงคล เป็นเมตตามหานิยมและป้องกันภัยอันตราย ผู้หมั่นสักการบูชาอยู่เสมอ จะเจริญด้วยลาภ ถ้าไปค้าขายหรือไปหาลาภ ภาวนาคาถาพระฉิมนี้เป็นอารมณ์ไปก็ยิ่งดี

    คำอธิฐานขอลาภจากพระสีวลี
    (แต่งโดยหลวงพ่อเกษม เขมโก แห่งสุสานไตรลักษณ์ จังหวัดลำปาง )
    คำไหว้บูชาขอลาภจากพระสีวลีเถระ มีดังนี้

    ตั้ง นะโม ๓ จบ แล้วว่า
    สิวะ ลีมะหา เถรัง วันทามิหัง (ว่า ๓ จบ) แล้วว่า
    มะหาสิวะลี เถโร มะหาลาโภ โหติ
    มะหาสิวะลี เถโร ลาภัง เม เท ถะ


    คาถาบูชาพระสิวลี ( หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม จ.ชัยนาท)
    สีวะลี จะ มะหาเถโร ปัจจะยะลาภะปูชิโต มะนุสโสเทวะตาอินโท
    พระมายะโม ยักขาวา ปิตัสสะ นิรันตะรัง ปะนะ ลาภะ สักการเรอาเน็นติ
    นิจจัง สิวะลิดเถรัสสะลาโภจะ สักกาโร โหติ สีวะลีมะหาเถรันจะปูชะกัสสะ
    สะทาวาปิ คาถันจะ สังวัดตะนัสสะลาโภจะ สักกาโรโหติเถรัสสะ อานุภาเวนะ
    ลาโภเมโหตุสัพพะทาเอเตนะ สัจจะวัดเชนะ ลาโภเมโหตุ สัพพะทาฯ


    พระคาถาหัวใจพระฉิมพลี
    สาธุ สิวลีจะมหาเถโร
    นะชาลิติ ปะสิทธิลาภา ปะสันนะจิตตา สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ

    สัพเพชะนา พะหูชะนา สัพเพทิสา สะมาคะตา กาละโภชะนา วิภาละโภชะนา
    อาคัจเฉยยะ อาคัจฉาหิ ปิยัง มะมะ


    คาถาบูชาพระสิวลี (แบบย่อ)
    “สีวลี จะ มหาเถโร ชัยยะสิทโธ มหิทธิโก เถรัสสะ นุภาเวนะ”

    คาถาเวลาไปติดต่อธุรกิจ
    “นะ ชาลีติ ปะสิทธิลาภา”


    คาถาขอลาภพระสีวลี ( ประจำวัน )
    วันอาทิตย์ (ให้ภาวนา ๖ จบ )
    ฉิมพะลี จะ มหานามัง สัพพะลาภัง ภะวิสสะติ เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

    วันจันทร์ ( ให้ภาวนา ๑๕ จบ )
    ยัง ยัง ปุริโสวา อิตถีวา ทูเรหิวา สะมีเปหิวา เถรัสสานุภาเวนะ สะทา โหนติ ปิยัง มะมะ ฯ

    วันอังคาร ( ให้ภาวนา ๘ จบ )
    ฉิมพะลี จะมหาเถโร โสะโห ปัจจะยาทิมหิ เชยยะลาโภ มหาลาโภ สัพพะลาภา ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

    วันพุธ ( ให้ภาวนา ๑๗ จบ )
    ทิตติตถะภะเวราชา ปิยาจะ คะระตุเม เย สารัตติ นิรันตะรัง สัพพะสุขาวะหา ฯ

    วันพฤหัสบดี ( ให้ภาวนา ๑๙ จบ )
    ฉิมพะลี จะ มหาเถโร ยักขาเทวาภิปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ อะหัง วันทามิ สัพพะทา ฯ

    วันศุกร์ ( ให้ภาวนา ๒๑ จบ )
    ฉิมพะลี จะ มหาเถโร เทวะตานะรปูชิโต โสระโห ปัจจะยาทิมหิ มหาลาภัง กะโรนตุ เม ลาเภนะ อุตตะโม โหติ สัพพะลาภะ ภะวันตุ สัพพะทา ฯ

    วันเสาร์ ( ให้ภาวนา ๑๐ จบ )
    ฉิมพะลี จะ มหานามัง อินทาพรหมา จะ ปูชิตัง สัพพะลาภัง ปะสิทธิ เม เถรัสสานุภาเวนะ สะทา สุขี ปิยัง มะมะ ฯ

    ใครเกิดวันไหนก็ให้ท่องพระคาถาประจำวันนั้นๆ แต่คนโบราณจะนิยมสวดภาวนาทุกวัน โดยสวดตามพระคาถาในวันนั้นๆ เช่น วันจันทร์ก็สวดบทประจำวันจันทร์ วันอังคารก็สวดบทประจำวันอังคาร


    คาถาพระสีวลี แบบโบราณ

    สาธุ สีวลีจะมหาเถโร อุกาสะฯ

    ข้าพระพุทธเจ้า ขออาราธนา พระอภิญญา พระปฎิสัมภิทา พระบุญฤทธิ์ ลาภสักการะ ของสมเด็จพระสิวลีอรหันตเถรเจ้า
    จงมาบังเกิดในจักษุทวาร มโนทวาร กายทวาร ของข้าพพุทธเจ้า

    ขอคุณพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสังฆเจ้า คุณพระอริยสัจธรรม ทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ คุณพระสิวลีพระอรหันตเถรเจ้า ผู้มีความศักดิ์สิทธิ์ทรงศักดานุภาพเป็นอันมาก เหมือนสมัยที่พระองค์ยังมีชีวิตอยู่นั้น ลาภสักการะสิ่งหนึ่งสิ่งใดเป็นอันมาก ลาภสักการะหลายสิ่งหลายอย่างเป็นอันมาก ได้เกิดแก่พระผู้เป็นเจ้า จนสามารถเลี้ยงภิกษุได้หลายร้อยรูปมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ในที่ทุกแห่งที่ท่านร่วมตามเสด็จไปด้วย พระผู้เป็นเจ้าเป็นที่สักการบูชา ของเทวดาและมนุษย์เป็นอันมากฉันใด ก็ดี
    ขอเดชะพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสังฆเจ้า พระอริยสัจธรรมทั้ง แปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ คุณพระสิวลีอรหันตเถรเจ้า จงมาบังเกิดเป็นที่พึ่ง แก่ข้าพระพุทธเจ้า
    ด้วยเหตุที่ชีวิตของข้าพพุทธเจ้า ซึ่งได้เกิดมาดิ้นรนอยู่บนพื้นดิน ในท่ามกลาง ศาสนบัญชรของพระชินเจ้า มีความจำเป็นด้วยทรัพย์สิน เงินทองเป็นอันมาก หากขาดทรัพย์สินเงินทองเสียแล้ว ชีวิตจะอับเฉา และ เป็นทุกข์
    เพราะเหตุฉะนี้นั้น ขอเดชะพระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระอริยสังฆเจ้า คุณพระอริยสัจธรรมทั้งแปดหมื่นสี่พันพระธรรมขันธ์ คุณพระสิวลีอรหันตเถรเจ้า จงมาบังเกิด เป็นที่พึ่งของข้าพพุทธเจ้า บันดาลให้ทรัพย์สินเงินทองหลั่งไหลมาสู่ชีวิตข้าพระพุทธเจ้า เดือนละหลายพัน หลายหมื่น หลายแสน หลายล้าน ในหลายด้านหลายกรณี เหมือนหนึ่งลาภสักการะ สิ่งใดสิ่งหนึ่งเป็นอันมาก ลาภสักการะหลายสิ่งหลายอย่างเป็นอันมาก อันได้บังเกิดแก่พระสิวลีอรหันตเถรเจ้านั้น เทอญ สาธุ สาธุ สาธุ

    ของที่ต้องเตรียมในการบูชาพระสีวลี

    ดอกไม้สีขาว ๓ ดอก

    ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ๓ ดอก

    ดอกบัว ๓ ดอก

    น้ำสะอาดลอยดอกมะลิ ๑ ถ้วย

    ธูป

    เทียน

    วันพฤหัสบดีให้เพิ่ม น้ำผึ้ง ๑ ถ้วย

    วันเสาร์ให้ถวายอาหารทะเล หรือ อาหารจากต้นดอกบัว

    การแก้บนพระสีวลี

    น้ำมะพร้าวอ่อน

    กล้วยหอม

    การทำบุญเลี้ยงพระ ๑ ครั้ง


    Andrew - ธรรมะคือคุณากร - พระสีวลีเถระเจ้า ประวัติและคาถาบูชา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 มีนาคม 2011
  2. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ................
     
  3. Master mind

    Master mind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +429
    มาฝากอีกบทครับ (คัดลอกจากไตรญาณชินบัญชร ของ หลวงปู่โตครับ)

    อิติปิโสภะคะวา นะชาลีติ ฉิมพาลี จะมหาเถโร สุวรรณะมามา โภชนะมามา วัตถุวัตถามามา

    พลาพลังมามา โภคะมามา มหาลาโภมามา สัพเพชะนา พหูชะนา ภะวันตุเม
    พุทโธ ชัยยะ เมตตาฉิมพะลีจะมหาเถโร ลาภะลาภัง ภะวันตุเม
    ธัมโม ชัยยะ เมตตาฉิมพะลีจะมหาเถโร ลาภะลาภัง ภะวันตุเม
    สังโฆ ชัยยะ เมตตาฉิมพะลีจะมหาเถโร ลาภะลาภัง ภะวันตุเม
     
  4. deneta

    deneta เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    2,711
    ค่าพลัง:
    +5,720
    มูลเหตุที่อยากทราบดังต่อไปนี้ครับ
    ความปรารถนาในอดีต

    ในกัปที่แสนแต่กัปนี้ ในกาลของพระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงพระนามว่า ปทุมุตตระ ในครั้งนั้น ท่านได้เกิดเป็นกษัตริย์ในพระนครหงสวดี ได้ยินพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตั้งสาวกของพระองค์ชื่อสุทัสสนะ ไว้ในตำแหน่งเอตทัคคะผู้มีลาภมาก ดังนั้น ทรงปรารถนาในตำแหน่งนั้นบ้าง จึงได้นิมนต์ พระชินสีห์พร้อมทั้งพระสาวก ให้เสวยและฉันถึง ๗ วัน ครั้น ถวายมหาทานแล้วก็ได้ตั้งความปรารถนาว่า ขอให้ท่านเป็นเอตทัคคะผู้เลิศกว่าภิกษุทั้งหลายผู้มีลาภในอนาคตกาล.พระปทุมุตตระบรมศาสดา จึงทรงพยากรณ์ว่าความปรารถนาของท่านนี้จะสำเร็จในกัปที่แสนแต่กัปนี้ไป ท่านจะบังเกิดในนาม สีวลี ได้บวชในสำนักของพระพุทธเจ้า ทรงพระนามว่าโคตมะ ซึ่งสมภพในวงศ์ของพระโอกกากราช ดังนี้แล้ว เสด็จหลีกไป
    ต่อจากนั้น ท่านก็กระทำกุศลจนตลอดชีวิต ครั้นสิ้นชีวิตแล้วก็ท่องเที่ยวไปกำเนิดในเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย ครั้นในกัปที่ ๙๑ แต่ภัทรกัปนี้ ในกาลของพระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า วิปัสสี ท่านได้ถือปฏิสนธิในหมู่บ้านแห่งหนึ่งไม่ไกลพระนครพันธุมดี ในสมัยนั้น ท่านเป็นคนโปรดปรานของสกุลหนึ่งในพระนคร และเป็นคนที่หมั่นขยันขวนขวายในกิจการงาน
    สมัยหนึ่งหลังจากที่พระบรมศาสดาเสด็จเที่ยวจาริกไปในชนบท กลับมาสู่พระนครพันธุมดี ครั้งนั้น พระเจ้าพันธุมะซึ่งเป็นพุทธบิดา ได้ทรงเตรียมอาคันตุกทาน เพื่อภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประมุข ทรงปรารถนาจะทำมหาทานแข่งกับชาวเมือง ในวันใดที่พระราชาเป็นผู้ถวายทาน เหล่ามหาชนก็จะสังเกตดู และในวันรุ่งขึ้นก็จะเตรียมทานให้ยิ่งกว่านั้น และในวันถัดไป พระราชาก็จะถวายให้ยิ่งขึ้นไปอีก จนกระทั่งถึงวันที่ ๖ ซึ่งเป็นวันของชาวเมือง ชาวเมืองเหล่านั้นทั้งหมดได้จัดเตรียมสิ่งของไว้ทุกสิ่ง โดยตั้งใจจะไม่ให้มีสิ่งใดที่ขาดแม้สักสิ่งเดียว จึงได้ตรวจดูทานที่ตนได้เตรียมไว้ก็ไม่เห็นน้ำผึ้งสด มีเพียงน้ำผึ้งที่เคี่ยวแล้ว ชนเหล่านั้นจึงให้คนถือเอาทรัพย์คนละ ๑ พันกหาปนะแล้วส่งไปเฝ้ายังประตูพระนครทั้ง ๔ เพื่อขอซื้อจากผู้ที่มาจากชนบทนอกพระนคร
    ในวันนั้นเอง ท่านเดินทางเข้ายังพระนครด้วยปรารถนาจะเยี่ยมนายบ้าน ในระหว่างทางท่านเห็นรวงผึ้งที่ปราศจากตัวอ่อน ขนาดเท่างอนไถ จึงไล่ตัวผึ้งให้หนีไป แล้วตัดกิ่งไม้ถือรวงผึ้ง ด้วยตั้งใจว่าจะนำไปให้แก่นายบ้าน ฝ่ายผู้ที่ชาวเมืองมอบเงินไปเพื่อหาซื้อน้ำผึ้ง พบท่านถือรวงผึ้งสดเข้ามาจึงขอซื้อในราคาหนึ่งกหาปนะ
    ท่านเกิดความคิดว่า ธรรมดารวงผึ้งนี้ย่อมไม่ถึงค่าน้อยกว่าหนึ่งกหาปนะมาก แต่บุรุษนี้ให้ทรัพย์กหาปณะหนึ่ง เห็นจะมีเหตุเบื้องหลังอยู่ จึงตอบปฏิเสธไป บุรุษนั้นจึงขึ้นราคาให้เป็นสองกหาปนะ ท่านก็ยังปฏิเสธอีก บุรุษนั้นก็ขึ้นราคาไปเรื่อย ๆ จนถึงพันกหาปนะ
    ท่านได้พิจารณาเห็นเป็นเรื่องผิดปกติมากที่ขอซื้อรวงผึ้งสดด้วยราคาถึงพันกหาปนะ จึงได้สอบถามถึงเหตุผล บุรุษผู้นั้นจึงให้เหตุผลว่า พวกชาวพระนครได้ตระเตรียมมหาทาน เพื่อถวายพระวิปัสสีสัมมาสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้มีสมณะ ๖ ล้าน ๘ แสนเป็นบริวาร ในมหาทานนั้นยัง ไม่มีน้ำผึ้งดิบอย่างเดียวเท่านั้น เพราะฉะนั้น เขาจึงขอซื้อ ในราคาเช่นนั้น.
    ท่านเห็นเป็นโอกาสที่จะได้ทำบุญอันยิ่งใหญ่ จึงขอมีส่วนร่วมในมหาทานนั้น บุรุษนั้นไปบอกเนื้อความแก่ชาวเมือง. ชาวเมืองทราบในศรัทธาของเขาจึงอนุโมทนา ท่านจึงได้เอากหาปณะที่ตนเก็บไว้เพื่อเสบียงเดินทางจากบ้านไปซื้อเครื่องเทศ ๕ อย่างแล้ว ทำให้ป่น นำเอาน้ำส้มมาจากนมส้มแล้ว คั้นรังผึ้งลงในนั้น ปรุงด้วยจุณเครื่องเทศ ๕ อย่างแล้ว ใส่ลงในบัวตระเตรียมสิ่งนั้นเรียบร้อยแล้ว ถือไปนั่งในที่ไม่ไกลพระทศพล เมื่อมหาชนเป็นอันมากนำเอาสักการะไป เขามองดูวาระที่จะถึงแก่ตนในลำดับ รู้ช่องทางแล้วจึงเข้าเฝ้าพระศาสดา กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ สักการะอันยากไร้นี้เป็นของข้าพระองค์ ขอพระองค์โปรดอาศัยความอนุเคราะห์ข้าพระองค์ รับสักการะนี้เถิด พระศาสดาทรงอนุเคราะห์เขา ทรงรับสักการะนั้นด้วยบาตรศิลา อันท้าวมหาราชทั้ง ๔ ถวายแล้ว ได้ทรงอธิษฐานให้ไทยธรรมที่ถวายเพียงพอแก่ภิกษุ ๖,๘๐๐,๐๐๐ รูป ด้วยอานุภาพแห่งพระพุทธเจ้า.น้ำผึ้งนั้นก็มีเพียงพอแก่พระสาวกทั้งสิ้น
    ครั้นแล้วท่านถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้กระทำภัตกิจ เสร็จแล้วยืนอยู่ ณ ส่วนข้างหนึ่ง กราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ ด้วยผลแห่งกรรมนี้ ขอข้าพระองค์ พึงเป็นผู้ถึงความเป็นผู้เลิศด้วยความเป็นผู้มีลาภ ในภพที่เกิดแล้ว ๆ ดังนี้ พระศาสดาตรัสว่า ดูก่อนกุลบุตร ความปรารถนาของท่านจงสำเร็จอย่างนั้น ดังนี้แล้ว ทรงกระทำภัตตานุโมทนาแก่เขาและชาวเมืองแล้วเสด็จหลีกไป.
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 4 ธันวาคม 2010
  5. dharmathai

    dharmathai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +18
    สาธุครับผม
    ผมอยากขอขอบคุณท่านที่ได้เขียนบทนีครับ ว่าผมได้ใช้เป็นที่สืบสานข้อมูลสำหรับแปลเรื่องนี้ให้เป็นภาษาอังกฤษแล้วให้ต่างชาติอ่านครับ
    ผมขอมอบเรื่องนี้ที่ถูกแปลแล้วให้โหลด (เป็นแฟ้ม pdfครับ ใช่ adobe reader free อ่าน)
    ใครๆมี่มีเพื่อนต่างชาติก็จะสามารถแจกตำนานนี้ให้เขาเป็นธรรมทานครับ

    มีเกี่ยวกะพระธาตุพระสีวลีเขียนด้วยครับ [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    704
    ค่าพลัง:
    +2,379
    บังเอิญจังเลยค่ะ เมื่อวานนี้ดิฉันเพิ่งจะสอบถามคุณแม่เรื่องพระสีวลีนี้เป็นใครกัน ไม่ทราบมาก่อนเลยจริงเห็นผู้คนทั่วไปนำมาบูชาโดยเฉพาะคนที่ทำมาค้าขายเพราะเชื่อว่าทำให้ค้าขายดีขึ้น มาวันนี้ก็มีคนนำประวัติมาลงทำให้ดิฉันกระจ่างแจ้งในความสำคัญของท่าน อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้สำหรับข้อมูลดีๆและเป็นประโยชน์ค่ะ
     
  7. SALEEN

    SALEEN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +130
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    ขออนุโมทนาอย่างสูงครับ
    <!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  8. peeraphat

    peeraphat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +196
    ผมบูชาอยู่คับ เปลี่ยนน้ำทุกวัน วันพฤหัสจะมีน้ำผึ้งด้วย อนุโมทนาสำหรับคนที่เผยแพร่คับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...