ประวัติและประสบการณ์ หลวงพ่ออุตตมะ (พระราชอุดมมงคล) อ.สังขละ กาญจนบุรี

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย gaara99, 8 ตุลาคม 2014.

  1. พรอำนวย

    พรอำนวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,784
    ค่าพลัง:
    +160
    เหรียญเจ้าสัวรุ่นแรก
    เนื้อนวะโลหะ ปี 2536

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_3247.JPG
      IMG_3247.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.7 KB
      เปิดดู:
      7,119
    • IMG_3252.JPG
      IMG_3252.JPG
      ขนาดไฟล์:
      46.2 KB
      เปิดดู:
      754
    • IMG_3257.JPG
      IMG_3257.JPG
      ขนาดไฟล์:
      47.8 KB
      เปิดดู:
      504
    • IMG_3223.JPG
      IMG_3223.JPG
      ขนาดไฟล์:
      51.1 KB
      เปิดดู:
      554
  2. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    น่าอิจฉานะครับเที่ยวทำบุญไปทั่วเลย:cool:
     
  3. vee-lumpinee

    vee-lumpinee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +878
    ประคำโทนลงทองพร้อมปฐวีธาตุ ลพ.อุตตะมะ ครับ หายากนานๆจะได้มาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,126
    ค่าพลัง:
    +22,240
    สวยครับ "ประคำรัตนมาลา" เป็นของสูงลูกเดียวอธิษฐานได้ตามปราถนา + ปฐวีธาตุถ้ำกระแซง..ครบทุกทาง
     
  5. vee-lumpinee

    vee-lumpinee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    310
    ค่าพลัง:
    +878
    ขอบคุณครับ สำหรับข้อมูลเชิงลึก
     
  6. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    ขอบคุณคุณอาณัติ และคุณvee-lumpinee :cool:
    มีอะไรดีๆมาแบ่งปันกันเรื่อยๆนะครับ
     
  7. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    สวัสดีปีใหม่ 2559 ครับ
    วันนี้ขอนำคำสอนของหลวงพ่อเรื่อง "การบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกไม้ธูปเทียน" เพื่อจะได้ทราบถึงที่มาที่ไป และอานิสงค์ที่จะพึงได้รับ


    [​IMG]
    "การบูชาพระรัตนตรัยด้วยดอกไม้ธูปเทียน"

    " จะขอเล่าถึงที่มาของการถวายธูป เทียน ดอกไม้ บูชาพระรัตนตรัย คือ รัตนตรัยบูชานั้น แต่เดิมได้แยกกันบูชาโดยแต่ละบุคคลทำขึ้นเพื่อบูชาพระพุทธองค์ ดังจะได้กล่าวดังนี้
    นางกีสาโคตมี เป็นคนแรกที่คิดทำ "เทียน" ขึ้น นางได้นำเทียนพรรษาไปถวายพระพุทธองค์ ณ วัดเชตวัน เทียนที่นางทำขึ้นนั้นเป็นเทียนสีผึ้งสีทอง ดังที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันนี้
    ...
    นางมังคลิกา เป็นคนแรกที่คิดทำ "ธูป" ขึ้นโดยทำจากดอกจันทน์เป็นธูปใหญ่ เมื่อเวลาจุดจะหอมไปทั่วบริเวณวัด นางทั้งสองนี้ได้ร่วมบุญกันถวายธูปเทียนแด่พระพุทธเจ้าวิปัสสี
    ...
    นางมังคลิกานั้น ในอดีตชาติเคยบูชาด้วยธูปแก่นจันทน์มาก่อน ตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ ทำให้นางเกิดมามีรูปร่างสวยงาม จิตปัญญาดี มีบริวารมาก ปัจจุบันเมื่อเป็นอัครมเหสี ก็มีรูปงามเช่นกัน แล้วนางก็ได้เป็นภิกษุณีในสมัยพระเจ้าโคตมะ
    ...
    นางปทุมเทวี ได้ถวาย "ดอกบัว" มาตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้ากัสสปะ จนถึงสมัยพระพุทธองค์นางก็ยังคงถวายดอกบัวดังเดิม นับรวมได้ 40,000 กว่าดอก
    นางจึงได้ชื่อว่า "ปทุมมะเทวี" ดอกบัวที่นางถวายนั้นมีสีขาวนวล สวยสะอาด ไม่ใช่เหลือง ไม่ใช่แดง งดงามมาก
    ...
    ด้วยอานิสงค์การบูชานี้ นางไม่เคยตกอยู่ในอบายภูมิ ซึ่งนางได้เกิดมาแล้วหลายภพหลายชาติ ตายจากมนุษย์ก็ขึ้นสวรรค์ ลงจากสวรรค์ก็มาเป็นมนุษย์ จะเป็นผู้มีศีล มีสมบัติมาก เกิดในสกุลใหญ่ แม้กระทั่งได้เป็นอัครมเหสีบ้างก็มี
    ...
    นางจิตรเทวี เล่ากันมาว่า วันหนึ่งนางนำเอา "ดอกมะลิ" มาร้อยเป็นมาลัยงามประณีต นางนำเอาพวงมาลัยดอกมะลินั้นไปถวายพระพุทธองค์ ครั้นไปถึงไม่ได้พบ พระพุทธองค์ไม่อยู่ นางจึงตั้งจิตอธิษฐาน
    ...
    พวงมาลัยดอกมะลินั้นได้รวมกันเป็นพุ่มแล้วลอยขึ้นไปในอากาศ เรียกว่าดอกมะลิไปนิมนต์พระพุทธเจ้าเสด็จกลัยมา จนถึงสมัยพระพุทธเจ้ากกุสันธะ นางก็ยังปฏิบัติเช่นนนี้ เมื่อบารมีถึงนางจึงได้เป็นภิกษุณีและสำเร็จไปในที่สุด
    ...
    นางโกสาตกี นำดอกไม้ไปบูชาพระเจดีย์ เมื่อไปถึงกลางทางนางได้ถูกวัวควายขวิดตาย ด้วยจิตตั้งมั่นอยู่นี้ นางจึงได้ไปเกิดเป็นเทวดาในชั้นจตุมหาราช เรื่องนี้เกิดในสมัยพระพุทธองค์ ไม่ใช่นิทาน
    ...
    การบูชาพระรัตนรตัยด้วยดอกไม้ ธูป เทียน นี้ แต่เดิมบูชาแยกกันดังกล่าว มารวมกันขึ้นเมื่อครั้งพระพุทธองค์เทศน์มหาเวสสันดร ในกลางเดือน4 ณ กรุงกบิลพัสดุ์ ดังว่าครั้งนั้นมีการถวายดอกไม้ถึง 7วัน 7คืน
    ...
    พระพุทธองค์ตรัสว่า " มหาชนทั้งหลายที่บูชาพระรัตนตรัยด้วย ธูป เทียน ดอกไม้ด้วย คนเหล่านั้นเมื่อเตายแล้วจะได้เกิดบนสวรรค์ มีรูปร่างสวยงาม สะอาดเหมือนดอกไม้ มีเสียงไพเราะ ตัวหอม ปากหอม"
    ...
    ด้วยดอกไม้ หรือ บุปผะเป็นของประเสริฐ เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ มีสีต่างๆกัน สวยงามและหอม เมื่อเราพิจารณานำเอาสิ่งที่ดีเช่นนี้ไปบูชาพระนั้น เป็นเจตนาดีเกิดอานิสงค์ที่ดี จึงไม่ควรสงสัย
    ...
    ฉะนั้นการที่เราซื้อดอกไม้ หรือเก็บดอกไม้มาบูชาพระ เราจะเลือกดอกไม้ที่สวยสะอาด ด้วยเจตนาที่สะอาด เพื่อบูชาพระรัตนตรัย กุศลจิตจึงบังเกิดบุญกุศก็เกิด
    ...
    แต่ถ้าเอาดอกไม้ที่จะบูชาพระมาวางทิ้งไว้ให้เหี่ยวเฉา ไม่สวย ไม่สะอาด ผู้ที่พบเห็นก็เสียเจตนา พอเสียเจตนาอะไรๆ ก็เสียไปหมดบุญกุศลจะเกิดได้อย่างไร
    ..
    ครั้นต่อมาเมื่อเกิด "ตติยะสังคายนา" หลังจากที่พระพุทธองค์ได้เสด็จปรินิพพานไปแล้ว คณะพระภิกษุอรหันต์ทั้งหลายได้มาประชุมกันว่า
    "การบูชาพระรัตนตรัย ด้วยธูป เทียน ดอกไม้ ถือเป็นอามิสบูชาหรือไม่" ซึ่งตามจริงแล้วการที่บุคคลนำดอกไม้ ธูป เทียน มาบูชาพระ หรือนำอาหาร หรือเครื่องบูชาใดๆ มาถวายพระนั้นเป็นอามิสบูชาทั้งสิ้น
    ..
    แต่ถ้าพิจารณาถึงเจตนาของบุคคลนั้นๆแล้ว "ไม่ใช่อามิสบูชา" เพราะการบูชาเหล่านั้นไม่ใช่เพื่อให้พระพุทธรักตน หรือให้พระสงฆ์รักตน หรือทำตามอย่างผู้อื่นด้วยเห็นเป็นของสนุก ของทำตามธรรมเนียม กุศลจิตไม่เกิด
    แต่การทำด้วยเจตนาที่จะบูชาพระรัตนตรัยด้วยการตั้งจิตอธิษฐานเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเอง
    ..
    ฉะนั้นจึงพิจารณาจาก "เจตนา" เป็นหลัก เมื่อเจตนาทำบุญ เกิดกุศลจิตอย่างเดียวก็ได้บุญ ซึ่งอานิสงค์ของการบูชาด้วยดอกไม้นี้เป็น "บริสุทธิ์เจตนา" คือ เจตนาสะอาด เจตนาไม่มีอามิสะ จึงไม่เป็นอามิสบูชา
    ..
    ดังเช่น พระเจ้าพิมพิสาร นำดอกไม้ทำด้วยเงินแท้ๆ ทองแท้ๆ ไปถวายพระพพุทธองค์ ณ วัดเชตวัน ด้วยเห็นว่าดอกไม้จริงๆ นั้นจะเหี่ยวเฉาไม่คงทนเท่า และเห็นว่าเงินแท้ๆ ทองแท้ๆ นั้นเป็นสิ่งมีค่าสวยงามทนทาน จึงนำมาประดิษฐ์เป็นดอกไม้ถวาพระพุทธองค์
    ..
    ซึ่งพระพุทธองค์ก็ทรงรับด้วยทรงพิจารณาถึงเจตนา เป็นเจตนาดี เจตนาบริสุทธิ์ ถวายไว้เพื่อเป็นสัญลักษณ์ด้วยกลัวว่าจะเหี่ยวสูญไป การถวายดอกไม้ซึ่งทำเด้วยเงินแท้ๆ ทองแท้ๆ ของพระเจ้าพิมพิสารนี้ี้ จึงไม่เป็นอามิสบูชา เพราะพิจารณาจาก "เจตนา" เป็นใหญ่
    ..
    ..
    การบูชาพระรัตนตรัยนั้น ไม่ว่าเป็นสมัยเมื่อพระพุทธองค์ยังมีชีวิตอยู่ หรือปรินิพพานไปแล้ว ก็ยังคงมีพระอรหันต์อยู่ บุคคลผู้ถวายธูปเทียนดอกไม้เหล่านี้ ด้วยอานิสงค์จะไม่ต้องตกอยู่ในอบายภูมิ แม้เมื่อเป็นมนุษย์จะไม่มีทุกข์ จะมีสุข มีสมบัติ มีจิตใจอ่อนโยน มีรูปร่างสวย แม้เมื่อเป็นเทวดาจะได้อยู่ในภูมิจาตุมหาราชบ้าง ดุสิตบ้าง เพราะในการบูชาเราจุดธูป เทียน ตั้งจิตอธิษฐาน คำอธิษฐานนั้นๆ จะสำเร็จได้ด้วย "เจตนา" ของผู้นั้นนั่นเอง
    ..
    ดังเช่นในสมัยพระพุทธองค์มีพระเถระรูปหนึ่ง นามว่า "ยสะกิตเถระ" บิดาไปตายอยู่ในป่าระหว่างการเดินทาง เมื่อท่านทราบได้ไปนำศพกลับมาเพื่อทำพิธีเผา ได้วางศพไว้ในศาลามีผู้คนมากมายนำดอกไม้มาวางบนศพเพื่อแสดงความเสียใจ ท่านได้นำดอกไม้มาร้อยเป็นพวง เกิดเป็นพวงหรีดที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน นำไปเคารพศพบิดาด้วยเจตนาจะให้บิดาผู้ล่วงลับนั้นมีจิตสงบสบาย เกิดชาติหน้าจะได้งามสะอาด พร้อมพิจารณาว่า "รูปัง อนิจจัง"
    ด้วยเจตนาของยสะกิตเถระนี้ บิดาจึงได้เกิดในสวรรค์ชั้นจาตุมหาราช มีปราสาทงดงามเป็นพุ่มเหมือนดอกไม้ 3พุ่ม
    ..
    ฉะนั้น จงพิจารณาว่า การที่เรานำพวงหรีดไปเคารพศพนั้นควรตั้งจิตให้ดี มิใช่เป็นการกระทำตามผู้อื่น หรือตามธรรมเนียมเท่านั้น
    ..
    ดังนั้น ทุกเช้า-เย็น เมื่อบูชาพระรัตนตรัยด้วยธูป เทียน ดอกไม้ จงตั้งเจตนาให้ดี ด้วยเจตนาสะอาด และตั้งจิตอธิษฐาน จะตัดเวรตัดกรรมเพื่อไม่ให้มีศัตรูใดๆ และให้อยู่เป็นสุขตลอดไป จะเกิดอานิสงค์ตามนั้นก็ด้วย "เจตนา" เป็นใหญ่
    ..
    ดังธรรมะ ที่ยกมาแสดงทั้งสิ้น นี้แล

    [​IMG]

    พระธรรมเทศนา โดย พระราชอุดมมงคล (หลวงพ่ออุตตมะ)
    จากหนังสือ 84ปี หลวงพ่ออุตตมะ หน้า422-425
     
  8. loongtow

    loongtow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กันยายน 2010
    โพสต์:
    677
    ค่าพลัง:
    +1,266
    พระปิดตาจัมโบ้รุ่นแรก หลวงพ่ออุตตมะ
    พิมพ์กรรมการ ปิดทอง ฝังตะกรุดเงิน


    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    ...พระปิดตาจัมโบ้รุ่นนี้ ทางวัดท่ามะขาม อ.เมือง จ.กาญจนบุรี ได้จัดงานปิดทองฝังลูกนิมิต
    จึงได้ขออนุญาตหลวงพ่ออุตตมะจัดสร้างพระปิดตาอุตตมะของหลวงพ่อขึ้นเป็นครั้งแรก
    โดยประกอบพิธีพุทธาภิเษกขึ้นที่วัดท่ามะขาม ในวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2522 ซึ่งในงานมี

    1...หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีเป็นประธาน นั่งปรกร่วมด้วย
    2...หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม
    3...หลวงพ่อจิว วัดศาลาครืน
    4...หลวงพ่อตุ๋ย วัดอนงคาราม
    5...หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
    6...หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    7...หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง ฯลฯ

    เมื่อเสร็จพิธีแล้วเจ้าภาพได้นิมนต์หลวงปู่โต๊ะ และหลวงพ่ออุตตมะปลุกเสกร่วมกันเป็นพิเศษอีกช่วงหนึ่งด้วย

     
  9. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    สวยครับคุณloongtow :cool:
    ------------------------
    เดี๋ยวนี้เริ่มเห็นมีพิมพ์ธรรมดา(ไม่ปิดทอง)ปลอมออกมากันบ้างแล้วนะครับ
    ระวังกันให้ดีๆ
     
  10. สมาธิ7689

    สมาธิ7689 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +1,251
    ว่ากันว่าพิมพ์นี้ หลวงพ่ออุตตมะเสก
    จริงหรือเปล่านิ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • SANY7003.jpg
      SANY7003.jpg
      ขนาดไฟล์:
      650.7 KB
      เปิดดู:
      296
    • SANY7004.jpg
      SANY7004.jpg
      ขนาดไฟล์:
      586.6 KB
      เปิดดู:
      319
  11. อาณัติ

    อาณัติ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2006
    โพสต์:
    6,126
    ค่าพลัง:
    +22,240
    เสกครับ เป็นรุ่นที่คุณวรพร ทองดีเลิศ ขอสร้างแจกตอนเรียนปริญญาโท

    ผมก็ได้ไว้องค์หนึ่ง...นานมากแล้ว
     
  12. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    เคยเห็นเหมือนกันครับ แต่เพิ่งทราบว่าคุณวรพรสร้างถวาย
    ขอบคุณคุณอาณัติสำหรับข้อมูล
     
  13. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    "หลวงพ่อเล่าเรื่องให้ฟัง" โดย รศ.อาภัสสร์ จันทวิมล

    **ไปไหว้พระแก้วมรกตพบกับอูเนวิน**

    สมัยเมื่อหลวงพ่อได้เดินทางมากรุงเทพฯใหม่ๆนั้น ท่านอยากไปกราบพระแก้วมรกตที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม เนื่องจากในตำนานระบุว่ามีพระบรมสารีริกธาตุบรรจุอยู่ภายใน ท่านจึงขอให้ลูกศิษย์พาไป

    จะด้วยเหตุบังเอิญ หรือหลวงพ่อท่านจะรู้ล่วงหน้าก็ตาม นายพลเนวินผู้นำของประเทศพม่าในขณะนั้นก็มากราบพระแก้วมรกตด้วยเช่นกัน ยังทักทายกันเป็นอย่างดี เนื่องจากได้เคยพบกันมาก่อน เมื่อหลายปีมาแล้ว ทำให้เราทราบว่า หลวงพ่อท่านเป็นพระผู้ใหญ่ที่มีชื่อเสียงเกียรติคุณเป็นที่ยกย่องในประเทศพม่าด้วย

    [​IMG]

    ต่อมาในระยะหลัง หลวงพ่อมีกิจนิมนต์ร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่วัดพระแก้วบ่อยครั้งขึ้น ท่านจึงมีโอกาสได้กราบพระแก้วมรกตปีละหลายๆครั้ง ท่านบอกว่า"พระแก้วมรกต"จะอยู่ในเมืองที่เจริญรุ่งเรืองในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นหลักชัยแห่งพระพุทธศาสนา แต่ถ้าหากศาสนาเสื่อมลงพระแก้วมรกตก็จะไปที่อื่นได้

    เมื่อสิบปีก่อนนี้ ที่ประเทศจีนได้อนุญาติให้ประเทศไทยเราขออัญเชิญ "พระเขี้ยวแก้ว" มาให้คนไทยสักการะกัน หลวงพ่อบอกให้ลูกศิษย์ไปสักการะกันให้จงได้ เพราะคราวที่ท่านไปไหว้ที่ประเทศจีนนั้น การที่จะให้ผู้ใดเข้าไปได้นั้นยากลำบากมาก และพระเขี้ยวแก้วองค์นี้ คู่กันกับของประเทศศรีลังกา

    จากหนังสือ 100ปีชาตะกาล หน้า 187
     
  14. พรอำนวย

    พรอำนวย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    2,784
    ค่าพลัง:
    +160
    พระปิดตาแช่น้ำมนต์ 1 ไตรมาส
    ฝังตะกรุดทองคำแท้ 4 ดอก
    รุ่นอุดมมงคล ปี 2536
    เขาว่ากันว่าสร้างประมาณ 1,000 องค์


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_4656.JPG
      IMG_4656.JPG
      ขนาดไฟล์:
      52.8 KB
      เปิดดู:
      304
    • IMG_4658.JPG
      IMG_4658.JPG
      ขนาดไฟล์:
      33 KB
      เปิดดู:
      4,454
    • IMG_4660.JPG
      IMG_4660.JPG
      ขนาดไฟล์:
      36.6 KB
      เปิดดู:
      295
  15. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    ***การใช้ลูกประคำสวดมนต์***
    ตอนที่๑


    [​IMG]

    ดังได้กล่าวมาแล้วว่า ลูกประคำสร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๒๕
    โดยฤาษีคุปตะ จุลละ และเทวิละ ฤาษีทั้ง ๓ ทำตำราลูกประคำ
    ตำราลูกประคำสำเร็จโดยฤาษีอัชชะโคนะ

    ฤาษีอัชชะโคนะนี้เดิมเป็นพระ แต่เมื่อมาปฏิบัติในป่าเกิดลำบาก เพราะต้องฆ่าสัตว์ จึงสึกออกมาบวชเป็นฤาษี มาปฏิบัติโดยใช้ลูกประคำ และสำเร็จโลกียฌาณ และมีฤาษีอีกหลายองค์ที่สำเร็จโดยลูกประคำ เช่น ฤาษีปูปุอ่อง, พัชชะโคนะ

    การสวดของพระฤาษีนี้ใช้ลูกประคำสวดมนต์ โดยตั้งจิตก่อนสวดลูกประคำ และระลึกถึงพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ "นะโมพุทธายะ" แล้วสวดมนต์และนับลูกประคำไปเรื่อยๆ สวดมนต์ไปเรื่อยๆ โดยบทสวดมนต์ "อาฏานาฏิยะปะริตตัง"
    .
    พอสวดมนต์บทข้างต้นนี้เสร็จก็ต้องสวดบทต่อไปคือ "ธะชัคคะปะริตตัง"
    พอสวด ๒บทนี้จบ ก็สวดบทลงท้าย คือ สัพพะพุทธานุภาเวนะฯ

    ซึงในปัจจุบันเขาไม่ค่อยมีใครสวดกันแล้ว ซึ่งบทสวดข้างต้นนี้ เขาก็แปลไว้ด้วย มีพระพุทธเจ้าหลายพระองค์อยู่ในบทสวดมนต์นั้นๆ

    เช่น ฤาษีอัชชะโคนะ ชอบนั่งสวดมนต์ ก่อนนั่งสวดมนต์ก็ต้องนั่งพิจารณาพระพุทธเจ้าสี่พระองค์ พิจารณาอันตรายต่างๆ ซึ่งอยู่ใน"ธะชัคคะปริตร"
    พอสวดเสร็จก็พิจารณา เมื่อพิจารณาเสร็จ ก็นั่งนับลูกประคำ ๓จบ
    สวด "อาฏานาฏิยะปะริตตัง" นับประคำ นับไปๆ วันละหลายๆจบ จึงสำเร็จโลกียฌาณ "สำเร็จด้วยลูกประคำ"

    [​IMG]
    ฤาษีปูปุอองก็เช่นกัน เดิมเป็นพระมา ๒๐ปี เข้าป่ามานั่งกรรมฐานเป็นประจำ ในตอนหลังจึงสึกจากพระ และเข้าไปอยู่ในป่า และนั่งสวดมนต์ระลึกถึงพระอรหันต์ทั้งหลายด้วยบทสวดชินบัญชร

    แล้วในขณะที่สวด ก็นับลูกประคำไป นับไปๆ และนับ "นะโมพุทธายะ" ซึ่งระลึกถึงพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ให้นึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
    ทั้งอาณาปานะสติ คือ กำหนดลมหายใจเข้าออก
    จึงสำเร็จฌาณโลกีย์ด้วยลูกประคำ นั่งนับประคำ นับไปๆ จนเกิดเป็นสมาธิอยู่กับลูกประคำ


    มีต่อตอนหน้าครับ
    จากหนังสือ 84ปี อุตตมะ หน้า393-400
     
  16. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,650
    ค่าพลัง:
    +16,580
    ผมขอสอบถามพระปิดตาชุดนี้ใช่ของหลวงพ่ออุตตมะไหมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 6838.jpg
      6838.jpg
      ขนาดไฟล์:
      149 KB
      เปิดดู:
      277
    • 6839.jpg
      6839.jpg
      ขนาดไฟล์:
      277.1 KB
      เปิดดู:
      306
  17. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    ใช่ครับผม:cool:
     
  18. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    "พระปิดตาสาริกาเนื้อผงยาจินดาวาสนา" หลวงพ่ออุตตมะ

    [​IMG]
    [​IMG]

    พระพิมพ์ขนาดเล็กประมาณปลายนิ้วก้อย ที่ อ.เบิ้ม (สุวัฒน์ พบร่มเย็น) สร้างถวายพระราชอุดมมงคล(หลวงปู่ อุตตมะ) วัดวังวิเวการาม เมื่อประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๒ เพื่อแจกแก่ศิษยานุศิษย์
    จำนวนสร้างประมาณ ๔๐๐ องค์

    มวลสารสำคัญที่นำมาเป็นส่วนผสมของพระปิดตาสาริกาพิมพ์นี้คือ
    เม็ดยาจินดาวาสนาของหลวงปู่บุญ และหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว, หลวงปู่ทองอยู่ วัดท่าเสา
    ผงว่านมงคล ๑๐๘ และผงจักรพรรดิ ที่หลวงปู่อุตตมะ ได้อธิษฐานจิตให้อย่างยาวนานถึง ๑๒ ปี

    อีกหนึ่งวัตถุมงคลคุณภาพคับแก้วที่ขอแนะนำ ประเภท "ของจริงนิ่งเป็นใบ้" และ "สร้างให้ดีไม่ใช่สร้างให้ดัง"
    เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหาของที่ดีพร้อมทั้งเจตนาในการสร้าง, องค์อธิษฐานจิตและมวลสารมงคล
    แขวนบูชาแล้วไม่หนักคออย่างแน่นอนครับ

    ขอบคุณข้อมูลจาก: คุณUltrachai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 พฤศจิกายน 2016
  19. udonteva

    udonteva udonteva

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    100
    ค่าพลัง:
    +348
    ยืนยันอีกเสียงครับ เป็นประคำไม้หอมเชือกเหลืองแดงเม็ดเล็ก จากนิตยสารศักดิ์สิทธิ์
     
  20. gaara99

    gaara99 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    949
    ค่าพลัง:
    +6,255
    บางส่วนบางตอนจากเรื่อง "กรรม"


    [​IMG]

    พลตรีปรีชา: ขอเรียนถามหลวงพ่อว่า กรรมที่เราทำไว้นี้ ตัดได้ไหมครับ

    หลวงพ่อ: ตัดไม่ได้ ถ้าเป็นครุกรรม (กรรมหนัก) เช่น อนันตริยกรรม 5 คือ
    ฆ่าบิดา ฆ่ามารดา ฆ่าพระอรหันต์ ทำโลหิตของพระพุทธเจ้าให้ห้อ และทำสงฆ์ให้แตกกัน
    .
    พลตรีปรีชา: แล้วกรรมอื่นๆ จะตัดได้ไหมครับ

    หลวงพ่อ: กรรมอื่นๆ นั้น เราทำบุญไป ก็หลุดไปมาก
    แต่ถ้าเป็นครุกรรมแล้วจะทำบุญขนาดไหน ก็ไม่พ้น เหมือนอย่างพระเจ้าอชาตศัตรู ทำบุญไม่รู้เท่าไร แต่เพราะกรรมที่ปลงพระชนม์พระราชบิดา จึงต้องตกนรก หนีไม่พ้น

    ถ้าเป็นลหุกรรม (กรรมเบา) เราทำบุญมากๆ กุศลบุญที่เราทำนั้นอาจจะให้ผลก่อน แต่กรรมเราก็ยังไม่หลุด
    ถ้าเราทำบุญไปเรื่อยๆ บางทีเราไปเกิดในกาลที่ไม่มีพระพุทธเจ้า เราก็มีเจตนาทำบุญอยู่เนืองนิตย์ ผลบุญก็ให้ผลก่อนเรื่อยไป กรรมก็ตามไม่ทัน
    นี่ลหุกรรม แต่เราต้องทำบุญมากๆ เรื่องการทำบุญนี้จะติดเป็นนิสัย

    "ถ้าเราเคยทำอยู่ในชาตินี้ เราระลึกถึงบุญอยู่เสมอ บุญนี้ให้ผลเราก่อน
    กรรมไม่ดีก็ตามมาไม่ทัน เพราะบุญ หรือมหากุศลของเรามากขึ้น"


    จากหนังสือ "84ปี อุตตมะ" หน้า 466-467
     

แชร์หน้านี้

Loading...