ประสบการณ์จริง..เจ้ากรรมนายเวร ในอดีตชาติของผม

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย โมกขทรัพย์, 13 มิถุนายน 2012.

  1. srirattana

    srirattana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    235
    ค่าพลัง:
    +1,972
    ยืนยันด้วยคนค่ะ ประสบการณ์เกี่ยวกับหลวงพ่อ เยอะพอสมควร

    มีอยู่พักนึง ช่วงนั้นคบกับเพื่อนๆหลายกลุ่มหลายสำนักมาก จนเวลาในการภาวนาของตัวเองน้อยลง สับสน ไม่มั่นใจ อันไหนดีวะ สุดท้ายตกกลางคืน ฝันว่า ตัวเอง กำลังทำกับข้าวหรืออะไรสักอย่างในโรงครัว (เห็นเป็นกะทะใบบัวใหญ่ๆ กับลักษณะแบบโรงครัวในวัด) แล้วหลวงพ่อ ถือไม้เท้ามา ชี้หน้า จะอะไรกันนักกันหนา..(น้ำเสียงหลวงพ่อดุมากเลย) สะดุ้งตกใจตื่น พร้อมกับนึกได้ว่า สงสัยเราจะฟุ้งซ่านมากไป เลยกลับมาจับลมภาวนาเหมือนเดิม อิอิ .... เรื่องประสบการณ์ หลวงพ่อกับหลวงปู่ปาน ท่านจะมาสงเคราะห์ตลอด ให้คนโง่ๆ มันหายโง่ ให้มั่นใจว่า กำหนดจิตแค่ไหน ได้พอดี แค่ไหนล้น... ชักวนไปวนมา ก็มีแค่ฉะนี้แล..เอวังกิ่ม (ขออำภัย หลวงตากิ่มด้วย)

    บวชเมื่อไหร่ อย่าลืมบอกพี่ด้วยนะคะ พี่อยากทำบุญด้วย โมทนาค่ะ

    ที่น้องทำมา ก็แนวๆเดียวกัน จับอานาปานุสติ เป็นหลัก มโนที่แจ่มใส เกิดจากตรงนี้แหละค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  2. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    476
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,858
    ขอบคุณที่มาแชร์ประสบการณ์ครับ ขอโมทนาบุญด้วยครับ คนที่มาโพสในห้องนี้ ล้วนแต่เคยเกี่ยวดองกันมาทั้งสิ้นครับ ู เพราะเราเกิดมาไม่รู้กี่อสงไขยแล้ว นานจนนับไม่ได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องอจินไตย เนอะ

    เรื่องบวชนั้น อธิฐานไ้ว้เงียบๆครับ ให้เสร็จภาระทางนี้ทุกอย่างก็คงไปแล้วครับ แว่วข่าวเรื่องภัยพิบัติมานะครับ ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป เตรียมรับมือกันครับ
     
  3. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,666
    ค่าพลัง:
    +6,165
    ถ้าใครเล่าประสบการณ์คาถาเงินล้านแล้วผลหาย โปรดอย่ามึน
    คาถานี้อวดคนอื่นแล้วผลจะหาย
    ขอให้เพียรท่องต่อไปตามเดิม สักวันจะกลับมา
     
  4. justonelife

    justonelife เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    74
    ค่าพลัง:
    +190
    ขออนุโมทนาในความเพรียนรักษาศีล ปฏิบัติธรรม ของท่านเจ้าของกระทู้ด้วยนะครับ ทำให้ผมได้พุทธานุสติ ธรรมนุสติ และสังฆานุสติ ขออนุโมทนาที่แบ่งปันประสบการณ์ดีๆที่ได้หนุนใจเพื่ิินสมาชิก และคนอื่นที่แวะเข้ามาอ่านให้มีกำลังใจ และระลึกถึงกฎแห่งกรรมนี้ ขิบคุณมากครับ
     
  5. phak

    phak เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    473
    ค่าพลัง:
    +458
    :cool:Anumo...tana..satu..naka.
     
  6. wee3250

    wee3250 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กันยายน 2007
    โพสต์:
    7,311
    ค่าพลัง:
    +5,564
    พระคาถาเงินล้านดีจริงๆครับ ผมก็ได้เจอประสบการณ์มาแล้วเหมือนกัน
    ทำนองคล้ายๆกับเจ้าของกระทู้เลย ผู้ปฏิบัติเท่านั้นถึงจะได้รู้ครับ
    ไปพูดให้ใครไม่เชื่อ ก็หาว่าเป็นเรื่องตลก
     
  7. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    672
    ค่าพลัง:
    +939
    คุณโมกขทรัพย์คะ ที่คุณแนะนำ เรื่องการปฏิบัติของคุณ ช่างมีประโยชน์ โมทนา ในธรรมทานนะคะ จะพยายามเพียรปฏิบัติไปเรื่อยๆ ตอนนี้พยายามฟังเสียงหลวงพ่อ บ่อยๆ ฟังหลวงพ่อสอนช่างสบายใจ สุขใจจนบอกไม่ถูก มีบางช่วงที่จิตเป็นอกุศลนั้น แทบไม่อยากจะเปิดไฟล์เสียงที่ท่านเทศน์มาฟังเลย ตอนนี้จิตเริ่มกลับมาแล้ว เริ่มละอายชั่วกลัวบาป พยายามฟังเสียงหลวงพ่อสอนบ่อยๆ
     
  8. watjojoj

    watjojoj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    562
    ค่าพลัง:
    +9,793
    ลูกหลานหลวงพ่อ ที่่เกิดมาไม่ทันยุคของท่าน หากได้ฟัง ได้อ่าน คำสอนของท่าน จะรู้สึกคุ้นเคย รู้สึกอยากพบ รู้สึกอยากปฏิบัติ ตามแนวปฏิปทาของท่าน ให้รู้เอาไ้ว้เลยว่า คุณคือส่วนหนึ่งของลูกหลานท่านครับ และท่านก็จะเอาคุณไปอยู่ด้วยแน่นอน หากคุณตั้งใจจริงและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์

    ผมได้อ่านข้อความนี้แล้วใช่เลยครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่เลวมาก วันหนึ่งผมได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือหลวงปู่ปาน อ่านจบใจรู้สึกแต่ว่าตรูต้องไปวัดท่าซุง ตังก็ไม่มี ชุดขาวก็ขอยืมเขาเอา ไปแบบมั่วๆทางก็ไม่รู้จัก ทั้งๆที่เมื่อก่อนแทบไม่เคยเข้าวัดเลย ต้องบังคับเอา ไปถึงก็ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าวัด ไม่รู้เรื่องอะไร ยังงงตัวเองว่าเป็นไปได้ยังไงหว่าตรู
     
  9. พูน

    พูน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    595
    ค่าพลัง:
    +2,479
    ยินดีที่ได้พบกับพี่น้องอีกท่านหนึ่ง
     
  10. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    476
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,858
    เช่นกันครับ ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปครับ


    โมทนาในกุศลกรรมด้วยครับ
     
  11. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    476
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,858
    คาถานี้ จะให้ผลก็ต่อเมื่อ

    ๑ ผู้ใช้ ต้องมีศีลเป็นปกติ

    ๒ ต้องเจริญ สมาธิ วิปัสสนากรรมฐาน

    ๓ ต้องหมั่น ทำบุญ อุทิศส่วนกุศล เจริญพรหมวิหาร ๔

    ๔ ไม่ขี้เกียจ ในการ สร้างความดี

    รับรองผลครับ ไม่มีจนแ่น่นอน ไม่ขัดสน และคล่องตัวแน่ครับ


    โมทนาในกุศลกรรมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 มิถุนายน 2012
  12. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    476
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,858
    ในช่วงที่หลงผิด ทำชั่วไปแล้ว ให้รีบตั้งใจ รักษาศีลใหม่ครับ หาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ ในการสร้างความดี เช่นไหว้พระ สวดมนต์ ขอพรท่าน พร้อมกับตั้งสัจจะ ว่าจะไม่คิดชั่ว ไม่พูดชั่ว ไม่ทำชั่ว อีก ขอให้ชีวิตดีขึ้นทั้งทางโลกและทางธรรม เพราะถ้าหาก ไม่หาสิ่งยึดเหนี่ยวแล้ว จิตเราจะเศร้าหมอง เราจะเคยชินในการทำความชั่วครับ ยิ่งเมื่อไร ที่เราทำสิ่งผิดพลาดไป ต้องรีบกลับมายืนหยัดทำความดีใหม่ อดีตผ่านไปแล้วแก้ไขไม่ได้ครับ มัวแต่ไปคิดเรื่องที่ผ่านไป เสียเวลาเปล่าๆ ผมก็เคยเป็นนะครับ แต่พอฟังธรรมะของหลวงพ่อเยอะๆ จึงเ้ข้าใจว่า สิ่งที่ผ่านไปนั้น ก็เป็นแค่อดีต และมันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของปัจจุบัน ส่วนอนาคตนั้นยังมาไม่ถึง ก็เลยตั้งใจ ทำความดีในปัจจุบันนี้ล่ะครับ ดีที่สุด


    เคยมีคนกล่าวเอาไว้ว่า ไม่เชื่อว่า โลกหน้า มีจริง สวรรค์มีจริง นรกมีจริง คนที่กล่าวแบบนี้ เป็นความคิดเห็นขั้นรุนแรงมากนะครับ เป็น อุทเฉจทิฏฐิ พวกที่คิดแบบนี้่ มีโลกันตนรกเป็นที่ไปครับ คิดอย่างง่ายๆนะครับ คุณคิดว่า เมื่อวานมีจริงไหม พรุ่งนี้มีจริงไหม แล้วทำไมเราไม่เห็นเมื่อวาน หรือพรุ่งนี้ หรือปีที่แล้ว หรือปีหน้า ใช่ไหมครับ หากเมื่อวานมีจริง พรุ่งนี้มีจริง แล้วทำไม อดีตชาติ จะไม่มี หรืออนาคตชาติจะไม่มี ใช่ไหมครับ

    ถ้าเปรียบเหมือน นิพพานนั้นเหมือนจุดสุดยอดของสุขคติภูมิแล้ว โลกันตนรกนั้นก็เหมือนจุดสุดยอดของนรกแล้วครับ พวกที่ตกนรกขุมนี้ เรียกว่า ยาวนานมากๆ จนนับแทบไม่ได้ พระพุทธเจ้าเกิดดับเป็นหลายสิบพระองค์พวกนี้ก็ยังไม่พ้นทุกข์เลยครับ มันหนักกว่าอเวจีหลายร้อยเท่านัก

    ผมขอ น้อมนำคำสอนของหลวงพ่อสำหรับผู้ที่อยากรู้ว่าโลกันตนรกเป็นยังไงนะครับ

    โลกันตนรกเป็นนรกขุมพิเศษมีโทษหนักกว่าอเวจีมหานรก


    จาก หนังสือ ตายแล้วไม่สูญ...แล้วไปไหน

    "..โลกันตนรก เป็นนรกขุมพิเศษ ซึ่งไม่นับเนื่องกับนรกขุมใหญ่ ๘ ขุมหรือนรกบริวารหรือยมโลกียนรก นรกขุมนี้แปลกประหลาดกว่านรกขุมอื่นๆ เพราะว่านรกขุมอื่นๆ มีการลงโทษด้วยความร้อน แต่ทว่านรกขุมนี้มีการลงโทษด้วยความเย็น และสถานที่ตั้งก็ไม่ได้อยู่เรียงรายกับบรรดานรกทั้งหลาย สถานที่ตั้งของนรกขุมนี้อยู่ในระหว่างโลกทั้งสาม เปรียบเหมือนกับเอาดอกบัว ๓ ดอกมาตั้งติดกันเข้า ก็จะเกิดมีช่องว่างระหว่างกลาง ที่ตรงช่องว่างนั้นแหละเป็นสถานที่ตั้งของ โลกันตนรก แปลว่า นรกอันอยู่ที่สุดของโลก ๓ โลกคือ เทวโลก มนุษยโลก นรกหรือยมโลกียนรกหรือยมโลก
    ถ้า ท่านทั้งหลายที่ได้มโนมยิทธิเวลาที่จะไปดูโลกันตนรก ตั้งจุดไว้ว่าจากโลกมนุษย์เราจะมุ่งหน้าไปทางด้านทิศตะวันออก มีทางใหญ่ขาวโพลนแลดูสะอาดจะว่าเหมือนสีขาวทาก็ไม่ใช่ ใสกว่าดีกว่าถนนชั้นหนึ่งในเมืองมนุษย์ เดินไปตามทางทิศตะวันออกจะไปพบทาง ๔ แพร่ง จะพบท่าน "เทวดาอิน" ยืนยามอยู่แต่ไม่ใช่ท่านปู่พระอินทร์ สมัยท่านเป็นมนุษย์ท่านเป็นพระชื่อว่า "หลวงตาอิน" คือจากที่เราเดินไปสายหนึ่ง แล้วมีทางขึ้นทางซ้ายเป็นทางเดินค่อยๆ ลาดเป็นเนินขึ้นไปน้อยๆ เป็นทางขาวใหญ่นั่นเป็นแดนสวรรค์ อีกสายทางขวาจะเป็นทางชันเป็นแดนพรหม จากนั้นมองไปข้างหน้าเป็นทางขาวใหญ่ค่อยๆ ลาดลงตํ่าถึงที่สุดของทางนั้นเป็นแดนของนรก ถ้าถึงที่สุดทางนั้นจะเลี้ยวซ้ายนิดหนึ่งเรียกว่าตะวันออกเฉียงเหนือก็ได้ เป็นช่องว่างเชื่อมระหว่างโลกมนุษย์ เทวโลกและยมโลก ณ จุดนี้จะเห็นเป็นภูเขาใหญ่ ภายในเป็นถํ้าที่ใหญ่โตมโหฬารมากเรียกว่า "โลกันตนรก" ภายในถํ้ามีแต่ความมืดหาแสงสว่างไม่ได้เลย ไม่มีแสงสว่างจากดวงอาทิตย์ จากดวงจันทร์และดาว มองอะไรไม่เห็นทั้งหมด แต่แสงที่จะปรากฏในโลกนี้ได้ก็คือแสงของพระพุทธเจ้า ขณะใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณวันไหน วันนั้นจะปรากฏแสงของพระองค์ลอดเข้าไปสู่ในโลกนี้แว้บหนึ่งเหมือนกับสายฟ้า แลบเท่านั้น
    บรรดาสัตว์นรกทั้งหลายมีร่างกายใหญ่โต มีเล็บมือเล็บเท้ายาว ใช้เล็บมือเล็บเท้าเกาะเชิงเขาคือข้างถํ้าไต่ไปไต่มา มองไม่เห็นกัน ในถํ้ามีความเย็นสูงมากไม่สามารถจะเอาอะไรมาเปรียบเทียบกับความเย็นในโลก มนุษย์นี้ได้ เครื่องทำความเย็นทั้งหลายที่ว่าเย็นหรือตู้เย็น ถ้าจะเอาแสนมาคูณก็ยังมีความเย็นไม่เท่ากับความเย็นในโลกันตนรก มองลงไปส่วนลึกในถํ้าจะเห็นนํ้าใสเต็มไปด้วยความเย็นมาก แต่ความเย็นของนํ้าเป็นอันตรายกับร่างกาย เพราะนํ้าเย็นนี้เป็นนํ้ากรดที่มีความคมจัดสามารถจะละลายสัตว์นรกทั้งหลาย ที่ตกลงไปในนํ้านั้นให้ละลายหายไปในพริบตาเดียว บรรดาสัตว์นรกจะมีทั้งความเจ็บความแสบและความเย็นเข้ามาทับถม จะเกิดทุกขเวทนาอย่างสาหัสและมีความหิวเพราะไม่มีอะไรจะบริโภค ต่างคนต่างไต่ไปตามข้างๆ ขอบของถํ้าใหญ่ บรรดาแง่หินที่มีความคมก็เชือดเฉือนร่างกายของสัตว์นรกที่ผ่านไปเป็นแผล เหวอะหวะทั้งตัว เลือดไหลโทรมอยู่ตลอดเวลา และสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านั้นถูกความเย็นเผาผลาญเกือบจะไม่มีแรงเคลื่อนตัว ไปไหนอยู่แล้วแต่ก็ต้องไปเพื่อหนีให้พ้นจากความคมของแง่หิน แต่จะไปทางไหนก็ตาม ไปเกาะหินอันไหนก็ตามมันก็คมบาดตลอดเวลา ต่างก็ร้องครวญครางหาการเงียบเสียงไม่ได้ และการไต่ไปนั้นก็มองไม่เห็นแม้แต่มือและเท้าของตน
    เมื่อสัตว์นรก กระเสือกกระสนไปกระทบกันเข้า ร่างกายมันมีความนุ่มนิ่มกว่าหิน สัตว์นรกมีความหิวอยู่แล้วก็เข้าใจว่าเป็นอาหาร ต่างคนต่างก็เอาเล็บจิกเนื้อซึ่งกันและกัน ต่างคนต่างปลํ้ากันแต่ไม่ทันจะได้กินสักที ก็หล่นลงไปในนํ้า จะเห็นกระแสนํ้ามีควันพุ่งขึ้นมาปรากฏว่าเป็นนํ้ากรดค่อยๆ ละลายเนื้อและหนังของสัตว์นรกไปทีละน้อยๆ แต่ว่าเร็วมาก ชั่วเวลา ๒-๓ นาทีจะเห็นว่าร่างกายของสัตว์นรกไม่มีเนื้อไม่มีหนังเหลือแต่กระดูก กระดูกก็ดิ้นไปดิ้นมามีการแสบหนักขึ้นแต่ก็ไม่ตาย เมื่อถูกทรมานพอสมควรร่างกายก็มีเนื้อเต็มขึ้นมาใหม่ บรรดาสัตว์นรกก็ว่ายกระเสือกกระสนเข้าหาฝั่ง บางตัวก็ว่ายไปกลางถํ้ากว่าจะไปหาผนังถํ้าได้ก็แสนจะลำบาก ตอนนั้นถ้าพบกันเข้าก็จิกเนื้อกันกินในนํ้าอีก ปลํ้ากันไปปลํ้ากันมาต่างคนต่างจะจิกกินซึ่งกันและกัน ตอนนี้นํ้ากรดก็แผลงฤทธิ์ใหม่ค่อยๆ ละลายเนื้อและหนังของสัตว์นรกทั้งหลายเหล่านั้นที่กำลังจะกินกันออกไปทีละ น้อยๆ จนกระทั่งหมดตัวเหลือแต่กระดูกล่อนจ้อน กระดูกก็ดิ้นเร่าๆ มันดิ้นสุดฤทธิ์สักครู่หนึ่งก็ปรากฏว่ามีเนื้อหนังขึ้นมา ค่อยๆ เกิดเป็นร่างกายขึ้นมาใหม่ คราวนี้ก็ว่ายไปเกาะฝั่งได้ก็ไต่ขึ้นไปข้างเขา ก็ถูกความคมของหินเหล่านั้นบาดเอาเลือดไหลโทรม วนเวียนกันอยู่อย่างนี้ไม่มีการหยุดพัก ต้องถูกทรมานไปจนกว่าจะถึงที่สุดของกรรม เพราะโลกันตนรกไม่มีอายุ แล้วก็จะไปเสวยทุกขเวทนาต่อไปในอเวจีมหานรกและไล่ขึ้นมาแต่ละขุม แสดงว่าโลกันตนรกมีโทษหนักกว่าอเวจีมหานรก ถือว่าเป็นนรกขึ้นต้น
    โล กันตนรกเป็นที่อยู่ของคนอกตัญญูไม่รู้คุณคน ประกอบกรรมที่ร้ายกาจหยาบช้ามากได้แก่การประทุษร้ายบิดามารดาหรือการทรมาน บิดามารดาโดยปราศจากความกตัญญูรู้คุณ และคนที่ไม่รู้คุณงามความดีของครูบาอาจารย์ สามารถจะทำลายครูบาอาจารย์ได้ทุกอย่างหรือทำลายบิดามารดาได้ทุกอย่าง นินทาว่าร้าย อิจฉาริษยาท่าน เป็นคนจอมอกตัญญูไม่รู้คุณคน.."


    มูลเหตุพื้นฐานของการตกโลกันตนรก โดยคนเมืองบัว

    <hr style="color:#FFFFFF; background-color:#FFFFFF" size="1"> <ins style="display:inline-table;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"><ins id="aswift_0_anchor" style="display:block;border:none;height:280px;margin:0;padding:0;position:relative;visibility:visible;width:336px"></ins></ins>
    .....แดนโลกันตนรก
    .....๑) อยู่ทางเหนือของท้องพระโรงที่ตัดสิน ของท่านท้าวพระยายมราช
    ......๒) มีเทือกภูเขาใหญ่ ใต้เขามีถ้ำใหญ่ มืดสนิท
    ......๓) ในถ้ำ มีลำธารน้ำใส่สะดาอ แต่เป็นน้ำกรดพิเศษ สามารถที่จะย่อย เนื้อและหนังของเหล่าอทิสมานกาย ได้
    ...... ๔) ในถ้ำมีความเยือกเย็นสุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
    .......๕) ริมลำธารมีแต่ ต้นหวายมีหนามแหลม เป็นเหลี่ยมคมดังมีดโกน สั้นยาวได้ตามกฎแห่งกรรมของสัตว์นรกที่ผ่านมา หนามมีหลายแบบในต้นเดียวกันคอยบาดเฉือนสัตว์นรกที่ผ่านเข้ามา ให้บาดเจ็บ ตลอด เส้นทางมีความลาดชัน ริมตลิ่ง
    ........๖) ริมลำธารมีความลื่น ด้วยเมือก ที่เย็น มีความลาดชัน ตั้งแต่ ๓๐ ถึง ๙๐ องศา

    ......" การอุบัติของสัตวนรก ในโลกันตนรก ด้วยกฎของกรรม"
    .......๑) ถ้าอุบัติของสัตวนรก ในน้ำกรดเย็นก่อนครั้งแรก ก็จะถูกน้ำกรดเย็นกัดกร่อน อทิสมานกายที่เป็นเสมือน เนื้อ และหนัง ก่อนจนเหลือแต่กระดูก
    .........จากนั้น อทิสมานกายจะรวมขึ้นมาใหม่ แล้วหนีขึ้นชายฝั่ง ป่ายปีนขึ้นไปถึงข้างบนฝั่ง
    ..........ในระหว่างทางที่ขึ้นมา ต้องชนกับหนามแหลมของต้นหวาย ทางที่ลื่นและลาดชัน สัตว์นรกอื่นที่กลิ้งลงมาจากข้างบน ต้องเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างยิ่ง
    ..........เมื่อมาถึงที่ราบริมตลิ่งแล้ว ก็จะหิวขึ้นมาทันที แต่ด้วยภายในถ้ำนั้นมีความมืดสนิท ก็ได้แต่มือไขว่คว้าไปข้างหน้า พบสัตว์นรกด้วยกันก็นึกว่าเป็นอาหารที่ตนกินได้ เพราะมีกลิ่นคาวเลือดที่คละคลุ้งไปหมด......ต่างตนต่างคิดว่าฝ่ายตรงข้าม เป็นอาหารของกันและกัน เพื่อฉีกเนื้อกินซึ่งกันและกัน จนกลิ้งลงจากตลิ่งลงลำธาร ระหว่างนั้นก็ถูกหนามต้นหวาย บาดตามเนื้อตัว เป็นริ้วรอย
    ......ในที่สุดก็ ก็จะถูกน้ำกรดเย็นกัดกร่อน อทิสมานกายที่เป็นเสมือน เนื้อ และหนัง ก่อนจนเหลือแต่กระดูก

    .......๒) ถ้าอุบัติของสัตวนรก ในดงป่าหวาย.....ก็มีวงจรคล้ายๆกัน ไม่ปีนขึ้นก็ปีนลง

    .......๓) ถ้าอุบัติของสัตวนรก ที่ราบริมตลิ่ง....ต้องพบกับสัตว์นรกก่อน แล้วนึกว่า ฝ่ายตรงข้ามเป็นอาหารของตน

    .......เวียนกันไปมาไม่รู้จบ
    """"""""""""""""""""""""""""""
    ........อายุของการถูกลงโทษ....ไม่มีอายุ จนกว่าจะหมดสิ้นกรรม นัยว่า แม้แต่พระพุทธเจ้าสิกขีทศพลที่ ๑ จนถึงพระพุทธเจ้าสิกขีทศพลที่ ๒ ก็เพิ่งจะพ้นโทษจากโลกันตนรก จากนั้นจึงมาเสวยกรรมในอเวจีมหานรกและไล่เบี้ยจนครบแปดขุมใหญ่และแยกประเภท ของกรรมอีก ๑๐ ขุม ตามโทษของศีลห้า และกรรมบถ ๑๐ จากนั้นจึงเป็นเปรต ๑๒ จำพวก อสุรกาย ๘ จำพวกที่ไม่มีอายุ จึงได้เกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานตามจำนวนที่เคยฆ่า จึงได้มาเกิดเป็นคนอีกครั้ง

    จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 26/10/2548 8:48:31


    มูลเหตุพื้นฐานของการตกโลกันตนรก
    ๑. กรรมยักยอกทรัพย์สินของหลวง ของราชการหรือนักการเมือง ไม่ว่าจะระดับท้องถิ่นหรือระดับประเทศ เหมือนกันหมดเป็นอาจิณกรรม หรือ ยักยอกครั้งเดียว ใช้จ่ายตลอดชีวิต หากเป็นบ้านเรือนก็ถือว่าปลดเกษียณออกจากราชการก็ถือว่ายังยักยอกอยู่เพราะ ได้บ้านและที่ดินเป็นอาจิณกรรม และหากลงทุนเงินที่งอกเงยขึ้นมาถือว่าเป็นผลกำไรที่ได้จากหยาดเหงื่อแรงงาน ภาษีอากรที่รัฐเก็บมาได้ หากทำบุญก็ไม่เกิดอานิสงค์ จะได้ก็เพียงโมทนาบุญ หากไม่รู้กฎระเบียบนี้บุญไม่เกิด ขณะจิตก่อนตายย่อมมีเจ้ากรรมนายเวรมาปรากฏภาพให้เห็นให้เกิดทุกข์ใจ เมื่อสิ้นลมหายใจแล้วไม่ต้องมีนายนิรยบาลมาเชิญตัว อาทิสมายกายจะลอยด้วยความเร็วสูงเหนือความเร็วแสง ๑๐ ล้านเท่า ไปปรากฏที่โลกันตนรกเลย
    ๒. ในกรณีนักบวชในพระศาสนา เปลี่ยนแปลงคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าในเนื้อหาหลัก เช่น ทำดีได้ดีมีที่ไหน ทำชั่วได้ดีมีถมไป หรือ ภูมิของอาทิสมานกายมีผี สัตว์นรก เทวดา พรหม และนิพพาน ไม่มี ตายแล้วดับสูญเหมือนควันไฟที่ลอยไปในอากาศ ไหว้เทวดา ไหว้หมาดีกว่า และเนื้อหาอื่นๆ ที่บอกว่าในพระไตรปิฏกเชื่อได้แค่ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ อีก ๔๐ เปอร์เซ็นต์ เป็นนิทานที่แต่งขึ้นเพื่อเอาใจชนโบราณที่นับถืบพราหมณ์เป็นหลัก ดั่งนี้เป็นต้น ขณะจิตก่อนตายย่อมมีเจ้ากรรมนายเวรมาปรากฏภาพให้เห็นให้เกิดทุกข์ใจ เมื่อสิ้นลมหายใจแล้วไม่ต้องมีนายนิรยบาลมาเชิญตัว อาทิสมายกายจะลอยด้วยความเร็วสูงเหนือความเร็วแสง ๑๐ ล้านเท่า ไปปรากฏที่โลกันตนรกเลย
    ๓. ผู้ที่เคยบวชในพระศาสนาแล้วนำเงินในระหว่างที่เป็นสมมติสงฆ์ถวายเป็นการส่วน ตัว ปล่อยเงินกู้แก่ฆราวาส ยักยอกเงินสังฆทาน ของสังฆทานให้ญาติตนเอง ถือว่าต้องอาบัติปราชิก
    ....ในกรณีที่นำเงินจากรายได้ในขณะที่บวชอยู่แล้วเมื่อลาสิกขาแล้วนำมาใช้ ถือว่ามีโทษ แอบอิงธงชัยพระอรหันต์คือ ผ้าเหลืองเพื่อหากินพอรวยแล้วจึงสึกออกมาแต่งงานมีลูกมีเมีย ตรงนี้ถือว่ามีเจตนาแอบแฝงทำลายพระศาสนาทางอ้อม ก็เพราะเหตุที่บุคคลต่างๆ มาถวายเงินส่วนตัวก็เห็นว่าเป็นบุตรแห่งพระพุทธองค์ หากผู้ใดสังเกตในประวัติหลวงปู่ปานและที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานได้เคยกล่าว ไว้ว่าเงินทุกบาททุกสตางค์ถือเป็นของสงฆ์หมด หากจะเก็บไว้เพื่อเป็นยารักษาโรคก็ไม่ควรเกิน ๑๐๐๐ บาท
    ....เท่าที่รวบรวมได้มีเพียงเท่านี้ ท่านท้าวพยายมราชฝากบอกมาด้วยประเภทนี้ไม่ผ่านสำนักพยายมช่วยไม่ได้เลย


    จากคุณ คนเมืองบัว เมื่อวันที่ 26/10/2548 10:44:26

    จากเว็ป คนเมืองบัว


    ขอให้คุณตั้งมั่นในความดียิ่งๆและเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยเทอญ

    โมทนาในกุศลกรรมทั้งมวลครับ
     
  13. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    476
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,858
    คุณถือว่าโชคดีที่สุดแล้วครับ ที่ได้เกิดเป็นลูกหลานหลวงพ่อ เนื่องจากหลวงพ่อท่านมีเมตตามาก บุคคลไหนที่ฟังธรรมะท่านแล้วสะกิดใจ แสดงว่า คุณต้องมีกรรมเกี่ยวเนื่องกันกับท่าน


    ขอโมทนาในความกล้าที่จะเปลี่ยนของคุณครับ ยังไม่สายครับ เรามาเร่งสร้างความดีกันเถิดครับ หลวงพ่อท่านพิสูจน์คำสอนของพระพุทธองค์ให้เห็นแล้ว นรก สวรรค์ โลกหน้ามีจริง

    ท่านทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลานมากมาย เป็นอริยทรัพย์ที่เงินมากเท่าไรก็ซื้อไม่ได้ คำสอนของท่านล้วนแล้วแต่มีประโยชน์เป็นไปเพื่อการหลุดพ้นทั้งสิ้น

    หากใครได้ฟังเทปหลวงพ่อบ่อยๆ จนชิน จะสังเกตุว่าทุกครั้งที่หลวงพ่อเทศน์เรื่องใดก็ตาม หลวงพ่อจะพ่วงวิปัสสนาทุกครั้ง ไม่ว่าจะเทศน์เรื่องกสิน เรื่อง นิทาน หรื่องจิปาถะ สอนกรรมฐาน หรือแม้แต่คุยกันเล่นๆกับศิษยานุศิษย์ ท่านก็จะเน้นเรื่อง ความไม่เที่ยงของบุคคล วัตถุธาตุเสมอ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป และขอโมทนาในความดีด้วยครับ
     
  14. สมิตา

    สมิตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2011
    โพสต์:
    162
    ค่าพลัง:
    +189
    เห็นด้วยทุกประการ เป็นลูกหลวงพ่อจะไม่จน สาธุ สาธุ สาธุ
     
  15. noawarat pakdee

    noawarat pakdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +682
    ขออนุโมทนาสาธุ กับเจ้าของกระทู้ และทุกๆ คอมเม้น มีประโยชน์มากๆค่ะ ดิฉันเองยังไม่เคยได้ศึกษาประวัติแบบจริงๆจังสักครั้ง แต่ได้เคยไปกราบนมัสการสารีระของท่าน ที่วัดท่าซุง วัดที่ท่านสร้างไว้(ก่อนน้ำท่วมปีที่แล้ว) สวยงามมาก อย่างกับวิมาน ใจดิฉันอยากลองไป ฝึกมโนยิทธิสักครั้งแต่ไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นตรงไหน บ้านสายลมที่เคยได้ยินว่าอยู่ที่กรุงเทพ ก็ฉลาดน้อยอีก ไปไม่เป็นกลัวไปไม่ถูก คงจะบุญวาสนาไม่ถึงหรือไม่ก็ไม่เคยร่วมกรรมกับหลวงพ่อ ท่านมาก่อน คงจะยาก แต่ก็ยังคงยึดมั่นคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างไม่มีข้องสงสัย สัจจธรรมที่ท่านได้สอนได้แนะ คือสัจจธรรมที่แท้จริงแท้แน่นอนค่ะ
     
  16. Tequila

    Tequila เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    226
    ค่าพลัง:
    +1,733
    ขอถามเรื่องภาวนาให้เป็นฌานหน่อยค่ะ ถ้าเวลาเราอ่านหนังสือหรือทำงานอยู่ จะภาวนายังไงคะ
     
  17. nicky10210

    nicky10210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +1,630
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border:1px inset"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ watjojoj [​IMG]
    ลูก หลานหลวงพ่อ ที่่เกิดมาไม่ทันยุคของท่าน หากได้ฟัง ได้อ่าน คำสอนของท่าน จะรู้สึกคุ้นเคย รู้สึกอยากพบ รู้สึกอยากปฏิบัติ ตามแนวปฏิปทาของท่าน ให้รู้เอาไ้ว้เลยว่า คุณคือส่วนหนึ่งของลูกหลานท่านครับ และท่านก็จะเอาคุณไปอยู่ด้วยแน่นอน หากคุณตั้งใจจริงและไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค์

    ผมได้อ่านข้อความนี้แล้วใช่เลยครับ ผมเป็นคนหนึ่งที่เลวมาก วันหนึ่งผมได้มีโอกาสได้อ่านหนังสือหลวงปู่ปาน อ่านจบใจรู้สึกแต่ว่าตรูต้องไปวัดท่าซุง ตังก็ไม่มี ชุดขาวก็ขอยืมเขาเอา ไปแบบมั่วๆทางก็ไม่รู้จัก ทั้งๆที่เมื่อก่อนแทบไม่เคยเข้าวัดเลย ต้องบังคับเอา ไปถึงก็ยืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าวัด ไม่รู้เรื่องอะไร ยังงงตัวเองว่าเป็นไปได้ยังไงหว่าตรู

    </td> </tr> </tbody></table>
    คุณ ถือว่าโชคดีที่สุดแล้วครับ ที่ได้เกิดเป็นลูกหลานหลวงพ่อ เนื่องจากหลวงพ่อท่านมีเมตตามาก บุคคลไหนที่ฟังธรรมะท่านแล้วสะกิดใจ แสดงว่า คุณต้องมีกรรมเกี่ยวเนื่องกันกับท่าน


    ขอโมทนาในความกล้าที่จะเปลี่ยนของคุณครับ ยังไม่สายครับ เรามาเร่งสร้างความดีกันเถิดครับ หลวงพ่อท่านพิสูจน์คำสอนของพระพุทธองค์ให้เห็นแล้ว นรก สวรรค์ โลกหน้ามีจริง

    ท่านทิ้งมรดกไว้ให้ลูกหลานมากมาย เป็นอริยทรัพย์ที่เงินมากเท่าไรก็ซื้อไม่ได้ คำสอนของท่านล้วนแล้วแต่มีประโยชน์เป็นไปเพื่อการหลุดพ้นทั้งสิ้น

    หากใครได้ฟังเทปหลวงพ่อบ่อยๆ จนชิน จะสังเกตุว่าทุกครั้งที่หลวงพ่อเทศน์เรื่องใดก็ตาม หลวงพ่อจะพ่วงวิปัสสนาทุกครั้ง ไม่ว่าจะเทศน์เรื่องกสิน เรื่อง นิทาน หรื่องจิปาถะ สอนกรรมฐาน หรือแม้แต่คุยกันเล่นๆกับศิษยานุศิษย์ ท่านก็จะเน้นเรื่อง ความไม่เที่ยงของบุคคล วัตถุธาตุเสมอ

    ขอให้เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป และขอโมทนาในความดีด้วยครับ

    ผมก็เป็นคล้ายกับ คุณ watjojoj
    ที่รู้แต่ว่าเมื่อฟังธรรมะที่ท่านสอนแล้วต้องไปวัดท่าซุงสักครั้งหนึ่งให้ได้ แต่คนที่เกิดไม่ทันรุ่นที่ท่านยังมีสังขารอยู่ ก็มีคำสอนไว้ให้ปฏิบัติตามอยู่แล้ว
    หลวงพ่อท่านกล่าวว่าทำตำราให้รุ่นที่ตามมาทีหลัง สำหรับที่เป็นพวกอภิญญาด้วยลูกหลานหลวงพ่อนั้น มาเจอตำราที่ท่านยอมแลกกับสังขารท่านเพื่อเขียนตำรา
    ที่สอนให้เข้าใจโดยง่าย ปฏิบัติง่าย รวบรัดและครอบคลุมรอบด้านในการไปสู่มรรคผลนิพพานในท้ายที่สุดครับ ขอโมทนาสาธุกับพี่ๆน้องๆทุกท่านด้วยครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 มิถุนายน 2012
  18. dejang

    dejang สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    คาถาเงินล้าน

    ตั้ง นะโม ๓ จบ



    นาสังสิโม พรหมา จะ มหาเทวา สัพเพยักขา ปะรายันติ (คาถาปัดอุปสรรค)
    พรหมา จะ มหาเทวา อภิลาภา ภะวันตุ เม (คาถาเงินแสน)
    มหาปุญโญ มหาลาโภ ภะวันตุ เม (คาถาลาภไม่ขาดสาย)
    มิเตพาหุหะติ (คาถาเงินล้าน)
    พุทธะมะอะอุ นะโมพุทธายะ วิระทะโย วิระโคนายัง
    วิระหิงสา วิระทาสี วิระทาสา วิระอิตถิโย พุทธัสสะ
    มานีมามะ พุทธัสสะ สวาโหม (คาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า)
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น)
    เพ็ง เพ็ง พา พา หา หา ฤา ฤา



    ขอเรียนถามค่ะ
    บทคาถาพระปัจเจกพุทธเจ้า
    สวาโหม อ่านว่า สะ-วา-โหม หรือ สะ-วา-โห-มะ ค่ะ
    ขออนุโมทนาและขอขอบพระคุณอย่างยิ่งค่ะ
     
  19. vaddee

    vaddee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2012
    โพสต์:
    115
    ค่าพลัง:
    +443
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ค่ะ พี่เขยเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อเช่นกัน สนใจธรรมะก็เพราะได้อ่านหนังสือของท่านค่ะ ท่านสอนเป็นภาษาชาวบ้านอ่านแล้วเข้าใจง่าย ถ้าใครหวังเข้านิพพานในชาตินี้ต้องอ่าน "หนังสือทางสายเอก" แต่ไม่มีบูชาท่านพิมพ์แจกสมัยที่ท่านยังอยู่ค่ะ เรื่องคาถาเงินล้านท่องประจำค่ะ โดยเฉพาะบุคคลที่ค้าขายท่องเลยแล้วคุณจะรู้เอง........()...
     
  20. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    476
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,858
    อ่านว่า สะ วา โหม ครับ เดี๋ยวผมเอาไฟล์เสียงหลวงพ่อ สวดคาถาเงินล้านให้โหลดกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...