ประสบการณ์ที่ได้ไปพบ "อ. ศุภกิจ" คนญาณทิพย์

ในห้อง 'ดูดวง และ ทำนายฝัน' ตั้งกระทู้โดย รักไร้พ่าย, 10 เมษายน 2009.

  1. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ผมมีเรื่องของคนมีญาณทิพย์ที่น่าสนใจมานำเสนอ ( อีกแล้วครับ )
    เรื่องของผู้ชายคนหนึ่ง ชื่อ อ. "ศุภกิจ อัครเบญจพล"
    ท่านผู้นี้มีญาณทิพย์ สามารถดูอดีตชาติ และเคราะห์กรรมให้กับผู้คนได้

    เรื่องๆของเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวานนี้เอง ผมกำลังเล่นเนทอยู่ และกำลังดูธรรมะต่างๆไปเรื่อยๆ
    เพื่อดูเกี่ยวกับ ญาณ อภิญญา และได้มาพบชื่อ ของ อ. ศุภกิจ เข้า
    จึงได้ดูประวัติต่างๆของ อ. ผู้นี้ และได้อ่านจากความคิดเห็นต่างๆของผู้ที่เคยไปดูกรรมกับ
    อ. ศุภกิจ ส่วนใหญ่นั้น ต่างบอกถึงความแม่นยำ ในการดูกรรม
    และสามารถดูอดีตชาติของคนอื่นได้

    ตอนนั้นผมค่อนข้างจะเจอเรื่องแบบนี้มามากพอสมควร
    ก็รู้สึกเฉยๆ แต่อีกใจหนึ่งผมก็อยากลองไปพิสูจน์สักครั้งหากมีโอกาส ก็คิดในใจแบบนี้
    แต่เมื่อผมได้เห็นที่อยู่ ของ อ. ศุภกิจ อยู่แถว ถนน นวมินทร์
    ซึ่งอยู่ใกล้กับที่พักของผมเลย

    คิดในใจว่า ไหนๆก็อยู่แถวละแวกเดียวกัน ก็ลองไปหา อ. ศุภกิจ วันนั้นเลยดีกว่า
    แบบว่า ผมเป็นคนอยากรู้อยากเห็น อยากลอง กับเรื่องแบบนี้
    มาเจออะไรน่าสนใจ ก็อดใจไม่ค่อยได้

    หลังจากที่ผมเลิกงาน ผมจึงตัดสินใจไปหา อ.
    ซึ่งตอนไปถึงประมาณ ทุ่มนึง เพราะช่วงนั้นฝนตกพอดี
    พอไปถึง บ้าน อ. ซึ่งเป็นบ้านแถว หน้าบ้านมีธงชาติปักอยู่

    เมื่อผมเข้าไป ได้เจอลูกศิษย์ อ. ได้ยื่นซองขาวมาให้ผมและ
    ให้ผมเขียนชื่อและใส่เงินค่าบูชาครู
    300 บาท
    แล้วให้ผมเข้าไปหา อ. ที่ห้องดูกรรม ได้เลย

    ปรกติ อ. ศุภกิจ จะเปิดบ้านดูกรรม เวลา 17.00 ถึง 3 ทุ่ม

    เมื่อผมเข้าไปได้ เห็น อ. ศุภกิจ เป็นชายรูปร่างล่ำสัน อายุประมาณ 50 กว่าๆ ผิวเข้ม
    เป็นคนพูดเสียงดัง ฟังชัด และพูดเร็วด้วย
    กำลังนั่งดูกรรมให้กับผู้คนที่มาหา อ.

    เมื่อเข้าไปแล้ว อ. ให้ผมนั่งบนเก้าอี้ โซฟาต่อแถว และถามอายุ
    และอาชีพของผม แล้วผมก็ได้แจ้ง อ. ไป
    ผมมองดูรอบๆห้อง มีพระพุทธรูปเต็มห้องเลย
    ผมเห็นคนที่มาให้ อ. ดูกรรม มี 3 คน เป็นผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 2 คน
    และผมก็เป็นคนที่ 4

    อ. ก็ได้พูดกับผมและอีก 3 คนว่า "พวกเอ็งโชคดี ที่คนมากันน้อยวันนี้
    ไม่งั้นต้องนั่งรอกันยาว "
    ปรกติ อ. บอกว่า จะมีคนมาให้ ดู เป็นสิบๆคน
    บางวันคนเยอะต้องไปยืน ออกันหน้าบ้าน
    แต่วันนั้นฝนตกหนักเลย คนเลยมาน้อย

    แต่การดูกรรมของ อ. นั้นจะพูดถึงกรรมของแต่ละคนโดยคนที่นั่งจ่อคิวรอนั้นได้
    พลอยยินเรื่องราวไปด้วย เพราะในห้องดูกรรม คนที่ต้องรอคิวในห้อง จะนั่งรอในห้องนั้นเลย
    จึงได้ยินเรื่องราวของคนที่ให้ อ.ดูกรรมนั้นด้วย
    หากคนมาเยอะก็ต้องนั่งรอฟังเรื่องคนอื่นกันนานเลย

    ผมจึงได้ยินเรื่องราวของคนทั้ง 3 คน ไปด้วย เพราะผมเป็นคนสุดท้าย

    ก่อนที่จะดูกรรม อ.ศุภกิจได้เอาใบกรรม ซึ่งเป็นกะดาษ อง ได้เวาดรูปอะไรสักอย่างหนึ่งลงไป แ
    ละมารู้ทีหลังว่า รูปที่วาดนั้นเป็นภาพเหตุการณ์ต่างๆในอดีตชาติของแต่ละคนที่มาให้ อ. ดูกรรม
    และ อ. ยังเขียนวิธีแก้กรรมกับเจ้ากรรมนายเวรลงไปด้วย

    ก่อน อ. จะเริ่มดูกรมให้แต่ละคน อ. ได้เล่าถึงประวัติความเป็นมาของ อ.
    ตามประวัติของ อ. ศุภกิจ ในทางโลก อ.เป็นอาจารย์สอนหนังสือที่มหาลัย
    รามคำแหง ซึ่งเป็นปัจจุบันก็ยังสอนอยู่

    ส่วนในทางธรรม อ. ศุภกิจ ได้ปฎิบัติธรรมด้วยคำแนะนำจากพระเกจิต่างๆ
    จนสามารถสำเร็จอภิญญา และเหมือนว่าเบื้องบนกำหนดมาให้ อ. ทำหน้าที่นี้
    เพื่อช่วยเหลือผู้มีความทุกข์
    จากวิบากกรรม และใช้ความรู้ หรือ ของเก่าที่ได้มาชี้ทางสว่างให้ผู้คนศรัทธาในเรื่องกฎแห่งกรรม

    และได้เปิดบ้านช่วยเหลือคนมา 19 ปีแล้ว จนถึงปัจจุบัน

    จากนั้น อ. ก็เริ่มดูกรรมให้กับพี่ผู้ชายซึ่งนั่งอยู่หัวแถว
    ดูจากการแต่งตัวเหมือนเป็นคนขับรถเมลล์ เพราะแต่งกายของเครื่องแบบคนขับรถเมลล์

    วิธีการดูกรรมของ อ. ให้แต่ละคนนั้น จะเริ่มพูดถึงอดีตชาติให้เลย
    และบอกว่าทำกรรมอะไรไว้ ซึ่งส่งผลมาถึงชาตินี้
    และบอกถึงวิบากรรมที่ทำให้ชีวิต มีอุปสรรคอะไรบ้าง
    เจ้ากรรมนายเวรเป็นใคร

    ผมพยายามตั้งใจฟังอย่างดี เพราะเป็นธรรมดาของคนอยากรู้อยากเห็น
    แต่ อ. พูดเร็ว จึงฟังมาไม่ได้หมด
    พอจับประเด็นได้ว่า

    พี่ชายคนนี้ในอดีตชาติ เป็นคนมาช่วยเหลืองานวัด และได้สร้างทางข้ามคล้ายๆ
    สะพานข้ามคูเป็นไม้ไผ่ 4 อัน ให้พระได้เดินออกจากวัด อานิสงส์นี้ทำให้พี่คนนี้
    เป็นคนไปไหนมีแต่คนรัก แต่ด้วยมีครั้งหนึ่งพี่คนนี้ในชาตินั้น ไม่รู้คิดอะไร
    แบบว่าไปเอาไม้ที่เป็นสะพานข้ามนั้น
    เอาออกไป 2 อันเพื่อไปทำประโยชน์อย่างอื่น จนเหลือไม้ 2 อัน เวลาพระเดินข้ามก็ไม่สะดวก
    แล้วเพระก็หกล้ม บาตรกระเด็น

    ด้วยผลกรรมนี้ ทำให้พี่คนนี้ พบกับปัญหาการเงิน เพราะบาตรพระที่หก มีข้าวอยู่
    อ. ศุภกิจ บอกว่าเมือพระไมได้กินข้าว ชีวิตของพี่คนนี้ก็ต้องติดขัดเรื่องการกินการอยู่
    อะไรประมาณนี้

    และ อ. ได้บอกวิธีแก้กรรมให้พี่คนนี้โดยเขียนลงในกระดาษ

    ต่อมาก็เป็น คิวผู้หญิง คนที่ 2 อ. บอกว่าในอดีตเป็นคนรวย มีอยู่มีกิน
    อย่างดี แต่ไปออกเงินกู้เขา เรียกดอกแพงๆ
    ชาตินี้ เลยหางานทำยาก ซึ่งพี่ผู้หญิงคนนั้นก็บอกว่า
    เธอตกงานมานานแล้ว หางานทำไม่ได้เลย

    อ. เลยเขียนวิธีแก้กรรมให้

    และ อ. ก็ทำนายคนที่ 3 จบ จนมาถึง คิวผม เป็นคนสุดท้ายของวันนั้น

    ผมจึงได้คุยกับ อ. แบบตัวต่อตัว ไม่มีใครมาร่วมฟังด้วย

    อ. มองผมแล้วบอกว่า ในอดีตชาติ ผมเป็นลูกศิษย์ของหลวงตาอิน
    และผมเป็นกรรมการจัดสร้างวัด หลวงตาไว้ใจผมมาก
    เมื่อผม ในชาตินั้น เห็นว่าทรายจะหมดก็ได้สั่งคนขนทรายเข้าวัดมาเพิ่ม

    ด้วยอานิสงส์นี้ ทำให้ชีวิตผมจะเงินทองต่อไป
    และ อ. เห็นผมได้สร้างช่อฟ้า การสร้างช่อฟ้านี้ ทำให้ชาตินี้ผมจะมีชาะตาอยู่เหนือผู้คน
    เป็นเจ้าคนนายคน เป็นหัวหน้าคน
    ซึ่งปัจจุบันนี้ ผมทำงานเป็น หัวหน้า Creative
    แต่ช่อฟ้านั้นโคลง และกระจกช่อฟัแตก 4 อัน

    ลูกน้องผมได้ถามว่า กระจกแตกทำยังไง ผมในชาตินั้นก็บอกว่าไม่เป็นไร
    ไม่ต้องซ่อม ไม่มีคนเห็น เหมือนว่า เพิกเฉย ด้วยผลกรรมนี้แหละ
    อ บอกว่าทำให้ผม เหมือนว่า เวลามีเรื่องเดือดร้อนอะไร
    คนจะม่ค่อยช่วยเหลือ เหมือนเพิกเฉย
    แต่เวลาผมมีขึ้นมา ผมมักเลี้ยงดูคนอื่นอย่างดี

    และ อ. บอกว่า ผมในชาตินั้นบริจาคเทียนให้แก่วัด และจุดเทียนให้สว่างไปทั่วเลย
    อานิสงส์นี้ ทำให้ผม จะอยู่ที่ไหน มีแต่คนรัก คนชื่นชม เป็นคนน่ารัก

    แล้วครั้งหนึ่ง อ. บอกว่าผมในชาตินั้นเห็นเพื่อนๆที่มาช่วยงานที่วัดจะกลับ
    แต่หนทางมืด กลัวจะเดินทางไม่สะดวก ผมจึงไปยืมคบเพลิงจากทางวัด ไปส่งเพื่อน
    แต่พอไปส่งก็ลืมเอาคบเพลิงกับมาคืนวัด
    เพราะนั่นเป็นของสงฆ์
    อ. บอกว่า ของสงฆ์ไม่มีใครเป็นเจ้าของ แม้แต่เจ้าอาวาส

    ด้วยผลกรรมนี่แหละ อ. บอกว่าทำให้ผมเวลาให้ใครยืมของ
    ยืมเงินไปจะไม่ได้คืน ซึ่งอันนี้ก็ตรงเลยครับ สิ่งของ หรือ เงินผม ให้ไป มักไม่ได้คืน

    แล้ว อ.เล่าเรื่องราวๆต่างๆของผม ทั้งในอดีตชาติและในปัจจุบัน
    แล้วยังรู้ว่าผมศึกษาการทำนายดวง และบอกศาสตร์ที่ผมใช้ในการดูดวง
    และ บอกชื่อ อ.ของผมที่สอนวิชาโหราศาตร์
    ซึ่งถูกต้องเลยครับ เล่นเอาผมอึ้งไปเลย

    แล้ว อ .ก็เขียนวิธีแก้วิบากรรมต่างๆ ให้กับผม
    ซึ่งเป็นอุปสรรคในชีวิตผมอยู่ตอนนี้

    หลังจากที่ดูเสร็จผมก็ออกมาที่ห้องโถงใจกลางบ้าน ซึ่งมีเหล่าลูกศิษย์
    ลูกหาของ อ. ประมาณ 7 - 8 คน ผมก็ได้ไปนั่งคุยด้วย

    คุยไปคุยมา อ. ก็ออกมาร่วมคุยด้วย

    ผมก็ถือโอกาสถาม อ. หลายเรื่อง และได้ความรู้เกี่ยวกับทางธรรมและ
    ทางวิญญาณมากมาย

    สรุปว่า อ ศุภกิจ สามารถดูอดีตชาติของคนได้
    สามารถดูถึงเจ้ากรรมนายเวรได้
    สามารถดูว่า ญาติ หรือพ่อ แม่ พี่น้อง ของคนนั้นตายไปแล้วไปเกิดที่ไหน
    ได้รับความทรามาน หรืออยู่สุขสบายฃ

    อ. บอกว่า บางคนเกิดเป็นหมา และวิ่งมาหา อ. ด้วย


    นี่คืออีกหนึ่งประสบการณ์ที่ได้ไปพบผู้มีญาณทิพย์ จึงเอามาเล่าแบ่งปันกัน

    หากใครมีปัญหาชีวิต หรือประสบวิบากรรามต่างๆที่ชีวิตต้องทุกข์ในเรื่องต่างๆ
    หากยังหาวิธีแก้ไม่ได้ ก็ลองไปหา อ ศุภกิจดูนะครับ
    และ อ. จะดูให้คนปีละครั้ง
    อ จะดูให้แบบปีต่อปี ว่าปีนั้น มีอะไรติดขัด มีปัญหาอะไร และผลกรรมอะไรส่งผล
    และมาจากชาติไหน

    เรื่องความแม่นยำ ถูกต้องแค่ไหน ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคน
    ผมการรันตีไม่ได้หรอกครับ ผมรู้เฉพาะของผมเท่านั้น ส่วนของคนอื่นนั้น
    ต้องเป็นของคนนั้นที่จะรู้เอง



    [​IMG] อ. ศุภกิจ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  2. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    เคยไปดูค่ะ ดีมากๆเลยค่ะ เป็นอุบายทำบุญโดยแต่ละคนก็ติดกรรมสงฆ์มาไม่เหมือนกัน ก็ทำตามอาจารย์ มาเรื่อยๆ
     
  3. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
    หาอาจารย์ ศุภกิจ ได้ที่ไหนครับ รบกวนช่วยบอกด้วยครับ จะขอบพระคุณอย่างสูง
    (บอกทาง pm ก้อได้ครับ )
     
  4. sutanee

    sutanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    904
    ค่าพลัง:
    +3,248
    อยู่ไม่ไกลที่พักในกรุงเทพเหมือนกันอยากไปดูบ้างเพื่อความรวดเร็ว 080-4222-615ต้องรบกวนช่วยโทรด้วย
     
  5. wanidac

    wanidac Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    107
    ค่าพลัง:
    +25
    เข้าเวปค้นหาชื่ออาจารย์ได้เลยค่ะ เจอแน่ๆ ค่ะ ส่วนตัวแนะนำเพื่อน และพี่่ที่รู้จักไปพบอาจารย์มาแล้วค่ะ แต่ตัวเองคนแนะนำยังไม่ได้ไปดูเลยค่ะ เพราะอยู่ต่างจังหวัดค่ะ
     
  6. yeepun

    yeepun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    202
    ค่าพลัง:
    +425
    ขออนุโมทนาด้วยค่ะ นำเรื่องดีๆมาเล่าสู่กันฟังบ่อยๆเลย ใจดีจังค่ะ รบกวนขอเบอร์ติดต่อ อ.ได้มั้ยค่ะ ถ้ามีโอกาสจะไปหาท่านค่ะ ขอบพระคุณมากค่ะ ( ทาง PM ก็ได้ค่ะ )
    ขอบพระคุณล่วงหน้านะค่ะ
     
  7. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    ใครที่ไปไม่ได้ ฝากเอารูปไปดูก็ได้ค่ะ ดิฉันเวลาไปๆคนเดียวแต่เอารูปไปเป็นสิบ แต่บอกก่อนว่าคนที่ดูควรจะมีใจและความพร้อมเพราะหลักการของอาจารย์คือ ให้คนเข้าวัด อย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง ซึ่งแต่ละเดือนจะมีให้ไปทำบุญถวายข้าว กับข้าว อย่างละ 3 ชุด บวกกับของถวายสงฆ์ 3 ชุด (แต่ละเดือนไม่ซ้ำกัน เช่น บางเดือนถวายมีดโกน บางเดือนถวายผงซักฟอก) เงิน ซอง ละ 19 บาท 3 ซอง คนที่เป็นญาติ พี่น้องให้กล่าวถวายทำแทนได้ แต่บุญใครอยากได้ต้องปฎิบัติเองจะดีที่สุด ถ้าเคสไหนทุกข์หนัก ทุกข์มาก ทำ 9 ชุด เคยเอารูปพี่น้อง เพื่อนไปดูให้ แล้วเค้าไม่ทำซึ่งไม่เกิดประโยชน์ ก่อนนอนนั่งสมาธิอย่างน้อยวันละ ครึ่งชั่วโมง เพื่อที่จะให้ทุกข์และปัญหาต่างๆที่ต้องเผชิญหมดไป ดูกับอาจารย์ ดูปีละครั้ง เด็กเล็กที่ยังไม่มีเงินเดินดูครั้งเดียว เมื่อโตแล้วมีงานการทำถึงจะไปดูได้ อาจารย์ไม่อยากให้เดือดร้อนพ่อแม่ ดูครั้งเดียวใช้ใบนั้นทำบุญไปเรื่อยๆ
     
  8. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    ก่อนที่ คุณๆจะไปหา อ. ผมอยากให้ลองอ่านความคิดเห็นต่างๆของผู้ที่เคยไปพบกับ อ. มาซึ่งผมได้ไปลองหาข้อมูลในเวบต่างๆดู จึงคัดลอกมาแบบย่อๆเอามาให้อ่านกัน ก่อนที่จะตัดสินเชื่อนะครับ

    ........................

    จากคุณปุ๊

    ปุ๊ได้รู้จักอาจารย์ศุภกิจ อัครเบญจพล จากหนังสือหญิงไทย ประมาณ เดือนเมษา
    คอลัมน์ คุณศิลาลักษณ์ ซึ่งรุ่นน้องนำมาให้อ่านแล้วบอกว่าน่าสนใจ
    ในบทความมีเบอร์โทรศัพท์บ้านอาจารย์


    ปุ๊ได้โทรมาสอบถามว่าการแก้กรรมเป็นอย่างไร ค่าดูเท่าไร
    ต้องทำอย่างไร บ้าง พี่อ้อยก็อธิบายว่า ดูโดยการนั่งสมาธิและต้องถวายของตามที่อจ.
    กำหนด ในแต่ละเดือน ทำบ่อยได้เท่าที่ต้องการ

    ซึ่งตอนนั้นให้ถวายบาตรพระ ถาด สบง ฯลฯ มีข้อแม้ข้อเดียวต้องนั่งสมาธิ
    วันละครึ่งชั่วโมง ทุกวัน พอได้ฟังดังนั้น ก็อยากมา


    ด้วยพื้นเพเดิมเป็นคนชอบดูหมอมากๆ ตามประสาผู้หญิง เลยชวนเพื่อนที่ทำงานมาดู
    ตอนนั้นมา 3 คน แต่ก่อนมาก็ตกลงกันก่อนว่า ถ้าเป็นแบบเข้าทรงกลับบ้านนะ

    วันที่มานั้นมาถึงที่บ้านอาจารย์ ประมาณ 6โมงครึ่ง กะว่าคงรอไม่นาน
    ปรากฎว่าได้ดูประมาณ สี่ทุ่มกว่า ข้าวก็ยังไม่ได้ทาน ดีนะที่ซื้อขนมปังมาด้วย
    และแต่ละคนบ้านก็อยู่คนละทาง ไม่มีรถส่วนตัว ก็ต้องโหวตว่าจะดู หรือจะกลับ
    ปรากฎว่าทุกคนก็บอกว่ารอ ไหนๆก็รอถึงขนาดนี้แล้ว

    ซึ่งขณะนั้นฝนตก อากาศไม่เป็นใจ ยังไงก็ต้องลุย พอได้เข้าไปพบอาจารย์
    อาจารย์ก็รู้ว่าปุ๊นอนท่าไหน แค่นี้ปุ๊ก็อึ้ง เพราะขนาดที่บ้านยังไม่มีใครรู้

    แต่ปุ๊ฟอร์มเฉยๆ แถมอาจารย์ยังบอกอีกว่าร้องไห้ดั่งแม่น้ำร้อยสาย
    อึ้งอีก รู้ได้ไง ความรู้สึกตอนนั้น แบบว่าแม่นมาก อยากเจอมานานแล้วอย่างนี้
    เลยอยากพิสูจน์ ทำตามที่อาจารย์สั่งทุกอย่าง

    ปรากฎว่า สุขภาพแข็งแรงขึ้น ดีขึ้นที่ละนิด จนตัวเองก็เอ๊ะ
    เดิมปุ๊ป่วยเป็นโรคลิ้นหัวใจรั่วตั้งแต่กำเนิด เพิ่งมาแสดงอาการตอนโต
    ต้องทานยาวันละ 1 เม็ดเพื่อควบคุมการเต้นของหัวใจ อากาศร้อนและอากาศหนาว
    หัวใจก็จะทำงานหนักมากกว่าปกติ,โรคภูมิแพ้รักษาโดยการฉีดยาเข้าไป

    เพื่อสร้างภูมิ อาทิตย์ละ 2 เข็ม เพราะตอนนั้นมีอาการคือพูดไม่มีเสียงออกมา
    หมอบอกว่าต้องห้ามพูด ไม่งั้นจะพูดไม่ได้ตลอดชีวิต ,
    หมอนรองเคลื่อนทับเส้นประสาท ฯลฯ ป่วยจนเพื่อนๆ เบื่อ
    โทรมาทีไรก็ป่วยตลอด ปุ๊กินยาจนไม่อยากกินแล้ว

    ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานแค่ไหน ปุ๊อิจฉาคนที่สุขภาพดีจะตาย
    และคิดว่าทำไมเราไม่เป็นอย่างคนอื่นเขาบ้าง

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    พอมาเจออาจารย์ตอนนั้นเหมือนชีวิตไม่มีทางเลือก
    อะไรก็ได้ขอให้สุขภาพดีขึ้น เบื่อไม่อยากเข้า รพ.แล้ว
    ปกติเดือนหนึ่งจะเข้ารพ. อย่างน้อย 3 ครั้ง
    พอเข้าโรงพยาบาลที่ไรก็ต้องให้น้ำเกลือ เพื่อนๆไม่เห็นใครเข้ารพ.
    เท่าปุ๊เลย ปุ๊แค่ขออยากมีชีวิตเหมือนคนอื่นบ้าง

    ทุกครั้งที่ทำบุญจะขอพรขอให้มีสุขภาพที่แข็งแรง
    และดวงตาเห็นธรรม ชีวิตนี้ปุ๊ไม่อยากได้อะไรแล้ว
    มักจะถามว่าทำไมเราต้องป่วยอะไรขนาดนี้
    สมัยนั้นปุ๊กับโรงพยาบาลแทบจะเป็นเพื่อนสนิทกันเลย
    คิดดูแล้วกัน ก่อนที่มาพบอาจารย์

    <O:p></O:p>
    การที่เจออาจารย์ และปฎิบัติตามที่อาจารย์บอก
    สุขภาพปุ๊ดีขึ้นเรื่อยๆ จนปัจจุบันนี้ ปุ๊ไม่เคยทานยาโรคหัวใจเลย
    มาหลายปีแล้ว


    <O:p></O:p>
    สุดท้ายนี้ต้องขอกราบขอบพระคุณ อาจารย์ศุภกิจ อัครเบญจพล
    และพี่อ้อย อย่างมาก ที่ทำให้คนๆหนึ่งผู้ซึ่งตามืดบอด หลงระเริงอยู่กับโลก
    และทุกๆสิ่ง มาพบสิ่งที่ดีที่สุดที่ไม่มีคำอะไรจะบรรยายได้ คือธรรมะของพระพุทธเจ้า

    อาจารย์ศุภกิจเป็นผู้เปิดโลกใบใหม่ใบนี้ให้แก่ปุ๊ ทำให้ปุ๊ได้พบชีวิตใหม่
    ได้รู้จักการทำบุญ,นั่งสมาธิ จากคนที่ไม่เคยทำบุญเลย,วัดไม่เคยรู้จัก
    จนเดี๋ยวนี้การทำบุญมันออกมาจากความรู้สึกข้างใน

    <O:p></O:p>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  9. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=WorkCenterContentFont style="PADDING-RIGHT: 8px; PADDING-LEFT: 8px; PADDING-BOTTOM: 15px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 15px">นี่เป็นอีกความคิดเห็นหนึ่ง

    ....................
    [​IMG]


    สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอแน่ะนำตัวก่อนผมชื่อ
    นาย พิจักษณ์ ภรรยาชื่อ นาง กานต์ ดอนเส ปัจจุบันประกอบอาชีพส่วนตัว (ขายยา)

    ก่อนที่ผมจะได้มาพบอาจารย์ ศุภกิจ ตัวผมเองมีอาจารย์
    ที่เป็นที่เคารพนับถืออยู่แล้ว ผมและภรรยาจึงไม่ค่อยเชื่อเรื่องประเภท ดูดวงดูอดีต อนาคต สักเท่าไรเพราะผมเชื่อว่าอาจารย์ของผมเก่งมากอยู่แล้ว

    จนมาวันหนึ่งได้มีรุ่นพี่ชื่อพี่ชาติ หรือ คุณ สุชาติ
    และ คุณ เกศริน โอวาทวรรณสกุล
    ได้โทรศัพท์มาชวนให้ไปหาอาจารย์ ศุภกิจ แรกๆ ผมกับแฟนก็บ่ายเบี่ยงมาตลอดโดยเชื่อว่า เราก็มีอาจารย์ดีอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องไปหา หรือไปดูที่ไหนอีก

    แต่ด้วยความเกรงใจพี่สุชาติ ผมกับแฟนจึงพากันไปพบอาจารย์ ครั้งแรกที่ผมได้พบอาจารย์ ท่านทักว่า

    “ใครพาไอ้คนนี้มาได้เก่งมาก เพราะว่ามันคิดว่ามันแน่มันมีอาจารย์ดี”

    เท่านั้นแหละครับ ผมอึ้งเลย จากนั้นอาจารย์ท่านก็บอกและเล่าถึงอดีต ว่าผมได้ไปทำอะไรมา แล้วก็แนะนำวิธีแก้ไข

    เพราะกรรมเก่าของแต่คนแตกต่างกันไป ท่านเล่าถึงเจ้ากรรมนายเวรในชาติที่แล้วให้ฟังว่าเราไปล่วงเกินสิ่งใดไว้
    ชาตินี้ท่านจึงกลับมาทวงคืนเราในชาตินี้ คำว่า

    “ทวงคืน” หมายถึงว่าเมื่อเราจะทำอะไรท่านจะคอยมาขัดขวางไม่ให้เราประสบผลสำเร็จ หรือแม้แต่ทำให้เราเกิดเจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ แล้วแต่กรรมของใคร

    อาจารย์ศุภกิจท่านจะแนะนำให้เราไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร เพื่อให้ท่านอโหสิกรรมให้เรา หลังจากวันที่ไปหาอาจารย์ วันรุ่งขึ้นผมลองทำดูครั้งแรกใจคิดคืออยากลองของ และผลที่เกิดขึ้น

    การค้าขายของผมดีขึ้นเรื่อยๆ ลูกค้าเพิ่มขึ้น นอกจากทำบุญแล้วสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ การนั่งสมาธิเพราะการนั่งสมาธิ
    คือการปลุกเสกตัวเอง ทำให้เกิด เมตตามหานิยม

    เสริมบารมีให้กับตัวเอง การนั่งสมาธิเราสามารถนั่งที่บ้านก็ได้ผม
    ได้พบอาจารย์เมื่อปี 2549 ช่วงนั้นผมและภรรยาเริ่มซื้อบ้านใหม่ๆ และทำเรื่องผ่อนกับธนาคารไว้ 10 ปี หลังจากที่ผมทำบุญและนั่งสมาธิผมใช้เวลาผ่อนบ้าน 2 ปี 8เดือน ก็หมดครับเร็วจนญาติๆ สงสัยว่าทำอย่างไร

    ผมบอกว่าอาจารย์ ศุภกิจช่วย ช่วยในที่นี้คือช่วยแนะวิธีแก้กรรมเก่า ซึ่งส่งผลให้ชีวิตของผมและภรรยาดีขึ้นโดยลำดับ

    ปัจจุบันผมและภรรยานั่งสมาธิวันละครึ่งชั่วโมงต่อวัน
    นั่งแล้วรู้สึกว่าขายของดี ลูกค้าไม่มีตก

    เมื่อก่อนผมเปิดร้าน 10 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน ขายทุกวันไม่มีวันหยุดแต่ปัจจุบันนี้ผมเปิดร้าน และปิดเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ยอดขายก็ยังดีเหมือนเดิม มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น

    มีเวลาออกหาทำบุญมากขึ้น ที่กล่าวมาทั้งหมดผมไม่ได้หวังให้ท่านเชื่อซะทีเดียว เพราะของแบบนี้ต้องลองกับตัวเองครับ แต่สำหรับผมและภรรยาเชื่อครับ

    อาจารย์ศุภกิจบอกว่า “คนเราต้องการ 2 อย่างคือ อยากรวยกับอยากสุข ปัจจุบันผมกับภรรยา คิดว่าเรามี 2 อย่างแล้วที่อาจารย์พูด และผมยังแนะนำ ญาติ พี่น้อง เพื่อนๆให้ไปหาอาจารย์ เพราะผมต้องการให้เขาทั้งหลายหมดทุกข์
    และได้พบเจอสิ่งดีๆ เหมือนอย่างที่ผมและภรรยาได้รับ

    ผมอยากขอขอบคุณ อาจารย์ ศุภกิจ ,พี่อ้อย , พี่สุชาติ , คุณเกศริน ที่ทำให้ผมและภรรยาได้พบสิ่งที่ดีๆในชีวิต
    ขอบคุณมากครับ
    พิจักษณ์-ศศิกานต์ ดอนเส




    </TD></TR><TR><TD class=WorkCenterContentFont style="PADDING-RIGHT: 8px; PADDING-LEFT: 8px; PADDING-BOTTOM: 8px; VERTICAL-ALIGN: top; PADDING-TOP: 8px">


    </TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  10. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    นี่ก็อีกความคิดเห็น

    .......................
    สวัสดีครับ ผมชื่อ บอล..ครับ เห็นเขาเขียนบทความเล่าถึงประสบการณ์เกี่ยวกับ
    อาจารย์<?XML:NAMESPACE PREFIX = ST1 /><ST1:pERSONNAME w:st="on" productid="แล้วอดไม่ไหว อยากเล่ามั่ง">แล้วอดไม่ไหวอยากเล่ามั่ง</ST1:pERSONNAME> เอาเลยนะ.ครับ..
    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>

    ช่วงทำงานนี่แหละที่ผมได้ศึกษาเรื่องการปฏิบัติธรรมมากขึ้น เรื่องมันมีอยู่ว่า
    ขณะที่ผมกำลังเล่นอินเตอร์เน็ทในห้องทำงานอยู่ ก็เล่นไปเล่นมา
    เปิดไปเจอเว็บธรรมะเว็บหนึ่ง ก็ได้เริ่มศึกษาธรรมะโดยอ่านจากเว็บเอา
    ขอรับซีดีที่เขาแจกตามเว็บ มาเปิดฟังบ้าง แรกๆก็ฟังไปอย่างงั้นแหละ
    ฟังมั่งหลับมั่ง แต่พอฟังไปฟังมา ชักเริ่มชอบ
    เพราะพระที่ท่านเทศน์ในซีดีที่เราเปิดฟัง ท่านเทศน์โดยใช้ภาษาง่ายๆ
    ฟังเข้าใจง่าย พระรูปนั้นคือ พระราชพรหมยาน หรือ
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง จังหวัดอุทัยธานี

    พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำรูปนี้แหละที่ทำให้ผมสนใจการปฏิบัติธรรมมากขึ้นเรื่อยๆ
    จนถึงขั้นทดลองปฏิบัติเอง แบบจริงจังโดยการทานอาหารเพียง 2 มื้อ ตื่นเช้าขึ้นมานั่งสมาธิ
    ปฏิบัติแบบนี้ประมาณ 1 ปี ช่วงนั้นรู้สึกน้ำหนักจะลดลงมากไปหน่อย

    วันนั้นผมกำลังเล่นอินเตอร์เน็ทในห้องทำงานอีกตามเคย
    กำลังเปิดดูเว็บชื่อดังของประเทศไทย พันทิพย์ดอทคอมนั่นเอง
    เปิดไปเจอกระทู้หนึ่ง มีคนตั้งกระทู้ประมาณว่า

    มีใครรู้จักพระหรือใครก็ได้ที่สามารถบอกได้ไหมว่าเขาไปทำกรรมอะไร
    มาจึงป่วยตั้งแต่เล็กจนโต ไม่หายสักที

    ผมก็ได้เปิดเข้าไปดูเนื้อหาในกระทู้ที่เขาลง ปรากฎว่ามีคนให้เบอร์โทรศัพท์
    มาหลายเบอร์ เพื่อช่วยเหลือเจ้าของกระทู้ซึ่งป่วยมาก

    ตัวผมเองนึกยังไงไม่รู้ก็เลือกเอาเบอร์ที่มีคนลงไว้มา 1 เบอร์
    แล้วทดลองโทรไปก็ปรากฏเป็นเสียงโทรศัพท์ตอบรับอัตโนมัติแนะนำสถาน
    ที่ว่า อยู่ที่ไหนซอยอะไรเปิดเวลากี่โมง ไอ้กระผมก็จดข้อมูลเอาไว้

    ต่อมา..อีกไม่กี่วัน ผมก็มีธุระต้องเดินทางเข้ากรุงเทพฯ

    จึงนึกว่าเดี๋ยวเราทำธุระเสร็จแล้ว จะแวะเข้าไปตามที่อยุ่ที่ได้มาสักหน่อย
    (ที่อยู่บ้านอาจารย์ศุภกิจ) พอเสร็จธุระก็มืดพอดีไม่น่าเกิน 3 ทุ่ม
    จึงแวะเข้าไปที่บ้านอาจารย์ศุภกิจ ไปกับเพื่อน 2 คน

    แต่เพื่อนไม่ยอมเข้าไป ผมเลยเข้าไปบ้านอาจารย์คนเดียว
    เข้าไปถึงก็เขียนชื่อที่อยู่ในสมุดคิวทองของอาจารย์.

    พอเข้าไปในห้อง อาจารย์ก็ดูแก้กรรมให้ตามปกติ
    แต่มีสิ่งที่ทำให้ผมแปลกใจอยู่หลายเรื่อง
    เล่าเรื่องเดียวพอ คือ อาจารย์รู้หมดเลยว่าเวลาอยุ่ที่บ้าน
    ผมนั่งสมาธิแบบไหน นั่งยังไง แถมยังแนะนำการปฏิบัติให้ผมอีก
    พอหลังจากดูเสร็จก็ออกมาห้องข้างนอก ที่ใช้นั่งรอแก้กรรม

    ผมได้สนทนากับอาจารย์ว่าผมสนใจการปฏิบัติธรรมโดยศึกษาจากหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    อาจารย์ก็ได้เล่าให้ฟังว่าตอนเย็นนอนพักอยู่ในบ้านฝันเห็น
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำมาบอกว่า วันนี้ลูกศิษย์ท่านจะมาหา ผมยิ่งรู้สึกปลื้มใจเข้าไปใหญ่
    ..คิดในใจว่า..หลวงพ่อพามานี่เอง..หลังจากนั้นก็ได้คุยกับแม่อ้อย
    ( ภรรยาอาจารย์ศุภกิจ ) แม่อ้อยถามผมว่า ใครพามา หรือใครแนะนำมา
    ผมก็บอกว่าผมเจอเบอร์โทรบ้านอาจารย์จากอินเตอร์เน็ทครับ..
    ..หลังจากสนทนาเสร็จก็ลาอาจารย์กลับบ้าน
    <O:p></O:p>
     
  11. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861
    อันนี้เป็นเรื่องเล่าของลูกศิษย์

    .....................

    ดิฉันมีเรื่องที่จะเล่าสู่กันฟัง เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 ปีกว่ามาแล้ว ที่เกิดกับดิฉันเอง

    คือ ดิฉันไปที่บ้านอาจารย์ศุภกิจทุกวัน อยู่มาวันหนึ่งขณะที่ดิฉันกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินบ้านอาจารย์ ดิฉันก็เห็น มดแดง เดินเป็นขบวนอยู่ที่บริเวณโต๊ะม้าหินเป็นจำนวนมาก ดิฉันจึงพูดว่า

    “มดแดงเยอะอย่างนี้จะนั่งได้ยังไงกัน”

    ก็พอดีกับอาจารย์ศุภกิจ เดินเข้ามาพอดี ได้ยินที่ดิฉันพูด
    อาจารย์ศุภกิจจึงพูดกับมดแดงว่า

    “ไปอยู่ที่อื่น อย่าอยู่ตรงนี้ เดี๋ยวเขาจะเหยียบเอา”

    ท่านอาจารย์พูดจบแล้วอาจารย์ก็เดินไป
    ดิฉันจึงหันมาดูอีกครั้ง ก็ไม่เห็นว่ามีมดแดง อยู่ตรงโต๊ะหินอีกเลย
    ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่า มดแดงหายไปไหนหมดแล้ว

    นี่ถ้าไม่เห็นกับตา และไม่ได้ยินกับหูก็คงไม่เชื่อ
    วันต่อมามดก็เดินเป็นขบวนมาที่โต๊ะม้าหินนั้นอีก
    ดิฉันจึงพูดกับมดเหมือนที่อาจารย์ศุภกิจพูด
    แล้วก็รอดู 10 นาทีผ่านไป...15นาที
    มันก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม มดเหล่านั้นไม่ได้ยินที่ดิฉันพูดเลย...

    ................................

    วันนั้นเป็นวันที่สอง (6 ธ.ค.)ของการอบรมสมาธิรุ่นที่ 16 เวลาเที่ยงกว่า

    ขณะที่ผมกำลังจะไปเก็บภาพคนในโรงอาหารอยู่นั้น
    ก็เห็นอาจารย์ ศุภกิจ นั่งอยู่ ก็ตรงเข้าไปจะถ่ายรูปอาจารย์
    ก็หยิบกล้องออกจากกระเป๋า และเปิดกล้อง แต่ก็เปิดไม่ได้
    ลองอยู่ สองครั้ง ก็ไม่ได้ อาจารย์ก็พูดขึ้นมาว่า

    “จะให้เปิดได้หรือไม่ได้ล่ะ”

    ผมก็รู้ทันทีว่าเกิดจากพลังจิตของอาจารย์แน่
    ผมก็บอกอาจารย์ว่าขอลองอีกครับ
    อาจารย์ก็บอกว่าเอ็งบอกมาว่าจะให้เปิดได้หรือไม่ได้
    ผมก็บอกอาจารย์ไปว่า

    “ขอให้เปิดไม่ได้”

    แล้วก็ลองเปิดกล้องก็เปิดไม่ได้อีกครั้ง

    “เปิดไม่ได้ครับ”

    แล้วก็ลองเปิดกล้องก็เปิดไม่ได้อีกครั้ง

    “เปิดได้ครับ”

    แล้วก็ลองเปิดกล้องก็เปิดได้ หน้ากล้องเปิดออกพร้อม
    จะให้ถ่ายภาพได้ผมก็ชักสนุก ขออาจารย์อีก แล้วก็ปิดกล้อง
    บอกอาจารย์อีก

    “อาจารย์ขออีกครับ ขอให้เปิดกล้องไม่ได้”อาจารย์ตอบกลับว่า

    “พอ พอ พอแล้ว มึง”
    เสร็จแล้วผมก็คุกเข่าลงไปกราบอาจารย์ด้วยความศรัทธา
    แล้วก็ไปถ่ายรูปคนอื่นตามปรกติ

    ก่อนหน้านี้ก็รู้อยู่ว่าพลังจิตของอาจารย์นั้นมีแน่
    เช่น ว่าในบางครั้งเวลาไปทำธุระข้างนอก
    ถ้ากลัวติดขัดก็จะนึกถึงอาจารย์ให้ช่วยด้วย
    ก็จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่นั้นก็เป็นสิ่งที่สัมผัสได้ด้วยจิต
    แต่ครั้งนี้เห็นกับตาเองเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 เมษายน 2009
  12. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861
    กำลังฮิต เลย นะ ช่วงนี้

    คนตาทิพย์

    เฮ้อ...
     
  13. เทพ

    เทพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +3,099
    เรื่องของพลังจิต การหยั่งรู้ด้วยจิต เป็นเรื่องที่มีมายาวนานอย่างต่อเนื่อง เพียงแต่จะมีการเผยแพร่ทางสื่อสาธารณะหรือไม่ เพียงเท่านั้น

    สื่อมวลชน อาจจะฮิตเป็นพักๆ ... แต่กลุ่มคนที่ศึกษาพลังจิต น่าจะถือเป็นเรื่องปกติธรรมดาในชีวิตประจำวันมากกว่า

    เท่าที่ผมทราบ ก็คล้ายๆกับคุณ รักไร้พ่าย คือ อ.ศุภกิจ ช่วยเหลือคนในด้านนี้มานานเป็นสิบปีแล้ว ส่วนใหญ่จะเป็นการรู้โดยการบอกต่อๆกันไป

    โดยส่วนตัว เคยรู้จักท่านมาประมาณ 5-6 ปีแล้ว ถึงจะไม่ค่อยได้ไปคารวะเท่าไรเพราะบ้านไกล แต่ก็ทราบข่าวจากน้องๆเป็นระยะๆ ที่ผ่านมายังไม่เคยได้ยิน feed back ในด้านไม่ดีแต่อย่างใด
     
  14. Bull_psi

    Bull_psi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    889
    ค่าพลัง:
    +1,445
    สงสัยโลกเราจะทำบาปเกี่ยวกับอาหารพระสงฆ์ไว้มาก เศรษฐกิจโลกเลยไม่ดี
    ต้องแก้กรรมอย่างไรครับ ต้องให้โอบาม่ามาทำสังฆทานรึป่าวครับ
     
  15. สุคธวา

    สุคธวา สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +5
    ดีจัง อยากไปบ้าง
     
  16. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    ไปถามอาจารย์เลยดีกว่าค่ะ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจ๊ะ;hi2เค้าไม่ได้เพิ่งดูนะ เค้าดูมา 19 ปีแล้ว เราเจออาจารย์ครั้งแรกเราก็เจอคำแรกหงายเก๋งมาเลย ว่ามันจะมาลองของ 5555 เดี๋ยวจะเหลาให้ดู เอิ๊กๆเรานะเป็นคนชอบไปลองแบบคุณรักไร้พ่ายอะแหละ แต่เรากับคุณรักไร้พ่ายไม่เคยรู้จักกันมาก่อนนะ เพียงแต่นิสัยคงจะชอบอะไรคล้ายๆกันอยุ่บ้างอะ
    ครั้งแรกที่จะได้ไปก็พิสดารนิหน่อย คือมันอ้อมโลก เพราะพี่ที่พาไปมาจากอเมริกา แล้วคนที่แนะนำพี่เค้านะ เค้าไปเยี่ยมลูกที่อเมริกาแล้วถึงแนะนำพี่เค้ามาอีกที เค้าก็มาจิกเราไปอีกที ตอนที่เราไปนะก็ไปเดี๋ยวๆแต่คนอื่นเอารูปมาเป็นปึกๆ หลังจากที่เจออาจารย์ เราต้องไปรอบสอง เอารูปพี่ๆน้องๆพ่อแม่ เพื่อนๆ ไปอีกเป้นสิบเลย เอิ๊กๆ ทุกวันนี้เรายังทำตามที่อาจารย์แนะนำอยู่เลยจ๊ะ:z2เป็นปีที่ 4 แล้วนะ
     
  17. รักไร้พ่าย

    รักไร้พ่าย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    886
    ค่าพลัง:
    +2,861

    4 ปีแล้วเหรอ โอ้ !!
     
  18. ~อมริศา~

    ~อมริศา~ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    208
    ค่าพลัง:
    +2,335
    ไปพบอาจารย์ศุภกิจมาแล้วเหมือนกันค่ะ
    ก่อนไปถึงบ้านอาจารย์ก็รู้สึกตื่นเต้นมากนะ
    แต่พอไปถึงแล้วเจอคนมาเยอะ คอยนานมาก ร้อนมากๆด้วย

    แต่พอได้พบกับอาจารย์แล้วรู้สึกศรัทธามาก
    อาจารย์ดูใจดีและมีเมตตาสูง
    แต่ที่อึ้งกว่าคืออาจารย์ทักก่อนที่จะดูดวง
    มันตรงมาก อาจารย์รู้ได้ไง?

    หลายเรื่องที่ทึ่ง อาจารย์รู้จักเรามากกว่าคนใกล้ตัวเราอีก
    แต่อาจารย์พูดเร็วมาก ต้องคอยจับใจความให้ทัน
    เลยทำให้ความตื่นเต้นกับความแม่นยำที่อาจารย์บอกค่อยผ่อนคลาย

    เรื่องกรรมในอดีต จะจริงหรือไม่เราคงไม่รู้แน่
    แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เราและครอบครัวจะปฎิบัติตามที่อาจารย์แนะนำมาอย่างเคร่งครัด
    และปฎิบัติตามอย่างมีความสุขใจ
    เพราะสิ่งที่อาจารย์แนะนำให้ทำ
    ไม่ว่าใครจะทุกข์จะสุขแค่ไหนอย่างไร
    มันเป็นสิ่งที่พุทธศาสนิกชนทั้งหลายควรจะต้องปฎิบัติอยู่แล้ว
    แต่พวกเราละเลยมันไป

    หลังไปพบอาจารย์แล้ว
    รู้สึกได้เลยว่า"ทุกข์"เบาลงไปเยอะ
    และรู้สึกได้เลยกับตัวเองว่า
    แค่เราสงบลง เราก็แทบจะไม่ทุกข์เเล้ว
    อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด
    เรายินดียอมรับมันทุกอย่าง

    ก็ทุกอย่างที่มันเกิดขึ้นกับเรา
    ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งที่เราเคยสร้างมันไว้ทั้งนั้น
    แต่จะจากชาติไหน ภพใด จำไม่ได้จริงๆ
    แล้วเราจะไปหนีมันไปได้ยังไงกัน

    ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจเรานะ...จริงๆ

     
  19. ฤษีเหิร

    ฤษีเหิร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    154
    ค่าพลัง:
    +76
    คนที่ไปจะทายคล้ายกันทำของวัดเสียหาย ส่วนมากมีหนี้สงฆ์ จะต้องไปชำระ
    บนใบที่มีภาพวาดจะเขียนไว้ว่า..อุบายทำบุญ..
    การทำคล้ายการแยกชุดของสังฆทานออกมาเป็นเดือนๆ กว่าจะทำเสร็จก็ครบปี
    บุญทำได้ก็ทำไปเถอะไม่เป็นไร
     
  20. kunmeng

    kunmeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,383
    ค่าพลัง:
    +395
    น่าสนใจดีครับ
    ไว้มีโอกาศต้องไปหาท่านครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...