ประสบการณ์สยองขวัญจากริมฝั่งแม่กลอง ราชบุรี

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย vacharaphol, 22 มกราคม 2006.

  1. vacharaphol

    vacharaphol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    8,849
    ค่าพลัง:
    +27,172
    "อุษา" เล่าประสบการณ์สยองขวัญจากริมฝั่งแม่กลอง ราชบุรี

    ดิฉันชอบเรื่องผีมาตั้งแต่เด็กๆ เพราะมีพวกผู้ใหญ่เล่าให้ฟังหลายคน ยิ่งคนแก่ๆ ยิ่งมีเรื่องผีมากค่ะ บอกว่าเคยเจอกับตัวบ้าง เพื่อนเจอบ้าง บางคนก็บอกว่าพ่อแม่เล่าให้ฟังมาอีกที

    สมัยเด็กๆ ก็กลัวผีหรอกค่ะ จนโตขึ้นก็ชักเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง บางทีก็แน่ใจว่าไม่กลัว แต่บางทีก็เย็นหลัง หนาวต้นคอขึ้นมาเฉยๆ เลยต้องยอมรับว่า อ้อ...เรายังมีจิตใจเหมือนเด็กๆ อยู่เลยนะ ถึงได้กลัวผี

    แต่เขาว่าคนมักจะมีความรู้สึก มีอารมณ์แบบเด็กๆ เป็นบางครั้งเหมือนกัน ไม่ว่าจะหนุ่มสาวหรือแก่เฒ่าก็ตาม!

    ถ้าจะหาสาเหตุของตัวเองก็คงจะเป็นประสบการณ์ตอนเด็กๆ อยู่ที่ราชบุรีนั่นแหละค่ะ เพราะได้พบเรื่องแปลกประหลาด น่าขนลุกขนพองอยู่หลายคืนจนจดจำฝังใจถึงเดี๋ยวนี้

    ในวัยเด็ก ดิฉันกับพ่อแม่และน้องๆ เป็นชาวเรืออยู่ริมน้ำแม่กลอง ใจกลางเมืองเลยก็ว่าได้ เงยหน้าขึ้นไปก็เห็นสะพานธนะรัชต์อยู่เหนือหัว เรือคือบ้านของพวกเราที่เป็นเรือแพจอดเรียงรายกันริมตลิ่งหลายสิบลำ

    แม่ขายผลไม้ในตลาด พ่อทำงานก่อสร้าง ดิฉันตอนนั้นราว 6 ขวบ ได้อยู่เรือเลี้ยงน้องชายอายุ 2 ขวบ ลุงสนทอดแหอยู่ใกล้ๆ ฝั่ง น้าพันก้มหน้าก้มตาดัดคันเบ็ดให้ตรง ก่อนจะลงเรือเล็กไปตกปลา

    เรือที่ติดกับเราอยู่กันสองพี่น้อง ชื่อน้านิดกับน้าหน่อย น้านิดอายุราว 30 ปี เป็นแม่ม่ายลูกติดวัย 6-7 ขวบชื่อตาโอ น้าหน่อยอายุ 20 ต้นๆ ตอนเช้าจะช่วยพี่สาวคัดผลไม้ต่างๆ ที่เตรียมจะไปขายในตลาด

    เมื่อน้านิดไปขายของแล้ว น้าหน่อยก็จัดการซักผ้าเอาขึ้นราว แล้วปัดกวาดเช็ดถู หุงข้าวทำกับข้าว หยิบโน่นจับนี่ทั้งวันเหมือนจะไม่หยุดพักจนกว่าพี่สาวจะกลับ

    สำหรับตาโอไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ วันๆ จะอยู่บนฝั่ง วิ่งเล่นกับเพื่อนๆ กลุ่มใหญ่ บางทีก็กระโดดน้ำกันตูมๆ น่าสนุก เด็กชาวเรือชาวแพว่ายน้ำเป็นปลากันทุกคน

    พวกคนแก่ก็นั่งเล่นหมากรุกกันอยู่ใต้ร่มไม้บ้าง นอนเล่นรับลมเย็นๆ จากแม่น้ำจนเพลินหลับไปบ้าง บางคนก็หยอกล้อกับเด็กๆ ที่ลอยคออยู่ในน้ำ แต่บางคนก็แหงนมองรถไฟแล่นข้ามสะพานไปมา

    มองแล้วก็ถอนใจยาวๆ ทำตาเหม่อลอย เหมือนจะอยากนั่งรถไฟไปเที่ยวไหนๆ ได้ตามใจชอบ ดูๆ ก็เป็นชีวิตที่ไม่ต้องเดือดร้อนดิ้นรนอะไรนัก มีความสุขตามอัตภาพก็ว่าได้ค่ะ

    วันหนึ่งก็เกิดเหตุร้ายขึ้น!

    เด็กๆ เล่นน้ำพลางส่งเสียงหัวเราะกันสนุกในตอนบ่าย ก่อนจะมีเสียงถามไถ่ดังเอะอะขึ้นทุกที พอจับความได้ว่า...ตาโอหายไปไหน?

    ดิฉันกำลังป้อนข้าวหลานอยู่บนหาด รู้สึกสังหรณ์ใจบอกไม่ถูก จนได้ยินใครตะโกนคำว่า "มันจมน้ำ" พวกผู้ใหญ่ 2-3 คนลุยน้ำลงไปควานหาอยู่ราวครึ่งชั่วโมง น้าหน่อยร้องไห้ไม่ขาดเสียง...จนกระทั่งงมร่างอ่อนปวกเปียก ไร้ชีวิตของตาโอขึ้นมาได้

    แกดำน้ำไปติดอยู่ใต้แพใกล้ๆ นั่นเอง!

    น้าหน่อยปล่อยโฮออกมาสุดเสียง มีใครวิ่งไปตามน้านิด แต่พอรู้ข่าวแกก็เป็นลมคาที่ไปแล้วค่ะ...ต่อจากนั้นคือความเศร้าโศกสุดแสนของแม่ผู้สูญเสียลูกชายคนเดียวไปอย่างไม่นึกฝัน

    หลังจากเผาลูกชายแล้ว น้านิดก็กลายเป็นคนป้ำๆ เป๋อๆ คุ้มดีคุ้มร้าย ด่าน้องสาวหยาบๆ คายๆ จนถึงกับใช้มีดไล่ฟัน ทั้งๆ ที่ไม่ใช่ความผิดของแกเลย

    ในที่สุด น้าหน่อยก็ต้องหอบผ้าจากไป ทิ้งพี่สาวสติแตกอยู่ในเรือคนเดียว

    น้านิดบ่นบ้ากับร้องไห้คร่ำครวญไม่เลือกกลางวันกลางคืน บางทีก็หัวเราะร่วนกลางดึกจนดิฉันสะดุ้งตื่น ขนลุกเลย คนแถวนั้นก็บอกว่าได้ยินเสียงน่ากลัวนั่นเช่นกัน

    คืนหนึ่ง อากาศค่อนข้างหนาว กำลังจะเคลิ้มหลับก็ได้ยินเสียงหัวเราะร่า

    "มาหาแม่แล้วหรือลูก?" มามะ...มาให้แม่กอดแม่จูบให้ชื่นใจ พ่อคุณ พ่อทูนหัวของแม่ เนื้อหอมจริงจริ๊งพ่อคุณ..." เสียงนั้นดังมากระทบหู ตามด้วยเสียงหัวเราะคิกคัก "อย่าโดดน้ำหนีแม่ไปอีกนะลูกนะ เราอยู่ด้วยกันที่นี่แหละสองคนแม่ลูก ดีไหมโอจ๋า? ชื่นใจจริง...มาให้แม่จูบอีกที"

    ดิฉันขนลุกซ่า หนาวสะท้านไปทั้งตัว หันไปกอดแม่ก็ยิ่งปากคอแห้ง เมื่อได้ยินเสียงสั่นเครือดังขึ้นว่า...หลับซะลูก แม่ก็ได้ยินเหมือนกัน!

    อยากจะหลับสนิทไปตอนนั้นเลยค่ะ แต่ก็ได้ยินเสียงน้านิดดังก้องอยู่ในหูจนหลับไม่ลง อย่างดีก็หลับๆ ตื่นๆ จนกระทั่งเสียงสยองขวัญเงียบหายไปตอนดึกสงัด...เหลือแต่เสียงคลื่นเซาะฝั่งที่ชวนให้ง่วงงุนเต็มประดา

    อีกราวหนึ่งเดือนต่อมา น้านิดก็เดินเสียสติไปตามตลาด เดี๋ยวหัวเราะเดี๋ยวร้องไห้น่าเวทนา ไม่ช้าก็สาบสูญไป...ทิ้งไว้แต่ปริศนาว่าแกเพ้อไปเองเพราะเสียใจที่ลูกตาย

    หรือว่าลูกชายขึ้นจากน้ำมาหาแม่จริงๆ แม้จะเหลือเพียงวิญญาณก็ตาม?
     

แชร์หน้านี้

Loading...