ประสบการณ์ไสยเวทย์เมตตาเปิดโลก

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย เมตตาเปิดโลก, 13 พฤษภาคม 2019.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เรื่องเล่าเล่นๆๆตอนที่49

    ผมต้องเขียนทำความเข้าใจเสียใหม่เกี่ยวกับเครื่องราง

    และของขลัง บางคนอาจจะเข้าใจผิดหรือไม่เข้าใจ

    ต้องกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ถ้ารับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็

    เก็บเงินไว้เถอะครับ เครื่องรางของขลังนั้นมีผลต่อคน

    และดวงชะตา แต่ไม่เสมอไปทุกคน มีปัจจัยหลายอย่าง

    ที่เกื้อกูลกัน เหมือนอาจารย์สายเสน่ห์ท่านหนึ่งได้

    กล่าวเอาไว้ว่า ถ้าพกเครื่องรางเสน่ห์แล้ว แต่งตัว

    สกปรก ผมไม่หวี น้ำไม่อาบ ผู้หญิงก็คงไม่แลมอง

    เช่นเดียวกันเครื่องรางที่เกี่ยวกับสายล่าง ก่อให้เกิด

    กำหนัดหรืออารมณ์ทางเพศ ถ้าไม่มีการใกล้ชิด

    พูดคุย สัมผัส ก็มีโอกาสเป็นไปได้ยากที่จะเกิด

    ไม่มีหรอกครับที่เดินผ่านแล้วผู้หญิงเกิดความกำหนัด

    ขึ้นมา โดยไม่มีสาเหตุ ทุกอย่างล้วนมากจาก รูป รส

    กลิ่น เสียง สัมผัส ทั้งนั้น เครื่องรางก่อให้เกิดการหนุน

    นำพลังงาน และกระแสจิตไปในทางเดียวกันกับ

    พลังงานของเครื่องราง เช่นเมื่อนำเกลือไปใส่ในน้ำ

    น้ำก็เริ่มมีรสชาติที่เปลื่ยนไป บางคนเข้าใจผิดว่า

    ใช้แล้วผู้หญิงจะเกิดกำหนัดหรือจะมีผลเลย อันนี้ผม

    แนะนำให้ไปซื้อยาปลุกเซ็กส์ใช้จะถูกทางกว่าและ

    ตรงกับความต้องการมากกว่า จะบอกว่าเครื่องราง

    ทำไม่ได้ก็ไม่ใช่ แต่ความต้องการหรือคำถามของคุณ

    มันคือคนที่ไม่เข้าใจว่าเครื่องรางคืออะไร เครื่องราง

    คือสิ่งที่เสริมหรือสนับสนุนก่อให้เกิด เปรียบเหมือน

    ล็อคเตอรี่ คุณซื้อล็อคเตอรี่ คุณถามแม่ค้าว่าผมซื้อ

    แล้วจะถูกรางวัลไหม นี่แหละที่คุณถามว่าใช้เครื่อง

    แล้วจะได้ผลไหม เหมือนกันครับ แม่ค้าก็คงตอบว่า

    คุณมีสิทธิ์ที่จะถูกรางวัล แต่ไม่สามารถรับรองได้ว่า

    คุณซื้อล็อตเตอรี่ไปแล้วต้องถูกรางวัล เครื่องรางก็

    เช่นกัน คุณใช้เครื่องราง คุณก็มีสิทธิ์ที่คุณจะได้ผล

    แต่ไม่ใช่คุณจะได้ผลเสมอไป ผมพูดความจริงและตรง

    ไม่ได้อยากได้เงินจากการหลอกขายของ หรือต้องการ

    ให้คนมองว่าสิ่งที่ผมทำนั้นมันวิเศษ แต่ถ้าคุณสงสัย

    และไม่แน่ใจ ก็อย่าใช้เครื่องรางเลยครับเพราะนอกจาก

    จะทำให้คุณเสียเงินฟรี และมันจะทำให้คุณเสียเวลาด้วย
    ลอต.jpg
     
  2. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,274
    ค่าพลัง:
    +13,236
    ติดตามอ่านอยู่ครับอาจารย์
     
  3. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    สมัยนั้นเริ่มแรกที่เดินทางสายนี้ มีโอกาสได้ไปเรียนธรรมกับอาจารย์ซาอึ่ง สมัยนั้นท่านยังบวชเป็นพระอยู่ทางอีสาน ก่อนเดินทางกลับครอบเศียรครูช่วงเช้า

    https://www.youtube.com/watch?v=gjMiQ7b6ZIo
     
  4. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    หน้าแรก ข่าวเดลินิวส์ อาชญากรรม
    จับสึก2เกจิเซ่น'ตะกรุดเหนือดวง' เรียกเงินค่าเวทมนตร์
    บุกรวบ 2 เกจิดังร่วมพิธีปลุกเสกทำ "ตะกรุดเหนือดวง" เข้าข่ายทำผิดตามมหาสมาคม เพราะเรียกเงินค่าเวทมนตร์
    พฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม 2562 เวลา 14.27 น.

    เมื่อวันที่ 15 ส.ค. พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก.สั่งให้ พล.ต.ต.ชัช สุกแก้วณรงค์ ผบก.ทล. นำกำลังเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังมีสำนักข่าวแห่งหนึ่งนำเสนอข่าว ระบุว่า สำนักอาจารย์แจ๊ว เหนือดวง เลขที่ 188/3 หมู่ 1 ต.คูขวาง อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี จัดทำพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลากหลายชนิด อาทิ ตุ๊กตาลูกเทพ กุมารทองเรียกทรัพย์ กุมารพรายเศรษฐี กุมารพรายเรียกทรัพย์ ล็อกเก็ตเศรษฐีหน้าทอง เทพราตรี เทพจำแลงภมร และตะกรุดเหนือดวง หรือตะกรุดพระพุทธเจ้าเหนือดวง

    พร้อมอวดอ้างสรรพคุณว่า ผู้ที่บูชาตะกรุดนี้จะเป็นคนเหนือ เป็นคนมีเสน่ห์เมตตามหานิยม เจริญลาภยศสรรเสริญ และมีชื่อเสียงหอมขจรขจาย ทำมาค้าขึ้น ไม่มีวันจน ประสบความสำเร็จทุกด้าน ชีวิตครอบครัวมีความสุขตลอดไป ใครคิดร้ายชีวิตของเขาก็จะแย่ลง ตกต่ำลง หรือคิดจะแข่งขันไม่มีวันจะชนะได้ จากดวงที่ตกถึงขั้นวิกฤติก็จะกลับกลายเป็นดี โดยมีพระเกจิหลายรูปที่เข้าร่วมทำพิธีตะกรุดเหนือดวงด้วย...

    ชุดสืบสวนจึงประสานข้อมูลกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก็พบว่าเป็นไปตามที่เสนอข่าว อีกทั้งพบว่าพิธีดังกล่าวมี หลวงตาแม็ก วัดป่าภูยา จ.หนองบัวลำภู และพระอาจารย์ละ วัดสร้อยสุวรรณ จ.กำแพงเพชร ร่วมทำพิธีด้วย โดยถือเป็นการทำผิดวินัยสงฆ์ จึงแบ่งกำลังเป็น 12 ชุดๆแรก บุกไปที่วัดป่าภูยา ก่อนคุมตัว "หลวงตาแม็ก" หรือ นายจำเริญ แสงดี อายุ 56 ปี เจ้าอาวาสวัดป่าภูยา ไปทำการสึก

    ขณะที่ชุดสองก็บุกไปที่วัดบ่อสามแสน ก่อนควบคุมตัว "พระอาจารย์ละ" หรือ นายวีระภัทร มาทำมา อายุ 41 ปี เจ้าคณะตำบลนาบ่อดินและเจ้าอาวาสวัดสร้อยสุวรรณ ไปทำการสึกเช่นกัน ซึ่งแจ้งข้อหากับเกจิดังทั้ง 2 ในข้อหา เข้าข่ายความผิดตามประกาศของมหาเถรสมาคม เรื่องห้ามภิกษุ สามเณร เรียกเงินค่าเวทมนตร์ และห้ามทดลองของขลัง พ.ศ.2495

    โดยประกาศดังกล่าวระบุว่า “ด้วยปรากฏว่า มีภิกษุบางรูปเห็นแก่อามิสมุ่งลาภสักการะ ตั้งตนเป็นอาจารย์ปลุกเสกลงเลขยันต์ที่ศีรษะบ้าง หน้าผากบ้าง สอนเวทมนตร์เพื่อแคล้วคลาดศัตราวุธบ้าง โดยเรียกเงินจากผู้มาขอให้ปลุกเสกบ้าง เป็นการผิดสมณวิสัยจัดเข้าในอาชีววิบัติมีโทษทางพระวินัย เสื่อมความเชื่อ ความเลื่อมใสของพระพุทธศาสนิกชน ไม่ใช่ข้อปฏิบัติทางพระพุทธศาสนา ตรงข้ามกลับเป็นที่ตำหนิของสาธุชน เพราะไม่ทนต่อการพิสูจน์ เป็นช่องทางให้พาลชนช่วยโฆษณาชวนให้คนหลงเชื่อ เพื่อทำทุจริตโดยแอบอ้างยึดเอาเป็นอาชีพอันมิชอบ เป็นความเสื่อมเสียแก่คณะสงฆ์และพระศาสนา”

    นอกจากนี้ยังมีประกาศห้ามไม่ให้ภิกษุเป็นหมอเสน่ห์ยาแฝดอาถรรพณ์ ของสมเด็จพระสังฆราชเจ้า พ.ศ.2476 ระบุว่า “ถ้าภิกษุรูปใดประพฤติล่วงละเมิดเมื่อพิจารณาได้ความจริง ให้เจ้าอาวาสหรือเจ้าคณะในท้องที่ที่เกิดอธิกรณ์ลงโทษให้สึกเสีย".

    https://dailynews.co.th/crime/72606...1wdXJtqdY_eTv20GsOCcIh6BtA7h2yRXVw0WnqXQPHbso
     
  5. somharnwong

    somharnwong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +196
    ติดตามอ่านครับ
     
  6. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    68656444_697441480733019_1260364720016195584_n.jpg
    ที่มาของประโยคฮิตของตลก "หลวงปู่เค็ม วัดเขาอีโต้ขว้างเป็ด เดินบนกองไฟ ก้าวแรกไม่เป็นไร ก้าวสองไฟเริ่มไหม้สบง"

    เรื่องราวจากวีดิโอตลกที่ดังกระฉ่อนชั่วข้ามคืน ใครดูใครฟังก็อดขำไม่ได้ เป็นที่เข้าใจว่านั่นคือการแสดงเพื่อความบันเทิง มิใช่การลบหลู่แต่ประการใด แต่จะมีใครสักกี่คนที่จะรู้ว่า หลวงปู่เค็ม วัดเขาอีโต้ขว้างเป็ด แท้ที่จริงแล้วเป็นชื่อสมมติ ที่ดัดแปลงมาจากอดีตพระเถราจารย์รูปหนึ่ง ผู้มีชื่อเสียงโด่งดังกว้างไกลเมื่อห้าหกสิบปีก่อน มีอายุยืนยาวถึง 111 ปี แก่กล้าพุทธาคมเป็นที่เลื่องลือ เจ้าตำรับไซดักทรัพย์ ที่โดดเด่นในด้านโชคลาภค้าขาย ดังปรากฏให้เห็นตามร้านค้าแขวนอยู่ทั่วไปทั่วประเทศ พระเถราจารย์รูปนี้คือ หลวงปู่เคน วัดถ้ำเขาอีโต้ แห่งเมืองปราจีนบุรี

    ประวัติหลวงปู่เคน สุขวัฒโน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ ต.บ้านพระ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี

    ท่านเกิดเมื่อพ.ศ.๒๔๐๒ ที่ตำบลโคกกรวด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก (ในสมัยนั้นยังเป็นจังหวัดปราจีนบุรี) ต่อมาได้มีภรรยาชื่อ นางลา ต่อมาได้ย้ายมาอยู่ที่บ้านนางลา ณ หมู่บ้านนาปรือ ตำบลเนินหอม อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ทั้งสองดำรงชีวิตคู่อยู่ได้ราวๆสิบปี โดยไม่มีลูก จนหลวงปู่เคนเกิดความเบื่อหน่ายทางโลก จึงได้อุปสมบทเมื่อตอนอายุราวๆ ๓๐ ปีเศษ จากนั้นได้ออกเดินธุดงค์และกลับมาจำพรรษาในถ้ำแถวตำบลนาหินลาด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ต่อมาจึงย้ายมาจำพรรษาที่ถ้ำเขาอีโต้ ตำบลบ้านพระ อำเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี ตราบจนมรณภาพในปีพ.ศ.๒๕๑๓ สิริอายุ ๑๑๑ ปี

    วัตรปฏิบัติและปฏิปทา

    หลวงปู่เคน ท่านเป็นพระสงฆ์ที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ เป็นที่ศรัทธาของสาธุชนทั่วไป แม้กระทั่งสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมวชิรญาณวงศ์ (ม.ร.ว.ชื้น นพวงศ์ ณ อยุธยา) ยังได้เสด็จมาสนทนาธรรมกับหลวงปู่เคน ณ วัดถ้ำเขาอีโต้ มีหลักฐานก็คือภาพถ่ายที่กุฏิหลวงพ่อเจ้าอาวาส ในสมัยหลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ท่านชอบฟังเทศน์โดยเฉพาะการเทศน์มหาชาติ ถ้าว่างท่านจะนั่งภาวนาอยู่ในถ้ำ เวลาออกไปไหนมาไหนท่านชอบใช้ย่ามสีแดง จนคนนิยมเรียกท่านว่า "หลวงพ่อย่ามแดง" หลวงปู่เคนท่านเป็นพระรุ่นเก่า เวลาพูดท่านก็ชอบใช้ภาษาโบราณ และมักจะเอ่ยวลีว่า “ หอสระอีแม่มึง ” เสมอ หลวงปู่เคนท่านออกเดินบิณฑบาตเป็นนิจแม้ว่าจะอายุมากแล้วก็ตาม และการบิณฑบาตของท่านนี่เองเป็นเหตุให้เกิดเรื่องเล่าขานว่าหลวงปู่เคนเป็นพระผู้สำเร็จอภิญญาสามารถเดินหนย่นระยะทางได้ จนมีผู้ศรัทธาหลั่งไหลมากราบขอพรและให้ท่านรดน้ำมนต์ให้มิได้ขาด ยิ่งไปกว่านั้นวัตถุมงคลที่หลวงปู่สร้างขึ้น ไม่ว่าจะเป็นไซดักทรัพย์ นกสาลิกาคู่ สีผึ้ง ผ้ายันต์ ฯลฯ ต่างก็เป็นที่ต้องการของผู้ที่มากราบท่าน เพราะเต็มไปด้วยอานุภาพทางเมตตามหานิยม ไปบูชาแล้วค้าขายดี มีประสบการณ์เล่าขานกันไม่จบสิ้น

    อภินิหารของหลวงปู่

    เรื่องราวอภินิหารของหลวงปู่นั้นผู้เขียนได้รวบรวมจากนักเขียนรุ่นเก่าๆบ้างและผู้มีประสบการณ์โดยตรงบ้างดังนี้

    มีเรื่องเล่าแปลกๆว่า มีลูกศิษย์ไปพบหลวงปู่ที่วัด แต่เด็กวัดบอกว่าหลวงปู่เข้าไปในถ้ำสวดมนต์ ลูกศิษย์คนนั้นจึงเดินไปหาหลวงปู่ในถ้ำ เมื่อเข้าไปก็เห็นหลวงปู่สวดมนต์อยู่จริงๆ แต่ร่างของหลวงปู่ท่านลอยอยู่บนอากาศ โดยไม่มีอะไรรองนั่งแม้แต่น้อย หลวงปู่ท่านลอยอยู่สักพักแล้วก็ค่อยๆลอยกลับมาลงนั่งสมาธิปกติดังเดิม...

    ชาวบ้านที่จังหวัดนครนายก เห็นพระชราแปลกหน้ามาเดินรับบาตรอยู่บ่อยๆ จึงถามว่าท่านชื่ออะไร มาจากไหน ท่านบอกว่าชื่อหลวงปู่เคน มาจากวัดถ้ำเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งอยู่ห่างไปสามสิบกิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านหลายคนเกิดความสงสัยว่าท่านมาเดินบิณฑบาตถึงนี่ได้อย่างไร จึงมีคนเรียนถามท่าน หลวงปู่ท่านบอกว่าเดินมา พอชาวบ้านบอกว่าจะไปส่ง หลวงปู่ท่านบอกว่าไม่ต้อง ท่านเดินกลับเองได้ ทำให้ชาวบ้านยิ่งสงสัยหนักขึ้นไปอีก กระทั่งเช้าวันหนึ่งเมื่อใส่บาตรเสร็จแล้วจึงแอบขับรถตามท่านออกไป ปรากฏว่ารถขับตามหลวงปู่เดินไม่ทันจนพลัดหลงกัน เขาเลยขับรถดิ่งไปยังวัดถ้ำเขาอีโต้ทันที เพื่อรอดูหลวงปู่ว่าท่านจะกลับมาที่นี่จริงหรือเปล่า แต่พอมาถึงวัดเขาก็ต้องตกใจ เพราะเห็นหลวงปู่นั่งฉันเช้าอยู่แล้ว ครั้นมองไปที่สำรับกับข้าวก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้นไปอีก เมื่อเห็นกับข้าวที่เขาใส่บาตรเมื่อเช้าอยู่ในสำรับที่หลวงปู่กำลังฉัน นั่นแสดงว่าหลวงปู่เคนท่านเดินย่นระยะทางมาได้จริงๆ

    คราวหนึ่งไฟไหม้บ้านพี่สาวของนักเขียนนิตยสารพระชื่อดังที่อุบล แต่ปรากฏว่ามีวัตถุมงคลที่ไฟไม่สามารถเผาผลาญหรือหลอมละลายได้คือ รูปถ่ายหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพง และ ผ้ายันต์แดงของหลวงปู่เคน วัดถ้าเขาอีโต้

    ตาสมบุญเป็นหลานๆของหลวงปู่เคนเล่าว่า เมื่อสมัยยังเป็นเด็ก ได้เคยไปนอนที่กุฏิหลวงปู่เคน พอตอนเช้าหลวงปู่ท่านก็ออกเดินบิณฑบาตตามปกติ แต่ก่อนที่หลวงปู่จะออกจากถ้ำเขาอีโต้ ท่านได้เอ่ยว่า ไอ้น้อย(หมายถึงตาสมบุญ)เดี๋ยวเอ็งอยู่ที่นี่ก่อนนะ หลวงปู่จะไปบิณฑบาตในเมืองสักหน่อย ว่าแล้วท่านก็ถือบาตรเดินออกมา แต่เพียงสิบกว่านาทีท่านก็เดินกลับมาพร้อมอาหารเต็มบาตร ทำเอาตาสมบูรณ์ซึ่งเป็นเด็กในขณะนั้นแปลกใจเป็นอย่างมากว่าทำไมหลวงปู่ท่านเดินเข้าไปบิณฑบาตในเมือง แต่กลับมาถึงวัดเร็วขนาดนี้ได้อย่างไร เนื่องจากในสมัยนั้นไม่มีรถผ่านดังปัจจุบัน เวลาไปไหนมาไหนต้องใช้การเดินเท้า

    ครั้งหนึ่งเมื่อหลวงปู่เคนฉันภัตตาหารเสร็จแล้วได้นำแอบเปิ้ลที่เหลือแจกจ่ายแก่ญาติโยมที่ยากจน ปรากฏว่าแม่เฒ่าท่านหนึ่งไม่กล้ากินผลแอบเปิ้ลที่หลวงปู่เอาให้ เพราะไม่รู้จัก เนื่องจากสมัยนั้นแอบเปิ้ลเป็นผลไม้ของหายาก ต้องสั่งมาจากต่างประเทศ จะมีขายเฉพาะแหล่งธุรกิจการค้าในกรุงเทพ คนในป่าในดงตามบ้านนอกคงไม่เคยเห็น จึงมีผู้ถามหลวงปู่ว่าไปเอาแอบเปิ้ลมาจากไหน? หลวงปู่ท่านตอบว่าเมื่อวาน โยมที่กรุงเทพเขาใส่บาตรมา ลูกศิษย์บางคนที่ได้ฟังอยู่ก็แย้งว่า เมื่อวานหลวงปู่ไม่ได้ไปกรุงเทพนี่ครับ หลวงปู่ยังไปเดินบิณฑบาตแถวหมู่บ้านผมเลย หลวงปู่ได้ยินแล้วก็ทำเป็นเฉยเหมือนไมได้ยิน ส่วนลูกศิษย์ก็เริ่มลือกันไปว่าหลวงปู่เคนแบ่งภาคไปบิณฑบาตพร้อมๆกันทั้งสองแห่ง อีกทั้งย่นระยะทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว

    เล่ากันว่าหลวงปู่เคนรู้วันมรณภาพ คือมีอยู่วันหนึ่ง อยู่ๆหลวงปู่เคนก็บอกกับลุงเลิศหลานชายของท่านว่าอีก ๗ วัน ท่านจะมรณภาพ ตอนนั้นลุงเลิศก็ได้แต่คิดในใจว่าหลวงปู่ถ้าจะหลง เพราะตอนนี้ท่านก็แข็งแรงดีไม่มีวี่แววว่าจะเจ็บป่วย แล้วจะถึงแก่มรณภาพในเวลาอันสั้นได้อย่างไร จนกระทั่งถึงวันที่ ๗ ตามที่ท่านกล่าว อยู่ๆหลวงปู่ก็บอกว่าอยากกินข้าวเหนียวมะม่วง จากนั้นไม่นานก็มีลูกศิษย์จากกรุงเทพมาหาแล้วนำข้าวเหนียวมะม่วงมาถวาย เล่นเอาคนที่อยู่ในเหตุการณ์ตั้งแต่ต้น ต่างก็หันมามองตากันด้วยความทึ่งในอภิญญาของหลวงปู่ พอญาติโยมลากลับในช่วงบ่ายๆ หลวงปู่ท่านก็เป็นลมและมรณภาพในตอนเย็นของวันนั้นนั่นเอง

    เมื่อหลวงปู่มรณภาพแล้วได้มีการเก็บสังขารของท่านไว้ในหีบ โดยท่านได้สั่งกำชับไว้ก่อนนานแล้วว่า เมื่อสวดอภิธรรมเสร็จให้นำหีบดังกล่าวบรรจุไว้ในหลืบถ้ำบริเวณที่ท่านอยู่ ซึ่งทางวัดก็ได้ดำเนินการตามนั้นมา

    จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ได้เกิดเหตุการณ์มหัศจรรย์ขึ้นในคืนหนึ่งคือ อยู่ดีๆได้เกิดไฟเผาไหม้หีบบรรจุสังขารดังกล่าว ทำให้เหลือเพียงแต่เถ้าและกระดูกของท่านเท่านั้น พอรุ่งเช้าลูกศิษย์ลูกหาที่รู้ข่าวต่างมามุงดูและวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ ขณะเดียวกันก็มีบางคนแอบหยิบเอาชิ้นส่วนกระดูกของท่านออกมา แต่พอนำขึ้นรถจะขับกลับบ้าน ปรากฏว่าไม่สามารถสตาร์ทรถติด จึงต้องนำชิ้นส่วนกระดูกที่หยิบติดตัวไปกลับมาคืนที่เดิม

    หลังจากเหตุการณ์มหัศจรรย์เกิดขึ้นไม่นานก็ได้มีลูกศิษย์ของท่านมาทำการสร้างมณฑปคอนกรีตครอบบริเวณดังกล่าวไว้เพื่อจะได้ประดิษฐานรูปหล่อจำลองของท่านไว้ให้ผู้ที่ศรัทธาได้กราบเคารพบูชา โดยจะทำการสร้างเป็นสองชั้น แต่พอสร้างมณฑปชั้นแรกเรียบร้อยแล้ว ก็สร้างบันไดขึ้นไปยังพื้นชั้นสองเสร็จเป็นลำดับถัดมา แต่พอช่างเริ่มขึ้นไปเหยียบพื้นชั้นสอง เพื่อจะสร้างผนังและโครงหลังคา ก็ปรากฏเกิดเหตุอาเพศ ฟ้าผ่าลงกลางต้นไม้ใหญ่ที่อาคารมณฑปชั้นล่างล้อมไว้ ทำให้ลำต้นของต้นไม้ดังกล่าวแตกเป็นสองซีก ดูเหมือนว่าหลวงปู่หรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์คงไม่อยากให้ใครขึ้นไปเหยียบย่ำด้านบน ทางวัดเห็นท่าไม่ดีจึงหยุดสร้างมณฑปชั้นสองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา กระทั่งปัจจุบันมณฑปก็ยังคงเป็นอาคารชั้นเดียวอย่างที่ท่านเห็นในภาพ

    กรรมฐานและวิชาคาถาอาคม

    เล่ากันว่าชาวบ้านแถวตำบลโคกกรวด อำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก ถิ่นกำเนิดของหลวงปู่เคนมีเชื้อสายลาว พูดภาษาถิ่นแบบภาษาอีสาน เมื่อหลวงปู่เคนบวชแล้ว ท่านจึงออกเดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆ รวมถึงเข้าไปยังประเทศลาว เพื่อเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมกับสำเร็จลุน แห่งนครจำปาศักดิ์ เมื่อเรียนกลับมาแล้วก็ได้กลับมาจำพรรษาและช่วยชาวบ้านสร้างและพัฒนาวัด วัดพรหมเพชร ขึ้นที่ตำบลโคกกรวด ถิ่นกำเนิดของท่าน เมื่อสร้างเสร็จแล้วท่านจึงออกไปอยู่ในถ้ำเขาอีด่าง บริเวณน้ำตกวังม่วง ตำบลนาหินลาด จากนั้นไม่นานจึงย้ายมาอยู่ที่ถ้ำเขาอีโต้ตราบจนมรณภาพ

    เนื่องจากหลวงปู่เคนได้ร่ำเรียนวิชามาจากสำเร็จลุน วิชาของท่านจึงออกจะแปลกแหวกแนวไปกว่าวิชาของทางฝ่ายไทยที่เราเคยได้รับรู้กันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นวิชาน้ำออกบ่อที่ใช้ทำน้ำมนต์รดถอนของขจัดอัปมงคล วิชากาหลงที่ใช้ได้สารพัด หรือวิชาการทำไซเงินไซทองไว้ดักทรัพย์ โดยใช้ มหาชัยยะมงคลคาถา หรือ ไชยใหญ่และจุลชัยยะมงคลคาถาหรือ ไชยน้อย ซึ่งเป็นคาถาภาษาบาลีผสมภาษาลาว มาสวดปลุกเสกเพราะในภาษาไทยอีสานและภาษาลาวจะออกเสียง ช.เป็น ซ. ดังนั้นคำว่าชัยมงคล ทางไทยอีสานและลาวจะออกเสียงเป็นไซยมงคล ซึ่งพ้องกับคำว่าไซ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ดักสัตว์น้ำของไทย มาเป็นเคล็ดในการปลุกเสกไซของท่านซึ่งนับว่าได้ผลเป็นที่ประจักษ์กันมามากแล้วว่ามีอานุภาพก่อให้เกิดสิริมงคล คุ้มครองป้องกันภัยทำมาค้าขาย โชคลาภดี อย่างชนิดที่พูดได้ว่ายังไม่มีไซของพระเกจิอาจารย์ใดเก่งไปกว่าไซเงินไซทองดักทรัพย์ของท่าน เพราะชัยยะคาถาทั้ง ๒ นี้พรรณนาถึงชัยชนะของพระพุทธเจ้า เหนือหมู่มารทั้งปวงทั้งล่วงพ้นอำนาจของพรหม มาร เทวดา ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 และสรรพสัตว์ อีกทั้งความชั่วร้ายทั้งร้าย เชื่อกันว่า เป็นบทสวดที่มีอานุภาพมาก สามารถขจัดปัดเป่าเรื่องเลวร้าย และภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ทั้งแก่ตัวผู้สวดสาธยาย และบ้านเมืองของผู้สวดสาธยายนั้น

    วัตถุมงคลของหลวงปู่เคน

    วัตถุมงคลของท่านจะเน้นไปทางเมตตา มหานิยม การค้าขายดี เป็นหลัก ท่านมีชื่อเสียงเรื่องการสร้าง ไซดักเงิน และนก (ที่ทำจากไม้กาหลง) สีผึ้ง ผ้ายันต์ เหรียญ ฯลฯ

    ไซ เป็นเครื่องจักสานประเครื่องดักจับสัตว์น้ำที่มีความสำคัญ และมีคุณค่าต่อวิถีชีวิตของคนในในอดีต ทุกบ้านจะทำไซไว้ใช้เอง โดยจะนำไซไปดักไว้ตามคลองที่น้ำไหลผ่าน ซึ่งสถานที่ดักก็จะมีอยู่ทั่วไปตามไร่ตามนา ในฤดูฝนมีน้ำหลาก ชาวบ้านออกไปทำไร่ ทำนา ก็จะนำไซไปดักทิ้งไว้ด้วย ก็จะได้ปู ปลาต่าง ๆ มากมาย บางครั้งอาจยกไซไม่ได้เนื่องจากหนักเพราะดักปลาได้เกือบเต็มไซ ปลาที่ได้ก็จะนำไปประกอบอาหารสำหรับทุกคนในครอบครัว แบ่งปันให้เพื่อนบ้านบ้าง โดยไม่ต้องซื้อขายกัน ที่เหลือก็จะนำมาถนอมอาหารเช่น ทำปลาร้า ปลาเค็ม ปลาย่าง เก็บไว้กินยามฤดูแล้ง ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากร ที่สามารถหาปลากินได้อย่างเหลือเฟือ พระเกจิโบราณจึงนำไซมาทำเป็นเครื่องราง ให้ลูกศิษย์ไปแขวนไว้ตามหน้าร้านค้า ประตูบ้าน หรือใช้ผูกเสาเอกในพิธีลงเสาเอกบ้านเรือน เพื่อความเป็นสิริมงคล.. ช่วยดักเงินทอง ดักโชค ดักลาภ เรียกกันว่าไซดักทรัพย์ และพระเกจิอาจารย์ที่ทำไซแบบนี้ได้มีอานุภาพสูงสุดก็คงไม่มีใครเกินหลวงปู่เคน แห่งวัดถ้ำเขาอีโต้ จังหวัดปราจีนบุรี ท่านเป็นพระใจดีมีเมตตามาก วัตถุมงคลของท่านใช้แล้วร่ำรวยกันทั้งนั้น ใครๆ ในสมัยก่อนจึงไปกราบท่านเต็มวัด

    ข้อมูลจากFB: หลวงปู่นูญ วัดเนินหอม
     
  7. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เพิ่มเติมเนื่องจากมีผู้สอบถามเรื่องแร่ทรหดมา ว่า

    มีพุทธคุณเช่นไร เนื้อแร่ตัวนี้เมื่อใส่จะรู้สึกร้อนและ

    กระหายน้ำ แต่ทำงานหรือออกกำลังกายจะไม่เหนื่อย

    หรือหมดแรง จะมีก๊อกสอง ก๊อกสาม ตามมาเรื่อยๆๆ

    ในเพศเดียวกันจะเป็นมหาอำนาจ ต่างเพศจะเป็นเสน่ห์

    เมตตา
    68833930_410156259845360_8048036279046111232_n.jpg 69317223_486167365274872_6501709922042904576_n.jpg
     
  8. somharnwong

    somharnwong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    415
    ค่าพลัง:
    +196
    ขุนแผนสวยงามครับ
     
  9. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ฉันหลวงปู่หมุนไม่ใช่ผู้วิเศษ
    ฉันเสกให้เจ้าได้แต่เพียง
    ดึงเอากิ่งไม้ ขอนไม้
    ที่ขวางทางชีวิตเจ้าออก
    ที่เหลือขึ้นอยู่กับบุญวาสนาเก่าก่อนของเจ้า
    โชคลาภสมควรแก่บารมีของเจ้าของ"

    หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล

    40564480_1838548356193533_6608151306265690112_n.jpg
     
  10. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ความเชื่ออาจจะจริงหรือไม่จริงก็ได้ เราจะทราบได้จาก

    การพิสูจน์ แต่บางคนเลือกที่จะเชื่อโดยไม่มีการพิสูจน์

    และไม่มีเหตุผล โดยการนิยามคำว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่

    พระพุทธเจ้าทรงแสดงพระสูตรแก่ชาวกาลามะ หมู่บ้าน

    เกสปุตตนิคม แคว้นโกศล

    กาลามสูตรเป็นหลักแห่งความเชื่อที่พระพุทธองค์ทรง

    วางไว้ให้แก่พุทธศาสนิกชน ไม่ให้เชื่อสิ่งใด ๆ อย่าง

    งมงายโดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงถึงคุณ

    โทษหรือดีไม่ดีก่อนเชื่อ มีอยู่ 10 ประการ ได้แก่

    1.อย่าปลงใจเชื่อด้วยการฟังตามกันมา

    2.อย่าปลงใจเชื่อด้วยการถือสืบ ๆ กันมา

    3.อย่าปลงใจเชื่อด้วยการเล่าลือ

    4.อย่าปลงใจเชื่อด้วยการอ้างตำราหรือคัมภีร์

    5.อย่าปลงใจเชื่อเพราะตรรกะ (การคิดเอาเอง)

    6.อย่าปลงใจเชื่อเพราะการอนุมาน (คาดคะเน)

    7.อย่าปลงใจเชื่อด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล

    8.อย่าปลงใจเชื่อเพราะเข้ากันได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว

    9.อย่าปลงใจเชื่อมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้

    10.อย่าปลงใจเชื่อเพราะนับถือว่าท่านสมณะนี้ เป็นครูของเรา

    c_oc=AQk9LZGutjGf9xoBdtWu-mWvMQ2hPebD3ytLhXb3M6h3zbt3vkA5dxP6E0JwWCkd_hE&_nc_ht=scontent.fbkk2-8.jpg
     
  11. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    "รูปคือว่าง แลว่างก็ไม่ต่างจากรูป
    สมมติคือจริง แลจริงก็คือสมมติ"

    ภาพวาดพญามังกร

    ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีผู้ทูลถามพระพุทธองค์ว่า
    สุขาวดีพุทธเกษตรมีจริงหรือไม่ ทรงตรัสว่า

    "ดูก่อนอานนท์

    กาลสมัยหนึ่งนั้นมีจิตรกรคนหนึ่งเป็นผู้ที่วาดรูปได้วิจิตรพิศดารมาก

    เมื่อเขาวาดรูปใดรูปนั้นก็เสมือนจริงแล้วมีชีวิตขึ้นมาในทันที

    วันหนึ่งเขาคิดว่าวันนี้จะวาดรูปพญามังกรบนกำแพง
    เมื่อถึงเวลาจึงเริ่มลงมือวาดพญามังกรดั้นเมฆ

    เขาเริ่มวาดจากส่วนหาง ลำตัว ขา กงเล็บ ศีรษะ เขา หนวด และเมฆห้าสี

    ปรากฏว่าฉับพลันบนท้องฟ้าก็มีเมฆห้าสีเริ่มก่อตัว

    มังกรในภาพบนกำแพงก็เริ่มขยับตัวไปมาเหมือนกำลังมีชีวิต

    พญามังกรเริ่มแผดเสียงคำราม ขยับตัวเคลื่อนไหวไปมา แต่ไม่สามารถออกจากภาพได้

    จิตรกรตกใจ เพราะ เป็นเหตุการณ์ที่แปลกกว่าทุกครั้ง

    ครั้นได้สติจึงได้กล่าวถามพญามังกรว่า ไฉนจึงไม่ทะยานขึ้นฟ้าไปเล่ามังกร

    พญามังกรกล่าวตอบว่า

    เพราะท่านลืมแต้มหมึกเป็นดวงตาให้เรา

    จิตรกรจึงฉุกคิดขึ้นมาได้ คว้าพู่กันจุ่มน้ำหมึกแต้มลงในดวงตาพญามังกร

    พญามังกรพลันเคลื่อนไหวในกรอบรูปภาพ โดยการม้วนตัวสามครั้งในกรอบรูป แผดเสียงคำรามสามครั้ง แล้วทะยานออกจากภาพบนกำแพงทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าในทันที

    ดูก่อนอานนท์

    หากแม้นว่า พญามังกรยังมีชีวิตสมบูรณ์พร้อมได้ด้วยความสมบูรณ์แห่งตา แม้ว่าจะกำเนิดจากภาพที่วาดที่จิตรกรวาดขึ้นมา

    แลด้วยเหตุไฉนใดเล่า ที่ทรายทองคำ ดอกบัวที่ใหญ่โตดุจล้อเกวียน หอวิหาร วัชรอาสน์ของพระอมิตาพุทธเจ้าพร้อมทั้งเรื่องราวของสุขาวดีพุทธเกษตร จะไม่มีอยู่จริง...

    เพราะจิต คือ ผู้กระทำ
    จิต คือ ผู้รังสรรค์พระพุทธเจ้าทั้งมวลในตรีกาล

    งูเปิดตาทั้งห้าลุพุทธจักษุจึงกลับกลายเป็นพญามังกร

    จิตอุปมาดั่งจิตรกรวาดภาพแห่งภพภูมิให้เคลื่อนไป

    แค่รังสรรค์ภาพทั้งหลายด้วยน้ำหมึกแห่งธรรม

    ทำใจให้บริสุทธิ์ดั่งแผ่นกระดาษรองรับภาพแห่งพระพุทธเจ้าทั้งมวลในตรีกาล

    ศักดิ์สิทธิ์ เรียบเรียงข้อมูลจาก ค้นธรรมใต้ร่มไผ่ม่วง

    c_oc=AQk5x3HJriXtLLPfSPt4aFBJmKZCCKe4fcQL5wO_pWJ5qNmE8tRFjt8Tm-VP_T96vNM&_nc_ht=scontent.fbkk3-1.jpg
     
  12. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เมื่อถึงวันที่บ้านเมืองแตกแยกเดือดร้อน ผมนึกถึงบารมี

    ของพระองค์ท่าน ถ้ามีโอกาสและปัจจัยอำนวยผมจะ

    สร้างล็อคเก๊ตของท่านเพื่อบูชาเป็นขวัญกำลังใจให้กับ

    ทุกคนครับ อาจจะเงินไม่มากมาย ศิษย์อาจจะไม่เยอะ

    ชื่อเสียงจะไม่ดัง คนไม่รู้จักมากมาย แต่เราหวังทำเพื่อ

    ช่วยเหลือทุกคน บางครั้งหรือบางทีจะขาดทุน แต่เราก็

    ยังคงทำต่อไป ถ้าสิ่งนี้ยังมีคนเห็นคุณค่า แม้จะเพียง

    เล็กน้อย แต่มันคือกำลังใจของผมที่จะทำต่อไป

    c_oc=AQmeb8EbITV0j11fRBJnLJH1NjCXvtjS5nYo6gRHlvIc9vBUWBfMpaSPr7z1lZoKpns&_nc_ht=scontent.fbkk4-2.jpg
     
  13. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ขอแสดงความเสียใจด้วยครับกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่โคราช เคยเขียนเล่าไว้เรื่องวันพระจันทร์เต็มดวง มีผลต่ออารมณ์ของคนมากกว่าวันอื่น มันมีพลังมากในวันนั้น เครื่องรางด้านเสน่ห์ก็เช่นกันครับ จึงควรมีสติให้มากเวลาถึงวันนี้
     
  14. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เคยสงสัยว่าคนดีคนชั่วเราจะดูอย่างไร ทุกคน

    จะบอกว่าเป็นคนดีทุกคน ถ้าใครบอกว่าผมเป็น

    คนชั่วก็คงอยากให้คนอื่นมองตัวเองดี อย่างน้อย

    ก็ไม่โกหก บางคนบอกว่า คนชั่วก็ทำดีได้ คนดี

    ทำชั่วไม่ได้ ถูกต้องครับ ไม่อย่างนั้น พวกมาร

    ที่เป็นเทวดาทำไมจึงมีวิมานอยู่บนสวรรค์

    ทั้งที่จิตเป็นมาร เอาเป็นว่าเรื่องดีชั่วนั้นมันยาก

    ที่จะบ่งบอก ขอให้เป็นว่าทุกคนเป็นคนดี มาก

    หรือน้อยเท่านั้น แต่อยากให้นึกถึงคำว่าเป็น

    คนที่มีค่าจะดีกว่า ตนมีค่าไม่ใช่มีราคาเหมือน

    เพชร ทองคำ ไม่ใช่คนรวย แต่คนมีค่าคือคนที่

    ช่วยเหลือ เกื้อกูล สังคม ผู้อื่น นั่นแหละคือ

    คนที่มีค่า ส่วนที่เอารัดเอาเปรียบ รังแก ข่มเหง

    ถึงแม้จะร่ำรวยแต่ถือว่าเป็นคนไร้ค่า ไร้ราคา

    เศษดินยังดีกว่า วันนี้ขอจบเพียงเท่านี้
     
  15. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เพราะขาดจึงเคลื่อน เมื่อเคลื่อนจึงขาด galaxy-wallpaper-36-620x330.jpg
     
  16. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ชั่วโมงนี้ ไม่มีอะไรที่เหมาะสมไปกว่าการทำปรอท

    แล้วครับ เสร็จแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ พกพา

    หรือทาเข้าร่างกาย คุณสมบัติปรอทนั้นหลวงปู่

    ละมัยเคยกล่าวไว้ ไม่แพ้เหล็กไหล
    31181.jpg 31180.jpg
     
  17. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ในสมัยก่อนจะใช้ปรอทในการกันไข้ป่า เชื้อโรคมีมานานแล้ว

    นักเดินทางต้องมีติดตัวไว้เสมอเวลาเข้าป่า
    31540.jpg
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 31539.jpg
      31539.jpg
      ขนาดไฟล์:
      76 KB
      เปิดดู:
      53
  18. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    เมื่อเช้าจะเอาถุงมือยางที่ใส่กวนปรอทฆ่าพิษกับข้าวสุก

    เมื่อสองวันก่อนมาล้างเพราะตอนนั้นเสร็จแล้วก็ทิ้งเอา

    ไว้ก่อนเพราะเก็บของจนลืมเมื่อเช้าเลยเอามาล้าง

    พวกคราบข้าวเป็นก้อนๆๆยังติดอยู่ กะว่าคงบูดไปแล้ว

    แต่พอคลายถุงมือออกมา ข้าวไม่มีกลิ่นบูดหรือเหม็นเน่า

    คิดได้ว่าด้วยอานุภาพของปรอท จะกำจัดและฆ่าเชื้อโรค

    และแบคทีเรียต่างๆๆทำให้หยุดการเติบโต ทำให้ข้าวสวย

    ไม่บูดครับ
    32061.jpg
     
  19. เมตตาเปิดโลก

    เมตตาเปิดโลก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2019
    โพสต์:
    135
    ค่าพลัง:
    +547
    ประสบการณ์ท่านหนึ่งพกผ้ายันต์แม่เป๋อ คล้ายกับอีกท่านหนึ่งที่เคยลงไว้ให้อ่านครับ ว่าพกแล้วเหมือนมีคนตามตลอดเวลา ท่านนี้ทาเหล้าขาวและอุทิศบุญให้แม่เป๋อ
    ผ้า.jpg
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...