ประสบการณ์ 2 ครั้งแรก ไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย Bens, 2 เมษายน 2006.

  1. Bens

    Bens เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2006
    โพสต์:
    227
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,498
    ผมได้ไปฝึกมโนมยิทธิที่บ้านสายลม
    ไปครั้งแรกวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมานี้เอง
    ผมไปฝึก 2 วัน คือวันที่ 1 กับวันที่ 2 เมษายน
    [​IMG]
    (ภาพประกอบ จากวัดท่าซุง)

    วันแรกที่ผมไปฝึกผมไปที่บ้านสายลมถึงที่นั้นก็ประมาณ 9 โมงเช้า
    ตื่นเต้นนะครับกลัวไปไม่ทันเขาขึ้นกรรมฐาน พอไปดูป้ายเขาติดไว้ว่าฝึกมโนมยิทธิตอน 12.30 แต่ต้องไปถึงที่นั้นก่อน 11 โมงนะครับไปเตรียมตัวก่อน ถ้าเกินเวลาเขาจะไม่ให้เข้า

    ชั้นล่างมีหนังสือเทป ซีดีของหลวงพ่อฤาษีลิงดำขายอยู่หนังสือของหลวงพ่อดีๆทั้งนั้นเลย
    อ่านแล้วสนุกมาก ราคาก็ถูกอย่างหนังสือ หลวงพ่อตอบปัญหาธรรมเล่มแค่ 10 บาทเองหนาได้สัก 100 หน้าอย่างต่ำ เมื่อใกล้จะถึงเวลาผมก็เข้าไปจัดดอกไม้ 3 สี เทียนหนัก 1 บาทหนึ่งเล่ม ธูป 3 ดอกค่าครู เงิน ไม่ต่ำกว่าหนึ่งสลึ่ง ผมใส่ 20 บาท

    แล้วจากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้น 3
    ชั้น 3 นี้สำหรับผู้ฝึกใหม่ครับ
    ชั้น 2 นี้เขาฝึกฌาน 8 กัน
    ถ้าฝึกมโนยิทธิเบื้องต้นได้แล้วถึงจะลงมาชั้น 2 ได้ สอนเกี่ยวกับท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ

    พอผมเข้าไปในห้อง เอาพานยกครูนะโม 3 จบ อธิฐานจิต
    หลังจากนั้นก็รอจนถึงเวลาแต่ในขณะรอนี้ครูฝึกเขาให้เราภาวนานะมะพะธะไปเรื่อยก่อนเพื่อให้จิตไม่ฟุ้งซ่าน
    พอประมาณเที่ยงครูฝึกก็จะจัดคนเข้าห้องห้องละ ประมาณ 8 คน เข้าไปนั่งในห้องรอครูฝึกจะเข้ามาซักพักหนึ่ง

    พอครูฝึกเข้ามา ครูฝึกก็จะถามเกี่ยวกับเราว่าเคยฝึกมาบ้างหรือยังถ้าคนเคยฝึกแล้วก็ถามว่าเป็นเพราะอะไรถึงทำไม่ได้ ครูฝึกก็จะช่วยตอบว่าเพราะอะไรและควรจะทำอย่างไร พอเที่ยงครึ่ง ครูฝึกก็จะเปิดเทปของหลวงพ่อเราก็ต้องเปลี่ยนมานั่งพับเพียบเพื่อแสดงความเคารพต่อหลวงพ่อ หลวงพ่อก็จะเทปเกี่ยวกับการฝึกมโนยิทธิแล้วก็ขึ้นกรรมฐาน

    พอเทปหลวงพ่อจบครูฝึกก็จะบอกให้นั่งสมาธิหายใจเข้านะมะ หายใจออกพะธะในขณะนี้พยายามทำจิตให้สงบไม่ต้องคิดอยากจะไปที่ไหนทั้งนั้นถึงเวลาครูฝึกก็จะพาไปเอง พอทำจิตไปซักพักจนจิตสงบทุกคนครูฝึกก็จะสั่งให้หยุดกำหนดลมหายใจหยุดภาวนา ให้ฟังครูฝึกแต่ไม่ต้องลืมตา (แต่ผมดันลืมตาซะนี้ก็ไม่รู้นี่หนาเลยรีบหลับตากลัวครูฝึกเห็น)

    หลังจากนั้นครูฝึกก็พูดว่าเกิดเป็นคนมันทุกใช่ไม้ เราก็ต้องตอบว่าใช่
    แต่จิตเราก็ต้อคิดด้วยนะว่ามันทุกข์จริงๆไม่ใช่ซักแต่ตอบแล้วไม่คิด
    แล้วก็พูดต่อว่า หิวก็ทุกข์ใช่ไม้ค่ะ ใช่ครับ

    ปวดท้องเข้าห้องน้ำก็ทุกข์ พลัดพรากจากของรักก็ทุกข์ใช่ไม้
    ใช่ครับ(คิดตามด้วยว่ามันทุกข์นะ)
    แล้วก็พูดไปเรื่อยๆเกี่ยวกับความทุกที่ต้องเกิดจนผมรู้สึกเบื่อหนายกับการเกิดเริ่มเห็นทุกข์ขึ้นมา จากนั้นครูฝึกก็จะพูดขึ้นว่าในเมื่อการเกิดทำให้เกิดทุกข์เรายังอยากจะเกิดอีกไม้ แล้วทุกคนในห้องก็ตอบขึ้นมาพร้อมกันว่าไม่อยาก(ก็เวลานั้นมันไม่อยากจริงๆอะ)แล้วครูฝึกก็ถามว่าแล้วอยากอะไร ทุกคนก็บอกว่าอยากเข้านิพพาน

    จากนั้นครูฝึกก็เลยถามว่ารู้สึกมีพระพุทธเจ้าอยู่ใกล้ไม้ ถ้ารู้สึกอย่างไรตอบไปเลยไม่ต้องรังเรถ้ามัวแต่รังเรจิตคิดว่าอยู่หรือเปล่าหว่า คราวนี้จิตก็ฟุ่งอุปาทานก็เริ่มรับประทานและ ครูฝึกบอกว่าจิตแรกที่รู้สึกคือความจริงรู้สึกอย่างไรตอบไปเลยไม่จำเป็นต้องเหมือนคนอื่นเพราะสมาธิของคนเราไม่เท่ากัน แต่วันแรกผมไม่เข้าใจพยายามเอาจิตไว้ที่ลูกตาเพราะใจเราคิดว่าคงจะรู้ภาพทางตาแต่ยิ่งมองยิ่งมืดมีเป็นอยากผม 4 คน 4 คนที่เหลือก็ไปบ้างจิตตกบ้างแล้วก็ขึ้นไปใหม่อีก

    ส่วนผมพอจิตตกก็ปวดขาบ้างหลังบ้างเป็นอันว่าเวทนามันมาคราวนี้ไปไม่ได้ละเจ็บไปหมด 4คนนั้นก็ไปดาวดึงไปนิพพานกันเห็นพระพุทธเจ้ากัน เห็นหลวงพ่อฤาษีบ้างเห็นปราสาทที่นิพพานบ้าง บางคนก็ตอบเป็นบางช่วงเพราะบางครั้งสมาธิตก

    [​IMG]
    (ภาพประกอบ จากวัดท่าซุง)

    คนที่ไปได้ครูฝึกก็จะบอกให้ไปที่พระจุฬามณี ผมลืมบอกไปว่าการไปทุกครั้งต้องขอพุทธเจ้าทุกครั้งให้ท่านพาไปไปเองอาจจะเป๋ได้ขอบารมีทานช่วยพาไป พอคนที่ไปได้ครูฝึกก็จะบอกว่าให้ขอเทวดาที่เฝ้าประตูพระจุฬามณีขอท่านเข้าไป ครูฝึกบอกว่าผู้ที่เข้าไปได้ศีลต้องครบขาดมิได้ ถ้าเข้าไปได้ครูฝึกก็จะถามว่าตอนนี้พรุพุทธเจ้าอยู่ที่ไหน คนที่รู้ก็จะตอบว่าอยู่ตรงกลางครับครูถามต่อว่าองค์ท่านเป็นอย่างไร ก็มีคนตอบว่า องค์ท่านใส่สว่างมากครับ บางคนก็ตอบไม่เหมือนกัน บางคนขาวบ้าง ขาวทึบบ้างเพราะจิตสมาธิไม่เท่ากัน จากนั้นครูฝึกก็บอกให้เข้าไปกราบท่าน จากนั้นก็บอกให้ขอบารมีพรุพุทธเจ้าเชิญพ่อแม่ผู้มีพระคุณครูบาอาจารย์ในอดิตชาติมา ครูฝึกก็ถามว่ามายัง คนที่ได้ก็จะตอบว่ามาแล้วครับ

    ครูฝึกถามต่อว่า มาเท่าไหร่ บางคนตอบว่าเยอะมากนับไม่ถ้วนบางคนตอบว่า 10 กว่าคน
    ครูฝึกก็เลยบอกว่าเอาใหม่ขอบารมีพระพุทธเจ้าขอให้ลูกเห็นพ่อแม่ครูอาจารย์ผู้มีพระคุณได้หมดทุกคน คราวนี้คนนั้นก็ตอบว่ามาเยอะมากเลยครับนับไม่ถ้วยเลย

    จากนั้นครูฝึกก็ถามว่านางฟ้าสวยกว่านางสาวไทยไม้คนที่ได้ก็ตอบว่าสวยมากครับสวยกว่ามากเลย จากนั้นครูฝึกก็บอกว่าให้เราแยกกายให้ครบตามจำนวนเทวดาทุกองค์ที่เราเห็น จากนั้นก็ให้กราบท่านขอขมาท่านแล้วจากนั้นก็อุทิศบุญกุศลที่เรามานั่งกรรมฐานให้ท่านแล้วครูฝึกก็ถามต่อว่า พออุทิศบุญให้แล้วกายท่านพ่อท่านแม่สว่างขึ้นไม่สวยกว่าเดิมไม้ คนฝึกก็ตอบว่าสวยขึ้นครับ แล้วกายเราหละสว่างขึ้นไม่ครูฝึกถาม กายเราก็สว่างใสขึ้นครับ

    จากนั้นครูฝึกก็บอกให้ไปที่นิพพานเพื่อไปดูสิว่าวิมานที่นิพพานเรามีไม้แต่ก่อนจะไปกราบท่านพ่อท่านแม่ก่อน
    ก็แยกกายกราบท่านคนที่ฝึกได้ผมเห็นเขายิ้มมีความสุขมาก

    ครูฝึกก็ถามว่าท่านพ่อท่านแม่ทำอยากไรกับเราบ้างท่านพูดอย่างไรกับเราบ้าง บางคนก็ตอบว่า พ่อแม่เทวดาบางท่านกอดเราบ่าง หอมเราบ้าง ลูบหลังเราบ้าง บอกให้มาเยี่ยมท่านบ่อยๆบางผมฟังยังคนลุกเลยไม่ใช่กลัวนะดีใจกับเข้าด้วยซึ้งเลย เพราะคนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติมีพ่อแม่ต้องหลายคน จากนั้นครูฝึกก็บอกให้เราเข้าไปกราบพรุพุทธเจ้าแล้วขอท่านพาเราไปที่นิพพาน

    (เดี่ยวผมมาเล่าต่อนะครับ เวลาหมดพอดี นี้ขนาดวันแรกนะเนี๊ย )
     
  2. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,810
    ค่าพลัง:
    +18,982
    มีหลายๆคนไปนะครับ

    ช่วยๆ เล่ามาหน่อย ผมฝึกมาแบบมั่วๆ

    ตามต้นตำรับเนี่ยต้องบ้านสายลมกะวัดท่าซุงครับ
     
  3. Supernova

    Supernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    231
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ผมก็ไปทั้ง 2 วันเหมือนคุณ passaway007 เลยครับ
    วันแรกผมใช้ตาเนื้อมากเกินไป ได้มโนมยิทธิแต่ได้แบบสงสัย ไปตามครูตลอดเลยครับแบบว่าเร็วมากๆ
    วันอาทิตย์ผมว่าครูเขาอธิบายได้ดีครับเป็นครูที่เขาคัดคนมาฝึกตามห้องต่างๆ ผมว่าครูคนนี้เก่งมากเลยครับ ผมว่าในแต่ละห้องครูเขาต้องดูว่าเรามีของเก่าติดมาหรือป่าว วันเสาร์ห้องผมได้ไปนิพพานหมดเลย ในความรู้สึกของผม(แต่ยังไม่เห็นชัด) รู้สึกว่ามันสว่างมากๆ และดูสงบ ส่วนสวรรค์ความรู้สึกมีสีสันมากมายดูรื่นเริง ทุกคนต้องมากราบพระพุทธองค์ที่พระจุฬามณีก่อนขึ้นไปพระนิพพานได้
    แต่ผมว่าไปแล้วคุ้มเลยครับ จิตไปพระนิพพานกลับมารู้สึกสงบมาก ผมว่าเป็นอนิสงค์ที่ได้ไปครับ เหมือนเกิดใหม่เลยครับ
    วันอาทิตย์เกือบร้องไห้ ตอนไปเจอพ่อแม่ในอดีตบางคนเขาลูบหลังกอดผมแบบว่ารู้สึกได้เลยครับ ครูเขาก็บอกว่า มีคนๆหนึ่งพ่อแม่เขารอมาเป็นแสนๆชาติ เป็นหลายๆกัปป์เพื่อรอวันที่เราได้ขึ้นมาที่นี้(ฟังแล้วซึ้งเลยครับ ว่าทำไมเราถึงหลงผิดมานานขนาดนี้) ผมไม่รู้ว่าครูหมายถึงใคร
    พอออกสมาธิผมรู้สึกว่าอยากจะเห็น พ่อแม่ในอดีตของผมมากๆเลยครับ
    พรุ่งนี้(วันจันทร์) จะไปทำสังฆทานเพราะหลวงพ่อท่านยังอยู่กทม ครับ ทั้งเสาร์-อาทิตย์ไปถึงเที่ยง 2 วัน จะไปทำก็กลัวไม่ทัน เห็นหลวงพ่อยังไม่มา ก็เลยขี้นไปฝึกก่อนเลย
    อยากให้เพื่อนๆได้ไปครับ ถ้ามีโอกาสครับ
     
  4. Seel

    Seel เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    260
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,604
    โมทนาคับ ผมเคยไปฝึกญาณ 8 ที่บ้านสายลม ได้ทำบุญด้วย
     
  5. Bens

    Bens เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2006
    โพสต์:
    227
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,498
    ต่อหละนะครับ

    [​IMG]
    (ภาพประกอบ จากวัดท่าซุง)

    หลังจากที่ครูฝึกบอกว่าให้ขอบารมีขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าช่วยพาเราไปนิพพาน คนที่ฝึกได้ก็จะขอพระพุทธเจ้าช่วยพาไปนิพพาน

    จากนั้นครูฝึกก็ถามต่อว่าถึงยัง
    คนที่ถึงก็จะตอบว่า ถึงแล้วครับ

    ครูฝึก ขอบารมีพระพุทธเจ้าท่าน
    ถามสิเรามีวิมานที่นิพพานไม้ คนที่เข้าถึงนิพพานก็จะตอบว่ามี

    หลังจากนั้นครูก็ถามว่าวิมานเราเป็นอย่างไรสวยไม่มีลักษณะอย่างไร
    อันนี้ผมจำได้คร่าวบางคนบอกว่าใสเหมือนแก้วบางคนบอกว่าเป็นทองบ้าง
    แต่ครูก็บอกว่าให้ขอบารมีพระพุทธเจ้าขอให้ลูกได้เห็นได้ชัดกว่านี้
    คนที่บอกว่าเห็นวิมานของตัวเองเป็นทองก็เห็นเป็นแก้ว ครูถามว่าใหญ่ไม้ คนฝึกบางคนก็บอกว่าใหญ่ บางคนก็บอกว่าเล็ก ครูฝึกก็บอกว่าไม่เป็นไร

    หลังจากนั้นก็ขอให้พระพุทธเจ้าเข้าไปอยู่ในวิมานเราได้ไม้
    บางคนก็ตอบว่าได้บางคนก็เงียบซักพักแล้วก็ตอบว่าได้ เพราะจิตบางคนก็ช้า (หลังจากนั้งกรรมฐานเสร็จครูก็บอกว่าบางคนนะกว่าจะคลานไปกราบพระพุทธเจ้าได้นี้ช้าสะจริงๆพอกราบได้บางคนก็เข้าไปกอดขาท่านซะแน่นเลยไม่ยอมไปไหน บางคนจิตดีคิดคิดก็ไปซะแล้วแล้วผมจะเล่าต่อตอนท้ายครับ)

    พอขอให้พระพุทธเจ้าเข้าไปวิมานเราแล้วก็ไปกราบท่านจากนั้น
    ครูก็บอกว่าให้นอนที่วิมานของเรา แล้วก็ถามต่อว่าเวลานอนนอนท่าไหน บางคนก็ตอบว่านอนหงายไปเลยครูฝึกก็เลยบอกว่าเอาใหม่ เพราะเทวดาเขาไม่นอนหงายกัน เลยกำหนดจิตใหม่คราวนี้คนฝึกก็บอกว่านอนคล้ายท่าไสยยาด

    ครูก็ถามงว่าเวลานอนนอนตรงไหนมีที่นอนไม้ บางคนตอบว่านอนพื้น บางคนบอกว่ามีแท่นนอน คนท่มีแท่นนอนถูก ครูก็เลยให้กำหนดจิตใหม่ขอบารมีพระพุทธเจ้าต่อ(การขอบารมีพระพุทธเจ้านี้สำคัญนะครับจะทำให้เรารับรู้ในสิ่งที่ถูกต้องครูบอกว่าไปไหนต้องขอพระพุทธเจ้าทุกครั้งไปเอง อาจจะเป๋ได้ต้องให้พุทธเจ้าพาไป)
    พอทุกคนตอบเหมือนกันครูก็ถามต่อว่ามีหมอนไม้ ถ้ามีเป็นอย่างไร ก็ตอบว่ามีเป็นหมอนสามเหลี่ยม (ลักษณะคงคล้านหมอน 3 เหลี่ยมที่เราเคยเห็นกันตามวัดพอเข้าใจไม้ครับนึกภาพตามออกไม่รับ การที่ผมเล่ามานี่ถ้าท่านอ่านไปด้วยรู้สึกเห็นภาพไปด้วยท่านก็เหมือนฝึกมโนยิทธิไปด้วยน้าผมรู้สึกอย่างงั้นเพราะ ที่ผมไปฝึกนี้พอครูให้นั่งสมาธิจนจิตสงบไม่มีรักโลภโกรธหลงและก็ไม่รู้สึกที่อยากจะเกิดอีก

    ครูก็บอกให้หยุดเลิกภาวนาแล้วฟังครูเข้าพูดแล้วใช้จิตนึกตามสิ่งที่เราสัมผัสแล้วอย่าสงสัยครูฝึกถามแล้วตอบทันทีอย่าสงสัยเด็จขาดไม้งั้นฟุ้งซ่านตอบไปเลยรู้สึกไงตอบเลยอย่าคิด ครูบอกว่าไม่จำเป็นต้องเหมือนกันเพราะเทวดาบางองค์มาส่งเคราะเรามาไม่เหมือนกันพอเข้าใจที่ผมอธิบายนะครับผมพยายามให้คนอ่านได้เข้าใจไปด้วย)

    จากนั้นครูก็บอกให้เราออกมาจากวิมาน แล้วก็ถามว่านอกวิมานเราเป็นอย่างไรบ้างมีอะไรบ้าง บางคนตอบว่ามีรั้วบ้าง มีต้นไม้บ้าง ครูถามว่ารั้วนี้เป็นไง บางคนตอบว่าเป็นไม้บางคนตอบว่าเป็นแก้ว บางคนแก้วใสบ้างสว่างบ้าง อันนี้ต้องเข้าใจนะครับกำลังจิตคนไม่เท่ากัน บางคนได้มาแล้วในชาติก่อน

    บางคนพึ่งฝึกในชาตินี้ จากนั้นครูท่านก็บอกว่าให้ไปหาหลวงพ่อฤาษีลิงดำ
    ครูถามว่าเห็นยัง คนที่เขาไปได้ก็ตอบว่าเห็นแล้ว(เออวันนี้ผมทำไม่ได้นะครับคนที่ได้มีแค่ 4 คนผมหลับตาฟังอย่างเดียว ผมมัวแต่ปวดขากับเจ็บก้นพูดแล้วก็เขินก็ผมไม่เคยนั่งนานอย่างนี้เลยอะ ตั้งแต่เที่ยงยัน เกือบบ่าย 3 ตอนที่ผมอยู่ที่บ้านผมนั่งอย่างมากก็ 30 นาที ส่วนมากจะ 20 นาทีก็เลิก

    ตั้งแต่ที่ผมเล่ามานี่คนที่ตอบก็คือ 4 คนที่ไปได้ส่วน อีก 4 คนซึ่งมีผมในนั้นด้วยไปไม่ได้ติดอยู่ที่ตัวยังห่วงตัวอยู่ปากบอกไม่ห่วงแต่ใจมันห่วงมันเลยไปไม่ได้ครับ และผมก็ติดอยู่ที่ตาด้วยเพราะตอนนั้นผมคิดว่าผมคงจะรับรู้ด้วยตาก็เอาจิตไปไว้ที่ตา ครูก็บอกว่า คนเรานะไม่มีตาทิพย์ คนที่มีตาทิพย์นะไม่ใช่คนแล้ว คนที่มีตาทิพย์มีแต่เทวดา ผมก็ยังไม่เข้าใจ

    ครูก็เลยอธิบายอีกว่า สมมุติว่าเราตายไปนี่ตามันเน่าแล้วนี้เราเอาตาเราไปไม่ได้เพราะตาเรามันไม่ใช่ของเรา ถ้าเราตายร่างกายมันก็เน่าตาเรากด็เน่าด้วย เอาจิตไปสิลูกผมก็ตอบว่าจิตมันคืออะไรครูก็ตอบว่าก็ใจนี้หละ ตอนแรกผมก็งงแล้วจิตอยู่ไหหว่า ก็เป็นอันว่าวันแรกผมได้แต่นั่งฟัง 4 คนนั้นพูดอย่างเดียวอีกใจก็น้อยใจเหลือเกินว่า เรานี้มันไม่มีวาสนาจะได้ไปสัมผัส น้อยใจจนอยากจะร้องไห้เลยคนอีก3คนที่เป็นอย่างผมก็รู้สึกอย่างผมท้อนะครับ เพราะมันไม่รู้จะไปไงกำหนดจิตไม่เป็นไม่รู้จิตอยู่ไหน ไอ้ตาเจ้ากรรมก็กระพริบอยู่นั้นหละจิตก็เลยไปกำหนดอยู่ที่ตา บางคนก็ไม่ติดที่ตาไปติดขาบ้าง หลังบ้างก็เลยไปไม่ได้กันพอเข้าใจแล้วนะครับว่าเพราะอะไรถึงไปไม่ได้ เพราะเรายังห่วงกายอยู่งเป็นทาสของร่างกายอยู่)

    ต่อครับพอคนฝึกเห็นหลวงพ่อก็ตอบว่าเห็นครับ
    ครูถามว่าหลวงพ่อมีรูปร่างอย่างไรยังเป็นพระอยู่ไม้
    บางคนตอบว่าเป็นพระอยู่ บางคนตอบว่าใส่เหมือนแก้วมีชฏา ใส่ชุดพระนิพพาน

    แล้วครูก็ถามต่อว่าท่านดีใจไม้ที่เห็นเรา
    4 คนนั้นก็ตอบว่าท่านยิ้มท่านดีใจครับ

    ครูก็ถามว่าท่านยิ้มเห็นฟันไม้
    4 คนนั้นก็ตอบว่า ไม่ครับท่านยิ้มน้อยๆ
    ครูก็ถามว่าท่านพูดอะไรบ้าง คราวนี้เงียบหมด
    ครูก็เลยบอกว่าให้กราบท่านซะ
    กราบยังครูฝึกถาม นักเรียนก็ตอบว่า กราบแล้วครับ

    จากนั้นครูฝึกก็บอกว่า ให้เราแยกกายให้เท่าจำนวนพระพุทธเจ้า พระอรหันต์ทุกๆท่านที่เราเห็นแล้วกราบท่านซะ กราบยัง ครูฝึกถาม กราบแล้วครับ นักเรียนตอบ จากนั้นครูฝึกก็บอกให้ลืมตา จากนั้นครูฝึกก็บอกว่าลืมตาแล้วยังเห็นพระพุทธเจ้าอยู่อีกหรือเปล่า นักเรียนก็ตอบว่ายังอยู่ครับ
    ครู ท่านยังมองเราอยู่หรือเปล่า

    นักเรียน มองอยู่ครับ (นี่ผมพึ่งมาเข้าใจตรงนี้ว่าเราใช้จิตไม่ใช่ใช้ตามันเป็นอย่างไร ที่เราหลับตานี้เพื่อไม่ให้เราจิตฟุ้งซ่าน ถ้าลืมตาจิตฟุ้งซ่านก็หลับซะ ถ้าหลับตาจิตฟุ้งก็ลืมซะ การที่เราเห็นมันไม่ได้เห็นด้วยตามันเห็นด้วยใจหรือจิตนี้เอง)

    คราวนี้ครูก็มาอธิบายที่หลังว่า คนที่ไปไม่ได้เพราะมันยังติดอยู่ที่กายมัวเอาจิตไปอยู่ตรงที่เราเจ็บเราปวด เราอย่าไปสนใจมันปล่อยมันไปรู้สึกอย่างไรก็ช่างมันเราปล่อยมันเจ็บก็ให้มันเจ็บไป

    ส่วนคนที่เห็นหลวงพ่อไม่เหมือนกันนั้นอันนั้นก็ไม่ผิดครูบอกว่า บางครั้งหลวงพ่อก็แสดงกายให้เหมือนตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ เพื่อให้เราจำท่านได้พอรู้ว่าเป็นหลวงพ่อก็ขอท่านให้เห็นความเป็นจริงของท่านที่อยู่บนนิพพาน ท่านก็จะแสดงออกมาว่าเวลาท่านอยู่ที่นิพพานเนี๊ยท่านเป็นอย่างไรใส่ชุดอย่างไร คนที่เห็นชุดนิพพานของท่าน ก็บอกว่าท่านใส่สว่างเหมือนแก้วท่านสว่าง

    พอผมนั้งฟังผมหละหมดอาลัยตายอยากเลยในขณะนั้นน้อยใจมั๊กๆ
    แต่ก็ดีใจกับคนที่ได้ผมปรื้มกับเขาด้วยก็เป็นอันว่าวันแรกก็จบเพียงเท่านี้ ก็แยกย้ายกันกลับบ้านส่วนผมก็ไปน้อยใจที่บ้านต่อนอนซึมเลยวันนั้น
     
  6. Bens

    Bens เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2006
    โพสต์:
    227
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,498
    วันที่ 2 วันอาทิตย์ผมหละไม่อยากจะไปเลยกลัวไปเลย แต่ใจมันก็คิดว่าตัวเองว่าไม่เอาไหนแค่นี้ท้อแล้วเหรอของอย่างงี้มันจะได้มาง่ายๆได้ไงถ้าเราไม่ปฎิบัติ

    คราวนี้ก็เลยมาทบทวนเรื่องศีลของตัวเองว่าพลาดตรงไหนบ้าง ถ้าพลาดเราก็เริ่มใหม่เอาใหม่ตัดจิตสมาทานศีลต่อพระพุทธรูปว่าจะตั้งใจรักษาศีลไม่ให้ขาด

    จากนั้นผมก็มีกำลังใจคิดซะว่าถึงเราไม่ได้อย่างน้อยเราก็ได้บุญเห็นไม่เห็นช่างเถอะ ขอเราเป็นคนดีพยายามทำบุญเท่าที่เราจะทำได้ เราษาศีลให้บริสุทธิ์ ผมก็คิดว่าเราก็คงไม่ลงนรกแล้วหละ เพราะหลวงพ่อบอกว่าถือศีล 5 คือการปิดประตูอบายภูมิ

    นี่ผมกำลังให้กำลังใจตัวเองอยู่นะครับผมพยายามคิดให้เข้าข้างตัวเองเข้าไว้เพื่อให้มีกำลังใจคิดถูกหรือผิดก็ช่วยตอบด้วยนะครับ แต่ผมก็ตัดสินใจไป

    แต่คราวนี้ไปถึงบ้านสายลมก็ซัก 10 โมงครึ่ง วันแรกถึง 3โมงเช้า
    ก็มานกลัวนี้หน่ายังรู้สึกน้อยใจอยู่เลยแต่ก็ขอสู้ได้ไม่ได้ช่างมานเรามาทางดีนี่ ถึงไม่ได้รับรู้อะไรก็จะขอนั่งสมาธิต่อไปอย่างไม่เห็นอะไรอย่างงี้หละนั่งเอาบุญ สะสมไว้ถ้าชาตินี้ไม้เข้านิพพานชาติหน้าบุญที่เราทำเอาไว้ชาตินี้ก็คงจะช่วยให้เราฝึกอีกไม่นาน ตอนนั้นผมรู้ซึ่งอย่างนี้ เพราะถ้าเรามัวแต่ท้อ เรามัวแต่คิดว่าชาติที่แล้วเราปฏิบัติมาหรือเปล่าเคยได้มโนยิทธิมาแล้วหรือเปล่าถ้าเกิดว่าชาติที่แล้วเราคิดอย่างชาตินี้สุดท้ายเราก็แห้วอีกในชาติหน้า ผมก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่เคยฝึกก็เริ่มชาตินี้หละสะสมไปเรื่อยๆก็แล้วกัน พอคิดได้อย่างงี้ก็เดินเข้าบ้านสายลมเลยแวะดูหนังสือหลวงพ่อสักหน่อย แล้วก็เดินไปเอาพานครู
    คนที่จัดพานครูคราวนี้เป็นผู้ชายเมื่อวานเป็นผู้หญิง

    [​IMG]

    ผมสงสัยในการปฏิบัติของผม ผมเลยถามผู้ชายคนนั้นว่า
    ถ้าเมื่อวานผมมาฝึกแล้วแต่ยังไม่ผ่านวันนี้ต้องยกครูอีกหรือเปล่า(มานเกี่ยวกับการปฏิบัติไม่นี้)
    เขาก็ถามว่าที่คุณฝึกไม่ได้เพราะอะไร
    ผมก็ตอบว่า เห็นครูเขาบอกว่าผมติดอยู่ที่ตาคิดแต่ว่าจะเห็นภาพที่ตาก็เลยเอาจิตไปปักไว้ที่ตา ผู้ชายคนนั้นก็เลยบอกว่า สมมุติว่าคนตายคุณเอาตาไปไม่ได้ตาคนอยู่ที่กายคนเรากายเนื้อ 3 วัน
    คนเราตายไปกายก็เริ่มเน่าแล้วตาก็เน่า คุณจะเอาอะไรไปเห็นหละ ตามันเน่าแล้วเข้าใจไม้
    ผมก็เริ่มเข้าใจหละ ขณะที่ผมคิดตามจิตผมก็เห็นภาพว่าตัวเองตายร่างเน่า
    แล้วก็เห็นจิตเราออกไปตาเราอยู่ที่กายมองไม่เห็น

    จิตต่างหากที่เห็นอ๋ออย่างนี่นี่เอพอเข้าใจแต่ยังไม่แจ่ม
    ผู้ชายคนนั้นก็มองหน้าผม สงสัยเขารู้ก็เลยพูดขึ้นว่า ถ้าตอนนี้คุณคิดถึงบ้าน คุณพอจะรู้ไม้ว่าห้องน้ำคุณเป็นอย่างไร คุณบอกได้ใช้ไม้ ผมก็บอกว่าได้ ที่นอนคุณเป็นอย่างไร รู้ใช้ไม่เราก็บอกว่ารู้
    ห้องพระมีพระกี่องค์อยู่ในลักษณะไหนคุณรู้ใช่ไม้ ผมก็ว่ารู้
    ขณะนี้คุณอยู่ที่นี้กายคุณอยู่ที่นี่ คุณรู้ได้ไง ก็ผมนึกตาม เข้าก็บอกว่านี่หละคือจิต

    เวลาคุดคิดอยู่ว่านั้นเป็นอะไรห้องอยู่ที่ไหนเตียงคุยเป็นอย่างไรนั้นหละคือคุณไปแล้วและขณะนี้คุณไม่สงสัยเพราะคุณรู้ว่ามันอยู่ตรงนั้นตรงนี้ ก็เหมือนกันเวลาครูถามถ้าว่าไปนิพพานยัง ใจเรายังรังเรอยู่มันก็ฟุ้งอุปทานก็มารับประทานเลย

    จิตแรกรู้สึกอย่างไรก็ตอบไปเลยอย่าคิด เพราะครูบอกว่าจิตแรกที่เราสัมผัสนั้นจะเป็นจริงไม่ต้องคิดปล่อยไป ผมเข้าใจอย่างนี้นะถ้ามีใครปฏิบัติอย่างผมแล้วไม่ได้คิดอย่างนี้ ท่านอย่าว่าผมมาหลอกลวงคนในเว็บนี้เลยถ้าท่านทำได้ผม โมทนาสาธุด้วย แต่ผมเข้าใจอย่างนี้เลยทำให้วันนี้ผมไปได้แต่จิตตกบ่อยแล้วผมจะเล่าให้ฟัง

    ตอนนี้เล่าถึงผู้ชายคนนี้ก่อนหลังจากนั้นมันก็ทำให้ผมเข้าใจเลยว่าใช้จิตมันเป็นไง
    คุณลองนึกสิอย่างตอนนี้คุณอยู่หน้าคอม ตอนนี้คุณอ่านกระทู้ผมอยู่พอผมเล่าถึงเทวดานางฟ้าไปตรงโน้นตรงนี้เวลาท่านอ่านท่านนึกภาพไปตามผมหรือเปล่า ท่านเห็นภาพอย่างไรจะใช่หรือไม่ใช่ช่างมันเพราะสมาธิคนเราไม่เท่ากัน ขณะที่ท่านอ่านข้อความที่ผมพิมพ์อยู่นี้ท่านก็ถือว่าทำสมาธิอยู่ สมาธิคืออะไรคือการตั้งใจ ขณะนี้ท่านกำลังตั้งใจอ่านข้อความนี้อยู่ ถ้าท่านไม่มีสมาธิในการการอ่านท่านก็จะไม่รู้เรื่องจริงไม้ ผมเคยนะอย่างผมอ่านหนังสืออยู่แต่จิตไปคิดถึงว่าเที่ยงนี้จะเล่นอะไรดีพอมารู้สึกตัวอ่านไปครึ่งหน้าแล้ว อ่านมาครึ่งหน้าแล้วกลับไม่รู้ว่าเราอ่านอะไรไปบ้าง พอเข้าใจตามผมนะครับ

    จากนั้นผมก็ถามผู้ชายคนนั้นว่าคนที่เป็นอย่างผมนี้เยอะไม้
    เขาก็ขำ เขาบอกผมว่าเยอะผมก็เป็นตอนแรกๆก็เป็นอย่างคุณนี้หละ
    คราวนี้ใจชื้นเลยมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย คราวนี้ผมก็ถามว่ามาครั้งที่ 2 ยกครูอีกไม้เขาก็ว่าก็ได้ครับ

    ผมก็ถือพานยกครูไป มี ธูป 3 ดอก เที่ยนหนัก 1 บาท 1 เล่ม ดอกไม่ 3 สี ก็มีดอกบัว 1 ดอก ดอกดาวเรือง 1 ดอก ดอกดกุหลาบอีก 1 ดอกก็ครบ 3 สี แต่ก่อนผมไม่เข้าใจว่าดอกไม้สามสีเป็นไงเอามาจากไหน แล้วก็ค่าครู 1 สลึง แต่ผมใส่ไป 20 บาท จากนั้นก็เดินขึ้นชั้น 3 แต่ก็ผ่านชั้น 2 เอ๊ะยังไงคนอ่านคงงงไม่ต้องงครับเพราะชั้น 2 ฝึกฌาน 8 ยังงงอยู่หละสิ เพราะว่าห้องชั้น 2 นี้คนที่จะเข้าห้องนี้ได้จะต้องฝึกมโนยิทธิเบื้องต้นจากชั้น 3 ได้แล้วถึงจะมาห้องนี้ได้ ซึ่งผมมาหยุดดูตรงนี้เพื่อดูคนในนั้นว่าผู้ที่ฝึกมโนยิทธิได้นี้หน้าตาเข้าเป็นไง สิ่งที่ผมเห็นก็คือคนธรรมดา หน้าตาบางคนเหี่ยวย้น แก่บ้าง หนุ่มบ้าง แต่ชราสะส่วนใหญ่ หนุ่มสาวมีประปราย

    (ใช้ศัพย์ขำๆนะจะได้ไม่เครียจขำหรือเปล่านี้ หรือว่าเครียจหนักกว่าเก่า บางท่านอาจคิดว่าผมใช้มุกอะไร มุกควายหรือ อิอิ อย่าซีเรียจนะเพราะตอนนี้ผมก็เครียจอยู่แล้วเพราะพิมพ์เหมือนมากเพราะวันนี้นั่งมาทั้งวันแต่ใจอยาก ให้ทุกคนในเว็บพลังจิตได้รับรู้เพราะผมสัญญาไว้แล้วว่าถ้าผมไปปฏิบัติที่บ้านสายลมเสร็จเมื่อไหร่จะมาเล่าสู่กันฟังถึงผมจะไม่ได้บอกว่าจะเล่าหลังจากปฏิบัติเสร็จก็เหอะแต่ผมอดใจจะเล่าให้คนในเว็บนี้ฟังไม่ไหว ไม่ใช้โออวดว่าตัวเองเก่ง แต่อยากให้ทุกคนรับรู็เพราะแต่ก่อนผมแต่ก่อนผมที่เข้ามาอ่านในกระทู้อภิญญานี้ก็เพื่ออยากหาคนที่ฝึกเป็นแล้วมาอธิบายวิธีฝึกว่าทำอย่างไร

    แต่ส่วนมากจะนำหลักคำของพระองค์โน้นองค์นี้มา ที่ท่านนำมาถ่ายทอดนั้นไม่ผิดครับทำให้ผมรู้สึกเข้าใจเข้าไปเรื่อยๆแต่ยังปฏิบัติยังไม่เข้าใจซักเท่าไหร่ ผมก็เลยอยากลองนำเอาประสบการณ์ที่ไปฝึกมาด้วยตัวเองนี้เล่าออกมาให้ทุกคนได้อ่านกันอยากให้ทุกคนรู้สึกไปตามผม เท่านั้นเอง และอยากให้ทุกคนคิดว่านิพพานนั้นมีจริงไม่สูญ ที่ว่านิพพานสูญนั้นที่สูญคืด สูญซึ่งจากกิเลสทั้งหลายทั้งปวง สูญจากความรัก โลภ โกรธ หลง ไม่ใช่ว่าหายไปเลย แต่ก่อนผมก็คิดว่าหายไปเลยเลยทำให้ไม่อยากนิพพาน แต่พอวันนี้ได้ไปสัมผัสเข้าผมหละอยากตายซะตอนนั้นเลยอยากไปอยู่กับพระพุทธเจ้า ถ้าท่านได้เห็นได้สัมผัสว่านิพพานเป็นอย่างไรท่านจะไม่อยากเกิดอีก การเกิดมันทุกข์มาก เกิดมาไม่สวยมันก็ทุกข์

    เกิดมาสวยแต่ท่านต้องกินต้องหา ต้องเจ็บต้องป่วยต่อให้ท่านสวยท่านก็ทุกข์ และความสวยจะอยู่กับเราได้ตลอดหรือ ท่าลองคิดดู วันนี้ถึงผมจะไปนิพพานแบบไปบ้างตกบ้างแต่ผมพอจะรับรู้ว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตอนนี้พระองค์ท่านมีกายอย่างไรผิวพรรณท่านเป็อย่างไร ใส่ชุดอย่างไร ถึงจะเห็นไม่ชัดแต่ผมก็มีกำลังใจที่จะสู้ต่อเพื่อจะได้เห็นพระองค์ท่านได้ชัดขึ้น ซึ่งตอนนี้ผมจะพยายามรักษาศีลให้ได้ดีที่สุดพยายามให้บริสุทธิที่สุด ตอนนี้เรายังต้องใช้ชีวิตอยู่ยังต้องพูดกับคนอยู่ ยังเดินอยู่ อาจจะเผลอไปบ้าง ในเรื่องศีล ก็เรายังไม่ตายนี่ตายเมื่อไหร่นั้นหละถึงจะเรียกว่าหยุด เอาหละเรามาเข้าเรื่องกันเลยหลังจากที่ผมยกครูเสร็จผมก็ไปนั่งรอครูเหมือนเมื่อวานแต่จิตก็ยังหวั่นอยู่ กลัวว่าจะทำไม่ได้แต่ก็พยายามห้ามใจโดยเอาหนังสือหลวงพ่อมาอ่านทบทวนดูเพื่อไม่จิตมันฟุ้งซ่าน

    ผมคิดว่าที่บ้าสงสัยก็จะบ้าคราวนี้หละ ผมมาคิดที่หลังว่าเราควรพอใจในสิ่งที่เราได้ ถึงเวลาจะได้มันได้เองไม่ต้องรีบร้อนไม่ต้องเร่งมันปล่อยไปตามสบาย นั้นให้กำลังใจตัวเองอีกและ ที่กลัวไม่ใช่กลัวอะไหร่หรอกครับผมกลัวว่าคนอื่นเขาเห็นหมดแต่ตัวเองไม่เห็นคนอื่นเขาตอบเจื่อยแจ๋วแต่เรากลับเงียบอยู่คนเดียวคุณรู้สึกอย่างไรเหมือนถูกทิ้งใช้ไม้ เมื่อวานเรามีเพื่อน 4 คนที่ไม่ได้ แล้ววันนี้หละจะมีเพื่อนไม้ นี้ผมกลัวตรงนี้กลัวจะกลายเป็นนักเรียนสอบตกคนเดียว ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คุณคิดดูเศร้ามะ เศร้ามากเลยนะ เอางี้ผมนี้ผมจะมาเล่าต่อวันนี้ขอพักอ่านเรื่องอื่นก่อนนะครับผมชักเมื่อยนิ้วแล้วตอนนี้ก็ 4 ทุ่มแล้วพิมตั้งแต่ 2 ทุ่ม คือพิมพ์ต่อมาจากกระทู้ที่ 2 แล้วก็มากระทู้นี้นะครับ ถ้าพรุ่งนี้มีเวลาผมจะมาเล่าผลของการปฏิบัติของวันที่ 2 นะครับว่าได้หรือไม่ได้ างท่านก็คงจะพอรู้แล้วว่าวันที่ 2 ผมพอได้ได้หรือไม่เพราะผมเกริ่นนำไว้ซะตอนต้นแล้ว สวัสดีครับ
     
  7. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +3,656
    โมทนาคับ.....แต่ขอติงหน่อยครับว่าตัวหนังสืออยู่ชิดกันเกินไป อ่านยากมากครับ อ่านไปปวดตาไป

    ถ้าได้ไปฝึกอีก หรือฝึกเอง ก็อย่าลืมมาเล่าประสบการณ์ในการฝึกให้กันฟังอีกนะครับ มีประโยชน์มากครับสำหรับคนฝึกมโนมยิทธิด้วยกัน
     
  8. xyuno

    xyuno Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +54
    ขอบคุณที่เล่าประสบการณ์ให้ฟังครับ [b-wai]


    ที่จริงแล้วผมก็ตั้งใจจะไปฝึกวันที่ 1-2 เหมือนกันแต่ก็ไม่ได้ไป -"-



    ปล.เดือนหน้าไม่พลาดแน่ๆครับ อิ อิ :cool:
     
  9. Boton

    Boton เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +184
    ขอโมทนาบุญ...ในการฝึกมโนมยิทธิของทุกท่านนะคะ...
     
  10. Bens

    Bens เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2006
    โพสต์:
    227
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,498
    หลังจากที่ผมได้เข้าไปในห้องฝึกมโนยิทธิแล้วยกพานครูเสร็จ ก็ไปนั่งรอครูฝึก
    พอนั่งรอสักพักครูฝึกก็จัดห้องห้องละ 8 คนบ้าง 9-10 คนบ้างจากนั้นก็ไปรอในห้อง

    ในขณะที่รอก็นะมะพะธะไปเรื่อยๆเพื่อทำจิตให้สงบเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเปล่าๆ รอสักพักครูฝึกก็เข้ามาอืมผมลืมบอกไปวันนี้ผมไม้ได้เข้าห้องเดิมอยากเปลี่ยนครูฝึกบ้างเพราะผมรู้สึกกลัวครูฝึกเมื่อวาน ท่านไม่ดุหลอกใจดีแต่ผมไม่รู้ผมกลัวท่านทำไมแต่ก็เปลี่ยนมาห้องถัดไปแล้ว

    เพราะถ้าเข้าห้องแล้วเปลี่ยนห้องไม่ได้ เพราะพอเข้าห้องแล้วจะมีกระดาษจดชื่อประมวณผลว่าเราวันนี้ทำได้หรือไม่ แต่ตอนแรกเราแค่เขียนชื่อที่อยู่เท่านั้นยังไม่ต้องไปติกอะไรเพราะครูจะประมวณผลเราเอง

    ซักพักครูฝึกก็เข้ามาคนนี้แก่กว่าคนเมื่อวานแต่ดูท่านใจดีมากท่านพูดเป็นกันเองท่านก็บรรยายประวัติของหลวงพ่อว่าตอนท่านอยู่ท่านทำอะไรสอนมโนยิทธิอย่างไร ผมฟังก็รู้สึกปรื้มใจในความมีเมตตาของหลวงพ่อมากจิตตอนนั้นผมอยากฝึกให้ได้อยากไปหาหลวงพ่อ

    [​IMG]

    พอถึงเวลาเที่ยงครึ่งเทปหลวงพ่อก็เปิดบรรยายธรรมแล้วหลวงพ่อก็ขึ้นกรรมฐานให้
    จากนั้นครูก็จะให้เราทำใจใฝห้สงบไม่ต้องคิดที่อยากจะไปให้กำหนดลมหายใจเข้าออก หายใจเข้านะมะ หายใจออกพะธะ

    วันแรกผมเอาจิตไปกำหนดที่ตา วันนี้ผมพยายามเอาจิตไว้ที่ลมหายใจเข้าออกพยายามไม่อยากรู้อะไรทั้งนั้น วันแรกผมตื่นเต้นใจสั่นไม่รู้จะเจออะไรมัวแต่คิดว่าจะไปได้ก็เลยไปไม่ได้ซะ วันนี้ผมเลยเอาใหม่ตั้งใจไม่สนอะไรทั้งนั้นไปได้ไม่ได้ชั่งมันเอาพื้นฐานก่อนเอาให้รู้แค่นั้นก่อน

    พอทำจิตไปซักพักก็ได้ยินครูบอกว่าให้หยุดภาวนา ให้ฟังอย่างเดียวแต่ไม่ต้องลืมตา
    จากนั้นครูก็พูดขึ้นว่าร่างกายเรามันทุกข์ เจ็บป่วยมันทุกข์ใช่ไม้ ทุกคนก็ตอบว่าใช่
    แล้วก็บรรยายความเกิดของมนุษย์ว่ามันทุกข์ไปเรื่อยๆเพื่อให้เราเห็นทุกข์ที่ท่านทำอย่างนี้
    ผมเข้าใจว่าท่านไม่อยากให้เราห่วงร่างกาย อยากให้เราตัดร่างกายนี้ซะจะเจ็บจะปวดก็ปล่อยมันไม่ไม่ใช่ของเราอะไรประมาณนี้ผมเข้าใจอย่างนี้นะ จากนั้นท่านก็พูดว่าเราไม่อยากเกิดอีกใช่ไม้ ทุกคนตอบว่าใช่ครับ เป็นเทวดา เป็นพรมก็ต้องมีจุติเราก็ไม่เอาใช่ไม้ เราก็บอกว่าไม่เอา

    เราต้องการนิพพานเป็นที่ไปใช่ไม้ ทุกคนตอบว่าใช่ครับ
    แต่ในขณะที่ตอบเราต้องนึกไปตามท่านด้วยอย่างครูบอกว่า ร่างกายเรามีแต่สิ่งสกปรกเราก็ต้องนึกว่าร่างเรามันสกปรกจริงๆถ้าเราไม่ร่างหน้า แปรงฟันให้มันมันจะสะอาดไม้ร่างกายนี้เราต้องดูแลมันตลอด ต่อให้สวยแต่ถ้าสกปรกมันก็ไม่สวยจริงไม้

    จากนั้นครูก็บอกให้เรานึกถึงห้องนอนของตัวเองว่าในห้องนอนมีอะไรบ้าง(บ้านของตัวเองนะครับ) ครูถามว่ามีเตียงไม้ ทุกคนก็ตอบว่ามี บนเตียงมีหมอนมีผ้าห่มไม้ ทุกคนก็ตอบว่ามี จากนั้นครูก็บอกว่าในบ้านมีหิ้งพระไม้หรือมีห้องพระไม้ให้เรานึกถึงที่นั้น

    ผมก็นึกถึงห้องพระของตัวเอง จากนั้นครูก็ถามว่าคลุกเข่ากราบพระได้ไม้
    ผมก็ตอบว่าได้เพราะจิตตอนนั้นกำลังคุกเข่ากำลังจะกราบพระ เพราะเรานึกไปด้วยทำไปด้วย


    ผมคิดว่าการที่ครูให้เรานึกถึงบ้านนั้นก็คือจิต จิตก็คือใจ
    ตอนนี้ใจเรานึกถึงห้องนอนนึกถึงห้องพระ เรารับรู้ภาพได้หมดเพราะเราเคยเห็นเคยเจอเราก็นึกได้

    ถ้าตอนนี้ผมบอกให้ทุกคนนึกถึงแม่ท่านนึกหน้าของแม่ออกได้ไม้ถ้านึกได้นั้น ก็คือจิตตอนนี้จิตท่านคึดถึงแม่แล้ว

    [​IMG]

    จากนั้นครูก็บอกว่าขอบารมีพระพุทธเจ้าให้เห็นท่านสิ เราก็ต้องใช้จิตแรกที่รู้สึกถ้าเห็นก็ต้องตอบทันทีไปเลยหามคิดไม่งั้นฟุ้งจิตมันจะปรุงแต่งแล้วมันจะกลายเป็นอุปทานไป
    ผมก็ตอบว่าเห็น

    แล้วท่านบอกว่าพระพุทธเจ้าท่านแต่งตัวอย่างไร
    บางคนก็ว่ามาแบบพรุพุทธรูปบ้างแบบผ้าเหลืองบ้าง
    แต่ส่วนผมมาแบบเป็นแก้วใส ผมก็บอกครูไป

    บางคนอ้ำอึ้งเพราะบางคนรู้สึกไม่เหมือนกันเลยไม่กล้าตอบกลัวผิด
    ครูก็เลยบอกว่าไม่เป็นไรพระพุทธเจ้าท่านมาให้เราเห็นไม่เหมือนกัน

    เราก็ขอบารมีท่านให้เห็นชุดท่านในแบบพระนิพพาน
    จากนั้นครูก็ถามว่าเปลี่ยนยังทุกคนก็ว่าเปลี่ยน จากนั้นครูถามว่าท่านใส่ ลองเท่าเหมือนเราไม่ ทุกคนก็ตอบว่าไม่ ครูถามว่า แล้วลักษณะอย่างไร ผมก็ตอบไปว่าปลายรองเท้าจะงอนขึ้นรองเท่าเป็แก้วสว่างใสสวยมาก ส่วนมากทุกคนจะบอกอย่างงี้บางคนก็ไม่เห็น

    ครูก็เลยบอกว่าให้ขอบารมีท่านเห็นลูกเห็นแต่ความเป็นจริงและชัดเจนด้วยเทอญพระพุทธเจ้าค่ะ
    พอคนที่ไม่เห็นจากขอบารมีท่านก็เห็นจากนั้นครูก็ถามต่อว่าท่านใส่กางเกงหรือกระโปรง
    ทุกคนก็บอกว่ากางเกง

    ครูก็ถามต่อว่ากางเกงแบบไหน
    ผมก็ตอบไปว่าแบบจูงกระเบนเนื้อผ้าเป็นแก้วใสสวยกางเกงทม่านยาวเลยหัวเข่ามาหน่อยหนึ่ง ตรงเกือบจะสุดปรายกางเกงมีเนื้อผ้ายื่นออกมา

    จากนั้นครูก็ถามว่ามีเข็มขัดไม้ ถ้ามีเข็มขัดนี้ผาดผ้าอยู่หรือเปล่า
    บางก็ตอบว่ารัดกางเกงบ้างใส่ไว้ที่เอวเฉยๆบ้าง จากนั้นครูก็ถามว่าแล้วเข็ใมขัดเป็นอย่างไร ผมก็ตอบไปว่าหัวเข็มขัดเป็นสีทองแต่ทองสวยมาก ไม่ใช่ทองทึบตรงกลางมีอัญมณีสายเข็มเป็นอันนี้ไม่แน่ใจนะครับบางครั้งเป็นแก้วใสสว่างบ้างเป็นเพรชบ้าง


    แล้วผมจะกลับมาเล่าต่อนะครับไปผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับเสร็จงานแล้วจะมาเล่าต่อ เรื่องที่ข้าพเจ้าเล่านี้บางท่านอาจจะไม่เชื่อผมก็ไม่ว่าท่านหรอกเพราะเรื่องนี้มันก็เกินวิสัยคนเข้าจะทำกัน แต่ถ้าทำจริงๆท่านก็ทำได้ขึ้นอยู่ว่าท่านจะทำหรือไม่ทำแค่นั้นเองครับ

     
  11. MadMouth

    MadMouth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    28
    ค่าพลัง:
    +522
    ไปฝึกมาเหมือนกันค่ะ แต่ไปวันอาทิตย์วันเดียว ครั้งแรกในชีวิต (ไม่นับที่ลองเอง เพราะไม่เกิดอะไรเลย 555) ช่วงที่นั่งภาวนา ร่างกายตั้งแต่เอวลงไป รู้สึกเหมือนแข็งเป็นหิน รวมถึงมือที่วางประสานที่หน้าตักด้วย ไม่ทราบว่าใครเคยมีอาการอย่างนี้หรือเปล่า เป็นเพราะเราเป็นเหน็บชาทั้งตัวจนไม่รู้สึกหรือเปล่าคะ

    ก็ไม่รู้ว่าไปได้หรือเปล่า แต่ก็เหมือนว่าจะเห็นด้วยตาในค่ะ ไม่รู้นึกไปเองหรือเปล่า แต่คิดว่าตอบคำถามครูฝึกได้ ที่แน่ๆ 2 คำถามค่ะ (ปลื้มนิดๆ คิดเอาเองว่าฉันคงได้ไปมาแล้วล่ะ 555 คราวหน้าจะขออาราธนาคุณให้แจ่มแจ้งกว่านี้ คราวนี้เห็นแบบบรรยากาศครึ้มฟ้า ครึ้มฝนน่ะค่ะ สดใสสว่างบางครั้ง) แต่ก็มีอาการเดียวกับเจ้าของกระทู้คือตากระพริบถี่มาก และไม่หยุดตลอดเวลาที่นั่งฝึก จะเป็นเพราะเกร็งเกินไปก็ไม่ทราบได้ ก็จะเห็นตักของเพื่อนๆ บ้างในบางครั้ง จิตตกบ้าง (ช่วงรอครูฝึกถามเพื่อนๆ ให้ไปพร้อมกัน) ส่วนตอนท้ายที่ไปพระนิพพาน คิดว่าไปไม่ถึงค่ะ เพราะได้ยินห้องอื่นออกกันแล้ว จิตพะวงกับนัดต่อไปที่บ้านอนุสาวรีย์ เหอ เหอ อดสัมผัสพระนิพพานเลยเรา คราวหน้าเจอกันนะคะเพื่อนๆ
     
  12. ธรรมรักษ์

    ธรรมรักษ์ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +52
    ไปมาเหมือนกัน ครั้งแรก

    ไปมาเมื่อวันที่2 มาถึงกรุงเทพประมาณ 6โมงเช้าจากภูเก็ต ถึงบ้านสายลมประมาณก่อน 8โมงเช้า เข้าพิธีบวงสรวงไหว้ครู และทำบุญสังฆทาน แล้วก็ไปฝึกมโน สนุกดี แปลกใหม่ ทำง่าย ไม่ต้องกังวล ไม่ต้องเครียด ไม่ต้องหวัง ปล่อยใจให้ไปตามที่ครูบอก ใจเห็นอย่างไร ก็บอกไปอย่างนั้น ไม่ต้องกลัวอายที่ตอบไม่ตรงกับคนอื่น แต่ที่ประทับใจคือความรู้สึกบนพระนิพพาน มันสบาย ไร้ความรู้สึก เบาใจ เป็นความรู้สึกดีที่ประหลาด อยากให้เพื่อนๆทุกคนได้สัมผัสจังเลย
     
  13. tassanai_k

    tassanai_k เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    885
    ค่าพลัง:
    +3,518
    โมทนา สาธุ
    เคยไปมาครั้งนึงครับ แต่ไม่ได้ถวายสังฆทาน เสียดายมาก แต่จะไปอีกเพราะมีเพื่อนๆอยากไปด้วย
     
  14. Potter

    Potter เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +238
    ชวนเพื่อนไปวันเสาร์เหมือนกัน..
    วันอาทิตย์เราไปเลือกตั้งแต่เพื่อนพาแม่ไป อิอิ

    อยากถามผู้รู้ว่าถ้าฝึกเอง เราจะนำทางตัวเองยังไง
    เพราะรู้สึกว่าเวลานั่งคนเดียวแล้ว เราไปเองปุบปั้บ
    ไม่มีรายละเอียดเท่าไหร่ แป้บๆ จบแล้ว

    แล้วมีที่ไหนที่ไปฝึกต่อเนื่องได้มั้ย??
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 เมษายน 2006
  15. พลรัฐ

    พลรัฐ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    610
    ค่าพลัง:
    +1,111
    ทำเหมือนเดิม หมายถึงตั้งอารมณ์เบาๆเหมือนเดิม (ศีล ,นิวรณ์5,สังโยชน์3ข้อแรก และอวิชชา) ไปตามทางเดิม โดยขอบารมีพระ ตั้งต้นที่ความกตัญญู(กราบผู้มีคุณ) สุดท้ายที่พระนิพพาน ขอประทานคำสั่งสอนตรง แล้วปฏิบัติที่วิมานของตนเองจนได้เวลาอันควร....

    รู้...ไม่สู้เข้าใจ

    เข้าใจ...ไม่สู้ปฏิบัติได้
     
  16. Lilla_poj

    Lilla_poj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    34
    ค่าพลัง:
    +463
    เฮ่ออ ไม่มีโอกาสได้ไปฝึกบ้างอยู่ไกลเกินไป ฝึกอยู่ที่บ้านปูปูปลาปลา หวังว่าสักวันหนึ่งผมคงจะได้มโนกับเขาบ้างนะ
     
  17. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,687
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    ขอขอบคุณและขออนุโมทนาบุญ กับ pasaway007<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_223684", true); </SCRIPT> ที่ได้นำมาเล่า
    น่าสนใจอ่านมากเลย....

    ผมได้แต่งตัวอักษรที่คุณเล่าให้อ่านง่ายและใส่ภาพประกอบ...
     
  18. varanyo

    varanyo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    925
    ค่าพลัง:
    +3,373
    โมทนาครับที่นำประสบการณ์มาเล่าให้ฟังน่าสนใจมากเลย...
    อ่านไปก็ตื่นเต้นไป...อยากไปฝึกบ้างนะครับ...
     
  19. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    429
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ผมไปฝึกมโมฯ ที่บ้านสายลม เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเหมือนกัน.. เห็นน้อง yeen บอกอยากฟัง.. แนะให้มาโพสประสบการณ์ไว้ที่นี่ เลยจัดให้ตามประสงค์...

    ผมไปถึงตอนสายๆ ก็หยอดตู้ทำบุญหลายตู้จนจำไม่ได้แล้วว่าทำบุญอะไรไปแล้วมั่ง และไปถวายสังฆทาน กับพระอาจารย์ปลัดอนันต์ ซึ่งบริเวณที่รับสังฆทานนั้น คนเยอะมากๆ เบียดเสียดเยียดยัดกันพอสมควร ..

    หลังถวายสังฆทานเสร็จ ก็นั่งร่วมอนุโมทนากับคนอื่นๆ ที่ทยอยกันเข้าไปถวายสังฆทาน และนั่งอยุ่ได้ไม่นาน ก็ต้องตามเพื่อนออกมา...

    (จริงๆ ไปร่วมงานบุญ ควรอย่างยิ่งที่เราจะต้องนั่งร่วมโมทนาบุญนะครับ ไม่ควรเร่งรีบ หรือถวายเสร็จก็จบหน้าที่ ... มีโอกาสดีแล้วอย่าพลาด)

    มาว่ากันตอนฝึกมโนฯ กันเลยดีกว่า...

    สำหรับขั้นตอน และระเบียบวิธีการปฏิบัตินั้น ไม่นำมาเล่าก็แล้วกัน เนื่องจาก เจ้าของกระทู้ เขียนได้ ละเอียดชัดเจนอย่างมากแล้ว.... และขอชมว่าเก็บรายละเอียดได้ดีจริงๆ ...

    พอเริ่มฝึก...

    ทันทีที่ครูแนะนำให้ยกจิตไปที่จุฬามณีฯ นั้น ผมก็มายืนอยู่ที่ซุ้มประตู้ทางเข้า ซึ่งมีบันไดแก้วที่สวยงามระยิบระยับมาก...

    แต่ พอผมมองสำรวจตัวเอง ก็ ปลื้มใจจนน้ำตาเริ่มไหล.. เพราะเห็นตัวเองอยุ่ในเครื่องทรงแบบเทวดา สวยงามระยิบระยับมาก .. หล่อสุดๆ เลย .....

    ครูเริ่มแนะนำให้ผู้ฝึกเริ่มสำรวจทีละอย่างก่อนที่จะเดินเข้าไปข้างใน.. เริ่มที่ซุ้มประตู และแนะนำให้รู้จักกับท่านพี่..ซึ่งเป็นเทวดาดูแลซุ้มประตู (จำท่านไม่ได้แล้ว) หลังจากกราบทักทายท่านแล้ว ไม่ได้คุยกัน หรอกครับ แต่รู้ด้วยจิต ทักทายกันด้วยจิต ท่านพี่จะเมตตามากๆ...

    จากนั้นก็เดินต่อไปที่จุฬามณีฯ ครูแนะนำให้พิจารณาพระวรกาย ของ สมเด็จองค์ปฐมทีละส่วนๆ ... ผมก็สำรวจทุกอย่าง (อิอิ ..แอบสำรวจ ก่อนหน้าครูนิดหน่อย) ...ก็กราบสมเด็จท่าน และกราบหลวงพ่อปาน กับ หลวงพ่อฯ ทั้งสององค์แต่งแบบพระนะครับ..... หลวงพ่อฯ ใจดี มีเมตตามาก ๆ... แถมเอาตะพดเขก...โป๊กๆๆ อีก...

    ตอนนี้ปลื้มใจสุดๆ อีกแล้ว น้ำตาไหล ซิบๆ....

    จากนั้นก็กราบ... ท่านปู่ ท่านย่า ...

    ตอนครูแนะนำให้ขอบารมีเพื่อพบพ่อแม่ของตัวเอง มากันเยอะมาก พ่อที่เพิ่งเสียไป... โผล่มาก่อนเลย และให้ผมเห็นหน้าตอนที่เป็นคนก่อน แล้วก็เป็นเทวดาเหมือนเดิม...

    ผมเข้าไปกราบพ่อ แล้ว ร้องไห้สะอึกสะอื้น... ปล่อยโฮ ออกมาตอนนั้นเลย.....

    ก็เล่าสู่กันฟัง แค่เสี้ยวหนึ่ง แค่นี้ก่อนนะครับ...


     
  20. yeen

    yeen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    679
    ค่าพลัง:
    +3,656
    ท่านพี่มเหสักขาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...