ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle>

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ฮานอยยังจมน้ำเวียดนามตายเพิ่มเป็น 55 คน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>3 พฤศจิกายน 2551 23:04 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ภาพถ่ายวันที่ 3 พ.ย.2551 ชาวกรุงฮานอยส่วนใหญ่ยังคงลุยน้ำต่อเป็นวันที่สาม หลังจากเกิดฝนตกหนักที่สุดในรอบ 25 ปี อุทกภัยที่กินอาณาบริเวณครอบคลุมจังหวัดรายรอบกรุงฮานอยทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 55 คน นาข้าวถูกทำลายกว่า 1 ล้านไร่ (ภาพ: Reuters).</CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>
ผู้จัดการรายวัน-- จนถึงเวลาบ่ายวันจันทร์ (3 พ.ย.) ที่ผ่านมา ทางการได้พบผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 55 คน จากเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมเมืองหลวงกับอีกหลายจังหวัดในภาคเหนือเวียดนาม ซึ่งได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจเหลือคณานับ

จำนวนผู้เสียชีวิตในกรุงฮานอยได้เพิ่มขึ้นเป็น 18 รายในวันเดียวกัน ขณะที่ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางรายว่า ฝนยังจะตกหนักติดต่อกันอีก 2-3 วัน ทั้งนี้เป็นรายงานของสำนักข่าววีเอ็นเอ (VNA) ของรัฐบาล

คณะกรรมการแห่งชาติกำกับดูแลป้องกันและควบคุมภัยจากพายุได้เปิดประชุมฉุกเฉินในวันอาทิตย์ ได้เรียกร้องไปยังทางการจังหวัดต่างๆ ในเขตภัยพิบัติต้องมีมาตรการในการช่วยเหลือแก่ผู้ประสบเคราะห์

สำหรับกรุงฮานอยฝนตกติดต่อกันมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี (30 ต.ค.) ปริมาณน้ำฝนวัดได้มากที่สุดในรอบ 25 ปี ระดับน้ำท่วมสูง การสัญจรเป็นอัมพาตตลอดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดการขาดแคลนอาหาร ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคทุกชนิดพุ่งขึ้นสูง

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=600 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=600> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ชาวเมืองหลวงในหลายย่านยังคงใช้เรือแทนพาหนะปกติเมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) นี้ ศูนย์อุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กลางแจ้งว่า ฝนยังจะตกประปรายอีก 2-3 วัน ขณะที่ 63 พื้นที่ของเมืองหลวงระดับน้ำท่วมยังสูง (ภาพ: AFP) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ในวันที่ 2 พ.ย.ระดับน้ำตามท้องถนนกรุงฮานอยได้เริ่มลดลงหลังจากในตกซาลง แต่น้ำก็ยังคงอยู่ในระดับสูง 63 พื้นที่ในเมืองหลวงยังจมน้ำ มีเพียง 2 เขตเท่านั้นที่ระดับน้ำลดลงเหลือเพียง 20-30 เซนติเมตร ทำให้รถเมล์โดยสารเปิดให้บริการได้อีก นายเหวียนก๊วกหุ่ง (Nguyen Quoc Hung) ผู้อำนวยการสำนักงานคมนาคมกรุงฮานอยกล่าวสำนักข่าวของทางการ

อย่างไรก็ตามถนนหลายสายของเมืองหลวงรวมทั้งในย่านธุรกิจสำคัญ รวมทั้งถนนเจิ่นก๊วกตวาน (Tran Quoc Toan) กวางจุ่ง (Quang Trung) เหวียนสือ (Nguyen Su) ฝ่ามหง็อกแถ็ก (Pham Ngoc Thach) ด่าวยวุยแอง (Dao Duy Anh) และถนนเลหย่วน (Le Duan) ในซีกตะวันตกและซีกใต้ของตัวเมืองระดับน้ำยังสูง

ตามรายงานของสำนักข่าวเวียดนามเน็ต น้ำในแม่น้ำแดงที่ไหลผ่านกรุงฮานอยได้เอ่อล้นขึ้นท่วมสองฝั่งในเขตที่ลุ่ม รวมทั้งท่วมบริเวณสถานีสูบน้ำเพียงแห่งเดียวของนครใหญ่นี้จนไม่สามารถใช้การได้

นายเหวียนเถถาว (Nguyen The Thao) ประธานคณะกรรมการประชาชนกรุงฮานอยได้มอบหมายให้รองประธานทั้งหกคนออกปฏิบัติการเฉพาะกิจให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชน สำนักข่าวแห่งเดียวกันกล่าว

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=398 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=398> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>เมื่อวันจันทร์ (3 พ.ย.) รถเมล์เปิดให้บริการได้แล้วในสองเขตของเมืองหลวง น้ำเริ่มลดลงแต่ก็ยังมีระดับสูง รถยนต์เล็กยังวิ่งไม่ได้ (ภาพ: VietnamNet) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=399 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=399> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>สถานีสูบน้ำเพียงแห่งเดียวในย่านใจกลางเมืองก็ถูกน้ำท่วมเสียเอง ยังใช้การไม่ได้ (ภาพ: VietnamNet) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=398 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=398> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ในย่านที่ระดับน้ำเริ่มลดลง อู่ซ่อมรถและศูนย์บริการต่างๆ เริ่มงานเข้าจนบางแห่งรับไม่ไหว จะต้องใช้เวลาอีกหลายวันตรวจซ่อมความเสียหายรถยนต์หรูเหล่านี้ (ภาพ: VietnamNet) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=418 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=418> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>ในวิกฤตเช่นนี้หลายชีวิตกลับเปี่ยมสุข และนี่อาจจะเป็นเพียงครั้งเดียวสำหรับเป็ดที่จะมีโอกาสขึ้นนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกอันอบอุ่น (ภาพ: VietnamNet) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ในวันจันทร์ที่ผ่านมายังมีรายงานราษฎรเสียชีวิตเพิ่มขึ้นในหลายท้องถิ่น รวมทั้ง ใน จ.บั๊กซยาง (Bac Giang) ฮว่าบี่ง (Hao Binh) ถายเงวียน (Thai Nguyen) หวิงฟุก (Vinh Phuc) ฟุเถาะ (Phu Tho) และ จ.นีงบี่ง (Ninh Binh) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเขตอู่ข้าวสำคัญของประเทศรอบๆ กรุงฮานอย

นอกจากนั้นยังมีรายงานผู้เสียชีวิตจำนวน 17 ราย ใน จ.ห่าตี๋ง (Ha Tinh) ซึ่งอยู่ในเขตภาคกลางตอนบน ทางใต้กรุงฮานอย วีเอ็นเอกล่าว

การสำรวจในชั้นต้นประมาณว่า อุทุกภัยครั้งรุนแรงนี้สร้างความเสียหายแก่เวียดนาม 200-300 ล้านดอลลาร์ บ้านเรือนราษฎรกว่า 55,000 หลังคาเรือนได้รับความเสียหาย นาข้าว 180,000 เฮกตาร์ (1.25 ล้านไร่) ถูกทำลาย พร้อมกับบ่อเลี้ยงปลาและกุ้งอีกราว 9,000 เฮกตาร์ (56,000 ไร่) ถนนหนทางถูกตัดความรวมเป็นระยะทางกว่า 70 กิโลเมตร

</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=504 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=504> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>บางทีพาหนะที่ดีที่สุด เหมาะที่สุดในยามนี้ ก็อาจจะเป็นสิ่งที่อยู่นอกสายตาของหลายคน (ภาพ: VietnamNet) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=397 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=397> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left><CENTER>แต่ไม่ว่าจะยากสักลำบากเพียงไร ชีวิตก็จะต้องดำเนินต่อไป (ภาพ: VietnamNet) </CENTER></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> วันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา แนวร่วมปิตุภูมิเวียดนามได้เป็นหัวหอกในการระดมส่งความช่วยเหลือไปยังผู้ประสบเคราะห์ในท้องที่ห่างไกลต่างๆ

สำหรับกรุงฮานอยฝนตกในช่วงนี้นับเป็นครั้งรุนแรงที่สุดตั้งแต่ปี 2527 เป็นต้นมา และ ถ้าหากฝนหยุดตกก็จะต้องใช้เวลาอีกหลายวันในการระบายน้ำ

นายเหวียนลานโจว์ (Nguyen Lan Chau) รองผู้อำนวยการศูนย์อุตุนิยมวิทยาฯ กล่าวว่า ในปี 2527 ฝนตกติดต่อกันนาน 27 ชั่วโมงวัดปริมาณน้ำฝนได้ 561 มิลลิเมตรในเมืองหลวง แต่ในที่ตกในช่วงวันสองวันมานี้สัดได้ระหว่าง 200-520 มม. และยังจะมีฝนตกประปรายต่อไปอีก 2-3 วันข้างหน้า วันอังคารหรือวันพุธนี้จึงจะเริ่มมีแดดจ้า.

ที่มา http://www.manager.co.th/IndoChina/ViewNews.aspx?NewsID=9510000130519
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

2 พ.ย. 51 ภาพที่ไม่ชัดเจน

ชัยนาท

 

เวียดนามเตือนโรคระบาด ขณะยอดเหยื่อน้ำท่วมพุ่งเป็น 65 คน​

​

ฮานอย 3 พ.ย.- ทางการเวียดนามเตือนว่าจะเกิดโรคระบาด ทั้งอหิวาตกโรคและไข้เลือดออก หลังเกิดฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ภาคเหนือและภาคกลางของเวียดนาม ล่าสุดยอดผู้เสียชีวิตพุ่งขึ้นเป็นอย่างน้อย 65 คนแล้ว

รายงานระบุว่า ผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คนอยู่ในกรุงฮานอย ซึ่งกำลังเผชิญน้ำท่วมหนักที่สุดนับแต่เมื่อปี 2527 กระทรวงสาธารณสุขกระตุ้นเตือนบรรดาคลินิกในพื้นที่ประสบภัยให้เตรียมพร้อมรับมือการระบาดของโรคตลอด 24 ชม.

มีรายงานว่า ฝนเริ่มบรรเทาลงแล้วในกรุงฮานอยวันนี้ แต่ก็มีคำเตือนว่าอาจจะยังคงมีฝนตกหนักลงมาอีก รวมทั้งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน และแผ่นดินถล่มในพื้นที่แถบภูเขาทางตอนเหนือและตอนกลางของประเทศในสัปดาห์นี้ ถนนหลายสายในกรุงฮานอยยังคงเต็มไปด้วยน้ำและโรงเรียนต้องปิดการเรียนการสอนในวันนี้. - สำนักข่าวไทย

อัพเดตเมื่อ 2008-11-03 19:12:17

เหตุโคลนถล่มจีนตายอย่างน้อย 26 คน สูญหายอีก 45 คน​

​

จีน 4 พ.ย. - เหตุการณ์โคลนถล่มเนื่องจากฝนตกหนักในมณฑลยูนนาน ประเทศจีน คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 26 คน และมีผู้สูญหายอีก 45 คน

พายุฝนที่ตกหนักในมณฑลยูนนาน ตั้งแต่วันที่ 24 เดือนที่แล้ว ส่งผลให้เกิดแผ่นดินและโคลนถล่มในพื้นที่เทือกเขาสูง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 26 คน สูญหายอีก 45 คน บ้านเรือนกว่า 1,000 หลังคาเรือน ในหลายหมู่บ้านพังถล่มทั้งหลัง และอีกกว่า 2,300 หลังคาเรือน พังเสียหายบางส่วน ประชาชนในเขตปกครองตนเองฉู่สง ยี่ และในเมืองคุนหมิง ได้รับความเดือดร้อนจากฝนตกหนักกว่า 410,000 คน ถนน ไฟฟ้า และน้ำประปาถูกตัดขาด รวมถึงโรงเรียนและโรงพยาบาลอีกหลายแห่งได้รับความเสียหายด้วย คาดว่าฝนจะยังคงตกหนักต่อไปอีก 1-2 วัน ซึ่งจะสร้างความยากลำบากให้เจ้าหน้าที่มากยิ่งขึ้นไปอีกในการกู้ภัยและช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อน. -สำนักข่าวไทย

2008-11-04 02:12:34

ผู้ประท้วงปิดรัฐอัสสัมหลังเกิดเหตุระเบิด​

​

กูวาฮาตี 3 พ.ย. - ตำรวจอินเดียรายงานว่า เกิดการประท้วงเหตุระเบิดที่คร่าชีวิตผู้คนไปถึง 84 คน และทำให้บาดเจ็บอีก 300 คน ในรัฐอัสสัมของอินเดียเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยกลุ่มชาวอินเดียที่โกรธแค้นได้กล่าวโทษผู้อพยพเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายชาวบังกลาเทศ

กลุ่มผู้ประท้วงพากันเดินขบวนไปตามถนนในเมืองกูวาฮาตี เมืองสำคัญของรัฐอัสสัม ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึง 44 คนหลังจากเกิดระเบิด 3 ระลอกภายในเวลาเพียงไม่กี่นาทีเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุระเบิดครั้งนี้อาจเป็นฝีมือของกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่ร่วมมือกับกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในรัฐอัสสัม และได้จับกุมชาวมุสลิมอย่างน้อย 10 คนส่วนใหญ่เป็นชาวบังกลาเทศ ฐานพัวพันมือระเบิดในรัฐอัสสัม

กลุ่มนักศึกษาหลายกลุ่มได้เรียกร้องให้จัดการประท้วงเป็นเวลา 1 วันในรัฐอัสสัม เพื่อเรียกร้องให้มีการกวาดล้างผู้ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างจริงจัง อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่า ตำรวจได้จับกุมผู้ประท้วง 50 คน ด้านพรรคภาราติยะ ชนตะ ซึ่งเป็นพรรคชาตินิยมฮินดู และเป็นพรรคฝ่ายค้านสำคัญของอินเดีย ได้ตำหนิรัฐบาลที่ไม่ดำเนินการสกัดกั้นชาวบังกลาเทศไม่ให้ข้ามพรมแดนมายังอินเดีย กระทรวงมหาดไทยอินเดียระบุมีชาวบังกลาเทศถึง 20 ล้านคนอาศัยอยู่ในอินเดียโดยผิดกฎหมาย. - สำนักข่าวไทย

2008-11-03 18:15:08

ชี้ภูเขาโคลนปะทุในอินโดฯ เมื่อ 2 ปีก่อนเกิดจากการขุดหาน้ำมัน-ก๊าซ​

​

เคปทาวน์ 3 พ.ย.- ที่ประชุมนักธรณีวิทยานานาชาติได้ข้อสรุปว่า เหตุภูเขาโคลนลูซีในอินโดนีเซียปะทุเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2549 ทำให้คนในจังหวัดชวาตะวันออก 30,000 คนไร้ที่อยู่อาศัยและยังคงพ่นโคลนเดือดออกมาจนถึงทุกวันนี้ เกิดจากการขุดเจาะหาน้ำมันและก๊าซในบริเวณใกล้เคียง แต่บริษัทขุดเจาะปฏิเสธและโทษว่าเกิดจากแผ่นดินไหวที่ไกลออกไป 280 กิโลเมตร

ข้อสรุปดังกล่าวถือเป็นก้าวสำคัญในการหาผู้รับผิดชอบ เพราะชาวบ้านราว 10,000 ครอบครัวที่สูญเสียบ้านเรือนยังคงรอเงินชดเชยที่อาจมีมูลค่ารวมกันถึง 70 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2,450 ล้านบาท) ฝ่ายที่มีความเห็นขัดแย้งกันยอมถกหาสาเหตุที่แท้จริงร่วมกันเป็นครั้งแรกในเวทีการประชุมผู้เชี่ยวชาญอิสระจัดขึ้นที่เมืองเคปทาวน์ของแอฟริกาใต้ ประเด็นการถกเถียงหลักคือข้อมูลใหม่ที่ได้จากการตรวจวัดที่หลุมสำรวจบันจาร์ปันจี 1 ในช่วง 24 ชั่วโมงก่อนภูเขาโคลนปะทุ

ศ.ริชาร์ด เดวีส์ จากมหาวิทยาลัยเดอแรมในอังกฤษระบุว่า ข้อมูลชี้ชัดว่ามีการสะสมแรงดันมากจนทำให้รอยแยกจากหลุมสำรวจลามขึ้นไปถึงพื้นผิวด้านบนเหนือขึ้นไป 150 เมตรและเกิดโคลนปะทุตามมา

แต่นายร็อคกี้ ซาโวโล ที่ปรึกษาอาวุโสของบริษัทลาปินโดบรันตาสที่ขุดสำรวจน้ำมันและก๊าซใช้ข้อมูลเดียวกันแย้งว่า แรงดันภายในหลุมสำรวจอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ด้าน ดร.อาเดรียโน มาสซานี จากมหาวิทยาลัยออสโลในนอร์เวย์ ซึ่งอยู่ฝ่ายเดียวกับบริษัทระบุว่า รอยแยกเกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ที่เกิดขึ้น 2 วันก่อนหน้านั้น มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองยอกยาการ์ตา ห่างออกไป 280 กิโลเมตร แต่ ดร.มาร์ก ทิงเกย์ จากมหาวิทยาลัยเคอร์ทินในออสเตรเลียผู้เชี่ยวชาญด้านแรงกดดันทางธรณีวิทยาและศิลากลศาสตร์แย้งว่า แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวที่รู้สึกได้ที่ภูเขาโคลนลูซีนั้นถือว่าเล็กน้อยมากเทียบกับแรงสั่นสะเทือนหากมีรถบรรทุกขนาดใหญ่วิ่งผ่านด้านบน

นักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุม 42 คนจากทั้งหมด 74 คนออกเสียงเห็นด้วยว่าการขุดเจาะน้ำมันเป็นสาเหตุที่ทำให้ภูเขาโคลนปะทุ มีเพียง 3 คนเท่านั้นที่เห็นด้วยว่าเกิดจากแผ่นดินไหว อีก 13 คนคิดว่าเกิดจากทั้งสองสาเหตุร่วมกัน และอีก 16 คน มองว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย

2008-11-03 15:50:27

อหิวาห์ระบาดบนเกาะไหหลำแพร่ไปถึงไหโขว่แล้ว​

​

ปักกิ่ง 3 พ.ย.- นิตยสารไฉจิงรายงานในเวบไซต์ว่า การระบาดของเชื้ออหิวาตกโรคบนเกาะไหหลำ ทางตอนใต้ของจีน ได้แพร่เข้าไปถึงเมืองไหโขว่ เมืองเอกของไหหลำแล้ว ทำให้ต้องมีการกักกันโรคที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

มีรายงานว่า นักศึกษา 7 คน ที่มหาวิทยาลัยไหหลำ ในเมืองไหโขว่ติดเชื้ออหิวาตกโรค ทำให้ยอดผู้ป่วยในไหหลำเพิ่มเป็น 51 คน มหาวิทยาลัยได้สั่งห้ามมีการเข้าออกจากมหาวิทยาลัย นอกจากนี้ ยังได้ปิดโรงอาหารและตรวจสอบคนทำอาหารด้วย

อหิวาตกโรคติดต่อได้จากอาหารและน้ำปนเปื้อน โดยในรายที่ได้รับเชื้อรุนแรงที่สุด อาจทำให้ท้องร่วงและเสียชีวิตเนื่องจากขาดน้ำและไตวาย อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีรายงานการเสียชีวิตจากการระบาดของเชื้ออหิวาต์ในไหหลำขณะนี้ ซึ่งทางการตรวจพบว่าระบาดเข้าไปยังงานเลี้ยงของหมู่บ้านแห่งหนึ่ง และสภาพอากาศที่มีฝนตกและน้ำท่วมหนักเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา อาจทำให้เชื้ออหิวาต์แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว. -สำนักข่าวไทย

2008-11-03 15:22:56

ที่มา http://news.mcot.net/international/

 

“แบงก์ล้ม” วิกฤตที่ยังไม่มีบทสุดท้าย <HR class=b>ชฎาพันธุ์ มลิพันธุ์
Positioning Magazine ตุลาคม 2551

เมื่อวิกฤตซับไพรม์คายพิษ ฟองสบู่ก็แตกดังโพละ ตามมาด้วยการล้มครืนของสถาบันการเงินเก่าแก่ของอเมริกา Lehman Brothers และ Merrill Lynch รวมทั้ง AIG ยักษ์ใหญ่วงการประกันภัยซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ AIA ที่คนไทยรู้จักกันดี จากนั้นก็มีข่าวธนาคารหลายแห่งย่ำแย่ตามกันมาเรื่อยๆ ทำให้ตลาดทั่วโลก “ตื่นตระหนก-ขวัญผวา” ว่ากำลังเดินหน้าเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำยิ่งใหญ่รุนแรงกว่าช่วงสงครามโลกครั้งไหนๆ

ปล่อยเงินกู้ผิด คิดจนตัวตาย ต้นตอของ “วิกฤตวาณิชธนกิจ” ครั้งนี้ไม่ได้มาจากพิษซับไพรม์สั้นๆ ในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา แต่สะสมปัญหา “หนี้เน่า” เรื่อยมาหลังจากรัฐประกาศลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ในปี 2001 ส่งเสริมการบริโภคกันจนอ้วนอุ้ยอ้าย และหนักหน่วงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางปี 2006 ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการเงินปล่อยกู้ด้านอสังหาริมทรัพย์จำนวนมหาศาล รวมทั้งการเก็งกำไรในตลาดทุนอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ประชาชนที่นิยมเป็นหนี้บัตรเครดิตและเงินกู้ประเภทต่างๆ ขณะที่มีจำนวนออมเงินในธนาคารเหลือน้อยมาก

ดังนั้น การตกต่ำของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปี 2007 ยิ่งทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาทรุดหนัก อัตราการว่างงานและเงินเฟ้อสูงลิ่ว ถาโถมด้วยราคาน้ำมันโลกพุ่งทะยานต่อเนื่อง จนกระทั่งปัญหาสะสมหนี้ทุกภาคส่วนเหล่านี้ไม่อาจหลบซ่อนได้อีกต่อไป วาณิชธนกิจเก่าแก่อายุ 158 ปีอย่าง Lehman Brothers ต้องตกอยู่ในภาวะล้มละลายจากการขาดทุนกว่า $60 พันล้าน ส่วน Merrill Lynch ที่ดำเนินงานมา 94 ปี ก็ขาดทุนกว่า $19.2 พันล้าน นอกจากนี้ยังมี Bear Stearns, Fannie Mae (Federal National Mortgage Association) และ Freddie Mac (Federal Home Loan Mortgage Corporation) โชคดีที่รัฐโอบอุ้มสถาบันบางส่วนไว้ทัน แต่ใครจะเชื่อว่า AIG หรือ American International Group บริษัทประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลกก็บาดเจ็บสาหัสกับเขาด้วย!

ก่อนหน้านี้ ในปี 2006 AIG เพิ่งจะมีอัตราการเติบโตก้าวกระโดด โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศจีน แต่เพียงแค่1 ปีวิกฤตซับไพรม์ทำให้ AIG ต้องยอมรับว่าประสบภาวะขาดทุนจาก "หนี้เน่า" เกือบ $20 พันล้าน จากนั้นหุ้นของ AIG เริ่มร่วงหล่นลดฮวบฮาบลงเรื่อยๆ ถึงขั้นร่วงมาอยู่ที่ $5.15 ทั้งๆ ที่อดีตในยุคเฟื่องฟูราคาสูงถึงหุ้นละ $59

นักวิเคราะห์ชั้นนำเชื่อว่าสถาบันการเงินอีกหลายแห่งในอเมริกากำลังทยอย “ล้ม” ตาม เพราะต่างก็ "อุ้มหนี้" สะสมไว้จน "หลังค่อม" ล่าสุด วาโชเวีย (Wachovia ) กลุ่มสถาบันการเงินที่ขึ้นชื่อว่าใหญ่อันดับ 4 ของสหรัฐฯ ก็ย่ำแย่จนต้องขายธุรกิจธนาคารให้กลุ่มซิตี้แบงก์ ทำให้ขณะนี้ตลาดทุนขวัญผวาอย่างต่อเนื่อง และพร้อมใจกันเทขายหุ้นกันไม่เว้นแต่ละวัน

AIG ไม่ช่วยไม่ได้ แม้เซียนตลาดหุ้นอย่าง Warren Buffets บอกว่าเขาไม่ต้องการลงทุนในบริษัทประกันภัยเพราะมีความเสี่ยงสูง แต่ AIG ก็ควรอยู่คู่ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทต่อไป เพราะหากบริษัทนี้ต้องปิดตัวลงจะสร้างความเสียหายใหญ่หลวงถึงขั้นทำให้เศรษฐกิจของโลกถดถอยอย่างหนัก เนื่องจากธุรกิจของ AIG ครอบคลุมกว้างขวางหลายวงการทั้งในและนอกประเทศ ไม่เพียงแต่มีการปล่อยเงินกู้ซื้ออสังหาริมทรัพย์ ประกันภัยต่างๆ ยังรวมไปถึงกองทุนน้ำมัน และ International Lease Finance Corporation (ILFC) ซึ่งเป็นธุรกิจเช่าซื้อเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมีจำนวนพนักงานมากกว่า 3 หมื่นคน ดังนั้น AIG จะ "ล้ม" ไม่ได้

ด้วยเหตุนี้ รัฐบาลกลางจำเป็นต้องเข้ามาโอบอุ้ม AIG ด้วยการอนุมัติเงินช่วยเหลือ ส่งผลให้เลขาธิการกระทรวงการคลัง Henry Paulson ได้รับการยกย่องจากตลาดทุนว่าเป็น "ฮีโร่" ที่ริเริ่มและผลักดันแนวทางแก้ไขนี้ร่วมกับ Ben Bernanke ประธานของธนาคารกลาง ทั้งๆ ที่ Paulson เป็นพวกนิยมตลาดเสรี แต่งานนี้เขาก็ยอมรับว่ารัฐต้องเข้าแทรกแซงเพราะ "ตลาดตายแน่ หากรัฐไม่ยอมจัดระเบียบ" ซึ่งในห้วงยามวิกฤตขณะนี้ อเมริกาจำเป็นต้องมีกฎระเบียบด้านธุรกรรมการเงินที่เข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ยุโรปเจอศึกหนัก

อังกฤษก็เป็นอีกประเทศที่ปล่อยเงินกู้อสังหาริมทรัพย์หนักหน่วง พ่วงด้วยจำนวนเงินฝากเหลือน้อยพอๆ กับอเมริกา (ดูอัตราเงินออมประเทศ G-7 เพิ่มเติม) จนได้รับผลกระทบใหญ่หลวง และเกิดปรากฏการณ์รวมตัวของธนาคารขนาดกลางและเล็กให้เห็นแล้ว

ล่าสุดรัฐบาลอังกฤษยึดธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ (Bradford & Bingley plc. : B&B) มาเป็นของรัฐแล้ว โดยจะขายทรัพย์สินที่ดีที่สุดต่อให้กับธนาคารแซนแทนเดอร์ (Santander Bank) ของสเปน ในราคา 612 ล้านปอนด์ (ประมาณ 3.9 หมื่นล้านบาท) หลังจากที่เพิ่งยึดธนาคารนอร์ทเทิร์น ร็อค (Northern Rock) ไปไม่นานนักก่อนหน้านี้

ประเทศอื่นๆ ในยุโรปที่น่าเป็นห่วงคือ ฝรั่งเศส สเปน เบลเยียม ซึ่งธนาคารฟอร์ติส (Fortis Bank) ของเบลเยียม-เนเธอร์แลนด์ ที่ถือหุ้นบริษัทประกันชีวิตของไทย เช่น เมืองไทยประกันชีวิตและภัทรประกันภัยที่ควบรวมกันไปแล้ว ก็มีปัญหาสภาพคล่อง แต่รัฐเข้ามาจัดการแก้ไขปัญหาชั่วคราวด้วยการทำให้เป็นกึ่งธนาคารของรัฐ ภายใต้ความร่วมมือแข็งขันของประเทศกลุ่มเบเนลักซ์ ซึ่งได้แก่ เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก ที่ทั้งร่วมถือหุ้นและอัดฉีดเงินช่วยเหลือรวม 1.12 หมื่นล้านยูโร เป็นต้น

เอเชียหวัง “ไม่แย่อย่างที่คิด"

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อมั่นว่าวิกฤตราคาน้ำมันที่คลี่คลายแล้วทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจยุโรปไม่ย่ำแย่จนเกินไป ขณะเดียวกันก็มีเครือข่ายช่วยต่อท่อน้ำเลี้ยงชุบชีวิตทันท่วงที เช่น ธนาคารไฮโป เรียลเอสเตท (Hypo Real Estate : HRE) ของเยอรมนี ได้รับการอัดฉีดสภาพคล่องจากกลุ่มธนาคารในประเทศ เป็นต้น

สำหรับตลาดเอเชีย Huruhiko Kuroda ประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (Asian Development Bank) ยอมรับว่าตลาดเอเชียไม่อาจหลีกเลี่ยงผลกระทบจากกรณีสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ล้ม ทว่าบทเรียนจากวิกฤตต้มยำกุ้งในปี 1997 ทำให้มีการกระจายความเสี่ยงด้านการค้าการลงทุนไปยังพื้นที่อื่นๆ แทนที่จะกระจุกอยู่ที่ตลาดเดียวหรือตลาดอเมริกา นอกจากนี้ระบบการเงินก็อยู่ในเงื้อมมือของธนาคารมากกว่าวาณิชธนกิจ เขาจึงเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้จะไม่ "ร้ายแรงอย่างที่คิด" และน่าจะเกิดอาการถดถอยเพียง 1 - 2% เท่านั้น

ด้านองค์การการค้าโลก (World Trade Organization: WTO) ก็ยืนยันเช่นกันว่าตลาดการค้าโลกยังไปได้ดี โดย Michael Finger นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ WTO กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า “เพราะเศรษฐกิจโลกตกต่ำมาตั้งแต่ 7 – 8 เดือนก่อนแล้ว สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้จึงไม่ใช่หายนะ แต่แค่อ่อนแอลง ทำให้ไม่มีการเปลี่ยนแปลงรุนแรงในภาคการค้าโลก”

รัฐต้องแทรกแซง "ยิ่งช้า ยิ่งเน่า"

เพื่อไม่ให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ซ้ำรอยวิกฤตในปี 1929 ที่ขยายวงจรเลวร้ายและสิ้นหวังไปทั่วโลกจนเรียกกันว่า "The Great Depression" ในที่สุดรัฐบาลเมริกาภายใต้การนำของประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช ก็นำเสนอแผนฟื้นฟูตลาดการเงินมูลค่า 7 แสนล้านเหรียญดอลลาร์ ที่ Niall Ferguson นักประวัติศาสตร์เศรษฐกิจแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเชื่อว่า "เมื่อก่อนรัฐบาลทำผิดไปแล้ว แต่ขณะนี้พวกเขากำลังจะทำสิ่งที่ถูกต้อง"

แต่เรื่องกลับไม่ง่าย เพราะหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งประชาชนอเมริกันตาดำๆ ที่กำลังเสื่อมความนิยมในตัวประธานาธิบดีบุช อันเนื่องมาจากความล้มเหลวและเผาผลาญสมบัติของชาติไปกับสงครามอิรัก พวกเขาไม่ต้องการให้รัฐบาลโอบอุ้มตลาดทุนที่ร่ำรวย แทนที่จะนำเงินจำนวนนี้มาแก้ปัญหาอื่นๆ ได้อีกมากมาย

ขณะเดียวกันผลการลงมติจากสภาผู้แทนราษฎร (สภาคองเกรส) ล่าสุดเมื่อ 29 กันยายนที่ผ่านมา ก็ไม่รับรองแผนดังกล่าว โดยเสียงส่วนใหญ่ที่ไม่เห็นด้วยมาจากพรรครีพับลิกันของประธานาธิบดีบุชเอง ทำให้หลายฝ่ายมองว่ารัฐเอาใจประชาชนเพราะมีวาระซ่อนเร้นกับการเลือกตั้งครั้งใหม่ที่กำลังเข้มข้นอยู่ในขณะนี้ แต่เตลาดหุ้นวอลล์สตรีทร่วงระนาวระเนระนาดทันทีหลังรู้ข่าว รวมทั้งตลาดหุ้นทั่วโลก แต่ในที่สุดแผนก็ผ่านการพิจารณา และส่งต่อให้วุฒิสภาลงมติเห็นชอบต่อไปในที่สุด

แต่ 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ดูเหมือนยังไม่พอ เพราะแบงก์ในสหรัฐฯ และยุโรป ต่างทยอยเปิดเผยฐานะที่ง่อนแง่น ต้องการความช่วยเหลือจากธนาคารกลางของแต่ละประเทศอย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เชื่อว่าการอัดฉีดเม็ดเงิน 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ คือความหวังในการเยียวยาเศรษฐกิจของอเมริกา และตลาดยุโรปที่กำลังหายใจระทวย เพราะสิ่งที่ปรากฏต่อเนื่องมาถึงต้นเดือนตุลาคมคือ “ปฏิกิริยาลูกโซ่” การล้มระเนระนาด ราวกับว่าแถวโดมิโนนี้ยาวไม่รู้จบ

ผลกระทบจาก Lehman, AIG และ Merrill

ทางลบ
- ตลาดหุ้นร่วงหล่นต่อเนื่อง จนหลายฝ่ายเกรงว่าหากรัฐบาลเข้ามาจัดการปัญหาช้าเกินไป ผลกระทบจะขยายกลายเป็นลูกโซ่เหมือนที่เคยประสบมาแล้วจากสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งใหญ่ (Great Depression) ในปี 1929
- กำลังซื้อหดตัวและชะลอการลงทุนในตลาดทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอเมริกาและยุโรป
- สินค้าที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ สินค้าฟุ่มเฟือย การท่องเที่ยว และการส่งออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งออกไปยังตลาดอเมริกาและยุโรป
- วิกฤตสายการบินจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น หาก AIG ต้องขาย ILFC ซึ่งเป็นธุรกิจเช่าซื้อให้สายการบิน (ลูกค้าโบอิ้ง-แอร์บัส) ที่มีมูลค่ากว่า $50 พันล้าน
- อัตราว่างงานเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลก
- ประเทศที่ผูกติดการลงทุนหรือภาคการท่องเที่ยวกับอเมริกาเป็นหลัก จะได้รับผลกระทบอย่างหนัก เช่น เกาหลีใต้ หรือประเทศในหมู่เกาะคาริบเบียน เช่น บาฮามา เป็นต้น

ทางบวก
- จะมีการเพิ่มกฎ และจัดระเบียบธุรกรรมของวาณิชธนกิจให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- การควบรวมระหว่างธนาคารและวาณิชธนกิจ หรือระหว่างวาณิชธนกิจด้วยกันเองมากขึ้น
- ทุนจากญี่ปุ่น อินเดีย และตะวันออกกลางจะไหลเข้าสู่ตลาดทุนในอเมริกาและยุโรปมากยิ่งขึ้น
- ญี่ปุ่นและตลาดใหม่อย่างจีนและอินเดียจะมีบทบาทแทนตลาดอเมริกาและยุโรปมากยิ่งขึ้น เพราะมีการย้ายฐานการส่งออกไปยังประเทศเหล่านี้แทน

Time Line วิกฤตการณ์ทางการเงินสหรัฐอเมริกา
ปี 1997
เอเชียเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งไทยใน “วิกฤตต้มยำกุ้ง”
ปี 2001
เหตุการณ์วินาศกรรมสหรัฐฯ 11 กันยายน โลกเสียสมดุลทางเศรษฐกิจ /จีนเริ่มเข้าเป็นสมาชิกองค์กรการค้าโลก (WTO)
ปี 2002-2004
สหรัฐฯ เริ่มขาดดุลทางการค้า/ดอลลาร์อ่อนค่า/ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ลดดอกเบี้ย/ภาวะฟองสบู่ในภาคอสังหาริมทรัพย์/การลงทุนโดยแปลงสินทรัพย์เป็นทุน นำทรัพย์สินไปค้ำประกันเริ่มได้รับความนิยม
ปี 2004-2006
ราคาน้ำมันสูงขึ้น/เงินเฟ้อพุ่ง/Fed ขึ้นดอกเบี้ย
ปี 2007
- ฟองสบู่แตกจากวิกฤตซับไพรม์ หรือหนี้เงินกู้ด้านอสังหาริมทรัพย์มากเกินไป
- เม.ย. : นิวเซนจูรี่ ไฟแนนเชี่ยล หนึ่งในบริษัทเงินกู้ด้านอสังหาริมทรัพย์ใหญ่ที่สุดของอเมริกาล้มละลาย
- เอไอจีพบข้อผิดพลาดด้านบัญชี แต่จัดการปัญหาทันท่วงที
- ส.ค.: เลแมนฯ ลดพนักงาน 1,200 คน หุ้นร่วง 52 %
- ก.ย.: เลแมนฯ ยอมรับว่าขาดทุนกว่า 3,900 ล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสที่ 3
-ก.ย. : ธนาคารนอร์ทเทิร์น ร็อค ของอังกฤษถูกแปรรูปไปอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาล
-ต.ค. : วาโชเวีย ลดมูลค่าสินทรัพย์ 1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ
: เมอร์ริล ลินช์ ลดมูลค่าสินทรัพย์ 8,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
: คันทรีไวด์ ลดมูลค่าสินทรัพย์ 1,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
: ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ของญี่ปุ่น ลดสินทรัพย์ลง 260 ล้านเหรียญสหรัฐ
-ธ.ค. : มอร์แกน สแตนเลย์ ลดมูลค่าสินทรัพย์ 9,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
ปี 2008
-ม.ค. : ซิตี้กรุ๊ป ลดมูลค่าสินทรัพย์ 18,100 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ก.พ. : ผู้สอบบัญชีพบว่า AIG มีหนี้เสียมูลค่ากว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในไตรมาสแรก
: รัฐบาลอุ้มวาณิชธนกิจแบร์สเติร์นส์, แฟนนี เม และเฟรดดี แมค
: เมอร์ริล ลินช์ ลดมูลค่าสินทรัพย์อีก 16,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
: คันทรีไวด์ ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) เข้าซื้อกิจการ
: ธนาคาร บีเอ็นพี พาริบาส ของฝรั่งเศส ลดมูลค่าสินทรัพย์ 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐ
: ธนาคารดีซีแบงก์ เอจี ของเยอรมัน ลดมูลค่าสินทรัพย์ 1,360 ล้านเหรียญสหรัฐ
- มี.ค. : แบร์สเติร์นส์ ถูกขายให้กับเจพี มอร์แกน เชส
: เอชเอสบีซี ของอังกฤษ ลดมูลค่าสินทรัพย์ 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ
: ธนาคารยูบีเอส ของสวิตเซอร์แลนด์ ลดมูลค่าสินทรัพย์ 18,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
- เม.ย. : ธนาคารยูบีเอส ของสวิตเซอร์แลนด์ ลดมูลค่าสินทรัพย์ 37,400 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ก.ค. : ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เข้ายึดกิจการอินดี แมค
-7 ก.ย. : เฟดยึดกิจการ แฟนนี เม และเฟรดดี แมค
-10 ก.ย. : เลแมนฯ ประกาศขายกิจการและยื่นล้มละลายวันที่ 14 ก.ย.
- 15 ก.ย.: เมอร์ริล ลินช์ ถูกขายให้กับแบงก์ออฟอเมริกา ราคา 50,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
-16 ก.ย. : เฟด ปล่อยกู้ 40,000 ล้านเหรียญสหรัฐให้เอไอจี หลังประกาศขาดทุน 18,500 ล้านเหรียญสหรัฐ
-18 ก.ย. : เอสบีโอเอส ธนาคารลอยด์สของอังกฤษ ทำข้อตกลงซื้อกิจการเอสบีโอเอส
-24 ก.ย. : วอร์เรน บัฟเฟตต์ ทุ่มเงินซื้อกิจการโกลด์แมน แซคส์ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
- 26 ก.ย. : ธนาคารวอชิงตัน มิวชวล ขายสินทรัพย์ให้เจพี มอร์แกน เชส
- 28 ก.ย.: รัฐบาลของกลุ่มเบเนลักซ์ อัดฉีดเม็ดเงินอุ้มกิจการธนาคารฟอร์ติส
: แผนฟื้นฟูตลาดการเงิน 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐของรัฐบาลประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิล ยู บุชไม่ผ่านสภาฯ
- 29 ก.ย. : ธนาคารแบรดฟอร์ด แอนด์ บิงลีย์ แปรรูปไปเป็นของรัฐบาลอังกฤษ
: ซิตี้กรุ๊ป ซื้อกิจการธนาคารวาโซเวีย
: ธนาคารมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซื้อกิจการ มอร์แกน สแตนเลย์ 21%
: ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) อัดฉีด 1.9 ล้านล้านเยน สู่ตลาดเงินในประเทศ
: ธนาคาร HRE เยอรมนี ได้รับเงิน 35,000 ล้านยูโรจากกลุ่มธนาคารในประเทศ
: วาโชเวีย ประกาศขายธนาคารแก่กลุ่มบริษัทซิตี้แบงก์ มูลค่า 2,100 ล้านเหรียญสหรัฐ

-30 ก.ย. : ธนาคารเด็กเซีย ถือหุ้นโดยรัฐบาลเบลเยียมและฝรั่งเศส ได้รับเงินอัดฉีดสภาพคล่อง 9,180 ล้านเหรียญสหรัฐ
-3 ต.ค. : ธนาคารยูบีเอส เอจี สวิตเซอร์แลนด์ ปลดพนักงานวาณิชธนกิจอีก 2,000 คน ในสหรัฐฯ และอังกฤษ เอชีย แปซิฟิก รวมถึงสิ้นปีปลด 17,000 คน
: สภาฯสหรัฐฯ ผ่านแผนฟื้นฟู 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐ
-6 ต.ค. : ทางการเยอรมนีจัดการจัดหาสภาพคล่องอีก 15,000 ยูโร ของธนาคารเอชอาร์อี
-8 ต.ค. : “กอร์ดอน บราวน์” นายกรัฐมนตรีอังกฤษประกาศอัดฉีดสภาพคล่องประมาณ 87,000 ล้านเหรียญสหรัฐสู่สถาบันการเงินอังกฤษ
: ทางการไอซ์แลนด์เตรียมแผนกู้วิกฤตสถาบันการเงิน ประกาศรับประกันเงินฝาก 100% และพร้อมควบคุมธนาคารพาณิชย์ โดยเข้าเทกโอเวอร์ธนาคารแลนด์สบังกี้ และเพิ่มเงินทุนให้กับธนาคารคอพติง
: รัสเซียออกเงินกู้ให้ธนาคารกลางไอซ์แลนด์ 5,430 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกเหนือจากอัดฉีดเงินเข้าเสริมสภาพคล่องให้ธนาคารรัสเซีย 36,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
: ธนาคารกลางทั่วโลกประกาศร่วมมือเพื่อช่วยแก้วิกฤตทางการเงิน โดยลดดอกเบี้ย โดยเฟดลดดอกเบี้ย 0.5% ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางอังกฤษลดดอกเบี้ยอีก 0.5% และ ธนาคารกลางจีน ลดดอกเบี้ย 0.27% เพื่อหวังลดต้นทุนของธุรกิจ ลดต้นทุนสถาบันการเงินในการกู้เงินจากธนาคารกลางเพื่อเสริมสภาพคล่อง และหลังดึงเงินกลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้น เพราะดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกยังคงดิ่งหนัก

อัตราเงินออมของประเทศกลุ่ม G-7 เมื่อเทียบกับรายได้มวลรวม (GDP)
ญี่ปุ่น 28.6%
เยอรมนี 23.8%
แคนาดา 23.7%
ฝรั่งเศส 20.4%
อิตาลี 19.3%
อังกฤษ 13.6%
อเมริกา 13.6%

ที่มา : International Monetary Fund, World Economic Outlook Database, เมษายน 2008

ดูท่าเศรษฐกิจท่าจะแย่+++++++

 

ขอนแก่นฝนตก ฟ้าอึมครึมมาเป็นอาทิตย์แล้วล่ะค่ะ
นึกว่าจะเข้าหนาว ไหงกลายเป็นหน้าฝนอีกรอบ

 

ลพบุรี-เขื่อนป่าสักเริ่มวิกฤตหลังน้ำเต็มเขื่อนแล้วต้องเร่งระบายน้ำ​

​

​

​

​

​

​

เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลพบุรี เร่งระบายน้ำหลังน้ำเต็มเขื่อน 100 เปอร์เซ็นต์จนเขื่อนรับไม่ไหวแล้ว ขณะที่น้ำเหนือเขื่อนยังไหลเข้าเขื่อนจำนวนมากเพราะมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง​

นายอุกฤต ถาวรไกรกุล หัวหน้าโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ตำบลหนองบัว อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เปิดเผยว่าสำหรับสถานการณ์ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะแถมลุ่มน้ำป่าสัก ทำให้ระดับน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนมีจำนวนมาก ทำให้ทางเขื่อนป่าสักต้องเพิ่มประมาณการระบายน้ำ ออกจากเขื่อนอย่างเร่งด่วน เพราะว่าในขณะนี้อ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสัก ไม่สามารถรองรับน้ำที่จะไหลเข้าสู่เขื่อนป่าสักได้อีกแล้ว หลังจากที่ระดับน้ำได้เต็มความจุของเขื่อนป่าสัก 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว คือที่ความจุ 960 ล้านลูกบาตรเมตร ซึ่งถือว่าเต็มความจุของเขื่อนแล้วและไม่สามารถรองรับน้ำได้อีก ​

ซึ่งนายอุกฤต กล่าวต่อว่า ทำให้ในช่วงนี้เขื่อนป่าสักต้องมีการระบายน้ำออกจากตัวเขื่อนป่าสักอยู่ที่วันละ 50 ล้านลูกบาตรเมตรต่อวันหรือ 550 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที ตามที่มีระดับน้ำไหลเข้ามาสู่อ่างเก็บน้ำของเขื่อน และอาจจะต้องมีการเพิ่มปริมาณการระบายน้ำ ออกจากอ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสักอีกในช่วงนี้ เพราะว่าจากการสำรวจพบว่ายังมีน้ำที่อยู่เหนือเขื่อนป่าสักในพื้นที่จังหวัดเพชรบรูณ์ยังมีจำนวนมาก จากฝนที่ตกลงมาจึงทำให้เขื่อนต้องระบายน้ำ เพราะหากไม่ระบายน้ำอาจจะมีผลกระทบต่อเขื่อนป่าสักขึ้นมาได้ เนื่องจากมีระดับน้ำสูงกว่าการเก็บกักในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนป่าสัก​

นายอุกฤต บอกต่อว่า ขอให้ประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณริมแม่น้ำป่าสักช่วงท้ายเขื่อนป่าสัก ตั้งแต่ ตำบลแก่งเสือเต้นอำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี ลงไปจังหวัดสระบุรี พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ให้ติดตามการระบายน้ำของเขื่อนป่าสักอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับเตรียมเก็บของขึ้นที่สูงเพราะหากยังมีฝนตกลงมาอาจทำให้น้ำล้นตลิ่งขึ้นมาได้ ​

(03/11/51) ​

ที่มา http://www.tv3.co.th/becnews/data/regional.html​

 

*** ผู้ติดตาม ****

น้ำในจีน...มากแล้ว

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

น้ำทะลักท่วมฉับพลันย่านการค้าอยุธยา​

​

พระนครศรีอยุธยา 4 พ.ย.- ชาวบ้านย่านตลาดบ้านแพน พระนครศรีอยุธยา ขนของหนีน้ำท่วมฉับพลันอย่างอลหม่าน หวั่นเสียหายหนักเหมือนครั้งก่อนกว่า 100 ล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แม่น้ำน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ล่าสุด (4 พ.ย.) น้ำเอ่อท่วมฉับพลันย่านตลาดบ้านแพน อ.เสนา แหล่งการค้าสำคัญของจังหวัด ทำให้ร้านค้าไม่สามารถเปิดกิจการได้ และต้องขนข้าวของไปพักไว้อยู่บนถนนวิไลเสนา ซึ่งเป็นถนนสายหลักและเกิดปัญหาการจราจรติดขัดยาวเหยียด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เสนา ต้องระดมกำลังมาอำนวยความสะดวกอย่างเร่งด่วน

อย่างไรก็ดี ช่วงเช้าที่ผ่านมาชลประทานเปิดประตูระบายน้ำคลองขนมจีนสูงขึ้น 20 เซนติเมตร เพื่อให้น้ำไหลเข้าทุ่งพื้นที่ อ.บางไทร แต่ชาวบ้านเรียกร้องให้ยกบานประตูสูงขึ้นอีก 50 เซนติเมตร และให้ปิดประตูระบายน้ำของคลองอีกหลายแห่ง เพราะเกรงว่าข้าวนาปีจะจมน้ำเสียหายมากขึ้น เนื่องจากน้ำท่วมที่ผ่านมา ทำให้ตลาดบ้านแพนเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 100 ล้านบาท.-สำนักข่าวไทย

2008-11-04 10:44:06

ปิดท่องเที่ยวหมู่เกาะอ่างทองช่วงฤดูมรสุม​

​

สุราษฎร์ธานี 4 พ.ย.- นายชัยสันท์ หิรัญสาลี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะอ่างทอง จ.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ช่วงฤดูมรสุมทุกปีทางอุทยานฯ จำเป็นต้องประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาคาดว่าช่วงนี้จะมีพายุฝนเขตร้อนจากมหาสมุทรแปซิฟิกหรือทะเลจีนใต้เคลื่อนตัวเข้ามาในอ่าวไทย

ทางอุทยานฯ จึงประกาศปิดหมู่เกาะอ่างทองเป็นเวลากว่า 1 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. ถึง 23 ธ.ค.นี้ นอกจากเพื่อความปลอดภัยของการท่องเที่ยวแล้ว ยังเป็นการให้ธรรมชาติได้ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ พร้อมที่จะต้อนรับการท่องเที่ยวฤดูต่อไป.-สำนักข่าวไทย

2008-11-04 10:11:56

เจ้าพระยา-ท่าจีนน้ำขึ้นสูง เร่งกันพื้นที่สำคัญ​

​

สิงห์บุรี,สุพรรณบุรี 4 พ.ย.- ผู้ว่าฯ สิงห์บุรีห่วงพื้นที่สำคัญ อ.อินทร์บุรี จมน้ำ สั่งหน่วยงานเร่งป้องกันเต็มที่ หลังบ้านเรือนริมฝั่งเจ้าพระยาถูกน้ำท่วมแล้ว 3 ตำบล ขณะที่ชาวสุพรรณฯ เตรียมเก็บข้าวของไว้ล่วงหน้า หวั่นแม่น้ำท่าจีนเอ่อฉับพลันช่วงกลางคืน

นายวิชัย ไพรสงบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ยังคงลงพื้นที่ติดตามปัญหาน้ำท่วมอย่างต่อเนื่องบริเวณริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา คือ ต.ชีน้ำร้าย ต.พระงาม และ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี ซึ่งมีบ้านเรือนถูกน้ำท่วมแล้วบางส่วน พร้อมกำชับให้เจ้าหน้าที่ตั้งเครื่องสูบน้ำและวางกระสอบทรายกันน้ำไหลเข้าท่วมย่านเศรษฐกิจเทศบาลตำบลอินทร์บุรี รวมทั้งการจัดเต็นท์รองรับประชาชนที่จะขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ

นายธนะ พรหมดวง ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี รายงานว่า วันนี้ (4 พ.ย.51) เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำอยู่ที่ 2,117 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 147 ลูกบาศก์เมตร โดยเฉพาะ อ.อินทร์บุรี แม่น้ำเจ้าพระยามีระดับน้ำสูงกว่าระดับตลิ่งแล้ว 91 เซนติเมตร จำเป็นต้องระบายน้ำเพิ่มขึ้นไปจนถึงวันที่ 6 พ.ย.นี้

ส่วน จ.สุพรรณบุรี ชาวบ้านริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนหลายครัวเรือนเร่งเก็บสัมภาระขึ้นบนที่สูง เพราะเกรงว่าน้ำจะขึ้นสูงในคืนนี้ จะทำให้เก็บของไม่ทัน ขณะเดียวกันเทศบาลเมืองสุพรรณบุรีนำเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่มาติดตั้งบริเวณจุดเสี่ยง ซึ่งบางพื้นที่น้ำเริ่มเอ่อล้นเข้าท่วมแล้ว

นายเกิดชัย ธัญวัฒนกุล ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสุพรรณบุรี ย้ำเตือนประชาชนริมฝั่งแม่น้ำท่าจีนเฝ้าระวังน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งบริเวณหน้าวัดไชยนาวาส เขตเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี เพราะยังมีฝนตกทั้งในพื้นที่สุพรรณบุรีและจังหวัดชัยนาท รวมทั้งส่งผลให้แม่น้ำท่าจีนและระดับน้ำในทุ่งบางปลาม้า-สองพี่น้อง มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น.-สำนักข่าวไทย

2008-11-04 12:35:31

ชาวพิษณุโลกอ่วม เจอน้ำท่วม-ภัยหนาว​

​

พิษณุโลก 4 พ.ย. - นอกจากชาวพิษณุโลกจะประสบกับปัญหาน้ำท่วมแล้ว ยังต้องพบกับสภาพอากาศหนาวเย็นด้วย

ชาวบ้านอำเภอบางระกำ และตำบลบางกร่าง อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งอพยพหนีน้ำท่วมมาพักอาศัยอยู่ถนนและคันคลองชลประทาน ต่างก่อไฟผิงเพื่อคลายความหนาวเย็น นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ยังทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ และป่วยเป็นไข้หวัดเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กและคนชรา

ชาวบ้านบอกว่า ปีนี้นอกจากจะประสบปัญหาน้ำท่วมแล้ว ลมหนาวยังมาเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา ทำให้อากาศหนาวเย็นมากยิ่งขึ้น และมีแนวโน้มจะหนาวเย็นลงอย่างต่อเนื่อง. -สำนักข่าวไทย

2008-11-04 03:02:33

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

เกิดระเบิด 3 จุดหน้าที่ว่าการ อ.สุคิริน เจ็บกว่า 60 ราย​

​

นราธิวาส 4 พ.ย. - คนร้ายลอบวางระเบิดที่ศาลาอเนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอสุคิริน จ.นราธิวาส พร้อมกัน 3 จุด ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 63 คน ในจำนวนนี้สาหัส 12 คน

คนร้ายไม่ทราบกลุ่มลอบวางระเบิด ขณะเจ้าหน้าที่อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน กว่า 300 คน กำลังประชุมภายในศาลาอเนกประสงค์ หน้าที่ว่าการอำเภอสุคิริน จุดแรกคนร้ายได้จุดชนวนโทรศัพท์มือถือ ระเบิดหนักกว่า 50 กิโลกรัม ระเบิดขึ้น ซึ่งคนร้ายขับรถเก๋งมาจอดไว้ฝั่งตรงข้าม แรงระเบิดทำให้รถยนต์พังเสียหาย 3 คัน และเสียหายเล็กน้อยอีกจำนวนมาก

ห่างไปประมาณ 150 เมตร คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดหน้าร้านน้ำชา หมู่ 4 ต.สุคิริน อ.สุคิริน ทำให้นายช่วย ไชยเมฆ เจ้าของร้าน และภรรยา ได้รับบาดเจ็บ จากนั้นไม่นาน คนร้ายจุดชนวนระเบิดลูกที่ 3 ซึ่งผูกติดกับรถจักรยานยนต์ ทะเบียน กกย 953 นราธิวาส ซึ่งจอดอยู่หน้าร้านน้ำชา ทำให้ผู้ที่มานั่งดื่มน้ำชา และผู้ที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ได้รับบาดเจ็บทันที 63 คน ในจำนวนนี้สาหัส 12 คน

หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบหาสาเหตุระเบิดที่แท้จริงต่อไป. - สำนักข่าวไทย

2008-11-04 14:14:52

อ่างทองเปิดศูนย์รับมือท่วม 4 อำเภอ​

​

อ่างทอง 4 พ.ย. - แม่น้ำเจ้าพระยา จ.อ่างทอง ท่วมขยายวงแล้ว 4 อำเภอ โดยเฉพาะป่าโมก น้ำพัดปลาดุกเลี้ยงนับพันตัวหายเกือบหมดบ่อ ผู้ว่าฯ อ่างทอง สั่งเปิดศูนย์ช่วยผู้ประสบภัยและรับมือน้ำตอนเหนือไหลเพิ่มช่วง 5-6 พ.ย.นี้

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์แม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำน้อย จ.อ่างทอง หลังจากเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ปล่อยน้ำลงมาท้ายเขื่อนวันนี้ (4 พ.ย.) เพิ่มเป็นปริมาณ 2,117 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ทำให้แม่น้ำเจ้าพระยาหน้าศาลากลางจังหวัดอยู่ที่ระดับ 7.52 เมตร สูงกว่าจุดวิกฤติ 2 เซนติเมตร และแม่น้ำน้อยสูงขึ้นเช่นกัน ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนทั้งสองฝั่งนับร้อยหลังคาเรือนใน 9 ตำบล 4 อำเภอ คือ อ.ป่าโมก 3 ตำบล อ.เมือง 3 ตำบล อ.ไชโย 1 ตำบล และ อ.วิเศษชัยชาญ 2 ตำบล โดยเฉพาะ อ.ป่าโมก น้ำพัดบ่อเลี้ยงปลาดุกของชาวบ้านหมู่ 5 ต.โผงเผง หลุดหายไปกว่า 3,000 ตัว ขณะที่ไร่นาและสวนผลไม้ติดริมแม่น้ำได้รับผลกระทบหลายร้อยไร่

นายสมชาย อนะวัชกูล นายอำเภอป่าโมก ประสานกับสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เพื่อขอเต็นท์ชั่วคราว 100 หลัง เรือ 50 ลำ และสุขาเคลื่อนที่อีก 10 หลัง เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน พร้อมกับเร่งป้องกันพื้นที่ไม่ให้ถูกน้ำท่วมเพิ่มขึ้น เพราะหากเขื่อนระบายน้ำเพิ่มอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าน้ำจะท่วมป่าโมกหมดทั้งอำเภอ ทั้งที่เดือนนี้ไม่ใช่ฤดูน้ำหลาก โดยเฉพาะ ต.โผงเผง อ.ป่าโมก ต.จำปาหล่อ และ ต.บ้านอิฐ อ.เมือง น้ำสูง 1 เมตร และบางจุดเกือบ 2 เมตร

ด้านนายศุทธนะ ธีวีระปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง สั่งตั้งศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจช่วยผู้ประสบอุทกภัยและติดตามสถานการณ์แม่เจ้าพระยาอย่างใกล้ชิด เพราะคาดว่าช่วงวันที่ 5-6 พฤศจิกายน น้ำจะขึ้นสูงในเกณฑ์ประมาณ 2,300 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านจังหวัดนครสวรรค์ มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นมาก เมื่อรวมกับน้ำจากลุ่มน้ำสะแกกรังคาดว่าจะมีน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาสูงสุด ซึ่งจะมีผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มต่ำบางแห่งและพื้นที่ตอนล่างริมแม่น้ำเจ้าพระยา. - สำนักข่าวไทย

2008-11-04 14:07:34

ผู้ว่าฯ ร้อยเอ็ดเตือนราษฎรริมฝั่งลำน้ำชี ระวังน้ำท่วมระลอกสอง ​

​

ร้อยเอ็ด 4 พ.ย.- นายพงษ์ศิริ กุสุมภ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด แจ้งยังหัวหน้าส่วนราชการ ประกาศเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งลำน้ำชี ให้ระมัดระวังน้ำท่วมฉับพลันระลอกสอง เนื่องจากฝนยังคงตกหนักในพื้นที่ติดต่อกันมานานนับสัปดาห์

ประกอบกับเขื่อนทางเหนือของจังหวัด ประกอบด้วย เขื่อนจุฬาภรณ์ จังหวัดชัยภูมิ เขื่อนอุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น และเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ ระบายน้ำออกจากเขื่อนเนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนเพิ่มสูงขึ้นเกินเกณฑ์ที่กำหนด ทำให้ลำน้ำชีมีระดับสูงขึ้น อาจล้นตลิ่งไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือน ไร่นา ถนน สถานที่ราชการ ระลอกสอง.-สำนักข่าวไทย

2008-11-04 17:53:38

น้ำไหลท่วมบ้านเรือนราษฎรใน อ.พรหมบุรี หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม​

​

สิงห์บุรี 4 พ.ย.- เวลา 14.00 น.วันนี้ ปริมาณน้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท หลังจากระบายน้ำเพิ่มขึ้นเป็นจำนวน 2,117 ลบ.เมตร/วินาที ในวันนี้ ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของราษฎร ใน 4 หมู่บ้าน อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ได้แก่ หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 6 ต.บางน้ำเชี่ยว แล้ว

เทศบาลตำบลบางน้ำเชี่ยว ได้ร่วมกับพระครูวิลาศนุกูลกิจ รองเจ้าอาวาสวัดกุฏีทอง ขอกำลังจากหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง ( สอ.รฝ.) จังหวัดชลบุรี จำนวน 50 นาย มาช่วยกันตั้งแนวกระสอบทราย ยาว 4 กม. เพื่อป้องกันน้ำในเบื้องต้นไม่ให้ไหลเข้าท่วมในเขตชุมชนเทศบาลตำบลบางน้ำเชี่ยว ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยหนาแน่นของประชาชน และตามที่สำนักงานชลประทานที่ 12 จ.ชัยนาท ประกาศแจ้งเตือนว่าเขื่อนเจ้าพระยา จะระบายน้ำเพิ่มขึ้นไปจนถึง 2,300 ลบ.เมตร/วินาที ในระหว่างวันที่ 5-6 พฤศจิกายนนี้ อาจขยายวงกว้างเพิ่มขึ้นมากกว่านี้.-สำนักข่าวไทย

2008-11-04 17:40:20

ที่มา http://news.mcot.net/local/

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Komodo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
ทีมงานเว็บพลังจิต (คมน์)



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 10:33 PM
วันที่สมัคร: Aug 2006
สถานที่: อยู่ในใจคนดีทุกคน หุหุ
ข้อความ: 3,860
ได้ให้อนุโมทนา: 33,732
ได้รับอนุโมทนา 41,440 ครั้ง ใน 3,704 โพส
พลังการให้คะแนน: 1290


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ขอความช่วยเหลือครับพี่ kananun
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->พี่เล็กครับ

ผมขอความช่วยเหลือจากกลุ่มพลังจิตพชิตภัยในการช่วยหาเลขที่บัญชีวัด (กฐินพระราชทาน 76 จังหวัดทั่วไทย) ตาม link

http://palungjit.org/showthrea...84#post1633384

เพื่อโอนเงินร่วมบุญในโครงการกฐินแสนกองครับ

ยังไงผมฝากพี่ประชาสัมพันธ์สมาชิกกลุ่มด้วยนะครับ
หรือว่า ใครมีบ้านอยู่ใกล้วัดอะไร ก็แจ้งได้ครับ จะฝากไปเงินไปทำบุญครับ

โมทนาครับ
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

<TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>MBNY<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
Administrator



วันที่สมัคร: Jul 2003
ข้อความ: 4,067
ได้ให้อนุโมทนา: 58,478
ได้รับอนุโมทนา 23,735 ครั้ง ใน 2,233 โพส
พลังการให้คะแนน: 50000


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->FW: ขอความช่วยเหลือ
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><TABLE class=tborder id=post cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 11:29 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right></TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>Komodo<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_", true); </SCRIPT>
ทีมงานเว็บพลังจิต (คมน์)



เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 11:30 AM
วันที่สมัคร: Aug 2006
สถานที่: อยู่ในใจคนดีทุกคน หุหุ
ข้อความ: 3,841
ได้ให้อนุโมทนา: 33,597
ได้รับอนุโมทนา 40,940 ครั้ง ใน 3,683 โพส
พลังการให้คะแนน: 1288


</TD><TD class=alt1 id=td_post_ style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->แรงฮึด ก๊อกสุดท้าย กฐินแสนกองครับ (ภารกิจเร่งด่วน)
<HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ มหาหิน

วันนี้ จะโอน "เงินบุญ"
มาให้อีก 100,000 บาท ครับ

ขอน้อมโมทนา ในความอุตสาหะ ในการเพียรทำความดี อย่างยอดยิ่ง

มหาหิน มีเนตร์ขำ

</TD></TR></TBODY></TABLE>
พี่ๆครับ กฐินต้องโอนเงินภายใน 12 พ.ย. ครับ ผมไปดูตัวเลขของกรมการศาสนามา

ตอนนี้ผมตั้งกระทู้ให้ คนช่วยหาเลขที่บัญชีของวัดที่ได้รับกฐินพระราชทาน 76 จังหวัดทั่วประเทศ + 16 พระอารามหลวง เพื่อที่จะโอนเงินรอบสุดท้ายครับ

ถ้าเราหาได้ครบ เราจะฉลองกฐินในปีนี้ได้ตามเป้าหมายครับ คือ วัดละ 1,000 บาท (ขั้นต่ำ) และที่สำคัญ คือ เป็นกฐินหลวง 16 วัด และกฐินพระราชทาน 76 จังหวัดด้วยครับ





กระทู้ครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=156932

โมทนาครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>





ถ้าพอมีเวลานะคะ มาร่วมด้วยช่วยกันค่ะ อนุโมทนาด้วยค่ะ
<!-- / message --></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ยอดผู้เสียชีวิตจากอุทกภัยในเวียดนาม-จีนเพิ่มเป็น 119 คน​

​

ฮานอย 4 พ.ย. - น้ำท่วมทางตอนใต้ของจีนไหลเข้าท่วมพื้นที่ภาคเหนือของเวียดนามในวันนี้ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นซ้ำเติมสถานการณ์น้ำท่วมที่คร่าชีวิตประชาชนที่อาศัยบริเวณชายแดนสองประเทศไปแล้วอย่างน้อย 119 คน

น้ำท่วมในเวียดนามตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาได้คร่าชีวิตประชาชนไปแล้ว 85 คน ส่วนพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน มีผู้เสียชีวิต 34 คนจากน้ำท่วมและดินถล่ม โดยสถานการณ์ในกรุงฮานอย ของเวียดนามวันนี้ มีฝนตกเพิ่มขึ้น ซึ่งทางการรายงานว่า มีผู้เสียชีวิต 20 คน จากการจมน้ำ ถูกไฟฟ้าดูด และถูกฟ้าฝ่า ถือเป็นเหตุอุทกภัยครั้งรุนแรงที่สุดนับแต่ปี 2527 ทำให้สถานศึกษาต้องปิดการเรียนการสอน ส่วนถนนหลายสายยังคงจมอยู่ใต้น้ำ นายฝั่ม กวาง หงิ หัวหน้าพรรคคอมมิวนิสต์สาขากรุงฮานอย ระบุว่า อุทกภัยครั้งนี้เป็นครั้งรุนแรงที่สุดในกรุงฮานอย

ด้านกระทรวงสาธารณสุขเวียดนามได้แจ้งเตือนให้คลินิกทุกแห่งในพื้นที่น้ำท่วมเตรียมความพร้อมตลอดเวลาเพื่อรับมือกับการเกิดโรคระบาด เช่น อหิวาตกโรค หรือไข้เลือดออก เพราะประชาชนในหลายพื้นที่ของกรุงฮานอย และจังหวัดอื่น ๆ อีก 17 จังหวัดกำลังขาดแคลนน้ำดื่ม และอาหารสะอาด รวมทั้งไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้

สถานีวิทยุวอยซ์ ออฟ เวียดนาม รายงานว่า เมื่อวานนี้มีการจัดส่งบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และข้าวไปให้แก่เหยื่อน้ำท่วมทั้งใน และรอบ ๆ กรุงฮานอย สำนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่า น้ำจากจีนได้ไหลทะลักลงสู่แม่น้ำแดง ในจังหวัดเลาไก ทางภาคเหนือของประเทศ ส่วนแม่น้ำไถบิ่ง ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญอันดับ 2 ของพื้นที่สามเลี่ยมปากแม่น้ำทางภาคเหนือของเวียดนามก็มีระดับน้ำเพิ่มขึ้นเช่นกัน แต่พื้นที่เกษตรกรรมหลักของเวียดนาม ซึ่งรวมทั้งแหล่งปลูกกาแฟบริเวณที่ราบสูงทางภาคกลาง และแหล่งปลูกข้าวบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ไม่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยครั้งนี้ แม่ว่าฝนจะเป็นอุปสรรคในการเก็บเกี่ยวกาแฟเมื่อสัปดาห์ก่อนก็ตาม

ส่วนฝนตกหนักในมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน ก็ทำให้เกิดดินถล่มคร่าชีวิตประชาชนไปอย่างน้อย 26 คน และสูญหายอีก 45 คน นอกจากนี้ ฝนตกหนักในเขตปกครองตนเองกว่างซี จนถึงพื้นที่ตะวันออกของมณฑลยูนนานก็ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลากส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 8 คน -สำนักข่าวไทย

2008-11-04 11:08:12

เกิดอุบัติเหตุเรือเฟอร์รีล่มที่ฟิลิปปินส์มีผู้เสียชีวิต 39 ราย​

​

มะนิลา 4 พ.ย.-ตำรวจฟิลิปปินส์รายงานว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 39 ราย ซึ่งรวมทั้งเด็ก 8 ราย ที่จมน้ำเสียชีวิต และสูญหาย 10 ราย หลังเรือเฟอร์รีอับปางทางภาคกลางของประเทศ

ตำรวจรายงานว่า เรือเฟอร์รีบรรทุกผู้โดยสาร 119 ราย และพนักงาน 6 ราย ขณะเกิดเผชิญกับคลื่นลมแรงจนเรือล่ม โดยมีผู้รอดชีวิต 76 ราย พบศพ 39 ราย และหน่วยกู้ภัยกำลังค้นหาผู้สูญหาย ทั้งนี้ บริการเรือเฟอร์รีมีราคาถูกและเป็นที่นิยมในฟิลิปปินส์ และมักมีผู้โดยสารเกินพิกัด จนเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง.-สำนักข่าวไทย

2008-11-04 19:08:35

จีนยึดอาหารสัตว์ปนเปื้อนเมลามีนกว่า 3,500 ตัน ​

​

ปักกิ่ง 3 พ.ย. - ทางการจีนลุยตรวจบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ครั้งใหญ่ พร้อมยึดอาหารสัตว์ปนเปื้อนสารเมลามีนกว่า 3,500 ตัน

กระทรวงเกษตรของจีนถึงกับส่งผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตร และเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายเกือบ 370,000 คน ลุยตรวจบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์และฟาร์มเลี้ยงสัตว์ถึง 250,400 แห่ง พบอาหารสัตว์ปนเปื้อนสารเมลามีนกว่า 3,500 ตัน ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ต้องยึดอาหารสัตว์เหล่านี้ และนำมาทำลายทิ้ง ทั้งยังสั่งปิดบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์ไปถึง 238 แห่ง และมีบริษัทรวมถึงฟาร์มอีก 278 แห่ง ที่ถูกสอบสวนเพราะต้องสงสัยว่าจะมีการดำเนินงานที่ผิดกฎหมาย

สำนักข่าวซินหัวรายงานอ้างถ้อยแถลงจากกระทรวงเกษตรของจีนพบว่า มีการตรวจสอบหาสารเมลามีนในอาหารสัตว์ถึง 22,700 รายการ แต่ยังดีที่ร้อยละ 98 ในนี้ ล้วนแต่เป็นอาหารสัตว์ที่ได้มาตรฐานตามที่ภาครัฐกำหนดไว้ ส่วนอาหารสัตว์ที่ปนเปื้อนสารเมลามีนนั้น ยังไม่แน่ชัดว่าได้กระจายเข้าสู่ห่วงโซ่อาหารมากเท่าใดแล้ว

เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานระบุว่า เกษตรกรจีนได้ใช้สารเมลามีนเติมลงในอาหารสัตว์ตั้งแต่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว โดยเริ่มจากอาหารสัตว์น้ำเป็นอันดับแรก เพื่อให้ดูเหมือนว่ามีโปรตีนผสมอยู่ในปริมาณมาก จากนั้นจึงได้มีการขยายผล นำสารเมลามีนมาเติมลงในผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์ประเภทอื่น รวมถึงอาหารที่ใช้เลี้ยงสัตว์ปีก. -สำนักข่าวไทย

2008-11-03 13:53:53

ญี่ปุ่นตั้งเป้าโคลนนิ่งช้างแมมมอธ​

​

โตเกียว 4 พ.ย.- นักวิทยาศาสตร์ญี่ปุ่นเผยว่า สามารถสร้างหนูขึ้นมาจากเซลล์หนูที่ตายแล้ว และแช่แข็งไว้นานถึง 16 ปี ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกในการหาทางชุบชีวิตสัตว์สูญพันธุ์ไปแล้ว เช่น แมมมอธ ให้กลับมามีชีวิตในโลกปัจจุบันอีกครั้ง

คณะนักวิจัยที่สถาบันริเคน สกัดเซลล์นิวเคลียสจากอวัยวะของหนูที่ตายแล้ว และถูกแช่แข็งไว้ที่อุณหภูมิลบ 20 องศาเซลเซียส จากนั้นนำเซลล์นิวเคลียสไปใส่ไว้ในไข่ของหนูที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นกระบวนการที่ทำให้ได้หนูที่เกิดจากการโคลนนิ่ง ปกติแล้วเซลล์จากซากสัตว์มักใช้งานทางวิทยาศาสตร์ไม่ได้ เพราะเซลล์จะถูกทำลายในกระบวนการแช่แข็ง แต่คณะนักวิจัยชุดนี้ พบวิธีสกัดเซลล์นิวเคลียสออกจากเซลล์แช่แข็ง ด้วยการบดเนื้อเยื่อเซลล์ให้กลายเป็นเศษย่อย ๆ หนูตัวผู้ที่ได้จากการโคลนนิ่งนี้ ยังสามารถแพร่พันธุ์กับหนูตัวเมียที่เกิดจากวิธีธรรมชาติได้อีกด้วย

ส่วนการโคลนนิ่งสัตว์ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว เช่น แมมมอธ นักวิจัยต้องหาทางฝังเซลล์นิวเคลียสของแมมมอธไว้ในไข่ของช้าง จากนั้นจึงนำตัวอ่อนไปฝังในมดลูกช้างอีกที สาเหตุที่เลือกช้างเพราะช้างเป็นสัตว์ยุคใหม่ที่ใกล้ชิดแมมมอธมากที่สุด แต่ปัญหาอยู่ที่การค้นหาตัวอย่างเซลล์ของแมมมอธที่สูญพันธุ์ไปตั้งแต่ยุคน้ำแข็ง ว่ากันว่ามีซากแมมมอธฝังอยู่ใต้น้ำแข็งในเขตไซบีเรีย มากกว่า 10,000 ตัว นักวิจัยตั้งความหวังว่า จะสามารถพบตัวอย่างที่สมบูรณ์เพื่อทำการวิจัย.-สำนักข่าวไทย

2008-11-04 18:00:52

เผยโฉมโรงเรียนที่อยู่ในเส้นทางที่ทุรกันดารที่สุดในโลก​

​

ปักกิ่ง 4 พ.ย.- มีโรงเรียนอยู่แห่งหนึ่งในประเทศจีน ซึ่งอาจเป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในเส้นทางที่ทุรกันดารที่สุดในโลก เพราะโรงเรียนตั้งอยู่บนหน้าผา นักเรียนต้องเดินลัดเลาะไปตามทางขึ้นหนาผาถึง 5 ชั่วโมงกว่าจะถึงตัวโรงเรียน

หนังสือพิมพ์เวสต์ ไชน่า ซิตี้ เดลี่ ของจีนรายงานว่า โรงเรียนแห่งนี้ ตั้งอยู่ในหมู่บ้านกูลู่ มณฑลเสฉวน เนื่องจากโรงเรียนตั้งอยู่บนหน้าผา เส้นทางที่จะเดินขึ้นไปยังโรงเรียน จึงเป็นเส้นทางที่ทุรกันดารเป็นอย่างมาก

คนในหมู่บ้านต่างยอมรับว่า เด็กๆ ต้องเสี่ยงภัยอันตรายมากเหลือเกินกว่าจะเดินทางไปถึงโรงเรียน เพราะทางเดินขึ้นหน้าผา ตรงจุดที่แคบที่สุด จะมีความกว้างเพียงแค่ 40 เซนติเมตรเท่านั้น ส่วนอีกด้านหนึ่ง ก็คือแนวชันของหน้าผา ถ้าเดินพลาด ก็อาจตกลงมาถึงแก่ชีวิตได้ ทางเดินขึ้นหน้าผาที่แคบ และลดเลี้ยวไปมา ยังทำให้เด็ก ๆ รู้สึกเวียนศีรษะ

โรงเรียนประถมแห่งนี้ ประกอบด้วยอาคารคอนกรีตถึง 5 หลัง มีสนามเด็กเล่น และมีห่วงชู้ตลูกบาสที่ทำมาจากเสาไม้สองแท่ง มีกระดานดำหนึ่งชุดที่แตกหักเสียหาย แต่ก็ยังใช้งานได้อยู่ แม้จะมีห่วงชู้ตลูกบาส แต่เด็กนักเรียนได้รับอนุญาตให้แค่เลี้ยงลูกบาสได้เท่านั้น แต่ไม่อนุญาตให้โยนลูกบาส เพราะถ้าลูกบาสเกิดหล่นไปอยู่ตามขอบริมผา ก็จะต้องใช้เวลาถึงครึ่งวัน กว่าจะนำลูก
บาสขึ้นมาได้

โรงเรียนประถมแห่งนี้ มีครูเพียงคนเดียว ทำหน้าที่สอนหนังสือมานานถึง 26 ปีแล้ว ครูผู้ชายอายุ 45 ปีคนนี้ เคยพร่ำบ่น อยากจะลาออกอยู่หลายครั้ง แต่ถูกชาวบ้านขอร้องเอาไว้ เพราะถ้าไม่มีเขา ก็ไม่มีใครที่จะมาสอนเด็ก ๆ เหล่านี้ ครูคนนี้ สอนวิชาภาษาจีนและคณิตศาสตร์ ตลอด 26 ปี ที่สอนอยู่ในโรงเรียน มีเด็กนักเรียนแค่ 2 คน เท่านั้น ที่สามารถเรียนต่อจนถึงขั้นมหาวิทยาลัย อาสาสมัครรายหนึ่ง ที่มาช่วยสอนเด็กได้นาน 3 เดือนแล้ว บอกว่า เด็ก ๆ ในโรงเรียน ต่างทำงานกันหนักมาก เพราะความยากจน แม้กระทั่งคอมพิวเตอร์ รถยนต์ หรือส้วมแบบชักโครก พวกเขาก็ไม่เคยเห็นมาก่อน -สำนักข่าวไทย

2008-11-04 16:27:21

พัฒนาตัวเคลือบเซลล์แสงอาทิตย์ใหม่ดูดซับแสงได้เกือบหมด​

​

ชิคาโก 4 พ.ย. - คณะนักวิจัยในสหรัฐพัฒนาตัวเคลือบแบบใหม่ที่ทำให้แผงเซลล์แสงอาทิตย์มีประสิทธิภาพสูงขึ้นด้วยการดูดซับแสงอาทิตย์ได้เกือบทั้งหมดจากทุกมุมที่แสงอาทิตย์ที่ตกกระทบ

เซลล์แสงอาทิตย์ในปัจจุบันดูดซับแสงอาทิตย์ได้เพียง 2 ใน 3 เท่านั้น แต่สถาบันโพลีเทคนิคเรนเซลเลอร์ในเมืองทรอย รัฐนิวยอร์ก พัฒนาตัวเคลือบที่ทำให้ดูดซับแสงอาทิตย์ได้มากถึงร้อยละ 96.2 ด้วยการจับสีในแถบแสงของแสงอาทิตย์ได้มากขึ้นเพราะมีสีดำสนิท ต่างจากเซลล์แสงอาทิตย์ปัจจุบันที่มีสีออกน้ำเงิน ขณะเดียวกันยังสามารถจับแสงได้จากทุกมุมที่แสงตกกระทบ ทำให้แปลงแสงอาทิตย์ไปเป็นกระแสไฟฟ้าได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จากเดิมที่ต้องมีกลไกคอยหมุนแผงเซลล์แสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ตามทิศทางของแสงไปตลอดทั้งวัน

ตัวเคลือบดังกล่าวทำจากวัสดุพรุนซ้อนกัน 7 ชั้น ในลักษณะที่เสริมให้แต่ละชั้นมีคุณสมบัติดูดซับแสงได้ทุกมุมที่แสงตกกระทบ ทำให้ดูดซับแสงได้เพิ่มขึ้นอีก 1 ใน 3 คณะนักวิจัยคาดว่า ตัวเคลือบแบบนี้สามารถใช้ได้กับเซลล์แสงอาทิตย์ทุกประเภท โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์ดัดแปลงเพิ่มเติมใด ๆ. -สำนักข่าวไทย

2008-11-04 11:53:58

ที่มา ที่มา http://news.mcot.net

 

แวะมาช่วยประชาสัมพันธ์ค่ะ

--------------------------------------------------------------

หรือช่วยประชาสัมพันธ์ต่อได้ โดยคัดลอกข้อความ หรือลิงก์ไปยัง

http://www.chomthailand.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538712994&Ntype=15

--------------------------------------------------------------
​

<table padding="0" class="posthead" border="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="posttopic">โครงการไออุ่นจากพี่ให้น้อง #3 (08 ต.ค. 2008, 23:22 น.)</td> <td class="posttopic" align="right"> แอบอ้าง </td> </tr></tbody></table>

โครงการไออุ่น…จากพี่ให้น้อง ครั้งที่ 3
1 พฤศจิกายน- 10 ธันวาคม 2551
ณ โรงเรียนบ้านดงนา ตำบลหนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี
ดำเนินโดย คณะทำงานไออุ่นจากพี่ให้น้อง
มูลนิธิรักษ์ไทย ชมลมชมไทย และอาสาสมัคร แพทย์ บุคคลากร ศิริราชพยาบาล​

<table border="1" cellpadding="2" cellspacing="1" width="100%"> <tbody> <tr> <td>

ดาวโหลดโครงการทั้งหมด..​

</td> <td>

เกี่ยวกับบ้านดงนา และไออุ่นฯ​

</td> <td>

หนังสือ แบบเรียนและสื่อ...​

</td> <td>อาสาสมัครและครูอาสา..</td></tr> <tr> <td>

สอบถามโครงการและการบริจาค..​

</td> <td>

รายนามผู้ร่วมสนับสนุน...​

</td> <td>

VDO /ภาพถ่ายไออุ่น...​

</td> <td>

แผนที่... / แผ่นพับ / ภาพ​

</td></tr></tbody></table>
มูลนิธิ รักษ์ไทย องค์กรพัฒนาเอกชนที่ทำงานด้าน อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการศึกษา พัฒนากลุ่มอาชีพ และงานด้านสุขอนามัย มากว่า 28 ปี ได้จัดทำโครงการพัฒนาชุมชนร่วมกับ ชมลม ชมไทย www.chomthailand.com กลุ่ม คนที่ชื่นชอบการท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และอนุรักษ์ธรรมชาติตลอดจนศิลป วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของชุมชน และอาสาสมัคร แพทย์ พยาบาล บุคคลากร ศิริราชพยาบาล ในโครงการไออุ่น จากพี่ให้น้อง ด้วยการจัดกิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ในตัวเยาวชน และสร้างแหล่งเรียนรู้สำหรับชุมชน ตลอดจนกิจกรรมแพทย์อาสาสมัครตรวจสุขภาพเยาวชน และชุมชนท้องถิ่น เพื่อเก็บข้อมูลพื้นฐานด้านสุขภาพในชุมชนที่ทุรกันดารและขาดแคลน

โครงการ ไออุ่นจากพี่ให้น้อง ได้ดำเนินงานมาเป็นปีที่ 3 แล้ว ซึ่งยังคงยึดหลักการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในชุมชนที่ห่างไกลและทุรกันดาร อันเป็นปัจจัยสำคัญที่เราจะพัฒนาชุมชนได้อย่างมั่นคงและยั่งยื่น และในปี 2551 นี้ ทางมูลนิธิรักษ์ไทยและชมลมชมไทย ได้สำรวจพื้นที่ โรงเรียนบ้านดงนา ตำบลหนามแท่ง อำเภอศรีเมืองใหม่ จังหวัดอุบลราชธานี ในเขตการทำงานของมูลนิธิรักษ์ไทย ซึ่งหมู่บ้านดังกล่าว อยู่ในถิ่นทุรกันดาร และเข้าถึงยาก กลุ่มเยาวชนขาดโอกาสในการเรียนรู้ อีกทั้งเป็นโรงเรียนชายแดน ทำให้มีเกิดปัญหาเรื่องของสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง

วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. เพื่อสร้างสื่อการเรียนรู้ในชุมชนด้วยตัวบุคคล เปิดโลกการเรียนรู้ของเยาวชนในถิ่นทุรกันดาร ด้วยสื่อและนิทรรศการ
2. เพื่อพัฒนาศักยภาพของกลุ่มเยาวชนด้วย กิจกรรมเสริมสร้างปัญญา และภาวะผู้นำ
3. เพื่อเสริมสร้างทักษะชีวิต ในการดำรงอยู่ของเยาวชนด้วยสื่อการเรียนการสอนอันเป็นประโยชน์
4. เพื่อตรวจรักษาสุขภาพเบื้องต้นแก่เยาวชนและชาวบ้าน ตลอดจนการสำรวจข้อมูลด้านสุขภาพของชุมชนดังกล่าว
5. เพื่อเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดีแก่ชุมชนในถิ่นทุรกันดาร และห่างไกล
6. เรียนรู้และเข้าใจในวิถีของกลุ่มคนชายขอบ (ไทย-ลาว) ทั้งการดำรงชีวิตวัฒนธรรม และภูปัญญาที่มาจากบรรพบุรุษ
7. สร้าง ความสัมพันธ์อันดี ด้วยการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม กิจกรรมพัฒนาชุมชน ของกลุ่มนักศึกษา สมาชิกชมรม นักเรียน ชาวบ้าน และบุคคลทั่วไป

กลุ่มเป้าหมาย
1. กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนบ้านดงนา จำนวน 100 คน
2. กลุ่มนักเรียนจากโรงเรียนบ้านโหง่นขาม จำนวน 100 คน
3. กลุ่มนักศึกษา และเจ้าหน้าที่ จากคณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล จำนวน 50 คน
4. กลุ่มสมาชิกชมรมชมไทย 50 คน
5. กลุ่มอาสาสมัคร และบุคคลทั่วไปที่สนใจงานพัฒนาชุมชน 50 คน


ผลที่คาดว่าจะได้รับ
1. กลุ่มเยาวชนบ้านดงนา และบ้านโหง่นขาม มีโอกาสเปิดโลกทรรศกับสื่อการเรียนการสอนที่ง่ายต่อการเรียนรู้
2. กลุ่มเยาวชนบ้านดงนา และบ้านโหง่นขาม สามารถเป็นแกนนำในการทำกิจกรรมอย่างต่อเนืองกับเครือข่าย
หรือองค์กรอิสระต่างๆ
3. กลุ่มเยาวชนบ้านดงนา และบ้านโหง่นขาม สามารถพัฒนาทักษะในการดำเนินชีวิตโดยภูมิปัญญาชาวบ้านด้วยตนเอง
4. สามารถเก็บข้อมูลด้านสุขภาวะของชุมชน ตลอดการสุขภาพรักษาเบื้องต้น แก่กลุ่มเยาวชน และชาวบ้านได้

ตัวชี้วัดโครงการ
1. นัก เรียนโรงเรียนบ้านดงนา 100 คน และโรงเรียนบ้านโหง่นขาม 100 คน มีโอกาสเปิดโลกทรรศกับสื่อการเรียนการสอนที่ง่ายต่อการเรียนรู้ของเด็กเอง ส่งผลให้เด็กเข้าใจความรู้ใหม่ๆ ที่ได้จากสื่อและวิธีการสอนในกิจกรรมครูอาสา อาทิ สนุกกับวิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ภาษาอังกฤษ ภูมิปัญญาท้องถิ่น ภูมิศาสตร์บ้านเรา ตลอดจนการอบรมเรื่อง จริยธรรมและการทำความดี การห่างไกลยาเสพติด
2. สามารถสร้างสื่อการเรียนรู้ในชุมชนด้วยตัวบุคคล โดยสร้างกลุ่มเยาวชนที่สามารถเป็นแกนนำในการทำกิจกรรมอย่างต่อเนืองกับเครือ ข่าย หรือองค์กรอิสระต่างๆ ที่ทำไปทำกิจกรรมในชุมชน เพราะเท่าที่สำรวจข้อมูลมาแล้ว ปรากฏว่า แหล่งเรียนรู้ในชุมชน ยังมีไม่เพียงพอ ทั้งที่เป็นชุมชนที่มีความน่าสนใจในเรื่อง ชนเผ่า อาชีพ การท่องเที่ยว แต่ไม่สามารถอธิบายถึงที่มาที่ไปได้ ของชุมชนได้ เนื่องจากไม่มีกลุ่มบุคคล หรือแหล่งเรียนรู้ที่ดีได้
3. สามารถเสริม สร้างทักษะชีวิต ในการดำรงอยู่ของเยาวชนด้วยภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยไม่พึงพาวัตถุจากภายนอก อาทิ การทำเกษตรแบบพอเพียงที่มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านนี้มายาวนาน แต่ไม่มีการรวบรวมหรือเก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ แต่ทางโครงการจะเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ โดยให้เยาวชนเป็นศูนย์กลางในการเรียนรู้ เพื่อที่จะใช้ดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคตได้
4. เพิ่มศักยภาพการข้อมูลสุขภาพพื้นฐานในชุมชน โดยการเก็บข้อมูลหลังจากที่ทีมแพทย์อาสา ได้เข้าไปตรวจสุขภาพเบื้องต้นแล้วนำข้อมูลทางสุขภาพ สรุปส่งรายงานผลให้อนามัยประจำหมู่บ้าน และสาธารณะสุขจังหวัดเพื่อเป็นข้อมูลสุขภาพของหมูบ้านดงนา

รูปแบบการดำเนินงาน
โครงการดังกล่าวจะแบ่งเป็น 2 ช่วงได้แก่

1. กิจกรรมครูอาสา “ไออุ่นพี่สอนน้อง” (ตลอดเดือนพฤศจิกายน)
• กิจกรรม จัดหลักสูตรการเรียน การสอนสำหรับกลุ่มเยาวชน ในรูปแบบครูอาสา ด้วยการจัดให้นักศึกษา และสมาชิกชมรมชมไทย คิดหลักสูตรการเรียนการสอนในช่วงเวลาพิเศษ เสาร์ อาทิตย์ โดยมีหลักสูตรดังต่อไปนี้
- 1. วันที่ 1-2 พ.ย. 2551 หลักสูตรภาษาพาสนุก
- 2. วันที่ 8-9 พ.ย. 2551 หลักสูตรภาษาพาสนุก และหลักสูตรสุขภาพดี เริ่มต้นที่ตัวเอง
- 3. วันที่ 15-16 พ.ย. 2551 หลักสูตรภาษาพาสนุก และกิจกรรมเก็บข้อมูลแหล่งเรียนรู้ชุมชน โดยเยาวชน
- 4. วันที่ 22-23 พ.ย. 2551 หลักสูตรหลักสูตรจริยธรรม คุณธรรมสำหรับเยาวชน
- 5. วันที่ 29-30 พ.ย. 2551 หลักสูตรใกล้ความดี ไกลอบายมุข และกิจกรรมทักษะชีวิตเพื่ออนาคต

โดย แต่ละหลักสูตรจะมีการพัฒนาและคัด เลือกผู้สอน จากคณาจารย์ของสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กลุ่มนักศึกษาศิริราชพยาบาล สมาชิกชมรมชมไทย และบุคคลผู้สนใจ เดินทางไป อาทิตย์ละ 10-15 คน เพื่อจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง

2. กิจกรรมโครงการ “ไออุ่นจากพี่ให้น้อง” ระหว่างวันที่ 5-7 ธันวาคม 2551
2.1 กิจกรรมห้องสมุดเคลื่อนที่ “รถลุงฮูก” ของมูลนิธิรักษ์ไทย
• เป็น การจัดสื่อการเรียนการสอนที่เป็นประโยชน์การเยาวชน มาออกแสดงให้กลุ่มเยาวชนได้เรียนรู้กับสื่อทีทันสมัย และง่ายต่อการเข้าใจ อาทิ ฐานร่างกายมนุษย์ที่จะนำเอาโมเดลร่างกาย และอวัยวะมนุษย์มาให้เด็กๆ ได้ศึกษาและเรียนรู้ ฐานหุ่นละครมือ ที่แสดงละครเรื่องการอยู่ร่วมกันของสังคม ความสมัครคีในชุมชนเพื่อยกระดับจิตใจของเยาวชนให้ มีความสามัคคีและรักกัน
2.2 กิจกรรมแพทย์อาสา “สุขภาพดีพี่ให้น้อง” เป็นการสำรวจและตรวจรักษาสุขภาพของเยาวชนและชาวบ้านชาวบ้านกว่า 200 ครัวเรือน ซึ่งได้รับความร่วมมือจากกลุ่มนักศึกษา และคณาจารย์จาก คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ในการเป็นอาสาสมัครลงพื้นที่ ตั้งบานตรวจและรักษาสุขภาพเบื้องต้นของเยาวชนและชาวบ้านในละแวกใก้ลเคียง
2.3 โครงการศูนย์การเรียนรู้ชุมชน “เปิดโลกแห่งการเรียนรู้” เป็นกิจกรรมพัฒนาพื้นที่ว่างเปล่าในโรงเรียน ให้เป็นห้องสมุคชุมชน ด้วยการจัดสรรอุปกรณ์การเรียนรู้รูปแบบใหม่ และสื่อการเรียนการสอนที่ทันสมัย ให้เยาวชน และชุมชนได้เข้ามาหาความรู้เพิ่มเติม ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ เกิดการเรียนรู้และพัฒนาที่ดีได้
2.4 กิจกรรมสันทนาการ เกมสร้างทักษะและปัญญา
2.5 กิจกรรมการพัฒนาชุมชน ปรับปรุงสาธารณประโยชน์ภายในหมู่บ้าน อาทิ ห้องน้ำ โรงอาหาร





ผู้รับผิดชอบโครงการและผู้ประสานงานโครงการ
1. มูลนิธิรักษ์ไทย ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ผู้ประสานงาน คุณชูชาติ ตรีรัถยานนท์ โทรศัพท์ 02-265-6833 มือถือ 089-143-0917
E-mail: choochat@raksthai.org, treerattayanon_c@hotmail.com, raksthai.pr@gmail.com
2. ชมลมชมไทย
ผู้ประสานงาน คุณเอกราช มบขุนทดโทรศัพท์ 089-780-1770 E-mail: chomthailand@yahoo.com
3. กลุ่มบุคลลากร แพทย์ พยาบาล จากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
ผู้ประสานงาน คุณพรรธิภา มีโภคา โทรศัพท์ 086-621 8041 เบอร์ที่ทำงาน 02-419-7000 ต่อ 6585 E-mail: psycho-miw@hotmail.com

หรือ ติดต่ออีเมลล์ส่วนกลางโครงการไออุ่นฯ ที่ E-mail: info@chomthailand.com


ร่วมบริจาคและสนับสนุโครงการ

โดยโอนเงินผ่าน ธนาคารกสิกรไทย สาขาย่อยสี่แยกเกษตร เลขที่บัญชี 778-2-02536-2
ชื่อบัญชี นายเอกราช มบขุนทด และนายชูชาติ ตรีรัถยานนท์


ติดต่อสอบถามการบริจาค

นส.นุชชรีย์ ไทยรักษา ( คุณนุช ตาโต )
เบอร์โทรติดต่อ
081-452-6478 หรือ 081-928-3574

เบอร์ที่ทำงาน 02-861-3333
เบอร์แฟกซ์ 02-439-4546-7


ขอโครงการไปนำเสนอเพื่อทำหนังสือถึงหน่วยงานติดต่อได้ที่

มูลนิธิรักษ์ไทย ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์
ผู้ประสานงาน คุณชูชาติ ตรีรัถยานนท์ มอร์ - โทรศัพท์ 02-265-6833 มือถือ 089-143-0917
E-mail: choocaht@raksthai.org, treerattayanon_c@hotmail.com, raksthai.pr@gmail.com

 

สิงห์บุรีท่วมหนัก สั่งปิดโรงเรียนชั่วคราว 7 แห่ง​

​

สิงห์บุรี 5 พ.ย. - สพท.สิงห์บุรี ห่วงปัญหาน้ำท่วมสูง อ.อินทร์บุรี สั่งปิดโรงเรียน 7 แห่ง ขณะที่แม่น้ำเจ้าพระยาไหลล้นตลิ่งเข้าหลายชุมชน ชาวบ้านย่านตลาดอินทร์บุรีระดมเก็บสัมภาระก่อนน้ำขยายวง

นายทวีศักดิ์ นุ่มฤทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) สิงห์บุรี ประกาศให้โรงเรียนในพื้นที่ ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี ทั้งหมด 7 แห่ง ปิดการเรียนการสอนชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของเด็กนักเรียน เนื่องจากปัญหาน้ำท่วม และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เพราะฝนยังตกต่อเนื่อง ประกอบกับช่วงนี้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำเพิ่ม

น.ส.นัยนา พลหาญ รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสิงห์บุรี กล่าวว่า วันนี้ (5 พ.ย) เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำด้านท้ายเขื่อน 2,290 ลบ.เมตร/วินาที ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเพิ่มจากวานนี้ 173 ลูกบาศก์เมตร ส่งผลให้หลายพื้นที่ประสบภาวะน้ำท่วม โดยเฉพาะ อ.อินทร์บุรี แม่น้ำเจ้าพระยาสูงกว่าตลิ่ง 1.16 เมตร มีพื้นที่เสียหายเพิ่มอีก 2 ตำบล คือ ต.ทับยา ต.อินทร์บุรี ส่วนเขตเทศบาลตำบลอินทร์บุรีน้ำเริ่มไหลเข้าท่วมบางส่วนที่ชุมชนหัวสะพาน ขณะเดียวกันย่านตลาดอินทร์บุรี ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ ชาวบ้านส่วนใหญ่ทยอยขนของขึ้นบนที่สูง โดยมีกำลังทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 15 สำนักงานพัฒนาภาค 1 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนากองทัพไทย เข้ามาช่วยเหลือราษฎรขนย้าย. -สำนักข่าวไทย

2008-11-05 14:02:01

วังช้างอยุธยาเตรียมย้ายช้างหนีน้ำท่วม​

​

พระนครศรีอยุธยา 5 พ.ย.- นายลายทองเหรียญ มีพันธุ์ เจ้าของวังช้างอยุธยา แลเพนียด จ.พระนครศรีอยุธยา และประธานชมรมพระคชบาล เปิดเผยว่า แม่น้ำลพบุรียังคงเอ่อท่วมสถานที่เลี้ยงช้าง ภายในเพนียดคล้องช้างในระดับ 30 เซนติเมตร และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก

ซึ่งจะทำให้พื้นที่อยู่ของช้างถูกน้ำท่วมทั้งหมด เบื้องต้นจะย้ายช้างไปไว้บริเวณสวนสมเด็จพระศรีสุริโยทัย หรือโรงงานสุราเดิมในเกาะเมือง และบางส่วนอาจไปไว้ในที่ดินเอกชน ต.สวนพริก อ.พระนครศรีอยุธยา หากใน 3 วัน น้ำยังขึ้นสูงท่วมไร่ปลูกหญ้าและข้าวโพดเลี้ยงช้างในพื้นที่ ต.บ้านเกาะ อ.พระนครศรีอยุธยา จะทำให้ไม่มีอาหารให้ช้างวันละ 20 ตัน ถ้าเป็นเช่นนี้จะนำช้างทั้งหมดเข้า กทม. เพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือดูแลศูนย์อนุรักษ์และเพาะพันธุ์ช้างไทย.-สำนักข่าวไทย

2008-11-05 10:41:24

อ่างทองห่วงย่านเศรษฐกิจจมน้ำสั่งป้องกันเต็มที่​

​

อ่างทอง 5 พ.ย.- นายศุทธนะ ธีวีระปัญญา ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ยังคงลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องติดตามปัญหาน้ำท่วมสูง 1.50 เมตร ใน ต.โผงเผง อ.ป่าโมก เช้าวันนี้ (5 พ.ย.) และพบว่าสวนกล้วยและสวนกะเพราเสียหายแล้วกว่า 300 ไร่

จากนั้นตรวจการทำคันกั้นน้ำในพื้นที่ ม.8 ที่มีปัญหาทรุดตัวและเป็นหมู่บ้านสุดท้ายที่ยังไม่ถูกน้ำท่วม โดยหน่วยพัฒนาพื้นที่ 11 สำนักงานพัฒนาภาค 1 จ.กาญจนบุรี และกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 11 รักษาพระองค์ จ.ลพบุรี ส่งกำลังพล 30 นาย มาช่วยเหลือทำคันกั้นน้ำ พร้อมกันนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองกำชับให้ทุกหน่วยงานแต่ละพื้นที่ป้องกันน้ำท่วมไว้อย่างดี โดยเฉพาะย่านเศรษฐกิจ และประสานผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นการศึกษา (สพท.) อ่างทอง เน้นย้ำทุกโรงเรียนดูแลไม่ให้เด็กลงเล่นน้ำท่วมเด็ดขาด เพื่อความปลอดภัย.-สำนักข่าวไทย

2008-11-05 09:58:03

คุมเข้มหาดใหญ่หวั่นเหตุระเบิดลุกลาม​

​

พ.ย. - เจ้าหน้าที่คุมเข้มเส้นทางเข้าสู่จังหวัดสงขลาทุกจุด หลังเกิดเหตุลอบวางระเบิดขึ้นใน จ.นราธิวาส ป้องกันเหตุความไม่สงบลุกลาม และการหลบหนีเข้ามาของคนร้าย

หลังเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้เพิ่มความเข้มในการรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ โดยสนธิกำลังกับทหารและเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ออกตรวจสอบรถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกคัน ที่มุ่งหน้าเข้ามาในพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ 4 อำเภอรอยต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเส้นทางที่เชื่อมต่อเข้าตัวอำเภอหาดใหญ่และอำเภอเมือง เพื่อป้องกันการลอบเข้ามาก่อเหตุร้ายของกลุ่มก่อความไม่สงบ และป้องกันไม่ให้คนร้ายหลบหนีเข้ามา

ทั้งนี้ที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้อำเภอหาดใหญ่ กำลังอยู่ในระหว่างการจัดเทศกาลโคมไฟสีสันเมืองใต้ ที่บริเวณสวนสาธารณะเทศบาลนครหาดใหญ่ ทำให้ต้องมีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว. - สำนักข่าวไทย

2008-11-04 23:16:46

อธิบดีปศุสัตว์สั่งเฝ้าระวังไข้หวัดนกช่วงรอยต่อฤดูฝนฤดูหนาว​

​

กรมปศุสัตว์ 5 พ.ย. - อธิบดีกรมปศุสัตว์สั่งการให้สำนักงานปศุสัตว์ทั่วประเทศ เฝ้าระวังไข้หวัดนกระบาดและโรคระบาดอื่น ๆ ในช่วงรอยต่อระหว่างฤดูฝนกับฤดูหนาว เพราะสัตว์จะอ่อนแอง่าย

นพ.ศักดิ์ชัย ศรีบุญซื่อ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้สั่งการให้เฝ้าระวังเต็มที่ หลังไม่พบว่า ที่จังหวัดสุโขทัยมีไข้หวัดนกระบาดแต่อย่างใด ตามที่สื่อมวลชนรายงานว่า พบไก่ตายอย่างผิดปกติ นอกจากนี้ กรมปศุสัตว์ยังเตือนเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ปีกและประชาชนว่า ช่วงเวลานี้ภูมิต้านทานของสัตว์เลี้ยงจะลดลง และป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ได้ เสี่ยงต่อการเกิดไข้หวัดนก จึงขอความร่วมมือเกษตรกรผู้เลี้ยงควรมีคอกหรือเล้าให้สัตว์ปีกได้อาศัยหลบฝนและกั้นลมหนาว ซึ่งจะช่วยให้สัตว์ปีกมีสุขภาพแข็งแรง และหากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติหรือสงสัยว่าเป็นไข้หวัดนกให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ในพื้นที่ใกล้บ้าน. -สำนักข่าวไทย

2008-11-05 10:57:14

ที่มา http://news.mcot.net

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>CNN ประกาศชัยชนะ “โอบามา” ประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>5 พฤศจิกายน 2551 11:12 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=450 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=450> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพจากเว็บไซต์ foxnews ประกาศชัดว่า "บารัค โอบามา" คือ ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> ซีเอ็นเอ็น - หลังการปิดหีบเลือกตั้งในพื้นที่ส่วนใหญ่ของสหรัฐฯ สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นได้รายงานการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า บารัค โอบามา ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครต ได้รับชัยชนะขึ้นเป็นประธานาธิบดีผิวสีคนแรกของสหรัฐฯ ไปอย่างขาดลอย

สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า โอบามา ผู้สมัครจากพรรคเดโมแครตวัย 47 ปี ได้รับชัยชนะขึ้นดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 44 ของสหรัฐฯ จากการกวาดคะแนนอิเลกทอรัลโหวตไป 338 เสียง ซึ่งมากกว่าคะแนนที่ต้องการ 270 เสียงอย่างท่วมท้น

ขณะที่ คู่แข่ง จอห์น แมคเคน ได้คะแนนอิเลกทอรัลโหวตจากการเลือกตั้งครั้งนี้ไปเพียง 159 เสียง โดยยังสูญเสียคะแนนจากรัฐสำคัญหลายรัฐ ที่ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช เคยกำชัยชนะไว้ในการเลือกตั้งครั้งก่อน เมื่อปี 2004

สำหรับ โจ ไบเดน ซึ่งเพิ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกรัฐเดลาแวร์ไปอย่างลอยลำ ก็คงต้องลาออก เพื่อมารับตำแหน่งรองประธานาธิบดี คู่กับโอบามา หลังจากทำงานในวุฒิสภามานานกว่า 36 ปี โดยคาดว่าจะแต่งตั้งผู้ว่าการรัฐเดลาแวร์มาดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกแทน

และเมื่อเวลาประมาณ 11.15 น. ตามเวลาในไทย แมคเคน ได้ออกมาประกาศยอมรับความพ่ายแพ้ โดยบอกว่าได้โทรศัพท์ไปแสดงความยินดีกับโอบามาแล้ว ทั้งยังระบุว่าผลการเลือกตั้งครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความก้าวหน้าของประเทศด้วย

ผลสรุปการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งจากสื่อ เมื่อปิดหีบเลือกตั้งใน 46 รัฐ และดิสทริกต์ออฟโคลัมเบียแล้ว

มลรัฐที่โอบามาได้รับชัยชนะ และจำนวนอิเลกทอรัลโหวต
แคลิฟอร์เนีย 55
โคโลราโด 9
คอนเนกติกัต 7
เดลาแวร์ 3
ฮาวาย 4
อิลลินอยส์ 21
ไอโอวา 7
แมริแลนด์ 10
แมสซาชูเสตส์ 12
เมน 4 มิชิแกน 17
มินนิโซตา 10
เนวาดา 5
นิวเจอร์ซีย์ 15
นิวแฮมป์เชียร์ 4
นิวเม็กซิโก 5
นิวยอร์ก 31
โอไฮโอ 20
โอเรกอน 7
เพนซิลเวเนีย 21
โรดไอแลนด์ 4
เวอร์มอนต์ 3
เวอร์จิเนีย 13
วอชิงตัน 11
วอชิงตันดีซี 3
วิสคอนซิน 10

รวม 338

มลรัฐที่แมคเคนได้รับชัยชนะ และจำนวนอิเลกทอรัลโหวต
แอละแบมา 9
อะแลสกา 3
แอริโซนา 10
อาร์คันซอร์ 6
จอร์เจีย 15
ไอดาโฮ 4
แคนซัส 6
เคนทักกี 8
ลุยเซียนา 9
มิสซิสซิปปี 6
เนบราสกา 4 จาก 5
นอร์ทดาโกตา 3
โอกลาโฮมา 7
เซาท์แคโรไลนา 8
เซาท์ดาโกตา 3
เทนเนสซี 11
เทกซัส 34
ยูทาห์ 5
เวสต์เวอร์จีเนีย 5
ไวโอมิง 3

รวม 159

</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

นราธิวาสเกิดเหตุไม่สงบต่อเนื่อง วางระเบิด-เผาโรงเรียน





​

สื่อข่าวรายงานวันนี้ (5 พ.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารจัดกำลังดูแลความปลอดภัยตามจุดต่างๆ อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะกลุ่มครู หลังเกิดเหตุวางระเบิดที่ อ.สุคิริน จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.)

มีรายงานด้วยว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้วัตถุระเบิดได้ 2 ลูก ที่ร้านคาราโอเกะ ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส และกลุ่มคนร้ายได้ลอบเผาโรงเรียนวัดพนาสณฑ์ ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส บริเวณอาคารเรียนไม้ 2 ชั้น ได้รับความเสียหาย 5 ห้องเรียน ทางโรงเรียนจึงประกาศให้หยุดเรียน 1 วัน ส่วนนักเรียนที่เดินทางมาก็เริ่มทยอยกลับแล้ว ​

ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐและข่าวสด
http://hilight.kapook.com/view/30623