ประโยชน์และความจำเป็นของฌานสมาบัติ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 14 กรกฎาคม 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ความเห็นที่ 16 โดยคุณ ปราโมทย์ วัน พุธ ที่ 15 พฤศจิกายน 2543 09:19:43 ตอนที่ 4 ประโยชน์และความจำเป็นของฌานสมาบัติ


    การทำฌานสมาบัติมีประโยชน์หลายประการ เช่นเพื่อความอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน เพื่อให้ได้อภิญญา เพื่อความมีสติสัมปชัญญะ และเพื่อเป็นกำลังสนับสนุนการบรรลุมรรคผล ฯลฯ


    โทษของฌานสมาบัติ ก็มีหลายประการ โดยเฉพาะฌานที่เป็นมิจฉาสมาธิ เช่นทำให้เนิ่นช้าในการปฏิบัติธรรม ทำให้เกิดสัญญาวิปลาสและทิฏฐิวิปลาส และเพิ่มพูนมานะอัตตาให้รุนแรงยิ่งขึ้น ฯลฯ


    ผู้มีปัญญาต้องรู้จักใช้ประโยชน์จากฌานสมาบัติ และระวังไม่ให้เกิดโทษ เหมือนคนที่ใช้พลังงานปรมาณู ที่ต้องใช้ให้เป็นจึงจะไม่เกิดโทษ


    สำหรับความจำเป็นของฌานสมาบัตินั้น ก่อนอื่นต้องถามก่อนว่า จะมองในแง่ความจำเป็นสำหรับผู้ใด เช่นพวกโจรผู้ร้าย ไม่จำเป็นต้องมีสมาบัติ เพราะจะยิ่งทำชั่วได้ง่ายขึ้น แต่เข้าใจว่า หนึ่ง ต้องการถามถึงความจำเป็นสำหรับผู้ปฏิบัติธรรม ซึ่งผมเห็นว่า มีประโยชน์ แต่ไม่ถึงขั้นจำเป็นยิ่งยวดที่ขาดเสียไม่ได้ กล่าวคือ


    หากเราสามารถพักจิตในฌานสมาบัติ แทนการพักจิตด้วยกามคุณ เช่นกินเหล้า ร้องคาราโอเกะ ดิ้น หลอกผู้หญิง หลอกผู้ชาย ความสุขสงบในชีวิตมันประณีตกว่ากันมากครับ อย่าง หนึ่ง ทำธุรกิจ วันหนึ่งๆ ต้องปวดหัวกับความเครียดมากมาย ถ้าก่อนนอนสามารถพักจิตได้ ก็จะพักผ่อนได้เต็มที่ ไม่ใช่นอนหลับจมความเครียดอยู่


    การพักผ่อนเช่นนี้ อาจจะคำนวณเป็นตัวเงินก็ได้ เช่นเราเคยเสียเงินเพื่อความผ่อนคลายเดือนละเท่าไร พอพักในฌาน ก็ประหยัดเงินส่วนนี้ได้ แถมไม่ต้องรับผลข้างเคียงจากการพักผ่อนที่ไม่ดีอีก


    ยิ่งเป็นนักปฏิบัติที่เป็นนักบวชนั้น ชีวิตค่อนข้างแร้นแค้นทางวัตถุ การพักในฌานก็มีประโยชน์ ให้เกิดความสุข มีกำลังใจที่จะปฏิบัติธรรมต่อไป


    สำหรับประโยชน์ในด้านอภิญญานั้น ไม่ใช่ว่าทุกคนที่ได้ฌานจะได้อภิญญาเสมอไป คนเราในยุคนี้ กระทั่งทำฌานได้ก็มีน้อยเต็มที ที่จะได้อภิญญาด้วย ยิ่งน้อยหนักเข้าไปอีก ส่วนมากที่มีอภิญญากันบ้าง จะเป็นผลจากการสะสมในอดีตเสียมากกว่าครับ อีกอย่างหนึ่ง อภิญญาไม่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติธรรม ไม่มีก็ไม่เป็นไรครับ


    ประโยชน์ของฌานสมาบัติในด้านการสร้างสติสัมปชัญญะนั้น จำเป็นสำหรับคนที่เริ่มปฏิบัติ ด้วยวิธีเจริญปัญญาไม่ได้ หรือเจริญปัญญาจนจับผู้รู้ได้ แต่จิตไม่ตั้งมั่นพอ (แบบหนึ่ง) ก็ต้องเสริมด้วยการทำสมาธิ แต่บางคนทำอย่างไรก็ไม่ได้ฌาน ซึ่งก็ไม่เป็นไรครับ หัดเริ่มจากขั้นบริกรรมภาวนา แล้วแยก คำบริกรรม หรือ อารมณ์กรรมฐาน เช่นลมหายใจ ว่าเป็นสิ่งที่ถูกรู้ หัดเท่านี้ ไม่ต้องถึงฌานสมาบัติก็ไม่เป็นไรครับ แต่ถ้าถึงฌาน จิตก็มีกำลังมาก แต่อย่าเสียเวลาเพื่อไปหัดเลยครับ มันเกินจำเป็นไปหน่อยสำหรับคนเมืองที่ใช้วิธีดูจิต


    สำหรับประโยชน์ของฌานสมาบัติในการเกื้อกูลต่อการบรรลุมรรคผลนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ต้องหัดครับ เพราะเมื่อเวลาจิตจะเกิดมรรคผลนั้น จิตจะได้ฌานเองโดยอัตโนมัติ ในตำราระบุว่าจิตที่เกิดมรรคผล จะประกอบด้วยฌาน 1 - 5 ซึ่งเป็นรูปฌานล้วนๆ (อภิธรรมแยกรูปฌาน 4 ออกเป็นรูปฌาน 5) แต่ผมเห็นว่า แม้อรูปฌานก็เกิดขึ้นได้ ในขณะที่เกิดมรรคผล เพราะองค์ฌานของอรูปฌานก็มี 2 เหมือนรูปฌานที่ 5 คืออุเบกขากับเอกัคคตา นอกจากนี้ อันที่จริงมรรคผลนั้นรู้อารมณ์นิพพาน ไม่ได้รู้อารมณ์รูปและนาม องค์ฌานคืออุเบกขาและเอกัคคตา เป็นเพียงตัวสนับสนุนให้จิตมีกำลังเท่านั้น ความสำคัญจึงอยู่ที่องค์ฌาน ไม่ใช่อยู่ที่ว่าเป็นรูปฌานหรืออรูปฌาน


    เหตุผลอีกประการหนึ่งก็คือ ในตำราอภิธรรมเอง กล่าวถึงการบรรลุมรรคผลนิพพานของพระอริยบุคคลในอรูปภูมิ ถ้าหากเวลาบรรลุมรรคผล ต้องเกิดในรูปฌานเท่านั้น ก็เท่ากับพรหมนั้นตายจากอรูปภูมิมาอยู่ในรูปภูมิเพื่อบรรลุมรรคผล ซึ่งตำราอภิธรรมเองไม่ได้กล่าวเช่นนั้น ดังนั้น การบรรลุมรรคผล ด้วยจิตที่มีกำลังของอรูปฌานสนับสนุน จึงน่าจะเป็นไปได้


    สรุปแล้ว ฌานสมาบัติมีประโยชน์ต่อนักปฏิบัติ แต่ไม่ถึงขั้นเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องทำให้ได้ครับ


    http://www.bangkokmap.com/pm/content/view/228/1/
     
  2. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    กุศลผลบุญใด ๆ ก็ตามที่ข้าพเจ้าได้ทำมาแล้ว ตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันนี้
    ข้าพเจ้าขออุทิศให้
     
  3. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,075
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ขอบคุณ สำหรับบทความ ที่มีประโยชน์ครับ^-^
     
  4. junior phumivat

    junior phumivat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    1,346
    ค่าพลัง:
    +1,688
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่านทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ
    อิทัง ปุญญะผะลัง ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอเจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่เทพเจ้าทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และเทพเจ้าทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และพระยายมราช ขอเทพเจ้าทั้งหลาย และพระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้ พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและพระยายมราชจงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึงพระนิพพานเพียงใด ขอคำว่าไม่รู้ ไม่มี ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด
     
  5. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ขออนุโมทนา

    [​IMG]

    ณ.โอกาศนี้ ขอน้อมองค์คุณ
    พระพุทธะอรหันต์ พระมหาพุทธะอรหันต์
    พระอรหันต์ พระมหาอรหันต์
    พระโพธิสัตว์ พระมหาโพธิสัตว์
    จงบันดาลให้ทุกท่าน
    ไม่ติด ไม่ขัด ไม่ข้อง ไม่คา
    ลุล่วงพ้นทุกข์ ตามพุทธะประสงค์ ตรงต่อพระนิพพาน
    ในชาติปัจจุบันกาลนี้ด้วยเทอญ

    <!-- / message --><!-- attachments -->
     
  6. หาธรรม

    หาธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,164
    ค่าพลัง:
    +3,739
    เป็นบทความที่ดีมากครับ
     
  7. matakalee

    matakalee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +367
    โมทนาสาธุคะ อ่านแล้วได้ความรู้เพิ่มเติมจากเดิมมาก นำไปต่อยอด เพื่อจะได้มีดวงตาเห็นธรรม
     
  8. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ดูแล้วยุ่งไปทุกเรื่องคือ..ผู้อยากตื่น..อยากรู้..อยากเบิกบาน..ไม่ว่ากันนะครับ..ในขณะที่ทำสมาธิโดยวิธีดูจิตคือกำหนดดูจิตอยู่ตลอดเวลาในเวลากลางวัน(ส่วนมากกลางคืนนั่งสมาธิ)แล้วมันเกิดความรู้สึกเป็นสุขอยู่อย่างนั้นอยู่ตลอดไม่ยินดียินร้ายว่าร้อนว่าหนาวรู้เพียงว่าร้อนคือรู้แต่ไม่สนใจจนลืมเพราะเป็นสุขอยู่อย่างนั้น...ที่ผมอยู่นี่สี่สิบห้าองศาขึ้นครับช่วงนี้...อารมณ์คือไม่เหมือนว่ามึน...มันเบาสบาย...หายใจละเอียดมาก...ในที่นี้หมายถึงบางทีก็หลุดนะครับ...ก็กลับเข้ามาใหม่...ถามว่าขณะลืมตาตรงนี้ถือว่าเกิดองค์ฌานไหม...ศิลแปดบริสุทธิ์ครับไม่มีขาดไม่มีรั่ว...หากหลับตาผมเข้าใจ...พอไปดูจิตตรงนี้นี่สงสัยครับ...และความสุขที่ท่านว่าไปในทางสุข(อย่างนี้)มีคำจำกัดความว่ามากกว่าตรงนี้ไหม(กับผมสุขสงบเท่านี้ก็พอแล้วครับ)หลวงพ่อบอกบางทีติดอารมณ์นี้นานเป็นปี...ใช่ตรงนี้หรือไม่...(ของผมมีเหตุหายไปแต่จะทำใหม่อีกที่สงสัยเพราะอารมณืที่ว่านั้นกับตรงนี้เดี๋ยวนี้ไม่เหมือนกัน...หายใจเหมือนหยาบขึ้น...ความคิดเหมือนมีวิตกเกาะอยู่แต่หาตัวนี้ไม่เจอ)...ขอขอบคุณครับ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...