เรื่องเด่น ปรากฏการณ์ทางจิต เห็นเลขคู่ซ้ำๆโดยบังเอิญ มันคืออะไรกันเเน่ เเต่ที่เเน่ๆ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ

ปรากฏการณ์ทางจิต เห็นเลขคู่ซ้ำๆโดยบังเอิญ มันคืออะไรกันเเน่ เเต่ที่เเน่ๆ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญ


เริ่มตั้งแต่ราวๆปี ค.ศ. 1987 และเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้ ก็น่าจะเกือบๆ 30 ปีแล้ว ที่ชาวโลกเริ่มพบเห็นปรากฎการณ์เลข 11:11 หรือเลขชุดอื่นๆ ที่คล้ายๆกันนี้ แบบซ้ำๆๆ และโดยบังเอิญด้วย จนเรียกได้ว่ามันเกินจะบังเอิญไปแล้วด้วยซ้ำไป



มิหนำซ้ำนับวันก็ยิ่งจะมีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆจากทั่วโลก ที่เริ่มพบเห็นเลขชุดนี้ หรือเลขชุดอื่นๆทำนองเดียวกันนี้ บ้างแล้วเช่นเดียวกัน ซึ่งเรื่องนี้ผมรู้สึกว่ามันทั้งน่าประหลาดใจ และน่าตลกขบขันอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว และมันก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งของ “กระบวนการเลื่อนระดับขึ้น” หรือ Ascension ของโลก และของมวลหมู่มนุษยชาติ ที่กำลังดำเนินไปอยู่นี้ด้วย
ที่ผมบอกว่ามันน่าขันก็เพราะว่า ใครก็ตามที่เคยหาคำอธิบายแบบพื้นๆ หรือแบบชาวบ้านๆมาอธิบายเพื่อกลบเกลื่อนความแปลกประหลาดของปรากฎการณ์นี้แล้ว เมื่อถึงคราวที่ตัวเองต้องพบเจอเองบ้าง ก็มักจะอึ้งกิมกี่กันทุกคนนั่นแหละ เพราะว่า มันไม่ใช่เหตุผลง่ายๆ พื้น แบบชาวบ้านๆที่ตัวเองเคยหยิบยกขึ้นมาอธิบายเหล่านั้นเลย



เช่น อ๋อ..เป็นเพราะว่าเวลา 11:11 นาฬิกา มันใกล้เวลาพักเที่ยงทานข้าวแล้วหนะสิ เราก็เลยรู้สึกหิว ดังนั้น เราก็เลยมองดูเวลาเพื่อที่จะดูว่ามันกี่โมงแล้ว ใกล้จะเที่ยงแล้วหรือยัง เป็นต้น หรือเหตุผลที่ว่า อ๋อ..เพราะว่าคนบางคนมีความเชื่อเรื่องนี้อยู่แล้ว ก็เลยมองหาแต่ตัวเลขนี้เพื่อที่จะให้มันสอดคล้องกับความเชื่อของตัวเองมากขึ้นหนะสิ เป็นต้น หรือไม่ก็อธิบายเหตุผลว่า อ๋อ..เพราะว่าคนบางกลุ่มกำลังถูกสะกดจิตหมู่อยู่หนะสิ เป็นต้น



ก็..เป็นที่เข้าใจได้หนะนะครับ เพราะว่าถ้าไม่เคยประสบด้วยตัวเองหละก็ ก็คงจะนึกไม่ออกหรอกว่า มันเป็นยังไงเหรอไอ้การพบเห็นเลข 11 เนี่ย มันจะบ่อยแค่ไหน หรือ ยังไงถึงจะเรียกว่าโดยบังเอิญได้ แล้วต้องคอยสังเกตทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นตัวเลขไหมถึงจะได้เจอมัน และถึงจะรู้ว่าเราได้เจอมันแล้ว และใครบ้างที่จะได้เจอกับเลข 11 นี้
โอ้..พระเจ้าช่วย! ไม่ต้องไปคอยสังเกตอะไรมันเลยครับ! แต่ในทางตรงกันข้าม มันจะมาจ่ออยู่บนความตระหนักรู้ของคุณมากๆและบ่อยๆจนคุณอยากจะหนีมันด้วยซ้ำไป และมันก็ไม่จำเป็นต้องใช้ความอยากอะไรเลย ด้วย และก็จะไม่ใช่เจอแค่ครั้งสองครั้งบนหน้าปัดนาฬิกา หรือบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนทำให้เรานึกสงสัยไปว่า เอ๊ะ มันอาจจะบังเอิญไปก็ได้มั้ง อะไรแบบนั้นด้วย เพราะว่ามันจะบ่อย และถี่ และชัดเจนมาก มิหนำซ้ำยังเจอมาตลอด ต่อเนื่องมาเป็นปีๆอีกด้วย จนคุณหมดความสงสัยไปเองโดยปริยายเลยหละ



แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้เจอกับปรากฎการณ์นี้หรอกนะครับ เพราะเท่าที่ผมเข้าใจนะ มันจะเกิดขึ้นกับคนที่ “เริ่มต้น” เข้าสู่กระบวนการตื่นรู้ของตัวเองแล้วเท่านั้น และ/หรือเริ่มต้นเข้าสู่ภาระกิจของตัวเองแล้วเท่านั้น ดังนั้น ถ้ายังไม่ถึงเวลา “ตื่น” หรือยังไม่ถึงเวลาที่จะต้อง “ทำภารกิจ” แล้วหละก็ เราก็จะยังไม่ได้เจอมันครับ
สำหรับคนอื่นๆที่เจอเลข 11:11 นั้น ผมก็ไม่รู้รายละเอียดมากนักนะครับ ว่าเขาเจอกันแบบไหนบ้าง แต่สำหรับผมแล้ว ผมจะเจอเลข 13 อยู่ตลอด คู่กับหรือสลับกับเลข 11 นี่แหละ หรือบางครั้งก็มีเลขชุดอื่นๆด้วย มันจะวนเวียนอยู่ในชีวิตของผมตลอดเลย โดยเฉพาะเมื่อราวๆ 11 ปีมานี้
ตัวอย่างเช่น เวลาที่ผมมักจะเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา หรือเหลือบไปดูเวลาบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ขณะที่กำลังทำงานอยู่ ก็มักจะเจอเลข 11:11 หรือเลขชุดอื่นๆ เช่น 08:08, 22:22 อะไรแบบนั้นเป็นต้น, เวลาไปเข้าคิวเพื่อทำอะไรซักอย่างหนึ่ง แล้วต้องกดบัตรคิว..ก็มักจะโป๊ะเช๊ะเลย 11 หรือไม่ก็ 13 หรือไม่ก็เลขที่เกี่ยวข้องกับเลขสองตัวนี้เช่น 1011 เป็นต้น
และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่ผมไปนั่งเล่าเรื่องข้อความจากต่างมิติกับการเลื่อนระดับขึ้นให้ Light worker กลุ่มหนึ่งฟังที่ประเทศเวียดนาม ผมก็บอกไปแบบนี้แหละครับว่าผมมักจะเจอเลข 13 อยู่ประจำ แล้วพอจบการสนทนา และเช็คบิลค่าน้ำชา-กาแฟ-อาหารการกินออกมา ก็เป็นเงิน 1,333,000 ด่อง แล้วหวยของเวียดนามที่ออกในวันนั้นก็มีชุดหนึ่งที่เลขท้าย 2 ตัวเป็นเลข 13 ด้วยนะ




และหลายครั้งเวลาไปทำภารกิจอะไรที่พิเศษด้านจิตวิญญาณ หรือไปช่วยเหลือใคร แล้วมีคนเขาจองที่พักให้ บ่อยครั้งก็จะได้ห้องเบอร์ 13 หรือได้อยู่ชั้นที่ 13 อะไรแบบนั้นเป็นต้น, และเลขทะเบียนรถคู่ใจที่ออกเมื่อราวๆ 20 ปีก่อน ก็เป็นเลข 427 ซึ่งจับบวกกันก็ได้เลข 13 อีก
และก็เคยมีปรากฎการณ์เกี่ยวกับมด และเลข 13 ที่ผมเคยเล่าให้หลายคนฟังแล้วเมื่อสมัยที่ผมทำงานอยู่ที่กาญจนบุรีด้วยนะครับ คือ ตอนนั้นผมเพิ่งย้ายที่ทำงานใหม่ ดังนั้นผมเลยต้องไปหาบ้านเช่าแถวใกล้ๆที่ทำงานของผม มันมีบ้านว่างอยู่หลังหนึ่งพอดี เลขที่บ้าน 58/58 ซึ่งบวกกันแล้วก็คือ 13/13 นั่นเอง ดังนั้น ด้วยความที่ยังมีอคติกับเลขนี้อยู่ ผมก็เลยตัดสินใจไม่เช่า แม้ว่าจะใกล้ที่ทำงานมากก็ตาม แต่ผมก็ไปเลือกเช่าที่อื่นที่ไกลออกไปอีก 10 กว่ากิโลเมตร
แต่อัศจรรย์มากครับ ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมไม่รู้เรื่องมดมาก่อน หรือเพราะอะไร ทำให้มดแดงทรายตัวเล็กๆที่กัดเจ็บๆนั่นแหละครับ ขึ้นบ้านผมทุกวันเลย มันเป็นบ้านชั้นเดียว มี 3 ห้อง ซึ่งถ้ามันขึ้นแบบธรรมดาผมก็จะไม่สงสัยเลยนะ ว่ามันอาจจะขึ้นมาหาอะไรกินก็ได้
แต่นี่..มันขึ้นมาเดินกันเป็นแถวยาวเหยียด และมาจากทุกทิศทุกทางของบริเวณบ้านด้วย ทั้งๆที่ผมเก็บของกินไว้ในตู้เย็นจนหมดแล้ว ไม่เหลือแม้แต่อย่างเดียว แต่มันก็ยังขึ้นมาเดินกันอยู่เหมือนเดิม ผมกวาดมันออกจากบ้านทุกวัน แต่มันก็ยังขึ้นมาเดิน และมากัดสายทีวี และในเครื่องทีวีของผมอีก จนมีผงขาวๆของพลาสติกที่อยู่ในเครื่องทีวีที่ถูกมดกัดร่วงหล่นลงมาบนพื้นห้องขาวโพลนเต็มไปหมดไม่เว้นแต่ละวัน จนผมต้องถอดปลั๊กทีวีออก แล้วหาอะไรใส่น้ำรองขาทีวีเอาไว้ไม่ให้มันขึ้นมากัดได้ แล้วก็เอาน้ำล้างพวกมันออกไปจากบ้านทุกวัน
ส่วนในเวลานอนตอนกลางคืนนั้น พวกมันก็จะเข้ามากัดผมในที่นอนซึ่งเป็นฟูกที่ปูกับพื้นโดยตรง จนผมนอนไม่ได้ ก็เลยต้องไปซื้อแป้งฝุ่นโรยตัวมาโรยรอบๆฟูกที่จะนอนก่อนนอนทุกคืน ไม่งั้นก็จะโดนมดรุมกัดจนนอนไม่ได้เลยหละครับ และยังไม่เท่านั้นนะครับ ในห้องพระของผม ที่ผมเอารูปครูบาอาจารย์ไปแปะไว้ตามข้างฝา มันก็จะเข้าไปกัดรูปพวกนั้น แล้วก็ไปมุดออกันอยู่ใต้รูป



พวกนั้นด้วย ซึ่งอยู่บนฝาผนังที่สูงระดับหัวของเราเลยทีเดียว จนผมต้องกวาดมันออกทุกวัน
สรุปว่า..ทุกวันหลังเลิกงานมาผมต้องกลับมาต่อสู้กับมดพวกนี้ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่อยู่ที่นั่น ไม่เว้นแม้แต่วันเดียว จนผมทนไม่ได้อีกแล้ว ก็เลยต้องกลับมาเช่าบ้านเลขที่ 58/58 หลังนั้นอยู่โน่นแหละ เรื่องราวถึงได้จบลงด้วยดี และอย่างสงบสุขครับ พิลึกดีไหมหละครับ
และโดยรวมแล้ว ถ้าเมื่อใดก็ตามที่ผมกำลังจะทำอะไรที่พิเศษ หรือเป็นงานรับใช้โลกหละก็ ถ้ามีเลข 11 หรือ 13 ปรากฎขึ้นให้เห็นแถวๆนั้น ผมก็จะเกิดความมั่นใจในทันทีว่า ถูกต้องแล้วหละ “พวกเขา” มายืนยันให้รู้แล้วหละ ว่า “ใช่แล้ว” ดังนั้น ผมก็จะรู้สึกมาตลอดว่าผมไม่เคยอยู่คนเดียวเลย หรือทำอะไรตามลำพังคนเดียวเลย แม้แต่วินาทีเดียว เพราะว่าผมยังมีเทพผู้นำทาง, รูปธรรมชีวิตจากมิติที่สูงกว่า, ครูบาอาจารย์ และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คอยสอดส่องดูแล และให้ความช่วยเหลืออยู่เสมอ
เลข 11:11 มันไม่มีอะไรมากหรอกครับ เพราะความหมายตรงตัวของมันก็คือ Illumination ซึ่งหมายถึง “การส่องสว่าง” แต่ไม่ใช่คำว่า Illuminati ที่หมายถึงกลุ่มอิทธิพลครองโลกนะครับแต่จะว่าไปแล้วกลุ่มนี้ก็ตั้งชื่อกลุ่มของตัวเองให้มีความหมายในทำนองนี้เช่นกัน
ชาวโลกมากมายที่เป็นพวก Star seed ,Indigo Chrystal, Old soul หรือเรียกรวมๆว่า Light worker นั่นแหละ พวกนี้จะมีรหัสในการตื่นรู้ของตัวเองฝังอยู่ในรหัส DNA อยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนลงมาเกิด ดังนั้น พอถึงเวลาแล้ว รหัสที่ว่านี้ มันก็จะเริ่มถูกกระตุ้นให้ตื่นขึ้นมา แล้วคนๆนั้น ก็จะประมาณว่า เริ่มได้เจอกับปรากฏการณ์ synchronicity ต่างๆนาๆ เช่นเรื่องการเห็นเลข 11:11 นี้เป็นต้น
สรุปว่า..ใครที่เริ่มเห็นเลขชุดนี้หรือเลขชุดทำนองนี้บ่อยๆซ้ำๆโดยบังเอิญจริงๆแล้ว ก็ให้รู้ไว้เลยว่า กระบวนการตื่นขึ้นของตัวคุณเองนั้น ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว..ซึ่งคำว่าตื่นขึ้นดังกล่าวนี้ผมหมายรวมๆถึงการตื่นขึ้นจากมายาการ, การตื่นขึ้นมาสู่ความรู้ที่ว่า แท้ที่จริงแล้วตัวเองเป็นใคร และยังหมายถึงการตื่นขึ้นมาสู่ภารกิจของตัวเองอีกด้วยนะครับ



ในยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงทางจิตวิญญาณครั้งยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติในรอบนี้ มันเป็นยุคที่พิเศษมากๆที่ไม่เคยมียุคไหนเคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย เพราะว่ายุคก่อนๆนั้น ราวๆทุกๆ 26,500 ปี การเก็บเกี่ยวจิตวิญญาณของมนุษย์ที่รู้แจ้งแล้ว จะเกิดขึ้นผ่านภัยพิบัติครั้งใหญ่เสมอ และดังนั้นการเลื่อนระดับขึ้นจึงเป็นการเลื่อนระดับขึ้นโดยปราศจากกายเนื้อ คือต้องตายไปซะก่อน
แต่ยุคนี้..จักรวาลมีแผนการใหม่ ซึ่งถือเป็นการทดลองอย่างหนึ่ง คือยุคนี้..รอบนี้ จะเป็นการเลื่อนระดับขึ้นไปทั้งกายเนื้อ ไปสู่ระดับจิตของมิติที่ 5, ไปสู่ระดับความสั่นสะเทือนของมิติที่ 5 แต่กายเนื้อของเราก็จะต้องมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วย เพื่อให้ความหนาแน่นทึบตันของมันน้อยลงเรื่อยๆ และเพื่อให้ความสั่นสะเทือนของมันสูงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นกลายเป็น “กายแห่งแสงสว่าง” ไปได้



กายแห่งแสงสว่าง หรือ Light Body เป็นกายระดับที่ละเอียดกว่ากายทิพย์ซะอีก และการจะทำเช่นนี้ได้ก็จะต้องอาศัยการค่อยๆดูดซับเอาแสงสว่างเข้าไปให้มากพอที่จะทำให้โครงสร้างของเซลในระดับ DNA เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งจะเปลี่ยนจากโครงสร้างที่เป็นคาร์บอน ไปเป็นซิลิคอนก่อน และนี่แหละคือที่มาของ “อาการแห่งการเลื่อนระดับขึ้น” หละ คือมันจะมีอาการแห่งการป่วย หรือไม่สบาย หรือผิดปกติต่างๆของร่างกายอยู่เป็นระยะๆ โดยไม่มีสาเหตุ โดยเฉพาะในช่วงที่พลังงานของโลกเกิดการเปลี่ยนแปลงมากๆ เพราะว่ากายเนื้อของเรากำลัง Upgrade ตัวเองอยู่ในระดับลึกจนถึงระดับ DNA นั่นเอง
แต่กระบวนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพของโลก, ของมนุษย์ และของพืชและสัตว์ที่อยู่บนโลกดังกล่าวนี้ ก็จะสอดคล้องสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงด้านที่ไม่ใช่กายภาพด้วย เช่นการเปลี่ยนแปลงทางด้านจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลก เป็นต้น และนี่แหละคือ “งานรับใช้” หรือ “ภาระกิจ” ที่หลายๆท่านรับอาสากันลงมาทำหละครับ
จริงๆรายละเอียดที่เกี่ยวข้องมันมีเยอะมากครับ..ซึ่งถ้าจะให้อธิบายจริงๆแล้วหละก็..มันก็คงจะยาวมาก..แต่มันก็จะทำให้ท่านมองเห็นความเกี่ยวข้องกันของมันอย่างชัดเจนได้ แบบหารอยต่อไม่ได้เลยทีเดียว..และที่สำคัญ ท่านจะรู้ว่า..มันน่าจะเป็นไปได้อย่างที่พูดมานี้จริงๆ..เพราะว่ามันมีเหตุผลของมันรองรับอยู่อย่างหนาแน่น
ภาระกิจของมนุษย์โลกทุกๆคน ในเบื้องต้นที่สุด คือภาระกิจด้านการชำระสะสางพลังงานของตัวเอง และของโลก..เพราะว่ากระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ มันคือการเปลี่ยนระดับความสั่นสะเทือนของทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกให้สูงขึ้นจนถึงระดับของมิติที่ 5 ดังนั้น อะไรก็ตามที่มันยังมีความสั่นสะเทือนต่ำๆอยู่ก็จะต้องถูกยกระดับขึ้น, ถูกเปลี่ยนแปลงไป, หรือถูกชำระสะสางออกไปให้หมด
แล้วในขณะเดียวกันนั้น สิ่งใดๆที่มีความสั่นสะเทือนสูงกว่าก็จะค่อยๆเข้ามาแทนที่..นี่แหละคือที่มาของภัยพิบัติทางธรรมชาติทั้งหลายที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้หละ แต่มันจะเป็นภัยพิบัติในระดับท้องถิ่นเท่านั้น มันจะไม่ใหญ่โตหรือร้ายแรงในระดับโลก ในแบบที่ทำให้มีคนตายเป็นครึ่งโลกหรือสองในสามของโลกอย่างที่มีหลายคนเชื่อกัน เพราะนั่นไม่ใช่แผนการหลักของจักรวาล เพราะว่าจักรวาลนี้เป็นจักรวาลที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความเมตตา แต่การชำระสะสางเพื่อเอาพลังงานลบที่สะสมอยู่นานนับหมื่นปีของตัวเองออกไปนั้น..ทั้งในระดับบุคคลและในระดับโลก.. คือหน้าที่ความรับผิดชอบเบื้องต้นของมนุษย์ทุกผู้ทุกนาม



เพราะว่าคนทุกคน และรวมถึงทุกสิ่งทุกอย่างด้วย มันจะมีการเชื่อมโยงด้านพลังงานกันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้น การชำระสะสางตัวเราเองให้พลังงานลบหมดไป แล้วพยายามคงอยู่ในระดับความสั่นสะเทือนด้านความคิด อารมณ์ คำพูด และการกระทำที่สูงๆให้ได้มากที่สุดนั้น จึงจะส่งผลกระทบต่อสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกด้วยโดยอัตโนมัติ
เพราะเราจะต้องรู้ว่าสนามพลังออร่าของเรา ซึ่งเป็นแมทตริกซ์พลังงานส่วนตัวของเรา มีการเชื่อมต่อกับสนามพลังงานโครงข่ายคริสตัลลีนของโลก หรือสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกอยู่ตลอดเวลา..ดังนั้น ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับสนามพลังงานของเราแม้เพียงคนเดียว ก็จะส่งผลกระทบต่อของทั้งโลกด้วยเสมอ โดยไม่มีข้อยกเว้น
ดังนั้น ลองจินตนาการดูสิว่า ในแต่ละวัน มนุษย์เราแต่ละคน มีการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานของตัวเองอย่างไรบ้าง และดังนั้น สนามพลังงานของโลกก็จะมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามไปด้วยโดยปริยาย แบบฉับพลันทันที หรือแบบ Real-Time ด้วย
แล้วถ้ามีช่วงไหนที่มีเหตุการณ์ร้ายๆ หรือลบๆ เกิดขึ้น หรือแม้แต่ยังไม่เกิดขึ้นก็ตาม แต่แค่มีข่าวลือ หรือข่าวร้ายๆแพร่ออกไปจนทำให้มนุษย์จำนวนมากมายจิตตก และเกิดพลังงานด้านลบขึ้นหละ จะเกิดอะไรขึ้นกับโลก? แล้วถ้าโลกต้องแบกรับพลังงานลบแบบที่ว่านี้มากๆ จนไม่ไหวอีกต่อไปแล้วหละ? โลกก็ต้องหาทางชำระสะสางพลังงานลบเหล่านี้ออกไป ผ่านภัยพิบัติอย่างใดอย่างหนึ่ง..อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..เห็นไหมหละครับ สุดท้าย ทุกสิ่งทุกอย่างก็วนกลับมาส่งผลกระทบต่อมนุษย์อยู่ดี


เมื่อราวๆ 70 – 80 ก่อน ก่อนที่โลกจะเริ่มเข้าสู่ยุคพลังงานใหม่ในปี 2013 นี้ โลกได้ขอความช่วยเหลือไปยังจักรวาล เพราะว่าโลกทนแบกพลังงานลบที่มนุษย์สร้างขึ้นไม่ไหวแล้ว และในตอนนั้นศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่จะถึงวันสิ้นโลกจริงๆในช่วงราวๆปี 2000 จึงคาบลูกคาบดอกอยู่ ซึ่งต่างมิติหลายท่านบอกตรงกันว่าอย่างนั้น
แต่พอจักรวาลยื่นมือให้ความช่วยเหลือ โดยการส่งแสงสว่างลงมาช่วย และโดยการทยอยส่ง “ฑูต” หรือ “อาสาสมัคร” ลงมาช่วยจำนวนมากมายแล้ว โลกก็เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนเดี๋ยวนี่ สามารถหลุดออกมาจากโอกาสที่จะถึงวันสิ้นโลกได้แล้ว เพราะว่าอาสาสมัคร หรือฑูตที่ลงมาช่วยนี้ พวกเขามาจากอารยธรรมแห่งดวงดาว หรือมิติที่มีวิวัฒนาการสูงมากๆแล้ว ดังนั้นสนามพลังงานออร่าของพวกเขาจึงมีพลังงานมากกว่าของคนทั่วไปบนโลก ดังนั้น พวกเขาจึงสามารถส่งผลกระทบต่อโลกและต่อมนุษย์โลกได้มากกว่าคนธรรมดาถึง 10 เท่า
พวกเราเรียกพวกเขาว่า Star seed, Indigo, Crystal..หรืออะไรก็ตามแต่..แต่พวกเขาคืออาสาสมัครที่ลงมาเกิดที่นี่เพื่อมารับใช้โลก ให้ผ่านพ้นกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นนี้ไปให้ได้ ภาระกิจของพวกเขามีหลากหลาย..แม้แต่การลงมาเกิดเพื่อมาอยู่เฉยๆ หรือเพื่อที่จะมาขัดขวางกระบวนทัศน์เก่าๆ ระบบเก่าๆ หรือความเชื่อเก่าๆ ที่ไม่ถูกไม่ต้อง ก็เป็นหนึ่งในภาระกิจของพวกเขาด้วย เพราะว่าเมื่อลูกหลานไม่พากันสืบสานของเก่าๆที่ไม่ดีไม่งามให้กับคนรุ่นใหม่ๆต่อไปอีกแล้ว สิ่งนั้นๆ หรือระบบนั้นๆมันก็ไม่อาจที่จะคงอยู่ต่อไปได้
ดังนั้น Star seed กลุ่มนี้จึงอาจจะเป็นเด็กที่ฉลาด แต่หัวดื้อ และเป็นหัวหน้าแก้งค์อะไรซักอย่างก็ได้ แต่ที่แน่ๆพวกเขาจะมีพลังงานที่จะไปส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างมากกว่าคนทั่วไป และที่ต้องรู้ไว้อีกอย่างก็คือ Star seed ไม่จำเป็นต้องรู้ และเชื่อ และสนใจด้านจิตวิญญาณเลยด้วย พวกเขาอยู่ในทุกวงการ..และนั่นแหละคือภาระกิจของพวกเขาหละครับ ที่พวกเขาเองก็อาจจะไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่าตัวเองกำลังทำภาระกิจของตัวเองอยู่แล้ว รวมถึงพวกเขาก็ไม่จำเป็นต้องรู้ตัวด้วยซ้ำไปว่าตัวเองคือ Star seed!


ขอบคุณที่มา
https://koidoo.com/2018/09/10/1669/

 

เคยเจอถี่จนหน้าตกใจช่วง12-15ปีที่เเล้ว! ช่วงเเรกขำดี เเต่พอเจอตลอดเวลา มันก็เริ่มชิน// เเต่ว่าชีวิตเปลี่ยนเเปลงจริงฯครับ

 

ผมอ่านข้อความนี้เวลา22:44 น. ครับ

 

เห็นเวลา 44 นี่บ่อยมาก

 

ดูกระทู้นี้ ก็เลยลองเอามั่วๆค่ะ ว่างๆ
ลองเอาเลข ว.ด.ป. เกิด มารวม กัน ของตนเอง..
และของแฟนที่เพิ่งเข้ามาในชีวิต...

วันที่ กับเดือน รวมได้ 1 ของแฟน ก็ได้ 1
ปีเกิด ค.ศ. รวมได้ 1 ของแฟนก็ได้ 1
ถ้าคิด ว.ด.ป. รวมกัน เท่ากับ 11 ของแฟน ก็ 11
รวมกัน เท่ากับ 22 ...!!!!
ปีเกิด พ.ศ. รวมได้ 13 ของแฟนก็ได้ 13 !!

คือ ไม่ว่าจะยังไง พศ ค.ศ. ทีนี้ ขอดู สูติบัตร ...ตกฟากแม่ม.. O-0 มายก้อดดด เวลาเราตกฟาก
เอาตามเข็มปัดนาฬิกา รวมได้ 13 ....ทั้งชั่วโมงและนาที !!!!
พอเอาของแฟนมา เอ้ยย เอาตามหน้าปัด เลข 1กับ 3
ชัดเจน....คือ ไม่เคยเล่นแบบนี้ ส่วนใหญ่ ก็แค่รวมๆแบบที่ดูดวงในเวบ มั่วๆไป พอดีคนนี้เข้ามาในชีวิต
เลย ลองดูว่าอะไรดึงดูดกันมา...

ทำไมมันเหมือนกันอะ.. ที่น่าตกใจ เอาใหม่
เอาบัตร ปชช มาเลยเธอ บวกๆ 42
ส่วนเรา 24 ...เฮ้ยยยย 4+2 และ 2+4 เลข 66 ^~^

บังเอิญแน่ๆ เอาใหม่ๆ ไหนๆเอาเบอร์มือถือ มาสิ
7 ตัวหลัง ... ของเรา 38 3+8 = 11
ของแฟน ..เอ้ยยย 19 1+9 = 1

งั้นรวม รหัสสามตัวหน้า เป็น สิบหลักดู เผื่อเรามั่ว
มั่วจริง. ได้ 56 , 5+6 = 11 เอาให้เหลือ หลักเดียว 1+1 =2 ...เบอร์โทรของเรา
งั้นเอาเบอร์แฟนมา รวมรหัสมั่ง ได้ 36 = 9
9+2 = 11...

วันหมดอายุในบัตรปชช วันที่ 13 ..เฮ้ย แต่ของเราอีกแบบนะ
เอามารวมกันว.ด.ป.บัตรหมดอายุ ของเราเท่ากับ 29
2+9 = 11

ของแฟน แม่มยังได้ 38 ,3+8 = 11
คือไม่ได้ดูว่า เนื้อคู่คอฟฟีเมทหรอกนะคะ คือ งง ง่ะ
แม้แต่ วันนี้ วันที่ 11 ... เฮ้ยยย

เอาอายุปัจจุบัน ทั้งเรากับแฟน มา เรารวมกัน ได้ 11
ของแฟนยังอุตส่าห์ ได้ 11 รวมกัน 22 ...... เป็นอายุขัยมาพบกันคือเข้ามาทำความรู้จักและเป็นแฟน

Star Zeeds เมล็ดพันธุ์พิเศษแห่งจักรวาลอันไพศาล Wow... เท่ห์ 5555555555555

 

13 บักตุน แฉลบออกมาหน่อย
66 สัญลักษณ์ความเป็นมนุษย์
11 ต้องรู้จักอยู่คนเดียว
22 มีคู่คอยห่วงหา
33 ฝันเลื่อนลอย
44 ดาวอังคารเฝ้ามอง
55 หัวเราะ
77 เทพ
88 รวย มั่นคง
99 ลิมิตเบรค

 

ดีใจจังตั้งเเต่เด็กจนโต อยู่กับเว็บนี้มาตลอด ปล.ผมเป็นทำ เพจวาทะอริยะ กับ เว็บ คอย www.koidoo.com ทำโดยอาศัยเเนวทางเว็บพลังจิต ซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยมีคนทำเเนวนี้เลย

 

ผมเคยเห็นภาพรอบตัวเป็นตัวเลขอารบิกทั้งหมด มองตัวเองก็เป็นตัวเลขอารบิก และมันเปลี่ยนไปตามที่เราเคลื่อนไปมองวัตถุต่างๆ ถ้าไม่เคลื่อนไหวตัวเลขอารบิกจะไม่เปลี่ยน เว้นแต่วัตถุนั้นเคลื่อนไหว ค่าของตัวเลขอารบิกจะขึ้นกับสันมุมของวัตถุที่แตกต่างกัน รู้สึกได้ถึงความสัมพันธ์ กันระหว่างตัวเลขอารบิกที่อยู่ใกล้เคียงกัน จึงทำให้ยังมองเห็นว่าเป็นวัตถุอะไรได้อยู่ เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมากกว่า 3 ครั้ง ปัจจุบันไม่เกิดกับผมแล้ว สังเกตุได้ว่าจะเกิดในช่วงที่ผมมีจิตสงบไม่คิดฟุ้งซ่าน และปล่อยให้ทุกอย่างรอบตัวดำเนินไปโดยที่เราไม่คิดข้องเกี่ยวใดๆ กับสิ่งรอบตัว ... (อาจอ่านดูแล้วเฟ้อเจ้อ แต่มันเกิดขึ้นจริงกับตัวผมเอง จึงเล่าสู่กันฟัง)



คล้ายรูปตัวอย่างด้านบน แต่จะเป็นแค่ตัวเลขอารบิกเท่านั้น

รูปจาก http://goal.goodwinmetals.co/convert-image-to-text/

 

ตาเหลือกเลย

 

ตอนเข้ามานี่ก็ 2 : 22 เพราะเพิ่งหากระทู้นี้เจอ

เพื่อที่จะบอกว่า ผมเกิดเวลา 00:00 ของวันขึ้น 11 ค่ำ เดือน 11

= =