ปราการแห่งทิฐิ

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย 123, 29 พฤศจิกายน 2004.

  1. 123

    123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +864
    ปราการแห่งทิฐิ

    ชายหนุ่มกับห_ิงสาวคู่หนึ่งเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน ฝ่ายชายก็ถูกเกณฑ์ไปราชการสงคราม ห_ิงสาวไปส่งสามีจนสุดสายตา เขาหายไปในสงครามเป็นเวลากว่า 3 ปีจึงส่งข่าวคราวกลับมา เธอดีใจมากจูงมืออ้ายตัวเล็กไปรับผู้เป็นพ่อแต่เช้าตรู่ ทันทีที่พบกันทั้งสองโผเข้าหากัน สัมผัสไออุ่นจากกันและกัน นิ่ง นาน จนเกือบลืมไปว่ามีลูกชายตัวเล็กยืนจ้องตาแป๋วอยู่

    ผู้เป็นพ่อดีใจมาก ยื่นมือไปหมายกอดลูกชายแต่เจ้าหนูถอยกรูด แม่ปลอบว่า "อย่าตกใจ เจ้าหนูไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาก่อนก็เป็นเช่นนี้แหละ" ทั้งสามเดินกลับมาตามทางจนถึงตลาด ห_ิงสาวขอตัวเข้าไปซื้อข้าวของสำหรับทำกับข้าวมื้อพิเศษ ชายหนุ่มมีโอกาสอยู่กับลูกชาย จึงขออุ้มเจ้าตัวน้อยอีกครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ เท่านั้นยังไม่กระไร พอเจ้าลูกชายเริ่มพูดบางสิ่งบางอย่างเขาจึงรู้สึกได้ถึงที่มาแห่งปฏิกิริยาอันผิดปกติ "น้าไม่ใช่พ่อของหนู พ่อหนูมาหาแม่ทุกคืน พอแม่นั่งพ่อก็นั่ง พอแม่ยืน พ่อก็ยืน..."

    เพียงไม่กี่คำเท่านี้เอง หัวใจของชายหนุ่มผู้เหนื่อยหนักมาจากสงครามอันแสนหฤโหดยาวนานก็พลันกระด้างยังกับแผ่นศิลา สักพักหนึ่งพอห_ิงสาวเดินกลับมาจากตลาด เธอก็พบว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว เขาไม่เพียงแต่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน หากหน้าเธอเข้าก็ไม่ปรายตามองอีกต่อไป เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
    เย็นวันนั้น อาหารที่เธอบรรจงทำอย่างสุดฝีมือเพื่อต้อนรับการกลับมาของเขาจืดสนิท ทั้งคู่เข้านอนแต่หัวค่ำ ต่างนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด เธอถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่เธอแวะไปซื้อของ เขาถามว่าเธอยังเป็นผู้ห_ิงคนที่เขาสุดรักอย่างจับใจคนเดิมอยู่หรือเปล่า ต่างคนต่างถามกันและกันในความมืด ทว่าเป็นการถามที่เงียบงำจนวังเวง

    เขาเย็นชากับเธอจากวันแรกจนถึงวันที่สาม ไม่มีการถามไถ่ ไม่มีการโอบกอดอันอบอุ่น ไม่มีการรับประทานอาหารร่วมกันอย่างเอร็ดอร่อย ไม่มีแม้แต่การปรายตามองกันและกันอย่างเต็มสองตาฉันสามีหนุ่มภรรยาสาว การณ์เป็นไปดังนั้นอยู่จนถึงเย็นวันที่สาม แล้วความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลง เธอตัดสินใจลาจากความระทมทุกข์ที่แม่น้ำสายหนึ่ง ทิ้งปมปั_หาทุกอย่างไว้ข้างหลังอย่างไม่ไยดี

    เย็นวันนั้นเขารู้ข่าวการจากไปของเธอด้วยน้ำตานองทั้งสองแก้ม เขาไปรับศพเธอมาบำเพ็_กุศลอย่างเงียบๆในบ้านของตัวเอง มีเพียงเจ้าหนูเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเขาจนดึกดื่น และคืนนี้ความลึกลับทั้งปวงก็ได้รับการคลี่คลาย

    ตะเกียงน้ำมันก๊าดที่จุดไว้บนโลงค่อยๆหรี่ลงจวนเจียนจะดับ เขาเติมน้ำมันแล้วจุดใหม่ เปลวไฟโชนแสงวูบวาบ เขาลุกเดินกลับไปกลับมา ขณะนั้นเองเงาของเขาทาบทอไปปรากฏยังฝาเรือน เจ้าหนูชี้ไปที่เงาพลางตะโกนลั่น "นั่นไง พ่อหนูมาแล้ว พอแม่นั่งพ่อก็นั่ง พอแม่ยืนพ่อก็ยืน คนนั้นแหละพ่อของหนู"

    ชายหนุ่มมองตามเจ้าหนู เห็นเงาของตัวเองทาบทออยู่ที่ฝา จึงเข้าใจขึ้นมาในนาทีนั้นเองว่า "พ่อ" ที่เจ้าหนูเอ่ยถึงก็คือ "เงา" ที่เห็นอยู่นี่เอง ปริศนาทุกอย่างกระจ่างแล้ว
    เธอ...คงรักเขามากสินะ ถึงขนาดสมมุติให้เงาตัวเองเป็นเขา แล้วบอกเจ้าหนูว่าเงาก็คือตัวเขา คือ "พ่อ"ที่หายไปในสงคราม โอ...ไม่น่าเลย

    ความจริงนี้เจ็บปวดเกินไป เจ็บเกินกว่าหัวใจของคนธรรมดาจะรับไหว รุ่งขึ้นอีกวัน เขาชดใช้ความผิดพลาดอย่างมหันต์ของตัวเอง ด้วยการให้แม่น้ำเป็นตุลาการผู้พิพากษาชีวิตเขาอีกชีวิตหนึ่ง...เรื่องราวของเขาและเธอเป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่เล่าขานกันมาอีก นานนับนาน

    วันนั้น หลังจากเจ้าหนูพูดถึง "พ่อ" ของตัวเองให้เขาฟังที่กลางตลาด หากเขาไม่หุนหันพลันแล่น มีสติสักนิดหนึ่ง ถามไถ่จากเธอว่า "พ่อ" คนที่เจ้าหนูพูดถึงคือใคร และหลังจากที่เขาเย็นชา ปิดปากเงียบสนิท หากเธอจะอาจหา_ถามเขากลับไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น เธอก็คงไม่ต้องเจ็บจนเกินเยียวยา และเขาเองก็คงไม่ต้องจบชีวิตอย่างน่าอนาถเช่นนั้น

    ไม่ใช่เธอไม่รักเขา และไม่ใช่เขาก็ไม่รักเธอ หากทั้งเธอและเขาต่างรัก ต่างภักดีต่อกันอย่างสุดซึ้ง ความรักของคนทั้งสองบริสุทธิ์ งดงาม หมดจด จนกลายเป็นตำนานเล่าขานดังเรื่องราวของวีรบุรุษวีรสตรีผู้พิชิต ความผิดพลาดหากจะพึงมีบนเส้นทางแห่งรักแท้จนกลายมาเป็นโศกนาฏกรรมของคนทั้งคู่เกิดจากเส้นบางๆของปราการแห่ง "ทิฐิ" โดยแท้

    หากทั้งเธอและเขา ยอมวาง "ทิฐิ" ลง แล้วหันหน้าเข้าหากันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ถามไถ่จากกันและกันอย่างให้เกียรติกันทั้งสองฝ่าย ไหนเลยจะต้องมาจำพรากทั้งที่ยังรักล้นใจเช่นนั้น รักเอย รักนั้นงดงาม บริสุทธิ์ อ่อนหวาน ไม่ใช่ความผิดของความรักหรอกจะบอกให้ ผิดที่ใจอันมากด้วย "ทิฐิ" ของทั้งคู่นั่นต่างหาก

    ปรารถนารักที่ยั่งยืนหมื่นปี อย่าให้มี "ปราการแห่งทิฐิ" มากางกั้นแค่นั้นพอ........

    โศกนาฏกรรมแห่งความรักที่บันทึกไว้ในข้อเขียนเรื่อง "เมตตาภาวนา : คำสอนว่าด้วยรัก" ของท่าน "ติช นัท ฮันท์
     
  2. 123

    123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +864
    แบบว่า......เรื่องมันเศร้า......
     
  3. 123

    123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +864
    เมล็ดพันธุ์แห่งความสุข

    เมล็ดพันธุ์แห่งความสุข

    " ..หากเรามองดูตัวเองอย่างลึกซึ้ง

    เราจะมองเห็นทั้งดอกไม้และขยะอยู่ในตัวเรา

    พวกเราแต่ละคนนั้น มีความโกรธ ความเกลียด

    ความซึมเศร้า การแบ่งชั้นวรรณะ

    และขยะอื่นๆ อีกนานัปการในตัวเรา

    แต่ไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่เราจะต้องหวาดกลัว

    ชาวสวนรู้จักวิธีที่จะเปลี่ยนแปลงขยะให้กลายเป็นดอกไม้ฉันใด

    เราก็สามารถจะเรียนรู้ศิลปะการเปลี่ยนแปลง

    ความโกรธ ความซึมเศร้า และการแบ่งชั้นวรรณะ

    ให้กลายเป็นความรักและความเข้าใจได้ฉันนั้น.. "

    หนังสือชุดสื่อความคิด เมล็ดพันธุ์แห่งความสุข, ติช นัท ฮันห์ เขียน, ธีรเดช อุทัยวิทยารัตน์ แปล, สำนักพิมพ์มูลนิธิโกมลคีมทอง (ธันวาคม 2539)
     
  4. 123

    123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +864
    ชีวิตคือปาฏิหาริย์ (ติช นัท ฮันห์)

    ชีวิตคือปาฏิหาริย์
    ............................................
    ที่เวียตนาม สมัยที่ฉันยังเป็นพระหนุ่มอยู่นั้น วัดประจำหมู่บ้านทุกวัดจะมีระฆังใบให_่
    เหมือนกับระฆังในโบสถ์คริสต์ในยุโรปและอเมริกา ทุกครั้ที่เสียงระฆังดังขึ้นชาวบ้านจะ
    หยุดงานที่กำลังทำอยู่ และกำหนดลมหายใจเข้า -ออกอย่างมีสติเป็นเวลาสองสามนาที
    ที่หมู่บ้านพลัมซึ่งเป็นชุมชนที่ฉันอาศัยอยู่ในฝรั่งเศส พวกเราก็ทำเช่นนั้นเหมือนกัน ทุก ๆ
    ครั้งที่ได้ยินเสียงระฆัง เราจะกลับมาอยู่กับตัวเราเอง และเพลิดเพลินกับการหายใจ
    ในขณะหายใจเข้า เราจะนึกในว่า"ฟังซิ ฟังซิ" และเมื่อเราหายใจออก เราจะนึกในใจ
    ว่า "เสียงอันไพเราะนี้นำฉันกลับมาสู่บ้านที่แท้จริง"

    บ้านที่แท้จริงของเรานั้นอยู่ในปัจจุบันขณะ การอยู่ในปัจจุบันขณะเป็นเรื่องปาฏิหาริย์
    ปาฏิหาริย์ไม่ใช่การเดินบนผิวน้ำ ปาฏิหาริย์ก็คือการเดินไปบนพื้นดินสีเขียวในปัจจุบัน
    ขณะ และพึงพอใจกับความสงบสุข และความสวยงามที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ ความสงบ
    สุขนั้นอยู่รอบๆ ตัวเรา ในโลกนี้และในธรรมชาติ รวมทั้งภายในตัวเราเอง ในร่างกาย
    และวิ__าณของเรา เมื่อใดที่เรารู้จักการเข้าถึงความสงบสุขเช่นนี้เราจะได้รับการเยียว
    ยาและเปลี่ยนแปลง นี่ไม่ใช่เรื่องของความศรัทธาแต่เป็นเรื่องของการปฏิบัติ เราเพียง
    แต่ต้องแสวงหาทางที่จะนำร่างกายและจิตใจของเรา ให้กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ
    เพื่อที่เราจะได้สัมผัสกับความสดชื่น การเยี่ยวยารักษาและความมหัศจรรย์

    เมื่อปีกลาย ที่นิวยอร์คในขณะที่นั่งอยู่บนรถแท็กซี่คันหนึ่ง ฉันสังเกตเห็นว่า
    คนขับเท็กซี่ไม่มีความสุขเลย เขาไม่ได้อยู่กับปัจจุบันขณะ ไม่มีความสงบสุข
    และความสดชื่นรื่นเริงอยู่ในตัวเขาเลย เขาไม่สามารถมีชีวิตชีวาได้ในขณะ
    ที่กำลังขับรถ และแสดงให้เห็นจากการขับรถ พวกเราส่วนให_่ก็ทำเช่นนี้
    เหมือนกัน เราเร่งรีบกันมาก แต่เราก็ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่เรากำลัง
    ทำอยู่ เราไม่ได้อยู่ในศานติ ร่างกายของเราอยู่ที่นี่ แต่จิตใจเรากลับล่อง
    ลอยไปที่อื่น อาจจะไปอยู่ในอดีตหรืออนาคต หรือไม่ก็ถูกครอบงำด้วย
    ความโกรธ ความอึดอัดคับข้องใจ ความหวัง หรือความฝันต่างๆ นานา
    เราไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง เราเป็นเสมือนกับดวงวิ__าณทีล่องลอย
    เวลาลูกซึ่งกำลังน่ารักของเราเข้ามาหาและยิ้มให้เรา เราก็กลับละเลยลูกไป
    โดยสิ้นเชิง และลูกก็จะไม่สามารถเข้าใจเราได้...ช่างน่าสงสารอะไรเช่นนี้

    ในนวนิยายเรื่อง "คนนอก" ของอัลแบร์ กามูส์ พูดถึงชายคนหนึ่งซึ่งกำลัง
    จะถูกประหารชีวิตในสองสามวันข้างหน้า ขณะที่เขากำลังนั่งอยู่ตามลำพังใน
    คุกนั้น เขาสังเกตเห็นท้องฟ้าสีน้ำเงินซึ่งมีแสงอาทิตย์สาดส่องลอดผ่านลงมา
    และในทันใดนั้นเอง เขาเกิดความรู้สึกดิ่มด่ำกับชีวิตอย่างลึกซึ้ง อยู่กับปัจจุบัน
    ขณะอย่างแท้จริง เขาปฏิ__าณว่า จะขอใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ไม่กี่วันอย่างมีสติ
    ด้วยการตระหนักรู้อย่างเต็มที่ในแต่ละขณะ และเขาก็ทำเช่นนั้นมาได้หลายวัน
    จนกระทั่งสามชั่วโมงก่อนการประหารชีวิต บาทหลวงรูปหนึ่งได้เข้ามาในคุกเพื่อ
    ที่จะรับฟังการสารภาพบาป และทำพิธีกรรมครั้งสุดท้ายให้ แต่ชายคนนี้อยาก
    จะอยู่ตามลำพัง เขาจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้พระรูปนั้นออกไป และใน
    ที่สุดเมื่อทำได้สำเร็จ เขาก็พูดกับตัวเองว่า บาทหลวงรูปนี้ มีชีวิตราวกับคนที่
    ตายไปแล้ว เขาเห็นว่า คนที่พยายามช่วยชีวิตเขานั้น กลับมีชีวิตชีวาน้อยกว่า
    คนที่กำลังจะถูกประหารชีวิตอย่างเขาเสียอีก
     
  5. poom1977

    poom1977 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +0
    สวัสดีค่ะ
     
  6. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,228
    ค่าพลัง:
    +10,593
    ชอบเรื่องที่เอามาโพสมากเลยครับ
     
  7. scorp

    scorp สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +10
    ไม่ใช่เธอไม่รักเขา และไม่ใช่เขาก็ไม่รักเธอ หากทั้งเธอและเขาต่างรัก ต่างภักดีต่อกันอย่างสุดซึ้ง ความรักของคนทั้งสองบริสุทธิ์ งดงาม หมดจด จนกลายเป็นตำนานเล่าขานดังเรื่องราวของวีรบุรุษวีรสตรีผู้พิชิต ความผิดพลาดหากจะพึงมีบนเส้นทางแห่งรักแท้จนกลายมาเป็นโศกนาฏกรรมของคนทั้งคู่เกิดจากเส้นบางๆของปราการแห่ง "ทิฐิ" โดยแท้
    ---------------------------------------------------------------

    เส้นใยบางๆ ของคำว่ารัก......
    (kiss) ดูแลใส่ใจกันนะคะ.....แล้วรักจะยืนยาว
     
  8. 123

    123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2004
    โพสต์:
    216
    ค่าพลัง:
    +864
  9. kimberly

    kimberly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 กันยายน 2006
    โพสต์:
    1,627
    ค่าพลัง:
    +5,233
    ทิฐิ..นี่น่ากลัวนะคะ (ใครที่พกติดตัวอยู่ก็จัดการมันซ่ะ...)
     

แชร์หน้านี้

Loading...