ปัญหาเครื่องรางของขลังและพระบรมสารีริกธาตุ โดย หลวงพ่อฤาษี

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Ninana, 3 ตุลาคม 2012.

  1. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "รูปเป็นอนัตตา แม้เหตุปัจจัยที่ให้รูปเกิดขึ้น ก็เป็นอนัตตา ฯ"
    พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ว่า "รูปเป็นอนัตตา ฉะนั้นรูปจึงเป็นไปเพื่ออาพาธ และบุคคลย่อมไม่ได้ในรูปว่า รูปของเราจงเป็นอย่างนี้เถิด รูปของเราอย่าได้เป็นอย่างนั้นเลย"

    ต้นไม้ยังเป็นเจดีย์ได้เลยครับ ใครอยากบูขาก็สมมติเอา สมมติแล้วก็บูชาครับ

    พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
    [๕๙๙] พ. ดูกรนายคามณี เปรียบเหมือนบุรุษโยนหินก้อนหนาใหญ่ลงในห้วงน้ำลึก
    หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบหินนั้นว่า
    ขอจงโผล่ขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงลอยขึ้นเถิดท่านก้อนหิน ขอจงขึ้นบกเถิดท่านก้อนหิน
    ท่านจะสำคัญความข้อนั้นเป็นไฉน ก้อนหินนั้นพึงโผล่ขึ้น พึงลอยขึ้น หรือพึงขึ้นบก
    เพราะเหตุการสวดวิงวอน สรรเสริญประนมมือเดินเวียนรอบของหมู่มหาชนบ้างหรือ ฯ
    คา. ไม่ใช่อย่างนั้น พระเจ้าข้า ฯ
    พ. ดูกรนายคามณี ฉันนั้นเหมือนกัน บุรุษคนใดฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม
    พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ มากไปด้วยอภิชฌา มีจิตพยาบาท
    มีความเห็นผิด หมู่มหาชนพึงมาประชุมกันแล้วสวดวิงวอน สรรเสริญ ประนมมือเดินเวียนรอบ
    บุรุษนั้นว่า ขอบุรุษนี้เมื่อตายไป จงเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์ ก็จริง
    แต่บุรุษนั้นเมื่อตาย พึงเข้าถึงอบาย ทุคติวินิบาต นรก ฯ

    เรื่องบวชผมตอบพระคุณเจ้าไปแล้วครับ กราบพระคุณเจ้าที่เมตตาห่วงสุขภาพและแนะนำให้ไปบวชสำนักสามแยก ผมแสวงหาอาจารย์อยู่พอดีครับ ถ้าสัปปายะก็ดีครับ ปุถุชน มีภาระมาก มีงานการมาก เวลาศึกษาน้อย เวลาปฏิบัติน้อย ผมไม่มีเวลาว่างเข้าอินเตอร์เน็ตบ่อยนัก มีงานต้องทำครับ "ฆราวาสคับแคบ เป็นทางมาแห่งธุลี บรรพชาเป็นทางว่าง" สมจริงตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสไว้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 ตุลาคม 2012
  2. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    เว้นจาก ปรมัตถธรรม แล้ว อะไรบ้าง ที่ไม่ใช่ สมมติ


    สมมติที่เป็นเหตุให้เกิดกุศลจิตกุศลกรรมก็มี


    สมมติที่เป็นเหตุให้เกิดอกุศลจิตอกุศลกรรมก็มี


    รู้จักใช้ประโยชน์จากสมมติซี่
     
  3. ธรรมรังสี

    ธรรมรังสี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2011
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +2,218

    แล้วไปเอามาจากไหน พระพุทธเจ้าห้ามพระสงฆ์แสดงธรรมด้วยภาษาอื่น


    กรุณาตอบด้วย ไปเอามาจากไหน


    และที่สวดกันตามวัดนั้น ก็ไม่ใช่อ่านจากภาษาบาลีโดยตรงนะ เป็นภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาบาลีอีกที


    คือ สวดภาษาไทย ให้เป็นสำนวนภาษาบาลี สำเนียงแบบไทยๆ นั่นแหละ แล้วก็แปลความหมายเป็นภาษาไทย ด้วยอักษรไทย


    ถ้าเป็นภาษาบาลีล้วนๆ รับรองว่า คนที่ไม่ได้ศึกษาในภาษาบาลี อักษรบาลี ลำบากแน่


    เช่น ภาษาอังกฤษ เขียนว่า A B C ภาษาไทยเขียนว่า เอ บี ซี


    พระไตรปิฎกฉบับของไทยเรา ก็ใช้ภาษาไทยที่แปลมาจากภาษาบาลี ไม่ใช่เป็นอักษรในภาษาบาลีแท้ๆ แบบดั้งเดิม (อาตมายังไม่รู้เลยว่า ภาษาบาลีแท้ๆ เป็นยังไง เขียนยังไง)


    หาที่มาได้หรือยัง หรือ ยอมรับแล้วว่า ตีความผิดไป


    ปล. ที่อาตมาเขียนมาทั้งหมดที่ผ่านมาในทุกๆ กระทู้ เพราะความหวังดีล้วนๆ นะ


    การศึกษาเล่าเรียนในพระพุทธพจน์ ในพระไตรปิฎก เป็นสิ่งที่ดี เป็นสิ่งที่ประเสริฐ แต่อย่าได้ตีความเข้าข้างตัวเอง อย่าได้บิดเบือนในพระพุทธพจน์ฺ และ อย่าได้นำเอามาโจมตีผู้อื่น เพราะคนมีหลายระดับ มีหลายประเภท ให้เปิดใจให้กว้าง เพราะ พระพุทธศาสนา ไม่ได้มีเราอยู่คนเดียว และ โยมอุรุเวลาก็ไม่ได้มีปัญญาหรือศึกษาพระไตรปิฎกอยู่คนเดียว


    อาตมาย้ำแล้วย้ำอีก คำว่า สัปปุริสธรรม 7


    โยมอุรุเวลา ก็มีปัญญาดีอยู่แล้ว เอาไว้ขัดเกลาตนเองให้มากกว่านี้ก่อนเถิด แล้วค่อยออกมาแสดงธรรม ก็ยังไม่สาย


    และ ต่อให้เขาไม่ติดในวัตถุมงคล แต่เขาก็ติดในวัตถุอย่างอื่น ใครเล่าจะตามไปสอนให้เขาละได้ทั้งหมด



    ติดวัตถุมงคล ดีกว่า ติดวัตถุอัปมงคล

    หลวงปู่ดู่ วัดสะแก
     
  4. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี
    เขตพระนครสาวัตถี ... พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เรื่องเคยมีมาแล้ว ตะโพน
    ชื่ออานกะของพวกกษัตริย์ผู้มีพระนามว่าทสารหะได้มีแล้ว เมื่อตะโพนแตก พวกทสารหะได้
    ตอกลิ่มอื่นลงไป สมัยต่อมาโครงเก่าของตะโพนชื่ออานกะก็หายไป ยังเหลือแต่โครงลิ่ม แม้ฉัน
    ใด ดูกรภิกษุทั้งหลาย พวกภิกษุในอนาคตกาล เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อัน
    ลึกมีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ จักไม่ปรารถนาฟังจักไม่เข้าไปตั้ง
    จิตเพื่อรู้ และจักไม่สำคัญธรรมเหล่านั้น ว่าควรเล่าเรียน ควรศึกษาแต่ว่าเมื่อเขากล่าวพระสูตร
    อันนักปราชญ์รจนาไว้ อันนักปราชญ์ร้อยกรองไว้ มีอักษรอันวิจิตร เป็นของภายนอก เป็นสาวก
    ภาษิต อยู่ จักปรารถนาฟังด้วยดี จักเงี่ยโสตลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญ
    ธรรมเหล่านั้น ว่าควรเรียน ควรศึกษา ฯ
    [๖๗๓] ดูกรภิกษุทั้งหลาย พระสูตรเหล่านั้น ที่ตถาคตกล่าวแล้วอันลึก มีอรรถอันลึก
    เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม จักอันตรธานฉันนั้นเหมือนกัน เพราะเหตุ
    ดังนี้นั้น เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้ว่า เมื่อเขากล่าวพระสูตรที่ตถาคตกล่าวแล้ว อันลึก
    มีอรรถอันลึก เป็นโลกุตตระ ประกอบด้วยสุญญตธรรม อยู่ พวกเราจักฟังด้วยดี จักเงี่ยโสต
    ลงสดับ จักเข้าไปตั้งไว้ซึ่งจิตเพื่อรู้ และจักสำคัญธรรมเหล่านั้นว่า ควรเรียน ควรศึกษา ดังนี้
    ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายพึงศึกษาอย่างนี้แหละ ฯ

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๖ หน้าที่ ๒๖๙/๒๘๘
     
  5. BANRAI

    BANRAI เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กันยายน 2007
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +319
    กราบนมัสการ ท่าน ธรรมรังสี เหนื่อยเปล่าครับ ถ้าจะเถียงกับผู้รู้แต่ในหนังสือ เหมือนกับนักปริยัติกับนักปฏิบัติถกกันเรื่องธรรมะ พุทธประวัติก็เรียนกันมาแล้ว รู้แล้วว่าพระพุทธองค์ปฏิบัติืแบบลองผิืดลองถูกมาหลายครั้งจนสำเร็จพระสัมมาสัมโพธิญาณ พระองค์ทรงเน้นเรื่อง ทาน ศีล ภาวนา และความไม่ประมาทในชีวิตครับ
     
  6. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273
    หาใช่อะไรนะ แต่ขอให้เข้าถึงธรรมจริง ๆ สักเพียงข้อเดียว ก็จะโมทนาให้สัก 100 ครั้ง 1000 ครั้งทีเดียว .... นี่แหละสิ่งสำคัญที่สุด ในกระทู้นี้
     
  7. ขอมจำแลง

    ขอมจำแลง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    407
    ค่าพลัง:
    +1,273

    ความจริงจุดเริ่มของการโต้ แต่ผมว่ามันไม่ผิดไรมากหรอก ถ้าทิฐิคนเราเพี้ยนไป จนเป็นมิจฉาทิฐิ ก็แค่นรก นี่ไม่ได้ขู่ ฟ่อ ๆ ๆ นะ พูดจริง ...

    .... จุดเริ่ม คือ พุทธพจน์บทนี้ ที่หยิบยกมาผิดที่ ผิดเวลา โดยผู้ที่ไม่รู้เนื้อหา วัตถุประสงค์ของการโพสหัวข้อกระทู้จริง ๆ ทั้งนี้ เพราะทิฐิตนเอง .. มีอคติเพราะความรู้ที่ได้รับมา มีแรงอะไรบางอย่างผลักดันเขา ให้คิดไปเทียบกับการเสนอความเห็นของผู้อื่น ถึงขนาดพิมพ์ออกมาตามที่คิดเห็น มองเหมือนความรู้ ความเข้าใจตนเองดีกว่าเขา ... มันไม่เสียหายอะไรมาก หากไม่เลอะเทอะเกินไปจนผิดศีล ผิดต่อพระรัตนตรัย อันเป็นการ ลบหลู่ หรือปรามาสพระอริยะสงฆ์ ... แต่ก็แค่นั้น แค่ลงนรก ไม่มีอะไรมากไปกว่านี้ *-*

    พุทธพจน์ที่ลงผิดที่ผิดเวลา หากเพื่อน ๆ ลอง ย้อนอ่านดูซิ ... คนอนุโมทนากันน้อยมาก เพราะเหตุใด ?? ..... คนเขาอนุโมทนาเจตนาอันบริสุทธิ์จริง ของผู้โพสต่างหาก หาใช่อนุโมทนาตรงที่ตัวบทพุทธพจน์ แต่อย่างใดไม่ เขาหาอ่านเองได้ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2012
  8. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    โทษของการสอนผิดไปจากที่พระพุทธเจ้าสอน

    ถาม : ........................

    ตอบ : การที่เราสอนผิดจากพระพุทธเจ้าสอน คนที่ทำตามก็มีโทษ ในเมื่อคนที่ทำตามมีโทษ เขาต้องลงนรก การที่เราลงนรกไม่ได้หมายความว่าเราลงแค่ขุมเดียว แค่ครั้งเดียว แค่โทษอันนั้น แต่เขาจะเหมาของเก่าทั้งหมดที่คุณเคยทำและยังไม่ได้ใช้หนี้มา เพราะฉะนั้นระยะเวลายาวนานเหลือเกินกว่าจะพ้นนรกมาได้ แล้วเศษกรรมก็ต้องมาให้เป็นเปรต หมดเศษกรรมของความเป็นเปรต เราก็ต้องมาเป็นอสุรกาย หมดจากอสุรกายเป็นสัตว์เดรัจฉานตามจำนวนที่ฆ่า หมดจากสัตว์เดรัจฉานแล้ว ถึงจะเกิดเป็นคนได้ ทำให้คนห่างไกลความดีขนาดนั้น ก็เลยโทษหนัก เท่ากับตัดโอกาสของเขาเลย

    อย่างเช่นว่าถ้าเราลงนรกในปัจจุบัน เอาแค่ขุมที่ตื้นที่สุด พระพุทธเจ้าที่เหลืออีก ๖ องค์ภายในภัทรกัปนี้และภัทรกัปหน้าที่จะมาตรัสรู้กันเลยไปแล้วยังไม่ได้โผล่ขึ้นมาเลย ทำให้เขาเสียโอกาสไปขนาดไหน ? เห็นแล้วใช่ไหมว่ามันหนักเพราะอะไร ?

    ถาม : ทำอนันตริยกรรมไม่สามารถบรรลุมรรคผล ?

    ตอบ: ไม่เกี่ยว นับชาตินี้ชาติเดียว หลังจากนั้นก็ไปชดใช้กรรม ถ้าเกิดเป็นคนใหม่มีโอกาสได้บรรลุมรรคผลใหม่

    ถาม : พระเทวทัต...?

    ตอบ: พระเทวทัตท่านทำความดีไว้มาก มีคนสงสัยว่าพระพุทธเจ้ารู้ทุกอย่าง ต้องรู้ว่าพระเทวทัตจะทำสังฆเภท แล้วทำไมถึงยังรับพระเทวทัตเข้ามาให้ทำสังฆเภทได้ ถ้าหากว่าไม่รับเข้ามา เทวทัตก็ยังคงทำอยู่ดี แต่การที่รับเข้ามาในขั้นต้น พระเทวทัตท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ จนกระทั่งสร้างอภิญญา สร้างสมาบัติมาได้ กุศลกรรมที่เป็นครุกรรมนี่จะส่งผลให้ท่านกรรมหนักอื่นนั้นน้อยลง ทำให้โทษน้อยลง อีกอย่างหนึ่งก่อนที่จะโดนธรณีสูบ ท่านกล่าวขอขมาพระรัตนตรัยก่อน ก็เลยโทษเหลือแค่ว่าครบ ๕,๐๐๐ ปีเท่านั้นก็พ้นแล้ว หมายความว่าเอาแค่อายุศาสนานี่เท่านั้น ไม่อย่างนั้นอายุอเวจีนั้น ๑ กัป อยู่กันลืมโลกเลย เหลืออีกครึ่งหนึ่งของอายุศาสนาจะพ้นแล้ว

    สนทนากับพระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    เดือนมกราคม ๒๕๔๗(ต่อ)
    ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ
    http://palungjit.org/threads/โทษของการสอนผิดไปจากที่พระพุทธเจ้าสอน.197622/
     
  9. s3515941

    s3515941 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    295
    ค่าพลัง:
    +1,193
    การเคารพพระรัตนตรัย ถือเป็นอุดมมงคลสูงสุด

    1. การมีรูปแทนพระองค์หรือสิ่งยึดเหนี่ยวใดๆแทนพระองค์(รวมถึงพระเครื่อง) ทำให้เราระลึกถึงพระองค์ได้ จัดเป็น พุทธานุสติกรรมฐาน

    2. การปฎิบัติตามคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า ถือเป็น ธัมมานุสติกรรมฐาน

    3. การระลึกถึงความดีของพระสงฆ์ ถือเป็น สังฆานุสสติกรรมฐาน

    - การที่ระลึกถึงความดีของพระสงฆ์ให้ถูกต้องตามแบบก็คือ

    ก. สุปฏิปันโน ท่านเป็นผู้ปฏิบัติดีแล้ว​

    ข. อุชุปฏิปันโน ท่านเป็นผู้ปฏิบัติตรง​

    ค. ญายปฏิปันโน ท่านปฏิบัติเป็นธรรม​

    ง. สามีจิปฏิปันโน ท่านเป็นผู้ปฏิบัติสมควร​

    มีพระสงฆ์หลายท่านที่สังขารของท่านได้ประจักษ์ แปรสภาพกลายเป็นพระธาตุเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของท่านแล้ว ดังนั้นจึงนำคำสอนของท่านเหล่านั้นไปปฏิบัติได้โดย ไม่ต้องสงสัยครับ
     
  10. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    พุทธานุสสติฯ

    สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ นิโครธารามใกล้กรุงกบิลพัสดุ์
    แคว้นสักกะ ครั้งนั้นแล เจ้าศากยะ พระนามว่ามหานามะได้เสด็จเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่
    ประทับ ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า ข้า
    แต่พระองค์ผู้เจริญ อริยสาวกผู้ได้บรรลุผล ทราบชัดพระศาสนาแล้ว ย่อมอยู่ด้วยวิหารธรรม
    ชนิดไหนเป็นส่วนมาก พระเจ้าข้า พระผู้มีพระภาคตรัสว่า ดูกรมหานามะ อริยสาวกผู้ได้บรรลุ
    ผลทราบชัดพระศาสนาแล้ว ย่อมอยู่ด้วยวิหารธรรมนี้เป็นส่วนมาก คือ อริยสาวกในพระศาสนา
    นี้ ย่อมระลึกถึงพระตถาคตเนืองๆ ว่า แม้เพราะเหตุนี้ๆ พระผู้มีพระภาคพระองค์นั้น เป็น
    พระอรหันต์ ตรัสรู้เองโดยชอบ ทรงถึงพร้อมด้วยวิชชาและจรณะ เสด็จไปดีแล้ว ทรงรู้แจ้ง
    โลก เป็นสารถีฝึกบุรุษที่ควรฝึก ไม่มีผู้อื่นยิ่งกว่า เป็นศาสดาของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เป็น
    ผู้เบิกบานแล้ว เป็นผู้จำแนกธรรม ดูกรมหานามะ สมัยใด อริยสาวกย่อมระลึกถึงพระตถาคต
    เนืองๆสมัยนั้น จิตของอริยสาวกนั้น ย่อมไม่ถูกราคะกลุ้มรุม ไม่ถูกโทสะกลุ้มรุมไม่ถูกโมหะ
    กลุ้มรุม ย่อมเป็นจิตดำเนินไปตรงทีเดียว ก็อริยสาวกผู้มีจิตดำเนินไปตรงเพราะปรารภพระตถาคต
    ย่อมได้ความทราบซึ้งอรรถ ย่อมได้ความทราบซึ้งธรรมย่อมได้ความปราโมทย์อันประกอบด้วย
    ธรรม เมื่อปราโมทย์แล้ว ย่อมเกิดปีติ กายย่อมสงบ ผู้มีกายสงบแล้วย่อมเสวยสุข เมื่อมีสุข
    จิตย่อมตั้งมั่น ดูกรมหานามะ นี้อาตมภาพกล่าวว่า อริยสาวกเป็นผู้ถึงความสงบเรียบร้อยอยู่
    ในเมื่อหมู่สัตว์ยังไม่สงบเรียบร้อย เป็นผู้ไม่มีความพยาบาทอยู่ ในเมื่อหมู่สัตว์ยังมีความพยาบาท
    เป็นผู้ถึงพร้อมกระแสธรรม ย่อมเจริญพุทธานุสสติฯ

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๒๒ หน้าที่ ๒๖๓/๔๐๗
     
  11. อุรุเวลา

    อุรุเวลา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    3,464
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +8,002
    อนุสสติฐาน ๖ อย่าง
    ๑. พุทธานุสสติ [ระลึกถึงคุณของพระพุทธเจ้า]
    ๒. ธัมมานุสสติ [ระลึกถึงคุณของพระธรรม]
    ๓. สังฆานุสสติ [ระลึกถึงคุณของพระสงฆ์]
    ๔. สีลานุสสติ [ระลึกถึงศีล]
    ๕. จาคานุสสติ [ระลึกถึงทานที่ตนบริจาค]
    ๖. เทวตานุสสติ [ระลึกถึงเทวดา]

    พระไตรปิฎก ฉบับบาลีสยามรัฐ (ภาษาไทย) เล่มที่ ๑๑ หน้าที่ ๒๑๘/๒๘๘
     
  12. firstini

    firstini เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,213
    ค่าพลัง:
    +3,770
    เออ... ใครเห็นพระพุทธรูป หรือ พระห้อยคอ
    แล้วนึกถึงอย่างอื่นบ้างครับ
    นอกจากพระพุทธเจ้า
    แล้วคนที่ปฏิบัติกรรมฐานจริงๆ... เห็นพระพุทธเจ้าแล้วนึกถึงอะไรบ้าง
    แล้วคนที่เคารพในพระพุทธเจ้า ไม่ต้องปฏิบัติกรรมฐานหรอก
    ขอแค่รู้สึกเคารพพระพุทธเจ้า เห็นพระพุทธรูป พระห้อยคอ อะไรก็ได้ที่ทำให้นึกถึงพระพุทธเจ้า
    เขาจะมีความรู้สึกอย่างไร


    อันนี้เป็นความฉลาดของครูบาอาจารย์และคนโบราณ
    เพราะมันเป็นเรื่องของการทำสื่อให้บุคคลที่จริตนิสัยวาสนาบารมีต่างกัน
    สามารถรอดพ้นจากปากเหยี่ยวปากกาแห่งอบายภูมิ
    เรื่องเครื่องระลึกถึงพระพุทธเจ้านั้น มีมาตั้งแต่สมัยพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    ก็อาจจะเข้าใจกันยากนิดหนึ่ง

    ถ้าจะให้ง่าย อาจจะต้องแต่งกลอน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2012
  13. Ninana

    Ninana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    363
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,740
    "นักปฏิบัติกับนักตำรา อารมณ์คนละอย่าง ตำราเป็นพื้นฐานจริงถ้าอารมณ์จิตไม่ถึงเขา เขาก็เข้าใจยังไม่ถูกต้อง ตำราเขาเขียนถูก แต่อารมณ์เข้าถึงไม่ถูก"

    สาธุ...กับคำกล่าวของหลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง ค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...