ป่วยเข้าโรงพยาบาลติดเชื้อ HIV กับการทดสอบมโนมยิทธิของผม

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย thepsak, 11 ธันวาคม 2011.

  1. Safetyman

    Safetyman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +85
    อนุโมทนาสาธุครับ ขอให้ท่าน จขท. หายจากโรคาพยาธิโดยไว นะครับ
     
  2. jangira

    jangira เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2010
    โพสต์:
    306
    ค่าพลัง:
    +784
    ดิฉันขออนุโมทนาบุญ กับเจ้าของกะทู้ด้วยคะ อ่านแล้วได้ความรู้มากๆ แต่ยังอ่านไม่จบคะ แต่ก็จะอ่านไปเรื่อยๆ จนจบคะ ขอให้หายจากโรคร้ายเร็วๆ นะคะ

    ชอบคำตอบ ตรงที่ว่า (ทำสมาธิลึกๆ ได้ก็เป็นเรื่องดีแต่ต้องทำวิปัสสนาควบไปด้วย เดี๋ยวจะติดสุขมากไป เป็นปัจจจัยไปสู่ภูมิของอรูปพรหม) คือว่าดิฉันทำสมาธิชอบวางอารมณ์จิตแบบ ที่คุณว่า แต่พอเข้าอารมณ์นี้ ที่ไรโดนสกิต ที่แขนทุกที ก็ยัง งง อยู่ ว่าจะสกิตทำไม่ พอมาอ่านเรื่อง ราวของคุณถึงตรงนี้จึงเข้าใจว่า ท่านที่มาสกิตที่แขน ท่านคงไม่อยากให้วางอารมณ์ ลึกเกินไปหรือเปล่า เดี๋ยวจะลองทำไหม่ ขอบคุณมากๆ คะสำหรับธรรมมะดีๆ
     
  3. vampiresza

    vampiresza เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2012
    โพสต์:
    33
    ค่าพลัง:
    +216
    ขอโมทนากับท่านเจ้าของกระทู้ด้วยน่ะค่ะ และขอเป็นกำลังใจให้ด้วย สู้ๆ
     
  4. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    โมทนาสาธุ กับประสบการณ์ดีๆจากเจ้าของกระทู้ครับ รู้สึกว่า จิตของเจ้าของกระทู้จะมีความเป็นทิพย์ดีมากเลยครับ สามารถมองเห็นอะไรๆได้เยอะเลยครับ พอดีผมก็พอจะมีประสบการณ์การฝึกมาแบ่งปัน พอเป็นน้ำย่อย เล่าสู่กันฟังเล่นๆน่ะครับ ไม่ได้หวัง อวดอ้างสรรพคุณของตนเองแต่อย่างใด เนื่องจากผมยังห่วยอยู่มาก เอาเป็นว่าอ่านป็นนิยายล่ะกันครับ

    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if !mso]><object classid="clsid:38481807-CA0E-42D2-BF39-B33AF135CC4D" id=ieooui></object> <style> st1\:*{behavior:url(#ieooui) } </style> <![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]--> ขอเกริ่นนำก่อนนะครับ ผมเป็นน้องใหม่ พอดีมีประสบกการณ์การนั่งสมาธิและไปฝึกมโนมยิทธิแบบงูๆปลาๆตามประสาคนที่เพิ่งทำหัดนั่งสมาธิ เลยเกิดอาการ คันคะเยอะ มือไม้อยู่ไม่สุข เลยอยากให้ท่านบางคน ที่ยังสงสัยในพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (เหมือนผมสมัยก่อน) ลองไปฝึกมโนฯดู แล้วมาเล่าสู่กันฟัง แบบผมน่ะครับ

    ขอออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่ได้เก่งกาจมาจากไหน สมาธิก็แบบงูๆปลาๆ (เพิ่งเริ่มหัดนั่งได้ประมาณเดือนกว่าๆ) หากข้อความต่อไปนี้ไปทำให้ผู้ใดระคายเคืองใจ ผมก็ขออโหสิมาณ.ที่นี้ด้วยนะครับ ผมแค่อยากจะแชร์ความรู้สึก ตามประสาคน กิเลสหนา เนื่องจากผมเป็นคนเชื่ออะไรยากๆ เลยชอบพิสูจน์ ก็เลยไปลองฝึกมโนฯที่ศูนย์พุทธศรัทธามา เมื่อสดๆร้อนๆนี้เอง

    เอาเป็นว่า ถือซะว่าอ่านเป็นนิยาย เป็นนิทานปรัมปรา ขำขัน มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง จากประสบการณ์ตรงของลูกผู้ชายหน้าตาไม่หล่อแต่จน!! ที่มีนามว่า “ภู” คนนี้ล่ะกันครับ ไม่รู้ถูกผิดอย่างไรก็ช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ด้วยผมยังน้อยด้อยซึ่งประสบการณ์
    แรกเริ่มเดิมที ผมไม่ค่อยสนใจทางด้านนี้เท่าไร แต่ มีความเคารพ หลวงพ่อฤาษี เป็นพิเศษ เนื่องด้วยจากอะไรก็ไม่ทราบ เหมือนมีจิตผูกพันธ์ กล่าวย้อนไปสมัยตอนบวชเณร ตอนผมซัก ๑๔ ขวบ เมื่อประมาณปี ๓๗ ตอนหลวงปู่ท่านมรณภาพได้ประมาณ ๒ปี ผมได้มีโอกาสไป กราบศพท่าน ตอนที่อยู่ในโรงแก้ว (เนื่องจากตอนนั้น พระอาจารย์ท่านจัดทัศนาจร พาเณรที่บวชภาคฤดูร้อนไป ไปกันทั้งหมด ๓ร้อย กว่าชีวิต )

    ผมรู้สึก คุ้นตา คุ้นหู คุ้นใจเหลือเกิน คำว่า หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทำไมฟังแล้ว เราคุ้นจริงๆ เหมือนท่านเป็นญาติคนหนึ่ง เหมือนเป็นญาติสนิท แต่ผมนึกไม่ออกว่าเคยได้ยินที่ไหนและอะไรยังไง และทันที่ที่ได้ยินชื่อ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผมก็รู้สึกผูกพันธุ์กับท่านทันทีเลยครับ!! และ แปลกใจระคนกับอัศจรรย์ใจที่ท่านตายแล้วแต่ศพท่านไม่เน่า เหมือนคนนอนหลับเฉยๆ

    และตื่นตาตื่นใจกับความมหัศจรรย์ของวิหาร ร้อยเมตร(ไม่รู้ถูกพิมพ์ถูกรึเปล่า) จากนั้นมา ก็เหมือนจะคุ้นกับชื่อหลวงปู่มาก แค่ได้ยินชื่อ ก็เหมือนกับหลวงปู่เป็นญาติคนหนึ่ง(ในความรู้สึกผมนะ) เลยติดตามมาตลอด จนกระทั่งมาสนใจ ธรรมะจริงๆจังๆก็ ประมาณ ๔ ปีที่ผ่านมา ก็ด้วยจากได้อ่าน ธรรมะของหลวงปู่ฤาษีแล้ว รู้สึกเพลิดเพลิน ยิ่งหลวงปู่ เล่าเรื่อง อดีตของตัวเอง หรือว่า เกี่ยวกับประวัติของหลวงปู่ปาน ยิ่งถูกกับจริตผมมากจนผมคิดอยู่ในใจ เฮ้ย!!นี่แบบนี้ก็มีหรือ เพิ่งเคยเจอ อะไรจะอัศจรรย์พันลึกขนาดนั้น ที่ชอบไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะอ่านแล้วเพลินดี บางทียังคิดเลยว่า หลวงพ่อนี่โม้เก่งดีแฮะ ชอบๆ(นี่ไง ไอ้ความเลวของผม มันน่าจะลงอเวจีจริงๆ ช่างกล้าปรามาส พระอรหันต์ ปฏิสัมฏิทาญานแบบหลวงพ่อ ขนาดศีล ๕ยังผิดเป็นประจำ แต่!อย่าเพิ่งด่าผมนะครับ อ่านให้จบก่อนมีเฉลยตอนท้าย)

    ผมประเภทถ้าไม่เจอกะตัวก็ไม่เชื่อ แต่ก็แปลกนะครับชอบอ่านหนังสือ เกี่ยวกับ อะไรที่ พิสดารซักเล็กน้อย ประเภท เหาะเหินเดินอากาศ เจอผี กายทิพย์ อะไรเทือกนี้ พอมาเจอหนังสือหลวงพ่อฤาษี ก็ติดงอมแงมเลยครับ จากนั้นก็กลายเป็นว่าหนังสือหลวงพ่อ ดึงดูดให้ผม ศึกษาธรรมะไปโดยปริยาย พูดตามตรงก็คือ จากที่สนใจแต่ อภินิหาร ทำนองนี้ล่ะครับ แต่วิธีปฏิบัติธรรมเขาทำให้ได้แบบนั้น ต้องทำอย่างไร ฝึกจิตภาวนายังไงกูไม่สน กูสนแต่ เจอผี เจอเทวดา(คุยกะตัวเองนะครับ หยาบนิดหนึ่ง แฮ่ะๆ!!) แล้วสนุกดี แล้วยังแอบนึกในใจด้วยนะครับ พระองค์นี้แปลก เจอผีแล้วไม่เห็นจะกลัวเลยแฮะ คุยกะผีเลยเลยวุ้ย น่าสนุกๆ( ไอ้เลว ปรามาสหลวงพ่ออีกแล้ว) แล้วหลังจากนั้น ก็เริ่มโหลด mp3.หลวงพ่อฤาษีมาฟังเรื่อยๆ คราวนี้ติดงอมแงมเลยครับ ไปลองฟังของ คณาจารย์ท่านอื่นๆก็รู้สึกเฉยๆแปลกมากๆ

    หลังจากนั้น พอฟังมากขึ้นเรื่อยๆ ผมก็มีความคิดประหลาดอยู่อย่างหนึ่ง ก็เนื่องจากว่า หลวงพ่อท่านมักจะพูดกรอกหูเสมอว่า ร่างกายเป็นทุกข์ ทุกข์เพราะต้องหาเลี้ยงมัน มันเนรคุณเราทุกอย่าง แต่เราก็เอาใจมันทุกอย่าง หาสิ่งที่ดีที่สุดให้มัน เลี้ยงดูมัน มันยังจะพัง ยังจะมีแต่โรคแต่ภัย มีแต่ความสกปรก คบไม่ได้ไอ้ประโยคนี้ล่ะครับ หลวงพ่อท่านย้ำบ่อย จนมันสะกิดต่อมความสงสัย เลยมักจะคิดอยู่คนเดียวว่า จริงอย่างที่หลวงพ่อว่าจริงๆ ร่างกายมันมีแต่ทุกข์จริงๆ (ปัญญา คนเลวๆเริ่มจะเกิดล่ะครั บ)คนเราเกิดมาทำไม? ทำไมถึงเกิดมา ก่อนหน้านี้เราเป็นอะไร? แล้วก็รู้สึกเบื่อหน่ายในชีวิต เหมือนมันไม่อยากจะเกิด เพราะเหมือนร่างกายนี้มันทุกข์เหลือเกิน แต่ก่อนก็เคยนั่งสมาธินะครับ เมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว แต่เนื่องด้วยไม่มีความรู้ทางด้านนี้ เลย นั่งแบบงูๆปลาๆ ทำบ้างเลิกบ้าง(เคยนั่งสมาธิตอนสมัยเป็นเณรครับ ตอนนั้น ประมาณปี ๓๖ ล่ะมั้งโดนบังคับนั่ง นั่งทุกวันวันล่ะ ๒ ชม.ใจสงบมาก มีอยู่ครั้งหนึ่ง นั่งๆไป ภาวนา แขน ขา ตัว หายไปซะงั้น ลมหายใจก็หายไป แปลกใจมาก) แต่ตอนนั้นยังเด็กไม่รู้เรื่องอะไร ชักติดใจ เพราะหลังจากที่นั่งแล้วรู้สึก เบาสบายดี พอสึกจากบวชเณรแล้วก็ไม่ได้สนใจอีกเลย
    แต่พวกท่านเชื่อไหมครับ!!?? พอผมมาอ่านกระทู้ของครูบอล(kindai) จากได้อ่านประสบการณ์ของครูบอลซึ่งอยู่ในกระทู้ ท่านเคยมาโพสบอกเล่าเืรื่องราวต่างๆเกี่ยวกับประสบการณ์ทางจิตที่เป็นทิพย์ ผมอึ้ง!ทึ่ง!เลยครับ! บอกตรงๆทึ่งมาก ชอบตรงที่เข้าไปกราบพระบนนิพพาน ไปนรก สวรรค์ เฮ้ย!! นี่มันโดน มันใช่ โดนจริตผมมากเลย นี่คนแบบนี้ มีด้วยหรือนี่ เพราะ ผมน่ะเชื่อว่าผี มีจริง เพราะเคยเจอ แบบจังๆ(เอาไว้ว่างๆเด๋วผมมาเล่าให้ว่าเจอยังไง) แต่ เรื่อง นรก สวรรค์ พระนิพพานนี่ผมไม่เคยห็น เลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ผมเฝ้าติดตามกระทู้นี้มาเดือนกว่า เชื่อไหม? ว่าในใจคิดตลอด อีตานี่ โม้ปล่าว ฟะ? (นี่ล่ะ เขาเรียก สันดานเลว ท่านผู้อ่านอย่าเอาอย่างนะครับ เพราะ ตราบใดที่เรายังไม่ได้พิสูจน์ อย่าไปเหมาว่าไม่มีจริง และอย่าไปเหมาว่ามีจริง ทำใจกลางๆไว้ แต่ไอ้สันดานผมมันไม่เชื่อ ตั้งแต่แรก แล้ว เอ๊า!! ไหนไหลไปไหนล่ะนั่น มาดูกันต่อจะเป็นไง)
    พอเริ่มติดตาม กิเลสมันก็อยากรู้อยากเห็นว่ามันจะเป็นอย่างไร มันจะมีจริงๆไหม หรือว่าเขาจะโม้ แล้วถ้าเรามานั่งสงสัยมันจะมีประโยชน์อะไร? เอาวะ!!ในเมื่อเขาทำได้ ไอ้เรามันก็สองแขนสองขาเหมือนเขา ทำไม่ได้ให้มันรู้ไปซิ (นี่ไงความเลวอีกตัวหนึ่ง ความถือตนถือตัว มานะทิฏฐิ เลวมาก ศีลห้า ก็ไม่ทรงตัว ดั๊นเจือกมีความคิดเลวๆอีก)



    คือย้อนไปก่อนหน้านี้ซักสอง สามเดือน นั้น แต่ก่อนสวดคาถาชินบัญชรก่อนนอนทุกวัน แต่ตอนหลังๆ อ่านหนังสือหลวงปู่ ฟังธรรมะหลวงพ่อลยลองสวดคาถาเงินล้านติดต่อกันมาสองสามเดือนได้แล้ว(บอกตรงๆที่สวดนี่ไม่ได้อยากให้จิตสงบหรือเพื่อให้เกิดสมาธิอะไร หรอกครับ แต่ผมอยากรวยครับ ! คือการสวดมนต์นี่โดยธรรมดาแล้ว เราสวดเพื่อ น้อมกำลังใจให้เกิดสมาธิ ไม่ใช่วางกำลังใจเลวๆแบบผม แบบนี้ใช้ไม่ได้นะครับ กัลยามิตรทั้งหลาย ไม่ควรเอาเยี่ยงอย่าง)

    ก่อนหน้านั้นตอนที่นั่งสมาธิ แรกเริ่มเดิมที ตอนสมัยเด็กๆที่บวชเป็นเณร ตอนแรกภาวนาแบบ พุทโธ และ กำหนดแค่ลมหายใจเข้าออกแค่นั้น ไม่ได้กำหนดภาพพระ
    แต่พอตอนที่ผมเริ่มทำสมาธิเมื่อต้นเดือนนี้ ไปอ่านเจอในหนังสือหลวงปู่ฤาษี กับหลวงพ่อเล็กท่านบอก ถ้าภาวนาแบบ นะมะ พะธะ จะเป็นบาทของอภิญญา เอาล่ะซี!!ในเมื่ออยากเห็นนรกสวรรค์กะเขา เราก็ต้องพิสูจน์ ผมก็เลยกะว่าจะนั่งสมาธิ แบบจริงๆจังๆซะที แบบกะว่า ไม่ถึงหนึ่งชม. ไม่เลิก อะไรเทือกนี้ครับ (วางกำลังใจผิดแต่แรกเลย เห็นความเลวผมไหมครับ? จริงๆการนั่งสมาธิเขาให้วางกำลังใจสบายๆ ไอ้นี่เจือก เอาเครียดไว้ก่อน ก็สมน้ำหน้ามันล่ะครับ มาดูกันต่อว่าเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร)สงสัยมันจะมีประโยชน์อะไรรผิดเปล่า เคยอ่านเจอในหนังสือหลวงพ่อ ท่านบอกว่าให้วางกำ

    ประมาณต้นเดือน เลย เริ่ม ภาวนาแบบใหม่ เอาใหม่ วันแรกเอาเลย!!เริ่มภาวนาแบบ นะมะ พะธะ ก่อนจะภาวนา ก็สวดมนต์ไว้พระก่อน สวดนะโม ตามด้วยอิติภิโส แล้วตามด้วย คาถาเงินล้านอีก 9จบ แล้วตามด้วย บทขมาพระรัตนตรัย เอาเลยสวดเยอะไว้ก่อนวะโชว์ฟิต แฮ่ๆ (เนื่องจาก นิสัยเลวๆของผมชอบ คิดเรื่องเลวๆ เช่น หลวงปู่ฤาษีโม้บ้าง ผมแปลกใจมาก มันคิดไปเอง เลยต้องขอขมาพระรัตนตรัยตลอด เป็นเหมือนกัันไหมครับ ไม่อยากคิด แต่ใจมันคิดไปเอง เลวจริงๆผมนี่)

    หลังจากนั้นก็ตั้งสัจจะ เอานาฬิกาปลุกนี่ล่ะครับ ว่าจะนั่งเท่าไร เริ่มเลยก็นั่งดูภาพพระ ดูภาพสมเด็จองค์ปฐม ที่โหลดเอาไว้ในคอม หลับตาแล้วลืมตาดู จำภาพไว้ในใจ ทำแบบนี้ประมาณ 5-10 นาที จำไม่ได้ก็ลืมตามาดูใหม่ เอาให้ใจมันชุ่ม เอาให้พอ (แต่แปลกมากผมไม่เคยจำได้ซักที แฮ่ๆ นี่ก็เลวอีกแล้วครับแต่ไม่อยากฝืนใจตัวเองมากเท่าไร เดี๋ยวจะเครียดไม่รู้ผมคิดถูกไหมนะ เลยนั่งสมาธิเลยครับ ถอนหายใจแรงๆ 4-5 ครั้งก็ลุยเลย) ผมนั่งภาวนา นะมะ พะธะไปเรื่อยๆ ใจมันจะเขวออกไปข้างนอกก็ดึงกลับมาเข้ามาใหม่ ประมาณ45 นาที รู้สึกวูบวาบๆ เย็นซ่าส์ๆ ตั้งแต่ท้องไปยันหัว ขนลุกซู่ซ่าส์ไปหมด (ใช่อาการของปิติไหมครับ แบบนี้ )พอปิติเกิดแค่นั้นล่ะ นาฬิกาเจ้ากรรมดันปลุกหมดเวลา โถ่ๆๆ แย่จัง เลยต้องรีบออกจากสมาธิ แผ่เมตตา แล้วก็นอนภาวนาจนหลับเลยครับ แต่แปลกนะครับแต่ก่อน ผมไม่ได้นอนภาวนา เวลาตื่นจะงัวเงียมากๆ เหมือนนอนไม่อิ่มแต่พอตื่นมา แปลกมาก ไม่งัวีงียเลย แ้ล้วก็รู้สึกว่า คำภาวนามันจะมาอัตโนมัติเลยครับ นะมะพะธะแบบนี้เกือบทั้งวัน อยู่ในหัวตลอด ขนาดทำงานไปด้วย ขับรถไปด้วย นะมะพะธะ ก็มีตลอด เอาล่ะเหวย เฮยล่ะวา มีกำลังใจเว้ยเรา (หลังจากมารู้ว่าอาการปิติ ยังไม่ได้ฌานด้วยซ้ำ แต่ผมก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า เรามาถูกทางแล้ว )

    แปลกจริงๆ คือพอจะลืม ก็ดันนึกได้ตลอดน่ะครับ รู้สึกมีกำลังใจมาก วันที่สองที่สาม ก็ทำแบบเดิม เวลาเดิมอีก แต่ก็ไม่ปรากฏอะไร แค่ใจสงบเฉยๆ วันที่สามมานั่ง ตั้งจะเพิ่มให้เป็น1ชม.ครึ่ง ตั้งนาฬิกาไว้ นั่งภาวนาๆไปเรื่อยๆ จนชักเมื่อย เมื่อยขามาก แปลกใจ มากนั่งมานานทำไมนาฬิกาไม่ปลุกแฮะ เอาวะ ไม่ปลุกก็ไม่ปลุก จะปวดก็ปวดไป ไม่สนใจมัน ภาวนาเอาใจจดจ่ออยู่กับลมหายใจ กับลมที่กระทบจมูก รู้ทุกลมหายใจเข้าออก แต่ ทำไม ไอ้เวทนาที่เกิดที่ขามันไม่หายสักที แล้วทำไมนาฬิกาไม่ปลุกซักทีวะ (นี่ไง ความเลวของผมอีกแล้ว) จู่ๆก็มีเสียงทักมา ไม่รู้อุปทานรึเปล่า บอกว่า “ได้ยืนยันการบันทึกตั้งค่านาฬิการึเปล่า?” เสียงมันก้องมาในหูผมเลยนะครับ ผมก็เอะใจ ใครพูดหว่า หรือเราคิดในใจ แต่เราไม่ได้คิดนี่หว่า แล้วใครคิดวะเต็มหูเลย เอ๊ะ!!หรือว่าจะใช่หว่า เอาเถอะไม่เป็นไร เราตั้งสัจจะ นะมะพะธะสัก 100 ครั้งแล้วค่อยออกจากสมาธิก้อได้ ปวดขาแทบตาย แต่ต้องทนครับ กลัวจะเสียสัจจะ พอถึง100 ก็ออกจากสมาธิ แผ่เมตตา โอย ขาขยับไม่ได้เลย แฮ่ๆ ค่อยๆนวด จนมันเริ่มดีขึ้น มาดูนาฬิกาปลุก ต๊กใจเลยครับ!! ไม่ได้ตั้งไว้จริงๆ ลืมเซฟเวลา คืออย่างนี้ครับเวลาเราตั้งนาฬิกาปลุกไว้ในโทรศัพท์เราต้องกดยืนยันการตั้งค่าด้วยไม่งั้นมันจะไม่ปลุกให้เรา ไอ้ผมก็ดันลืมกดยืนยันซะนั้น ตอนแรกตั้งใจกะตั้งไว้ ชม.ครึ่ง แต่ ล่อไป สองชม.กว่า มิน่าล่ะ เล่นซะปวดขาไปหมด นี่ถ้าไม่มีเสียงลึกลับบอกผม ผมคงล่อนั่งไปยาวเลยครับ ด้วยความโง่ ลืมบันทึกการตั้งค่าปลุกไว้ ๕๕๕ สมน้ำหน้าตัวเอง !! หลังจากนั้นก็นอนภาวนาจนหลับ ตื่นมา ก็นะมะ พะธะ ไปเรื่อย ลืมเมื่อไร ก็ วกกลับมาอยู่กับคำภาวนา แล้วก็ระลึกรู้ของลมหายใจตลอด บางที่ก็หลงบ้างแต่ แว๊ปๆก็ดึงกลับมา เวลาทำงานก็แบ่งสมาธิไว้กับงาน80 แล้วก็ภาวนาซัก 20 ทำไปเรื่อยๆ สบายดีครับ

    จนวันต่อมา นั่งภาวนาไปเรื่อยๆ แรกๆจิตฟุ้งไปหมด พอจิตจะเริ่มรวม ในใจคิด อยากรู้ปิติเป็นไงน้อ ไอ้อาการที่ หลวงปู่ หลวงพ่อ เคยบอกว่า มือใหญ่เท้าใหญ่จะจริงมั้ยน้อ(อารมณ์เลวกลับมาแล้วครับ นี่ล่ะความเลวของผม วิจิกิจฉาแบบเลวๆ) ซักพักได้ยินเสียงลึกลับครับ “ทำไมจะไม่มีล่ะ”. เอาล่ะครับ มาทันทีเลย มือใหญ่มาเลย รู้สึกเหมือนตัวขยาย ใหญ่ขึ้น โว๊ววววว จะระเบิดแล้ว!!! มือเมือ ไปหมดครับ ปากเปิก โอยๆ ใหญ่จนบวม จนเบลอ ยอมแพ้ๆ ขอขมาพระครับ ไม่ลังเลสงสัยครับ แต่ ก็อย่างว่าล่ะ ขอแบบ ขนลุกซู่ๆหน่อยได้ไหมครับ เสียงลึกลับมาเลย "เอ๊า จัดให้!!" จัดเต็มครับ ลุกชันไปหมดทั้งตัวเลย ซู่ๆๆ ซ่าๆๆๆ เหมือนกับ มีอะไรวิ่งผ่านตัว เดี๋ยว ก็ผ่านท้องผ่านแขน ทะลุออกขา ทะลุออก หัว วุ่นวายไปหมด ซู่ๆๆ อยู่ จนผมต้องบอกพอแล้วครับๆ รู้แล้วๆครับ แต่จิตมันยังไม่ยอมอีกครับ บอก ขอแบบอุเพงคาปิติหน่อยครับ อยากรู้ว่าลอยได้เป็นไง(นั่น! ความเลวอีกแล้ว ไม่ยอมลงซักที ) เสียงลึกลับตอบกลับมาว่า “กำหนดรู้อย่างเดียวพอแล้ว เอาสติไว้เฉพาะกับลมหายใจพอ อย่าวอกแวก อย่าอยากรู้อยากเห็นเกินเหตุ มันเป็นกิเลส” โดนเลยครับ คราวนี้ก็กำหนดรู้อย่างเดียวครับ ดูลมอย่างเดียว กระทบจมูกลงไปอก ลงไปท้อง จากท้องมา อก ไปจมูก กำหนดรู้ๆอย่างเดียว ซักพัก คำภาวนา หายไปไหนฟะนี่?? ตกใจ!!! ดึงคำภาวนากลับมาใหม่ เอาใหม่ กำหนดรู้ใหม่ ดูลมอย่างเดียวจดจ่อกับคำภาวนาอย่าง ทำไปเรื่อยๆ ลมหายใจแผ่วจนจับไม่ได้เลยครับ คำภาวนาหายอีกละ เอ๊ะยังไงนี่? แปลกใจ แต่ผมยังกำหนดรู้อยู่นะครับ หายใจเข้า หายใจออก ตามทันหมด แต่แค่แปลกน่ะใจนะครับ หลังจากนั้นก็ออกจากสมาธิ แผ่เมตตา แล้วนอนภาวนาจนหลับ จริงๆมีเครื่องหมายคำถามอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าถามใครอาการแบบนี้คืออะไรหนอ?


    หลังจากนั้น ก็ทำแบบนี้มาเรื่อยๆจนเกือบจะครบเดือน อาการแบบนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นเลย เนื่องจากผมวางกำลังใจผิด อยาก มาเกินไปนั่น พอนั่งก็อยากจะเห็นโน่น นี่ อยากจะให้เหลือแต่ลมหายใจบ้าง อยากให้ปิติเกิดบ้าง แต่เชื่อไหมครับ ไอ้ที่ไม่เคยอยากให้มันเกิด มันดันเสือกเกิด นั่นก็คือไอ้ตัว ฟุ้งซ่าน หรือนิวรณ์ ที่เรียกกว่า อุทธัจจะกุกกุจจะ ทำให้นั่งสมาธิ ไม่ก้าวหน้าเลย กำหนดภาพพระก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่เคยย่อท้อนะครับ ความอยากเห็นนิพาน สวรรค์ เทวดามันมากเหลือเกิน ท้อไม่ได้ ก็ยังกำหนดนั่ง ทุกวัน เช้า ชม.ครึ่ง เย็นก็หวดอีกชม.ครึ่ง รวมๆแล้ว ทำกิจกรรมนั่งสมาธิ กับสวดมนต์ ปาไปประมาณ สี่ชม.ได้


    ตอนนี้ เริ่มเชื่อเริ่มศรัทธาแล้วครับ ตั้งแต่ได้อ่าน ได้เห็นประสบการณ์ของ นักปฏิบัติทุกท่านแล้ว โอ!!อัศจรรย์ใจเหลือ ทำให้มานั่งทบทวนมานั่งคิด นอนคิด ทำไมเขาไปเห็นเทวดา พรหม นิพพานกันแสนๆ เขาไป กันได้ ทำไมเราไปไม่ได้ เราวางกำลังใจผิดตรงไหนไหมหนอ? ไม่ได้การล่ะ เราต้องไปให้ได้ หลวงพ่อบอกว่า ถ้าคนตั้งใจจริงก็ทำได้ เราต้องทำได้สิ เรามาฝึกเองคนเดียวชาตินี้เราจะก้าวหน้าไหม เราต้องหาครูฝึก เราต้องลดทิฏฐิมานะ เราต้องมีครูบาอาจารย์สิ แม้แต่หลวงพ่อท่านยังมีครูบา อาจารย์เลย เราเป็นใคร เราเป็นพระพุทธเจ้าหรือ? ถึงคิดว่าฝึกด้วยตนเองแล้วจะไปเห็นได้(เริ่มมาถูกทางแล้วครับ ท่านผู้อ่านทั้งหลาย หลังจาก เจอนิวรณ์เข้าแทรก ทิฏฐิมานะ เริ่มคลาย ความโง่เริ่มหมดไป แต่ยังก่อน ความโง่ในสมองยังเหลือเป็นกระบุงครับ )


    จึงได้ควานหา สถานที่ฝึก เอาสถานที่ใกล้ๆอยุธยาดีกว่า เพราะเรามันคนทำงานไปไกลๆไม่ได้ (ผมทำงาน เช้าครับ ตีสามก็ตื่นแล้ว ทำงานเสร็จก็หกโมงเช้า อาบน้ำแล้วก็สวดมนต์ไหว้พระ นั่งสมาธิ นอนอีกที สี่โมงเช้า) และตอนบ่ายก็ต้องไปส่งของอีก กว่าจะกลับถึงบ้านก็สองทุ่มกว่า หลังจากอาบน้ำเสร็จก็ไหว้พระ สวดมนต์ กว่าจะได้นอนก็ปาไปห้าทุ่มเที่ยงคืน ตีสามก็ตื่นใหม่ เป็นแบบนี้ประจำ) หลังจาก ไปค้นคว้าหาสถานที่ ก็มาถูกใจอยู่ที่หนึ่งคือ ศูนย์พุทธศรัทธา ที่ อ.บ้านหมอ สระบุรีครับ จึงได้ติดต่อคุณอาชนะไปเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๕มีนาคมที่ผ่านมา


    เลยไปฝึกมโนมยิทธิที่ ศูนย์พุทธศรัทธา กับคุณอาชนะมาครับ อาชนะ เป็นผู้ใหญ่ที่น่าเคารพครับ มาด นุ่มๆ สุขุม ดูเป็นคนใจเย็น ใจดี ท่านมีเมตตามากครับ มีคนไปฝึกด้วยกัน สามคนรวมทั้งผมด้วย ส่วนผลที่ได้จากการฝึก ได้ผล เกินคาดเลย จนบางที ก็มานั่งสงสัย ว่าไอ้คนที่สมาธิ ไม่ได้เรื่องอย่างผม ทำไมเห็น ภาพ บางภาพ เหตุการณ์บางเหตุการณ์ เราไม่ได้ รู้มาก่อนว่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ ไหงจู่ๆโผล่มาได้ (แอบสงสัยหลังฝึกเสร็จครับ เพราะตอนฝึก อาชนะ(ครูฝึก) ท่านบอกอย่าสงสัย ผมก็เลยว่าตามน้ำเลย
    อาชนะ:เห็นอะไรไหม
    ผม:เห็นภาพพระพุทธรูปครับ
    คนอื่น: เห็นภาพพระพุทธรูปครับ/แสงสีแดงๆ
    อาชนะ:กำหนดจิตขอบารมีไปกราบท่าน บนพระจุฬามณีสิได้ไหม
    ผม:ได้ครับ
    อาชนะ:ขึ้นไปยัง
    ผม:ขึ้นมาแล้ว
    คนอื่น:ยัง(ทั้งสองคน)
    อาชนะ:ภู ลองมองรอบสิ เห็นพระพุทธเจ้าบนนั้นไหม
    ผม:เห็นครับ (ผมเห็นพระพุทธเจ้าองค์หนึ่ง ท่านทรงจีวรเหลืองอร่าม องค์ใหญ่มาก ผมเข้าไปกราบท่าน ตัวผมเล็กมาก เล็กกว่านิ้วโป้ท่านอีกแนะ)
    อาชนะ: ภูขอบารมีท่าน พาไปจุฬามณีสิ ท่านจะพาไปไหม ถ้าท่านยกมือแสดงว่าท่านอนุญาต
    ผม:ท่านยกมือครับ(หลังจากนั้นตัวผมก็มองเห็น เจดีย์สีทองอร่าม คล้ายองค์ปฐมเจดีย์นี่ล่ะครับ แต่เป็นสีทองปนแก้วใสๆ)
    อาชนะ: เข้าไปไหนเจดีย์ได้ไหม?
    ผม:ไม่ได้ครับ มีเทวดาสองคนเฝ้าอยู่หน้าประตูกันไม่ให้ผมเข้า

    (อาชนะบอกผมศีลไม่บริสุทธิ์)เลยบอกว่า อธิฐานว่าจะขอรักษาศีลแปดตลอดชีวิต หากเข้าไปได้ และอาราธนา บารมีพระพุทธเจ้า ขอให้เข้าไปได้ ก็เข้าไปได้ครับ น้อมจิตกราบพระเขี้ยวแก้ว ลักษณะเหมือนงาช้างเล็กๆ ใสๆ อยู่ในผอบ ใสๆสว่างๆ แต่ผมเห็นอันเดียวนะครับ อาชนะบอกมี 4 อัน แต่ผมก็เห็นแค่นั้น จากนั้นก็ไปนิพพานครับ ขึ้นไปวิมาณพระพุทธองค์ แหม เป็นแก้วใส ทะลุ ปรุโปร่งไปหมด เข้าไปก็เจอพระพุทธองค์ นั่งอยู่ ทรงเครื่องจักรพรรดิ์ (ใจไม่ได้นึกว่าท่านจะเป็นแบบไหนนะครับ เห็นเองแบบนั้นเลย) ท่านเป็นแก้วใส ทั้งตัวครับ ยิ้มสวยมาก ไม่สิ แย้มน้อยๆ ผมกราบท่าน เสร็จ ก็ไปวิมาณตัวเอง แมะ! อีคราวนี้ วิมาณผมนี่แปลกจริง หลังคาสีแดง (ผมชอบสีแดง) แต่ผนังเป็นแก้วใส ใหญ่มากครับ

    เข้าไป วิมาณตัวเองดันมีเปล ซะงั้น!! ๕๕๕๕ มีเตียงแก้ว อะไรก็แก้วหมด หันมาดูตัวเอง อ่าว ทรงเครื่องยังกะเทวดา ใสเชียว แหม หล่อกว่าตัวจริงเลย! แต่งชุดยังกะลิเก ชฎาแหลมเปี๊ยบ รองเท้า โค้งแหลมมาเลย งงเลยครับ

    อาชนะ:ลองนั่งดูสิ ได้ไหม
    ผม: ได้ครับ
    อาชนะ:ขอบารมีพระพุทธเจ้า ให้เราพาไปสำนักพยายม พาเราไปสิ ถ้าท่านยกมือแสดงว่าท่านอนุญาต
    ผม: ท่านยกมือครับ
    หลังจากนั้น ผมก็มายืนอยู่ตรงหน้า คนสามคน คนหนึ่ง ตัวใหญ่สุดใส่เครื่องแบบ แบบ ลิเก แพรวพราวระยิบระยับ ไว้หนวด หน้าตาดุๆ หน่อย อีกสองคน เป็นเทวดา นั่งอยู่ต่ำกว่า ท่าท่างกำลังเหมือนจดอะไรซักอย่าง
    อาชนะ:เห็นพยายมราชไหม
    ผม:เห็นครับ
    อาชนะ:ขอบารมีท่านพาเราไป ชมนรกหน่อย ถ้าท่านยกมือแสดงว่า ท่านอนุญาต
    ผม: ท่านยกมือครับ
    หลังจากนั้น ท่านก็ผมทัวร์ นรกแบบ นันสต๊อปครับ โอย หัวใจจะวาย เห็นสัตว์นรก ทุกประเภท ยิ่งไอ้พวกที่ทำผิดศีลข้อกาเมนะครับ โอย… ขาผมอ่อน ยังกะหนัง สยองขวัญ ภาพจริง เสียงจริง ผมเห็นภาพ ผู้หญิงผู้ชายแก้ผ้า แล้วปีนต้นงิ้ว ต้นใหญ่ ข้างล่างมีหมานรก ตัวยังกะควาย ย้ำ ตัวใหญ่จริงๆครับ ดุโคตร มันคอยกัดคนที่ ตกลงจากต้นงิ้วเหล็ก สัตว์นรกตัวไหนที่ไม่ขึ้นไปก็โดนนายนิรยบาลเอาหอกแทงตูด เลือดไหล ย้อยไปหมด จำต้องปีนขึ้นไป พอปีนไปได้ซักกลางต้น คุณพระช่วย!!! ผมอ้าปากเหว๋อ!!หนามงิ้ว มันพุ่งทะลุตัว โอ๊ววว!! เสียบกะร่าง ดิ้นชักกระแด่วๆ ส่วนไอ้ตัวที่คิดว่ารอด ปีนขึ้นไปข้างบน เจออีกา อีก เฮ้ย อีกาอะไรกัน ตัวใหญ่ชะมัด!! นี่มันโคตรพ่อโคตรแม่อีกาเลยนะนั่น!! มันใหญ่พอๆกับนกกระจอกเทศเลยครับ จิกทีหัวหลุด ไส้ไหล เสียงร้องน่าเวทนามาก ผมเห็นแล้วสะอิดสะเอียน เกินจะรับไหว


    ท่านพระยายมราชพาผม ทัวร์นรกจนครบห้าขุม เล่นเอาซะผม กลัวขี้หดตดหายครับ (โดยเฉพาะข้อสามครับ เพราะผม มันพวกเจ้าชู้ประตูดิน สงสัย คงจะเลิกเด็ดขาดเสียกระมังนี่)จริงๆเห็นทั้งห้าขุมว่ามีอะไรยังไงบ้าง แต่ไม่ขอสาธยายล่ะกันครับ เอาไว้ให้พวกท่านใคร่กระหายรู้จะได้เหมือนผม แล้วไปฝึกมโนมยิทธิให้ได้บ้างจะได้หายสงสัยนะจ๊ะ อิอิ ^ ^


    หลังจากนั้น อาชนะก็ถามผมเกี่ยวกับเรื่องศูนย์พุทธศรัทธา
    อาชนะ: ขอบารมีพระท่านสงเคราะห์สิว่าเคย พระพุทธเจ้าองค์ไหน มาประทับที่ศูนย์พุทธศรัทธาบ้าง
    ผม: พระวิปัสสีพุทธเจ้า พระพุทธโคดม พระกัสสปะพุทธเจ้า( รายชื่อนี้ มันออกมาจากหัวผมเองอัตนโนมัติครับ ไม่ได้คิดเลย แปลกมาก)
    อาชนะ:ขอบารมีพระสิว่า แต่ก่อนศูนย์พุทธศรัทธา เคยเป็นภูมิประเทศแบบไหน
    ผม: ผมเห็นทะเลครับ น่าจะเป็นชายฝั่งภูเขา แล้วก็ชายหาดครับ
    อาชนะ:ถูกต้อง แล้ว แต่ก่อนนี้ มีศูนย์พุทธศรัทธาเป็นชายทะเลนะ
    อาชนะ:เห็นเทวดาในนี้ไหม
    ผม:เห็นครับ เยอะมาก มีผู้หญิงคนหนึ่งท่าน มายืนอยู่ใกล้ๆผมด้วย ท่านบอกท่านเคยเป็นแม่ผมครับ
    อาชนะ:นั่นล่ะท่านมาแสดงให้เห็น แสดงว่าเราเคยเป็นลูกท่านในอดีต น้อมจิตกราบท่านซะสิ
    อาชนะ:ขอบารมีพระ พาไปสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สิ
    ผม:ขึ้นมาแล้วครับ
    อาชนะ:กลับมาศูนย์ฯ สิ
    ผม: มาแล้วครับ
    อาชนะ:เป็นไงเร็วดีไหม
    ผม:เร็วครับ(อัศจรรย์มากครับ แค่ผมนึกก็ไปโผล่บนสวรรค์ นึกอีกทีโผล่ทีศูนย์พุทธศรัทธา โอ๊วส์ ขนลุก)
    อาชนะ:กลับไปดาวดึงส์ เห็นอะไรไหม
    ผม:ผมมาแล้วครับ เห็นเทวดา ตัวสีเขียวๆใส่ชฏา แพรวพราว มีหนวด ท่าทางใจดี นั่งอยู่บนแท่นแล้วก็มี นางฟ้านั่งอยู่ข้างๆสวยๆครับ
    อาชนะ:น้อมจิตกราบท่านสิ ท่านปู่อินทร์ กับท่านย่า นะนั่น
    ผม:กราบแล้วครับท่านดูใจดีมาก ท่านเอามือลูบหัวผมด้วยครับ(มาถึงตอนนี้ ปิติครับ น้ำตาจะไหลล่ะ โอ้ อัศจรรย์ใจเหลือ ขนลุกซู่ๆ ตั้งแต่หัวจนเท้า)
    อาชนะ:มองดูสิ มีเทวดาอื่นไหม มีเยอะไหมรอบตัวเรา
    ผม: หันไปมองรอบๆ โห มากันเยอะมาก สุดลูกหูลูกตาครับ แต่ล่ะคน หน้าตาจิ้มลิ้ม สว่างๆสไว สวยๆ งามหล่อๆ กันทั้งนั้น
    อาชนะ:ขอบารมีพระ ให้ท่านสงเคราะห์ คนไหนเคยเป็นญาติเราให้แสดงตัวให้เราเห็นหน่อย
    ผม:เห็นแล้วครับ เยอะมาก ผมนับไม่ไหวครับ
    อาชนะ:แยกกายไปกราบท่านสิ ทำได้ไหม ทั้งหมดท่านเคยเป็นญาติเรานะ
    ผม:ทำได้ครับ(นี่ล่ะครับ ผมงงตรงนี้ ทำไมผมแยกได้ แยกเป็นร้อยๆกายครับ ผมแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง เฮ้ย!!นั่นตัวเรากำลังแยกกายไปกราบเทวดา โว๊ววววว!!!! ปิติเกิดอีกแล้ว ขนลุกๆ) มีนางฟ้าองค์หนึ่งครับ ขณะผมกราบท่านมากอดผม ให้ผมหนุนตักแล้วก็ยิ้มอย่างมีเมตตา เอามือลูบหัวผม แล้วก็กล่าว ว่า ขึ้นมาได้เสียทีนะลูก แม่รอตั้งนานแล้ว กว่าจะมาได้ มัวแต่ไปหลงระเริงอะไรอยู่หรือ?


    ผม น้ำตาจะไหลครับ สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับผม ซ้ำๆ หลายๆครั้ง ปิติเกิด ผมกำหนดจิตกราบท่าน ในใจสิ้นความสงสัยทุกประการ สิ้นสงสัยทั้งหลวงพ่อฤาษี หรือ ครูบอล สิ้นสงสัยในพระธรรมคำสั่งสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า รู้สึกสว่างโล่ง ภาพ เทวดา ภาพพระพุทธเจ้า สว่างใสขึ้นๆ ดูสวยงามเหลือเกิน ผมมัวแต่ใช้ชีวิตในทางที่ประมาท ใช้ชีวิตแบบสำมะเร เทเมา กินเหล้าเที่ยวผับ เจ้าชู้ เล่นการพนัน ทำให้พ่อแม่เสียใจ แต่ จนถึงวันนี้ เพราะหลวงพ่อผู้มีเมตตา หลวงพ่อผู้ทำให้ผมศรัทธา อย่างไร้ข้อกังขา ณ. เวลานี้ ผมไม่รู้จะตอบแทนพ่อผู้มีความเมตตาท่านนี้ได้อย่างไร ได้แต่นึกในใจ ลูกจะขอทำดี ตราบนี้จนชีวิตสิ้น ตราบลูกจะสิ้นทุกข์เข้าสู่พระนิพพาน (สาธุ) เสียงเทวดา สาธุกันถ้วนหน้า
    !!


    เสร็จการฝึกผมขอบคุณ อาชนะที่ทำให้ตาผมสว่าง ขอบคุณ เวป พลังจิต ขอบคุณ พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดที่ทำให้ผมได้เกิดมาเป็นมนุษย์และพบพุทธศาสนา ขอบคุณกัลยามิตรทุกท่านที่แวะมาโพสแนะนำ ชี้แนะ บอกกล่าว ยกเอาธรรมคำสอนขององค์พระธรรมสามิตร ทำให้ผมรู้ในสิ่งที่ไม่เคยรู้ เห็นในสิ่งที่ไม่เคยเห็น แต่ยังก่อนท่านกัลยามิตรทางธรรมทั้งหลาย เรื่องเล่าของผมยังไม่จบเพียงเท่านี้ มีตอนตอนไปครับ ตอนนี้ขอพักเบรกก่อนครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 พฤษภาคม 2012
  5. kantinanna

    kantinanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +1,819
    ขอบคุณมากคะที่นำประสบการณ์มาเล่าสู่กันฟัง อ่านไปขำไป ชอบคะ ทั้งสนุกและน่าติดตามคะ ขอแอบลอกนะคะ ตอนนี้ก็กำลังหัดฝึกเองที่บ้านคะยังมือใหม่มาก ยังไงขอคำแนะนำด้วยคะ อนุโมทนา สาธุคะ
     
  6. โมกขทรัพย์

    โมกขทรัพย์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    474
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,849
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->หลังจากที่ไปฝึกมโนฯมา พอนึกถึงภาพพระ กำหนดจิตให้ไปกราบพระที่นิพาน ก็พุ่งไปบนนิพานเลยครับ ไม่ยักกะมีแสงอะไรเลยแฮะ!! เหมือนตอนแรกที่ผมฝึกกับอาชนะ ก็ไม่ได้มีแสงอะไรท่านให้นึกถึงพระพุทธรูปที่ชอบ ผมก็อยู่บนนั้นกับพระแล้ว)บรรยากาศข้างบน เย็นๆ สว่างๆ ใสๆ โล่งๆ ปนเหลืองอำพันอ่อนๆนวลๆ สบายหูสบายตาไปหมด ตัวผมเบาหวิวเชียว! เห็นพระพุทธองค์ พระองค์ประทับนั่งนั่งบนรัตนบัลลังก์แก้ว ฉัพพรรณรังสี พุ่งออกมานวล ๆดูแล้วสบายตา ท่านนั่งในท่าเดียวกับสมเด็จองค์ปฐมในวัดท่าซุงครับ ผม น้อมจิตกราบท่าน เอาจิตจับที่พระพักต์ท่าน แล้วก็พินิจ พิเคราะห์ ท่าน สวย เหลือเกินครับ สายพระเนตร ทอดต่ำ ดูแล้วเย็นตาเย็นใจ กระแสความเมตตาของท่าน สัำมผัสได้เลย แล้วท่านได้ประทานพุทธโอวาทสั้นๆว่า

    "เธอ อย่าสนใจในจริยาของคนอื่น อย่าส่งจิตออกนอก สนใจแต่จิตตนเอง การเอาจิตไปรับรู้จริยาคนอื่นเป็นนิวรณ์ทำให้การปฏิบัติไม่ก้าวหน้า"

    สงสัยท่านรู้ว่าผมนิสัยชอบ เอาเรื่องชาวบ้านมาใส่ใจ ท่านเลยสอนซะตรงจุดเลย (โดยปกติ เวลาผมทำงานผมจะแบ่งความรู้สึกเอามาจับภาพพระบนนิพพาน กับจับลม(อานาปานสติ)แล้วก็ท่องคาถาเงินล้านไปด้วย โลภไหมครับ?ไม่ใช่อะไรหรอกครับ เพราะได้กรรมฐานหลายกองดี (พุทธานุสติ+ อุปสมานุสติ+อานาปานสติ+ธรรมานุสติ) เอาซะหลายอย่างเลย แต่ก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง ชัดบ้าง อึมครึมบ้าง ลืมบ้าง ตามประสา คนกิเลสหนา สมาธิ ห่วยน่ะครับ เพราะบางทีเห็นสาวๆสวยๆเดินผ่านก็ชอบแอบมอง ตามประสาหนุ่มโสดใจเปลี่ยว ฮ่าๆ ใจก็คิดโน่นนี่ไปเรื่อย บางทีมีคนมาคุยด้วยก็ลืมที่กำหนดจิตไปซะงั้น บางทีก็คิดเรื่องอื่นไปซะงั้น แย่จริง แฮ่ๆ!!) น้อมรับคำสั่งสอนขององค์ตถาคต แล้วก็กราบท่านอีก แหม๋!!กราบท่านไม่รู้จักเบื่อ ท่านแย้มพระโอษฐน้อยๆ สวยเหลือเกินครับ!สวยจริงๆ

    ซักพักหลวงพ่อฤาษีก็มา ถือไม้เท้ามาด้วย ผมก็กราบๆท่าน ดีใจครัีบ นึกถึงท่านท่านก็มาให้เห็นทันตา ท่านมาถึงก็ยิ้ม เอามือลูบหัว บอกว่า "ดีแล้วลูก คำสั่งสอนของสมเด็จฯท่าน น้อมรับใส่ใจไว้ แล้วปฏิบัติให้ได้นะ ลูกหลวงพ่อ ทุกคน หลวงพ่อจะตามมาอยู่บนนี้ให้หมด"

    ได้ฟังแล้ว น้ำตาจะไหลครับ เป็นบุญจริงๆ ผมก็กราบๆท่าน แล้วท่านก็ให้ไปกราบสมเด็จองค์ปฐม ท่านมาตอนไหนไม่รู้ครับ อยู่ด้านหลังสมเด็จองค์ปัจจุบัน ท่านองค์ใหญ่มาก ใหญ่กว่าสมเด็จองค์ปัจจุบันเยอะมากครับ ท่านประทับนั่งอยู่ แต่ไม่ได้ทรงเครื่องจักรพรรดิ์ ห่มจีวรปกติ องค์สีทองทั้งองค์ สีทองๆใสๆ ไปหมดทั้งองค์ ผมก็ไปกราบๆท่าน ท่านไม่พูดอะไร ได้แต่ยิ้มน้อยๆ แล้วยกพระหัตถ์ข้างขวา ขึ้นมา เป็นลักษณะเหมือน กับ รูปคล้ายจีบมือน่ะครับ ทำอยู่อย่างนั้น สวยงาม อ่อนช้อย ดูแขน ขาท่าน กลมกลึงไปหมด (ผมสังเกตุว่า องค์ปัจจุับันกับองค์ปฐมต่างกันเล็กน้อยครับ องค์ปฐมท่านจะแก้มออกยุ้ยๆหน่อยและ พระวรกายใหญ่กว่ามาก แต่ัลักษณะร่างกายเหมือนกันทุกประการ แขน ขา ตามมหาปุริสลักษณะทุกประการ ที่สำคัญ ยิ้มท่านสวยมาก ทั้งสองพระองค์) ผมก็กราบๆท่าน สักพักก็ไปวิมาณตัวเอง นั่งๆนอนๆ อยู่แถวนั้น แป๊บนึง ลงมาข้างล่าง เอาจิตมาจับร่างกาย เพราะเริ่มรู้สึกว่า เวทนากินขา มากๆ ได้ยินเสียงตั้งปลุกพอดี(ผมนั่งประมาณ ชม.ครึ่งผมจะตั้งปลุกไว้ เพราะกลัวตัวเองจะนั่งได้ไม่นานเลยตั้งดูว่าถ้าไปข้างบนจะใช้เวลาเท่าไร แหม๋ ทำไมมันเหมือนแป๊บเดียวเอง!) แผ่เมตตาเสร็จ ก็มาโพส แชร์ประสบการณ์คร้ับ
    ปล๑.โปรดใช้วิจารญาณในการรับชม มโนมยิทธิเป็นเรื่องปัจจัตตัง ใครทำใครรู้ครับ ผมแค่มาแชร์ประสบการณ์อันน้อยนิด หลังจากฝึกมโนฯ มาแค่นั้น สมาธิผมก็ไ่ม่ได้ดีเลิศอะไร แต่ผมมั่นใจ และ เชื่อในพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ครับ ใครจะเห็นต่างจากนี้ก็ตามแต่ท่านจะเห็นครับ
    <!--[if gte mso 9]><xml> <w:WordDocument> <w:View>Normal</w:View> <w:Zoom>0</w:Zoom> <w:punctuationKerning/> <w:ValidateAgainstSchemas/> <w:SaveIfXMLInvalid>false</w:SaveIfXMLInvalid> <w:IgnoreMixedContent>false</w:IgnoreMixedContent> <w:AlwaysShowPlaceholderText>false</w:AlwaysShowPlaceholderText> <w:Compatibility> <w:BreakWrappedTables/> <w:SnapToGridInCell/> <w:ApplyBreakingRules/> <w:WrapTextWithPunct/> <w:UseAsianBreakRules/> <w:DontGrowAutofit/> </w:Compatibility> <w:BrowserLevel>MicrosoftInternetExplorer4</w:BrowserLevel> </w:WordDocument> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 9]><xml> <w:LatentStyles DefLockedState="false" LatentStyleCount="156"> </w:LatentStyles> </xml><![endif]--><!--[if gte mso 10]> <style> /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} </style> <![endif]-->
     
  7. rungdao

    rungdao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    2,019
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,731
    อนุโมทนาสาธุกับเจ้าของกระทู้และทุกๆความเห็นค่ะ สาธุ..
     
  8. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
  9. mummamman

    mummamman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    1,598
    ค่าพลัง:
    +2,116
    เคยอ่านเรื่องจิงอิงนิทานของหลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านบอกว่าเชื้อHIVพวกนี้จะแพ้ควันยาเส้นครับ

    ให้จุดยาเส้นในห้องแล้วเข้าไปรมตัวในห้อง ลองศึกษาดูอีกทีผมจำได้แค่นี้ครับ
     
  10. Weehero

    Weehero เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    153
    ค่าพลัง:
    +719
    ขอโมทนาสำหรับธรรมทานนี้ครับ ทั้งเจ้าของกระทู้ , ท่านโมกขทรัพย์ และพี ๆ ทุกท่านครับ

    รบกวนขอคำชี้แนะอีกนิดหนึงครับ
    1สงสัยว่าลักษณะอย่างไร ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นลูก ๆ ของหลวงพ่อ (เผื่อเข้าข่าย ๕๕๕ )
    2.ส่งสัยว่าการฝึกมโนมยิทธิ ต้องมีครูฝึกใช่มั้ยครับ ผมเองก็อยากฝึกแต่ไม่มีโอกาส (หรือว่าวาสนาไม่มี เวลายังไม่ถึงก็ไม่รู้) อยากถามว่าเวลาที่ตอนที่พี่โมกขทรัพย์ฝึกเองกับมีครูฝึก มันมีอะไรต่างกันมากมั้ยครับนอกจากครูกับสถานที่ อย่างเช่น การวางอารมณ์ตั้งอารมณ์ พิธีการ หรืออื่น ๆ รบกวนแนะนำด้วยน่ะครับ :cool: ตอนนี้ก็ผมก็ทำคล้าย ๆ ตอนที่พี่โมกขทรัพย์ฝึกคนเดียวอ่ะครับ(แต่ไม่หนักขนาดนั้น) ...มืด ไม่เห็นอะไร... มีอารมณ์สามาธิขั้นต่ำบ้าง นิวรณ์บ้าง สลับกันแวะเวียนเข้ามา:'(
     
  11. samarin_140

    samarin_140 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +595
    ขอบคุณสำหรับเรื่องราวของคุณเจ้าของกระทู้ เขียนได้สนุกมากค่ะ เป็นกำลังใจให้ รักษาสุขภาพ พักผ่อนเยอะ ๆ จะคอยติดตามอ่านนะคะ (k)
     
  12. odanhi

    odanhi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    245
    ค่าพลัง:
    +398
    มาเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้สุขภาพแข็งแรง ธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติปฏิบัติดีคะ
     
  13. กุญแจธรรม

    กุญแจธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    95
    ค่าพลัง:
    +286
    ขอขอบคุณnuttdhanan ที่ได้แบ่งปันเรื่องราวที่เป็นประโยชน์นี้นะครับ คุณเล่าเรื่องได้ดีมากๆ ทำให้จินตนาการไปพร้อมกับเรื่องได้ลื่นไหล และเรื่องของคุณทำให้ผมมีกำลังใจในการปฎิบัติต่อไป คุณเป็นคนที่มีจิตใจเมตตานะครับ ผมขอเป็นกำลังใจให้คุณครับ :)
     
  14. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    971
    ค่าพลัง:
    +3,331
    ท่านเจ้าของกระทู้เป็นอย่างไรบ้าง ไม่เห็นมาอัพเดตเลย ยังไงก็ขอให้คุณพระคุ้มครองรักษาให้ได้ยาดีมารักษาให้หายป่วยและได้มีชีวิตที่ดี ได้สร้างบารมีให้สูงยิ่งๆขึ้นไปนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

    บังเอิญเปิดมาเจอเลยอ่านตั้งแต่หน้าแรกจนหน้าสุดท้ายเลยทีเดียว และขอขอบคุณทุกๆท่านที่มาแชร์ให้ได้รับความรู้มากขึ้นค่ะ ช่วยให้กระตุ้นต่อมอยากปฏิบัติขึ้นมาเลยทีเดียว ติดแต่จะทำไม่ถึงขั้นจริงๆจังๆสักที เลยไม่พํฒนาเลย
     
  15. สุเมโธนามะ

    สุเมโธนามะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +56
    อนุโมทนาบุญกุศลกับ จขกท. ขอให้สุขภาพแข็งแรง หายจากอาการเจ็บป่วย จิตใจยึดมั่นอยู่ในพระนิพพานอย่างเดียว สาธุ
     
  16. สุน

    สุน สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +5
    ขอให้คุณสมหวัง ขอพระรัตนตรัยคุ้มครอง ขออย่าท้อเเท้ ทุกอย่าง ไม่มีเหลือเหมือนกัน
     
  17. ก้อง1

    ก้อง1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +347
    สุขภาพแข็งแรงทุกคนนะครับ
     
  18. Zintellar

    Zintellar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    423
    ค่าพลัง:
    +143
    ขอบคุณมากครับสำหรับคำแนะนำของหลายๆท่าน
     
  19. เพลงธรรม

    เพลงธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +280
    เจ้าของกระทู้คงไปจากพวกเราแล้วหรือไม่ก็หมดวาระที่จะมาบอกเล่าความอัศจรรย์ต่างๆทางจิตที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของแต่ละท่านที่จะปฏิบัติเพื่อจะได้เห็นด้วยตนเอง ขออนุโมทนา บุญบารมีใดที่ข้าพเจ้าสั่งสมมาขอให้เป็นปัจจัยน้อมนำให้ทุกท่านที่สนใจธรรมจงถึงซึ่งนิพานในปัจจุบันกาล นิพพานะปัจจะโยโหตุ
     
  20. kantinanna

    kantinanna เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    191
    ค่าพลัง:
    +1,819
    คุณพี่nuttdhanan ท่านสุขภาพแข็งแรงดีค่ะ เมื่อสองเดือนก่อนได้รับเมสเสทจากท่านค่ะ เพราะได้เขียนไปขอคำแนะนำจากท่านค่ะ ท่านตอบมาว่า สุขภาพท่านแข็งแรงดี แต่เมายาต้านไวรัสบ้าง ช่วงหลังนี้ท่านไม่ค่อยได้เข้ามาเช็คบ่อยนักค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...