ผนึกเส้นทางท่องเที่ยวสายพุทธ ไทย-ลาว-พม่า-เขมร-เวียดนาม-จีน-อินเดีย

“วีระศักดิ์”ชง ครม.ไทย-ลาว ผ่อนปรนวีซ่าหนุนท่องเที่ยว เล็งผนึกเส้นทางสายพุทธ ไทย-ลาว-เมียนมา-กัมพูชา-เวียดนาม-จีน-อินเดีย

นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า เนื่องในวันที่ 14 ธ.ค.2561 จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีร่วมระหว่าง ไทยกับสปป.ลาว ที่นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เตรียมเสนอให้ที่ประชุมรับทราบถึงความคืบหน้าของไทยเกี่ยวกับมาตรการผ่อนปรนด้านวีซ่า ทั้งแบบดับเบิล เอนทรี วีซ่า
ซึ่งอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขอวีซ่าเดินทางเข้าไทยครั้งเดียว (ซิงเกิล เอนทรี วีซ่า) ณ สถานทูตหรือสถานกงสุลไทย สามารถเดินทางเข้าไทยได้ 2 ครั้ง ภายใน 6 เดือน และอีกแบบคือการอนุญาตให้นักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเดินทางไปท่องเที่ยวประเทศเพื่อนบ้านของไทย และกลับเข้ามาเที่ยวไทยอีกครั้งเดียว (รี-เอนทรี เพอร์มิท) โดยไม่ต้องขออนุญาตอีกครั้ง

“มาตรการผ่อนปรนด้านวีซ่าทั้งแบบดับเบิล เอนทรี วีซ่า และรี-เอนทรี เพอร์มิทของรัฐบาล นอกจากจะช่วยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเยือนไทยแล้ว ยังส่งผลดีต่อการท่องเที่ยวของ สปป.ลาวด้วย เพราะสามารถร่วมมือกันในการสร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างไทยกับ สปป.ลาว เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวมากขึ้น”

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ ไทยจะร่วมมือกับประเทศต่างๆ ที่เป็นเมืองพุทธ หนึ่งในนั้นคือ สปป.ลาว ส่งเสริมการทำตลาดและประชาสัมพันธ์สถานที่สำคัญทางศาสนาพุทธเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว โดยเตรียมจัดทำหนังสือ “บูดิซึ่ม ทัวริสซึ่ม” (Buddhism Tourism) ในรูปแบบหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อโปรโมทการท่องเที่ยวเชิงศาสนาพุทธซึ่งมีประวัติยาวนาน และได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวตะวันตกที่หันมาศึกษาปรัชญาตะวันออกรวมถึงศาสนาพุทธมากขึ้น



“โดยมีเส้นทางคมนาคมอำนวยความสะดวกในการเดินทางเชื่อมโยง ทั้งทางบก ทางน้ำ ทางอากาศ รวมถึงระบบรางที่เชื่อมต่อไทยกับประเทศเพื่อนบ้านทั้ง สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม จีน และอินเดีย โดยเฉพาะเส้นทางรถไฟที่สามารถพัฒนาให้เป็นเส้นทางรถไฟสายพุทธที่ยาวที่สุดในโลกได้”

เมื่อนำเสนอให้คณะรัฐมนตรีของ สปป.ลาวรับทราบแล้ว มั่นใจว่าแนวทางทั้งหมดจะสามารถผลักดันให้เกิดขึ้นได้โดยเร็ว เพราะการนำเสนอในระดับรัฐบาลจะช่วยขับเคลื่อนในเชิงนโยบายและมีผลผูกพันให้โครงการทั้งหมดเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรม โดยความร่วมมือดังกล่าวจะส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในภูมิภาคนี้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดเกี่ยวกับการนำลูกหลานชาวเวียดนาม ที่อาศัยในไทย และสามารถสื่อสารภาษาเวียดนามได้ มาเป็นไกด์เพื่อนำเที่ยวให้กลุ่มนักท่องเที่ยวเวียดนามที่เดินทางมาไทย เพื่อตามรอยบ้านโฮจิมินห์ซึ่งเคยอาศัยใน 3 จังหวัด ได้แก่ นครพนม อุดรธานี และพิจิตร โดยมีชาวเวียดนามจำนวนมากที่ต้องการเดินทางมาเที่ยวไทยทางรถยนต์ผ่าน สปป.ลาว ระยะทางรวมกว่า 200 กิโลเมตร
หากสามารถจัดทำโปรแกรมท่องเที่ยวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวเวียดนาม ให้แวะท่องเที่ยว สปป.ลาวก่อน ไม่ใช่มุ่งเดินทางถึงไทยโดยเร็วที่สุด ก็จะทำให้ สปป.ลาวได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวเชื่อมโยงครั้งนี้ด้วย ถือว่าเป็นเรื่องน่าสนใจและเชื่อว่า สปป.ลาวพร้อมร่วมมือกับไทยในเรื่องนี้

ขอขอบคุณที่มา
https://www.khaosod.co.th/economics/news_1936744