ผลของหน้าที่ของนายนิรยบาล

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย Sagen1994, 29 กันยายน 2010.

  1. Sagen1994

    Sagen1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +202
    อยากทราบว่า การที่นายนิรยบาลได้ทำการทรมานสัตว์นรกนี่เป็นบาปไหมครับ? เพราะเหตุใด?

    แล้วนายนิรยบาลมาจากไหน เคยเป็นใคร ทำกรรมใดจึงได้มาทำหน้าที่นี้ครับ?
     
  2. ariyabut

    ariyabut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +2,415
    สนทนาสายลม 7
    วันจันทร์ที่10 มีนาคม 2523

    ญาติโยมถามว่าเดือนเมษาจะมาเมื่อไหร่ ก็ตอบว่า เฮ้ย วันเกิดท่านเจ้ากรมก็ควรจะแจกเหรียญวันเกิด ก็ควรจะแจกเหรียญวันเกิดด้วย ก็เลยยอมรับว่าเขาว่า แจกเท่าที่มีนะ มี 1เหรียญคนมาแสนคนก็แจกพอ ก็ถือเอาไว้เฉย (หัวเราะ) ใช่ไหม เป็นอันว่าวันนั้นเหนื่อยมาก เอ้ ญาติโยมพุทธบริษัทนั่งนิ่งสงบก็อยากจะนอนสักหน่อยก็ไม่ได้ไป ปรากฏท่านมากันเต็ม

    เอ้ คุยกันไปคุยกันมาท่านก็บอกว่า เออ วันนี้ จิตใจของเขาดีมาก แต่ความจริงละเอียดมีมาก ก็มีท่านที่มาใหม่ท่าน บางทีท่านก็ตั้งอารมณ์ไม่ถูกอยู่บ้างไม่กี่คน แค่คนสองคน ไม่ใช่ว่าทำถูกหรือทำผิดหรอกแต่ว่าอารมณ์นั้นยังไม่ทรงตัว นี่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่ง แล้วก็มีอีกเรื่องหนึ่งที่คุยกันเป็นพิเศษ พอญาติโยมสงบปั๊บก็มีแขกพิเศษมาสองท่าน นั้นคือ ท่านพระยายมกับท่านนายบัญชีใหญ่ งัดบัญชีเล่มเบ้อเร่อเลย
    <O:p</O:p

    ถาม ทำไมจะทวงหนี้หรือไง<O:p</O:p
    ก็บอก เอ้าก็คุณบอกว่าเขามีก็บัญชีกัน ผมก็แบกบัญชีมา<O:p</O:p
    แล้วถามท่านว่า ความจริงบัญชีมันมีไหม<O:p</O:p
    ท่านบอก เทวดาไม่เจ๊กขายกระดาษ แหม พ่อค้าระยำจริงๆ ถ้าไปขายที่นั้นไม่รู้รวยก็ไม่รู้จักไปขาย​
    <O:p</O:p

    แล้วถามว่ารู้ได้ไง กฎแห่งกรรมของคน ท่านบอกว่าสภาพมันเป็นทิพย์เลยไม่ต้องไปนั่งจด ไม่ต้องไปนั่งทำบัญชี ทำไปผมก็ทำไม่ไหว ในเมื่อสภาพจิตมันเป็นทิพย์ มันก็รู้อะไรได้ทุกอย่าง เวลาคนตาย ไปผ่านสำนักท่าน ท่านก็รู้ได้ทันทีว่า คนนี้ทำอะไรมาบ้าง เวลาเท่าไร หนักเบาเท่าไร หนักเบาเพียงใด สบายไม ก็เลยถามบัญชีว่า โดยฐานะครั้งหนึ่งหรือหลายๆ ครั้ง ท่านเคยเป็นลุง แล้วก็เป็นพยายม ในวาระหนึ่ง หรือหลายๆ วาระท่านเคยเป็นพี่ เมื่อพบเข้าก็ถือว่าทั้งสองท่านเป็นผู้มีพระคุณ พี่ก็เคยเลี้ยงน้อง ถ้าหากว่าพ่อแม่ไม่อยู่ พี่ก็เหมือนพ่อแม่ใช่ไหม​
    <O:p</O:p

    ท่านลุงก็เหมือนกันท่านก็เป็นญาติผู้ใหญ่ เราก็ไหว้ท่านเป็นเรื่องธรรมดา เคารพในท่าน พอคุยกันก็ถามท่านว่า ไอ้เรื่องวาระจิตของคนน่ะ มันมีวาระจิตต่างกันต่างกรรม ต่างวาระ หากว่าเค้าจะคิดชั่วนี่ เธอรู้ไหม ท่านบอกว่าไม่ต้องไปตามเวลาตามความคิดหรอก เขาจะนึกทำความชั่ว จะมาจากภาคอีสาน ภาคกลาง มันจะอยากรู้เมื่อไหร่ มันก็รู้เหมือนกันนั่นแหละ ซวยเลย หลบไม่ได้ซิ ไม่มีทางหลบเลยนะ คุยกับท่านอยู่เดี๋ยวหนึ่ง เดี๋ยวก็ท่านผู้ใหญ่ก็มา วันนี้มากันเต็ม มาเต็มจัดก็มีแสงสว่างจัด แต่ว่าจิตใจของญาติโยมพุทธบริษัทก็ใสสว่างก็ขึ้นมาประสานกัน ถ้ามีจิตละเอียดมาก รู้สึกว่าทุกท่านดีใจมาก

    ท่านบอกว่าถ้าจิตละเอียดอย่างนี้ก็มีหวังทุกราย ถามว่ามีหวังอะไรเพราะท่านเป็นฝ่ายนรก พอถามเข้าก็มีหวังบอก อย่า อย่า อย่าคิดให้มันเป๋ไปซิ ท่านหาว่ารวนท่านรึไง ก้อย่าคิดให้มันเป็นไป ถ้าไม่มีหวังข้างบน ข้างล่างน่ะผมไม่เก็บไว้ที่นรกให้มันเปลืองบัญชีผมหรอก นี่ก็ชักจะดีใจกันหน่อยนะ นี่กลับไปนี่อย่าแอบไปขโมยก๋วยเตี๋ยวเขานะ ไอ้อ้วนนี่สำคัญ​
    <O:p</O:p

    เป็นอันว่าวาระจิตของคนเรานี่มันไม่พ้นความเป็นทิพย์ การที่เราไปทำชั่วที่บอกว่ากายกรรมก็ดี วจีกรรมก็ดี มโนกรรมก็ดี นี่มันเป็นผลจริง คือว่าเราจะมีอารมณ์ชั่วเพียงแค่จิตนึก มันก็มีผลขั้นอบายภูมิเหมือนกัน แต่ว่าอบายภูมินี่ ทุกคนเกิดมาแล้ว ถ้าหากว่าเรามีความดี ก็ไม่มีใครพ้น เพราะว่าสร้างความดีเพียงใด

    ทุกคนเกิดมาก็ต้องผ่านความชั่ว ปาณา อทินนา กาเม มุสา สุรานี่ถึงแม้ว่าจะละเลิศไม่ครบ 5 ละเมิดอย่างใดอย่างหนึ่งโดนเฉพาะมันเป็สาเหตุของอบายภูมิ ในเมื่อเราจะพ้นได้ก็ต้องอาศัยกำลังใจดี รู้จักหลีก จัดอารมณ์หลีกจากอบายภูมิเสียในเมื่อเรารู้ตัว นั้นหมานความว่า ที่พระพุทะเจ้าท่านตรัสว่าขึ้นชื่อว่าความชั่วทั้งหมดที่ผ่านมาแล้ว จงอย่าตามนึกถึงให้นึกถึงความดีแต่อย่างเดียว ที่ท่านเรียกว่า อนุสสติ​
    <O:p</O:p

    อนุสสติ 10 มีพุทธานุสติ ธัมมาสสติ สังฆานุสสติ เป็นต้น และอย่างที่บรรดาญาติโยมทำนี่ก็ถือว่า น้อมจิตไปถึงความดีโดยเฉพาะ ฉะนั้นความอย่างที่บรรดาญาติโยมทำที่นี่ถือว่า ถึงแม้ว่าพระอรหันต์ทุกองค์ที่เข้านิพพานได้แล้วก็หมดความชั่ว ใช้อาศัยกำลังใจในด้านความดีสูง ท่านถึงได้หลบอบายภูมิไปนิพพาน​
    <O:p</O:p

    ฉะนั้นท่านจึงเตือนบอกว่า ขอให้ทุกคนที่มาวันนี้นะ ท่านห่วงแต่ความจริง ท่านไม่ห่วงมาก ท่านคิดว่า เขาจะมีความมั่นใจในต้วเขาน้อยเกินไป ก็เลยสั่งให้มาบอกเค้าว่า ถ้าพยายามทำจิตใจอย่างวันนี้ จะรักษาอารมณ์แบบวันนี้ อย่างนี้ทุกคนไม่พลาดนิพพาน ท่านอย่างนั้นนะ อีกกี่แสนชาติจะไปฉันไม่รับรอง อย่ามาถามฉันว่าชาตินี่ไปนะ

    คุยอยู่ประเดี่ยวหนึ่งนายโม่งก็โพล่ 1 ตัว แต่งตัวดำทะมึนเชียว เดินเข้ามาได้อย่างไรของมันว่ะ ไอ้ตัวนี้ เลยถามว่า ตัวอะไร ก็บอก ผมคือนายนริยบาล บอก แหมนี่ที่นี่เขาแต่งตัวกันสวยๆ จะเลือกเครื่องแบบแบบนี้ทุกทีแหละ ถามจริงๆ ไอ้เครื่องแบบของแกจริงๆ มันเป็นอย่างไร พอถามว่าหน้าตาสวยไหม บอกว่าหน้าตาดีแฮะ ไม่ใช้ไอ้โม่ง

    เอ <O:p</O:pฉันก็ถามอยากจะทราบว่า ท่านทำบุญอะไรถึงได้เป็นายนริยบาล แก หันมายิ้มแหย บอกนี่ถ้าถามแบบนี้ต้องไปถามกันหลังบ้าน จะชวนชกให้ได้เลยนักเลง แก่บอกว่า อาศัยอารมณ์ชั่ว ตัวน่ะไม่ได้ทำ แต่เขาเคยฆ่าสัตว์ตัดชีวิตก็พอลักขโมยก็พลอยยินดี ไปกับเขาด้วย เขาเรียกปรับตามแล้วโมทนามัย อาศัยบาปแล้วโมทนายินดีกับเขา

    เขาไปฆ่าช้าง ฆ่าม้า ฆ่าควาย ฆ่ากระบือ ฆ่าปลา ฆ่าสัตว์ลักขโมยละก็ ฮ้อๆๆๆ (หัวเราะ) เขากินก็กินกับเขาด้วยกินไปกินมาก็เลยได้เป็นนายนริยบาล ถามว่าเหนื่อยไหม เขาบอกเหนื่อยบรรลัย ไม่มีเวลาได้พัก ก็เลยโมทนากับแกด้วย ถามว่าโมทนาจะเป็นอย่างไร ฉันบอกไม่ใช่โมทนาให้แก่อยู่นานๆ (หัวเราะ) แกขยันงานดี อันนี้ได้ความรู้นิดหนึ่ง

    <O:p</O:p</O:pตัดมาบางส่วน หน้า 445-447
    จาก หนังสือ รวมคำสอนธรรมปฏิบัติของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน เล่ม 8
     
  3. Sagen1994

    Sagen1994 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +202
    ขอบคุณครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...