"ผลบุญ"บงการชีวิตเราได้อย่างไร....อยากรู้....ต้องอ่าน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย วายร้ายยายตัวยุ่ง, 13 กันยายน 2008.

  1. วายร้ายยายตัวยุ่ง

    วายร้ายยายตัวยุ่ง สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    114
    ค่าพลัง:
    +20
    "ผลบุญ" บงการชีวิต เราได้อย่างไร
    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p>[​IMG]</o:p>
    <o:p></o:p>
    บุญ เป็นชื่อของความสุขอันเกิดจากการทำความดี เหตุที่ทำให้ชีวิตของเรามีความสุข มีอยู่หลายเหตุ เช่นการศึกษา ระบบสังคม ระบบการปกครอง การสาธารณูปโภค แต่เหตุทั้งหลายเหล่านั้นไม่ใช่เหตุโดยตรง เป็นสาเหตุโดยอ้อมเท่านั้น<o:p></o:p>
    บางครั้งบางคราว คนเราอาจหาความสุขได้จากการทำความชั่วความเลว แต่ความสุขเช่นที่ว่านี้ไม่เรียกว่า บุญ ทั้งนี้เพราะความสุขดังกล่าว จะต้องมีกุศลในอดีตชาติเป็นรากฐาน และมีความเดือดร้อนในอนาคตเป็นผลผลักดันรออยู่เบื้องหลัง<o:p></o:p>
    "กรรมใดทำแล้วเดือดร้อนในภายหลัง กรรมนั้นไม่ควรทำ" พระบรมศาสดาแห่งศาสนาพุทธตรัสสอนอย่างนี้<o:p></o:p>
    ความดี ทำให้เกิด ความสุข<o:p></o:p>
    ความรู้ ทำให้เกิด ความฉลาด<o:p></o:p>
    การฝึกฝน ทำให้เกิด ความสามารถ<o:p></o:p>
    ความฉลาด ความสามารถของมนุษย์ ทำให้สร้างสรรค์เครื่องบำรุงบำเรอความสุขได้มากมายสารพัดสารพันชนิด เกิดภาพลวงตา เกิดความคิดลวงใจว่า ความสุขเกิดจากการศึกษาเล่าเรียน ความสุขเกิดจากความรู้และวิทยาการต่าง ๆ มนุษย์จึงตะบี้ตะบันศึกษาเล่าเรียนเป็นการใหญ่ ไม่มีเวลาว่างสำหรับพักผ่อน ไม่มีเวลาเหลือสำหรับการทำความดี เขารู้ เขาฉลาด เขามีความสามารถ แต่เขาไม่มีความสุข ทั้งนี้เพราะเขาไม่ได้ประกอบเหตุโดยตรงที่จะทำให้เกิดความสุข ศาสนาที่สำคัญทุกศาสนา ไม่ว่าจะมีจุดสูงสุดอยู่ที่นิพพาน พรหมโลก หรือสวรรค์ ล้วนสั่งสอนให้มนุษย์ประพฤติดีประพฤติชอบ ด้วยกันทั้งสิ้น ไสยศาสตร์ เป็นวิชาที่ว่าด้วยวิญญาณ และความสัมพันธ์ระหว่างวิญญาณกับกายหยาบ ไสยศาสตร์ เน้นหนักเรื่อง วิญญาณในเรือนร่างมนุษย์ ไสยศาสตร์ไม่มีคำสั่งสอนโดยตรงเกี่ยวกับวิธีการทำบุญ ซึ่งศาสนาต่างๆ ได้สั่งสอนไว้โดยละเอียดแล้ว แต่ไสยศาสตร์ก็มีความรู้มากมายเกี่ยวกับการแบ่งแยกประเภทของบุญ<o:p></o:p>
    ขอเสนอความรู้เกี่ยวกับบุญ ในแง่ ไสยศาสตร์ ซึ่งแม้จะไม่ละเอียดทุกข้อ ทุกประเด็น แต่ก็หวังว่า คงมากพอที่จะทำให้ท่านเกิดความรู้ความเข้าใจ<o:p></o:p>
    บุญประกอบ<o:p></o:p>
    ในอดีตชาติ บุคคลไม่ทำบุญด้วยตนเอง แต่เป็นลูกมือจัดการทำบุญตามคำขอร้องของผู้ใหญ่ เป็นลูกน้องทำทานตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา ชาตินี้ เกิดมาร่วมภพ ร่วมวงการ ร่วมสมัยกับเจ้านาย ก็จะได้พึ่งใบบุญของเจ้านาย เมื่อสิ้นบุญหรือพลัดพรากแยกกันไป ก็ตกอับยากจน ขายทรัพย์สมบัติ ขายของเก่าเลี้ยงชีพ<o:p></o:p>
    บุญกุศล<o:p></o:p>
    บุคคลทำบุญด้วยตนเอง กับพระภิกษุ สมณะพราหมณ์ผู้ทรงศีล ผู้ใหญ่ทรงคุณธรรมสูง บุคคลทำบุญเพื่อความดีงามของศาสนา หรือระบบจริยธรรม โดยผู้ที่ได้รับประโยชน์จากการทำบุญทำทานของตน<o:p></o:p>
    1) ไม่รู้จักมักคุ้นกัน หรือ<o:p></o:p>
    2) ไม่อยู่ในฐานะเดือดร้อนวุ่นวาย หรือ<o:p></o:p>
    3) ไม่ต้องระลึกจดจำความดีงามอันนั้นแต่อย่างใด<o:p></o:p>
    บุญกุศลมีพลังมีอานุภาพ ยกระดับเลื่อนชั้น เลื่อนฐานะสังคมของผู้กระทำบุญกุศล ป้องกันมิให้ผู้มีบุญต้องตกต่ำจากฐานะเดิม บุญกุศลมีลักษณะพิเศษ ที่เจ้าของบุญสามารถนำออกใช้หรือบริโภคผลบุญตามจังหวะเวลาที่ต้องการ บุญกุศลเก็บไว้ได้นานโดยไม่เสื่อมคุณภาพแต่อย่างใด ตามปกติการประกอบบุญกุศล จะต้องมีการเตรียมการล่วงหน้า เพราะต้องใช้เวลา ต้องใช้ความคิด ต้องเสียสละทรัพย์วัตถุสิ่งของ ต้องสละแรงงาน หรือความสะดวกสบายบางอย่างบางประการ<o:p></o:p>
    บุญจรรยา<o:p></o:p>
    บุคคลมีน้ำใจเอื้อเฟื้อ บุคคลมีเมตตาอารี เป็นพื้นฐานจิตใจ ทำความดี เล็กๆน้อยๆ ทุกโอกาสทุกเวลา มีความสุขจากการทำความดี มีความชื่นอารมณ์สุขสมใจจากการช่วยเหลือมนุษย์และสัตว์เลี้ยง บุญจรรยาจะให้ความสุขแก่ผู้ประพฤติปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอตลอดเวลา เป็นความสุขในชีวิตประจำวัน เป็นความสุขที่ฝังแฝงปะปนอยู่ในวิญญาณ อยู่ในสายชีวิต ไม่ต้องรอเวลา ไม่ต้องรอโอกาส ไม่ต้องรอภพหน้าชาติหน้า<o:p></o:p>
    บุญคุณ<o:p></o:p>
    บุคคลมีจิตสงสารผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน หวั่นไหวสะเทือนใจในความทุกข์ยากของผู้อื่น จึงได้ยอมเสียเวลา สละโอกาส แบ่งปันทรัพย์ คือวัตถุสิ่งของ แบ่งปันทรัพย์ คือ ปัญญา แบ่งปันทรัพย์ คือ ความรอบรู้ เขาช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในห้วงทุกข์ ดึงตัวให้พ้นจากความทุกข์ลำบาก บุญคุณ มีความเดือดร้อนของคนอื่นสัตว์อื่นเป็นแดนเกิด คนนั้นสัตว์นั้นจะมีคุณธรรมหรือไม่ ไม่เป็นปัญหาสำคัญ คงถือเป็นเรื่องบุญคุณทั้งสิ้น อานิสงส์ของบุญคุณขึ้นอยู่กับระดับจิตใจของเจ้าหนี้บุญคุณและลูกหนี้บุญคุณ ถ้าผู้กระทำเกิดปิติชุ่มชื่นใจ เมื่อเห็นคนอื่นพ้นทุกข์จากการกระทำของตน หวังเพียงแค่นั้นก็มีอานิสงส์มากเป็นอานิสงส์เช่นเดียวกับบุญจรรยา ถ้าผู้กระทำรู้สึกเฉยๆ ไม่ดีใจ จะปลื้มใจต่อเมื่อลูกหนี้บุญคุณมาทำความดีตอบแทน บุญคุณนั้นก็มีอานิสงส์น้อย ถ้าบุญคุณนั้น ผู้กระทำหวังผลมาก แล้วไปเจอลูกหนี้ขี้โกงเบี้ยวหนี้ ทรยศ เนรคุณ ไม่ยอมรับรู้บุญคุณ ความดีนั้นก็เป็นหมันไม่อาจจะงอกงามไพบูลย์ขึ้นมาได้<o:p></o:p>
    บุญร่วม<o:p></o:p>
    ความดีบางอย่างบางประการเป็นงานใหญ่ ไม่สามารถทำให้สำเร็จเสร็จสิ้นไปตามลำพัง ความสามารถเฉพาะตนได้ จะต้องอาศัยสามัคคีธรรม คือความร่วมมือร่วมใจจากผู้มีน้ำใจดีอีกหลายคน ความดีนั้นเป็นสหกรรมวิบาก หรือบุญร่วม อานิสงส์จะยิ่งใหญ่ไพศาล เต็มเม็ดเต็มหน่วย เมื่อผู้ร่วมทำบุญครั้งนั้นมาร่วมวงงานเดียวกัน ร่วมกินร่วมอยู่ด้วยกัน หากต่างคนต่างแยกกันอยู่ ไม่ข้องเกี่ยวกัน ผลบุญก็ปรากฏให้ผู้กระทำแต่ละคนได้รับเพียงหนึ่งในสามของส่วนเฉลี่ย หรือต่ำกว่านั้น คน 10 คน สมัครสมานสามัคคีกัน สร้างถาวรวัตถุไว้ในศาสนา ผลบุญ 100 ส่วน คนแต่ละคนจะได้รับผล 10 ส่วน ก็ต่อเมื่อทั้งสิบคนมาร่วมขุมนุมกินอยู่สังสรรค์สโมสรกัน ผลบุญจึงจะเต็ม 100 ส่วน หากต่างคนต่างอยู่ ผลบุญขาดสามัคคีธรรม ในสมัยก่อนเป็นพลังงานร่วม ผลบุญก็จะลดน้อยลงไป เหลือแบ่งปันกันเพียงคนละ 3 ส่วนเป็นอย่างสูง<o:p></o:p>
    บุญเชิดชู<o:p></o:p>
    ในกรณีที่คนสองคนหรือมากกว่านั้น เคยทำบุญในอดีตชาติ ต่างเทศะ ต่างวาระ แต่ว่าบุญเหล่านั้นเป็นบุญประเภทเดียวกัน เช่นเลี้ยงดูสงเคราะห์เด็กกำพร้า ต่างสำนัก ต่างประเทศบ้านเมืองกัน ไม่ได้ข้องเกี่ยวกันมาเลยในภพก่อนชาติก่อน มาในชาตินี้ บุคคลทั้งสองได้มาร่วมงานอยู่กิน ณ สถานที่แห่งเดียวกัน รักใคร่ปรองดองกัน ผลบุญของทั้งสองคนซึ่งเคยร่วมประเภทบุญกันมา แม้จะต่างวาระต่างสถานที่ ก็จะเชิดชูให้ชีวิตร่วมวงงานหรือผัวเมียของบุคคลทั้งสองรุ่งโรจน์วัฒนา เพราะบุญทั้งสองฝ่ายไม่ขัดแย้งกัน บุญทั้งสองฝ่ายเกื้อหนุนอุ้มชูกัน<o:p></o:p>
    บุญชดเชย<o:p></o:p>
    บุคคลเกิดวิปฏิสาร เดือดเนื้อร้อนใจไม่ผาสุก เพราะคิดได้ว่าเคยทำบาป กลั่นแกล้งผู้มีพระคุณ ใส่ร้ายกัลยาณชน จึงได้ทำความดีงามต่อเจ้ากรรมนายเวรเหล่านั้น รับใช้อุปัฏฐากช่วยเหลือเจือจุนมิให้ต้องอาทรร้อนใจ ทำบุญอุทิศถวายปลดเปลื้อง ความสำนึกผิด แล้วทำดีชดเชยชดใช้ให้เช่นนี้ แม้จะไม่ลบล้างบาปกรรมได้ ก็ให้อานิสงส์ทางด้านชดเชย เกิดภพใหม่ชาติใหม่ ความเสียหายเดือดร้อน ความทุกข์ระทมขมขื่นของเขาจะได้รับความดีงามบางอย่างเป็นสิ่งตอบแทนแลกเปลี่ยน รักผู้หญิง ผู้หญิงสลัดรัก อกหักระทมตรมตรอมได้ไม่นานก็พบรักใหม่ หวานชื่นไม่แพ้รักเก่า เกิดอุบัติเหตุรถชนแข้งขาหัก เข้ารักษาตัวโรงพยาบาลก็ได้รับเงินค่าเสียหาย ค่าเจ็บป่วยจากบริษัทประกันภัย ได้รู้จักมักคุ้นกับแพทย์และพยาบาลผู้รักษา ซึ่งได้เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในเวลาต่อมา<o:p></o:p>
    บุญสมดุลย์<o:p></o:p>
    บุญสมดุลย์หรือบุญลดบาป มีความหมายคล้ายคลึงกับบุญชดเชย ต่างกันเพียงเล็กน้อย บุญชดเชย เราทำบาป ทำความเดือดร้อนให้แก่บุคคลใดสัตว์ตัวไหน เราก็ทำบุญบำเรอความสุขให้แก่บุคคลนั้น สัตว์นั้น บุญสมดุลย์หรือบุญลดบาป เราทำบาป เราทำความลำบากแก่สัตว์หรือมนุษย์ด้วยวิธีการอย่างใด เราก็ทำความดี ทำบุญด้วยวิธีการตรงกันข้าม เคยเบียดเบียนสัตว์ ทุบทำร้าย วัว ควาย หมู หมา สัตว์เลี้ยงเหล่านั้นตายไปแล้วหรือจำหน่ายจ่ายแจกแลกเปลี่ยนไปแล้ว รู้สึกตัวว่าโหดร้าย ไร้เมตตา ทารุณต่อสัตว์นั้น ก็อาจลดบาปด้วยการซื้อ ปู ปลา เต่า มาปล่อย ซื้อนกมาปล่อย ในวันพระวันโกน แม่บ้าน แม่ครัว จะซื้อกุ้งมาพล่า จะซื้อปลามายำก็ห้ามปรามเอาไว้ บอกว่าวันนี้มันต้องห้าม ต้องกินเจ สัตว์เลี้ยงรุ่นใหม่เลี้ยงภายหลัง ก็เอาใจใส่ดูแลสุขทุกข์ให้ข้าว น้ำ อาหาร เยียวยารักษาเมื่อเวลาเจ็บป่วย บุญสมดุลย์ ควรจะรีบด่วนทำ ก่อนที่บาปกรรมจะแปรสภาพเป็นวิบาก คือผลกรรมตามสนอง มิฉะนั้นจะแก้ไขได้ยาก เมื่อผลกรรมข้ามภพข้ามชาติเป็นวิบากมาทำลายล้าง มาทำความลำบากให้ผู้กระทำ ความรู้ทางศาสนา ความรู้ทางไสยศาสตร์ ความรู้ทางญาณจะบ่งบอกให้ผู้กระทำรู้ว่า ในอดีตชาติเขาได้ทำบาปกรรมอันใดไว้ ขณะชดใช้บาปกรรมอยู่ เขาอาจจะทำบุญสมดุลย์ เพื่อลดความเข้มข้น รุนแรงของบาปกรรมลงไป แต่บุญสมดุลย์ในลักษณะเช่นนี้ มีอานิสงส์อ่อนหย่อนยานไม่เข้มแข็งเปรียบประหนึ่งบุคคลปล่อยให้โรคภัยไข้เจ็บเข้าจู่โจมเบียดเบียน แล้วจึงให้ยาบำรุงรักษาร่างกายให้แข็งแรงสมบูรณ์ ซึ่งถึงอย่างไรก็สู้การป้องกันไว้ก่อนไม่ได้ ป้องกันดีกว่ารักษา เพราะว่า เราได้มีการทำบาปอยู่เสมอ ทั้งในอดีต และปัจจุบัน ทั้งโดยเจตนาและไม่เจตนา อันนำมาอย่างแน่นอน ซึ่งผลของบาปหรือกรรมนั้น เพราะฉะนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำบุญ<o:p></o:p>
    บุญชูชีพ<o:p></o:p>
    บุคคลบางคน เป็นคนเลวร้ายในสายตาสังคม เป็นทรชนในสายตาของทั่วไป กระนั้นก็ตามเขาก็มิได้พบกับความวิบัติขัดข้องเหมือนดั่งที่ศัตรูของเขาสาปแช่งหวังร้ายไม่ ยังคงยืนหยัดมีกินมีใช้มีที่อยู่ที่อาศัย พอเพียงแก่อัตภาพอยู่เสมอมา ตลอดเวลาเคราะห์ร้ายจะโหมกระหน่ำโจมตีสักเพียงไรเขาก็ยังคงดำรงทรงตนอยู่ได้ท่ามกลางมรสุมชีวิต มีผู้หวังดีให้ข้าวน้ำอาหารมีที่อยู่อาศัยแก่เขาทุกครั้ง ที่ประสบความเดือดร้อน อดอยากยากจนเขาไม่ต้องเร่รอนขอทานหรือซมซานหนี้ชีวิต ไม่ต้องคุกเข่าขอความปรานีต่อศัตรู ให้เสื่อมเกียรติเสียศรี ความดีงามของเขาเป็นจุดเด่น เป็นบุญชูชีพชีวิตไม่ให้เขาแตกดับล่มจม คนอื่นๆ มองไม่เห็นแต่เทพเจ้าล่วงรู้ เขาจงรักภักดีต่อชาติไม่ยอมขายชาติ แม้จะได้ผลประโยชน์ตอบแทนเป็นแสนเป็นล้าน เขาดื่มสุราอาละวาด เอะอะมะเทิ่งไม่เกรงใจชาวบ้าน เขาเป็นคนแข็งกระด้าง อวดดี หยิ่งยะโส ใครๆ ก็เกลียดชังเขาทั้งนั้น แต่เมื่อชาติประเทศต้องการความช่วยเหลือ เขาก็ยอมเสียสละอุทิศร่างกาย เพื่อพิทักษ์รักษาชาติให้พ้นภัย บุคคลบางคนเป็นคนกิเลสหนาตัณหาจัด ชอบมั่วในโลกีย์สุขเคล้าคลุกอยู่ในอบายมุข แต่เขาเป็นคนรักษาสัตย์ยิ่งชีวิต รับปากกับใครให้คำมั่นสัญญากับผู้ใด ก็ยึดมั่นในสัญญานั้นอย่างเหนียวแน่นมั่นคง แม้เขาจะทำบาปกรรมหลายอย่างหลายประการ ต่างกรรมต่างวาระแต่ตลอดชีวิตของเขา เขาไม่เคยเสียสัตย์ คุณธรรมคือสัจจะแห่งลูกผู้ชายของเขาบริสุทธิ์ผ่องใสยิ่งนัก ไม่เคยมัวหม่นเศร้าหมองเลยแม้แต่น้อย เป็นคุณธรรมความดีเพียงประการเดียว ที่เป็นบุญชูชีพชีวิตของเขาไว้ การทำความดี รักษาความดี สละผลประโยชน์เพื่อความดี อุทิศชีวิตเพื่อความดี แม้เพียงประการใดประการหนึ่ง ความดีนั้นก็จะเข้มข้นมีพลังแรงขึ้น เป็นบารมีธรรมประดับชีวิต ถึงหากกว่า ผู้ใหญ่กลั่นแกล้ง เพื่อนชั่วร้าย นายชิงชัง จะทำให้เขายุ่งยากเดือดร้อน ก็เป็นเพียงทำให้เขาสะบักสะบอม สาหัสสากรรจ์เท่านั้น ไม่อาจทำให้เขาต้องวิบัติจมดินทรายหายสาปสูญไปไม่ เมื่อมีโอกาสงามในวันหน้า เมื่อเคราะห์ร้ายผ่านพ้นไปแล้ว เขาก็จะเจริญก้าวหน้าสืบต่อไป<o:p></o:p>
    บุญสืบ<o:p></o:p>
    บุคคลบางคนเป็นผู้มีคุณธรรมสูง เป็นผู้ที่มีสติปัญญาอย่างสมบูรณ์มีสติระลึกได้เสมอว่าที่ตนเองได้มีเกียรติ ผาสุกสนุกสบายทุกวันนี้ มีใครเป็นผู้วางรากฐานชีวิตในวัยเด็ก มีปัญญา ความรู้ ความเข้าใจ ไม่หลงลืมว่า ผลสำเร็จในหน้าที่การงานของตนหรืองานบุญกุศล มีบริวารคนใด เพื่อนฝูงคนไหน ให้ความช่วยเหลือสนับสนุน เมื่อใดที่ประสบโชคลาภ หรือได้รับความสำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็พิจารณาใคร่ครวญเฟ้นหาตัวบุคคล ที่เกี่ยวข้องด้วยแล้วแบ่งปันความสุข เผื่อแผ่ความสำราญให้ผู้ร่วมงานได้เงินก้อนใหญ่ก็กันส่วนหนึ่งไว้ซื้อของขวัญ ของกำนัล ของสมนาคุณให้แก่ลูกน้อง จัดงานเลี้ยง งานสังสรรค์สโมสร ขึ้นในบรรดาผู้ร่วมงาน ไม่อุบนิ่งทำเฉยบริโภคผลประโยชน์แต่ลำพังเพียงคนเดียว ได้เครื่องบำรุงความสุขแบบ แปลกๆ ใหม่ๆ ใช้สะดวก ก็เอาไปติดตั้งไว้ในบ้านพ่อแม่ หรือผู้มีพระคุณ รับตัวญาติผู้ใหญ่ หรือพี่เลี้ยงในวัยเด็กไปเที่ยวเตร่พักผ่อนหย่อนใจในวนอุทยานแห่งชาติ หมู่บ้านชายทะเล บ้านพักตากอากาศบนภูเขา

    ;aa14


    <o:p></o:p>

    <o:p> </o:p>
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,129
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ ... ในบุญทั้งหลายด้วยครับ


    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...