ผวาอาเพศอุทกภัย เศียรพระหัก

ผวาอาเพศอุทกภัย เศียรพระหัก

กทม. เตือนภัย'น้ำหนุน' ฝนถล่ม26ตค.กับ8พย. ท่วมขัง'ร.พ.อินทร์บุรี' 'ปทุมฯ-อยุธยา'วิกฤต



<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
เศียรหัก - น้ำทะลักเข้าท่วมวัดพระญาติการาม จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วซัดต้นมะขามจนโค่นทับพระพุทธรูปปางมารวิชัยจนเศียรหัก ชาวบ้านผวาเป็นอาเพศ เมื่อวันที่ 24 ต.ค.


</TD></TR></TBODY></TABLE>นายกฯมาร์คเดินลุยน้ำตรวจน้ำท่วมจ.อยุธยา-ปทุมธานี เพิ่งได้ฤกษ์ตั้งศูนย์ 'ศชอ.' เยียวยาผู้ประสบภัย หลังมีผู้เสียชีวิตไป 38 ราย คาดเสียหายกว่าหมื่นล้านบาท เตือนคนกทม. ระวังน้ำท่วมหนักวันที่ 26 ต.ค. กับ 8 พ.ย.นี้เป็นพิเศษ อยุธยาช็อก! น้ำเซาะต้นมะขามร้อยปีล้มฟาดทับเศียรพระพุทธรูปในวัดแตกกระจุย ที่สิงห์บุรี น้ำท่วมขังร.พ.อินทร์บุรีแล้ว นายอำเภอเมืองอ่างทองหวั่นน้ำไหลทะลักล้นพนังเขื่อนคอนกรีตเข้าท่วมตัวเมืองสุพรรณฯ เจออุทกภัยครั้งใหญ่ในรอบ 50 ปี เผย 'ลำน้ำมูล' น้ำหนุนสูงขึ้นเร็วผิดปกติ ส่วน 'ลำน้ำชี' ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์สั่งเตรียมอพยพชาวบ้านหนีน้ำทุกเมื่อ รมต.ทรัพยากรฯ ระบุเขื่อนอุบล รัตน์ไม่สามารถรับน้ำได้อีก จ.ขอนแก่นพื้นที่เกษตรเสียหายเกือบ 5 หมื่นไร่ ด้านน้ำป่ากับน้ำเหนือไหลทะลักเข้าปากน้ำโพ พสกนิกรชัยภูมิปลาบปลื้ม 'ในหลวง' พระ ราชทานถุงยังชีพช่วยเหลือ

เตือนกทม.รับมือน้ำหนุน

ความคืบหน้าสถานการณ์อุทกภัยและน้ำท่วมใหญ่หลายจังหวัดของประเทศ เมื่อวันที่ 24 ต.ค. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า ขอประชาสัมพันธ์ให้ชาวกทม. ระวังในเรื่องน้ำท่วม โดยเฉพาะในพื้นที่นอกเขตแนวผนังกั้นน้ำ 27 ชุมชน 13 เขต ที่อยู่ใกล้แม่น้ำและลำคลองต่างๆ โดยมีปัจจัยคือในวันที่ 26 ต.ค. และ 8 พ.ย. ซึ่งจะเป็นวันที่น้ำทะเลหนุนสูง กรมอุตุนิยมฯได้พยากรณ์สภาพอากาศไว้ว่าจะมีฝนตกหนักทั่วเขตกทม. ในช่วงสัปดาห์หน้า และกรมชลประทานจะปล่อยน้ำจากเขื่อนจำนวนมาก ซึ่งจะทำให้น้ำท่วมในพื้นที่นอกเขตแนวพนังกั้นน้ำได้ ส่วนพื้นที่ในเขตกั้นน้ำ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ ยืนยันว่าป้องกันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม พื้นที่นอกแนวกั้นน้ำที่ได้รับผลกระทบ กทม.จะพิจารณาในการเยียวยาต่อไป ส่วนการเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในทุกพื้นที่ทั่วประเทศจะมีการพิจารณาแนวทางเยียวยาช่วยเหลือในที่ประชุมครม. วันที่ 26 ต.ค.

'เจริญกรุง'ท่วมแล้ว

เวลา 10.00 น. ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพน้ำท่วมและแจกของยังชีพ ที่ชุมชนสันติชนสงเคราะห์ เขตบางกอก น้อย โดยม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ขอให้ประชาชนที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่าตื่นตระหนกกับสถานการณ์น้ำในปัจจุบัน เพราะเชื่อว่าเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยารองรับปริมาณน้ำได้ ที่สำคัญขอให้ประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำอย่ารื้อถอนกระสอบทราย เพราะอาจทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบ หลังจากที่ตนได้ทราบข่าวว่ามีประชาชนบางพื้นที่จะรื้อถอนกระสอบทรายออกไป

เวลา 10.00 น. ที่ถนนเจริญกรุง ซอย 60-62 ระดับน้ำเจ้าพระยาได้เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่ภายในซอยแล้ว ทำให้เจ้าหน้าที่กทม. ต้องระดมเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำออกจากพื้นที่โดยการปล่อยลงท่อระบายน้ำ

อยุธยายังวิกฤต

ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ช่วงเวลา 10.00 น. ระดับน้ำในคลองบางแก้วที่รับน้ำโดย ตรงจากแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มระดับท่วมสูงเกือบ 3 เมตร สร้างความเสียหายให้บ้านเรือนสองฝั่งคลองในเขตอ.มหาราช มานานกว่า 1 สัปดาห์

ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา น้ำได้ไหลกัดเซาะจนถนนสายท่าต่อ-มหาราช ม.2 ต.ท่าต่อ ขาด อีกทั้งน้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมทุ่งนาเกือบ 1 หมื่นไร่ ชาวบ้านต้องช่วยกันใช้รถแบ๊กโฮ ตอกเสาเข็มและทิ้งกระสอบทรายเพื่ออุดทางน้ำเพื่อไม่ให้น้ำไหลเข้าทุ่งนา

นายไมตรี ปิตินานนท์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานอยุธยา กล่าวว่า ขณะนี้แม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงมากขึ้นเพราะเขื่อนเจ้าพระยาเร่งปล่อยระบายน้ำท้ายเขื่อนกว่า 3,100 ลบ.ม./วินาที เพิ่มสูงขึ้นวันละประมาณ 10-15 ซ.ม. และคาดว่าจะขึ้นต่อเนื่องไปอีกจนถึงวันที่ 28 ตุลาคมจนพ้นช่วงน้ำทะเลหนุน

พระครูภัทรกิจโสภณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์เผือก กล่าวว่า วัดโพธิ์เผือก ตั้งอยู่ ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา ถูกน้ำจากเจ้าพระ ยาได้เพิ่มสูงขึ้นท่วมพื้นที่วัดกว่า 10 ไร่อย่างรวดเร็ว มณฑปสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มณฑปพระพิฆเนศ พระอุโบสถ กลุ่มกุฏิสงฆ์ ถูกน้ำท่วม พระเณรวิงวอนความเมตตาสงสารญาติโยมที่ถูกน้ำท่วมสาหัส พระเณรญาติโยมไม่ค่อยจะมีอาหารบริโภคเดือดร้อนกันทั่ว

'ตลาดน้ำ'ต้องปิดตัว

ขณะที่น้ำจากแม่น้ำลพบุรียังคงขึ้นสูงต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลเข้าท่วมชุมชน ส่งผลให้สำนักงานอบต.เสาธง อ.บางปะหัน จ.พระ นครศรีอยุธยา ถูกน้ำท่วมสูง 2 เมตร เจ้าหน้าที่ต้องเร่งขนย้ายอุปกรณ์สำนักงานหนีน้ำขึ้นเปิดสำนักงานริมถนนสายอยุธยา-บางปะหัน นอกจากนี้ พบว่าโรงฆ่าสัตว์ถูกน้ำท่วมเช่นกันจนต้องมาตั้งโรงฆ่าสัตว์อยู่ริมถนน

ด้านชาวบ้าน 6 หมู่บ้านจากต.สวนพริก ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากระบบน้ำประปาปิดลงทำให้ไม่มีน้ำดื่มน้ำใช้ ประกอบกับถนนสายลุมพลี-สวนพริกน้ำท่วมถนนอยากให้ทางราชการนำน้ำลงเรือมาแจกให้ถึงบ้าน ส่วนที่ตลาดน้ำคลองสระบัว ต.คลองสระบัว ซึ่งมีพื้นที่ใกล้กัน ถูกน้ำท่วมสูงประมาณ 1 เมตร นักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทางไปได้ ต้องปิดกิจการไม่มีกำหนด

ส่วนน้ำในแม่น้ำป่าสักไหลบ่าเข้าคลองดุสิต คลองกะมัง คลองวัดพระญาติ จนไหลเข้าท่วมชุมชนวัดพระญาติ ต.ไผ่ลิง ทำให้ตลาดสดวัดพระญาติ โดนน้ำท่วมเจิ่งนองหากป้องกันไม่ได้น้ำจะไหลเข้าท่วมถนนโรจนะ ศูนย์รวมเศรษฐกิจของจังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา

แนวกระสอบทรายปทุมฯพัง

เวลา 09.00 น. ที่วัดโบสถ์ หมู่ 5 ต.บ้านกลาง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ากระสอบทรายที่สร้างเป็นแนวเขื่อนกั้นน้ำสูงประมาณ 1.50 ซ.ม. โดนน้ำซัดจนพังทลายลงมา ทำให้กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากทะลักท่วมพระอุโบสถ ศาลา กุฏิพระ รวมทั้งอนุสรณ์บวรสถานของพระครูบวรธรรมกิจ (หลวงปู่เทียน) ที่ชาวจังหวัดปทุมธานีให้ความเคารพนับถือ พระ สามเณร และชาวบ้าน ต้องช่วยกันขนย้ายข้าวของหนีน้ำขึ้นที่สูงอย่างอลหม่าน

พระมหานรินศักดิ์ สัจจะวาที เจ้าอาวาสวัดโบสถ์ กล่าวว่า กระสอบทรายแนวกั้นน้ำของทางวัดก่อนหน้านี้ชาวบ้านได้มาช่วยกันสร้างไว้เพื่อป้องกันน้ำเข้าท่วมภายใน และเกิดพังทลายลงมาเมื่อตอน 9 โมงเช้า จากนั้นเพียง 10 นาทีน้ำก็เข้าท่วมตัววัดทั้งหมด

ต่อมา นายสายัณ นพขำ นายกอบต.บ้านกลาง เดินทางมาตรวจสอบความเสียหาย พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่อบต. นำกระสอบทรายมาเพิ่มเติมอีกหลายร้อยลูกเพื่อมาติดตั้งแทนแนวรั่วเดิมที่พังทลายลงมา และผลจากการที่แนวกั้นกระสอบทรายพังลงมานั้นยังทำให้ชาวบ้านหมู่ที่ 4 และหมู่ที่ 5 ของตำบลบ้านกลาง ได้รับความเดือดร้อนกว่า 3,000 ครัวเรือน ซึ่งจะได้นำเครื่องจักรกลหนักลงพื้นที่เพื่อสร้างคันดินที่บริเวณหมู่ที่ 4 เพื่อไม่ให้กระแสน้ำที่เชี่ยวไหลเข้าท่วมในหมู่อื่นอีก

ท่วมขังร.พ.อินทร์บุรี

ที่จ.สิงห์บุรี ระดับน้ำได้เอ่อท่วมสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พื้นที่บริเวณตลาดสดเทศบาลตำบลอินทร์บุรี ระดับน้ำขังสูง 1.20 เซนติ เมตร ด้านนายแพทย์ชุติเดช ตาบ-องครักษ์ ผู้อำนวยการร.พ.อินทร์บุรี เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลอินทร์บุรี เป็นอีกหนึ่งโรงพยาบาลที่กำลังประสบอุทกภัยน้ำท่วมขัง เนื่องจากทำเลที่ตั้งของโรงพยาบาลอินทร์บุรีมีสันเขื่อนล้อมรอบ จึงทำให้น้ำเข้าท่วมขังบริเวณภายในร.พ.อินทร์บุรี รถจักรยานยนต์และรถยนต์ไม่สามารถสัญจรได้ และหมู่บ้านโดยรอบต้องใช้เรือพายเดินทาง อย่างไรก็ตาม ทางร.พ.ยังคงเปิดให้บริการด้านการตรวจรักษาเหมือนเดิมทุกวัน ยกเว้นคลินิกรุ่งอรุณ

สำหรับผู้ป่วยที่เจ็บป่วยเล็กน้อยไม่สะดวกเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ร.พ.อินทร์บุรี ทางโรงพยาบาลยังคงตั้งจุดให้บริการตรวจรักษาเบื้องต้นอยู่ 2 จุด คือ บริเวณทางเข้าร.พ. อินทร์บุรี และตรงสะพานทางเข้าตลาดอินทร์บุรี แยกจากสายเอเซียเข้าตลาดเพียง 500 เมตร ซึ่งสะดวกต่อการรับบริการ และบุคคลที่ต้องการทราบข้อมูลด้านสุขภาพหรือปรึกษาปัญหาสุขภาพทางร.พ. ยินดีรับให้คำปรึกษาทางโทรศัพท์ที่หมายเลข 0-3658-1993-7 ทุกวันเวลาราชการ

สุพรรณฯท่วมหนักรอบ50ปี

ที่วัดหัวเขา อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณ บุรี ปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังมีการปล่อยน้ำมาจากเขื่อนกระเสียวอำเภอด่านช้าง และน้ำจากจ.อุทัยธานียังไหลลงมารวมที่อ.เดิมบางนางบวช

นายฉลวย เอี่ยมสำอาง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ตำบลหัวเขา ระบุว่า ขณะนี้วัดหัวเขา วัดดังของสุพรรณบุรี ถูกน้ำไหลเข้าท่วมทำให้ชาวบ้านและหน่วยงานราชการต้องช่วยเสริมคันดินและกระสอบทรายรอบวัด เพราะวันที่ 25 ตุลาคม จะมีงานตักบาตรเทโว ซึ่งเป็นงานยิ่งใหญ่ประจำปี ถ้าปริมาณน้ำสูงขึ้นอีกเชื่อว่าตักบาตรเทโวน่าจะล่ม ซึ่งในรอบ 30 ปีไม่เคยมีน้ำท่วมขนาดนี้มาก่อน

นายวีรศักย์ วิจิตร์แสงศรี นายอำเภอเดิมบางนางบวช เปิดเผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเพราะเขื่อนกระเสียวมีน้ำปริมาณมากจนล้นสปิลเวย์ ขณะนี้พื้นที่อำเภอเดิมบางนางบวชทั้ง 14 ตำบล ถูกน้ำเข้าท่วมบ้านเรือน 11 ตำบลแล้ว มีบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเสียหายเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มว่าปริมาณน้ำสูงขึ้นอีกเพราะขณะนี้แนวคันกั้นน้ำได้พังเสียหายหลายจุดซึ่งชาวบ้านและทางท้องถิ่นช่วยกันซ่อมแซมอยู่

ช็อกไม้ล้มทับเศียรพระ

ช่วงเย็น ผู้สื่อข่าว จ.พระนครศรีอยุธยา รายงานเพิ่มเติมว่า ที่หน้าพระอุโบสถวัดพระญาติการาม ม.5 ต.ไผ่ลิง อ.พระนคร ศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่าระดับน้ำสูงประมาณ 1 เมตร ซึ่งท่วมมา 1 อาทิตย์ ทำให้น้ำไหลเซาะต้นมะขาม อายุประมาณ 100 ปี ที่หลวงพ่ออั้น อดีตเจ้าอาวาส ปลูกไว้ ถอนรากโค่นลงมาทับเศียรพระพุทธรูปปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 2 เมตร สูง 2 เมตร อายุประมาณ 30 ปี ที่ตั้งอยู่บนฐานจนเศียรองค์พระหัก สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวบ้าน ซึ่งต่างวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นลางบอกอาเพศ

ที่ จ.ปทุมธานี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะเดินทางตรวจสภาพน้ำท่วมในพื้นที่ปทุมธานี โดยมีนายธานี สามารถกิจ ผู้ว่าฯ ปทุมธานี พล.ต.ต.เมธี กุศลสร้าง ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พร้อมทั้งข้าราชการทหารตำรวจและประชาชนชาวปทุมธานีให้การต้อนรับ โดยนายกฯ ได้เดินทางมาตรวจสภาพน้ำท่วมที่ ต.บ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เป็นจุดแรก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
ลุยน้ำ - นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ลุยน้ำเยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่อ.สามโคก จ.ปทุมธานี ท่ามกลางการดูแลของทีมอารักขาทุกย่างก้าว เมื่อวันที่ 24 ต.ค.


</TD></TR></TBODY></TABLE>

นายธานีรายงานสถานการณ์น้ำท่วมว่า มีบ้านเรือนของราษฎรเดือดร้อน 13,700 ครัวเรือน พื้นที่ทางการเกษตรเสียหาย 23,000 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นพื้นที่แนวกั้นชั้นนอก และขณะนี้ทางการได้ให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนไปบ้างแล้ว

หวั่นน้ำทะลักเมืองอ่างทอง

ที่ จ.อ่างทอง น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมสถานที่ราชการหลายแห่ง อาทิ อาคารที่ว่าการอำเภอป่าโมกหลังเก่า อาคารสถานีตำรวจ สภ.ป่าโมกหลังเก่า อาคารสำนักงานไปรษณีย์ อาคารสำนักงานสาธารณสุขอำเภอ รวมทั้งบ้านพักข้าราช การตำรวจ สภ.ป่าโมก และบ้านเรือนประชาชนเกือบ 100 ครัวเรือน ต่อมาขยายวงกว้างไปยัง ต.บางเสด็จ ต.บางปลากด องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) แต่ละแห่งต้องนำรถแบ๊กโฮสร้างแนวคันดิน พร้อมให้ชาวบ้านกรอกทรายเพื่อสร้างแนวคันกั้นน้ำอย่างเร่งรีบ ส่วน ต.โผงเผง ที่น้ำท่วมมา 1 สัปดาห์ ระดับน้ำสูงถึง 3 เมตรได้ท่วมถึงชั้นสองของบ้านแล้ว ขณะเดียว กันน้ำในแม่น้ำน้อยยังเอ่อล้นท่วม สภ.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ

นายสมชาย อนวัชกุล นายอำเภอเมืองอ่างทอง กล่าวว่า ระดับตลิ่งริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาที่หน้าศาลากลางจังหวัดสูง 7.50 เมตร แต่วันนี้ระดับน้ำสูง 8.60 เมตร หากน้ำเพิ่มขึ้นอีก 40 ซ.ม.จะล้นพนังเขื่อนคอนกรีตเข้าท่วมตัวเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งศูนย์ราชการและย่านธุรกิจการค้าจึงนำพนังปูน กระสอบทราย ผ้าใบ วางแนวป้องกันในจุดเสี่ยงรอบเมือง ที่กังวลใจขณะนี้คือแรงดันน้ำที่ผุดจากชั้นใต้ดินเพิ่มมากขึ้น จนชาวบ้านรู้สึกไม่ปลอดภัยรีบก่อคอนกรีตรอบบ้านป้องกัน

ด้านสำนักงานการประปาส่วนภูมิภาค จ.อ่างทอง ว่าจ้างรถบรรทุกดินและรถแบ๊กโฮ สร้างคันดินกั้นน้ำสูง 2 เมตรอย่างเร่งด่วน เนื่องจากน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลซึมเข้าท่วม หากปล่อยให้ระดับน้ำท่วมสูงขึ้นจะส่งผลกระทบต่อเครื่องจักรและระบบการผลิตน้ำประปาเสียหาย เป็นเหตุผลิตน้ำประปาไม่ได้

'มบ.เศรษฐี'ลพบุรีอ่วม

ที่ จ.ลพบุรี ระดับน้ำที่ ต.ป่าตาล ต.ท่าแค และ ต.ถนนใหญ่ น้ำท่วมสูงขึ้น โดยเฉพาะที่หมู่บ้านสิรัญญา ซึ่งเป็นหมู่บ้านคนรวย หรือชาวบ้านเรียกว่า "หมู่บ้านเศรษฐี" ระดับน้ำยังขังคงที่อยู่ แม้ทางเทศบาลเร่งสูบระบายน้ำออกแต่ยังไม่มีทีท่าน้ำจะลดลง และน้ำกำลังไหลเข้าท่วมหมู่บ้านเอื้ออาทร

เวลา 13.30 น. พ.ต.ท.ไพรัช เมืองศรี สารวัตรเวร สภ.เมืองลพบุรี รับแจ้งพบศพผู้เสียชีวิตลอยอยู่ในน้ำที่ท่วมขัง เขตหมู่ 6 ต.ท่าแค อ.เมือง ในที่เกิดเหตุพบศพผู้หญิงลอยอยู่กลางน้ำ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตว่านางอาพร เสือเลี้ยง อายุ 75 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/2 หมู่ 6 ต.ท่าแค อ.เมือง จ.ลพบุรี ตำรวจสันนิษฐานว่าก่อนเสียชีวิตนางอาพรอาจจะถือกระเป๋าเพื่อหนีน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตรเพื่อขึ้นไปอยู่ในสถานที่ปลอดภัย แต่เพราะว่ามีอายุมากแล้ว ประกอบกับสายตาไม่ดี จึงเดินพลาดตกน้ำที่ท่วมสูงกว่า 2 เมตร ซึ่งน้ำไหลแรงและเชี่ยว เป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

นาปราจีนฯเสียหายยับ

ที่ จ.ปราจีนบุรี พบว่า พื้นที่นาทางด้านอำเภอประจันตคามและอำเภอศรีมหาโพธิโดนน้ำทะลักเข้าท่วม ส่วนเขต อ.เมืองปราจีนบุรี มูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำปราจีนบุรีในเขตเทศบาลเมืองปราจีนบุรี ถูกน้ำจากแม่น้ำปราจีนบุรีเอ่อไหลเข้าท่วม น้ำขังสูง 20 ซ.ม. แต่ทางมูลนิธิยังคงทำงานและตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของเพื่อออกช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเช่นเดิม

ด้านชมรมชาวปักษ์ใต้จังหวัดสมุทร สาคร ร่วมกันนำเครื่องอุปโภคไปถวายแด่พระภิกษุสงฆ์ เนื่องจากวัดสัมพันธ์ หมู่ที่ 1 ตำบลสัมพันธ์ อ.ศรีมหาโพธิ ถูกน้ำท่วมบริเวณวัดกว่า 60 เซนติเมตร พระภิกษุสงฆ์ไม่สามารถออกบิณฑบาต และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในหมู่บ้านตำบลสัมพันธ์ ทางสำนักงานชลประทานจังหวัดปราจีนบุรีได้เปิดประตูระบายน้ำ รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นำรถแบ๊กโฮไปขุดลอกผักตบชวาที่จะไหลไปปิดช่องประตูระบายน้ำ

น้ำเหนือเข้า'ปากน้ำโพ'

ที่จ.นครสวรรค์ ผลจากการที่ฝนตกหนักติดกันหลายวัน ทำให้มีน้ำป่าไหลบ่าเข้าท่วมหลายพื้นที่ และมีน้ำเหนือไหลบ่าลงมาตามแม่น้ำปิง แม่น้ำน่าน ไหลลงมารวมกันที่ปากน้ำโพ ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเพิ่มสูงขึ้นราว 60 ซ.ม. นายจิตตเกษม นิโรจน์ธนรัฐ นายกเทศมนตรีนครนครสวรรค์ แจ้งเตือนประชาสัมพันธ์ถึงสถานการณ์น้ำให้ประชาชนทราบเป็นระยะๆ ขณะนี้น้ำได้ท่วมชุมชนปางปรอง และชุมชนเกาะญวน เทศบาลและอบจ.ไปตั้งเต็นท์บนถนนให้บริการประชาชนที่ขนย้ายสิ่งของออกจากบ้านมาพักอาศัยชั่วคราว และนำรถสุขาเคลื่อนที่ไปให้บริการ 1 คัน

ตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 24 ต.ค. เทศบาลนครนครสวรรค์ระดมเจ้าหน้าที่กว่า 300 คน ป้องกันน้ำเข้าท่วมพื้นที่ตัวเมืองชั้นใน และพื้นที่เศรษฐกิจของจังหวัดนครสวรรค์ หลังแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อล้นตลิ่งมีระดับสูงกว่าพื้นตัวเมืองนครสวรรค์ 10 ซ.ม.แล้ว โดยเจ้าหน้าที่ได้นำกระสอบทรายมากั้นบริเวณแนวพนังกั้นน้ำคอนกรีตที่ทางเทศบาลได้ทำไว้ ขณะเดียวกันก็อุดท่อระบายน้ำทิ้งตามจุดใหญ่ๆ อีก 9 จุด และจะทิ้งหินทำแนวป้องกันอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในบริเวณชุมชนต่างๆ ทางด้านต้นแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก ประชาชนยังคงเดือดร้อนเพราะระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ

'ไร่กล้วยไข่'เสียหาย

ร.ต.ท.ประพันธ์ มหาวงศ์นันท์ ร้อยเวร สภ.หนองปลิง จ.นครสวรรค์ รับแจ้งเหตุเจอศพคนตกน้ำตายบริเวณชุมชนบางปรอง ตรวจสอบพบว่าผู้เสียชีวิตดังกล่าว คือ นายสมพร ปู่เกิด อายุ 37 ปี ชาวบ้านชุมชนบางปรอง ต.ปากน้ำโพ อ.เมือง สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายสมพรเดินลุยน้ำกลับเข้าไปดูของในบ้านที่ถูกน้ำท่วม ช่วงเวลา 10.00 น. ของวันที่ 24 ต.ค. แต่กลับจมหายไปกับสายน้ำ ชาวบ้านต่างช่วยกันงมหาและพบศพเวลา 14.00 น. ขณะที่ชุมชนบางปรองถูกน้ำท่วมขังสูงมากจนประชาชนต้องไปตั้งเต็นท์อาศัยอยู่บนทางรถไฟเป็นเวลา 3 วันมาแล้ว

ล่าสุด แม่น้ำเจ้าพระยายังเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมไร่กล้วยไข่ในเขตอำเภอโกรกพระ ทำให้เกษตรกรต้องลุยน้ำตัดกล้วยไข่ขายก่อนกำหนด ทำให้ขาดทุนเป็นจำนวนมาก

เขื่อนอุบลรัตน์รับน้ำไม่ไหว

เวลา 10.00 น. นายสุวิทย์ คุณกิตติ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสมบัติ ตรีวัฒน์สุวรรณ ผวจ.ขอนแก่น พร้อมคณะ เดินทางตรวจเยี่ยมเขื่อนอุบล รัตน์ จ.ขอนแก่น มีนายทรงยศ เจิดนภาพันธ์ ผอ.โรงไฟฟ้าพลังน้ำภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้การต้อนรับ สืบเนื่องจากเขื่อนอุบลรัตน์มีระดับน้ำเก็บกักปกติสูงสุด 182.59 ม.(รทก.) ปริมาณน้ำในอ่างฯ 2,670.19 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 109.83% ไม่สามารถรับน้ำได้อีก

นายสุวิทย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับรายงานว่าปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเขื่อนอุบลรัตน์ มีน้ำเข้ามาในอ่างจำนวนมากจนล้นสูงกว่าระดับกักเก็บมากกว่า 50 ซ.ม. ทำให้อัตราการเพิ่มขึ้นของน้ำอยู่ในเขื่อนอุบลรัตน์อันตรายมากที่จะเกิดผลกระทบทางลบกับตัวเขื่อนขึ้นมาได้ จึงจำเป็นที่เขื่อนจะต้องมีการระบายน้ำออกไป อย่างไรก็ตาม ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์ช่วงปัจจุบันนี้ถ้าไม่มีการระบายออกไป น้ำที่มาจาก จ.เลย และมาจากเขื่อนจุฬาภรณ์ จ.ชัยภูมิ เข้ามาในเขื่อนอุบลรัตน์จะเกิดปัญหากับตัวเขื่อนแน่นอน

นายสุวิทย์ กล่าวว่า น้ำจากลำน้ำพองไหลลงไปชนกับลำน้ำชีที่ อ.โกสุมพิสัย จ.มหาสารคาม ปริมาณน้ำจะรับได้มากน้อยขนาดไหนเพื่อไม่ให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ติดกับลำน้ำชีและลำน้ำพอง แต่อาจมีน้ำท่วมพื้นที่การเกษตรบ้าง ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก ทางเขื่อนอุบลรัตน์จะได้ควบคุมการระบายน้ำในเขื่อนให้ดีที่สุด

พื้นที่เกษตรขอนแก่นเละ

"สถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดของประเทศไทย ขอให้ประชาชนอย่าตัดไม้ทำลายป่าไม้สงวน และอย่าบุกรุกป่าเด็ดขาด เพราะเป็นการทำลายระบบนิเวศ เพราะป่าเปรียบเสมือนฟองน้ำที่ดูดซับน้ำไว้ ฝนตกหนักลงมาน้ำก็จะไม่ไหลมาท่วมประชาชน น้ำจะค่อยปล่อยออกมาในช่วงฤดูแล้ง เมื่อมีการตัดไม้ทำลายป่าจึงได้เกิดปัญหาน้ำท่วมเหมือนปัจจุบันนี้" นายสุวิทย์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สถานการณ์น้ำลำน้ำชีที่ไหลเข้ามาใน จ.ขอนแก่น ช่วง 5-6 วันที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำในลำน้ำชีที่ อ.โคกโพธิ์ไชย อ.ชนบท อ.มัญจาคีรี เพิ่มขึ้นอีก 5-10 ซ.ม. นอกจากนี้ น้ำป่าไหลหลากลงในแม่น้ำเชิญ เอ่อล้นตลิ่งที่ อ.ภูผาม่าน อ.ชุมแพ อ.หนองเรือ และอ.ภูเวียง พื้นที่ประสบภัย 4 อำเภอ 27 ตำบล 261 หมู่บ้าน 12 ชุมชน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8,696 ครัวเรือน 27,869 คน เสียชีวิต 3 คน และมีความเสียหาย คือ ถนน 68 สาย พื้นที่ทางการเกษตร 41,399 ไร่ โรง งานน้ำตาล จำนวน 1 แห่ง บ้านพักคนงานในโรงงาน 202 ครัวเรือน มูลค่าความเสียหายอยู่ระหว่างสำรวจ และยังมีในเขต อ.เมืองขอนแก่น พื้นที่เพาะปลูกถูกน้ำท่วมขัง 10,400 ไร่

เตรียมอพยพหนี'ลำน้ำชี'

ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำหลากในลำน้ำชี ที่จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากภาวะน้ำไหลหลากจากจ.ชัยภูมิ และจ.ขอน แก่น ว่า ล่าสุดนายเดชา พลกล้า รักษาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เข้าติดตามสถานการณ์น้ำที่บริเวณฝายวังยาง ในเขตอำเภอฆ้องชัย พบว่าระดับน้ำชีสูงกว่าระดับปกติถึง 78 ซ.ม. ทั้งยังพบว่ากระแสน้ำยังมีความรุนแรงและยังได้นำเอาวัชพืชมาเป็นจำนวนมาก ขณะนี้ส่งผลให้เกิดน้ำซึมผ่านพนังกั้นน้ำชั้นนอก ตรงบ้านโนนแดงและบ้านสะดำศรี

นายเดชา ระบุว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดวิทยุสั่งการให้ทางอ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และอ.องคำ ที่มีราษฎรอาศัยติดกับลำน้ำชีเตรียมป้องกันน้ำท่วมฉับพลัน และให้เตรียมการอพยพหากระดับน้ำเพิ่มสูง เพราะในขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้นถึงวันละ 30 ซ.ม. ในบางพื้นที่น้ำจะสามารถเข้าท่วมในพื้นที่ได้ ดังนั้น ประชาชนจะต้องเตรียมการรับมือปัญหาน้ำท่วมที่คาดว่าไม่เกิน 3 วัน ปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงจะทำให้เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
1.พระช่วยกันสร้างคันกั้นน้ำที่จ.ปทุมธานี

2.แม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วมท่าน้ำเมืองนนท์แล้ว

3.ร.พ.มหาราช จ.นครราชสีมา ระดมสูบน้ำออก

4.ชาวบ้านอยุธยาลุยน้ำออกจากบ้าน


</TD></TR></TBODY></TABLE>

ร.พ.มหาราชฯเปิดได้แล้ว

นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ว่า มีพื้นที่ถูกน้ำท่วมแล้วทั้งจังหวัด รวม 32 อำเภอ 284 ตำบล 2,889 หมู่บ้าน ประชาชนเดือดร้อน 575,189 คน 145,111 ครัวเรือน เสียชีวิต 8 ราย พื้นที่การเกษตรเสียหาย 815,189 ไร่ สาธารณประโยชน์เสียหาย 124,959,450 บาท

ด้านการฟื้นฟูบูรณะโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ถ.ช้างเผือก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งโดนน้ำท่วมขังอย่างหนัก ตลอดทั้งวันคณะแพทย์-พยาบาล และเจ้าหน้าที่แม่บ้าน เร่งช่วยกันทำความสะอาดตึกผู้ป่วยนอก รวมถึงเช็ดล้างอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ ตรวจเช็กระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเตรียมพร้อมเปิดให้บริการรักษาผู้ป่วยในวันที่ 25 ต.ค. ภายหลังจากปริมาณน้ำท่วมขังลดระดับลง และภายในตึกให้บริการผู้ป่วยนอกสามารถที่จะใช้งานได้แล้ว

ผู้ช่วยศาสตราจารย์พิเศษ นายแพทย์ทศพร ศิริโสภิตกุล หัวหน้าภาควิชากุมารเวชศาสตร์และหน่วยโรคหัวใจเด็ก ซึ่งได้รับมอบหมายให้เป็นผู้ควบคุมการเก็บกู้และจัดเตรียมอาคารผู้ป่วยนอกเพื่อให้บริการประชาชน ระบุว่า จากการตรวจเช็กความพร้อมเบื้องต้น เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ต่อกระแสไฟฟ้าและระบบน้ำประปาจนใช้การได้แล้ว วันพรุ่งนี้โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมาจะเปิดให้บริการได้เฉพาะในส่วนของแผนกอายุรกรรม, แผนกเด็กเล็ก และแผนกหู-คอ-จมูก แต่จะให้บริการเฉพาะผู้ป่วยรายเก่าที่มีความจำเป็นต้องรักษาต่อเนื่อง หรือจำเป็นต้องมารับยา เนื่องจากยาหมดเท่านั้น ยังไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยรายใหม่ได้

ศรีสะเกษหนีน้ำจ้าละหวั่น

ที่จ.ศรีสะเกษ บริเวณลำห้วยสำราญ ซึ่งไหลผ่านบริเวณสะพานขาว ชุมชนเมืองใหม่ อ.เมือง ปรากฏว่าน้ำจากลำห้วยสำราญที่ไหลมาจากเมือกเขาพนมดงรัก ชายแดนไทย-กัมพูชานั้นระดับน้ำสูงขึ้นเรื่อยๆ และน้ำไหลเอ่อล้นตลิ่งเข้าไปท่วมบ้านเรือนของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ใกล้กับลำห้วยสำราญแล้วหลายสิบหลังคาเรือน ชาวบ้านต้องพากันขนทรัพย์สินหนีน้ำไปอาศัยอยู่ตรงคอสะพานขาวริมถนนสายศรีสะเกษ-อุทุมพรพิสัย

นายสมพงษ์ ปาลี อายุ 62 ปี ชาวบ้านชุมชนสะพานขาว กล่าวว่า พวกตนเฝ้าติดตามการรายงานข่าวระดับน้ำเป็นประจำทุกวัน และเตรียมพร้อมที่จะเก็บข้าวของหนีน้ำท่วมตลอดเวลา เนื่องจากว่าบริเวณชุมชนเมืองใหม่สะพานขาวจะประสบปัญหาน้ำท่วมมาโดยตลอด เพราะอยู่ใกล้กับลำห้วยสำราญที่ไหลผ่านกลางเมือง

ศรีสะเกษ ขณะนี้ระดับน้ำสูงขึ้นเร็วมาก แต่ว่าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะอย่างยิ่งเทศบาลเมืองศรีสะเกษได้เตรียมการเข้ามาให้การช่วยเหลือชาวบ้านที่อาจจะประสบปัญหาน้ำท่วมไว้แล้ว หากว่าน้ำท่วมขึ้นมาพวกตนก็พร้อมที่จะอพยพหนีน้ำได้ทันที

'แม่น้ำมูล'เอ่อล้น

ที่จ.อุบลราชธานี ระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สูงอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลท่วมชุมชนสองฝั่งแม่น้ำมูลเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะชุมชนหาดสวนยาและหาดสวนสุข อ.วารินชำราบ ซึ่งวันนี้น้ำเริ่มไหลท่วมถนนในชุมชนสูงประมาณ 3-5 ซ.ม. ชาวชุมชนยังสามารถใช้สัญจรไปมาได้ แต่อาจไม่สะดวกสบายเหมือนปกติ

ด้านระดับน้ำแม่น้ำมูลที่สะพานเสรีประชาธิปไตยปรับตัวขึ้นอีก 2 เซนติเมตร มีระดับอยู่ที่ 7.32 เมตร ทำให้ชาวชุมชนที่อาศัยอยู่ในเขตเทศบาลเมืองวารินชำราบ ต้องอพยพเพิ่มเติมจาก 9 ชุมชน เป็น 10 ชุมชน รวมมีผู้อพยพเป็น 241 ครอบครัว ส่วนเทศบาลนครอุบลราชธานี มีชาวบ้านอพยพ 44 ครอบครัว

'ในหลวง'ทรงช่วยชัยภูมิ

ช่วงเช้าวันที่ 24 ต.ค. พบว่า สถานการณ์น้ำท่วม จ.ชัยภูมิ เขตเทศบาลเมืองชัยภูมิใน 25 ชุมชน เริ่มคลี่คลาย โดยน้ำที่เคยท่วมขังถนนที่ลุ่มได้แห้งสนิท การจราจรกลับสู่ภาวะปกติอีกครั้ง หลังท่วมมานานหลายวัน ยังคงเหลือท่วมในชุมชนบางชุมชน เช่น กุดแคนหัวถนน หนองบ่อ ยังมีน้ำท่วมขังสูงประมาณ 30 ซ.ม. นายบรรยงค์ เกียรติก้องชูชัย นายกเทศมนตรีเมืองชัยภูมิ ระดมเครื่องสูบน้ำกว่า 20 เครื่องสูบน้ำออกจากตัวเมือง คาดว่าน้ำจะแห้งภายในวันพรุ่งนี้

ด้านสถานการณ์น้ำชีล้นตลิ่งยังคงมีระดับสูงกว่า 1 เมตร ที่บ้านท่าศาลา ต.ละหาน อ.จัตุรัส บ้านกุดละลม ต.หนองนาแซง อ.เมืองชัยภูมิ และไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่ตั้งอยู่ใกล้ลำชี ในเขตอ.หนองบัว แดง, หนองบัวระเหว, บ้านเขว้า, จัตุรัส, เนินสง่า และในเขตรอบนอก 3 ตำบล ตำบลบ้านค่าย, หนองนาแซง และผ่านเข้าต.ลาดใหญ่ อ.เมืองชัยภูมิ ผ่านเข้ารอยต่ออ.คอน สวรรค์ จ.ชัยภูมิ หลากทะลักผ่านเข้าท่วม จ.ขอนแก่น อย่างต่อเนื่อง

เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้นายดิสธร วัชโรทัย ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นำถุงยังชีพพระราชทานไปมอบให้ราษฎรในเขตเทศบาลเมืองชัยภูมิ 1,000 ครัวเรือน และราษฎรที่ประสบภัยในตำบลต่างๆ ของอำเภอเมืองชัยภูมิ 1,000 ครอบ ครัว โดยจัดพิธีมอบที่ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยจังหวัดชัยภูมิ และที่อำเภอจัตุรัสอีก 1,000 ชุด ทั้งนี้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัยชาวชัยภูมิ ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมหนักสุดในรอบ 30 ปี ท่ามกลางความปลาบปลื้มใจที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยมอบถุงยังชีพพระราชทานในครั้งนี้

เวลาเดียวกัน ที่วัดมหาคงคาสวัสดิ์ (วัดกุดหูลง) ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายสำเริง เอี่ยมสะอาด รองราชเลขานุ การในพระองค์เป็นผู้แทนพระองค์ นำถุงยังชีพพระราชทาน จำนวน 300 ถุง ไปมอบแก่ราษฎรตำบลตลาดแร้ง 9 หมู่บ้าน

'น้ำมูล'น้ำหนุนสูงเร็วผิดปกติ

ส่วนการที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าน้ำเหนือที่ไหลมาจากจ.นครราชสีมา แล้วสมทบลงลำน้ำมูลจะเอ่อท่วมพื้นที่ที่อยู่ริมน้ำมูลเป็นวงกว้าง ล่าสุด เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 24 ต.ค. ปริมาณน้ำในลำน้ำมูลบริเวณสะพานเขตติดระหว่าง อ.คูเมือง-อ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ ระดับน้ำได้หนุนสูงขึ้นรวดเร็วผิดปกติตามคาดเฉลี่ยวันละ 30-50 เซนติเมตร ในช่วง 2 วันติดต่อกัน จนทางศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว สาขา 7 ของวัดสวนแก้วที่มีพระพยอม กัลยาโณ เป็นเจ้าอาวาส ที่อยู่ติดกับลำน้ำมูล ต้องสั่งหยุดการก่อสร้าง เพื่อระดมคนงาน ชาวบ้าน และนักเรียนที่มาทำงานภายในศูนย์ ช่วงปิดเทอมกว่า 100 คน ช่วยกันบรรจุกระสอบทรายทำพนังกั้นน้ำแล้วกว่า 8,000 กระสอบ ปิดกั้นรอบตลอดแนววัดที่ติดริมน้ำมูล เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำมูลไหลทะลักเข้าท่วมกุฏิ โรงทาน อาคาร ซูเปอร์ มาร์เก็ตที่เก็บสิ่งของบริจาคต่างๆ และบ่อปลา รวมทั้งสวนผลไม้ที่ปลูกไว้ภายในศูนย์ กินเนื้อที่กว่า 600 ไร่

อย่างไรก็ตาม น้ำได้เริ่มเอ่อท่วมชั้นใต้ดินของอาคารอเนกประสงค์ ที่ตั้งอยู่ติดริมน้ำแล้วกว่า 1.50 เมตร แต่โชคดีที่ก่อนหน้านี้ทางศูนย์ร่มโพธิ์แก้ว ได้ระดมคนงานเก็บของขึ้นที่สูงไว้แล้ว

ตั้งศูนย์ช่วยเหยื่ออุทกภัย

เวลา 08.00 น. ที่ห้องรับรองสถานีโทร ทัศน์แห่งประเทศไทยช่อง 11 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับนายจตุรงค์ ปัญญาดิลก ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) นายวิบูลย์ สงวนพงศ์อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นายชลิต ดรงศักดิ์ อธิบดีกรมชล ประทาน และนายศักดิ์ วนิชขจร รักษาการอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมด้วยนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี เพื่อหารือถึงมาตรการรับมือปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ภาคกลางที่ถูกน้ำทะเลหนุนสูงและน้ำเหนือไหลลงมาใน 1-2 วันนี้ รวมถึงพิจารณาแต่งตั้งคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้วย โดยใช้เวลาหารือนาน 1 ชั่วโมง

หลังการประชุมดังกล่าว นายกฯ ได้ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เลขที่ 280/2553 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการกำกับติดตามการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศชอ.) และจัดตั้งศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย โดยมีประธานและกรรมการรวม 28 คน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน คชอ. โดยมีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน เป็นรองประธาน คชอ. นอกจากนี้ มีคำสั่งให้จัดตั้งศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัย ตั้งอยู่ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล มีนายอภิรักษ์ เป็นผู้อำนวยการศูนย์

'มาร์ค'ขู่ฟันทุจริตงบฯ

เวลา 11.10 น. ที่สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีหลายฝ่ายท้วงติงว่าการประสานงานของรัฐบาลในการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยล่าช้า ว่า ตนได้พูดไปแล้วว่าการทำงานเป็นอย่างไร คิดว่าคนทำงานทุกคนยอมรับว่าไม่ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ และเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้น ก็ขอให้ติดต่อสื่อสารมา เพราะมีระบบอยู่ในพื้นที่สามารถจะแก้ไขจุดบกพร่องหรือช่องว่างได้ ส่วนจะดูแลอย่างไรให้งบประมาณไปถึงประชาชนทั่วทุกพื้นที่โดยไม่มีการทุจริตนั้น เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ศูนย์ประสานการช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบอุทกภัยต้องติดตาม

"แต่ด้วยสภาพของปัญหาของพื้นที่ ผมเข้าใจเลยว่าเป็นไปได้ที่จะมีความบกพร่องมีหลุดไปบ้าง แต่ผมไม่อยากให้เจ้าหน้าที่เสียกำลังใจ เพราะในภาพรวมเขาทำงานกันเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ผมก็มีความเป็นห่วงในเรื่องเงินช่วยเหลือรั่วไหล เพราะพูดตรงๆ ที่ผ่านมาก็มีการสอบสวนว่ามีการรั่วไหล ฉะนั้น ครั้งนี้ต้องไม่ให้เกิดขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

เมื่อถามว่าการดูแลไม่ให้ฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า นายกฯ ระบุว่า ขณะนี้ทุกกระทรวงถือเป็นหน้าที่ของตัวเองในการที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งที่เป็นงานประจำของตัวเอง ส่วนถ้าพูดเรื่องการฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้าก็ต้องเป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์

คาดเสียหายกว่า1หมื่นล้าน

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการประเมินตัวเลขความเสียหายทั้งหมดจะถึง 2 หมื่นล้านบาทหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คิดว่าการดำเนินการของรัฐบาลต่อไปก็คงจะมีการประเมินใกล้เคียง 1 หมื่นล้านบาท หรือมากกว่า ส่วนกระทบจีดีพีเท่าไหร่นั้นจะประเมินอีกครั้ง ส่วนพื้นที่การเกษตรที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ที่น้ำเริ่มลดแล้วได้ให้มีการสำรวจอยู่ ว่าจะช่วยเหลืออย่างไร ทั้งนี้ จะนำเข้าสู่ภาวะข้าวยากหมากแพงหรือไม่นั้นตนไม่คิดว่าจะเป็นอย่างนั้นแต่ก็จะติดตามสถานการณ์ต่อไป

ต่อข้อถามถึงกรอบระยะเวลาในการช่วยเหลือ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้พูดภาพรวมไม่ได้ เพราะพื้นที่เมืองก็แบบหนึ่ง ส่วนพื้นที่ชนบทก็อีกแบบหนึ่ง ถามว่า ในการประชุม ครม. วันที่ 26 ต.ค.นี้ จะมีการอนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ ตอบว่า จะมีการอนุมัติกรอบวงเงินเพิ่มเติม แต่คงไม่ใช่เป็นลักษณะวงเงินงบประมาณที่จะดูปัญหาเฉพาะ แต่จะดูการเรื่องเกณฑ์การชดเชย

เดือนหน้า'ใต้'น่าเป็นห่วง

ระหว่างดำเนินรายการเชื่อมั่นประเทศไทยกับนายกฯอภิสิทธิ์ นายอภิสิทธิ์ นายกฯ กล่าวว่า ทราบว่าข้อจำกัดช่วยเหลือของจังหวัดที่ประสบภัย คือ เรื่องวงเงินงบประมาณที่กำหนดให้จ่ายสำรองฉุกเฉินได้ 50 ล้านบาท และยังมีกฎระเบียบบางอย่างที่ไม่อำนวยความสะดวกให้มีการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

นายกฯ ระบุว่า ตนได้นำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมครม. และมีมติให้ผ่อนคลายเรื่องการขยายวงเงิน โดยให้ทางจังหวัดประสานกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ซึ่งมีอำนาจอนุมัติขยายวงเงิน และยกเว้นกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินนี้เพื่อช่วยเหลือประชาชน ด้านหลักเกณฑ์ความช่วยเหลือ หากพื้นที่ใดมีน้ำท่วมขังเป็นเวลานาน หรือพี่น้องไม่สามารถขนย้ายทรัพย์สินได้ทัน ครม.ได้ตกลงกันว่า จะยกเว้นหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ใช้กันตามปกติ โดยวันที่ 26 ต.ค.นี้ กระ ทรวงมหาดไทยสรุปแนวทางการช่วยเหลือ

นายต่อศักดิ์ วานิชขจร รองอธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา อธิบายขณะร่วมรายการกับนายกฯ ว่า สถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคกลาง และมีความกดอากาศต่ำเคลื่อนตัวผ่านถึง 3 ระ ลอก ทำให้มีฝนตกสะสมค่อนข้างมาก ขณะนี้ฝนเริ่มซาลงแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปภาคเหนือและอีสานฝนจะตกไม่มาก คือ ไม่เกิน 20-40 ม.ม. และจะไม่มีผลกระทบต่อน้ำที่ท่วมอยู่แล้ว และในช่วงวันที่ 26-27 ต.ค. เป็นต้นไป อากาศจะเริ่มเย็น ภาคเหนือตอนบนและภาคอีสานอาจมีฝนฟ้าคะนองอยู่ แต่ไม่มาก หลังจากนั้นฟ้าจะใส และอากาศเริ่มเย็น แต่ที่น่าเป็นห่วงต่อไปคือ ร่องมรสุมเคลื่อนตัวไปทางภาคใต้ ตั้งแต่จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงนครศรีธรรมราช ในช่วงเดือน พ.ย.และจะไปถึง จ.สงขลา นราธิวาสในเดือนถัดไป มีโอกาสเกิดพายุหมุน หรือหย่อมความกดอากาศต่ำเข้ามาในอ่าวไทยได้

'มาร์ค'เดินลุยน้ำท่วมปทุมฯ

เวลา 13.30 น. นายอภิสิทธิ์ และคณะเดินทางไปยังศูนย์ศิลปาชีพบางไทร จ.พระ นครศรีอยุธยา โดยมีนายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าฯอยุธยา ต้อนรับและบรรยายสรุปสถาน การณ์น้ำ พร้อมดูแผนที่ระดับน้ำโดยรอบและสำรวจระดับน้ำ จากนั้นเวลา 14.30 น. นายกฯ เดินทางไปยังวัดพนัญเชิง เพื่อดูแนวคันกั้นแม่น้ำเจ้าพระยาและระดับน้ำ ซึ่งขณะนั้นกำลังมีทหารและชาวบ้านช่วยกันทำถุงทรายเสริมคันกั้นน้ำ

ต่อมา นายกฯ เดินทางไปยังชุมชนบ้านงิ้ว อ.สามโคก จ.ปทุมธานี โดยมีประชาชนราว 300 คนรอต้อนรับและรับถุงยังชีพ และนายกฯ ให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ถือว่าระดับน้ำสูงที่สุดในรอบหลายปี ซึ่งเราจะระดมความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ หากประชาชนมีปัญหาเดือดร้อนอะไรให้แจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อประสานมายังศูนย์ที่รัฐบาลตั้งขึ้น

จากนั้นนายอภิสิทธิ์เดินลุยน้ำเข้าไปในซอย 14 บ้านงิ้ว ซึ่งมีระดับน้ำสูงประมาณเข่า โดยทักทายประชาชนที่ถูกน้ำท่วมพร้อมมอบถุงยังชีพ และขึ้นเรือหางยาวเข้าไปยังวัดสวนมะม่วง ซึ่งมีน้ำท่วมถึงครึ่งเอว มีประชาชนรออยู่ราว 40 คน เมื่อเสร็จภารกิจจึงเดินทางต่อไปยังสถานีสูบน้ำดิบสำแล ต.บ้านตะแคง อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อดูการทำกระสอบทรายและรับมอบน้ำดื่ม ก่อนจะเดินทางไปมอบส้วมลอยน้ำที่วัดโพธิ์เลื่อน พร้อมช่วยชาวบ้านบรรจุทรายใส่ถุงเพื่อนำมากั้นแนวน้ำที่เริ่มเอ่อล้นถนน จากนั้นเดินทางไปยังวัดหงษ์ปทุมาวาส อ.เมือง จ.ปทุมธานี เพื่อตรวจดูระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาตลอดแนววัด และเดินทางกลับบ้านพักในซอยสุขุมวิท 31

เจ้าพระยาทะลัก'สามโคก'

ส่วนสถานการณ์น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อเข้าท่วมตลาดเมืองปทุม อ.เมือง จ.ปทุม ธานี บรรดาพ่อค้าแม่ค้ารีบขนย้ายข้าวของสินค้าในตลาด เนื่องจากระดับน้ำหลากเข้าท่วมจนถึงพื้นถนนเทศปทุม ด้านหน้าศาลากลางหลังเก่า เจ้าหน้าที่ระดมร่งกั้นกระสอบทราย เนื่องจากน้ำหลากเข้าอย่างรวดเร็ว หากข้ามถนนได้จะเข้าท่วมสถานีตำรวจ สถานที่ราชการ จวนผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ร้านค้าและบ้านประชาชนและแนวกั้นกระสอบทรายอีกหลายแห่งที่ชาวบ้านกั้นไว้เริ่มมีปริมาณน้ำล้นจากแนวกั้นกระสอบทราย

ที่วัดบางนา อ.เมืองปทุม ขณะนี้แนวกั้นกระสอบทรายกว้าง 5 เมตรพังถล่ม 2 จุด คือ ฝั่งข้างวัดและแนวกั้นติดริมแม่น้ำเจ้า พระยา น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาหลากเข้าท่วมวัด พระสงฆ์และชาวบ้านเร่งกั้นน้ำอย่างชุลมุน

นอกจากนี้ ยังมีบ้านเรือนประชาชนที่พักอาศัยริมแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตพื้นที่อ.เมือง และอ.สามโคก ที่ประสบปัญหาน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาหลากเข้าท่วมบ้านเรือนและล้นแนวกั้นกระสอบทรายเดิมที่กั้นไว้ ชาวบ้านต้องเร่งกั้นแนวกระสอบทรายเพิ่ม

พท.ซัด'มาร์ค'ช่วยล่าช้า

ที่พรรคเพื่อไทย นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า แม้รัฐบาลจะตั้งศูนย์แก้ไขปัญหาน้ำท่วมและช่วยเหลือผู้ประสบภัย แต่พรรคเพื่อไทยมองว่าล่าช้า แก้ปัญหาแบบไม่ทันสถานการณ์ เพราะวันนี้มีประชาชนเสียชีวิตแล้ว 30 กว่าราย ทรัพย์สินและพืชผลทางการเกษตรเสียหาย จากการลงพื้นที่ของพรรคเพื่อไทยนำโดยนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ พบว่าการแก้ปัญหาในพื้นที่ต่างๆ ขาดการบูรณการระหว่างหน่วยงานภาครัฐกับท้องถิ่น พรรคจึงสั่งการให้ส.ส. และผู้สมัครลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นก่อน นอกจากนี้ ยังได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการกัก ตุนของบริจาคเอาไว้เพื่อแจกกับหัวคะแนนเท่านั้น

"นายกฯ ต้องทำเรื่องนี้ให้เป็นวาระแห่งชาติ และขอเรียกร้องให้รองนายกฯ และรัฐ มนตรี ลงกำกับปฏิบัติการแก้ไขปัญหานี้ให้ประชาชนในพื้นที่ อย่าอยู่บนหอคอยงาช้าง ขอให้นายกฯ สั่งการให้รัฐมนตรีทั้ง 35 คนลงพื้นที่ โดยปฏิบัติงานอยู่ติดพื้นที่ทั้ง 29 จังหวัด รับรองว่าวิธีนี้จะทำให้การแก้ไขปัญ หาบูรณาการมากขึ้น" นายพร้อมพงศ์ กล่าว

'สสส.'ร่วมช่วยเหยื่อน้ำท่วม

วันเดียวกัน ที่บริเวณด้านหน้าสำนักงานคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก (UNESCAP) ถ.ราชดำเนิน กลาง กทม. ท.พ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยภายหลังการจัดงาน "ยูเอ็นเดย์ รัน เฟสติวัล 2010" เนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปี ว่า สสส.มีความตั้งใจนำรายได้จากการจัดกิจกรรมครั้งนี้มอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยทั้ง 30 จัง หวัดทั่วประเทศ รวมกว่า 1,170,094 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการลงทะเบียนของนักวิ่งชาวไทยและต่างประเทศกว่า 10,000 คน โดยไม่หักค่าใช้จ่าย

"ตั้งแต่วันแรกที่ทราบข่าวเหตุการณ์น้ำท่วม สสส.ได้จัดส่งน้ำดื่มจำนวนหลายพันขวด และถุงยังชีพจำนวนหลายพันชุดกระ จายไปยังพื้นที่ต่างๆ เพื่อช่วยเหลือในเบื้องต้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเกิดภัยพิบัติขึ้นทุกครั้ง ต้องขอชื่นชมน้ำใจคนไทยทุกคนที่ไม่เคยทิ้งกัน โดยเฉพาะการรวมตัวของเครือข่ายทางสังคม และนำระบบไอซีที อาทิ เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการให้การช่วยเหลือไปถึงชาวบ้าน" ท.พ. กฤษดา กล่าว

ยอดตายเพิ่มเป็น38ศพ

สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพช.) สรุปรายชื่อผู้ที่เสียชีวิตจากสถานการณ์อุทกภัย ตั้งแต่วันที่ 10-24 ต.ค. มียอดผู้เสียชีวิตรวมทั้งสิ้น 38 ราย จาก 15 จังหวัด แยกเป็น จ.นครราชสีมา 6 ราย คือ นายสุเทพ ปรีดา อายุ 35 ปี นายชง ชุ่มขุนทด อายุ 51 ปี นายสมาน กลับสูงเนิน อายุ 65 ปี นายหาญ หยดสูง อายุ 68 ปี นายยศกรณ์ หยิ่งจอหอ อายุ 40 ปี และนายเสกสิทธิ์ พะนันชัย อายุ 18 ปี

จ.บุรีรัมย์ จำนวน 6 ราย คือนายสมยศ เกตุแก้ว อายุ 46 ปี นายพัชรวิทย์ พรหมบุตร อายุ 15 ปี นายกษฎา สอนเรือง อายุ 15 ปี ด.ช.ศุมงคล เนาวรัตน์ อายุ 7 ขวบ ด.ช.สิงหนาท ใสแสง อายุ 5 ขวบ และ ด.ช.สุรศักดิ์ ใสแสง อายุ 7 ขวบ

ที่จ.ลพบุรี มีผู้เสียชีวิต 6 ราย คือ นางดวงกมล มาลินัน อายุ 49 ปี นายพร้อม กุศลส่ง อายุ 61 ปี นายพงษ์ศักดิ์ จันทร อายุ 29 ปี น.ส.สุนีย์ ค่ายเพชร อายุ 33 ปี นายมานะ ดาระดาษ อายุ 18 ปี และนายภาณุวัฒน์ พูลแก้ว อายุ 46 ปี

จ.ขอนแก่น 3 ราย ด.ช.ธนดล สมศรี อายุ 8 ขวบ นายลำไย หนูพิศ อายุ 40 ปี นายโกศล พลรัตน์ อายุ 31 ปี, จ.เพชรบูรณ์ 3 ราย นายตะวัน นันทสิทธิ์ อายุ 21 ปี นายหลั่น ศิลางาม อายุ 82 ปี และนายสมพงษ์ ม่วงนอก อายุ 38 ปี, จ.ระยอง 2 ราย นายธีรพงศ์ รอดดภัย อายุ 41 ปี นางดวนศรี เชื้อการใหญ่ อายุ 46 ปี จ.ชัยภูมิ 2 ราย คือ นางสัมฤทธิ์ กิจสกุล อายุ 75 ปี นายคำพัน ทองตัน อายุ 37 ปี

จ.ตราด 1 ราย คือ นางรี โค๊ก อายุ 44 ปี, จ.สระเแก้ว 1 ราย นายมา บัวผัน อายุ 87 ปี, จ.สระบุรี 1 ราย นางจำรัส สว่างชัยวิวัฒน์ อายุ 72 ปี, จ.พระนครศรีอยุธยา 1 ราย นายมนู กองทิพย์ อายุ 51 ปี, จ.นนทบุรี 1 ราย ด.ช.วรพล ทองสา อายุ 2 ขวบ, จ.อุทัยธานี 1 ราย นายอุดม ดีประ สิทธิ์ อายุ 48 ปี, จ.ชัยนาท 1 ราย ด.ช. ยุทธชัย อยู่คง อายุ 13 ปี และจ.กำแพง เพชร มีผู้เสียชีวิต 3 ราย คือ นางจอนห์ เหล่าอ่อน อายุ 46 ปี ด.ญ.ทิพย์ตญา เหล่าอ่อน อายุ 4 ขวบ และนางสายหยุด ควรขจร อายุ 63 ปี

http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHhNQzB5TlE9PQ