"ผัดกะเพรา"โบราณ สูตรเด็ดแก้แฮ้ง

ในห้อง 'ท่องเที่ยว - อาหารการกิน' ตั้งกระทู้โดย rinnn, 9 เมษายน 2006.

  1. rinnn

    rinnn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    7,666
    ค่าพลัง:
    +24,024
    [FONT=Tahoma,]"ผัดกะเพรา"โบราณ สูตรเด็ดแก้แฮ้ง

    คอลัมน์ หิวหรืออิ่มก็ยิ้มพอกัน

    โดย พัชรพน

    [​IMG]อาการของคนที่โหมกับงานมาทั้งอาทิตย์ พอถึงวันหยุดก็คือขี้เกียจไปหมด อยากอยู่เฉยๆ นั่งเฉยๆ นอนเฉยๆ

    ยิ่งคืนก่อนเมาเป๋ 9 โมงยังแฮ้งหัวจะระเบิด ใครมาตะโกนหน้าบ้านว่าโลกจะระเบิด ยังรู้สึกว่าเป็นเรื่องของโลก ไม่ใช่เรื่องของกู

    เกิดอาการแบบนี้ขึ้นเมื่อไร ร้อยทั้งร้อยขี้เกียจแม้กระทั่งหาอะไรใส่ท้อง

    แต่อย่างว่า ถึงอย่างไรก็ต้องกิน ยิ่งแฮ้งก็ยิ่งหิว

    ปัญหาของการหิวตอนแฮ้งนี่คือ หาอะไรกินยาก ท้องเรียกร้อง แต่ลิ้นมันไม่รับ ร้อยทั้งร้อยแหละครับ สำหรับคนเมาอยากได้อะไรที่เผ็ดๆ ร้อนๆ ที่สำคัญต้องอร่อย ไม่อร่อยกินไม่ได้ ของที่ยามปกติอร่อย ตอนแฮ้งนี้เบื่อเอาเฉยๆ

    และตรงนี้แหละที่เป็นปัญหา

    ขี้เกียจแม้จะออกไปซื้อกิน แถมต้องอร่อยขึ้นมาอีก

    ยังไงกันดี

    ด้วยประสบการณ์แฮ้งบ่อย เชื่อเถอะครับ หากขี้เกียจหนักๆ "ข้าวราดผัดกะเพรา" เจ๋งสุด

    ข้าวร้อนๆ ราดผัดกะเพราเผ็ดๆ แกล้มไข่ดาวสักฟอง คุณเอ๋ย ฟื้นเลยละครับ

    แต่ว่าไหม ผัดกะเพราที่คนเขาบอกว่า "อาหารสิ้นคิด" นี่ ไม่ใช่ว่าจะทำอร่อยได้ง่ายๆ ยิ่งหากินแถวร้านอาหารตามสั่งที่เอาปริมาณเข้าว่า ขนใส่อะไรต่ออะไรไปเพียบเพื่อให้ดูเยอะเข้าไป ยิ่งไม่ได้เรื่อง <table style="border: 1px dotted rgb(255, 255, 255);" align="right" border="1" cellpadding="1" cellspacing="5" width="20%"> <tbody> <tr bgcolor="#ffe9ff"> <td>[​IMG]</td></tr></tbody></table>

    ยิ่งไปเจอกับร้านที่ใช้ข้าวใหม่ ยางเหนียว มันย่อง พูดก็พูดเถอะครับ หากมือผัดกะเพราไม่ถึงจริง ตักเข้าปากคำเดียวก็แทบวางช้อน คลื่นไส้ครับ คนแฮ้งนี่กระเพาะรับอะไรที่มันๆ เลี่ยนๆ ได้ยาก

    ตามประสาคนคอเดียวกัน ชอบอะไรที่ทำง่ายๆ แต่อร่อย ผมมีวิธีการทำข้าวราดผัดกะเพราให้อร่อยมาฝาก

    ก่อนอื่นข้าวสำคัญ ต้องเป็นข้าวเก่า

    รู้นะครับว่าข้าวเก่าหมายถึงข้าวที่เก็บเกี่ยวตั้งแต่ฤดูการผลิตปีที่แล้ว ไม่ใช่เกี่ยวปุ๊บอามาสีเอาแล้วหุงเลย ข้าวใหม่แบบนี้ยางเยอะ อาจจะเหมาะกินกะกับข้าวอื่น แต่ไม่เหมาะกับผัดกะเพรา

    หาซื้อไม่ได้ ใช้วิธีซื้อข้าวที่ไม่ใช่ข้าวหอมไว้ก่อน หาข้าวที่บอกว่าเป็นข้าว "เสาไห้" ได้เป็นดี ก่อนหุงซาวน้ำทิ้งให้หลายครั้งหน่อยให้ยางหมด พอได้ครับ หากหาข้าวเก่าจริงๆ ไม่ได้

    คราวนี้ก็ถึงวิธีผัดกะเพราให้อร่อย

    รู้ใช่ใหม่ครับว่า ผัดกะเพรานี่อย่างน้อยต้องมีพริกขี้หนูสด กระเทียม น้ำปลา น้ำตาล ใส่กะเพรา พริกชี้ฟ้า และเนื้อสัตว์อะไรสักอย่าง ไก่ หมู เนื้อวัว กุ้ง หอย ปู ปลา ได้ทั้งนั้น

    ปกติเขาใช้วิธีสับกระเทียมกับพริกขี้หนูเข้าด้วยกัน ตั้งน้ำมันให้ร้อน เอาพริกกระเทียมลงไปเจียว จากนั้นใส่เนื้อ ปรุงด้วยน้ำปลา น้ำตาล ซีอิ๊วขาวให้สุกก่อนยกขึ้นใส่พริกชี้ฟ้าหั่น ใส่ใบกะเพราที่เด็ดไว้เรียบร้อย หรือมีเครื่องอื่นๆ ก็ใส่กันไป

    ที่ผมจะบอกนี่ต่างจากปกตินิดเดียว คืออย่าเที่ยวใส่อะไรให้วุ่นวาย โดยเฉพาะพวกผักทั้งหลาย เอาแค่พริกชี้ฟ้ากับใบกะเพราพอ พวกถั่วฝักยาว ข้าวโพดอ่อนนี่เอาไปให้ห่างๆ เลย ปล่อยให้ร้านอาหารตามสั่งที่ขี้เหนียวเนื้อสัตว์ แต่อยากให้ปริมาณดูมากๆ เขาทำมาหากินกันไป

    สิ่งสำคัญของความอร่อยอยู่ที่เครื่องที่เอาไปผัดกับน้ำมันร้อนๆ ตอนแรก แทนที่จะมีแค่กระเทียมกับพริกที่สับละเอียดรวมกัน ให้ใส่กะปิเข้าไปหน่อย

    ใช่กะปิดีๆ นะครับ ที่หอมๆ

    เอากะปิคลุกกับกระเทียมและพริกขี้หนูสับให้เข้ากัน ทางที่ดีใช้ครกตำเลย ตำกระเทียมก่อนแล้วใส่พริก จากนั้นใส่กะปิลงไปตำให้เข้ากัน

    ตั้งกระทะให้ร้อนแล้วเอามาผัดให้กลิ่นพริก กระเทียม กะปิ หอมฟุ้ง ดูพอให้กระเทียมออกเหลือง ใส่เนื้อลงไปผัด เอาน้ำล้างครกเทลงไป ผัดให้สุกจากนั้นปรุงด้วยน้ำปลา น้ำตาล ตามชอบ ชิมได้ที่ใส่พริกชี้ฟ้าหั่น ตามด้วยใบกะเพรา ใส่แล้วคนให้ทั่ว ตักขึ้นราดข้าวที่เตรียมไว้เลย

    รับรองอร่อยขาด

    ไม่ต้องใส่หรอกครับพวกซีอิ๊ว

    เคยรู้สึกไหมละว่า ข้าวราดผัดกะเพราเดี๋ยวนี้ไปร้านไหนเหมือนกันหมด คือกลิ่นซีอิ๊วหึ่ง

    ใช้กะปิแทนดีกว่า หอมกว่าเยอะ

    หากใครไม่ชอบกลิ่นกะปิ ผมแนะนำให้ใช้มันกุ้ง ก็ที่สีดำๆ ใส่กระปุกพลาสติคฝาแดงๆ ขายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่นั่นแหละ ใส่ผัดกะเพราได้รสชาติเยี่ยม

    สูตรนี้เป็นสูตรโบราณ ที่เคยทำเคยกินมาแต่เด็ก ทำทุกครั้งอร่อยทุกที

    ยังแปลกใจว่าทำไมคนเดียวนี้ใช้ซีอิ๊วแทนกะปิกันหมด

    ลองดูนะครับ ได้ผลอย่างไรเขียนจดหมายมาคุยกับบ้าง หรือใครมีสูตรเด็ดจะแบ่งปัน กระซิบกันบ้างนะครับ

    ตามประสาคนคอเดียวกัน ผมจะเอาไปลองทำดู แล้วมาเล่าให้ฟัง
    [/FONT]
     

แชร์หน้านี้

Loading...