ผีตัวที่ 11 ผีแม่ชีผู้ทรงฤทธิ์ อีกครั้งข้อมูลครบ อนุญาตให้เผยแพร่ได้ทุกกรณี

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย JeTo2008, 10 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    ผีตัวที่ 11 ผีแม่ชีผู้ทรงฤทธิ์
    สวัสดีครับก็ได้เวลาว่างพอที่จะเขียนต่อแล้วกับเรื่องราวของประสบการณ์ที่ได้พบได้เจอกับวิญญาณหรือผีที่คนมักเรียกกัน เรื่องราวของผีตัวนี้ก็เป็นผีที่น่าสนใจอีกตัวหนึ่งที่คิดว่าควรจะนำมาเล่าสู่กันฟังเพื่อถ่ายทอดความรู้ ก็เป็นเรื่องราวต่อเนื่องมาจากผีตัวที่ 10 หลังจากนั้นไม่นาน เรื่องก็มีอยู่ว่าตอนนั้นสถาบันการศึกษาส่วนใหญ่ยังไม่มีการห้ามการรับน้องใหม่อย่างเป็นทางการอย่างในปัจจุบันเพราะตอนนั้นยังไม่ค่อยมีความรุนแรงถึงกับเสียชีวิตอย่างปัจจุบันเหตุการณ์นี้ก็เกิดขึ้นกับผู้เขียนในการไปรับน้อง จริงๆแล้วผู้เขียนนั้นเรียนจบมานานหลายปีแล้วประมาณ 3-4 ปีเห็นจะได้แต่รุ่นน้องนั้นมาชวนอยากให้รุ่นพี่ที่จบไปหลายปีแล้วไปด้วยเพื่อสวยงามของกิจกรรมแล้ว และเป็นนัยว่าชวนผู้เขียนไปเที่ยวด้วยกันนั่นแหละ ทีแรกไม่อยากไปเพราะตั้งแต่กลับจากการปฏิบัติธรรมมาก็ไม่ค่อยอยากไปเที่ยวที่ไหน คือคิดว่าไปเที่ยวก็ไม่เห็นมีอะไรอยู่บ้านสวดมนต์ไหว้พระดีกว่าอะไรประมาณเนี้ย แต่ก็ทนการชักชวนของรุ่นน้องไม่ไหวก็เลยตกลงที่สำคัญมีเพื่อนรุ่นเดียวกันไปด้วยหลายคน ดีเหมือนกันได้เจอเพื่อนๆไม่ได้เจอกันนาน ครั้งนั้นพวกน้องๆได้จัดการไปรับน้องที่จังหวัดประจวบฯก็ต้องบอกผู้อ่านทุกท่านก่อนว่าคนที่ปฏิบัติธรรมจนได้ฌาณแล้วส่วนใหญ่จะสัมผัสกับสิ่งแปลกๆทางฌาณคือมักจะได้รับการท้าทายกำลังทางจิตโดยผู้มีวิชาอาคมทั้งหลายที่มักจะชอบแสดงวิชาของตนเที่ยวส่งไปท้าทายหรือลองกำลังของผู้มีฌาณด้วยกันด้วยวิธีต่างๆนานาที่เรียกว่าการปล่อยของ เรื่องนี้ผู้ปฏิบัติจิตทั้งหลายพึงจำไว้ว่าอันตรายอย่าไปทดลองเด็ดขาด ขอให้นิ่งไว้ และพึงเป็นการรักษาศีลด้วย ถ้าชนะก็ดีไป ท้าพ่ายแพ้ก็โดนของเข้าตัว มันไม่จบง่ายๆด้วย ผู้เขียนโดนท้าทายประจำเหมือนกันแต่ไม่เคยไปรับคำท้าทายใครเลย ครั้งนี้ก็เช่นกัน แค่ตัดสินใจรับปากว่าจะไป คืนนั้นมาเลย ( ทุกคืนนั้นผู้เขียนจะต้องสวดมนต์ละนั่งกรรมฐานตั้งแต่เวลา 18.00 น-21.00น.เป็นประจำ วันละ 3 ชั่วโมงอย่างนี้ทุกวัน ไม่เคยขาดถ้าไม่มีธุระไปนอกบ้าน ) หลังจากที่เจริญพระกรรมฐานเสร็จก็เข้านอน คืนนั้นนิมิตไปว่า มีจระเข้ตัวใหญ่มากๆจะมาทำร้ายผู้เขียน ในนิมิตนั้น จระเข้นั้นน่ากลัวมาก เขี้ยวใหญ่ยาว ตัวใหญ่เท่าภูเขา พยายามจะกัดผู้เขียน จู่โจมด้วยปากอันมีเขี้ยวแหลมคม ฟาดหางทำร้ายผู้เขียนคงหวังให้ตาย แต่ผู้เขียนก็มิได้เกรงกลัวต่อจระเข้นั้นเลยแม้แต่น้อย เข้าต่อสู้หลบหลีกฟันอันแหลมคมของมันในมือผู้เขียนนั้นถือ กริชเล่มยาวอันคมกริบ ต่อสู้ประลองกำลังกันสักพักหนึ่ง ได้โอกาสแทงกริชนั้นลงบนหัวจนทะลุลงไปใต้ท้องจระเข้ใหญ่นั้น จระเข้นั้นคงเจ็บปวดดิ้นทุรนทุรายแล้วหนีไป ผู้เขียนสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา พิจารณาเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในนิมิตแล้วลุกขึ้นมานั่งกรรมฐานตรวจสอบหาที่มาที่ไปของเหตุการณ์ที่นิมิตนี้ ไม่ผิดไปจากที่คิดไว้ เหมือนกับทุกๆวัน แต่วันนี้ผู้ที่มาท้าทายนั้นมีดวงจิตแก่กล้า มากคนหนึ่ง ผู้เขียนเกือบเสียทีเหมือนกัน เมื่อเข้ากรรมฐานจึงได้รู้ว่ามาจากที่อันไกลที่ที่ผู้เขียนจะไปในวันพรุ่งนี้ เป็นฌาณที่มีกำลังมาก เลยคิดว่าหรือจะไม่ไปดีเพราะไม่อยากทะเลาะกับใครโดยเฉพาะพวกผู้ทรงฤทธานุภาพทางจิตทั้งหลาย แต่พอคิดถึงเพื่อนๆและน้องๆแล้ว คิดว่าคงจะต้องเกิดเรื่องอะไรไม่ดีขึ้นแน่ ผู้เขียนคงต้องไป อย่างน้อยจะได้แก้ไขได้ทันเวลา หลังจากรู้ที่มาของฌาณนั้นแล้วเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วผู้เขียนก็ออกจากกรรมฐานแล้วเข้านอน วันรุ่งขึ้นก็เดินทางไปยังที่นัดหมายของกลุ่ม ทุกอย่างปกติ ผู้เขียนไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ให้ใครฟังเลยเพราะไม่อยากให้ใครเป็นกังวลและหวาดกลัว อีกอย่างผู้เขียนเองก็อยากจะพิสูจน์อะไรบางอย่างด้วย และอยากรู้ด้วยว่าเหตุการณ์ข้างหน้าที่จะเกิดขึ้นเมื่อไปถึงนั้นจะเป็นอย่างไร การเดินทางปกติผู้เขียนแยกไปทางรถไฟกับเพื่อน 7-8 คน โดยไปลงที่ปราณบุรีแล้วต่อรถสองแถวเข้าไป อีกทางหนึ่งไปโดยการเหมารถบัสไป นัดไปเจอกันที่นั่นเลย เมื่อไปถึงสถานีปราณฯแล้วต้องต่อรถสองแถวเข้าไป ขณะที่นั่งสองแถวเข้าไปที่ที่จะไปนั้น เกิดนิมิตบางอย่างบอกว่า ผู้มีฌาณแก่กล้านั้นมาท้าทายอีกแล้ว คือขณะที่รถสองแถววิ่งไปนั้น ( ผู้เขียนนั่งด้านหน้ากับคนขับกับเพื่อนอีกคน ) ได้มีฝูงนกบินฝูงใหญ่บินมาบนฟ้า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดอะไร แต่มีนกตัวหนึ่งในฝูงนั้นบินพุ่งตรงเข้ามาชนหน้ากระจกรถอย่างแรงและตายคาที่ตรงหน้ารถนั้น คนขับรถตกใจหยุดรถ ลงไปดูเก็บศพนกนั้นมาแล้วพูดว่ามันเป็นอะไรของมันไอ้นกบ้า อยู่ๆก็บินตรงเข้ามาชนรถจนตาย ขับรถแถวนี้มาตั้งนานไม่เคยเจออย่างนี้มันเป็นอะไรของมันว่ะผู้เขียนไม่ได้พูดอะไรแต่กำหนดจิตไปเพื่อดูว่าเกิดอะไรขึ้น เป็นความตั้งใจของใครบางคนที่ไม่ต้องการให้ผู้เขียนเข้าไปในที่ของเขา หรือเรียกง่ายๆว่า กูเตือนมึงแล้วนะ อะไรทำนองนี้ แต่มาแล้วนี่จะกลับไปได้อย่างไรเป็นไงเป็นกัน ผู้เขียนก็กำหนดจิตแผ่เมตตาอโหสิกรรมไปตลอดทางจนถึงจุดหมายที่จะไป พอลงจากรถลมกรรโชกเข้าหาผู้เขียนอย่างแรง ต้นไม้บริเวณนั้น ลู่ไปตามลม ท้องฟ้าที่สว่างกลับมืดครึ้ม ไปชั่วขณะก่อนจะกลับสว่างดังเดิม แรงมากผู้เขียนคิดในใจ แต่ก็มิได้วิตกกังวลอะไรและระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา กำหนดจิตเป็นสมาธิไว้ตลอด หลังจากที่เอาสัมภาระเข้าเก็บในที่พักแล้ว ก็แยกย้ายกันพักผ่อนเพราะเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทาง ส่วนพวกที่มีหน้าที่จัดสถานที่เค้าก็จัดกันไป ขณะที่ผู้เขียนกำลังพักผ่อนคือเอนหลังอยู่บนเปลญวณนั้น รุ่นน้องของผู้เขียนคนหนึ่งได้มาบอกผู้เขียนว่าด้านในมีถ้ำเล็กมีพระพุทธรูป และมีกุฏิพระหลังย่อมๆอยู่หนึ่งหลังแต่เก่ามากแล้ว และดูจากสภาพแล้วคงไม่มีพระอยู่มานานอาจจะเป็นปีแล้วก็ได้ พอผู้เขียนไปดูแค่เห็นสถานที่นั้นเท่านั้น ก็เข้าใจเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นทั้งหมดตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ได้ทันที จึงถามน้องๆไปว่าตั้งแต่มาได้ไหว้เจ้าที่เจ้าทางขอใช้สถานที่หรือยัง คือทีมงานส่วนหนึ่งมาก่อนแล้วตั้งแต่เมื่อวาน พวกน้องๆทีมงานตอบว่ายังเลย ผู้เขียนจึงสั่งให้ทุกคนมารวมกันเอาธูปเทียนมาจุดเพื่อบอกกล่าวถึงการที่เรามาในครั้งนี้ไม่ได้มีใจจะมารบกวนหรือลบหลู่ผู้ใดเลย เมื่อทุกคนมาพร้อมกันแล้วผู้เขียนก็จุดธูปเทียนตั้งจิตอธิษฐานต่อผู้ปกปักรักษาทั้งหลายที่นั่น ขณะที่จิตเป็นสมาธินั้น ก็ปรากฏร่าง ร่างหนึ่งขึ้นตรงหน้าผู้เขียน ร่างนั้นเป็นร่างของแม่ชีตนหนึ่ง นั่งห่มผ้าขาวบริสุทธิ์ สว่างมาก หน้าตาดุดันเหมือนโกรธที่เรามาใช้สถานที่นี้ แล้วร่างนั้นก็พูดขึ้นว่า มึงมาทำอะไรกันที่นี่ มึงรู้หรือเปล่าว่าที่นี่เป็นที่ที่นักบวชผู้ทรงฌาณและพวกฤาษีมาบำเพ็ญตบะอยู่อย่างมากมายเป็นสถานที่ที่ศักดิ์สิทธิ์ และไม่อยากให้ใครรบกวน”“ไม่ทราบครับ ผู้เขียนตอบไป งั้นพวกมึงจงพากันกลับไปเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นจะหาว่ากูไม่เตือน”“ตั้งแต่เมื่อคืนนี้มาถึงตอนนี้คงเป็นแม่ท่านใช่ไหม ที่ไปทักทายกระผม”“เออ กูเอง ผีแม่ชีนั้นตอบ ขอแม่ท่านจงฟังกระผมก่อนเถอะ กระผมและพวกกระผมมาเพราะไม่มีใครรู้เรื่องนี้และกระผมก็ไม่อยากบอกใครเรื่องนี้ด้วย ยังไงแล้วพวกกระผมคงย้ายไปจากที่นี่ไม่ได้แล้วเพราะทุกอย่างได้จัดไว้แล้ว ผมขออนุญาตแม่ท่าน กระผมขอใช้สถานที่ที่นี้ในการรับน้อง มันเป็นพิธีธรรมเนียมสำคัญอย่างหนึ่งทางโลก เป็นการต้อนรับน้องใหม่ และผมขอเอาความดีของกระผมเป็นประกันว่าจะไม่ทำอะไรอันเป็นการล่วงเกิน สถานที่นี้ และจะไม่ทำสิ่งไม่ดีไม่งามอันเป็นการลบหลู่สถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้แลยครับ ผู้เขียนพูดเพื่อขออนุญาตและขอความเห็นใจต่อผีแม่ชีท่านนั้น ท่านทำถ้าครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดมาว่า มึงแน่ใจนะว่าจะไม่ทำอะไรรบกวน ลบหลู่ ต่อสถานที่นี้”“แน่นอนครับ ผมเอาศีลของผมเป็นประกันเลยครับ ผีแม่ชีนั้นไม่ทันพูดอะไร ผู้เขียนก็พูดต่อไปว่า ขอโทษนะครับแม่ท่าน ธรรมดาว่าผู้ที่ประพฤติทรงศีลทรงธรรมเป็นผู้ไม่มีใจประทุษร้าย คิดร้ายต่อผู้ใด เป็นสำคัญมิใช่หรือ เหตุใดแม่ท่านจึง ผู้เขียนยังไม่ทันพูดจบ ผีแม่ชีนั้นก็พูดขึ้นว่า ถูกแล้ว ธรรมดาของผู้ประพฤติธรรมย่อมมีเมตตาต่อสิ่งทั้งหลาย และเราก็เป็นอย่างนั้น แต่พวกมนุษย์ทุกวันนี้ขาดศีลขาดธรรม ไม่เคยระลึกนึกถึงบาปบุญคุณโทษ ใดๆเลย ไม่เกรงใจฟ้าดิน ทำแต่กรรมชั่วช้า ไม่มีความละอายและเกรงกลัวต่อบาป สถานที่บางสถานที่เป็นที่ที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่อย่างมากมาย พวกเขาก็ไม่เคยเกรงใจบุกรุกกันเข้าไปกระทำสิ่งต่างๆระยำอัปรีย์กันไปทั่ว ที่เราต้องมาปรากฏตัวกับเจ้าด้วยอาการอย่างนี้ก็เพราะเราอยากจะให้เจ้ารู้ไว้และวันหน้าถ้ามีโอกาสที่จะถ่ายทอดเรื่องราวทั้งหลายได้ พวกมนุษย์จะได้รู้บ้างว่าในโลกนี้มิได้มีแต่เฉพาะมนุษย์เท่านั้นที่อาศัยอยู่ ยังมีเพื่อนอีกมากมายต่างภพต่างภูมิร่วมอยู่ด้วยจะทำอะไรกันก็ควรระลึกถึงเพื่อนเหล่านั้นกันบ้าง โดยเฉพาะพวกที่ประพฤติพรหมจรรย์ด้วยแล้วยิ่งไม่ควรไปรบกวนให้เกิดบาปเกิดกรรมต่อกัน เรารู้ว่ายังไงเจ้าก็ต้องมา คนอย่างเจ้านั้นหายากมากขึ้นทุกทีในโลกปัจจุบัน ลูกเอยเราอนุญาตเพราะเราเชื่อในศีลของเจ้า เราต้องขอโทษเจ้าด้วยที่เราอาจจะทำอะไรรุนแรงลงไป แต่ก็เพื่อความสงบของสถานที่และนักบวชและเหล่าฤาษีทั้งหลายที่สถิตย์อยู่ที่นี่ ด้วยกำลังฌาณของเจ้า เจ้าก็คงเห็นแล้วมิใช่หรือว่าพวกฤาษีที่บำเพ็ญตนนั้นอยู่กันมากมายแค่ไหน เราหวังว่าโลกใบนี้จะมีคนอย่างเจ้าเยอะๆ มันจะได้ไม่วุ่นวาย เอาหล่ะเราคงต้องไปแล้วนะ อย่าลืมคำมั่นสัญญาหล่ะ ผู้เขียนพยักหน้ารับคำแล้วพูดว่า แม่ท่านลูกไม่ได้คิดถือโทษแม่ท่านเลย ขอแม่ท่านจงสบายใจได้ลูกเองเสียอีกที่ต้องขอขมาต่อแม่ท่านในสิ่งที่ล่วงเกินแม่ท่านไป และมารบกวนที่อันสงบนี้ด้วยความไม่ตั้งใจ ไม่ต้องห่วงครับ ทุกอย่างจะเรียบร้อย ผมขอกราบขมาและเป็นการลาแม่ท่านเลยก็แล้วกัน ในสมาธินั้นผู้เขียนก้มลงกราบผีแม่ชีนั่น แล้วท่านก็หายตัวไป ผู้เขียนก็ออกจากสมาธิ แล้วปักธูปไปบนแผ่นดิน แล้วเล่าเรื่องราวย่อๆให้ทุกคนฟังและกำชับทุกคนช่วยกันให้ระมัดระวังอย่าทำอะไรที่ไม่ดีต่อสถานที่นี้ แล้วก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน จนกระทั่งวันกลับก็ไม่มีเหตุการณ์ไม่ดีเกิดขึ้นกับพวกเราเลย ทุกอย่างเรียบร้อย ก่อนกลับผู้เขียนได้กำหนดจิตเพื่ออำลาต่อผีแม่ชีนั่น ท่านก็ปรากฏกายให้เห็นแล้วยิ้มให้ผู้เขียนอีกครั้ง ก็เป็นอันว่าจบเรื่องราวของผีตัวที่ 11 ไว้เพียงแค่นี้ อ่อ อย่าลืมจำกันไว้นะครับท่านผู้อ่านทั้งหลายที่ชอบทำความชั่วอยู่เสมอทั้งในที่ลับและที่แจ้ง จงรู้ไว้ว่ายังมีผู้ที่รู้ที่เห็นการกระทำนั้นของท่านตลอดเวลา อย่าคิดว่าไม่มีใครรู้นะครับ แล้วพบกันใหม่ในผีตัวที่ 12 ครับffice:eek:ffice" /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
     
  2. raphiphan

    raphiphan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +425
    ขอบคุณที่นำมาเล่าให้อ่านกันครับ

    (ตามอ่านตั้งแต่กระทู้ก่อนๆ ตอนนั้นอ่านไม่ได้ ..แล้วใจจัง)
     
  3. คาคะ

    คาคะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2010
    โพสต์:
    424
    ค่าพลัง:
    +1,533
    ดี จังเลยนะคะจะได้จำเอาไว้ไปไหนให้ระวังตัวทกที่เขามี้จ้าที่อยู่
     
  4. SitOrahan6

    SitOrahan6 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +56
    สุดยอดเลยครับ
     
  5. wt

    wt เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2009
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +315
    พี่ผมอ่านแล้วมองเห็นภาพเลยครับ
     
  6. kodyhusky

    kodyhusky เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +829
    ขออภัยนะ ขอถามอะไรนิดนึง คือว่าจำตอนท่ีานคุยกับพญานาคได้ไหม

    ไม่ทราบว่าคุณ ถอดจิตไปหรือครับช่วยบอกหน่อย

    แล้วถ้าจะถอดจิตไปเองจะได้ไหม กลัวไม่กล้าทำ...


     
  7. cherns

    cherns เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2009
    โพสต์:
    51
    ค่าพลัง:
    +115
    ได้รู้อะไรๆ ที่อยากรู้เพิ่มมากขึ้นเลยครับ อนุโมทนา สาธุครับ
     
  8. JeTo2008

    JeTo2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    157
    ค่าพลัง:
    +1,845
    พบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์

    เชิญพบและสนทนาธรรมในแบบเจโต ได้ทุกวันพฤหัสบดี และทุกวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา ๑๓.๐๐ น.- ๑๗.๐๐ น ณ.เรือนธรรม ตั้งอยู่ที่บริเวณ ถนนตัดใหม่สามัคคี-ติวานนท์ ปากเกร็ด สนใจโทร.๐๘๖๕๔๒๒๔๘๖
     

แชร์หน้านี้

Loading...