ผียายเฮี้ยนโผล่วอนให้มาดูศพที่ถูกทิ้ง3ปี

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย Jasmin99999, 10 พฤศจิกายน 2014.

  1. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +3,331
    เมื่อวันที่ 9 พ.ย. พ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ เงินฉลาด สวส.สน.วังทองหลาง รับแจ้งเหตุพบโครงกระดูกภายในบ้านเลขที่ 28 ซอยลาดพร้าว74 ถนนลาดพร้าว แขวงและเขตวังทองหลาง จึงพร้อมด้วย พฐ . แพทย์รพ.ตำรวจ และมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้าบ้านเป็นป่าขึ้นสูง ปิดปกคลุม มีรถยนต์วอลโว่ จีแอลที 940 สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน 3ว7007 กทม. ถูกจอดทิ้งอยู่ที่ลานจอดรถ ตรวจสอบภายในบ้าน ชั้นแรกพบข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อน ส่วนชั้นที่สองนห้องน้ำพบซากโครงกระดูกเพศหญิง เสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 ปี มีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท คล้องกระดูกคออยู่ จากนั้นได้เร่งตรวจประวัติพบว่าผู้ตายคือ นางวาสินี เหโมภาส อายุ 71 ปี
    จากการสอบสวน นายนพชกร สังคง อายุ 33 ปี ชาว จ.สุโขทัย ผู้รับเหมาก่อสร้างให้การว่า ก่อนพบซากกระดูก ตนได้ถูกว่าจ้างให้มาซ่อมแซมต่อเติมบ้านที่อยู่ติดกัน แต่ตลอดที่มาก่อสร้างทุกคืนที่หลับ ในขณะที่ตนครึ่งหลับครึ่งตื่น ได้เห็นกลุ่มควันดำทะมึนขนาดใหญ่ลอยมาที่ปลายเท้า พร้อมทั้งบอกให้ตนรีบเข้ามาดุบ้านหลังนี้ ซึ่งช่วงแรกก็ไม่ได้เอะใจ แต่เนื่องจากพบเจอเหตุการณ์ชวนขนลุกนี้ทุกคืน ในวันนี้จึงตัดสินใจเข้าไปตรวจสอบดู กระทั่งพอขึ้นมาชั้นสองแทบผงะจนเข่าอ่อน เมื่อพบซากโครงกระดูกนี้อยู่ในห้องน้ำ ด้วยความตกใจจึงรีบวิ่งหนีและโทรแจ้งตำรวจ
    เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะพักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว เพียงลำพังมานานแล้ว และไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับเพื่อนข้างบ้าน รวมทั้งชอบเก็บตัวเงียบอยู่คนเดียว คาดว่าด้วยความแก่ชราอาจป่วยจนตาย หรือช็อกหมดสติไป ก่อนที่ร่างจะเหือดแห้งไปตามกาลเวลา เชื่อว่าวิญญาณคงยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด เพราะไม่ได้นำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนา จึงบอกกล่าวให้ผู้รับเหมารับรู้ จนเป็นที่มาของการพบเจอครั้งนี้ ซึ่งจะประสานญาติมารับศพต่อไป.

    ที่มา
    http://www.dailynews.co.th
     
  2. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,612
    ค่าพลัง:
    +2,882
    โห น่าสงสารจังตั้ง 3 ปี แค่ 1 เดือนไม่มีใครติดต่อน่าจะเอ๊ะใจแล้วนะ
     
  3. noawarat pakdee

    noawarat pakdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +682
    ปลงอนิจัง คิดถึงตัวเอง ไม่มีครอบครัวต่อไปจะเป็นแบบนี้ไหมหนอ กลัวชาวบ้านจะเดือดร้อน
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    ดูจากสาเหตุการเสียชีวิตแล้วออกมาหาผู้รับเหมา
    ได้ขนาดนั้นถือว่าเก่งแล้วครับ..
    ให้ตายแบบปกติทั่วๆไปที่ยึดวัตถุแค่ออกไป
    นอกบริเวณที่อยู่อาศัยก็หอบแหกๆแล้วครับ(หมายถึงวิญญานนะครับ)

    และโดยปกติถ้าเราไม่ถูกฆาตกรรม.ดวงจิตจะไม่มีแรงส่งจากแรงอาฆาต
    เพื่อไปปรากฏให้บุคคลอื่นๆเห็นได้ด้วยครับ..

    และก็ขึ้นอยู่กับเราจะคิดว่า การที่วิญญานปรากฏให้เราเห็น
    เป็นความเดือดร้อนหรือว่าเป็นการช่วยสร้างเสริมบารมี
    ให้กับผู้ที่พบเห็นครับ
    .
    และสุดท้ายถ้าคิดว่าอนาคตตัวเองจะต้องอยู่โดดเดี่ยวก็สุดแล้ว
    แต่ความชอบหรือแล้วแต่เหตุและปัจจัยครับ..
    แต่อย่าคิดอยู่อย่างเดียวดายครับ.อย่างน้อย
    คบมิตรบริเวณใกล้ไว้ซักคนให้พอมีจุดเอะใจ
    หรือทำบุญให้ภพภูมิ
    บริเวณที่เราอยู่อาศัยเพื่อให้ท่านมีกำลังเพียงพอเพื่อ
    ช่วยไปสกิดคนบริเวณนั้นหรือผู้ที่เกี่ยวข้องกับการ
    เก็บศพก็ได้ครับ.กรณีนี้สำหรับบุคคลที่ชอบอยู่แบบ
    ธรรมชาติห่างไกลผู้คนก็ใช้ได้นะครับ.
    .

    ปล.แต่สุดท้ายแล้วซ้อมตายไว้ดีกว่าครับ
    พิจารณาตัดร่างกายดีกว่าครับ
    .เพราะที่เล่ามาข้างบนนั้นเป็นเพราะยังห่วงร่างกาย
    ห่วงนั้นห่วงนี้ทั้งนั้นครับ.ไม่ดีหรอกครับ
    ...
     
  5. pongio

    pongio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    843
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +6,850
    ลองแบบผมไหมครับ

    การอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์

    การอุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์ | Welcome to The Thai Red Cross Society

    ข้อดี
    15. ร่างผู้อุทิศร่างกายเพื่อการศึกษา ที่ใช้เพื่อการศึกษา การวิจัย และการรักษาทางการแพทย์ ฝ่ายกายวิภาคศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จะจัดให้มีคณะกรรมการดำเนินการจัดงานพระราชทานเพลิงศพ (เป็นกรณีพิเศษ) ให้ นอกจากกรณีที่ญาติประสงค์ขอแยกไปดำเนินการเอง ให้แจ้งความจำนงเป็นลายลักษณ์อักษรทันที ที่ได้รับการติดต่อจากฝ่ายกายวิภาคศาสตร์

    สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณา
    16. เนื่องจากการเตรียมศพเพื่อการศึกษาต้องผ่านการกระบวนการเตรียมอย่างเหมาะสม โรงพยาบาลฯ จึงไม่สามารถรับศพผู้อุทิศร่างกายฯ ดังนี้
    16.1 ผู้อุทิศร่างกายฯ ที่ถึงแก่กรรม เกิน 20 ชั่วโมง ยกเว้น ได้เก็บไว้ในห้องเย็นของโรงพยาบาล
    16.2 ผู้อุทิศร่างกายฯ ที่ได้ผ่านการผ่าตัดใหญ่ ทำให้สูญเสียอวัยวะ สำคัญๆ ยกเว้นดวงตา
    16.3 ผู้อุทิศร่างกายฯ ที่ถึงแก่กรรม มีสาเหตุจาก โรคมะเร็งที่ลุกลาม บริเวณศีรษะและ สมอง
    ช่องอก ช่องท้อง หรือติดเชื้อโรคร้ายแรง เช่น โรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง (โรคเอดส์)
    ไวรัส ตับอักเสบ วัณโรค และ พิษสุนัขบ้า
    16.4 ผู้อุทิศร่างกายฯ เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ มีคดี เกี่ยวข้องกับคดี หรือมีการผ่าพิสูจน์
    16.5 ผู้อุทิศร่างกายฯ ที่มีน้ำหนักมากเกินกว่า 80 กิโลกรัม หรือ ผอมมากลักษณะไม่มีกล้ามเนื้อ
    16.6 ร่างกายผู้อุทิศร่างกายฯ ที่ไม่เหมาะจะใช้ศึกษาได้ เช่น แขน ขา คด งอ จนเสียรูปร่าง


    เนื่องจากผมอยู่ตัวคนเดียว จึงต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน เดี๋ยวพอแก่ๆ หน่อย ผมจะปริ๊นบัตรประจำด้วยกระดาษ a3 แปะไว้ข้างฝา ว่าผมบริจาคร่างกายแล้ว ศพผมจะได้มีประโยชน์ต่อคนรุ่นหลัง ไม่กลายเป็นผีไร้ญาติ

    เท่าที่ผมศึกษามา พวกสัมภเวสีน่าสงสารอย่างที่คุณนพว่า บางตนมาเขาสิงคนแค่ยืนยังยืนไม่ได้ บางตนก็พูดไม่ได้ต้องเขียน ซึ่งเขียนได้เล็กน้อยก็ทำท่าจะหมดแรง ร่างกายพวกนี้มันช่างอ่อนเปลี้ยเหลือเกิน ผมว่าอุทิศบุญให้พวกนี้ก็ดีน่ะครับ เผื่อเราตายไปเป็นผี กรรมดีอาจส่งผลให้มีคนอุทิศบุญให้เราบ้าง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤศจิกายน 2014
  6. nao7310

    nao7310 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +931
    ยุคนี้คนโสด หรือคนที่ใช้ชีวิตอยู่คนเดียวโดยไม่มีใครเพิ่มขึ้นทุกขณะ ดังนั้นต้องหาทางหนีทีไล่ไว้ให้ดี บ้านพักคนชราก็เข้าท่านะ มีคนคอยดูแลด้วย (กำลังคิดอยู่เหมือนกัน)
     
  7. chaokhun

    chaokhun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2012
    โพสต์:
    696
    ค่าพลัง:
    +5,701
    ตอนนั้นไปนั่งอยู่ที่สำนักงานบ้านพักคนชรา มีผู้สูงอายุท่านหนึ่งอายุ 60 ปีมาติดต่อขอใช้สิทธิ์ เจ้าหน้าที่แจ้งว่า จากสถิติล่าสุด ผู้ที่รอคิวเรียกจากบ้านพักคนชรา ใช้เวลา 12 ปี ดังนั้นต้องรอถึงอายุ 72 ปี จึงจะได้ใช้สิทธิ์
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,428
    ค่าพลัง:
    +35,035
    เห็นด้วยครับและก็เป็นอย่างที่คุณเข้าใจครับ.เมื่อ ๓ ปีก่อนส่วนตัว
    สร้างบารมีกลับกลุ่มนี้มาเยอะพอสมควรครับ.เรียกว่าไม่มีที่ไหน
    ที่ไปนอนแล้วไม่เจอครับ.หลังๆเจ้าที่สถานที่นั้นๆมาหาก่อนจะไปนอน
    ๒ วันก็มีครับ.เราก็งงๆว่าใครหนอหน้าไม่คุ้นเลย ๕๕๕
    เด่วขออนุญาต.ขอเสริมเล็กน้อยครับ.คิดว่ามีประโยชน์ครับ..
    พูดถึงกรณีที่เรามีโอกาสได้เห็นแล้วนะครับ..
    เวลาเราอุทิศส่วนกุศลให้ระดับสัมพะเวสีไม่ว่าจะตนใดก็ตาม
    เราควรพูดประโยคนี้ต่อท้ายด้วยครับ..
    ''แปรสภาพเป็นอะไรก็แล้วตามแต่ที่ท่านต้องการและขอให้เป็นของท่าน
    ตามที่ท่านปรารถนาเถิด''
    ไม่งั้นจะเกิดผลย้อนคืนกลับมาหาเราคืนมาอย่างที่เราคาดไม่ถึงและ
    ไม่รู้ตัวเพราะเราเข้าใจว่าเค้าได้รับแล้ว.
    เพราะกลุ่มนี้กำลังจิตเค้าจะยังไม่สูงพอที่จะพูดโมทนาได้ก็มีครับ
    จะไปพูดว่าใช้ให้เป็นท่านหมดหรือบอกให้ท่านโมทนา.
    ด้วยสภาพกำลังจิตของเค้ามันค่อนข้างยากครับ..
    เอาแค่จะปรากฏกายเทียบๆกับคนที่ต้องนั่งสมาธิให้ถึงระดับฌาน ๔ ครับ
    จึงไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยครับ.หรือถ้าจะปรากฏให้เราเห็นในสภาพดีๆเพื่อให้หัน
    ไปมองก็จะรักษาสภาพดีๆได้ไม่นาน(นี้ก็ต้องเสียชีวิตมาหลายขวบปีนะครับ)
    บางวิญญานก็อยู่มานานจนตัวดำปี๋..บางครั้งในเจตนาตั้งต้นที่ดีของเรามัน
    ก็แอบแทรกเรื่องที่ราวที่เราคาดไม่ถึงได้ครับ.
    .แต่การอุทิศส่วนกุศลก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราควรจะต้องสร้างและ
    ทำให้เป็นปกติครับ.ถ้าเรายังคิดว่าเป็นมนุษย์นะครับ
    เพราะจะเห็นมีแต่มนุษย์นะครับที่จะอุทิศส่วนกุศลได้..
    และจะเป็นเหตุฐานให้จิตเราเริ่มมีเมตตาขึ้นได้ครับ
    ไปที่ไหนภพภูมิจะมองเราเป็นมิตรและจะคอยคุ้มครองเราครับ..
    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่พิสูจน์มาแล้วครับด้วยตัวเองในระดับตาเปล่า
    ในสภาพแวดล้อมปกติเหมือนชาวโลกทั่วๆไป..ไม่ใช่ในนิมิตรที่เห็นคนเดียว
    หรือแบบแว๊บๆหางตา หรือแบบแว๊บหาย แว๊บหายครับ..
    เรียกได้ว่ามาแบบเห็นเป็นตัวเป็นๆ.
    แบบกลางวันเห็นๆ กว่าจะนึกคำว่าต้องพูดคำว่าแปรสภาพได้เนื่ย
    เอาว่ายกเว้นศรีษะเรานะครับเอาแค่มือข้างเดียวที่เค้าจับเราต่อหนึ่งตน
    ตั้งแต่แผ่นหลังจนถึงเท้าไม่มีที่ว่างพอจะให้มีมืออื่นๆมาแทรกได้
    คิดๆดูว่ามากี่ตน.และเป็นหลักนาทีเกือบ ๕ นาทีด้วยครับกว่าจะไปกันหมด..
    เพราะฉนั้นลองทำตามที่แนะนำไว้ก็ไม่เสียหลายครับ..
    ถ้าไม่เชื่อ รอโอกาสในการพิสูจน์ได้ด้วยตัวเองก็ไม่เสียหายครับ
    ถือว่าสนุกไปอีกแบบครับ ตื่นเต้นดีนะครับ ลองดูก็ได้ครับ..๕๕๕
    ขอบคุณครับ...
     
  9. Jasmin99999

    Jasmin99999 วันนี้ต้องดีกว่าเมื่อวาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +3,331
    พี่นพพูดว่าตัวดำปี๋นี่ก็ขอเล่าให้ฟังอีกเล็กน้อย อาจจะจริงหรือปลอมก็ไม่แน่ใจ

    ส่วนตัวก็ปฏิบัติสายหลวงปู่ดู่ ซึ่งจะมาเกี่ยวข้องกับความฝันที่จะเล่าต่อไปนี้

    วันก่อนฝันเห็นผีตัวดำๆ 3ตน เข้ามาในห้อง เพื่อนที่อยู่ในห้องก็หลับหูหลับตาไล่เขาออกไป
    ทั้ง3ตนร่ายกายเละๆดำๆตาถลนๆ ไม่มีผม เสื้อผ้าก็ขาดๆแหว่งๆเหมือนถูกไฟเผา

    เราเองก็ตกใจตอนที่เห็นแต่ตั้งสติได้ ผีก็ได้ออกจากห้องหายไปแล้ว เราก็วิ่งออกมาดูหน้าห้องเห็นเหลือตนเดียวกำลังเดินช้าๆห่างออกไปเล็กน้อย เราก็เลยรีบเรียก เขาก็หยุดและหันกลับมามอง ในใจเราก็กลัว แต่ก็อยากช่วย ก็ถามผีว่าชืออะไร เขาบอกชื่อกอบสุข (ถ้าจำไม่ผิด) เป็นผู้หญิง ดูทีท่าว่าเขาดีใจขึ้นมาเล็กน้อย (จะบอกว่ามีสีหน้าก็คงไม่ใช่ เพราะดำไปหมด ดวงตาก็ถลน มองเห็นลูกตา คือไม่มีเนื้อหนังมาปกปิด) พร้อมทั้งให้หวยเรา แต่ระยะนี้เราเลิกสนใจหวยแล้ว พอเขาบอกเราก็เลยชะงักนิดนึง แล้วเราก็ถามอยากได้บุญมั๊ย เขาก็ดูดีใจมากบอกว่าอยากได้ พร้อมทั้งเดินมาเอามือดำๆมาแตะบ่าเราทั้งสองข้าง แล้วเผชิญหน้าเขาใกล้ๆด้วย ทั้งกลัวทั้งสงสาร เราก็เลยกล่าว
    ,, บุญกุศลใดที่ข้าพเจ้าได้ทำมาตังแต่อดีตชาติจนถึงปัจจุบันชาติขออุทิศให้ผีตนนี้,,
    เงียบ!!! เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย... เขาก็ยังเหมือนเดิม แต่มีท่าทีเศร้าๆคงผิดหวัง
    เราก็เอาใหม่ พยายามช่วยอย่างเต็มที่ ก็ควานหาพระเครื่องหลวงปู่ดู่จะเอามากำภาวนาพระคาถามหาจักรพรรดิและจะอาราธนาท่านช่วยสัพเพฯให้ผีตนนี้ เราก็ตั้งอกตั้งใจเริ่มท่องด้วย นะโมตัสสะฯ เขาก็ดูจะทุกข์ทรมานจากนะโมฯ แต่เขาก็พอทนได้ เราเลยร่ายต่อ ยังไม่ทัน3จบ ปรากฎหลวงตาม้ามายืนอยู่ใกล้ๆ หลวงตาก็พูดเชิงถามกับผีว่าอยากไปอยู่สูงๆมั๊ย แต่ท่านก็ไม่รอคำตอบ ท่านก็อธิษฐานแผ่บุญในใจไม่กี่วินาทีผีก็หายไปแล้ว
    เราก็เลยถามหลวงตาผีหายไปไหน ท่านก็ตอบว่า ไปอยู่สูงสู้งแล้ว
     

แชร์หน้านี้

Loading...