ผีในสนามบิน

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย supatorn, 30 ธันวาคม 2017.

  1. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    PopGhost.jpg
    อาจารย์ยอด : พระอุ้มหมา ชีอุ้มแมว [ผี] new

    อาจารย์ยอด
    Published on Dec 28, 2017

    porbkalasin.jpg
    จับปอบที่กาฬสิทธุ์

    เกิดเหตุประหลาด ผู้หญิงเมืองน้ำดำหลายรายเกิดอาการคล้ายถูกผีเข้า ร้อนถึงพระเจ้าต้องออกโรงช่วยไล่วิญญาณร้ายกลางดึก
    วันนี้ (4 ก.พ.) ที่ จ.กาฬสินธุ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดคืนที่ผ่านมาได้เกิดเหตุการณ์ประหลาด มีผู้หญิงหลายราย อายุประมาณ 30-40 ปี จากต่างพื้นที่ เกิดอาการคล้ายถูกผีเข้า พูดจาไม่รู้เรื่อง ส่งเสียงร้องโหยหวน
    จนชาวบ้านหวาดผวา และเชื่อว่า ผีปอบเข้าสิงร่าง ญาติพี่น้องที่อยู่ในเหตุการณ์จึงได้นำตัวไปที่วัดดอนยานาง ต.ดอนสมบูรณ์ เพื่อให้พระภิกษุทำพิธีขับไล่วิญญาณร้ายออกไป
    พระครูประสุตธรรมสุนทร เจ้าอาวาสวัดดอนยานาง เปิดเผยว่า ช่วงนี้มีผีปอบออกอาละวาดหลายพื้นที่ เนื่องจากเป็นฤดูที่คนมีวิชาอาคมปล่อยของ หรือครอบครู ดังนั้น ชาวบ้านที่ออกหาของป่าในช่วงกลางคืนควรระมัดระวังวิญญาณร้ายเข้าสิง.
    ขอบคุณที่มา:- https://news.mthai.com/general-news/67268.html
    *พระมหาไพรวัลย์ แนะเลิกวิธีไล่ปอบ แค่เลิกเชื่อเท่านี้ก็ไม่มีแล้ว ชี้ควรกลัวคนมากกว่าผี
    ผีปอบ หรือการเป็นผีปอบ มักเกิดขึ้นกับผู้ที่มีวิชาทางไสยศาสตร์และมีมนต์ดำที่แก่กล้า สามารถใช้วิชาเหล่านั้นเพื่อไปทำร้ายผู้อื่นให้ถึงแก่ความตายได้ อาทิ การทำเสน่ห์ยาแฝด การเสกหนังควายเข้าท้อง การเสกตะปูเข้าท้อง หรือการใช้มนตราเพื่อบังคับภูติ ผี วิญญาณ ให้เข้าไปสิ่ง หรือกระทำในสิ่งที่ตนต้องการ เรื่องราวของผีปอบนั้นถูกเล่าขานกันมาเป็นเวลานาน และได้มีการถ่ายทอดเรื่องราวของผีปอบผ่านรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นละคร หรือภาพยนตร์ ซึ่งมีความแตกต่างกันไป แต่ในวันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเรื่องราวความเป็นมาว่าผีปอบนั้นเกิดขึ้นได้อย่างไร
    พระพุทธเจ้าได้ทรงระบุว่า วิชาที่เป็นไสยเวทย์มนต์ดำเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นเดียรฉานวิชา ทำให้ผู้ที่มีอาคมจะต้องมีข้อห้าม หรือข้อปฏิบัติกำกับอยู่ด้วยเสมอ และจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการละเมิดในข้อห้ามดังกล่าวโดยเด็ดขาด หากมีการละเมิด หรือกระทำผิดในข้อปฏิบัติ ชาวอีสานจะเรียกว่า “คะลำ” หรือ “ผิดครู” ซึ่งก่อให้เกิดโทษหนัก วิญญาณของบรมครูจะลงโทษคนที่ละเมิดข้อปฏิบัติโดยการสั่งให้ไปเป็นผีปอบ หรืออาจมองได้ในอีกแง่หนึ่ง ผู้ที่จะกลายเป็นผีปอบได้นั้นจะต้องเป็นผู้ที่ใช้วิชาอาคมอย่างหนัก และใช้ไสยเวทย์ดังกล่าวไปทำร้ายผู้อื่นอย่างไม่เกรงกลัวต่อบาป ตลอดจนการกระทำกรรมชั่วเป็นอาจิณ จนกระทั่งอาถรรพ์ของไสยเวทย์ย้อนกลับเข้ามาทำร้ายตนเองจนกลายเป็นผีปอบไปในที่สุด
    ประเภทของผีปอบ
    ผีปอบสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท โดยมีลักษณะทางกายภาพที่สามารถสังเกตเห็นได้ดังนี้



      • ผีปอบธรรมดา คือ คนที่มีร่างของผีปอบสิงสู่อยู่ เมื่อบุคคลเหล่านี้ได้ตายไป ผีปอบที่สิงอยู่ในร่างก็จะสลายตามไปด้วย
      • ผีปอบเชื้อ คือ หากในครอบครัวใดที่มีพ่อแม่เป็นผีปอบ เมื่อตายไป ลูกหลานจะต้องสืบทอดเชื้อสายการเป็นผีปอบต่อไปด้วย หรือในอีกแง่หนึ่งก็อาจเป็นการสืบต่อทางพันธุกรรมที่ไม่ว่าจะเต็มใจ หรือไม่เต็มใจก็ตาม ก็ต้องรับสืบทอดต่อกันไปไม่มีวันจบสิ้น
      • ผีปอบแลกหน้า คือ ผีปอบที่มีความเจ้าเล่ห์ มักชอบโยนความผิดไปให้ผู้อื่น กล่าวคือ เวลาที่ผีปอบประเภทนี้เข้าไปสิงใครคนใดคนหนึ่ง เมื่อถูกถามว่ามีผู้ใดเลี้ยง ผีปอบประเภทนี้จะไม่ยอมบอกความจริง แต่จะไปพูดจาโทษคนนั้นคนนี้โดยผู้ที่ถูกกล่าวถึงไม่ทราบเรื่องอะไรเลย
      • ผีปอบกักกึก คือ ผีปอบที่ไม่ยอมพูดจนกว่าจะมีคนถาม หรือจนกว่าจะมีญาติพี่น้องตามหมอผีมาขับไล่ ผีปอบจึงจะยอมเปิดปากพูดความจริงว่าใครเลี้ยงดูผีปอบตนนี้ไว้ หรือมีใครใช้ให้มาเข้าสิง ซึ่งในภาษาอีสานนั้น คำว่า “กึก” แปลว่า ใบ้
      • ลักษณะของผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิง
        ชาวอีสานมักเรียกผู้ถูกผีปอบเข้าสิงว่า “ปอบเข้า” โดยจะมีลักษณะอาการที่แตกต่างกันไป บางคนอาจแสดงลักษณะอาการก้าวร้าย ดุร้าย บางคนอาจนอนซมคล้ายกับคนป่วยไข้หนัก แต่บางคนก็อาจจะร่ำไห้ รำพึงรำพันไปต่างๆ นาๆ ลักษณะอีกหนึ่งอย่างที่เราสามารถพบเห็นได้อยู่ทั่วไป คือ ผู้ที่ถูกผีปอบเข้าสิงมักจะเรียกหาอาหารที่สุกๆ ดิบๆ อาทิ ตับหมู ตับไก่ เวลาที่กินก็จะมูมมาม แสดงความตะกละออกมา และกินจุได้มากกว่าปกติ ซึ่งเมื่อญาติพี่น้องที่รู้ว่ามีคนที่ป่วยนั้นกำลังถูกผีปอบเข้าสิงก็มักจะไปตามหมอผีให้มาช่วยขับไล่

        จุดกำเนิดของผีปอบตามความเชื่อ
        ว่ากันว่าผีปอบที่คนโบราณ หรือคนในยุคปัจจุบันนี้พบกันนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นวิญญาณผีปอบที่เกิดจากคนที่เรียนวิชาปอบที่ตายไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ เมื่อตนมีชีวิตอยู่ยึดติด ยึดมั่นในวิชาอย่างไร พอตายจากโลกนี้ไปก็ยังเป็นเช่นนั้น เช่น ยังอยากกินเนื้อดิบๆ เครื่องในสดๆ ก็เลยหาวิธีเข้าสิงคนเพื่ออาศัยร่างเหล่านั้นในการหากินของดิบๆ สดๆ ต่อไป มีภาวะคล้ายๆ กับ “สัมภเวสี” หรือ “อสูรกาย” ซึ่งผีปอบเหล่านี้เมื่อแผ่ส่วนบุญไปให้ พูดคุยขับไล่ก็จะออกง่ายกว่าพวกที่เรียนวิชาแล้วกลายเป็นผีปอบ หรือจำพวกที่มีการสืบทอดแท้ๆ หากเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่มีวิชาอาคมมาก และมีจิตแข็ง พลังจิตสูงจะไล่ยาก อีกทั้งยังสามารถเอาชีวิตคนที่มีเวรกรรมเนื่องต่อกันได้ เรียกว่า “ผีปอบเจ้ากรรมนายเวร” โดยผีปอบประเภทนี้สามารถทำบุญแผ่ส่วนกุศลให้สามารถอโหสิกรรมได้

        ได้รู้ประวัติความเป็นมาของการเป็น ผีปอบ กันแล้วเป็นยังไงกันบ้าง ? ถึงแม้ว่าในยุคสมัยนี้จะไม่ค่อยได้เห็นพิธีการไล่ผีปอบกันสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพิธีกรรมเหล่านี้จะหายไปจากสังคม สิ่งที่เราทำได้คือการใช้ชีวิตให้อยู่บนความสุจริต คิดดี ทำดี แล้วก็อย่าลืมหมั่นทำบุญทำทานกันด้วย เราจะได้อยู่รอดปลอดภัย ไม่สามารถมีภัยอันตรายใดใดมาทำลายเราได้
      • และอีกข้อสงสัยที่ว่า ทำไมปอบถึงต้องกินแต่ของคาว ของสด ตามตำนานของทางพระพุทธศาสนาเล่าว่า ผีปอบ คือ ผีสายยักษ์ อยู่ในสายการปกครอง ของท้าวเวสสุวัณ ที่เข้าสิงร่างมนุษย์ ก็เพื่ออาศัยร่างมนุษย์กินอาหาร โดยเฉพาะอาหารดิบๆ หรือ สัตว์เป็นๆ เช่น ไปหักคอเป็ด ไก่ ในเล้ากิน หรืออาศัยร่าง เหมือนเป็นร่างทรง

        แต่ไม่ใช่ว่าจะเข้าสิงได้ทุกคน จะเข้าสิงร่างมนุษย์ที่มีวิบากกรรมทางนี้ คือ อดีตเคยนับถือผีเป็นที่พึ่ง ที่ระลึกยามมีทุกข์ จนเป็นประเพณีธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา มีจิตผูกพันกับผี และกรรมทำปาณาติบาต ฆ่าสัตว์ เช่น ไหว้ผี บางทีก็ฆ่าสัตว์เล็ก เช่น เป็ด ไก่ บางทีก็ฆ่าสัตว์ใหญ่ เช่น วัว ควาย เป็นต้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ธันวาคม 2017
  2. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    อาจารย์ยอด : รวมเรื่องผี 4 [ผี] รวมเรื่องสยองส่งท้ายปีแบบฟังยาวๆ

    อาจารย์ยอด

    Published on Dec 30, 2017
     
  3. supatorn

    supatorn ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    41,479
    กระทู้เรื่องเด่น:
    169
    ค่าพลัง:
    +33,018
    ผีในสนามบิน
    แบบว่าเป็นเรื่องสยองขวัญอีกแล้ว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ
    ตัวผมเองก็อยู่ในเหตุการณ์บางส่วนแต่ไม่ทั้งหมด เลยไม่สามารถสรุปได้ว่า
    เป็นเรื่องจริงทั้งหมดหรือไม่ ขอเล่าเหตุการณ์แบบหลวมๆที่สุดนะครับ
    จะได้ไม่กระทบต่อองค์กรที่เกี่ยวข้อง คือ เคยมีผู้โดยสารเสียชีวิตภายในอาคารผู้โดยสาร
    โซนตะวันตก คอนคอร์สจี บริเวณหน้าเกทจีสี่

    เรื่องราวมีอยู่ว่าผู้โดยสารซึ่งเมาอยู่แล้วกำลังจะเดินทางกลับประเทศ
    แต่เนื่องจากผู้โดยสารได้ถือเหล้าที่ไม่ได้ซื้อจากดิวตี้ฟรี ภายในสนามบินทำให้ไม่มีการซีลปากถุง
    เพราะฉะนั้นผู้โดยสารจึงไม่อนุญาติให้นำเหล้าขวดนั้นขึ้นเครื่อง ผู้โดยสารด้วยความที่
    เสียดายหรืออย่างไรไม่ทราบจึงกระดกเหล้าขวดนั้นหมดภายในไม่กี่นาที หลังจากนั้นผ่านไปไม่นาน

    ผู้โดยสารก็ไปคอยอยู่หน้าเกทชั้นสี่ แต่ยังไม่ได้ลงไปในเกท ผู้โดยสารนอนถอดเสื้อ แสดงอาการ
    ว่าร้อนมากๆ แต่ก็ไม่มีใครสนใจ จนถึงเวลาที่สายการบินนั้นกำลังขาดผู้โดยสารอยู่ท่านเดียว
    เจ้าหน้าที่จึงได้ออกตามหาตามปกติ ก็ไปเจอผู้โดยสารท่านนี้นอนเสียชีวิตแล้วอยู่บริเวณหน้าเกทจีสี่

    นั้นคือความเป็นมาแบบคร่าวๆ ต่อมาเรื่องที่น่ากลัวคือ
    เหตุการณ์ข้างบนเกิดขึ้นประมาณช่วงตีสองตีสาม แต่พอมาตอนเช้า สายการบินที่ผมทำงานอยู่
    ก็ได้ออกปฏิบัติงานกันตามปรกติ ซึ่งส่วนมากเครื่องของสายการบินผมจะมาจอดที่คอนคอร์สจี
    เกือบจะทุกไฟลท์ ตอนนั้นยังไม่มีใครทราบเรื่อง ในขณะที่พนักงานสองสามคนเตรียมตัว


    airport-802008_960_720-1.jpg

    ไปรับเครื่องที่จะเข้ามาประมาณตีห้าครึ่ง ซึ่งตอนนั้นยังไม่สว่างซะทีเดียว
    แล้วบริเวณนั้นก็เงียบมากๆ มีผู้โดยสารไม่ใส่เสื้อ เดินเข้ามาถามเพื่อนผมและยื้นบอร์ดดิ้งพาสให้ดู
    แล้วถามว่า เกทที่อยู่ในบอร์ดิ้งพาสนี้ไปทางไหน เพื่อนผมด้วยความที่ไม่ทราบเรื่องมาก่อน
    จึงตอบไปตามปรกติว่าให้เดินไปทางซ้าย และความหวังดีจึงถามกลับไปว่าเครื่องของคุณ
    ออกไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ ให้ไปติดต่อพนักงานของสายการบินคุณแล้วก็ชี้
    ให้ผู้โดยสารท่านนั้นเดินกลับไปทางเคาน์เตอร์ อินเตอร์ไลน์

    เวลาผ่านไปโดยพวกเราไม่สงสัยอะไรเลย จนมาถึงตอนช่วงเย็น เพื่อนที่เข้ากะเมื่อคืน
    ได้เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อตีสองตีสามของวันเดียวกันให้ฟัง
    พวกเราฟังแล้วก็เฉยๆแต่ยังไม่ได้คิดอะไร จนเมื่อคนเล่าเอ่ยชื่อสายการบินนั้นว่าเป็นสายการบินอะไร
    ลักษณะผู้โดยสารเป็นยังไง เกทอะไร ไฟลท์ไปทีไหน เพื่อนที่เป็นคนพูดกับผู้โดยสารเมื่อเช้านี้
    ก็ขนลุกซู่เพราะลักษณะของผู้โดยสารตรงตามที่บอกทุกอย่าง แถมข้อมูลไฟลท์ก็ยังมาเหมือนกัน
    ตอนนี้เพื่อนยังกลัวไม่หาย ไม่กล้าไปรับเครื่องตอนเช้าอีกเลย


    ขอบคุณแหล่งที่มา : http://www.hflight.net/forum/v-print/m-1186146290/
     

แชร์หน้านี้

Loading...