ผู้ที่มีสิทธิ์โมทนาบุญ...ปัตตานุโมทนามัย

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย WebSnow, 10 ตุลาคม 2006.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. WebSnow

    WebSnow ผู้ก่อตั้งเว็บพลังจิต ทีมงาน Administrator

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2003
    โพสต์:
    8,682
    กระทู้เรื่องเด่น:
    129
    ค่าพลัง:
    +64,012
    ๒๑. ปัตตานุโมทนามัย

    ใน บุญกิริยาวัตถุ ๑๐คือ หนทางแห่งการทำบุญ ๑๐ ประการ ได้บอกวิธีทำบุญทั้งสิบอย่างไว้ ดังนี้...

    ๑. ทานมัย บุญสำเร็จด้วยการให้ทาน
    ๒. สีลมัย บุญสำเร็จด้วยการรักษาศีล
    ๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จด้วยการภาวนา
    ๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จด้วยการอ่อนน้อมถ่อมตน
    ๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จด้วยการช่วยเหลืองานบุญผู้อื่น
    ๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จด้วยการอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้อื่น
    ๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จด้วยการยินดีในผลบุญของผู้อื่น
    ๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จด้วยการฟังธรรม
    ๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จด้วยการสอนธรรม
    ๑๐. ทิฏฐุชุกัมม์ บุญสำเร็จด้วยการมีความเห็นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม


    โอ๊ย...! เวียนหัว...มีใครจำไ้ด้หมดมั้ยเนี่ย...? ถ้าไม่ชอบของยากจะอ่านข้าม ๆ ไปก็ได้ ในบุญทั้ง ๑๐ อย่างที่ว่ามา การโมทนา บุญคนอื่นน่าจะทำได้ง่ายที่สุด แต่ถ้าลองทำดูแล้วจะทราบว่า มันยากเย็นเข็ญใจเหลือกำลัง เพราะลึก ๆ ในใจแล้ว เรามักมีความอิจฉาริษยา ซ่อนอยู่ เหมือนที่ หลวงวิจิตรวาทการ ท่านกล่าวไว้ว่า..."อันที่จริงคนเขาอยากเห็นเราดี แต่เราเด่นขึ้นทุกทีเขาหมั่นไส้"

    การโมทนาบุญคนอื่นนั้น เจ้าของบุญเขาได้ดีเพียงไร ผู้โมทนาก็จะได้อย่างนั้นด้วย ตัวอย่างคือ พระนางพิมพาราชเทวี ตามโมทนาผลบุญขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาทุกชาติ ชาติสุดท้ายพระพุทธเจ้าบรรลุมรรคผล พระนางก็บรรลุไปด้วย...

    ผลบุญชนิดเดียว ที่ผู้รับไม่ต้องโมทนาก็ได้รับ จัดเป็นผลบุญที่พิเศษจริง ๆ คือ บุญจาก การบรรพชาอุปสมบท กล่าวกันว่า แม้ลูกเกิดมาในวันนั้น พ่อแม่ก็แยกทางไป ผู้อื่นเลี้ยงมาจนเติบใหญ่ ถ้าลูกบวชเมื่อไหร่ พ่อแม่จะได้รับส่วนบุญทันที (ง่ายดีจัง...) ส่วนบุญอื่นต้องโมทนาทั้งสิ้น (ถ้าแค่โมทนายังขี้เกียจ ก็อย่าเอามันเลย...!)

    หลวงพ่อเคยอุทิศส่วนกุศล ให้แก่ผีที่นายนิรยบาลคุมมา พอโมทนาก็พ้นจากการทรมานทุกอย่าง กลายเป็นเทวดาสบายไป นายนิรยบาลเห็นอย่างนั้นก็ขอบ้าง หนีไปเป็นเทวดา ไม่ต้องมาเหนื่อยยาก กับการทรมานสัตว์นรกอีก...(เอาเปรียบกันนี่หว่า...!)

    ผู้ที่มีสิทธิ์โมทนาบุญ (ไม่มีชื่อ ไม่มีบัตร ไม่มีสิทธิ์ นะจ๊ะ) นั้นประกอบด้วย เปรต ๑๒ จำพวก ที่เรียกว่า ปรทัตตูปชีวีเปรต อสุรกาย ๔ ประเภท สัมภเวสี เทวดาทุกชั้น พรหมทุกชั้น (เว้นอสัญญีสัตตาพรหม และ อรูปพรหม ๔ ชั้น) และ พระบนนิพพาน นอกเหนือจากนี้ไม่มีสิทธิ์จ้ะ ต้องรอแก้รัฐธรรมนูญเอ๊ย..ไม่ใช่...รอจนกว่าจะมีสิทธิ์...ฮิ...ฮิ...!

    ผู้ที่โมทนาบุญเขารู้จักเลือก ต้องเป็นการทำบุญที่เป็นบุญจริง ๆ เขาจึงจะโมทนา ถ้าเป็นบุญผสมบาป เขาไม่โมทนาให้โง่หรอก เพราะผลบาปมันจะพาเขาไปทุกข์หนักขึ้น อาตมาเจอมากับตัวเองเลย ตอนนั้น ไปงานทำบุญ ๗ วันของแม่ยายแจ๋ว (เด็กที่ร้านค้าในวัด)

    กำลังสวดมนต์อยู่ดี ๆ แม่ยายแจ๋วก็เดินเข้ามาหา (อย่าลืมว่าแกตายแล้วนะ...แฮ่...) มาถึงก็ไม่พูดพล่ามทำเพลง ขอส่วนกุศลเลย อาตมาบอกว่า เขากำลังทำบุญให้ เดี๋ยวโมทนากับลูกหลานก็แล้วกัน ยายผีทีเด็ดตอบว่า "ไก่ที่ท่านจะฉัน มันไม่ได้ตายเองเจ้าค่ะ...!"


    หลวงพ่อท่านไปเจอเทวดาที่หลังวัดคุยกัน หัวหน้าเทวดาถามบริวารว่า "บ้านโน้นเขากำลังมีงานบุญกัน มีใครไปโมทนาบุญกับเขาบ้าง...?" บรรดาลูกน้องทำหน้าเบ้...รายงานว่า "ไม่ไหวหรอกครับ มันเมากันทั้งงาน แถมล้มหมูล้มวัวกันอีกต่างหาก ไม่รับประทานละครับ"..

    .
    อาตมาไปเข้าใจคำว่า โมทนาบุญ ตอนที่พาโยมแม่ไปหาหมอ ที่โรงพยาบาลราชวิถี ขากลับโหนรถเมล์กลับ มีหญิงสาวคนหนึี่ง กำลังท้องแก่ใกล้คลอดเต็มที ขึ้นรถที่หน้าห้างโรบินสัน ดูท่าทางเธอแล้วสงสารใจจะขาด ถ้ามีที่นั่งอาตมาคงสละให้เธอทันที...


    ก็พอดี...มีสุภาพบุรุษท่านหนึ่ง สละที่นั่งให้แก่เธอ อาตมารู้สึกเย็นวาบเข้าไปในอก มันสว่างไสวไปทั้งโลก...โอหนอ...ขณะที่เราอยากทำบุญใจจะขาด แต่โอกาสไม่เปิดให้ ก็มีท่านผู้ใจบุญได้ทำบุญส่วนนั้นแทนเรา...!

    มันชื่นอกชื่นใจบอกไม่ถูก รู้สึกเป็นมิตรกับคนทั้งหมดในโลก อิ่มอกอิ่มใจไปหลายวัน ที่แท้การโมทนาบุญผู้อื่นเป็นสุขเช่นนี้เอง...!




    ๑ มีนาคม ๒๕๓๓


    พระเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    บันทึกเพิ่มเติม ห้างโรบินสัน ปัจจุบันนี้คือ ​
    ห้างแฟชั่นมอลล์


    ๘ กรกฎาคม ๒๕๔๙
    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺปญฺโญ



     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 27 กันยายน 2013
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...