ฝรั่งสีชมพู หรือ ฝรั่งขี้นก ... ผลไม้ที่ถูกลืม แต่กลับสูงด้วยคุณค่า

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย phuang, 26 เมษายน 2005.

  1. phuang

    phuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 มกราคม 2005
    โพสต์:
    4,033
    ค่าพลัง:
    +10,040
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=360 align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top align=left><TD class=hTdNormal3>[​IMG]ฝรั่งสีชมพู หรือ ฝรั่งขี้นก ... ผลไม้ที่ถูกลืม แต่กลับสูงด้วยคุณค่า

    [​IMG] หากเอ่ยชื่อ ฝรั่งสีชมพู หรือ ฝรั่งขี้นก คนสมัยก่อนคงจะรู้จักกันดีว่า เป็นผลไม้ทรงกลม ขนาดปานกลาง ที่มีเนื้อทั้งสีขาว เหลือง ชมพู กลิ่นหอม แต่ส่วนมากแล้วผู้คนไม่ค่อยนิยมนำมารับประทานเพราะเนื้อค่อนข้างเละและไม่กรอบเหมือนฝรั่งลูกโตๆ ในปัจจุบัน ซึ่งหาไม่รู้ว่าฝรั่งผลเล็กเหล่านี้มีสารอาหารมากมายที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ <DD>สารสำคัญที่มีอยู่ในฝรั่งสีชมพูนั้น ไม่เพียงแต่มีวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงร่างกายในเรื่องการมองเห็น การเจริญเติบโตของกระดูก และการสร้างเซลล์ และควบคุมอุณหภูมิคุ้มกันของร่างกาย [color=#8000]ยังมีวิตามิน C ที่มีมากกว่าส้มถึง 5 เท่าในปริมาณที่เท่ากัน[/color]

    <DD>วิตามิน C มีคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ชะลอและป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ที่มักเกิดจากความเครียด การดื่มแอลกอฮอล์ ฝุ่น และควันบุหรี่ และแสงแดด เสริมสร้างและรักษาสภาพของเนื้อเยี่อคอลลาเจน ทำให้ผิวสมบูรณ์แข็งแรง ช่วยสมานแผลและยังดีต่อเนื้อเยื่อของกระดูกและฟัน ดูดซึมธาตุเหล็ก เสริมการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ป้องกันหวัด และลดความเสี่ยงจากการเป็นมะเร็ง ทั้งยังมีใยอาหารที่ช่วยขับเคลื่อนอาหาร ลดอาการท้องผูก ริดสีดวงทวาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ อีกทั้งมีแนวโน้มทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือดต่ำ และยังช่วยป้องกันโรคหัวใจอีกด้วย

    <DD>แต่คุณสมบัติที่โดดเด่นของฝรั่งสีชมพู คือ สารไลโคปีน ซึ่งมีมากรองจากมะเขือเทศ แต่มากกว่ามะละกอถึง 2 เท่า ว่ากันว่า ไลโคปีนประกอบด้วยการ Antioxidant ที่เรียกว่า แคโรทีนอยด์ ที่พบมากในผักและผลไม้ที่มีสีแดง ชมพู เช่น มะเขือเทศ ฝรั่งสีชมพู แตงโม มะละกอ มีสรรคุณต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะแสงแดดไลโคปีนยังช่วยกระตุ้นการเพิ่มขึ้นของเคราติโนไซต์ อันจะช่วยทำให้เซลล์ผิวชั้นนอกแข็งแรงขึ้น แต่ไลโคปีนก็ยังเก็บยากคล้ายวิตามิน C

    <DD>ในยุคแรกๆ ไลโคปีนอยู่ในรูปสารสกัดจะแปรปรวนและตกผลึกง่าย ไม่สามารถดูดซึมสู่ผิว แต่เทคโนโลยีใหม่สามารถคงสภาพไลโคปีนด้วยการย่อขนาดโมเลกุลให้อยู่ในรูปของนาโนแคปซูล ไลโคปีนตามธรรมชาติมีหน้าที่ในการจับรังสียูวี แล้วแปลงให้อยู่ในรูปของพลักงานให้กับคลอโรพลาสต์ (คลอโรฟิลล์ในเซลล์ของพืช) เพื่อปกป้องพืชจากไฟโต-ออกซิเดชั่น เมื่อมีประสิทธิภาพเช่นนี้แล้ว นักวิทยาศาสตร์จึงผันไลโคปีนเข้าสู่วงการเสริมความงาม ซึ่งไลโคปีนจะช่วยกระตุ้นระบบการฟื้นฟูผิว

    <DD>เมื่อเห็นประโยชน์มากมายของฝรั่งขี้นก หรือฝรั่งสีชมพูแล้ว ถ้าเจอะเจอ ก็หามารับประทานกันได้แล้ว ถือได้ว่าเป็นทางเลือกในการเสริมความงามอีกทางนึงเลยทีเดียว ที่มา : อิตัลไทยอุตสาหกรรม

    </DD></TD></TR></TBODY></TABLE>

    <HR class=hLine1 align=center width="90%" noShade SIZE=1>
     

แชร์หน้านี้

Loading...