พบแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ พระปรางค์สระเพลง อายุกว่าพันปี

ประสานกรมศิลปากรเตรียมผลักดัน พระปรางค์สระเพลง อายุกว่าพันปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอภิชา เลิศพชรกมล ส.ส. เขต 9 พรรคภูมิใจไทย (ภท.) พร้อมด้วย นายชำนาญ กฤษณะสุวรรณ ผู้อำนวยการ กลุ่มอนุรักษ์โบราณสถาน สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา , นายวีระชาติ พงค์ชนะ นักโบราณคดีปฏิบัติการ กลุ่มโบราณคดี สำนักศิลปากรที่ 10 นครราชสีมา ได้เดินทางมาสำรวจเพื่อที่จะพัฒนา ปรางค์สระเพลง อายุเกือบ 1,000 ปี สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 ที่เพิ่งที่ค้นพบเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงโบราณคดีแห่งใหม่ ตามนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา โดยมี นายวุฒิชัย มูลกระโทก ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนจำนวนมากให้การต้อนรับ

นายอภิชา เปิดเผยว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและการกีฬา ต้องการที่จะส่งเสริมการท่องเที่ยวในชุมชนให้มีจุดขายของแต่ละท้องที่ เพื่อต้องการให้ชุมชนมีรายได้ สามารถเลี้ยงตนเองได้ จึงต้องการที่จะผลักดันการท่องเที่ยว ปรางค์สระเพลง ซึ่งตั้งอยู่ บ้านกระโทก ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัยจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นโบราณสถานศิลปะเขมรโบราณ ทับหลังก่อด้วยหินทราย หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีสระน้ำ 1 แห่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และมีบารายขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ห่างออกไปทางทิศตะวันออกโบราณสถานหลังนี้ยังไม่ได้มีการขุดค้นทางโบราณคดี แต่จากหลักฐานที่ปรากฏสันนิษฐานได้ว่าน่าจะสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 ซึ่งกรมศิลปากรประกาศ ขึ้นทะเบียนและกำหนดเขตที่ดินโบราณสถานปรางค์สระเพลง ในราชกิจจานุเบกษาเล่ม 53 ตอนที่ 34 วันที่ 27 กันยายน 2479 และเล่ม 98 ตอนที่ 104 วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2524 เนื้อที่ 32 ไร่ 3 งาน 96 ตารางวา โดยจะต้องมีการสำรวจ และเสนองบประมาณ เพื่อที่จะมาพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้ได้

นายวุฒิชัย เปิดเผยว่า ได้มีการทำประชาคมหมู่บ้านเพื่อที่จะผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว และมีการทหารงานกับหน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นกรมศิลปากร และสมาชิกผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ที่จะผลักดันงบประมาณมาพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เนื่องจากว่า ปรางค์สระเพลง มีอายุเก่าแก่กว่า 1,000 ปี ชาวบ้านไม่อยากให้ทิ้งรกร้างเหมือนดูไม่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ และอยากให้สืบทอดต่อถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน เพื่อที่จะไว้ให้ศึกษาวัฒนธรรมที่ผ่านมา จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาช่วยผลักดันอย่างจริงจัง

นายชำนาญ เปิดเผยว่า หลังจากสำรวจพื้นที่ จะมีขั้นตอนเป็นงานขุดค้นทางโบราณคดี ซึ่งจะต้องตรวจสอบดูก่อนว่ารูปแบบของโบราณสถาน มันเป็นมายังไง โดยกรมศิลปากรจะมีนักโบราณคดีขุดค้น และลองประกอบหิน ที่หล่นมา ว่าสามารถนำมาใช้ได้มากน้อยขนาดไหน โดยสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16 – 17 ประมาณ 900 – 1,000 ปี เป็นสถาปัตยกรรม วัฒนธรรมของศาสนาพุทธแบบมหายานโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ในสมัยชัยวรมันที่ 7 โดบพบรูปแบบแผนผังประกอบด้วย กำแพงแก้วปราสาทประธานบรรณาลัย ซุ้มประตู ประจำศาสนาศาสนสถาน เรียกรวมกันว่าอโรคยาศาล มีสระน้ำประจำชุมชน ต้องเป็นสระน้ำขนาดใหญ่ ใช้อุปโภคบริโภค กับสระน้ำประจำศาสนสถาน ใช้ในพิธีกรรม หลังจากนี้ต้องมีการขุดตกแต่งดูสภาพพื้นที่นำมาทดลองประกอบกลับ แล้วจะนำมาบูรณะได้มากน้อยขนาดไหน ซึ่งงบประมาณในการขุดเพื่อดูรายละเอียดรอบข้างต้องใช้ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ส่วนงบประมาณในการพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยวก็คนละส่วนกัน ซึ่งต้องใช้งบอีกหลายล้านบาท






















——————-

ณัฐพงศ์ อรชร ผู้สื่อข่าวนครราชสีมา

Shares :

เปิดอ่าน 2 ครั้ง

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกัน ไลน์@komchadluek ที่นี่

ขอขอบคุณที่มา
http://www.komchadluek.net/news/local/385346