พบ”พระผงสมเด็จอุทยาน”ของเจ้าคุณนรรัตน์ฯ

3 ม.ค.2561 ที่วัดอุทยาน ต.บางขุนกรอง อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีประชาชนต่างเดินทางมายังที่วัดอุทยานอย่างต่อเนื่อง เพื่อบูชา “พระผงสมเด็จอุทยาน” ของทางเจ้าคุณนรรัตน์ฯ(ธมฺมวิตกฺโก ภิกขุ )วัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร ที่เพิ่งพบอยู่ใต้ฐานองค์พระประธานในโบสถ์ เมื่อช่วงต้นเดือนธ.ค.61 ที่ผ่านมา

พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ หรือ พระอาจารย์ศรี โอภาโส เจ้าอาวาสวัดอุทยาน เปิดเผยว่า พระผงสมเด็จอุทยาน นี้เป็นของท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ สร้างขึ้นเป็นที่ระลึกในงานวางศิลาฤกษ์สร้างโบสถ์วัดอุทยาน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เมื่อปี 2511 ทางพระมหาสงัด สุวิเวโก วัดเทพศิรินทราวาส พระนคร กุฎิ 10 ผู้จัดทำและบันทึก ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2511




พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าวว่า ในบันทึกของพระมหาสงัดฯ ระบุข้อความว่า ปี 2511 (พุทธศักราช) อาตมามีความประสงค์ต้องการเชิญ ท่านสาธุชน มีท่านเจ้าของโรงพิมพ์ พรรณศิริ และคณะศิษย์เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง จัดหาปัจจัยเพื่อ รวมสมทบในงานพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างโบสถ์ วัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี โดยอาตมาได้จัดสร้างพระ เครื่องพิมพ์แบบสมเด็จ วัดระฆัง พระนคร และมีพระกริ่งโลหะ แบบพระบูชาเชียงแสน จำนวนรวมกันประมาณ หนึ่งหมื่นองค์



พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าวว่า พระเครื่องพิมพ์สมเด็จ (แบบสมเด็จวัดระฆัง) นั้น พระมหาสงัดฯ ได้นำมวลสาร ศักดิ์สิทธิ์ ที่ได้จำนวนมาก คือพระของวัดอมตรส พระนคร ที่ชำรุดแตกหัก ผงเกษรดอกไม้ ผงพระเก่าต่างๆที่ผู้มีจิตศรัทธา กรุณานำมามอบให้ โดยสามารถสร้างได้จำนวน ห้าพันองค์ ส่วนพระกริ่ง โลหะแบบบูชาเชียงแสน ทางเจ้าของโรงพิมพ์ พรรณศิริและคณะศิษย์ชาวพระนคร ได้นำมาจำนวนมาก สามารถสร้างพระกริ่งได้ห้าพันองค์








พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าวต่อว่า ในบันทึกของพระมหาสงัดฯ ยังบอกว่า หลังสร้างเสร็จได้แจ้งไปยังศิษย์และผู้มีจิตศรัทธา ได้ร่วมบุญ โดยนำปัจจัยที่ได้ทั้งหมด สมทบทุนในงานวางศิลาฤกษ์ สร้างอุโบสถ์ วัดอุทยาน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ต่อ และทางหลวงพ่อนรรัตน์ฯ(ธมฺมวิตกฺโก ภิกขุ ) ท่านได้เมตตาอนุญาต ให้นำพระเครื่องทั้งหมด ไปบรรจุในชุกชีภายในโบสถ์ วัดเทพศิรินทราวาส โดยท่านได้ปลุกเสก ให้ตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม ปี 2511 (ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปี วอก) เป็นวันวิสาขบูชา ตลอดเป็นระยะเวลา 7 วัน 7 คืน จนถึงวันที่ 18 พฤษภาคม ปี 2511

พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าวว่า ในบันทึกของพระมหาสงัดฯ ยังระบุคำพูดของ หลวงพ่อนรรัตน์ฯ ที่มีต่อพระมหาสงัดฯว่า ให้นำพระที่อยู่ในชุกชีทั้งหมดออกไปใช้ประโยชน์ ต่อพระพุทธศาสนาเถิด เนื่องจาก หลวงพ่อนรรัตน์ฯ ไม่เคยสร้างโบสถ์เหมือนกัน จึงขอร่วมโมทนาบุญครั้งนี้ด้วยนะและอธิษฐานจิตให้พระคุณเจ้า และสมเด็จอาจารย์ช่วยให้สำเร็จด้วยดี

พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าวว่า ในพิธีการนั่งปลุกเสกในครั้งนั้น หลวงพ่อนรรัตน์ ท่านนั่งปลุกเสกตลอดรุ่ง คือตั้งแต่ 6 โมงเย็น ถึง 6 โมงเช้าโดยไม่ลุกขึ้นเลยเป็นเวลา 12 ชั่วโมงเต็ม นับว่าหาได้ยากยิ่ง โดยขณะนั้นทางพระมหาสงัดฯได้บันทึกภาพไว้ด้วยแสงธรรมชาติไม่ใช้ไฟช่วย เพราะเกรงว่าแสงไฟจะไปรบกวนหลวงพ่อนรรัตน์ฯ ที่กำลังอยู่ในสมาธิ ภาวนาจิตบริสุทธิ์อย่างยิ่ง ก่อนจะนำออกมาให้ญาติโยมได้บูชา ซึ่งสามารถหาปัจจัยช่วยสมทบทุนสร้างอุโบสถ์ กระทั้งแล้วเสร็จ จึงได้นำ พระผงสมเด็จอุทยาน ที่เหลือจำนวนไม่มาก เก็บไว้ใต้ฐานพระประธานในอุโบสถ์ จนกระทั้งมาพบเมื่อปลายปีที่ผ่านมา

พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าวว่า กล่าวว่า อาตมาทราบอยู่แล้วในเบื้องต้น ว่ามีพระอยู่ใต้ฐานพระประธานในอุโบสถ์ แต่ไม่ทราบว่าเป็นพระอะไร จึงไม่ได้ดูหรือค้นหา จนกระทั้งมีโยมนำหนังสือของมหาสงัดฯ ที่เขียนบันทึกมาให้เลยเข้าไปดูพบว่า มีพระผงสมเด็จอุทยาน อยู่จริง จึงได้ทำพิธี กราบขอขมานำพระผงสมเด็จอุทยานออกมา เพื่อนำไปใช้ประโยชน์แก่พุทธศาสนา โดยทางวัด ได้ ตั้งกองผ้าป่าครอบครัวสามัคคีบูชาแผ่นดิน ถวายเป็นของสงฆ์เพื่อความสมบรูณ์ ครอบครัวละ 1 กอง กองละ 2,561 บาท หรือตามศรัทธา

พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าวว่า เนื่องด้วยปัจจุบัน วัดอุทยาน ได้จัดซื้อที่ดิน 1 แปลง 857 ตารางวา ตารางวาละ 30,000 บาท ซึ่งเป็นที่ดินติดกับทางวัดอุทยาน เพื่อจัดสร้างเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม แก่ผู้สูงอายุและทุกๆท่าน คงเหลืออีกเพียง 51 ตารางวา ก็จะครบตามจำนวน. ทางวัดได้ดำเนินการซื้อที่ดิน ในช่วงปี 2560 และจะทำการโอนเป็นของวัดอุทยานในปี 2561 จึงเชิญร่วมบุญครั้งสมบรูณ์ด้วยเทอญ

“ขอเชิญเพื่อมีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าภาพถวายที่ดิน เป็นของสงฆ์ เพื่อเป็นสมบัติในพระพุทธศาสนา สืบนานเท่านาน โดยทางวัดอุทยาน ได้เปิดจองผ้าป่าสามัคคี ตั้งแต่ปัดนี้เป็นต้นไปใครเป็นเจ้าภาพ 1 กอง จะได้รับพระผงสมเด็จอุทยาน 1 องค์ ไปบูชา โดยมีกำหนดทอดผ้าป่าในวันที่ 17 มิถุนายน 2561 สำหรับผู้ที่จองเป็นเจ้าภาพผ้าป่า สามารถมารับพระได้หลังเสร็จพิธีทอดผ้าป่าแล้ว สอบถามได้ที่โทร 087-030-5246″พระครูนนทมงคลวิศิษฐ์ กล่าว

ขอขอบคุณที่มา
http://www.komchadluek.net/news/regional/307986