"พรของสมเด็จโต"

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย titawan, 3 มกราคม 2011.

  1. titawan

    titawan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2008
    โพสต์:
    2,290
    ค่าพลัง:
    +5,139
    [FONT=Tahoma,]"พรของสมเด็จโต"

    โลกนี้ไม่สิ้นกลิ่นธรรม

    ศิษย์อาจารย์เสฐียรพงษ์ วรรณปก -พิสุทธิ์ เกรียงบูรพา



    จันทร์ แรกของปีนี้ ยังเป็นช่วงแห่งวันหยุดชดเชยเทศกาลปีใหม่ ผมจึงอยากจะเริ่มต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๔ นี้ ด้วยเรื่องที่ทุกคนชอบใจใคร่อยากได้รับ ได้มีกันไว้เยอะๆ...คือเรื่องของ "พร" นั่นเอง ระวังนะ ประเด็นเรื่อง "พร" ที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ อาจเป็นพรในมิติ ที่ใครต่อใครหลายคนไม่ชอบกันก็ได้ ลองพิจารณากันดู

    พวกเราส่วนใหญ่ ใครบ้างไม่อยากได้พร บางคนแค่ได้ยินเสียงคณะสงฆ์ตั้ง ยถา...ฯลฯ มาแต่ไกล ก็รีบวางงานทุกอย่าง แล้วพนมมือก้มหัวเพื่อที่จะรับพรนั้น เพื่อนผมคนหนึ่ง ทั้งจิตและวิญญาณติดหนึบฝังแน่นอยู่แต่กับพระป่าผู้โด่งดังรูปหนึ่ง ขึ้นขับรถเมื่อไร เป็นต้องเปิดฟังคลื่นท่านเมื่อนั้น ครั้นเปิดถึงตอนเวลาท่านจะกล่าว สวดยถา...ให้พร เพื่อนแกต้องรีบพนมมือรับพรเดี๋ยวนั้น หากมือไม่ว่าง เพราะบางทีกำลังสาวพวงมาลัยเลี้ยวรถ หรือกำลังจ่ายเงินค่าทางด่วนให้พนักงานอยู่นั้น ก็ยังต้องยกมือพนมข้างเดียว (เป็นพระจีนอามิตตาพุทธไป) ก็ยังดี บางทีผมเอง ก็อดสงสัยไม่ได้เนอะ ว่า...

    ถ้าเราไม่พนมมือรับพร แล้วเราจะไม่ได้พรนั้นหรือ?

    คนที่พนมมือรับพร จะได้พรมากกว่าคนที่ไม่อาจพนมมือได้ในขณะนั้น งั้นหรือ?

    คนที่ไม่เคยฟังพระให้พรตลอดชีวิต ก็จะไม่ได้รับพรเลยตลอดชีวิต งั้นหรือ?

    เพื่อนนำปฏิทินจีน ที่เปิดเป็นวันต่อวัน มามอบให้ ผมแกะพลาสติกทันที แล้วเปิดแบบสุ่มๆ ข้างใน ก็พบกลอนเปล่าภาษาจีน เกี่ยวกับ "พร" ที่แปลเป็นไทยไว้อย่างน่าสนใจ...



    ไร้วาสนา อย่าขอ "พร"

    บุญมา ดวงดี ได้เงินทอง

    ความร่ำรวย หากขอกันได้

    ในโลกนี้ ก็จะไม่มีคนจน


    อ่านแล้วชอบมาก เขาให้ทัศนคติเกี่ยวกับเรื่อง "ขอพร" ในเชิงพุทธได้อย่างชัดเจน เรียบง่ายมาก ผมว่า "พร" นั้นเป็นเรื่องที่ดีนะครับ ยังจำเป็นแก่คนหมู่มากอยู่ แต่ผมแค่อยากกระตุก ให้ฉุกคิดขึ้นมาหน่อยว่า อย่างมงายในพรจนเกินไป อย่ามัวเอาแต่นั่งรอพรจะปรากฏในชีวิตตน จนลืมสร้างเหตุให้ตัวเองไปเสียฉิบ ชาวพุทธ มีหลักกรรมที่ชัดเจนและวิเศษสุดอยู่แล้ว ปลูกส้ม ย่อมได้กินส้ม วันยังค่ำ ยังไงเราก็ควรจะต้องเชื่อในหลักกรรม มากกว่าหลัก "พร" นะครับ หรือไม่ก็เชื่อเรื่อง "พร" ตามหลักของกรรมด้วยนั่นแหละ จึงจะปลอดภัยที่สุด

    เขียน เรื่องอย่างนี้ แล้วอดนึกถึงคำสอนของเกจิอาจารย์รูปหนึ่งไม่ได้ ท่านเป็นถึงพระชั้นสมเด็จ แต่กลับระวังเรื่องการให้พรอย่างมาก บ่อยครั้งท่านจะให้พร แล้วแฝงการสอนธรรมแบบเซนไปโดยปริยาย ท่านคือ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต) พรหมรังสี ผู้เป็นพระเกจิ ๕ แผ่นดิน สถิตอยู่คู่บ้านคู่เมืองสยามประเทศของเรามาร่วม ๒ ศตวรรษแล้ว

    ครั้งหนึ่งท่านให้พรแก่ครอบครัวหนึ่ง ซึ่งถวายสังฆทานเสร็จแล้ว ว่า

    "ขอให้ปู่ตายก่อนพ่อ พ่อตายก่อนลูก ลูกตายก่อนหลาน"

    ทำเอาสาธุชนหน้าเสียไปตามๆ กัน หาว่าไปแช่งบ้าง ต่อว่าท่านว่ากล่าววาจาไม่เป็นมงคลบ้าง ต่อเมื่อท่านได้แสดงความหมายให้ฟังต่อ

    "ไม่เป็นมงคลที่ตรงไหน หรือจะให้หลานตายก่อนลูก ลูกตายก่อนพ่อ พ่อตายก่อนปู่???"

    เท่านั้น ทุกคนก็ร้องอ๋อ ได้ธรรมะไปในตัวเสร็จสรรพ พบสัจธรรมชีวิตในธรรมที่ท่านแสดง ซึ่งผมว่ามีคุณค่ามากกว่าพรธรรมดาอีกนะ

    เจ้าประคุณสมเด็จ หรือที่พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ มักตรัสเรียกท่านว่า "ขรัวโต" หรือที่พวกเราคุ้นกับคำว่า "หลวงพ่อโต" นั้น คงเล็งเห็นถึงอนาคตกาล ว่าพุทธบริษัทเราอาจจะเฝ้างมงาย จนอาจเกิดลัทธิ "รอผลดลบันดาล" ที่จะเกิดขึ้นจาก "พร" ได้ แม้จะในอนาคตอีก ๒ ร้อยกว่าปีข้างหน้าก็ตาม ท่านจึงเมตตาฝากอมตะวาจาไว้แก่ลูกหลานดังนี้

    "ลูกเอ๋ย...ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อน...เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอจึงค่อยยืมบารมีของคน อื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะหนี้สินในบุญบารมีที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว...เมื่อทำบุญทำกุศลได้ บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว...แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า...หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเอง...

    ...จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้...ครั้นถึงเวลา...ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้า ไม่อยู่...จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน...เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย...จะมี ใครที่ไหนมาช่วยเจ้า"

    ครับ "พร" ก็ดี "บารมี" ก็ดี เป็นเรื่องที่เราต้องสร้างกันเองด้วยนะครับ

    ทาน-ศีล-ภาวนา อย่าได้ประมาท ชะล่าใจ ให้บกพร่อง ต้องขวนขวายทำกันขึ้นมานะครับ ไม่งั้น จะเป็นดังคำที่หลวงพ่อโต ท่านตักเตือนไว้

    "บุญเราไม่เคยสร้าง ใคร (พร) ที่ไหนจะมาช่วยเจ้า!"

    [/FONT][​IMG]

    http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROamIyd3hPVEF6TURFMU5BPT0=&sectionid=TURNd013PT0=&day=TWpBeE1TMHdNUzB3TXc9PQ
     
  2. OmGaneshPornJuntra

    OmGaneshPornJuntra Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2010
    โพสต์:
    97
    ค่าพลัง:
    +51
    จิงค่ะอาจาร์ของนู๋ก็สอนนู๋อยู่เสมอว่า"หากลูกไม่เคยคิดจะช่วยตัวเองก่อนแล้วใครเค้าจะมาช่วยลูกได้ หากลูกไม่เคยสร้างความดีเลยไม่มีฐานบารมี เหล่าทวยเทพเทวดาที่ไหนก็ช่วยลูกไม่ได้ อิทฤทธิ์แพ้กรรมฤทธิ์ กรรมฤทธิ์แพ้บุญฤทธิ์" ^/\^ สาธุ
     
  3. yindee1917

    yindee1917 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    229
    ค่าพลัง:
    +211
    ชินะ ปัญชะระ ปะริตตัง มังลัคขะตุ สัพพะทา
     
  4. พระเมตตาธัมโม

    พระเมตตาธัมโม สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    31
    ค่าพลัง:
    +20
    ขออนุโมทนาท่านเจ้าของกระทู้
    ขอแก้คำพระบาลีข้างต้นหน่อยนะ ที่ถูกต้องเป็น...

    ชินะปัญชะระปะริตตัง มัง รักขะตุ สัพพะทา.

    คำแปล
    ขอพระปริตชินบัญชร จงรักษาข้าพเจ้า ตลอดกาลทุกเมื่อ เทอญ.
     

แชร์หน้านี้

Loading...