พระกริ่ง เททอง วัดดีหลวง ฤกษ์จันทรคราส

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย jummaiford, 31 ตุลาคม 2014.

  1. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    พระกริ่งจันทรคราส ครั้งนี้ผมได้นิมนต์
    พ่อท่านเขียว เททองหล่อ พระกริ่งสามพิมพ์
    คือพระกริ่งเฉลิมพล พระกริ่งปวเรศ พระกริ่งใหญ่

    เททอง ณ วัดดีหลวง สทิงพระ สงขลา
    เททองด้วยเนื้อนวโลหะสัมฤทธิ์ เเก่ชนวนพระรุ่นนี้ เททองในวัดทุกองค์
    พ่อท่านเขียว เมตตานั่งปรกเททองเป็นเวลาสองชั่วโมง เรียกว่าเสกเเบบเต็มๆเปิดตาเสก

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0035.JPG
      IMG_0035.JPG
      ขนาดไฟล์:
      1.9 MB
      เปิดดู:
      2,256
  2. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    [​IMG]

    ประวัติพระกริ่งเฉลิมพล ของข่าวสด

    เสด็จพระองค์ชายกลางทรงมีความเกี่ยวพันกับตำนานการสร้างพระหลวงปู่ทวด วัดช้างให้ เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากท่านทรงคบหาสนิทสนมเป็นมิตรกับคหบดีใหญ่ปักษ์ใต้คือ คุณอนันต์ คนานุรักษ์ และได้รับมอบพระเครื่องหลวงปู่ทวดเนื้อว่านปี 2497 จากคุณอนันต์มาหนึ่งองค์โดยทรงบูชาติดตัวประจำ ครั้งหนึ่งรถยนต์ที่ประทับเกิดอุบัติเหตุพลิกคว่ำ แต่องค์เองไม่มีอันตรายแม้แต่รอยขีดข่วน ทำให้ท่านเกิดความศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวด วัดช้างให้ อย่างสูง และเมื่อทางวัดโดยพระอาจารย์ทิม และ คุณอนันต์ คณานุรักษ์ จะจัดสร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวดปี 2505 ท่านจึงปวารณาตัวขอเป็นผู้อุปถัมภ์ในการจัดสร้าง และได้นำชนวนโลหะอันศักด์สิทธิ์มาเทหล่อเป็นเนื้อโลหะต่างๆ ที่กรุงเทพมหานคร กลายเป็นพระรุ่น พ.ศ.2505 ที่ลือลั่นมาจนถึงปัจจุบัน ในการจัดสร้างพระครั้งนั้น เนื่องด้วยเสด็จพระองค์ชายกลางเป็นผู้อุปถัมภ์ จึงสำเร็จลุล่วงด้วยดี และท่านได้จัดสร้าง "พระกริ่ง" อันงดงามด้วยพุทธลักษณะขึ้นในครั้งนั้นด้วย เมื่อทำการหล่อพระกริ่งได้โปรดให้ช่างแกะแม่พิมพ์ขึ้น และเททองปลุกเสกโดยพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้พร้อมกันกับพระเครื่องหลวงปู่ทวดปี 2505 ครั้นเสร็จจากพิธีเสด็จ ท่านได้ถวายพระกริ่งซึ่งสำเร็จขึ้นมีพุทธลักษณะงดงามให้กับวัดช้างให้จำนวน 300 องค์ ซึ่งเรียกกันต่อมาว่า "พระกริ่งใหญ่หลวงปู่ทวด" หรือ "พระกริ่งวัดช้างให้" ส่วนที่เหลือทรงนำมาถวายให้วัดตาก้อง ด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรนั้นท่านได้ฝากตัวเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และปลุกเสกอีกวาระโดยเกจิอาจารย์สายนครปฐม ผู้คนเรียกกันว่า "พระกริ่งเฉลิมพล" ซึ่งทั้งสองประเภทได้รับความนิยมแสวงหาจากนักสะสมอย่างยิ่ง และต่อมาผู้คนก็พลอยเรียกพระกริ่งของวัดช้างให้ว่าพระกริ่งเฉลิมพลไปด้วย



    แต่หากพิจารณากันแล้วกริ่งที่แยกกันดังกล่าวมีส่วนต่างกันก็คือ พระกริ่งเฉลิมพล วัดตาก้อง จะมีการอุดกริ่งที่ฐานและมักจะมีการตอกหมาย เลขกำกับ พร้อมโค้ดลายเซ็น "เฉลิมพล" ซึ่งอาจจะมีเพียงตัวเลข หรือพระนามอย่างใดอย่างหนึ่งก็ได้ บางองค์พบว่ามีเพียงโค้ดตัว ฉ ตอกกำกับ บางองค์ไม่ตอกก็ยังมี ส่วนพระกริ่งวัดช้างให้นั้นบรรจุเม็ดกริ่งแบบกริ่งนอก คือคว้านก้นใส่เม็ดกริ่งแล้ว อุดฐานลักษณะของพระกริ่งเฉลิมพลทั้งสองวัด เป็นการเทหล่อแบบโบราณจึงมีคราบดินขี้เบ้าปรากฏ มีการแต่งบ้างเล็กน้อย พุทธลักษณะงดงาม องค์พระประทับนั่ง ปางมารวิชัย สมาธิเพชร พระ หัตถ์ซ้ายทรงวชิระหรือหม้อน้ำมนต์ เป็นแม่พิมพ์แบบไม่ประกบจึงไม่มีรอยประกบด้านข้าง องค์พระค่อนข้างเพรียวยาว พระเนตรนูนเป็นตาเนื้อ อุณาโลมเป็นเม็ดกลม ด้านหลังไม่มีกลีบบัว กระแสจะออกทางแดงอมน้ำตาล มักพบรอยตะไบแต่งขอบข้างเป็นริ้วบางๆปัจจุบัน "พระกริ่งเฉลิมพล" เป็นที่เสาะแสวง หาของบรรดาผู้นิยมสะสมอย่างมากทีเดียวเชียวครับผม
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    เนื่องในโอกาส ที่ผมได้รู้จักและผูกพันกับวัดดีหลวงนานนับสิบปี ตั้งแต่สมัยผมเรียน แพทย์ ที่ภาคใต้ ผมเองรู้เลยว่า คาบสมุทรสทิงพระ เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ของยุคโบราณศรีวิชัย เป็นปีนักษัตร หนึ่งใน12นักษัตร ซึ่งรวมกับเมืองพัทลุง นั่นเอง และ วัดดีหลวง เป็นวัดที่สมภารรูปแรกชื่อ สมเด็จเจ้าจวง หรือหลวงลุงจวง ลุงแท้ๆที่เป็นพระอุปปัชฌาย์ของหลวงพ่อทวดสมัยเป็นสามเณรปู สมัยที่ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ยังมีชีวิตอยู่ ตอนขณะประทับทรง ได้ทราบถึงท่านศักดิ์สิทธิ์ แห่งเขื่อน ช้างให้ ว่าคือหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดแต่ยังไม่ใคร่ทราบประวัติอะไรต่างๆ ซึ่ง ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ได้สอบถามพระน้องชายคือพระใบฎีกาขาว ซึ่งขณะนั้นพระขาวมีเพื่อนอยู่วัดตานีสโมสรและทำให้ทราบว่ามีพระของสทิงพระบอกว่า มีตำนานหลวงพ่อรูปนึงเรียกว่าสมเด็จเจ้าพะโค๊ะเหยียบน้ำทะเลจืด ซึ่งท่านอยู่ที่วัดพะโค๊ะลังกาชาติ ซึ่งเป้นวัดสำคัญหัวเมืองในสมัยนั้น และวัดดีหลวง ก็เป็นหนึ่งในวัดสำคัญที่หลวงพ่อทวดท่านเคยมาอยู่มาอาศัยและบวชเณรที่วัดนี้ แน่นอนว่าวัดนี้เกี่ยวพันกับหลวงพ่อทวดอย่างไม่ต้องสงสัย จากการที่ผมเองได้ค้นเจออัฐิธาตุหลวงพ่อทวด ที่ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ นำมาถวาย พ่อท่านลั่น วัดดีหลวง อดีตเจ้าอาวาส ผมมีดำริว่า จะสร้างพระเจดีย์หลวงพ่อทวดและอยากจะทำให้วัดดีหลวงให้สมเป็นวัดที่หลวงพ่อทวด พระในตำนานได้เคยมาอยู่ แน่นอนว่าจะเป็นการยากลำบากหากทำงานนี้อยู่คนเดียว แต่ผมเองที่ไม่กลัวเพราะรู้ว่า ตัวเองทำอะไรอยู่และไม่ได้หากินกับพระศาสนา ผมเลยตัดสินใจว่าในวาระอันเป็นมงคล ผมจึงทำการสร้างพระกริ่ง สามชนิด สามพิมพ์ดังนี้
    พระกริ่งเฉลิมพล
    พระกริ่งปวเรศ
    พระกริ่งใหญ่


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    [​IMG]


    โดยที่พระกริ่งแรกที่จะออกให้สั่งจองเอาไว้คือพระกริ่งเฉลิมพล หากถามว่า พระรุ่นนี้สร้างอะไรอย่างไรจำนวนเท่าไหร่มวลสารดีหรือไม่อย่างไร ผมขออธิบายสั้นดังนี้ว่า

    พระกริ่งเฉลิมพล เป็นพระกริ่งสายตรงหลวงพ่อทวดเคียงคู่กับพระกริ่งบาเก็งของวัดเอี่ยมวรนุช ในสมัยอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ยังมีชีวิตอยู่จะมีเพียงสองกริ่งนี้เท่านั้น ที่ท่านอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ได้เมตตาปลุกเสกและเข้าทำเนียบพระกริ่งยอดนิยมของท่านอาจารย์ทิม ซึ่ง มาถึงปัจจุบัน คนสืบทอดการปลุกเสกหลวงพ่อทวด นับจากอาจารย์ทิม อาจารย์นองวัดทราบขาวล่วงลับไปแล้ว เห็นจะมีแต่ พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ วัดห้วยเงาะ ปัตตานี ที่ยังสืบทอดตำนานการปลุกเสกของวัดช้างให้ ตั้งแต่ปี2497ถึงปัจจุบัน ในสมัยก่อน หลวงพ่อทวดเข้าประทับทรงอาจารย์ทิม แล้วสื่อกันทางในทราบว่า ยุคแรกท่านให้สร้างเป็นพระดินดำคือกากยายักษ์ต่อมาพระหมดและนิยม จึงมีการสื่อกับดวงวิญญาณหลวงพ่อทวด ทราบว่า หลวงพ่อท่านอยากให้ทำเป็นพระให้ลูกหลานไว้ห้อยมากกว่าเพราะว่า ไม่แตกสลาย ลูกหลานจะได้ไม่เสียใจ จึงเกิดพระโลหะรุ่นต่างๆตามมาภายหลัง ของวัดช้างให้ในยุคต่อๆมา ส่วนเรื่องพระกริ่งเฉลิมพล นั้น สร้างถวายท่านอาจารย์ทิม โดย
    พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพร หรือเสด็จองค์ชายกลาง ซึ่งมีความเคารพนับถือท่านอาจารย์ทิม เป็นผู้สร้างถวายท่านอาจารย์ทิม และวัดตาก้อง ซึ่งเสด็จพระองค์ชายกลาง รวมเสด็จองค์ชายใหญ่และเสด็จองค์ชายเล็กล้วนแล้วแต่ เป็นศิษย์เจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราชแพ ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ พระองค์ท่านจะสร้างพระกริ่งถวายอาจารย์ทิม วัดช้างให้ ดังนั้น พระกริ่งเฉลิมพล นับว่าเป็นพระกริ่งที่พิเศษเพราะเป็นเจ้านายชั้นสูงเป็นผู้สร้าง ในยุคหลังจากยุคอาจารย์ทิม มีการสร้างพระกริ่งเฉลิมพล มากมายหลายสิบหลายร้อยรุ่นแล้ว ต่างได้รับความนิยมในสายหลวพ่อทวดอย่างยิ่ง ผมเองเห็นเป็นโอกาศดีมหามงคลจึงว่าจ้างช่างหล่อพระกริ่งที่รู้ใจนำเครื่องมือรวมทั้งหุ่นเบ้าพิมพ์ทั้งหมดสุมไฟตั้งเตาหลอมหล่อพระและทำการเททองหล่อแบบเข้าดินไทยมูลวัวแบบโบราณ และทำในพื้นแผ่นดินศักดืสิทธิ์คือ วัดดีหลวง อันเป็นวัดบ้านเกิดหรือถิ่นกำเนิดของพระมหาโพธิสัตว์ที่คนนับถือทั้งประเทศ โดยนิมนต์ พ่อท่านเขียว กิตติคุโณ เททองเดี่ยว โดยวันที่เททองเป็นวันออกพรรษา พ่อท่านเขียวเมตตาเดินทางมาจากปัตตานีถึงสทิงพระ โดยเดินทางหลังจากทำสังฆกรรมออกพรรษาเรียบร้อยตามพระธรรมวินัย มาถึงวัดดีหลวง ยามค่ำคืน เวลาประมาณทุ่มเศษ ได้ทำการเททองท่ามกลางศิษย์หลวงพ่อทวด เจริญพระคาถาพระพุทธคุณตลอดเวลาการเททองและสุมทอง ในฤกษ์ ราหูอมจันทร์ ฤกษ์จันทรคราส เสกจนคราสคลาย กลับร้ายกลายเป็นดีพลิกและหนุนดวง มนุษย์หรือจะสู้สวรรค์บันดาลคนบันดลสมปรารถนาทุกประการ
    พระกริ่งเฉลิมพล หล่อด้วยโลหะ นวโลหะสัมฤทธิ์ สร้างจำนวน500องค์


    http://palungjit.org/attachments/a.3302464/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    มวลสารที่นำมาหล่อพระกริ่งเฉลิมพล
    ชนวนพระกริ่งสมัยสมเด็จพระสังฆราชแพ ถึง เจ้าคุณศรีสนธิ์
    ชนวนพระกริ่งหลวงปู่โต๊ะ
    ชนวนพระกริ่งชินบัญชร บวรวิไชยชาญ รุ่นแรก พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะ
    ชนวนพระกริ่งบาเก็ง ปวเรศเพชรกลับ พ่อท่านเขียวเททอง วัดพระบรมธาตุ
    ชนวนสัมฤทธิ์โบราณ สมัยลพบุรี และเศษพระอยุธยาชำรุด น้ำหนักสามสิบกิโลกรัม
    ชนวนพระกริ่งที่สร้างเองทุกรุ่นอย่างเข้มข้น
    ชนวนหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่วัดดีหลวง
    มวลสารชนวนทั้งหมดจำนวน80กิโลกรัมล้วนๆ ผสมทองแดงบริสุทธิ์ 60กิโลกรัม หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวไม่มีเนื้อพิเศษพิสดารหรือเข้มข้นใดๆพิเศษ เรียกว่าสุดๆ นำมาเททองหล่อพระกริ่งเฉลิมพลนี้ล้วนๆ
    ไม่มีคำบรรยายใดๆว่าจะขลังอย่างไรเพราะ พ่อท่านเขียว วัดห้วยเงาะท่านนั่งเททองครบทุกองค์ใช้เวลาสองชั่วโมงเต็มๆ เสกทั้งเตาและเบ้าหลอมเสกทั้งหุ่นและเททองจนครบทุกองค์นพิธีชัดเจนสุดๆ เพราะว่าทำจริงๆและเสกจริงๆ
    หลังจากเททองในฤกษ์ราหูอมจันทร์แล้ว วันรุ่งขึ้นเป็นวันพระเจ้าเปิดโลก
    นำพระกริ่งทั้งหมด ไปเสกโดยพระเกจิพระภาวนาจารย์ในพระอุโบสถ วัดดีหลวง
    1 พ่อท่านแสง วัดศิลาลอย สทิงพระ สงขลา
    2 พ่อท่านมหาวรรณ วัดจะทิ้งพระ สงขลา
    3 พ่อท่านอิ้น วัดนิคมเทพา สงขลา
    4 พ่อท่านมหาอุทัย วัดดอนศาลา พัทลุง
    5 พ่อท่านเอียด วัดโคกแย้ม พัทลุง
    6 พ่อท่าน พรหม วัดบ้านสวน พัทลุง
    7 พ่อท่านตุด สุสานคอกช้าง
    8 พ่อท่านขาว วัดพรุพ้อ
    พระเกจิที่นิมนต์มาผมเป็นคนเลือกที่จะนิมนต์ด้วยตนเองด้วยศีลาจริยวัตรอันงดงามไม่ได้ดูที่ความเข้มขลังเพียงอย่างเดียว เรียกว่าเกจิตัวจริงเสียงจริงและผมนับถือท่านทุกองค์ที่นิมนต์มา เมตตามาสวดญัติและปลุกเสกพระทั้งหมดด้วยตนเอง และในพิธีปลุกเสกไม่มีการตีฆ้องร้องป่าวไม่มีเสียงแตรสังข์อะไรทั้งสิ้น ปิดโบถส์เสกท่ามกลางความเงียบสงบจะว่าไปได้ยินแม้เสียงลมหายใจเงียบขนาดนั้น ทำแบบบ้านๆง่ายแต่แฝงด้วยความเข้มขลัง ไม่ต้องถามหรอกว่าพระรุ่นนี้ดีอย่างไร เอาเป็นว่า นี่คือตำนานหน้าหนึ่งของพระกริ่งเฉลิมพล ยุคนี้เช่นกัน

    ยังไม่ได้เขียนถึงมวลสารที่จะอุดในพระกริ่งเฉลิมพลชุดนี้ อดใจรอ รับรองว่า สำคัญและต้องดีอย่างแน่นอน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0001.JPG
      IMG_0001.JPG
      ขนาดไฟล์:
      646.5 KB
      เปิดดู:
      109
    • IMG_0002.JPG
      IMG_0002.JPG
      ขนาดไฟล์:
      615.2 KB
      เปิดดู:
      131
    • IMG_0062.JPG
      IMG_0062.JPG
      ขนาดไฟล์:
      568 KB
      เปิดดู:
      129
  6. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    การจองครั้งนี้เปิดจองทั้งห้าร้อยองค์เเต่จะไม่มีการจองโดยระบุเลข เพราะประสบการณ์จากงวดก่อนๆทำให้เกิดความยุ่งยากในการจัดส่งเเละทำให้มีโอกาศส่งสลับเบอร์สลับคนทำให้เข้าใจผิดดังนั้นเพื่อความสบายใจจึงให้จองเเบบไม่ระบุเบอร์
     
  7. jummaiford

    jummaiford เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    10,501
    ค่าพลัง:
    +38,931
    "...มูลเหตุที่ สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ทรงสร้าง "พระกริ่ง" และ "พระชัยวัฒน์" ...ทรงเล่าว่า เมื่อครั้งพระองค์ดำรงสมณศักดิ์เป็น "พระศรีสมโพธิ์" นั้น สมเด็จพระวันรัต (แดง) ซึ่งเป็นสมเด็จพระอุปัชฌาย์ได้อาพาธเป็นอหิวาตกโรค สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ครั้งยังทรงเป็น "กรมหมื่น" ได้เสด็จมาเยี่ยม รับสั่งว่า เคยเห็น สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ อาราธนา "พระกริ่ง" แช่น้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้คนไข้ที่เป็นอหิวาตกโรคกิน จนหายเป็นปกติ จึงรับสั่งให้มหาดเล็กไปนำ "พระกริ่ง" ที่วัดบวรฯ แต่สมเด็จฯทูลว่า "พระกริ่ง" ที่กุฏิมี จึงรับสั่งให้นำมาแล้วอาราธนา "พระกริ่ง" แช่น้ำอธิษฐานขอน้ำพระพุทธมนต์ แล้วนำไปถวาย สมเด็จพระวันรัต (แดง) เมื่อท่านฉันแล้วโรคอหิวาต์ก็บรรเทาหายเป็นปกติ"
     

แชร์หน้านี้

Loading...