"พระนราธิป"ลาสิกขากลัวศาสนามัวหมอง

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 9 พฤศจิกายน 2005.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    "พระนราธิป"ลาสิกขากลัวศาสนามัวหมอง




    พระนราธิปลาสิกขาบทกับเจ้าอาวาสวัดหัวเขาสามัคคี ออกจากพื้นที่แบบเงียบๆทันที พระครูศิริธรรมปะยุต เผย ทัดทานแล้วแต่หยุดพระนราธิปไม่ได้ ด้านประชาชนแห่ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่วัดอย่างต่อเนื่อง


    เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 9 พ.ย.พระครูปลัดนราธิปหรือ นายนราธิป กาญณวัฒน์ อดีตนักร้องดังวงชาตรี ที่บวชมานานกว่า 17 ปี และปัจจุบันเป็นเจ้าอาวาสวัดเนินรังวรปัญญา(ลานนางฟ้า)ได้ลาสิกขาบทจากการเป็นพระแล้ว

    โดยการลาสิกขาบทครั้งนี้ได้ทำการลากับพระครูศิริธรรมปะยุต เจ้าอาวาสวัดหัวเขาสามัคคี เจ้าคณะตำบลยางราก อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี การลาสิกขาบทครั้งนี้ทางนายนราธิป หรืออดีตพระนราธิปให้เหตุผลว่าต้องการที่จะแสดงความรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นและกับการกระทำของทั้งเองทั้งหมด ซึ่งไม่เกี่ยวกับคณะสงฆ์ที่ได้ลงมาตรวจสอบการออกเทปรักเหนือเมฆ หรือการออกหนังสือไอ้หน้าโง่แต่อย่างใดทั้งสิ้น

    หลังจากที่นราธิปได้ปลดผ้าเหลืองออกแล้วก็ไดเดินทางเข้ากรุงเทพเพื่อหลบความวุ่นวายใจกับเรื่องทั้งหมดโดยจะให้ข่าวในทีหลังจากการลาสิกขาบทครั้งนี้ เพื่อให้ความกระจ่างชัดว่าทำไหมถึงตัดสินใจกลับมาลาสิกขาบทจากความเป็นพระ

    ทางด้านพระครูศิริธรรมประยุต เจ้าอาวาสวัดหัวเขาสามัคคี เปิดเผยว่า ครั้งแรกก็รู้ศึกตกใจมากที่พระครูปลัดนราธิปเดินเข้ามาพบพร้อมบอกว่าจะขอลาสิกขาบทจากความเป็นพระเพื่อรับผิดชอบกับการกระทำของท่านทั้งหมดที่เกิดขึ้น เพื่อไม่ให้เสื่อมเสียมาถึงพระพุทธศาสนา และไม่ต้องการให้ใครเอาศาสนาไปทำในสิ่งไม่ดีจึงขอลาสิกขาบทดีกว่า

    พระครูศิริธรรมประยุต กล่าวต่อว่า ตนเองได้พยายามที่เกลี่ยกล่อมให้ท่าพระนราธิปอยู่ต่อเพราะสิ่งที่ท่านทำไปจริงแล้วก็ไม่ได้ผิดพระวินัยอะไรเพียงแต่ว่าการทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมเท่านั้น แต่ทางพระครูนราธิปก็ยืนยันขอลาสิกขาบทอย่างเดียวตนเองจึงได้ทำการสึกให้ตามที่ท่านต้องการ ซึ่งหลังจากสึกจากพระมานายนราธิป กาญจนวัฒน์ แล้วก็ได้เดินทางออกจากวัดทันที่โดยทางอาตมาก็ไม่ทราบว่าไปที่ใด

    ด้านพระครูสุวัฒน์จันทโชติ รองเจ้าคณะอำเภอโคกเจริญ เปิดเผยว่าการตัดสินใจของพระครูนราธิปในครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับทางคณะสงฆ์แต่อย่างใดเพราะทางตนเองตรวจสอบแล้วก็ไม่พบว่าผิดทางวินัยอะไรแต่ก็ได้ตักเตือนไปว่ามีความไม่เหมาะสมเพราะว่าเรื่องการออกเทปและการออกหนังสื่อแบบนี้เป็นเรื่องของทางโลกไม่เกี่ยวกับทางธรรมแต่อย่างใด

    รองเจ้าคณะอำเภอโคกเจริญ กล่าวต่อว่าทางคณะสงฆ์คงต้องเร่งส่งพระเข้าไปดูแลวัดเนินรังวรปัญญา(ลานนางฟ้า) โดยเร็วที่สุดพร้อมกับจะให้เจ้าอาวาสคนใหม่เป็นผู้จัดการในวัดโดยเฉพาะเรื่องที่พระครูนราธิปนำเอาวัดเป็นสถานที่ตั้งบริษัทบุษบาจตุพิธพรศิริ ในการจัดขายเทปเพลงและหนังสือนั้นหลังการสึกคงหมดอำนาจลง ในส่วนเรื่องสถานีวิทยุชุมชนที่ตั้งอยู่ในวัดก็คงต้องพิจารณาต่อไปว่าจะทำกันอย่างไรต่อ
    ขณะที่บรรยากาศภายในวัดเนินรังวรปัญญา (ลานนางฟ้า)มีประชาชนที่ทราบข่าวเดินทางไปตรวจข้อเท็จจริงกันอย่างต่อเนื่องแต่ก็ไม่พบนายนราธิปแต่อย่างใด และในวัดก็ดูเงียบเหงาผิดจากที่นายนราธิปอยู่โดยกุฏิทุกหลังถูกล็อกไว้หมดร้านค้าที่เคยมีของขายก็ปิดเงียบ


    ที่มา : คม ชัด ลึก
     
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    "ย้อนหลัง" >> ข่าว

    บุกวัดลานนางฟ้าสอบ 'พระนราธิป'


    จนท.กรมการศาสนา บุกสอบข้อเท็จจริง "พระนราธิป" ถึงวัดลานนางฟ้า พบ "กุ๊กไก่" ยันหนังสือเป็นเรื่องจริง แต่งขึ้นก่อนบวช คณะสงฆ์ลพบุรีนำเรื่องเข้าที่ประชุม เปิดโอกาสให้ชี้แจง แต่ไม่ได้ข้อสรุป นัดถกใหม่อีกรอบ 8 พ.ย. เบื้องต้นให้ระงับแจกลายเซ็นบนหนังสือและปกซีดี "พระนราธิป" ยันเรื่องในหนังสือเป็นธรรมะ แม้บทเพลงรักก็เป็นธรรมะ



    ตามที่ "คม ชัด ลึก" นำเสนอเรื่องราวของพระปลัดนราธิป สันตจิตโต หรือนายนราธิป กาญจนวัฒน์ อดีตหัวหน้าวงชาตรี ออกหนังสือ "ไอ้หน้าโง่" และซีดีเพลงอัลบั้ม "รักเหนือเมฆ" โดยเนื้อหาในหนังสือพูดถึง "กุ๊กไก่" หรือนางบุษบา จตุรพิธพรศิริ ในฐานะน้องสาวผู้ร่วมประพันธ์บทเพลงชื่อดังในอดีต ล่าสุด กรมการศาสนาได้ส่งตัวแทนลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วว่า การกระทำดังกล่าวเหมาะสมกับเพศบรรพชิตหรือไม่

    เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 7 พฤศจิกายน นายพิสิฐ เจริญสุข ผอ.กลุ่มส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมประชาชน สำนักพัฒนาคุณธรรมจริยธรรม กรมการศาสนา เดินทางไปที่วัดเนินรังวรปัญญาราม (วัดลานนางฟ้า) ต.ยางราก อ.โคกเจริญ จ.ลพบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ไม่พบพระนราธิป เนื่องจากไปประชุมสงฆ์ประจำเดือนที่วัดสามัคคีประชาราม ต.ยางราก โดยมี "กุ๊กไก่" หรือนางบุษบา ออกมาต้อนรับ พร้อมกับนำหนังสือ "ไอ้หน้าโง่" และซีดีเพลง ที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมมาประกอบการชี้แจง

    นางบุษบา ชี้แจงว่า หนังสือเล่มนี้พระนราธิปเขียนขึ้นก่อนออกบวช มีเจตนาบริสุทธิ์ เพื่อเป็นอนุสรณ์เตือนใจการใช้ชีวิตคู่ ไม่ได้เป็นอย่างที่สังคมกำลังจับตามองว่า ตนกับพระนราธิปมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง ความจริงทุกอย่างอยู่ในหนังสือเล่มนี้ สำหรับซีดีเพลงนั้นตนเป็นคนนำไปอัด เป็นเทปคาสเซท ก่อนจะนำมามอบให้พระนราธิป ในวันเกิดของพระนราธิปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการสอบถามข้อเท็จจริง นางบุษบาได้พยายามโทรศัพท์หาพระนราธิป เพื่อสอบถามว่าจะเดินทางกลับมาเมื่อไร เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่กรมการศาสนามารอพบอยู่ที่วัดลานนางฟ้า ต่อมาเจ้าหน้าที่กรมการศาสนาจึงเดินทางไปที่วัดสามัคคีประชาราม ซึ่งกำลังมีการประชุมคณะสงฆ์ประจำเดือนพฤศจิกายน มีพระเมธีรัตโนดม รองเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เป็นประธานการประชุม เจ้าหน้าที่กรมการศาสนาจึงขอเข้าร่วมด้วย โดยในที่ประชุมรับทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว พร้อมกับเปิดโอกาสให้พระนราธิปชี้แจงเรื่องราวทั้งหมด

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสงฆ์ครั้งนี้ ไม่เปิดโอกาสให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมรับฟัง อย่างไรก็ตามในที่ประชุมยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรกับพระนราธิป กรณีออกหนังสือและซีดีเพลงวางจำหน่ายที่วัดลานนางฟ้า พร้อมกับแจกลายเซ็นหน้าปกหนังสือ จึงจะนำเรื่องดังกล่าวเข้าประชุมหารือกับพระเทพวิสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดลพบุรี อีกครั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ แต่เบื้องต้นให้พระนราธิประงับการแจกลายเซ็น ส่วนการจำหน่ายหนังสือและซีดีเพลงสมควรทำในรูปคณะกรรมการวัด จะเหมาะสมกว่าทำในรูปแบบของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง

    พระนราธิป ยืนยันกับ "คม ชัด ลึก" ว่าการออกซีดีและหนังสือ "ไอ้หน้าโง่" ต้องการสื่อถึงธรรมะ ใช้เตือนสติคนที่ใช้ชีวิตคู่ทุกคน ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นธรรมะทั้งหมด โดยเฉพาะการครองเรือนของสามีภรรยา ในอดีต "นราธิป" เป็นเทพบุตรของเพลงรัก เนื้อหาเลยเกี่ยวข้องกับความรักๆ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของโลก คำบางคำในบทเพลง เช่น ขาดเขาเราอยู่ ก็เป็นธรรมะ บางท่อนของเพลงก็เป็นธรรมะ เช่น สามีไม่อยู่เราอยู่คนเดียว ลำบากก็ต้องอยู่ ตลอดชีวิตของคนเป็นธรรมะหมด ดังนั้นจึงต้องการให้สังคมรู้ว่า ฟังเพลงก็เป็นธรรมะได้ ทุกสิ่งสอนเราหมด ให้ได้เรียนรู้และเป็นอุทาหรณ์สอนใจ

    "สาเหตุที่มาเปิดตัวกุ๊กไก่ในหนังสือเล่มนี้ ก็เพราะมันเป็นเรื่องจริง เพื่อให้นักประพันธ์กล้าพูดความจริง ปัจจุบันการประพันธ์เพลงมีคนแต่งรวม แต่หลายคนไม่กล้าเปิดเผย หากอยากรู้อะไรให้ไปอ่านหนังสือ เพราะในหนังสือเป็นความจริงทุกเรื่อง หากอ่านแล้ว 10 เที่ยวยังไม่เข้าใจอีก ก็ตายแล้วเกิดใหม่" พระนราธิป ยืนยัน

    นางบุษบา อธิบายเพิ่มเติมว่า เริ่มแรกก่อนจะออกหนังสือ เจ้าของสำนักพิมพ์มาติดต่อขอประวัติหลวงพี่ช่วงบวชเป็นพระ แต่ถูกปฏิเสธเพราะยังไม่ตาย และบอกไปว่ามีงานเขียนเก็บไว้เรื่องหนึ่งชื่อ "ไอ้หน้าโง่" เป็นธรรมะสอนคนได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันเห็นข่าวทารกถูกทิ้ง ถูกฆ่าเป็นประจำ แม่เด็กมักจะอ้างว่าสามีทิ้ง หลวงพี่จึงคิดว่าคนสมัยนี้ไม่มีความรับผิดชอบ ขนาดตัวเองยังยอมรับผิดชอบเลี้ยงดูผู้หญิงและเด็กที่ไม่ได้รัก จึงอยากใช้หนังสือเล่มนี้เป็นบทเรียนให้คนมีมโนธรรม ซึ่งบันทึกไว้ก่อนบวชเป็นอนุสรณ์ให้ตัวเอง อยากให้เป็นธรรมะสอนคน ให้ผู้ชายสมัยนี้กล้าๆ รับ เพราะคนมีชื่อเสียงมักจะถูกผู้หญิงจับ เมื่อพลาดเกิดมีเด็กขึ้นมา อยากให้มีมโนธรรมดูแลแม่และเด็กจนถึงที่สุด

    สำหรับประเด็นมีชื่อ "กุ๊กไก่" เป็นผู้ร่วมประพันธ์ด้วยนั้น นางบุษบา ยังคงยืนยันว่า ตนและพระนราธิปเป็นญาติกันจริงๆ ตอนอยู่ กทม.ไปมาหาสู่กันประจำ ส่วนสาเหตุที่ไม่ได้มาร่วมงานบวชของพระนราธิป เป็นเพราะตั้งท้องได้ 7 เดือน สามีเห็นว่าใกล้คลอดแล้วจึงไม่อยากให้มา ทั้งนี้ ที่ผ่านมาไม่ศรัทธาพระ เพราะมีเรื่องชู้สาวเข้ามายุ่งเกี่ยวมากมาย จึงมาพบหลวงพี่เล่าเรื่องระหว่างบวชให้ฟัง และขอรับบริจาคเก้าอี้เลกเชอร์ไว้ให้พระสอบ ตนจึงสร้างศาลาจุคนได้ 400-500 คน พร้อมกับถวายโต๊ะเลกเชอร์ด้วย สร้างห้องน้ำ 20 ห้อง ตั้งสถานีวิทยุชุมชนขึ้นที่วัด รู้สึกน้อยใจ เคยร้องไห้ เพราะทำดีไม่ได้ดี ตนแค่มีส่วนร่วมในการแต่งเพลง แต่คนส่วนใหญ่กลับมองว่าเป็นแฟนพระ

    "ก่อนหน้าหลวงพี่จะบวชได้แต่งเพลงไว้ แต่ไม่รู้ตัวโน้ตดนตรี จึงแนะนำให้อัดเสียงใส่เทปจะได้จำได้ แต่ยุคนี้เป็นดิจิทัลแล้ว สามารถนำมาทำเป็นซีดีได้ จึงได้แนวคิดและทำเป็นซีดีมาให้หลวงพี่ในวัดเปิด สาเหตุที่ทำเพราะอยากหาเงินเข้าวัด ส่วนสถานีวิทยุ 93.5 ลานนางฟ้านั้น หลวงพี่อยากมีรายการดีๆ จึงขอตั้งสถานีวิทยุขึ้น จัดเดือนละ 2-3 ครั้ง ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น. ไม่มีโฆษณา พระอยากมีรายการเพลงให้คนทำไร่ทำนาฟัง" นางบุษบา กล่าว

    ผู้สื่อข่าวถามว่า เพลงในอัลบั้ม "รักเหนือเมฆ" แต่งขึ้นเมื่อไรและใครเป็นคนเก็บไว้ พระนราธิป กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า แต่งเพลงไว้มากมายใครจะจำได้ว่า แต่งขึ้นตอนไหนและขณะนั้นมีความรู้สึกอย่างไร และไม่ขอระบุว่าใครเป็นคนเก็บไว้ กระทั่งถามย้ำว่า นางบุษบาเป็นคนเก็บเพลงใช่หรือไม่ นางบุษบา ยืนยันว่า ตนเป็นคนเก็บไว้ทั้งหมด แต่ไม่พูดถึงรายละเอียดว่าเก็บรักษาไว้ที่ไหน อย่างไร สำหรับประเด็นคำถามเรื่องความสัมพันธ์ของทั้ง 2 คน ในฐานะพี่น้องร่วมสายเลือด ทั้งคู่ปฏิเสธที่จะเอ่ยถึงชีวิตส่วนตัว

    นายพิสิฐ กล่าวว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้องรับรู้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ตอนนี้ต้องเชื่อตามที่พระนราธิปพูดไปก่อน เพราะยังไม่มีหลักฐานอะไรมาหักล้างข้อเท็จจริง หลังจากนี้จะนำข้อมูลที่ได้มา พร้อมทั้งคำสั่งเบื้องต้นของคณะสงฆ์จังหวัดลพบุรี ที่ให้พระนราธิปยุติการแจกลายเซ็นหน้าปกหนังสือ รายงานให้นายปรีชา กันธิยะ อธิบดีกรมการศาสนารับทราบ จากนั้นจะรอฟังการประชุมคณะสงฆ์ในวันที่ 8 พฤศจิกายนก่อน ว่าจะมีมติออกมาเช่นไร จึงจะพิจารณาว่าจะสมควรดำเนินการอย่างไรต่อไป
    สำหรับประเด็นที่หลายคนตั้งข้อสงสัยเรื่องคุณภาพของงานเพลงชุด "รักเหนือเมฆ" ว่าไม่เหมือนกับงานที่ผลิตไว้เมื่อ 17 ปีที่แล้ว สมัยที่วงชาตรีกำลังโด่งดังสุดขีดนั้น นางบุษบา ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตอัลบั้มนี้ออกมาอธิบายว่า ตนเป็นผู้ริเริ่มทำงานชุดนี้ออกมาขายเอง โดยพระนราธิปไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง มีวัตถุประสงค์นำรายได้มอบให้วัดลานนางฟ้า เป็นเสียงร้องของพระนราธิปที่ร้องไว้ก่อนบวช เมื่อประมาณ 17 ปีที่แล้ว แต่นำมาทำดนตรีใหม่

    "ฉันไม่มีความรู้เรื่องดนตรี จึงให้น้องๆ ที่รู้จัก และชื่นชอบในผลงานของวงชาตรีเหมือนกัน ช่วยทำดนตรีให้ ฉันยืนยันว่าเป็นเสียงของหลวงพี่ที่ร้องไว้เมื่อก่อนบวช 17 ปีก่อน แต่เรานำมาทำดนตรีกันใหม่ ทุกอย่างทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เราเปิดเผยชื่อของคนผลิต โดยใส่ไว้ในปกอัลบั้มทั้งหมด" นางบุษบา กล่าว

    ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังนายอนุรักษ์ แซ่ลี้ ผู้ควบคุมการผลิตผลงานเพลงชุด "รักเหนือเมฆ" ในประเด็นหลายคนสงสัยว่า งานชุดนี้ทำไว้ตั้งแต่เมื่อไรกันแน่ ทำได้อย่างไร นายอนุรักษ์ เปิดเผยว่า เสียงร้องในอัลบั้มเป็นเสียงของพระนราธิปที่ร้องไว้ก่อนบวชจริงๆ โดยร้องแล้วอัดใส่เทปคาสเซท ซึ่งคุณภาพเสียงไม่ค่อยดี หากฟังดีๆ จะได้ยินเสียงจิ้งจก เสียงนกร้องด้วย ตนต้องใช้เทคนิคมิกซ์ดาวน์ช่วย เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงดีขึ้น โดยตนเป็นคนนำเสียงร้องของพระนราธิปมาลงในคอมพิวเตอร์ แล้วทำดนตรีเอง เมื่อต้นปีที่ผ่านมา เครื่องดนตรีทุกชิ้นเป็นของตน และนำมารวมกับเสียงร้องของพระนราธิป ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่ได้อธิบายเรื่องนี้ให้คนเข้าใจ
    ด้านนายพงษ์พรหม สนิทวงศ์ ณ อยุธยา นักดนตรีผู้มีความเชี่ยวชาญเรื่องการบันทึกเสียง ให้ความคิดเห็นว่า เป็นเรื่องที่พิสูจน์ค่อนข้างยาก หากจะฟังเพลงจากในซีดีแล้วจะให้ตัดสินว่า ผลิตหรือบันทึกเสียงเมื่อไรแน่ ปกติในยุคที่ยังไม่มีการใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาในกระบวนการบันทึกเสียง ส่วนมากจะบันทึกเสียงลงในเทปใหญ่ที่เรียกว่า 2 นิ้ว 24 แทร็ค ซึ่งหากเทปนั้นไม่ได้นำมาเล่นซ้ำบ่อยๆ และถูกเก็บไว้อย่างดี ก็สามารถนำมาแปลงสัญญาณแล้วเข้าสู่กระบวนการผลิตของยุคนี้ เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีขึ้นได้


    ที่มา : คม ชัด ลึก
     
  3. จอกแหน

    จอกแหน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    275
    ค่าพลัง:
    +873
    อนุโมทนาได้ไม่กี่วัน..เจอมารซะแล้ว..
     
  4. sao-wanee

    sao-wanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +124
    <TABLE id=HB_Mail_Container height="100%" cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0 UNSELECTABLE="on"><TBODY><TR height="100%" width="100%" UNSELECTABLE="on"><TD id=HB_Focus_Element vAlign=top width="100%" background="" height=250 UNSELECTABLE="off">กรรม บวชมานาน พญามารใจร้าย หุหุ กีดขวางหนทางคนในการสร้างบารมีทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นฆราวาสหรือสมณะ ใครอ่อนเมื่อใดโดนเล่นงานแน่ ๆ
    เรื่องนี้พูดยากอะ เหอๆ คนเรามีทั้งดีและไม่ดี แต่ดีมากกว่าไม่ดีก็ถือว่าใช้ได้แล้ว...แต่คนเราหลายคนนี่ก็แปลก ชอบหาแต่ส่วนไม่ดีของคนอื่นร่ำไป ส่วนดีของคนนั้น มีแค่ไหนไม่เคยสน สังคมถึงวุ่นวายได้ขนาดนี้....ทนต่อไปกันนะค่ะ...สักวันยุคชาวศิวิไลซ์คงมาถึง..
    </TD></TR><TR UNSELECTABLE="on" hb_tag="1"><TD style="FONT-SIZE: 1pt" height=1 UNSELECTABLE="on">
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. sanya

    sanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2005
    โพสต์:
    455
    ค่าพลัง:
    +2,687
    เป็นเรื่องของกรรม...
     

แชร์หน้านี้

Loading...