พระนิพพานจากคำครูอาจารย์

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย softkid9, 3 สิงหาคม 2013.

  1. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน

    "ดวงจิตนี้ไม่เคยสูญ แดนพระนิพพานมีจริง หลวงปู่มั่นเล่าว่า พระพุทธเจ้าหลายพระองค์เสด็จมาเยี่ยมท่าน"


    [​IMG]
     
  2. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก

    (ยมกสูตร) มีผู้หลงว่า พระอรหันต์ตายแล้วสูญ พระพุทธเจ้าจึงตอบว่า ขันธิ์ 5 ไม่ใช่เป็นพระอรหันต์ ดังนั้น พระอรหันต์ตายแล้วไม่สูญ แต่ไม่ควรถามว่าตายแล้วไปไหน เหมือนกับไฟดับแล้ว ก็ไม่ควรบอกว่าไฟสูญหรือถามว่าไฟดับแล้วไปไหน.....

    อ่านเพิ่มเติมที่ หนังสือ ๔๕ พรรษา ของพระพุทธเจ้า หน้า 125-126 พิมพ์ครั้งที่ 1 ปี 2532


    พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้วไม่ได้หายไปไหน พระพุทธบารมียังปกปักรักษาโลกอยู่ คนในโลกยังรับพระพุทธบารมีได้ มิได้แตกต่างไปจากเมื่อยังทรงดำรงพระชนม์อยู่ เพียงแต่ว่าจำเป็นต้องเปิดใจออกรับ มิฉะนั้นก็จะรับไม่ได้ พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ไม่ทรงเวียนว่ายตายเกิดใน
    วัฏฏสงสารอีกต่อไป แต่พระพุทธบารมียังพรั่งพร้อม พระอาจารย์สำคัญองค์หนึ่งท่านเล่าไว้ว่าเมื่อท่านปฏิบัติเพื่อความหลุดพ้น อยู่ในป่าดงพงพีนั้น พระพุทธเจ้าได้เสด็จไปทรงสอนท่านด้วยพระพุทธบารมีเสมอ แล้วท่านพระอาจารย์องค์นั้น ต่อมาก็เป็นที่ศรัทธาเคารพของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ที่เชื่อมั่นว่าท่านปฏิบัติถึงจุดหมายปลายทางแล้ว พระพุทธเจ้าเมื่อเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ด้วยพระพุทธบารมีได้เสด็จไปทรงแสดงธรรมโปรดพระอาจารย์องค์สำคัญให้บรรลุมรรคผลนิพพานได้ ไม่มีอะไรให้สงสัยว่าเป็นสิ่งสุดวิสัย เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ เรื่องของท่านพระโมคคัลลาน์เป็นเครื่องให้ความเข้าใจอย่างกระจ่างแจ่มชัดว่า พระพุทธเจ้าก็ดี พระอรหันตเจ้าก็ดี แม้ดับขันธปรินิพพานแล้ว ท่านก็เพียงไม่มีร่างเหลืออยู่เท่านั้น บารมีและคุณธรรมทั้งปวงของท่านยังพรั่งพร้อมเป็นประโยชน์อย่างยิ่ง......


    จากหนังสือ ชีวิตนี้สำคัญนัก หน้า 21

    [​IMG][​IMG]

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 มกราคม 2016
  3. อัศวยุช

    อัศวยุช Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    68
    ค่าพลัง:
    +79
    สาธุ อนุโมทามิ และ ขอขอบคุณท่านเจ้าของกระทู้นี้ครับ​
     
  4. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนาบุญกัุบคุณอัศวยุชและญาติธรรมทุกท่านเช่นกันครับ
     
  5. taroball

    taroball ทีม ธรรมทาน ทีม ธรรมทาน

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    858
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +7,355
    ขออนุโมทนากับเจ้าของกระทู้และทุก ๆ ท่านครับ
     
  6. Yoolim

    Yoolim Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 มกราคม 2014
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +45
    ก็เลยคิดว่านิพพานไม่มีแดนอย่างนั้นนะรึ....

    พระพุทธเจ้าพระอรหันต์นะไม่ได้มา แต่หลวงปู่มั่นท่านเอาจิตไปคุยกับพระพุทธเจ้าพระอรหันต์เจ้าในแดนพระนิพพาน


    หลวงปู่ชอบท่านพูดชัดเจนที่สุด


     
  7. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,428
    ค่าพลัง:
    +33,493


    ภาพนี้ไม่ใช่หลวงปู่ตื้อนะีคะ ถ้าจำไม่ผิดภาพนี้คือ หลวงปู่ขาว อนาลโย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 กุมภาพันธ์ 2014
  8. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,428
    ค่าพลัง:
    +33,493
    ขออนุญาติแชร์นะคะ
     
  9. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539
    กำหนดจิตด้วยมโนมยิทธิ ตั้งอารมณ์ไว้ขึ้นไปกราบพระพุทธองค์ทีไร ก็เห็นท่านนั่งเป็นประธานสว่างไสวเป็นประกายพฤกษ์ อยู่ในพระนิพพานนั้น และเพราะไม่ใช่อุปทานจึงไม่มีอะไรต้องสงสัยต้องมานั่งเถียงหรือถอดความหนังสือแต่อย่างใด

    สาธุโมทนาในธรรม
     
  10. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    ขอบคุณคุณ peerakul มากครับที่ท้วงติง ผมแก้ไขแล้วนะครับ ขออนุโมทนาบุญกับคุณ peerakul และญาติธรรมทุกท่านนะครับ

    "กระทู้ต่างๆที่ผมได้โพสในห้องหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้นก็ด้วยเจตนาที่จะสนทนาธรรมะและแบ่งปันธรรมะกับญาติธรรมที่มีศรัทธาทุกท่านครับ สิ่งใดก็ตามที่ได้ปฏิบัติก็เพื่อจุดหมายปลายทางซึ่งก็คือพระนิพพาน ซึ่งเป็นจุดหมายอันสูงสุดของพุทธศาสนิกชน ตัวผมเองนั้นยังเป็นคนที่เลวอยู่ ยังตัดกิเลส สิ่งใดๆไม่ได้เลย ยังเห็นผู้หญิงสวยอยู่ ยังชอบของสวยงามอยู่ ยังมีความรัก โลภ โกรธ หลงอยู่ครบ แต่พยายามควบคุมตัวเองให้อยู่ในศีล ก็ด้วยศรัทธาในธรรมะที่หลวงพ่อพระราชพรหมยานหรือหลวงพ่อฤาษีลิงดำของพวกเรานั้นได้ขยายความธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และสั่งสอนทิ้งไว้ให้เป็นมรดก และถ้าผู้ใดที่เห็นไม่ตรงกับแนวทางที่ผมปฏิบัติแล้ว ผมก็ไม่ฝืนความรู้สึกและหักล้างความเชื่อของบุคคลนั้น ดังที่หลวงพ่อท่านได้กล่าวไว้ เพราะคนเราคิด เชื่อ และศรัทธาไม่เหมือนกัน ต่างจิตต่างใจกัน สิ่งที่ท่านโลโปได้เข้ามาโพสไว้ในหลายๆกระทู้ัในห้องของหลวงพ่อฤาษีลิงดำนั้น ผมจะไม่กล่าวถึงนะครับ ถ้าญาติธรรมท่านใดสงสัยก็ไปตรวจสอบย้อนหลังได้ สุดท้ายนี่้ขอฝากถึงคุณโลโปว่าถึงแม้เราจะเชื่อและศรัทธาไม่เหมือนกัน แต่เราสามารถอยู่ร่วมในสังคมร่วมกันได้ครับ เพราะสุดท้ายแล้วกรรมฐาน 40 กองและพระธรรม 84,000 พระธรรมขันธ์ที่พระพุทธองค์ได้กล่าวสั่งสอนไว้นั้นก็เพราะว่าคนเรามีจริตและความชอบไม่เหมือนกัน เราสามารถเลือกข้อธรรมะของพระพุทธองค์ที่เราชอบถูกกับจริตนำมาปฏิบัติ ซึ่งปลายทางแล้วทุกสายก็เพื่อให้ถึงพระนิพพานเหมือนกันหมด อนุโมทนากับญาติธรรมทุกท่านครับ"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014
  11. peerakul

    peerakul เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    9,428
    ค่าพลัง:
    +33,493

    ถูกต้องที่สุดค่ะ เยี่ยมมาก :z2
     
  12. sukh_anand

    sukh_anand เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    206
    ค่าพลัง:
    +731
    ขออนุโมทนาอย่างสูงต่อคุณ softkid9 สิ่งที่ท่านนำมาเสนอผมอ่านแล้วปราบปลื้มมาก ขออนุโมทนาอย่างสูง ขอความเจริญในธรรมจงมีแด่ท่าน แล้วหาโอกาสนำสิ่งๆดีแบบนี้มาแชร์ให้กันเรื่อยๆนะครับ...
     
  13. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    กราบ อนุโมทนา สาธุ
    ในบุญกุศลกับพระอรหันต์ทุกพระองค์
    ที่ได้เสด็จเข้าสู่พระนิพพานด้วยครับ
     
  14. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685
    ... สาธุ สาธุ สาธุ ...
    ... ^__^ ...
    ... _/|\_ ...
     
  15. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุ และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยนะคะ ^__^
     
  16. paisan999

    paisan999 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +28
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  17. mypolicexp

    mypolicexp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    1,081
    ค่าพลัง:
    +2,818
    โลโปนี้เป็นเอามากเห็นแต่ละกระทู้สุดๆ
     
  18. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุ และขออนุโมทนาในสติปัญญาความกล้าหาญของคุณ softkid นะคะ ส่วนตัวเชื่อว่าพระนิพพานมีจริง และเป็นสภาวะที่ไม่มีอะไรมาบรรยายได้ (ถ้าใครที่เคยขึ้นไปบนพระนิพพานแล้วจำอารมณ์นั้นได้คงจะทราบดี) ดังนั้นสิ่งที่อยู่ในพระไตรปิฏกที่ได้กล่าวถึงพระนิพพานนั้นจึงถูกต้องทุกประการ (หากท่านใดสนใจลองเช็คดูกับพระไตรปิฏกนะคะ) แต่อยู่ที่ว่าบุคคลนั้นๆจะสามารถเข้าใจภาษาธรรม อันเป็นส่วนของสภาวะธรรมที่ละเอียดที่ต้องเกิดจากการปฏิบัติจนรู้จริงนั้นได้หรือไม่ หรือเพียงแต่อ่านจากพระไตรปิฏกแล้วตีความผ่านความคิดความเข้าใจที่ตนเองมี ซึ่งเป็นเพียงการเข้าใจธรรมและสภาวะธรรมเพียงผิวเผินเท่านั้น และมาโต้แย้งกับบุคคลอื่น โดยอ้างพระไตรปิฏก ทั้งๆที่ตนเองไม่เคยสัมผัสกับสิ่งที่พระพุทธเจ้าสอนเลย ทั้งในเรื่องสวรรค์ นรก นิพพาน ญาณ ฌานสมาบัติต่างๆ

    หากมีสิ่งใดที่กล่าวล่วงเกินทุกๆท่านไปต้องกราบขออภัยด้วยนะคะ ทั้งนี้เพราะตนเองยังมีความเลวอยู่มาก และยังเป็นปุถุชนอยู่ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 กุมภาพันธ์ 2014
  19. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743
    สาธุ ตอนที่อ่านจากพระไตรปิฏกเกี่ยวกับพระนิพพาน ส่วนตัวก็คิดและมีความรู้สึกเช่นนี้ค่ะ ว่าเราจะเอาคำว่าอนัตตา หรืออัตตา ที่มีนิยามความหมายทางโลกเช่นนั้น มาอธิบายพระนิพพานอย่างที่เราเข้าใจในตอนที่เราขึ้นไปกราบพระบนพระนิพพานนั้น ไม่ได้เลยค่ะ เพราะสภาวะนั้นพ้นจากวิสัยทางโลกที่จะอธิบายได้

    ยกตัวอย่างเช่น โลกนั้นมีสภาวะอนัตตา แต่พระนิพพานไม่ใช่ ไม่อยู่ในกฎไตรลักษณ์ ครั้นเราจะบอกว่าพระนิพพานนั้นเป็นอัตตา ก็ไม่ใช่อีกค่ะ เพราะพระนิพพานไม่ใช่อัตตาแบบโลกนี้อีก (ใครที่เคยขึ้นพระนิพพานจะรู้เลยว่ามันคนละfeeling คนละความรู้สึกกันค่ะ) เนื่องจากพระนิพพานไม่มีมานะกิเลสที่เป็นรากเหง้าของอัตตาในโลกนี้อีกนั่นเอง

    ทั้งนี้ส่วนตัวมีจิตเคารพและปีติศรัทธาเป็นอย่างยิ่งในคุณของพระอริยสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์ทั้งหลาย ที่ท่านได้รจนาพระไตรปิฏกขึ้น โดยใช้สมมติคือภาษา ซึ่งเป็นเครื่องมือที่หยาบมาอธิบายสภาวะธรรมได้อย่างดียิ่งค่ะ (เป็นความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนที่เทียบสภาวะพระนิพพาน กับคำสอนเรื่องพระนิพพานที่พระไตรปิฏกกล่าวไว้)

    ปล. ปัจจุบันในทางโลกก็ยอมรับว่าภาษาไม่สามารถนำมนุษย์เข้าสู่ความจริงได้หมดค่ะ ถ้าใครเรียนทางศิลปศาสตร์จะทราบดี ดังนั้นส่วนตัวมองว่าคนที่นับถือพระพุทธศาสนา ไม่ควรศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าแบบปรัชญา หรือปริยัิติมากจนเกินไป เพราะจะทำให้เข้าถึงธรรมคำสอนเพื่อการหลุดพ้นนั้นได้ยาก เพราะจิตไม่สามารถเข้าถึงสภาวะธรรมต่างๆได้ และจะกลายเป็นว่าตนเองนั้นทำความเข้าใจกับพระธรรมคำสอน หรือพระนิพพานโดยผ่านขันธ์ ๕ ที่ยังมีการปรุงแต่งตามกิเลสของตน และระบบคิดแบบเหตุแบบผลในทางโลกที่ตนเองเรียนรู้มา ซึ่ง 2 สิ่งนี้เป็นอุปสรรคสำคัญในการเข้าถึงธรรมของบุคคลนั้นๆ และยังอาจก่อให้เกิดกรรมอกุศลปรามาสท่านที่ทรงความดีได้จริงๆ โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้ ดังนั้นจึงควรลงมือปฏิบัติจนเกิดผลที่แท้จริงจะดีกว่าค่ะ

    ปล. หากล่วงเกินทุกๆท่านไปต้องขออภัยด้วยนะคะ T^T
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2014
  20. softkid9

    softkid9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    926
    ค่าพลัง:
    +6,399
    อนุโมทนาบุญกับญาติธรรมทุกท่านครับ ผมเชื่อในสิ่งที่หลวงพ่อท่านได้สั่งสอนไว้ และระลึกอยู่เสมอ ตอนหลังจากสวดมนต์ไหว้พระรัตนตรัยก่อนนอนและตอนตื่นนอนตอนเช้าทุกวันจะระลึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นปกติ จิตจับไว้ที่พระนิพพานและคิดว่าถ้านอนไปไม่ตื่นขึ้นมาอีกหรือถ้าในวันนั้นเกิดตายขึ้นมา ก็ขอไปอยู่กับพระพุทธองค์ อยู่กับหลวงพ่อ ท่านอยู่ที่ไหนผมก็ขออยู่กับท่านที่นั่น ถ้ากำลังใจยังไม่เข้มแข็งพอก็ไปอยู่ที่สวรรค์ตามกำลังบุญที่ได้สร้างไว้แล้วต่อข้างบนเลย เพราะเบื่อและหน่ายกับชีวิตของคน การเวียนว่ายตายเกิด แค่ชาติในปัจจุบันนี่ก็ทุกข์อยู่เป็นประจำ ทุกข์มากกว่าสุข สุขนี่สุขนิดหน่อย แล้วเดี๋ยวก็ทุกข์อีก แล้วชาติหน้าก็ต้องทุกข์อีก แล้วอีกกี่แสนกี่ล้านชาติก็ต้องเป็นเช่นนี้อีกหรือ เลยตั้งใจปฏิบัติตามที่หลวงพ่อท่านสอนไว้ครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 มีนาคม 2014

แชร์หน้านี้

Loading...