พระบรมราชสรีรางคาร ร.๙ บรรจุ ณ พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธฯ และ พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร

ในห้อง 'วัดและศาสนสถาน' ตั้งกระทู้โดย โพธิสัตว์ ชาวพุทธ, 31 ตุลาคม 2017.

  1. โพธิสัตว์ ชาวพุทธ

    โพธิสัตว์ ชาวพุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2017
    โพสต์:
    5,297
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,273
    ค่าพลัง:
    +9,528
    พระบรมราชสรีรางคาร ในหลวง ร.๙ อัญเชิญไปบรรจุ ณ ฐานพุทธบัลลังก์ ๒ พระประธานอุโบสถหลวง “พระพุทธอังคีรส วัดราชบพิธฯ และ พระพุทธชินสีห์ วัดบวรนิเวศวิหาร



    8a1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a.jpg

    พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันนี้ (29 ตุลาคม 2560) เวลา 10.30 น. พระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล และอัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นประดิษฐาน ณ พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท และเวลา 17.30 น. พระราชพิธีเชิญพระบรมราชสรีรางคาร ไปบรรจุ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และ วัดบวรนิเวศวิหาร

    ซึ่ง พระบรมราชสรีรางคาง พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จะถูกบรรจุที่ ฐานพุทธบัลลังก์ พระพุทธอังคีรส พระประธานในพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และฐานพุทธบัลลังก์ พระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

    พระพุทธอังคีรส พระประธานพระอุโบสถ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-1.jpg

    วัดราชบพิธสถิตมหาสีมารามราชวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเป็นวัดประจำรัชกาล เมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๒ มีลักษณะผสมระหว่างสถาปัตยกรรมไทยกับสถาปัตยกรรมตะวันตก คือ ลักษณะภายนอกเป็นสถาปัตยกรรมไทย ส่วนภายในออกแบบตกแต่งอย่างตะวันตก

    สิ่งก่อสร้าง พระอุโบสถ พระวิหาร พระจดีย์ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบเบญจรงค์งดงามมาก มีมหาสีมารอบกำแพงวัด พร้อมทั้งโปรดให้สร้าง พระพุทธอังคีรส เป็นพระประธานภายในพระอุโบสถ

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-2.jpg

    พระพุทธอังคีรส เป็นพระประธานในพระอุโบสถวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีหินอ่อน พระนาม “พระพุทธอังคีรส” แปลว่ามีรัศมีซ่านออกจากพระวรกาย หล่อขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ ต่อต้นรัชกาลที่ ๕ กะไหล่ทองคำเนื้อแปดหนัก ๑๘๐ บาท เป็นทองที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เมื่อยังทรงพระเยาว์

    ที่ฐานบัลลังก์กะไหล่ทองเนื้อหกหนัก ๔๘ บาท ภายในบรรจุพระบรมอัฐิ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ ๒), พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๓) พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๔), พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) และพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๗) และพระราชสรีรางคาร สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี

    วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม ไม่เพียงแต่จะเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๕ แต่ยังเป็นวัดประจำรัชกาลที่ ๗ อีกพระองค์หนึ่งด้วย

    ส่วน พระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร (รัชกาลที่ ๘) บรรจุใต้ฐานพระศรีศากยมุนี วัดสุทัศนเทพวราราม

    พระพุทธชินสีห์ พระประธานพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-3.jpg

    วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร หรือ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก ชนิดราชวรวิหาร พระอารามนี้เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชถึง ๔ พระองค์ และเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ทั้งยังเป็นวัดประจำ รัชกาลที่ ๖ (พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว) และ วัดประจำรัชกาลที่ ๙ (พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช)

    ซึ่งเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๙ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระราชประสงค์ที่จะทรงผนวชในพระบวรพุทธศาสนา ตามโบราณราชประเพณี โดย พระองค์ทรงผนวช เมื่อวันที่ ๒๒ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๙ ถึงวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๙๙ รวมเป็นเวลา ๑๕ วัน ขณะที่มีพระชนมายุ ๒๙ พรรษา

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-4.jpg

    ระหว่างที่ทรงผนวชเป็นพระภิกษุ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ได้เสด็จมาประทับ ณ “พระตำหนักปั้นหย่า” หรือ “พระตำหนักปั้นหยา” ที่ วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร กรุงเทพมหานคร ซึ่งพระตำหนักปั้นหยา เป็นตึก ๓ ชั้น สถาปัตยกรรมเป็นแบบยุโรป เดิมเป็นที่ประทับของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งที่ทรงผนวช หลังจากนั้นที่นี่เป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ที่ทรงผนวชและเสด็จมาประทับที่วัดแห่งนี้

    พระศากยวงศ์วิสุทธิ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศวิหาร เผยว่า ระหว่างที่ ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ทรงดำรงสมณเพศพระภิกษุ พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกิจ เช่นเดียวกับพระภิกษุทั้งหลายอย่างเคร่งครัด เสด็จลงพระอุโบสถ ทรงทำวัตรเช้า-เย็น ตลอดจนทรงสดับพระธรรมและพระวินัย เสด็จออกรับบิณฑบาตเหมือนพระภิกษุทั่วไป ที่สำคัญพระองค์ไม่สวมฉลองพระบาทตลอด 15 วันที่ทรงผนวช แม้ว่าหนทางนั้นจะลำบากเพียงใดก็ตาม สมกับเป็นพระราชาผู้ทรงธรรมโดยแท้

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-5.jpg

    โดยวันที่ ๕ พฤศจิกายน พ.ศ ๒๔๙๙ วันลาสิกขา ในหลวง รัชกาลที่ ๙ ยังทรงปลูกต้นสักไว้ที่ด้านหลังพระตำหนักปั้นหยา และในวันที่ ๒๖ กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ พระองค์ทรงเสด็จมาปลูกต้นจัน ปัจจุบันนี้ต้นไม้ที่พระองค์ทรงปลูกได้เจริญเติบโตสูงใหญ่ ให้ร่มเงาและความร่มรื่นแก่ผู้ที่ได้เดินทางมาวัดบวรนิเวศวิหาร

    วัดบวรนิเวศวิหาร มีสถาปัตยกรรมแบบไทยผสมจีน ภายในพระอุโบสถมีพระพุทธรูปสำคัญอยู่ ๒ องค์เป็นพระประธาน คือ พระพุทธสุวรรณเขต (หลวงพ่อโต) ที่อัญเชิญมาจากวัดสระตะพาน จังหวัดเพชรบุรี และ พระพุทธชินสีห์

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-6.jpg

    พระพุทธชินสีห์ เป็นพระประธานในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปสำคัญพระองค์หนึ่งของหัวเมืองฝ่ายเหนือ สร้างขึ้นคราวเดียวกันกับพระพุทธชินราช พระศรีศาสดาและพระเหลือ เดิมประดิษฐานอยู่ในพระวิหารด้านเหนือของวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก ต่อมาพระวิหารชำรุดทรุดโทรมลง ขาดการปฏิสังขรณ์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาศักดิพลเสพ จึงโปรดให้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดบวรนิเวศวิหาร เมื่อพ.ศ.๒๓๗๒

    พระพุทธชินสีห์ ไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด คงมีแต่พงศาวดารเหนือ ซึ่งเป็นเอกสารที่เล่าถึงตำนานเมืองเหนือเรื่องต่างๆ สมัยกรุงศรีอยุธยา ถูกเรียบเรียงขึ้นใหม่โดยพระวิเชียรปรีชา (น้อย) ในปีพุทธศักราช ๒๓๕๐ ที่อ้างถึงกษัตริย์เชียงแสนพระนามพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกเป็นผู้สร้าง พร้อมกับการสร้างเมืองพิษณุโลกและพระพุทธรูปอีก ๒ องค์คือพระพุทธชินราชและพระศรีศาสดา

    ใต้ฐานพุทธบัลลังก์ พระพุทธชินสีห์ เป็นที่บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) ผู้ทรงเคยผนวช ณ วัดนี้เมื่อยังทรงดำรงพระราชอิสริยยศที่ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราช และเป็นที่บรรจุ พระบรมราชสรีรางคาร ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร (รัชกาลที่ ๙)

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-7.jpg

    ทั้งนี้ ราชประเพณีบรรจุ พระบรมราชสรีรางคาร ที่วัดประจำรัชกาล เกิดขึ้นครั้งแรกในคราว พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) เมื่อ พ.ศ. ๒๔๕๔

    โดย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๖) โปรดเกล้าฯ ให้ยกเลิกธรรมเนียมการลอยพระบรมราชสรีรางคาร และทรงโปรดเกล้าฯ ให้บรรจุพระบรมราชสรีรางคาร ใต้พุทธบัลลังก์พระประธานในพระอุโบสถของพระอารามประจำรัชกาลแทน

    ซึ่ง พระบรมราชสรีรางคารพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๑-๔ ตามราชประเพณีดั้งเดิมสมัยตอนต้นรัตนโกสินทร์ เมื่อเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ได้ทำการเชิญไปปล่อยยังท่าน้ำวัดปทุมคงคา หรือวัดยานนาวา

    นับแต่นั้นมา พระราชพิธีบรรจุ พระบรมราชสรีรางคาร ที่วัดประจำรัชกาล ก็เป็นพระราชประเพณีปฏิบัติสืบมาจนถึงปัจจุบัน

    อนึ่ง ขออธิบายความอย่างง่ายๆ ความหมายของ พระบรมอัฐิ กับ พระบรมราชสรีรางคาร

    “อัฐิ” หมายถึง กระดูกคนที่เผาแล้ว ส่วน “สรีรางคาร” หรือ อังคาร หมายถึง เถ้าถ่านที่ปะปนกับกระดูกชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่เผาแล้ว

    พระบรมอัฐิ ของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประดิษฐาน ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

    ส่วน พระบรมราชสรีรางคาร อัญเชิญบรรจุ ณ วัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม และวัดบวรนิเวศวิหาร

    1e0b8a3e0b8b2e0b88ae0b8aae0b8a3e0b8b5e0b8a3e0b8b2e0b887e0b884e0b8b2e0b8a3-e0b8a3-e0b999-e0b89a-8.jpg

    ขอขอบคุณที่มา
    http://www.nationtv.tv/main/content/social/378578470/
     

แชร์หน้านี้

Loading...