พระป่าสายกรรมฐานและพระเครื่องทั่วไป

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ChintopTM, 27 มิถุนายน 2019.

  1. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รายการที่ 13
    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ วัดพระงามศรีมงคล ปี20 เนื้อทองแดง ตอก1โค๊ด สภาพสวย รายการหายากครับ

    บูชา500บาท
    ปิดรายการ
    IMG_0212.JPG IMG_0213.JPG

    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ (พระครูสีลขันธ์สังวร) แห่งวัดพระงามศรีมงคล อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย
    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ตลอดชีวิตของเพศสมณะ ท่านได้กระทำคุณงามความดีมาโดยตลอด ในชีวิตนี้ท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ทีมีศีลาจารอันงดงามจริงๆ ความสันโดษ อดทน พึงพอใจกับสภาพชีวิตสงบระงับดับกิเลสมีใจใฝ่ในทางธรรม นับวันแรกที่ท่านบวชกาย วาจา ใจ อุทิศไว้แก่พระพุทธศาสนา ก็ล้วนแต่เพื่อจะสร้างคุณงามความดีนั้นเอง
    ...อ่อนน้อมถ่อมตน...
    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ท่านเป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบสมกับเราเรียกว่า อริยธรรม คือธรรมของผู้เจริญ สมัยที่หลวงปู่อ่อนสี ท่านยังมีชีวิตอยู่หลวงปู่มักจะถ่อมตนเสมอว่า...
    อาตมายังไม่พร้อม ยังไม่แก่กล้าพาญาติโยมให้พบกับห้วงแห่งความสงบสุขได้ อาตมายังต้องปฏิบัติอีกเยอะ ความพ้นทุกข์จริงนั้น มันเป็นการสอนตัวเองและบุคคลอื่น
    ด้วยเหตุนี้อาตมาจึงว่า ยังต้องฝึกฝนอบรมดูจิตใจตัวเองจนกว่าจะแน่นอนแล้ว ก็เมื่อนั้นจึงจะพอใจ...
    นี่เป็นคำพูดที่ผู้เขียนจดจำไว้ แม้จะไม่ละเอียดนักเพราะหลายปีแล้ว แต่ก็มีเค้าของคำพูดท่านที่ได้กล่าวไว้ ท่านถ่อมตนอยู่เสมอ และเวลาแสดงธรรมจริงๆ ก็นับว่าเด็จขาด ตัดเยื่อใยของผู้ฟังเอาเลยทีเดียว ที่ว่าตัดเยื่อใยของผู้ฟังธรรมนั้น ก็คือ..หลวงปู่อ่อนสี จะไม่เห็นแก่หน้าแก่ตาใครทั้งสิ้น ไม่ว่าบุคคลผู้ฟังนั้น จะเป็นนายพล หรือบุคคลนั้นๆจะเป็นถึงคุณหญิง ท่านจะใช้ประโยคเดียวกันหมด ซึ่งเป็นคำจริงดังที่โลก "สมมติ" เอาไว้ทั้งหมด ท่านจะพูดจะเรียกโดยใจปกติ เช่นเดียวกัน พระป่าในสายนี้โดยเฉพาะ หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม ใครหน้าบางฟังธรรมะคำจริงของโลก-ธรรมไม่ได้แน่ ด้วยท่านไม่มีจริตจะก้านนั้นเอง หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ก็เช่นกัน แม้ชีวิตของท่า่น ก็ยังสละได้..ตัดได้อย่างไม่มีเยื่อใย
    เราจะเ็ห็นได้จากการออกเดินธุดงค์ไปในภาคเหนือ ซึ่งในการเดินธุดงค์นั้น หลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี และหลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ท่านได้ออกติดตามหาพระอาจารย์ใหญ่ของท่าน คือ หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต
    และในที่สุด ก็ได้พบดังเจตนาพร้อมทั่งได้ร่วมเดินธุดงค์ไปยังถิ่นฐานต่างๆ จนประสพความสำเร็จทางจิต รู้ธรรมเห็นธรรมแต่ครั้งกระนั้น หลวงปู่อ่อนสี ก็ได้น้อมมาประพฤติปฏิบัติตนจนกระทั่งอวสานแ่ห่งชีวิต ท่านก็มิได้เคยล่าถอยเสื่อมคลายลงไม่
    เพราะการเห็นข้อวัตรปฏิบัติธรรมของท่านนี้ ผู้เขียนจึงกล้าพูดต่อชุมชนทั้งลายทั้งปวงว่า...หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ..ท่านเป็นพระอริยธรรมแห่งวัดพระงามศรีมงคลจังหวัดหนองคาย
    ...ชาติภูมิ...
    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ หรือท่านพระครูสีลขันธุ์สังวร ท่านมีนามเดิมว่า....อ่อนสี พาโนนัย
    เกิด ณ หมู่บ้านน้ำเที่ยง ตำบลน้ำคำ อำเภอเสลภูมิ จ.ร้อยเอ็ด วันอังคารที่๒๕ กรกฎาคม ๒๔๕๒ ตรงกับวันขึ้น ๑๕ค่ำเดือนยี่ ปีระกา โยมบิดาชื่อ นายทา พาโนนัย โยมมารดาชื่อ นางน้อย พาโนนัย อาชีพของบิดารมารดาเป็นชาวนา รับจ้างทั่วไป หลวงปู่อ่อนสีท่านมีพี่น้องร่วงบิดามารดา ร่วมกัน๕คน ดังลำดับต่อไปนี้
    1. นายอ่อนสี พาโนนัย(พระครูสีลขันธุ์สังวร)
    2. พระภิกษุทอง พาโนนัย(มรณภาพแล้ว)
    3. นายสุภี พาโนนัย(ถึงแก่กรรม)
    4. นายพรหมา พาโนนัย(ถึงแก่กรรม)
    5. นายโส พาโนนัย(ต่างมารดา)
    ...อดกลั้นและอดทน...
    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ แห่งวัดพระงามศรีมงคล อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย พระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านได้เล่าเหตุการณ์อันสำคัญในช่วงนี้ว่า
    อาตมากับพระอาจารย์ได้ไปถามพระที่ไปไหว้พระบาทรังรุ้งก็ไม่ปรากฏวี่แววของท่านพระอาจารย์มั่น จึงได้พากันกลับ
    ตอนกลับนี้พระอาจารย์ได้พาเดินไปทางลำธาร เพราะดูออกจะสะดวกกว่าที่อื่นมาก แทนที่จะบุกป่าฝ่าดงรก
    แต่ขณะเดินไปตามทางลำธารนั้น พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสี ท่านได้ไปเหยียบเอาก้อนหินก้อนหนึ่ง ที่มีตะไคร่น้ำเกาะอยู่ ลื่นล้มลงไปอย่า่งแรง
    กอปรกับบริขารอยู่บนบ่าหนักพอสมควร จึงขาดการทรงตัว เข่าของท่านไปกระแทกถูกก้อนหินแหลมคมเข้า เลยเป็นแผลลึก จึงพยุงพากันไปรักษาพยาบาลที่ถ้ำป่อง บ้านปุ่งมะแขมเป็นเวลาหลายวัน
    พระอาจารย์เทสก์ เทสรังสีของพวกเรานั้น ขอให้โยมทั่งปวงจงรู้เอาไว้ว่า ท่านมีน้ำใจที่อดกลั้นอดทนเป็นที่สุด
    ท่านไม่เคยพูดบ่นออกมาว่า"ไม่ไหวแล้ว ไม่เอาแล้ว เจ็บปวดเหลือเกินอะไรทำนองนี้"
    ท่านเจ็บท่านก็เฉย ท่านปวดท่านก็เฉย อาศัยอดกลั้นอดทนเอา มีธรรมะอยู่ในใจของท่านแล้ว ท่านเอาธรรมะมาชโลมใจ ไม่เบื่อหน่ายหรือท้อถอย มีแต่จะสู้ต่อไปอย่างบุรุษชาติอาชาไนยทั่งปวง
    ...เฝ้าอุปัฐาก...
    ในพรรษานั้น พระอาจารย์ทั้งสอง คือหลวงปู่เทสก์ และหลวงปู่อ่อนสี ได้อยู่จำพรรษากับหลวงปู่มั่น และได้ฝึกอบรมจิดใจในแนวกายคตาสติจนตลอดพรรษา
    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ได้เล่าให้ผู้เขียนฟังดังนี้...
    "ปีนั้น พระอาจารย์มั่น ท่านสอนเราทั้งสองให้พิจารณา กายคตาสติอยู่ตลอดพรรษา เลยทำให้เราทั้งสองมีความเข้าใจก้าวหน้าอยู่มาก ไม่เสียแรงออกติดตามหาธรรมจากท่านพระอาจารย์มั่น
    ท่านพระอาจาย์เทสก์ ท่านขึ้นไปจำพรรษาบนเขา ซึ้งเหนือไปกว่าที่ซึ้งท่านอาจารย์มั่นอยู่ห่างราว ๕ เส้น
    ส่วนอาตมา ก็ได้อาศัยเฉลียงของกุฏิท่านอาจารย์มั่นนั้นเองแหละ อยู่เพื่อจะได้รับใช้ท่านบ้างนั้นเอง"
    ...เที่ยววิเวก...
    การเดินทางกลับถิ่นในสมัยนั้น ท่านผู้อ่านทั้งหลายคงจะจำได้ดีว่า เป็นความเห็นชอบของคณะศิษย์และบรรดาญาติโยมทั้งหลาย โดยเฉพาะหลวงปู่มั่นท่านมีความประสงค์ที่จะมาสนองเจตนาคุณของคณะญาติโยมที่เคยได้ให้อุปัฏฐากท่านแต่สมัยแรก ทั้งยังได้มีโอกาสพบคณะศิษย์ทั้งหลายเพื่อแนวทางอันเป็นเครื่องดำเนิน หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ได้เล่าให้ฟังว่า... ..การมาถึงจังหวัดอุดรธานีอันเป็นถิ่นของท่านผู้เป็นนักปราชญ์ทั้งหลาย อาตมาคิดดูแล้ว ก็ให้เข้าใจถึงความสำคัญว่า ภาคอีสานนี้มีศิษยานุศิษย์ของหลวงปู่ หลวงพ่อ ครูบาอาจารย์มากมาย โดยเฉพาะพระอาจารย์มั่น ศิษย์ทุกรูปต่างก็มีความพอใจที่จะอุปัฏฐากท่าน อาตมาจึงได้ขอลาท่านออกไปหาวิเวกโดยลำพัง พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ท่านมีความพึงพอใจมาก ท่านอนุญาตให้อาตมาเดินธุดงค์กรรมฐานไปโดยลำพัง ทั้งยังได้อบรมจิตใจยามอยู่คนเดียวนับเป็นประโยชน์อย่างมหาศาล แม้ปัจจุบันนี้อาตมาก็ยังพึงพอใจที่จะอยู่โดยลำพังเช่นกัน... ด้วยกาลเวลาทั้งสิ้นนี้ อาตมาก็พอจะสรุปได้ว่า ตัวของอาตมานี้ นับตั้งแต่ได้ติดตามท่านอาจารย์เทสก์ไปเริ่มแต่ออกปฏิบัติ จนไปสุดเอาที่เชียงใม่ จึงนับเวลาได้ตามปฏิบัติท่านพระอาจารย์มั่นอยู่๕พรรษาเต็มๆเลยเหมือนกัน
    ....เตือนก่อนจาก....
    ทุกครั้งที่ หลวงปู่อ่อนสี พบหน้าผู้เขียน ท่านมักจะมีคำพูดเป็นปริศนาให้ได้คิดอยู่เสมอ...
    ดังครั้งนี้ ท่านได้พูดขึ้นท่ามกลางหมู่คณะชาวกรุงเทพฯ ที่เคยมีความสัมพันธ์เคารพบูชามาแต่ก่อนเก่า ดังใจความที่ว่า...
    คนเราเกิดมาในโลกนี้มีเวลาไม่มากนัก จงรีบเร่งปฏิบัติภาวนาธรรมกันเถิด อย่ามัวเมาประมาทกันเลย เดี๋ยวจะเสียทีกิเลสที่จะพาเราจมดินจมโคลน
    แม้ตัวของหลวงปู่นี้เองก็เถิด อีกไม่นานแล้ว หลวงปู่จะต้องจากพวกโยมทั้งหลายชายหญิงไป...จากโลกนี้ไป...
    อาจารย์ปถัมภ์ เรียนเมฆ เคยเรียนถามท่านว่า...."หลวงปู่อ่อนสีจะจากไปเมื่อใด พอจะบอกลูกศิษย์รู้บ้างไหมครับ....?" หลวงปู่อ่อนสีตอบว่า "จะมีคนเดียวคือ ท่านพระอาจารย์ขาว อนาลโย วัดถ้ำกลองเพล ท่านจะรู้ดีกว่าใครๆ
    แต่พวกเราก็อย่าเพิ่งประมาทตนน่ะ รีบเร่งปฏิบัติภาวนาเข้าไว้ ครูบาอาจารย์ก็นับวันจะหมดไปๆพระกรรมฐานจะหมดไปจากพวกเรา
    จะมีอยู่ก็พระประเภทสร้างฐาน ระบาดไปเกลื่อน จะหาพระกรรมฐานจริงๆไม่พบ...คือของจริงไม่มี มีแต่ของไม่จริง...
    ...ปลงสังขาร...
    คืนวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ มีความปกติสบายดีทุกอย่าง ท่านทำวัตรสวดมนต์แล้ว ก็เข้าที่เจริญสมาธิภาวนา เมื่อได้เวลาพักผ่อน ท่านก็นอนลักษณะตะแครงขวาแล้วทำจิตสู่ความสงบ จากเวทนาต่างๆโดยสิ้นเชิง หลวงปู่ได้ละวางกิเลสตัณหาอุปาทานลงอย่างสิ้นเชิง ท่านพิจารณาสภาพสังขารอันยาวนาน ที่ได้อาศัยมานับเป็นก้อนธาตุที่มีพระคุณอันยิ่งของท่าน เมื่อได้พิจารณาถึงความไม่เที่ยงเกิดแล้วก็ย่อมดับไป มีพระไตรลักษณ์เป็นความจริงคือความไม่เที่ยง เป็นทุกข์ สุดท้ายก็เป็นอนัตตา ไม่มีความเที่ยงในสังขารนี้ ท่านได้พิจารณาจนเห็นความจริงก่อนจะอำลาสังขารนี้ โดยการนำจิตอันบริสุทธิ์แนบแน่นกับดวงธรรมคือ พุทธ-โธ จากนั้นท่านได้ยกจิตขึ้นสู่ภูมิธรรม คือส่วนธรรมอันแท้จริงของท่านโดยเฉพาะ หลายวันก่อนหลวงปู่เคยพูดกับศิษย์ว่า วันที่๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๒๕ จะนำจิตเข้าสู่สุขติ
    ...ด้วยกตัญญ...
    หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ท่านได้อำลาชีวิตและโลกนี้ไปแล้วอย่างสิ้นเชิง ยังความโศกเศร้าเสียใจแก่หมู่คณะศิษย์ทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง หลายคนไม่เชื่อว่าหลวงปู่ท่านจะมรณะ เพราะหลวงปู่ไม่แสดงอาการเจ็บปวดเลย ทุกคนได้แต่ตกใจในการลาจากไปนี้ ตลอดเวลา๑ปีเต็มที่คณะกรรมการและศิษย์ทั้งหลายได้ร่วมกันแสดงความกตัญญรู้คุณของท่าน ด้วยการสวดพระอภิธรรม บำเพ็ญกุศลศพภวายท่านทุกคืน ศาลาการเปรียญที่ท่านเคยอยู่อาศัยโดยการแขวนกลดเพียงเล็กน้อยนั้น เมื่อได้บรรจุศพโลงทอง แล้วศาลาที่ว่าใหญ่โตนั้นกับแคบไปอย่างถนัดใจ อย่างไรก็ตามตลอดเวลา๑ปีเต็ม มักมีผู้คนพบความอัศจรรย์มากครั้งด้วยกัน แต่ผู้เขียนคิดว่า ไม่จำเป็นต้องกล่าวอีกแล้ว เพราะ นั่นเป็นเพียงเศษส่วนธุลีของความดีท่านหลวงปู่เท่านั้น จึงไม่น่าสนใจอะไร กับคุณธรรมอันยิ่งเช่นหลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ย่อมปรากฏขึ้นได้เสมอ ทุกโอกาส
    ...ผึ้งยังอาลัย...
    วันที่๙เมษายน ๒๕๒๗ อันเป็นวันพระราชทานเพลิงศพ หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ หรือท่านพระครูสีลขันธุ์สังวร แห่งวัดพระงามศรีมงคล เวลา๐๙.๐๐น. คณะกรรมการเจ้าพิธีการ ได้เคลื่อนศพของหลวงปู่สู่เมรุพิธี น่าอัศจรรย์ที่สัตว์เล็กๆเช่น ผึ้งยังสู้อุตส่าห์บินลงมาจากหน้าบันพระอุโบสถทั้งรัง มาเกาะนิ่งที่เชิงจิตกาธาน ใกล้เวลา๑๖.๐๐น ผึ้งฝูงนั้นพากันบินมาเกาะนิ่งอยู่ที่หีบบรรจุศพของหลวงปู่ อ่อนสี สุเมโธ คล้ายกับเป็นการไว้อาลัยสภาพสังขารของพระผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ที่หันหลังให้กับโลกแล้วอย่างสิ้นเชิงเป็นครั้งสุดท้าย ครั้นถึงเวลาวางดอกไม้จันทน์ ฝูงผึ้งทั้งหมดได้โผบินขึ้นไปกลางอากาศแล้วบินหายไป โดยการปล่อยทิ้งรังของตนไว้เป็นอนุสรณ์ที่น่าบันพระอุโบสถจนกระทั่งทุกวันนี้...
    ...อัฐิธาตุ...
    ภายหลังจากได้พระราชทานเพลิงศพหลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ไปไม่นาน อัฐิที่บรรดาลูกศิษย์และคณะกรรมการได้เก็บไว้ในที่อันควรนั้น เกิดความอัศจรรย์ขึ้นคือ อัฐิธรรมดาๆได้กลายเป็นธาตุสีใสดังแก้ว
    ลักษณะเป็นดังเมล็ดข้าวสารตัด ...ความอัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับธาตุส่วนหนึ่งของท่านผู้เป็นครูบาอาจารย์ย่อมนำความปิติปราโมทย์มาสู่คณะศิษย์ที่เป็นบรรพชิต และฆราวาสเป็นอย่างยิ่ง สิ่งอันเป็นไปได้นี้ย่อมขึ้นอยู่ที่บุคคลโดยเฉพาะ หลวงปู่อ่อนสี ท่านเป็นบุคคลที่มีความยินดีในที่สงบสงัด ชอบเจริญกรรมฐานพอใจในเพศบรรพชิต เมื่ออัฐิจะกลายเป็นธาตุได้จะต้องมีบารมีเก่าเป็นปัจจัยอุปถัมภ์ใ้ห้เป็นไป ด้วยเหตุนี้บุคคลผู้มีบุญบารมีได้บำเพ็ญธรรมมาตั้งแต่อดีตชาติเป็นอย่างยิ่งนั้น จึงมักจะมีสิ่งอันวิเศษปรากฏขึ้นอยู่เสมอ ดังปรากฏแก่ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต และหลายๆองค์ดังปรากฎในปัจจุบันนี้.....

    เครดิตจากนิตยสาร โลกทิพย์ ฉบับที่๗๖ ปีที่๕เดือนมีนาคม ๒๕๒๙

    IMG_0186.JPG IMG_0187.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กรกฎาคม 2019
  2. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รับทราบครับผม จัดส่งแล้วจะแจ้งเลขEMSให้ทราบนะครับ
     
  3. PKongja

    PKongja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +231
    ขอจองบูชา
    รายการที่ 12

    รูปหล่อบารมีทวีคูณ หลวงพ่อสมเกียรติ ชิตมาโร วัดป่าถ้ำพระเทพนิมิต เนื้อทองผสม หมายเลข371
    ขอบคุณครับ
     
  4. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รายการที่ 14
    ล็อกเก็ตเล็ก ที่ระลึก105ปี หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัณฑิโต มวลสารดี บรรจุเกศา รุ่นสุดท้ายทิ้งทวน
    มี 5 เหรียญ

    บูชาเหรียญละ100บาท
    ปิดรายการ


    IMG_0207.JPG IMG_0216.JPG IMG_0217.JPG IMG_0218.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2019
  5. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รับทราบครับผม
     
  6. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รายการที่ 15
    พระกรุพระธาตุบังพวน วัดพระธาตุบังพวน อ.เมือง จ.หนองคาย พิมพ์สี่เหลี่ยมหายากที่สุดครับ เนื้อพระธาตุมวลสารล้วน เหลือจากการบรรจุในองค์พระธาตุ พลิกแผ่นดินหาครับรุ่นนี้

    บูชา800บาท

    IMG_0220.JPG
    เพื่อให้รู้ที่มาที่ไปของพระธาตุบังพวน ตามปรากฏในตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า พระยาสุวรรณพิงคานเจ้าเมืองหนองหาน สกลนคร พระคำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย อุดรธานี และพระยาจุลณีพรหมทัติ เจ้าเมืองจุลณี (ลาวเหนือ แคว้นสิบสองจุไทย) พระยาอินทปัตถนคร เจ้าเมืองอินทปัตถนคร (เขมร) และพระยานันทเสน เจ้าเมืองศรีโคตรบูรณ์หลวง กษัตริย์ทั้ง ๕ พระองค์ได้ทรงอุปถัมภ์พระมหกัสสปะเถระ พร้อมด้วย พระอรหันต์อีก ๕๐๐ก่อสร้างพระธาตุพนมจนเสร็จแล้วและได้บรรลุอรหันต์ในเวลาต่อมา กษัตริย์ทั้ง ๕ จึงออกเดินทางไปอินเดีย เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจำนวน ๔๕ องค์ มาประดิษฐานไว้ในสถานที่ ๔ แห่ง ได้แก่

    • ๑.อัญเชิญพระธาตุหัวเหน่า จำนวน ๒๙ องค์ มาประดิษฐานไว้ที่พระธาตุบังพวน หรือภูเขาหลวง
    • ๒.อัญเชิญพระธาตุฝ่าพระบาทก้ำขวา จำนวน ๙ องค์ มาประดิษฐานไว้ที่เจดีย์พระธาตุกลางแม่น้ำโขง ณ เมืองหล้าหนองคาย
    • ๓.อัญเชิญพระธาตุเขี้ยวฝาง ๓ องค์ มาประดิษฐานไว้ที่พระธาตุโพนจิกเวียงงัวบ้านปะโค จังหวัดหนองคาย
    • ๔.อัญเชิญพระธาตุเขี้ยวฝาง จำนวน ๔ องค์ มาประดิษฐานไว้ที่เจดีย์พระธาตุหอผ้าหอแพ เมืองเวียงจันทร์

    วัดพระธาตุบังพวน นอกจากมีองค์พระธาตุแล้ว ยังกลุ่มโบราณสถานที่เรียกว่า สัตตมหาสถาน ที่สร้างขึ้นตามคติพุทธศาสนา หมายถึงการจำลองสถานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธองค์ หลังจากตรัสรู้แล้ว จำนวน ๗ แห่ง คือ โพธิบัลลังก์, อนิมมิสเจดีย์ ,รัตนจงกรมเจดีย์, รัตนฆรเจดีย์,อชาปาลนิโครธเจดีย์,มุจลินทเจดีย์ และราชายตนะเจดีย์ ซึ่งในวัดพระธาตุบังพวนแห่งนี้นับเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง ๗ สิ่ง

    และเป็นสถานที่เกี่ยวกับพญานาค พลาดไม่ได้จริง ๆ ก็คือ “สระมุจลินท์” หรือ “สระพญานาค” สระ น้ำโบราณที่มีบันทึกในหนังสือใบลานที่เขียนเป็นภาษามคธ เรียกชื่อว่า “สระมังคละน้ำเที่ยงหมัน” เมื่อครั้งได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุของพระ พุทธเจ้าบรรจุไว้ในองค์พระธาตุได้เกิดปรากฏการณ์ประหลาดมีสายน้ำพวยพุ่งออกมาจากพื้นดิน พระมหาเทพหลวงและพระมหาเทพพล พระภิกษุที่ดูแลองค์พระธาตุ ได้สังเกตุเห็นว่ามีสายน้ำพุ่งขึ้นมาตลอดเวลาจากปล่องภูพญานาคที่เฝ้ารักษาพระธาตุบังพวน จึงได้ชักชวนญาติโยมขุดสระรองรับน้ำเอาไว้ และสร้างรูปปั้นพญานาค ๗เศียรไว้กลางสระแห่งนี้ รูปแบบศิลปะแบบล้านช้าง ในสมัยพระเจ้าวิชลราช กษัตริย์ล้านช้างได้เสด็จมานมัสการพระธาตุ (ช่วงพ.ศ.๒๐๔๓ – ๒๐๖๓) โปรดให้มีการปรับปรุงสระน้ำแห่งนี้และนิมนต์พระคุณเจ้าจัดทำพิธีมหาพุทธาภิเษก สระมุจลินท์ถือเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ และนำน้ำศักดิ์สิทธิแห่งนี้ไปใช้ในพิธีสำคัญในราชสำนักล้านช้างเป็นต้นมา

    ในสมัยต่อมา สมเด็จพระไชยเชษฐา (พ.ศ.๒๐๙๓ข๒๑๑๕) กษัตริย์ล้านช้างได้โปรดเกล้าให้สร้างพระพุทธรูปนาคปรก ๙ เศียร ไว้ในบริเวณใกล้เคียงกันด้วย ซึ่งเห็นได้ว่าในยุคสมัยพุทธกาลก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพญานาค มีให้เห็นได้ในทุกยุคทุกสมัยแม้จะไม่สามารถพิสูจน์ได้ก็ตาม ปัจจุบันสระมุจลินท์แห่งนี้ถือเป็นสระน้ำสำคัญประจำจังหวัดหนองคาย น้ำในสระแห่งนี้ถูกนำไปใช้ในพิธีสรงมูรธราชาภิเษก พิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา และพิธีศักดิ์สิทธิ์สำคัญๆ ในรัชกาลปัจจุบันเป็นประจำ แต่น่าเสียดายวันที่ไป บ่อน้ำมีระดับน้ำที่ลดลงจากสภาพอากาศที่ร้อนมากๆ แต่ก็มิอาจลดความเข้มขลังของสระน้ำพญานาคอันศักดิ์สิทธิ์ แห่งนี้ไปได้

    เชื่อกันว่าการได้ไหว้สักการะพระธาตุอันเป็นสถานที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอริยสงฆ์นั้น จะนำมาซึ่งความสุข ความเจริญมาสู่ผู้ที่เคารพบูชา อีกทั้งอานิสงส์ผลบุญที่ได้จากการกราบไหว้บูชา และสร้างกุศลกับพระธาตุนั้น เชื่อว่าส่งผลแรงยิ่งนัก หากผู้ใดปฏิบัติบูชาด้วยจิตใจอันบริสุทธิ์ และหมั่นกราบไหว้บูชาตามกำลังความสามารถทุกครั้ง อานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ของพระธาตุ จะดลบันดาลให้เกิดสิริมงคลในชีวิตแก่ตัวผู้บูชา



    เนื้อมวลสารล้วน สร้างจากอิฐพระธาตุที่โดนฟ้าผ่าผสมดอกไม้บูชาพระธาตุ โดยใช้น้ำอ้อยและน้ำผึ้งเป็นตัวประสานเท่านั้น
    IMG_0214.JPG IMG_0215.JPG
     
  7. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,296
    ค่าพลัง:
    +6,460
    ขอจอง5องค์ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  8. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รับทราบครับผม
     
  9. shaj

    shaj เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2012
    โพสต์:
    8,296
    ค่าพลัง:
    +6,460
    ขอจองรายการที่14เพิ่มอีก2องค์
    รวมเป็น5องค์ครับ
     
  10. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รับทราบครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มิถุนายน 2019
  11. songsakth

    songsakth เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2013
    โพสต์:
    1,964
    กระทู้เรื่องเด่น:
    7
    ค่าพลัง:
    +2,661
    ได้โอนเงิน จำนวน 960 บาท วันที่ 28/6/62 เวลา 22.03 น.
    ที่อยู่จัดส่งแจ้งทาง PM ครับ
     
  12. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รับทราบครับผม ขอบพระคุณมากครับ
     
  13. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    ประวัติและปฏิปทา
    -:-หลวงพ่อสมพร อัปปกิจโจ-:-
    วัดสาลวัน(ธ) ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย


    IMG_0003.JPG


    ตอนที่ ๑


    พระครูวรกิจสารคุณ หรือ หลวงพ่อสมพร อัปปกิจโจ มีนามเดิมว่า สมพร สีงาม เกิดเมื่อวันอาทิตย์ ที่ ๑๑ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๘๔ ณ บ้านดอนสง่า (ปัจจุบันคือบ้านโนนสง่า) ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย เป็นบุตรของคุณพ่อทองและคุณแม่สมบูรณ์ สีงาม

    IMG_9736.JPG IMG_9737.JPG

    ก่อนออกบวชหลวงพ่อสมพรท่านได้เห็นนิมิตว่า มีเด็กกำลังหาบน้ำมารดแปลงผักซึ่งมีอยู่แปดแปลง พอหลวงพ่อก้าวเข้าไปดู เด็กคนนั้นก็กลับถอยหลังคืน ครั้นรดน้ำเสร็จ เด็กคนนั้นพร้อมกับผักทั้งแปดแปลงก็หายไป ท่านได้บอกว่านี่คือ "อุคคหนิมิต" คือนิมิตนี้ติดตาตลอด เป็นสัญญาณของการออกบวช

    หลวงพ่อสมพร ท่านได้อุปสมบทในวัย ๒๘ ปี เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๑๒ เวลา๑๓.๐๐น. ณ วัดพระงามศรีมงคล ต.น้ำโมง อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย โดยมี พระครูสีลขันธ์สังวร(หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ) เป็นพระอุปัชฌาย์ และมี พระครูสุทธิญาณประยุต(หลวงปู่ต้น สุทธิกาโม) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้ฉายาว่า"อัปปกิจโจ"ซึ่งแปลว่า ผู้มีกิจน้อย
    IMG_9955.JPG
    ภายหลังจากการอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อสมพร ท่านได้อยู่จำพรรษากับหลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ ที่วัดพระงามศรีมงคล ท่านได้ศึกษาข้อวัตรปฏิบัติ ได้รับการอบรมจากหลวงปู่อ่อนสีทุกวันจนดึก เช้าวันหนึ่ง หลังจากที่หลวงพ่อสมพรท่านได้ทำภารกิจหน้าที่ตามได้รับมอบหมายแล้ว ท่านได้นั่งพักผ่อนโดยหันหน้าไปที่ถนนหน้าวัด เห็นพ่อค้าแม่ขายนำสินค้าใส่รถขับผ่าน ทำให้ท่านนึกถึงสมัยที่ท่านยังเป็นฆราวาสได้ทำมาค้าขาย ทำให้ท่านคิดอยากลาสิกขา ครั้นเวลาบ่ายโมงหลวงพ่อสมพร ท่านได้ขึ้นศาลาเพื่อที่จะไปกราบเรียนหลวงปู่อ่อนสี ขณะนั้นองค์หลวงปู่กำลังเดินจงกรมอยู่ เมื่อหลวงปู่อ่อนสีเจอหน้าหลวงพ่อสมพรจึงได้ทักขึ้นว่า"ท่านนี่ไปเอานวโกวาทมาอ่านละเบาะ" หลวงพ่อสมพรตอบ"ยังกระผม" หลวงปู่อ่อนสีได้ดุหลวงพ่อสมพรว่า"ไปเอามาอ่านเดี๋ยวนี่!!!"
    เมื่อท่านได้อ่านนวโกวาทจบ ตามคำสั่งของหลวงปู่อ่อนสีแล้ว ได้เกิดความปิติในใจทำให้ความอยากลาสิกขานั้นหมดสิ้นไปตั้งแต่ครั้งนั้นจนถึงบัดนี้


    IMG_9777.JPG



    ตอนที่ ๒

    หลวงพ่อสมพร เคยรับใช้อุปัฏฐากองค์หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี แลยังมีโอกาสคารวะและฟังพระธรรมเทศนาจากพ่อแม่ครูอาจารย์อีกหลายรูปจากการติดตามองค์หลวงปู่อ่อนสีไปคารวะพ่อแม่ครูอาจารย์อาทิ หลวงปู่ขาว อนาลโย,หลวงปู่ฝั้น อาจาโร,พระอาจารย์จวน กุลลเชฏโฐ,พระอาจารย์วัน อุตตโม และอีกหลายรูปด้วยกัน ที่สำคัญท่านยังได้รับการแต่งตั้งจากหลวงปู่อ่อนสี สุเมโธให้เป็นเลขาเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อฝ่ายธรรมยุต โดยองค์หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธเป็นเจ้าคณะอำเภอ
    IMG_9740.JPG
    อุปนิสัยของหลวงพ่อสมพร อัปปกิจโจ ท่านเป็นดั่งเพชรเม็ดงามแห่งวงศ์พระกรรมฐาน เป็นผู้มีสีลาจริยวัตรงดงาม มีความสันโดษ รักในความสงบเพื่อบำเพ็ญเพียรภาวนา ถึงแม้ว่าท่านจะมีกิตติศัพท์ในเรื่องของความดุและเคร่งครัดในพระธรรมวินัย แต่ก็มีความเมตตาต่อศิษยานุศิษย์ทุกคนที่ไปกราบท่าน หลวงพ่อสมพรมักจะให้ของดีกลับไปแทบทุกคน ของดีที่ว่านั้นก็คือ ข้อคิด คติเตือนใจรวมถึงหลักธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ให้แก่ศิษย์ทุกคนเสมอ

    IMG_9954.JPG
    หลวงพ่อสมพร อัปปกิจโจ หรือที่รู้จักกันทั่วไปคือ "หลวงตาพร" เคยดำรงตำแหน่งเจ้าคณะตำบลท่าบ่อ เขต ๑ เขต ๒ ,เป็นพระธรรมฑูตและครูสอนปริยัติธรรม อดีตรักษาการเจ้าคณะอำเภอท่าบ่อ(ธ) ปัจจุบันดำรงสมณศักดิ์ที่ พระครูวรกิจสารคุณ และดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสาลวัน(ธ) บ้านโพนสา ตำบลโพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย

    นายวุฒิชัย ต่อฤทธิ์
    ( ผู้เรียบเรียง )
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_9744.JPG
      IMG_9744.JPG
      ขนาดไฟล์:
      267.6 KB
      เปิดดู:
      109
  14. PKongja

    PKongja Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2015
    โพสต์:
    367
    ค่าพลัง:
    +231
    ขอจอง
    รายการที่ 13
    เหรียญรุ่นแรก หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ วัดพระงามศรีมงคล ปี20 เนื้อทองแดง ตอก1โค๊ด

    ขอบคุณครับ
     
  15. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รับทราบครับผม
     
  16. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    แจ้งเลขพัสดุเอกชนเคอรี่นะครับ
    คุณsongsakth STAB000038237
    คุณSIR2010 STAB000038238
    ขอบพระคุณมากนะครับ
     
  17. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    ผมมีความคิดที่จะสร้างเหรียญหล่อเจ้าสัว มวลสารพระกรรมฐาน ถวายหลวงพ่อสมพรแจกกฐินและส่งให้ทหารสามจังหวัดชายแดนใต้ ขอสอบถามความคิดเห็นพี่ๆสมาชิกครับ

    IMG_9663.JPG
     
  18. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    IMG_0228.JPG

    พ่อแม่ครูอาจารย์รูปสำคัญที่ยังครองธาตุขันธ์อยู่
    -:-พระครูวรกิจสารคุณ-:-
    (หลวงพ่อสมพร อัปปกิจโจ)
    ปัจจุบันอายุ ๗๘ ปี ๕๐ พรรษา
    วัดสาลวัน (ธ) ต.โพนสา อำเภอท่าบ่อ จ.หนองคาย
    หน่อธรรมหลวงปู่เทสก์ เทสก์รังสี และ หลวงปู่อ่อนสี สุเมโธ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 มิถุนายน 2019
  19. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    สนใจสอบถามได้นะครับ
     
  20. ChintopTM

    ChintopTM เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2019
    โพสต์:
    2,694
    ค่าพลัง:
    +1,086
    รายการที่ 16
    เหรียญเลื่อนสมณศักดิ์ หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม วัดอัมพวัน เนื้ออัลปาก้าหน้ากากทองแดง ตอกโค๊ดและหมายเลข แยกชุดกรรมการ

    บูชา250บาท
    ปิดรายการ

    IMG_0280.JPG
    พระธรรมสิงหบุราจารย์ มีนามเดิมว่า จรัญ จรรยารักษ์ เกิดเมื่อวันพุธที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2471 เวลา 07.10 น. ตรงกับแรม 15 ค่ำ เดือน 8 ปีมะโรง ที่บ้านบางม่วงหมู่ ตำบลม่วงหมู่ อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เป็นบุตรคนที่ 5 ในจำนวนทั้งหมด 11 คนของนายแพ จรรยารักษ์ และนางเจิม (สุขประเสริฐ) จรรยารักษ์

    อุปสมบท
    พระธรรมสิงหบุราจารย์(จรัญ ฐิตธมฺโม) อุปสมบทเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2491 เวลา 14.00น. ณ พัทธสีมาวัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี โดยมีพระพรหมนคราจารย์ (ดี ธมฺปญฺโญ) วัดแจ้งพรหมนคร อำเภอเมือง จังหวัดสิงห์บุรี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูถาวรวิริยคุณ(กิมเฮง พุทฺธสโร) วัดพุทธาราม อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระอธิการช่อ ปภากโร วัดพรหมบุรี อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ท่านได้รับฉายาว่า"ฐิตธมฺโม" (ผู้มีธรรมตั้งมั่นแล้ว)

    หลวงพ่อจรัญได้ธุดงค์ไปตามป่าเขาลำเนาไพรและที่ต่างๆ เพื่อแสวงหาความรู้และประสบการณ์ทั้งทางสมถกรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐาน และได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิชากับพระอาจารย์หลายท่าน อาทิ ศึกษาคชศาสตร์กับพระครูนิวาสธรรมขันธ์ (เดิม พุทฺธสโร) ตำบลหนองโพ อำเภอพยุหคีรี(ในขณะนั้น) ปัจจุบันอยู่ในอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ต่อมาเรียนกับพระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์ (ลี ธมมฺธโร) และพระอริยคุณาธาร (เส็ง ปุสฺโส) จังหวัดขอนแก่น และได้ศึกษาการทำเครื่องรางของขลัง น้ำมันมนต์ กับหลวงพ่อจง พุทฺธสโร วัดหน้าต่าง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหลวงพ่อสนั่น วัดเสาธงทอง จังหวัดอ่างทอง และหลวงพ่อจาด วัดบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี และได้ศึกษาสมถกรรมฐานกับพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญอำเภอภาษีเจริญ จังหวัดธนบุรี ศึกษาและปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานกับพระราชสิทธิมุนี (โชดก ญาณสิทฺธิ) วัดมหาธาตุ กรุงเทพฯ ศึกษาและปฏิบัติกรรมฐานกับหลวงพ่อในป่า(ไม่ทราบชื่อ) ศึกษาวิชาสเดาะกุญแจกับหลวงพ่อลี วัดบางปิ้ง สมุทรปราการ และได้ศึกษาพระอภิธรรมกับอาจารย์เตชิน (ชาวพม่า) ที่วัดระฆังโฆษิตาราม จังหวัดธนบุรี และศึกษาการพยากรณ์จากสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทโย) วัดสระเกศ จังหวัดกรุงเทพฯ และศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้วิทยาศาสตร์ทางจิตกับอาจารย์ พ.อ.ชม สุคันธรัต

    เหรียญพิเศษแยกชุดกรรมการ สภาพสวยพร้อมกล่องเดิม เนื้ออัลปาก้าหน้ากากทองแดง หมายเลข303

    IMG_0249.JPG IMG_0250.JPG IMG_0251.JPG
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กรกฎาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...