พระพุทธรัตนพรรณมณีมรกต พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พระแก้วมรกต

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย naproxen, 11 มกราคม 2014.

แท็ก: แก้ไข
  1. naproxen

    naproxen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +742
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=BhBDfWct6uc]The Story of Emerald Buddha - YouTube[/ame]

    พระแก้วมรกตสร้างขึ้นในปี พุทธศักราช 500 โดยพระนาคเสนเถระ วัดอโศการาม กรุงปาฏลีบุตร ในแผ่นดินพระเจ้ามิลินท์ (เมนันเดอร์) สมเด็จพระอมรินทราธิราช พร้อมกับพระวิสสุกรรมเทพบุตร ได้นำแก้วโลกาทิพยรัตตนายก อันมีรัตนายกดิลกเฉลิม 1000 ดวง สีเขียวทึบ (หยกอ่อน) นำมาจำหลักเป็นพระพุทธรูปถวายให้พระนาคเสน ถวายพระนามว่า พระพุทธรัตนพรรณมณีมรกต พระนาคเสนจึงได้บรรจุพระบรมสารีริกธาตุลงไปในพระพุทธรัตนพรรณมณีมรกต 7 พระองค์ คือพระโมลี พระนลาฏ พระนาภี พระหัตถ์ซ้าย-ขวา และพระเพลาซ้าย-ขวา แต่เมื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้วอัญเชิญขึ้นประดิษฐานแล้วนั้น เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้น พระนาคเสนได้พยากรณ์ว่า พระแก้วองค์นี้ จะเสด็จไปโปรดสรรพสัตว์ในเบญจวิสัย คือ ลังกาวิสัย กัมโพชะศรีอโยธยาวิสัย โยนกวิสัย สุวรรณภูมิวิสัย และ ปะมะหละวิสัย
     
  2. naproxen

    naproxen เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +742
    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=JXBedoYOC4Y]พระราชกรณียกิจ ๒๑ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๑๕ - YouTube[/ame]

    พระมหากษัตริย์เจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐแห่งกรุงไทยกรุงสยามที่ผ่านมาทุกพระองค์ล้วนเป็นมหาบุรุษเป็นผู้ชายอันประเสริฐเป็นอัครพุทธศาสนูปถัมภก
     
  3. Spammer

    Spammer เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    977
    ค่าพลัง:
    +3,498
    ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์จงช่วยปกปักรักษาผู้เกี่ยวข้องทุกๆฝ่ายกับความขัดแย้งและผู้เดือดร้อนอื่นๆด้วยเทอญ...
     
  4. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685
    ทุกท่านต้องใช้ความพยายาม ในการที่จะทำกำลังใจให้ยิ่งนะครับ ขอให้ยิ่งไปโดยตลอดนับจากนี้ไป
    ที่ว่ายิ่งคือยิ่งด้วยศรัทธาที่ประกอบไปด้วยปัญญาอันชอบธรรม ยิ่งด้วยขันติคือความอดทนข่มจิตใว้ด้วยธรรม
    ยิ่งด้วยศีลคือถือปกติสำรวมระวังให้กายใจไม่เบียดเบียนกัน ยิ่งด้วยการเอาใจออกไปจากความโกรธ ออกจาก
    ความกระหายไปในอารมณ์และความหลงไหลต่างๆ ยิ่งด้วยเมตตาตั้งเอาใว้ในใจให้ยิ่ง ต่อใจให้เนื่องให้สนิท
    ให้ชุ่มเย็นดับร้อน ยิ่งด้วยสัจจะจริงใจทุกเมื่อถือธรรมด้วยใจวาจาและกายโดยไม่มีระหว่าง ไม่มีเงื่อนไข
    ยิ่งด้วยความเพียร ส่งตนไปชอบ ให้มีสติสำรวมใจในทุกเวลาขณะตื่นทั้งขณะหลับ ยิ่งด้วยอุเบกขาคือใจให้เฉย
    เมื่อรู้ถ้วนโดยแท้ย่อมวาง "กิจกรรมใดๆที่ท่านจะทำ ... ให้เป็นแต่สักแต่ว่ากิริยากายขอให้ใจท่านสว่าง สอาด สงบ"
    ยิ่งด้วยความแน่วแน่ ตั้งใจตรง ตั้งกายะวาจาร่วมให้ตรงเที่ยงตรงแท้ไปในความดีงามและกิจบริสุทธิ์ทั้งปวง
    โดยไม่คลอดแคลน และมุ่งมั่นไปจนถึงธรรม และจงสละอารมณ์เผาใจทั้งปวงออกทำอภัยทานด้วยกันเถิดครับ ...

    "กายปล่อยไปทำกิจกรรมได้ไม่จำกัด ใจให้เป็นปกติ ตั้งมั่น ชัดเจนแจ่มใส และเป็นอิสระโดยธรรม"


    ปรารถนาดียิ่ง
    ประทีป

    ... ^^ ...
     
  5. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    ความเข้าใจใน พระแก้วมรกต
    เมื่อคนไทยเราได้อ่านตำนานพระแก้วมรกตแล้ว มักจะเข้าใจผิดไปว่า พระแก้วมรกต
    ทำขึ้นในอินเดีย ทั้งนี้เพราะเราเข้าใจว่า นครปาตลีบุตรในตำนาน คือนครปาตลีบุตร
    ในอินเดีย ไม่มีตำนานหรือเรื่องราวเกี่ยวกับพระแก้วมรกตในตำนานหรือพงศาวดาร
    ทางอินเดียและทางลังกาเลย เพราะว่าพระแก้วมรกตของเรานี้ พระมหากษัตริย์
    ไทยโบราณสองพระองค์ ได้สร้างขึ้นในนครปาตลีบุตร ในเมืองไทย
    มีผู้เติม พ.ศ. ๕๐๐ ในตำนานพระแก้ว
    ทำให้เรื่องราวในตำนานสับสน
    ผู้จดตำนานพระแก้วมรกตในสมัยหนึ่ง มีความปราถนา
    ที่จะให้ตำนานพระแก้วมรกต เกี่ยวข้องไปถึงแดนอินเดีย จึงได้เพิ่มข้อความว่า
    “พระนาคเสนองค์นั้นเธอเป็นอาจารย์แก่พระยามิลินทราชมหากษัตริย์นั้นแล”
    ในตำนานพระแก้วมรกต ฉบับภาษาบาลี ยังได้เติมเรื่องพระนาคเสนกับพระยามิลินท์
    ในชาติก่อนเคยเป็นศิษย์อาจารย์กัน ให้เข้าเรื่องเลยเติม พ.ศ. ๕๐๐ เข้าในตำนานพระแก้ว
    มรกตทุกๆฉบับ เพื่อให้ตรงกับเรื่องมิลินทปัญหา ซึ่งเป็นเรื่องสมัย พ.ศ. ๕๐๐
    พระยามิลินท์และพระนาคเสน ในมิลินทปัญหาเป็นเรื่องในกรุงสาคละทางตอนเหนือ
    ของอินเดีย ไม่ใช่เรื่องของกรุงปาตลีบุตร และในสมัยนั้นพระพุทธรูปยังไม่เกิดมีขึ้น
    พระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์มีขึ้นในสมัยพระเจ้ากนิษกะ ประมาณ พ.ศ. ๖๒๑
     
  6. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    นครปาตลีบุตร ในเมืองไทย คือที่ใด
    ในสมัยโบราณ มีพระมหากษัตริย์ลงมาตั้ง นครพันพาน ที่ตำบลเวียงสระ
    ในอำเภอบ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อประมาณ พ.ศ. ๙๐๐-๑๑๐๐ ,
    ตั้ง นครตามพรลิงค์ ที่นครศรีธรรมราช เมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๑๐๐-๑๒๐๐ ,
    ตั้ง นครศรีโพธิไชยา เมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๒๐๐-๑๔๐๐
    เรื่องของนครโบราณรอบอ่าวบ้านดอน สามนครนี้เป็นเรื่องนานแสนนาน
    จนคนไทยในสมัยเขียนตำนาน ได้เขียนนามพระมหากษัตริย์ในนครทั้งสามนี้ว่า
    “พระเจ้าศรีธรรมาโศก” เหมือนกันไปทั้งหมด
    เพราะว่าท่านเป็นลูกหลานของพระเจ้าศรีธรรมาโศก (อินเดีย)
    และยังสามารถทำให้นครทั้งสามนี้มี พระพุทธศาสนา รุ่งเรือง
    เช่นเดียวกับในนครปาตลีบุตรของอินเดียได้ด้วย
    ตำนานไทยจึงเรียกนครของพระเจ้าศรีธรรมาโศก ในเมืองไทย ทั้งสามแห่งนี้ว่า
    “นครปาตลีบุตร” ไปด้วย
     
  7. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    ฝรั่งเขียนประวัติศาสตร์ไทย
    ทำให้คนไทยเข้าใจผิด
    นักปราชญ์ฝรั่งหลายท่าน ได้เข้ามาศึกษาประวัติศาตร์ไทย
    เลยเขียนประวัติศาตร์ให้คนไทยเรียน ว่าคนไทยเพิ่งจะลงมามีอำนาจในแดนไทยนี้
    ในสมัยพระเจ้าอู่ทอง ตั้งกรุงที่หนองโสน เมื่อ พ.ศ. ๑๘๙๓
    ก่อนหน้านั้นคนในแดนไทยนี้ไม่ใช่ไทย
    คนไทยเลยมีความเข้าใจผิดในเรื่องตำนานต่างๆที่คนไทยโบราณเขียนเอาใว้
     
  8. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    คนไทยตั้งรกรากตั้งแต่เชียงแสน กำแพงเพชร ละโว้ อโยธยา
    ไชยา นครศรีธรรมราช มาตั้งแต่ ประมาณ พ.ศ. ๗๐๐
    มีมอญอยู่ทางตะวันตก มีเขมรอยู่ทางตะวันออก
    มีการรบพุ่ง ผลัดกันแพ้ชนะ หลายยุค
    ตลอดเวลาสองพันปีที่คนไทยเขียนตำนานเล่าเอาไว้ เป็นความจริงทั้งสิ้น
    แต่เนื่องจากในสมัยหนึ่ง เราไปเชื่อประวัติศาสตร์ที่ฝรั่งเขียนให้เรียน
    จึงหาว่าตำนานที่คนไทยเขียนไว้ เป็นเรื่องนิยายทั้งสิ้น ไม่มีความจริงในด้านประวัติศาสตร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2014
  9. iamprateep

    iamprateep เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    448
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +2,685
    ได้ไปกราบพระแก้วมรกตมาสองครั้ง ชื่นใจน่าดู เย็นใจน่าดูชม ... สาธุ ...
     
  10. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    คนไทยโบราณที่อยู่ในแดนล้านนาเรียกว่าพวก โยนก
    คนไทยโบราณที่อยู่ที่ละโว้ อโยธยา ไชยา นครศรีธรรมราชเรียกว่าพวก กัมโพช
    (กัมโพช หมายถึงชาวใต้
    ในสมัยต่อมา เมื่อขอมซึ่งเป็นไทย มีมารดาเป็นเขมร มีอำนาจมาก
    ไทยเหนือเลยเรียกไทยใต้ว่า ขอม ไปหมด)
    ตำนานพระแก้วมรกต เรียกเมืองนครศรีธรรมราชว่า ลังกาทวีปกัมโพชวิสัย
    ลังกา แปลว่า เมืองที่มีพระไตรปิฎก
    เมืองพระไตรปิฎกของชาวกัมโพชในตำนานพระแก้วคือ เมืองนครศรีธรรมราช
    ตำนานต่างๆของไทย และพงศาวดารเหนือ จดเรื่องก่อนสมัยตั้งกรุงศรีอยุธยาที่หนองโสน
    ล้วนเป็นเรื่องของไทยกัมโพช หรือไทยไศเลนทร์
    ไทยชาวภูเขามาตั้งนครที่สวรรคโลก กำแพงเพชร ละโว้ อโยธยา ไชยา นครศรีธรรมราช
    ไทยที่สร้างพระแก้วมรกตเรียกตัวเองในจารึกว่า ไศเลนทรวงศ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2014
  11. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    สองกษัตริย์ไทยผู้สร้างพระแก้วมรกต คือ
    สมเด็จพระอมรินทราธิราช หรือพระอินทร์ มีนามเป็นภาษาสันสกฤตว่า ศรีนทรวรมเทวะ
    คือ พระอินทร์บรมเทพ ตามประวัติศาสตร์ศรีวิชัย ปรากฏว่าพระอินทร์เสวายราชย์ในระยะ
    พ.ศ. ๑๒๓๐-๑๒๗๐ และพระวิษณุกรรมเทพบุตร หรือพระวิษณุกรรม มีนามเป็นภาษาสันสกฤษว่า
    วิษณวาขโย ผู้เป็นราชบุตร ที่ปรากฏในจารึกกรุงศรีวิชัย พ.ศ. ๑๓๑๘ พบที่เวียงไชยา
    เสวยราชย์ในระยะประมาณ พ.ศ. ๑๒๗๐-๑๓๓๐
    เมื่อพระอรหันต์ นามว่าพระมหาธรรมรักขิตเถรเจ้า ผู้เป็นพระอาจารย์นิพพานไปแล้ว
    พระอรหันต์นามนาคเสนผู้เป็นศิษย์ คิดเห็นว่า ควรจะสร้างพระพุทธรูปเจ้าขึ้นไว้
    เพื่อแทนองค์อาจารย์ผู้ที่ได้สั่งสอนนิพพานธรรมให้แก่ศิษย์ ให้เป็นพระพุทธรูป
    ที่สามารถยังผู้ได้นมัสการ ได้เข้าถึงสวรรค์และนิพพานได้เป็นจำนวนมาก
    ถ้าจะสร้างด้วยเงินและทองคำ จะให้ยั่งยืนมั่นคงหาได้ไม่ เพราะคนทั้งปวงเขามีโลภะ
    โทสะ โมหะมาก เขาจะทำลายพระพุทธรูปเสีย เราควรจะสร้างพระพุทธรูปด้วยแก้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2014
  12. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    พระอินทร์กับพระวิษณุกรรม ทราบความปรารถนาของพระนาคเสนแล้ว
    ก็รับอาสาไปหาก้อนแก้วมาถวาย พระอินทร์จึงตรัสแก่พระวิษณุกรรมเทพบุตรว่า
    เจ้าจงไปนำเอามายังแก้วลูกประเสริฐ อันมีอยู่ในเขาเวบุลบรรพตนั้นมาโดยเร็วเถิด
    เราจะเอามาถวายแก่พระนาคเสนเจ้า ท่านจะสร้างเป็นพระพุทธรูปไว้ให้เป็นที่นมัสการบูชา
    แก่มนุษย์และเทพาไปข้างหน้าแล
    เมื่อนั้นพระวิษณุกรรมเทพบุตร กราบทูลสมเด็จพระอมรินทราธิราชเจ้าว่า
    ข้าแต่พระอินทร์ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้ข้าพเจ้าไปเอาแก้วลูกประเสริฐ
    ในเขาเวบุลบรรพตนั้น ซึ่งพวกกุมภัณฑ์คนธรรพ์ยักษ์ อารักษ์เทพยดาทั้งปวง
    ที่เขาอยู่รักษาแก้วไว้นั้นก็มีมากนักหนา จะให้ข้าพเจ้าไปคนเดียวนั้นเห็นเขาจะไม่ให้
    ข้าพเจ้าขอเชิญองค์สมเด็จพระอินทราเจ้าจงเสด็จไปด้วยข้าพเจ้าเถิด
    ซึ่งพวกกุมภัณฑ์คนธรรพ์ยักษ์ทั้งปวง ครั้นเขาได้เห็นพระองค์สมเด็จพระอินทราเจ้า
    แล้วเขาจะให้แก้วลูกประเสริฐ ถวายแก่สมเด็จพระราชบพิตรเจ้าแล
    เมื่อนั้นสมเด็จพระอินทรา ครั้นพระองค์ได้ทรงฟังยังถ้อยคำแห่งพระวิษณุกรรมเทพบุตร
    กราบทูลนั้นแล้วพระองค์ก็เสด็จไปสู่เขาเวบุลบรรพต พร้อมกับพระวิษณุกรรมเทพบุตร
    (เขาเวบุลบรรพต คือ นครราชคฤห์ ในเวลาต่อมาคือกรุงปักกิ่ง หรือยุนนาน คนไทยโบราณ
    เรียกกรุงราชคฤห์ทั้งสองแห่ง)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2014
  13. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    ครั้นถึงแล้วพระองค์ก็เห็นคนธรรพ์กุมภัณฑ์ทั้งปวง อยู่ในเขาเวบุลบรรพตเป็นอันมาก
    พระอินทร์จึงตรัสแก่พวกกุมภัณฑ์คนธรรพ์ยักษ์ทั้งปวงว่า ท่านทั้งหลายทั้งปวง
    เราเข้ามาสู่เขาเวบุลบรรพตนี้ ด้วยเราจะมาขอเอาแก้วลูกประเสริฐไปถวายแก่มหานาคเสนเจ้า
    ด้วยท่านมีความปราถนาจะสร้างแปลงเป็นพระพุทธรูปเจ้า ท่านทั้งปวงจงให้แก้วลูกประเสริฐ
    แก่เราเถิด
    เมื่อนั้นกุมภัณฑ์คนธรรพ์ยักษ์ทั้งปวง จึงกราบทูลสมเด็จพระอินทราว่า ข้าแต่พระองค์เจ้า
    ซึ่งแก้วลูกประเสริฐ อันข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงรักษาไว้นี้ มิใช่เป็นแก้วสิ่งใดสิ่งอื่นเลย
    แม้นแก้วมณีโชติอันเป็นของพระบรมจักรพรรดิราชาธิราชเจ้า มีแก้วทั้งหลายพันลูก
    เป็นบริวารล้อมอยู่ ครั้นข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงจะถวายแก่พระองค์สมเด็จพระมหาราชเจ้านั้น
    ครั้นพระบรมจักรพรรดิราชาธิราชเจ้าเกิดมาข้างหน้านั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงก็หาแก้วลูกประเสริฐ
    จะถวายท่านมิได้เสีย ซึ่งแก้วมณีโชติลูกนี้ ก็มีอิทธิเลิศมหิทธิศักดานุภาพนักนา
    ถ้าสำแดงฤทธิ์เสด็จที่ใดคนทั้งปวงก็จะมีความสงสัยว่า พระยาจักรพรรดิราชาราช
    เจ้าตนประเสริฐเกิดมาในที่นั้น ข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงก็มิอาจที่จะถวายแก้วมณีโชติลูกนี้
    แก่พระองค์สมเด็จมหาราชเจ้าได้แล แต่ว่าข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวงจะขอถวายแก้วมรกตลูกหนึ่ง
    มีรัศมีอันเขียวงามบริสุทธิ์แก่องค์สมเด็จมหาราชเจ้าแล ซึ่งมณีโชติลูกนั้นข้าพระพุทธเจ้าทั้งปวง
    ยังถวายไม่ได้ ขอองค์สมเด็จมหาราชเจ้าจงเอาแก้วมรกตลูกนี้ เพื่อถวายแก่พระนาคเสนเจ้าเถิด
    ซึ่งแก้วมรกตลูกนี้มีแก้วลูกประเสริฐเป็นบริวารพันลูก ล้อมเป็นบริวาร อยู่ถัดกำแพงอันล้อม
    แก้วมณีโชตินั้นแล

    เมื่อนั้นสมเด็จอมรินทราธิราช ครั้นพระองค์ได้ทรงฟังถ้อยคำพวกกุมภัณฑ์ คนธรรพ์ยักษ์ทั้งปวง
    พระองค์ก็พาพระวิษณุกรรมเสด็จเข้าไปสู่ที่มีแก้วมรกตนั้น พระองค์ก็ถือยังแก้วมรกตลูกประเสริฐ
    ครั้นได้แล้ว พระองค์ก็พาพระวิษณุกรรมเสด็จรีบมาจากเขาเวบุลบรรพต ครั้นถึงอโศการามแล้ว
    พระองค์ก็เอาแก้วมรกตลูกนั้นไปถวายแก่พระนาคเสนเจ้า พระองค์ก็กราบลาพระมหานาคเสนเจ้า
    อยู่มาแต่นั้นพระมหานาคเสนเจ้า ครั้นท่านได้แก้วมรกตลูกนั้นแล้ว ก็มีความยินดีเป็นที่สุด
    แล้วท่านจึงรำลึกในใจว่า เราจะได้บุคคลผู้ใดมีปัญญาอันฉลาด มาสร้างแปลงพระพุทธรูปเจ้า
    ด้วยแก้วมรกตลูกนี้ ให้สำเร็จดังใจปราถนาของเรานี้เล่า ครั้นพระมหานาคเสนเจ้านึกในพระทัย
    ดังนี้แล้ว พระวิษณุกรรมเทพบุตร ก็ฉลาดรู้อัธยาศัยน้ำใจแห่งพระมหานาคเสนเจ้าแล้ว
    พระวิษณุกรรมจึงแปลงกาย(ปลอมตัวเป็นช่าง) เข้ามาไหว้พระมหานาคเสนเจ้า
    แล้วว่า ข้าแต่พระผู้เป็นเจ้า ข้านี้ก็ฉลาด เคยสร้างแปลงพระพุทธรูปเจ้าแล ถ้าพระผู้เป็นเจ้า
    มีความปราถนา จะสร้างแปลงพระพุทธรูปเจ้าด้วยแก้วมรกตลูกนี้ ก็จะสร้างแปลงให้สำเร็จ
    ความปราถนาของพระผู้เป็นเจ้าเถิด เมื่อพระมหานาดเสน ครั้นได้ฟังถ้อยคำของพระวิษณุกรรม
    ที่ปลอมตัวมา ท่านก็มีใจยินดีเป็นที่สุด ท่านจึงพูดกับบุรุษคนนั้นว่าท่านจงสร้างแปลงพระพุทธรูป
    ด้วยแก้วมรกตลูกนี้ ให้เป็นที่นมัสการแก่มนุษย์แลเทพบุตรทั้งปวงเถิด
    เมื่อนั้นพระวิษณุกรรมเทพบุตร ท่านก็สร้างแปลงพระพุทธรูปเจ้าด้วยแก้วมรกตนั้นนานได้ ๗ วัน จึงสำเร็จ
    พระวิษณุกรรมยังได้สร้างพระมหาวิหารถวาย สำหรับประดิษฐานพระแก้วมรกตด้วย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2014
  14. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    พระวิษณุกรรมได้สร้างพระแก้วมรกต แล้วทำ ตรีเนตร หรือ ตาที่สาม เป็นตุ่มกลมเล็ก
    ระหว่างตาทั้งสอง เพื่อเป็นเครื่องแสดงว่าพระมหากษัตริย์ได้ทรงสร้างปฏิมานี้ ด้วยฝีพระหัตถ์
    (พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ได้ถวายเพชรเม็ดใหญ่เข้าแทนตรีเนตรเดิม ตรีเนตรที่พระแก้วมรกตจึงดูผิดแปลกจากตรีเนตรสมัยศรีวิชัย)
    เมื่อพระราชบิดาสวรรคตแล้ว พระวิษณุกรรมยังได้เป็นช่างปั้นหุ่น หล่อรูปพระโพธิสัตว์
    อุทิศให้พระราชบิดา พระมหากษัตริย์ผู้ทรงธรรม สามารถชักนำราษฎรให้เข้าถึงนิพพานธรรม
    เข้าวัดอยู่อุโบสถได้เป็นจำนวนมาก เมื่อสวรรคตแล้ว ราษฎรก็ยกย่องว่าเป็นพระโพธิสัตว์
    พระโพธิสัตว์องค์นี้มีพระพักตร์แสดงออกซึ่งนิพพานธรรมเป็นอย่างดี
    แสดงว่าพระมหากษัตริย์ผู้สร้าง เป็นผู้เข้าถึงนิพพานธรรม
    เมื่อพระวิษณุกรรมสวรรคต ศิลปินศิษย์ของท่านก็ได้สร้างพระโพธิสัตว์ เมืองไชยา องค์เล็ก
    มีสี่กร อุทิศแด่พระวิษณุ เป็นการยกย่องว่า พระองค์เป็นพระโพธิสัตว์ผู้รักษาพระพุทธศาสนา
    ให้รุ่งเรืองยิ่งพระองค์หนึ่ง แต่พระโพธิสัตว์ องค์เล็ก ไม่มีเครื่องหมายตรีเนตร เพราะเหตุว่า
    ผู้สร้างไม่ได้เป็นกษัตริย์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 กุมภาพันธ์ 2014
  15. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    พระอรหันต์อันเชิญพระบรมธาตุไว้ในพระแก้วมรกต
    พระมหานาคเสนเจ้า ได้นำเอาพระบรมธาตุเจ้า ๗ พระองค์ อันงามบริสุทธิ์
    และมีฉัพพรรณรังษีต่างๆกัน ไว้ยังพานเงิน ๗ พานซ้อนกันขึ้นแล้วจึงตั้งไว้ยังสุวรรณ
    พานทอง ๗ พานซ้อนกันขึ้น พานแก้ว ๗ พานซ้อนกันขึ้นบนพานเงินพานทองแล้วนั้น
    จึงเชิญพระบรมธาตุเจ้า ๗ พระองค์นั้นใส่ลงในผอบแก้วลูกหนึ่งอันวิจิตรงามมากนัก
    เมื่อนั้น พระนาคเสนเจ้าจึงตั้งสัตยาธิษฐาน ขออาราธนาเชิญพระบรมธาตุเจ้า ๗ พระองค์นั้น
    ให้เสด็จเข้าไปในองด์พระแก้วเจ้านั้นแล
    พระบรมธาตุเจ้าเจ็ดพระองค์นั้น พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในโมฬี พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าใน
    พระพักตร์ พระองค์หนึ่งก็เสด็จในพระหัตถ์กำขวา พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในพระหัตถ์กำซ้าย
    พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในเข่าข้างขวา พระองค์หนึ่งก็เสด็จเข้าในเข่าข้างซ้าย องค์หนึ่งก็เสด็จ
    เข้าในพระชงฆ์แห่งพระแก้วเจ้าสิ้นทั้งเจ็ดพระองค์นั้นแล
     
  16. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    พระมหานาคเสนเป็นพระภิกษุในสมัยของพระอินทร์ ท่านเข้าใจคำว่า “พระนิพพานธรรม”
    จึงสามารถอัญเชิญพระนิพพานธรรม (ฝ่ายโลกุตตระ คนธรรมดามองไม่เห็น)
    เข้าไว้ในพระแก้วมรกตในที่เจ็ดแห่ง ผู้ใดได้เห็นเพียงแห่งเดียวในเจ็ดแห่งของพระแก้วมรกต
    ถ้าสามารถเข้าใจสัญลักษณ์ของนิพพานธรรม ก็ได้ชื่อว่าได้เห็นพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้า
    ผู้ใดเพียงแต่ได้เห็นยอดพระวิหารที่ประดิษฐานพระแก้วมรกต หรือได้ยินเสียงระฆังจากวัดพระแก้ว
    แล้วสามารถน้อมระลึกไปถึงคุณธรรมของพระนาคเสน และพระอินทร์ พระวิษณุกรรม
    ผู้สร้างพระแก้วมรกตขึ้นไว้ ก็ได้ชื่อว่าเข้าถึง “พระบรมธาตุ” หรือ “พระนิพพานธรรม” ด้วย
     
  17. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    “พระบรมธาตุ” มีความหมายสองอย่าง คือ ในฝ่ายโลกียะ นั้น พระบรมธาตุ
    หมายความว่า พระอัฐิที่คงเหลืออยู่ของพระสรีระของพระอรหันต์ เท่าเม็ดพรรณผักกาดบ้าง
    เท่าเม็ดถั่วบ้าง คนธรรมดามองด้วยตาธรรมดาก็มองเห็น แต่ในฝ่ายโลกุตตระ
    พระบรมธาตุ หมายถึง พระนิพพานธรรม ที่ใดมีผู้ปฏิบัติตามมรรคแปดบรรลุพระนิพพาน ที่นั่นชื่อว่ามี “พระบรมธาตุ”
    พระบรมธาตุฝ่ายโลกุตตระนี้ คนธรรมดาก็มองไม่เห็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กุมภาพันธ์ 2014
  18. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    พระเจดีย์พุทธคยา ในอินเดีย มีห้ายอด ยอดกลาง หมายถึง นิพพานธรรม
    สี่ยอดบริวาร หมายถึงอริยสัจสี่
    พระเจดีย์นี้เป็นสัญลักษณ์แสดงออกว่า ณ ที่นี้ เจ้าชายสิทธัตถะได้บรรลุนิพพานธรรม
    ด้วยการตรัสรู้อริยสัจสี่ ผู้ใดมีปัญญามองเห็นพระนิพพานธรรม ที่พระเจดีย์พุทธคยา
    ก็ได้ชื่อว่ามองเห็นพระบรมธาตุฝ่ายโลกุตตระธรรม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2014
  19. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    สมเด็จพระอมรินทราธิราช พระองค์ได้สร้างพระบรมธาตุไชยา ที่เมืองสุราษฎร์ธานี
    เมื่อประมาณ พ.ศ. ๑๒๓๐-๑๒๕๐ เพื่อบรรจุพระบรมธาตุของพระราชบิดาพร้อมด้วยพระสารีริกธาตุ
    เจดีย์พระบรมธาตุไชยา มียอดสูงตรงกลาง หมายถึง นิพพานธรรม
    มีสี่ยอดบริวาร หมายถึงอริยสัจสี่ มียอดเล็กๆแวดล้อมยอดกลางเป็นสามชั้น ชั้นละแปดยอด
    พระเจดีย์นี้เป็นพระบรมธาตุประจำมหานคร ตามวัฒนธรรมของไศเลนทรวงศ์
    เป็นสัญลักษณ์แสดงออกว่า พระมหากษัตริย์องค์ปฐมบรมวงศ์ของมหานครนี้
    เป็นกษัตริย์ทรงธรรม เป็นพระอรหันต์
    ณ ที่แห่งนี้ บรรจุพระอัฐิของผู้บรรลุพระนิพพานธรรม พร้อมด้วยพระสารีริกธาตุ
     
  20. AMN

    AMN Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มกราคม 2012
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +67
    คำทำนายของพระอรหันต์
    เมื่อพระมหานาคเสนเจ้า ได้นำเอาพระบรมธาตุเจ้า ๗ พระองค์ เข้าไปประดิษฐานแห่ง
    พระมรกตแล้ว พลันก็เกิดปาฏิหาริย์ แผ่นดินไหวสั่นสะเทือนเป็นที่อัศจรรย์ยิ่งนัก
    พระพุทธรูปแก้วได้ยกฝ่าพระบาทดุจดังเสด็จลงจากแท่นประดิษฐาน ครั้นท่านได้เห็นอัศจรรย์
    ดังนั้นแล้ว ท่านจึงเล็งอรหัตมรรคญาณไปแต่ข้างหน้านั้น จึงเห็นว่าพระแก้วนี้จะไม่ได้อยู่ในเมือง
    ปาตลีบุตรเป็นมั่นคง ท่านจึงทำนายว่า “ดูกรท่านทั้งปวง ซึ่งพระแก้วเจ้าของเราองค์นี้ มิใช่จะอยู่
    เมืองปาตลีบุตรที่นี้เป็นมั่นคงเลย ท่านยังเสด็จไปโปรดเวไนยสัตว์ในประเทศ ๕ แห่ง คือ
    ๑. ลังกาทวีป , กัมโพชวิสัย (ตามพรลิงค์ นครศรีธรรมราช)
    ๒. ศรีอยุธยาวิสัย (อโยธยา ใต้ละโว้)
    ๓.โยนกวิสัย (เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง)
    ๔. สุวรรณภูมิวิสัย (หลวงพระบาง เวียงจันทร์)
    ๕. ปะมะหลวิสัย ( ? )
    ครั้นพระมหานาคเสนเจ้าทำนายไว้ดังนี้ ซึ่งคนทั้งปวงอันได้นมัสการบูชาพระแก้ว
    ก็ตั้งอยู่ชั่วแดนอายุของตน ครั้นจุติจากโลกมนุษย์แล้ว ก็บังเกิดในสวรรค์เทวโลก สิ้นทุกคนนั้นแล
    ผู้ที่ได้นมัสการพระแก้วมรกตด้วยความเลื่อมใส อย่างน้อยก็มีจิตใจไม่ตกไปทางชั่ว อย่างน้อยก็ได้ขึ้นสวรรค์
    ส่วนพระมหานาคเสน ท่านได้บรรลุพระนิพพาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 กุมภาพันธ์ 2014

แชร์หน้านี้

Loading...