พระพุทธเจ้าสอนเรื่องใจอย่างเดียว:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น

ในห้อง 'หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต' ตั้งกระทู้โดย Nana nora, 15 พฤษภาคม 2018.

  1. Nana nora

    Nana nora สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    386
    กระทู้เรื่องเด่น:
    5
    ค่าพลัง:
    +68
    ทุกอย่างอยู่ที่ใจ.jpg

    พระพุทธเจ้าสอนเรื่องใจอย่างเดียว

    “คำว่าศาสนาพุทธเพิ่นสอนให้พวกเรารู้จักกาลเทศะ รู้จักว่าสิ่งไหนควรไม่ควร รู้จักการให้ด้วยใจ และการรับด้วยใจ คือเอาใจตัวนั้นเป็นเจตนา เพราะพระพุทธเจ้าสอนเรื่องใจอย่างเดียวไม่ได้สอนอย่างอื่น รักษาศีลก็เอาใจรักษา ทานก็เอาใจทาน ทุกอย่างอยู่ที่ใจทั้งหมดเพราะเมื่อตายแล้วร่างกายก็แตกสลายไปตามกาลเวลา เมื่อร่างกายแตกสลายไปตามกาลเวลาบุญมันอยู่ที่ไหน อยู่ที่ใจ อากัปกิริยาแห่งการทานก็อาศัยใจตัวนั้นเป็นตัวยึดตัวถือ อากัปกิริยาแห่งการรักษาศีลก็เอาใจตัวนั้นเป็นตัวยึดตัวถือ หลักการภาวนาก็เฉกเช่นเดียวกันก็เอาใจตัวนั้นเป็นตัวยึดตัวถือในการสร้างคุณงามความดี อำนาจทาน อำนาจศีล อำนาจภาวนา ถ้าใจมันไม่ยึดไม่ถือแล้วเวลาที่ตายไปใจมันได้อะไรไปมันก็ไม่สามารถติดในจิตใจไปนะเรื่องบุญเรื่องกุศล มันก็ไปในสถานที่เลวทรามต่อไป เพราะว่าเจตนามันเลวทราม

    เอาตัวนั้นปลูกพืช พืชพันธุ์มันไม่ดี มันก็ไม่สามารถเติบโตได้ เหมือนเราปลูกมังคุดแต่เราต้องการให้มันเป็นมะม่วงทำนองนั้นนั่นแหละมันก็เป็นมังคุดเท่าเก่า เหมือนเราปลูกพืชอย่างอื่นที่ไม่มีดอกผลเราปรารถนาดอกผลของมันมันก็ไม่ให้ดอกผลของมันให้เราเด้ลูกนั่นเป็นเจตนาเห็นเหตุ พระพุทธศาสนาสอนลงที่ใจลูกต้องฟังให้มั่น เพราะฉะนั้นการทำบุญของลูกมันจะเกิดด้วยอานิสงส์มากมายมันต้องขึ้นอยู่ที่ใจของลูกของหลานไปที่ไหนก็ตาม ถ้าหากใจมันไม่ยอมรับมันก็ไม่ได้บุญได้กุศลเต็มเม็ดเต็มหน่วยมีบุญกุศลได้กึ่ง ๆ กลาง ๆ ลักษณะไหนไม่แน่ใจไปกับเขาอยู่แต่ก็ไม่แน่ใจ

    เออได้ยินว่าครูบาอาจารย์องค์นี้ท่านทรงอรรถทรงธรรมเป็นพระอริยะเราก็ไม่ทราบหรอกพระอริยะเป็นแบบไหนแต่เราก็อยากจะไปดูว่าเพิ่นทรงอรรถทรงธรรมจริงไหม ผู้ที่มีความคิดแบบนี้จึงมีการได้บุญเพียงนิดหนึ่งแต่เมื่อผู้ที่คิดแบบนี้มาเจอครูบาอาจารย์แล้วฟังธรรมแล้วเข้าใจเพิ่มเสริมสติกำลังปัญญาของตัวเองนั่นแหละบุญกุศลจะมาเต็มในช่วงนั้น

    เราจะสังเกตเห็นว่าทำไมคนในพุทธศาสนาจึงตายไปเป็นสัตว์เดรัจฉาน ทำไมคนในพระพุทธศาสนาจึงต้องตกนรกหมกไหม้ทั้งที่ทำบุญทำกุศลอยู่เราจะยกพระสูตรก็ได้เรื่องพระนางมัลลิกา พระนางมัลลิกาเป็นพระมเหสีของพระเจ้าประเทสิโกศล ในการทำทานอันยิ่งใหญ่พระพุทธศาสนาพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์เรียกว่า อสทิสทาน คือทานอันยิ่งใหญ่ผู้หญิงเป็นผู้ทำพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์จะมีและจะมีเพียงครั้งเดียวแต่ละองค์ ๆ ก็จะมีผู้หญิงนี้เป็นผู้ทำอสทิสทาน เป็นทานอันยิ่งใหญ่ ขนาดพระนางมัลลิกาเป็นผู้ทำทานตัวนี้ก็ยังไปตกนรกตั้ง ๗ วัน

    สาเหตุแบบไหนสาเหตุเกิดจากช่วงบั้นปลายใกล้ท้ายที่จะตายพระนางไปยึดเอาบาปอกุศลเสียก็ไปพูดเท็จกับพระเจ้าประเทสิโกศสล พระนางก็ทราบว่าการโกหกมันผิดหลัก ตัวนี้ก็เลยติดในจิตใจของพระนางว่าเราโกหกพระราชาที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้แล้วเราจะตกนรกไหมน้อ พระพุทธเจ้าก็จะต้องทรงทราบ พระโมคลา พระอริยบุคคลผู้ทรงฤทธิ์ทรงเดชก็ต้องทราบว่าเรานี้ได้เท็จทูลพระสวามี พอพระนางล้มเจ็บแล้วตายแล้วไปลงนรก

    พระราชาไปถามพระตถาคตเจ้าถ้าพระตถาคตเจ้าจะบอกตรง ๆ ว่าพระนางมัลลิกาตกนรก ก็กลัวว่าพระราชาจะเสื่อมลงจากการนับถือพระพุทธศาสนากลัวว่าจะตกนรกหมกไหม้ต่อไป พอพระราชาจะไปกราบทูลถามเรื่องพระมเหสี พระพุทธเจ้าดลบันดาลให้ลืมจนครบ ๗ วัน พอวันที่ ๗ พระนางจุติเคลื่อนย้ายจากรกขุมนั้นสู่ดาวดึงส์ พอวันที่ ๗ พระราชาระลึกได้ว่าพระมเหสีได้ตายไปแล้วจึงถามพระตถาคตพระพุทธเจ้าว่าพระมเหสีขึ้นสู่สวรรค์แล้ว

    เห็นไหมละแล้วจะบอกเราทำบุญขนาด ๆ นี้ แล้วจะไม่ตกนรก ยากลำบาก นอกจากที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติถูกต้องดีงามว่า เป็นสัจธรรมก็คือพระอริยบุคคลเบื้องต้นโสดาบัน อริยบุคคลเบื้องต้นโสดาบันไม่เลือกอุบาสก อุบาสิกา ตั้งใจประพฤติปฏิบัติในคุณงามความดีในหลักคำสอนไม่ถือศาสดาอื่นศาสนาอื่น ถือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็นที่พึ่งยอมตายกับพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั่นแลเป็นที่แน่ใจตายใจว่าเป็นอจลศรัทธา ผู้นั้นเมื่อตายแล้วจะไม่ตกนรกเลยจะเข้าสู่คติที่ดี ถ้ากลับมาในโลกมนุษย์ก็เป็นมนุษย์สมบัติ ขึ้นสู่ชั้นเทพเทวดาต่าง ๆ เรียกว่าชั้นเทพสมบัติ แล้วก็พรหมสมบัติเป็นที่หมายในการทำฌาน ทำญาณให้เกิด ขนาดนั้นเลยนะลูกนี่พูดถึงว่าผู้ที่ไม่ตกนรกไง

    พระนางมัลลิกายังไม่ใช่โสดาบันก็ต้องตกนรกหมกไหม้ บุญกุศลที่ทำไว้อยู่ที่ไหน ก็คอยพระนางอยู่ไงเมื่อพระนางขึ้นจากนรกขึ้นสู่สวรรค์ชั้นนั้น ๆ ด้วยอานุภาพหรือบุญฤทธิ์แห่งบุญที่พระนางได้ทำกับพระตถาคตเจ้ากับสงฆ์สาวกที่เรียกว่าอสทิสทานเป็นทานอันยิ่งใหญ่

    นี่พระพุทธเจ้าจึงบอกการเวียนว่ายตายเกิดเป็นทุกข์อย่างยิ่งหาความสุขไม่ได้ มันแน่ใจตายใจได้อย่างไรว่าเราทำบุญแล้วจะเข้าสู่คติที่ดีเพราะเมื่อตายแล้วเราไม่ทราบกันเลยว่าไปไหนทำไมจึงเป็นอย่างนั้นเพราะเราเป็นคนหูหนวกตาบอดไง เป็นผู้ที่มีหูไม่ใช่หูทิพย์ ผู้ที่มีตาไม่ใช่ตาทิพย์ จึงเรียกว่าหูหนวกตาบอด เป็นผู้ที่ไม่ใช่มีความเลื่อมใสในหลักคำสอนในพระพุทธศาสนาเป็นผู้ที่กึ่ง ๆ กลาง ๆ เป็นผู้ที่ไม่ลงในหลักคำสอนของศาสนา ถ้าผู้ที่ลงจริง ๆ เหมือนที่พ่อหลวงปู่พาทำแล้วหลวงปู่ก็เป็นตัวอย่างให้กับลูกกับหลานเรายอมตายกับพระรัตนตรัยพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คำว่าให้เราเปลี่ยนลัทธิไม่มีทาง แม้จะมีคนตัดแขน ตัดขา เชือดคอเราจะให้เราเปลี่ยนลัทธิ เราบอกว่าเราจะตายกับพ่อเราแม่เราคือพระพุทธเจ้า”

    โอวาทธรรม:องค์หลวงปู่น้อย ญาณวโร
    วัดป่าห้วยริน ต.หัวนาคำ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    ๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๐
     

แชร์หน้านี้

Loading...