พระมหากษํตริย์กับพุทธศาสนา

ในห้อง 'ในหลวงกับพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 11 มิถุนายน 2007.

แท็ก: เพิ่มแท็ก
  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,552
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,439
    วันนี้ผมได้ข่าวเกี่ยวกับเรื่องการบัญัติพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาประจำชาติการประท้วงจากองค์กรสงฆ์ หลายคนคงมีหลายความเห็น เห็นด้วย และไม่เห็นด้วย ส่วนผมเองมีความเห็นว่าการบัญัติไว้ก็ไม่เสียหาย ความสำคัญของพุทธศาสนานั้นมีมากขนาดไหน วันนี้ผมจะขอยกพระราชดำรัสของพระมหากษัตริย์พระองค์ต่างๆว่าทรงเห็นว่าพระพุทธศาสนาสำคัญขนาดไหนเพื่อให้เพื่อนๆเห็นว่าบูรพกษัตริย์ทรงยกย่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติตลอดมา

    1.สมเด็จพระนารยณ์มหาราชทรงตรัสกับราชฑูตพระเจ้าหลุยส์ที่14ว่าทรงนับถือพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ค้ำจุนชาติและเก่าแก่นับถือกันมาเป็นเวลา2229ปีแล้วตลอดมาหากพระเจ้าของท่านมีจริงคงดลใจให้เราเข้านับถือศาสนาของท่านสักวัน
    2.พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.๕)ทรงมีพระราชหัตถเลขาถึง เซอร์เอ็ดวิน อาร์โนลด์ผู้แต่งประทีปแห่งทวีปเอเชียว่า พระราชบิดาของฉันได้ทรงสละเวลาส่วนใหญ่ในการคุ้มครองและศึกษาศาสนาของชาติ แนเองก็มีความสนใจในการศึกษาหนังสือธรรมมะต่างๆและคุ้มครองศาสนาของเรา ฉันรู้สึกขอบคุณท่านที่สอนชาวยุโรปให้มีความคารวะแก่ศาสนาของเรา
    3.พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.๖) เรามาชักชวนกันนับถือพระพุทธศาสนาเถิดผู้แปลงศาสนานั้นควรถูกดูหมิ่นมากกว่าผู้
    แปลงชาติ
    4.พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้ทรงตรัสกับพระสัตปาปายอห์นปอลที่2ว่า คนไทยเป็นศาสนิกชนที่ดี ส่วนใหญ่นับถือพระพุทธศาสนาอันเป็นศาสนาประจำชาติ และในปี2518ได้ทรงมีกระเเสรับสั่งกับพระสงฆ์ไทยว่า ขอวิงวอนพระสงฆ์ให้ช่วยกันทำตามเป้าหมายแท้จริงของพระพุทธศาสนาคือทำให้มีความสงบในหมู่ศาสนิกชนและต้องทราบว่าชาติไทยนี้ถ้าไม่มีพระพุทธศาสนาค้ำจุนชาติไทยคงไม่มี
    จากพระราชดำรัสทำให้เห็นว่าพระมหากษัตริย์ทรงให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาเพียงใดนี่จึงเป็นเหตุผลที่ควรจะบัญญัติว่าศานาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ สำหรับผมเองเห็นด้วยว่าควรบัญญัติเพื่อรัฐจะได้เข้ามาดูแลเพราะเราเองบอกว่าเป็นเมืองพุทธแต่ทุกวันนี้รัฐได้เข้ามาดูแลศาสนาพุทธน้อยมากผมจึงขอวิงวอนพี่น้องชาวพลังจิตที่ได้ชื่อว่าเป็นพุทธศาสนิกชน พุทธอุบาสกอุบาสิกา พุทธมามกะมาร่วมกัฃนผลักดันให้ศานาพุทธของเราเป็นศานาประจำชาตินำความสงบสุขกลับคืนมาให้บ้านเมืองเราด้วยธรรมมะแห่งพระบรมศาสดาของเรากันเถอะครับ(ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยเราคงอายประเทศทางยุโรปซึ่งนับวันจะหันมานับถือพุทธมากขึ้น หรือแม้แต่ประเทศภูฏานที่ได้ประกาศไว้ต่อชาวโลกว่าภูฏานมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาประจำชาติ
     
    joni_buddhist, 11 มิถุนายน 2007

    #1
  2. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    ค่อยยังชั่ว พอมีคนมีปัญญา มีความกล้าแสดงความถูกต้อง
    เพื่อชาติ พระศาสนา และพระมหากษัตริย์ ให้เห็นบ้าง

    ครับเห็นด้วยครับ อย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวล

    จงผนึกกำลังกัน ไม่เพียงแต่กำจัดคนชั่วที่คอยบ่อนทำลาย
    แผ่นดินให้สิ้นไปจากกระดานแห่งนี้ แต่จงกำจัดคนเนรคุณ
    ให้พินาศสูญสิ้นไปจากแผ่นดินไทย ถวายเป็นราชพลีกันเถิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มิถุนายน 2007
    คนเก่า, 12 มิถุนายน 2007

    #2
  3. อธิมุตโต

    อธิมุตโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    4,741
    ค่าพลัง:
    +13,087
    ร่วม [​IMG] อนุโมทนาบุญด้วยครับ.^./|\.^. [​IMG]
     
    อธิมุตโต, 13 มิถุนายน 2007

    #3
  4. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,671
    ค่าพลัง:
    +51,946
    *** The King of ภูริทัต of Thailand ****

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ตรัสรู้ได้เอง
    รู้ธรรม ด้วยตนเอง
    คือ ผู้ทรงสัจจะ หลักสัจจะธรรม ของ Thailand

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ของ โลกุตตระ
    จึงไม่มีชื่อปรากฏ ในธรรรมของศาสนาอื่น
    ชีวิตของพระองค์ จึงถูกจัดสรร มีโลกุตตระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นพี่เลี้ยงมาโดยตลอด
    ปฏิหาริย์ ความปลอดภัย จึงเกิดกับพระองค์เสมอ

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ปรากฏลงบนโลกมนุษย์ ในช่วงกึ่งพุทธกาล
    ได้เรียนรู้ธรรมจากโลกุตตระ ผ่านทางนิมิต ความฝัน
    พระองค์ ต้องผ่ามรสุมแห่งกรรม ที่โหมกระหน่ำ

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ต้อนรับการมาปรากฏของโลกุตตระ บนโลกมนุษย์
    พระองค์ จะเดินทางไปรับคำสอน จากโลกุตตระ
    เพื่อ นำสัจจะปฏิบัติ มาประกาศให้ประชาชน และโลกได้รับรู้ในหนทางหลุดพ้น

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่ทรงนิมิต
    ลูกระเบิดตกลงในเมืองหลวง
    ชายผู้ยิ่งใหญ่ หญิงผู้ใกล้ชิด หนีลงเรือ
    ผู้วิเศษนำราชรถมารับ เหาะทางอากาศ
    หญิงปฏิเสธไม่ชอบหน้า ออกแรงกระทำจนผู้วิเศษตกน้ำ
    ภูริทัตทรงช่วยผู้วิเศษขึ้นมา
    ผู้วิเศษจึงพาเพียงพระองค์ ขึ้นราชรถหนีภัยไป

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่มานะอดทนค้นหาหนทางรอดของบ้านเมือง
    พระองค์คลางแคลงใจ ในที่มาของสัจจะ
    เพราะ ผู้เป็นที่มาของสัจจะ กลับเป็นผู้กล้าเคยขวางทางพระองค์
    แต่ พระองค์ยังมิรู้ นั้นคือปัญหาธรรมจากโลกุตตระ
    การต้อนรับโลกุตตระ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จึงไม่ปรากฏขึ้น
    กลายเป็นกรรม ชะตาลิขิตของผู้ปฏิเสธสัจจะ ตั้งแต่นั้นมา

    ภูริทัต.......
    คือ พระพุทธเจ้า ที่จะเผชิญกรรมหลังกึ่งพุทธกาล
    พระองค์เข้าใจดี ในบทกลอน โอ้...ชะตาฟ้าลิขิต
    พระองค์มีคำถามเสมอว่า
     
    หนุมาน ผู้นำสาร, 13 มิถุนายน 2007

    #4
  5. คนเก่า

    คนเก่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    1,355
    ค่าพลัง:
    +15,053
    ธรรมะพระราชทานจากพระราชนิพนธ์พระมหาชนก .....ขอเพียงได้กระทำความเพียรอย่างที่สุดแล้ว จะสำเร็จหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

    พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ คือพระสัจธรรมอันปฏิเสธไม่ได้ และเป็นอมตะ ไม่จำกัดกาล

    ล้นเกล้าของปวงชนชาวไทยผู้ทรงไว้พระมหากรุณาธิคุณล้น เกล้าล้นกระหม่อม อย่างประชาชนคนดีปกติย่อมสำนึก กตัญญูรู้คุณไม่รู้ลืม อีกทั้งย่อมชัดเจนว่าพระองค์ท่านทรงเปี่ยมล้มด้วยพระราชศรัทธาในบวรพระพุทธศาสนาอย่างหาที่เปรียบได้ยาก

    พระพุทธวัจนะมีอาทิ ยกย่องบุคคลอันควรยกย่อง ข่มบุคคลอันควรข่ม บูชาบุคคลอันควรบูชา ความกตัญญูคือเครื่องหมายแห่งคนดี

    ประชาชนคนดีจึงย่อมกตัญญูอย่างที่สุดในพระมหากรุณาธิคุณแผ่ไพศาล

    อีกทั้งความดีสูงสุดในพระพุทธศาสนา คือการละสังโยชน์ หนึ่งในสังโยชน์ 10 คือ วิจิกิจฉา ฉะนั้นผู้ละสังโยชน์ข้อนี้ได้ ย่อมเทิดทูน กตัญญูในบวรพระพุทธศาสนาอย่างสุดหัวใจ ไม่มียกเว้นทั้ง กายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม

    และไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหมที่มาบอกให้แสดงเป็นอื่น กลับจะกล่าวประมาณในความพยายามอันลามกนั้น ประดุจพราหมณ์เข็ญใจผู้เพิ่งบรรลุธรรมกล่าวประณามแม้พระอินทร์ที่มาทดสอบลองใจ

    ด้วยเหตุผลดังกล่าวมานี่ ย่อมชัดเจนว่าผู้ที่เข้าใจในพระธรรม เคารพในพระรัตนตรัย ย่อมปฏิบัติเป็นอื่นไปไม่ได้ นอกจากจะยืนยันสนับสนุนว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่จะบัญญัติยกย่อง เชิดชู พิทักษ์รักษาพระพุทธศาสนาไว้คู่กับชาติและพระมหากษัตริย์

    และย่อมชัดเจนเช่นเดียวกัน ว่าผู้ที่คัดค้านเป็นผู้ที่ยังไม่เข้าถึง และยังไม่เข้าใจในพระธรรม ทั้งยังบังอาจประกอบกรรมอันลามก คัดค้านปฏิเสธมิให้มีการยกย่อง เทิดทูนพระพุทธศาสนาไว้ในสถานะสูงสุดอันควร จึงเป็นบุคคลอันควรข่มประณาม ตามพระพุทธวัจนะโดยแท้
     
    คนเก่า, 13 มิถุนายน 2007

    #5

แชร์หน้านี้

Loading...