พระยอดกตัญญูวางแผนสึกหวั่นสังคมครหาทำนา

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย สังขารไม่เที่ยง, 24 กุมภาพันธ์ 2012.

  1. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    [​IMG]
    <SCRIPT type=text/javascript src="http://www.komchadluek.net/js/slides.min.jquery.js"></SCRIPT><SCRIPT type=text/javascript> $('#slides').slides({ preload: false, preloadImage: 'images/loading.gif', effect: 'fade', crossfade: true, fadeSpeed: 500, play:4500, pause: 1500, hoverPause:true, generateNextPrev: false, generatePagination: false, animationStart: function(current){ $('.caption').animate({ bottom:-35 },100); if (window.console && console.log) { // example return of current slide number console.log('animationStart on slide: ', current); }; }, animationComplete: function(current){ $('.caption').animate({ bottom:0 },200); if (window.console && console.log) { // example return of current slide number console.log('animationComplete on slide: ', current); }; }, slidesLoaded: function() { $('.caption').animate({ bottom:0 },200); } }); </SCRIPT>
    • [​IMG]
    พระยอดกตัญญูวางแผนสึกหวั่นสังคมครหาทำนา

    พบพระเมืองพิจิตรยอดกตัญญู อาศัยช่วงว่างจากกิจสงฆ์กลับบ้านทำนา ทำอาหารเลี้ยงโยมพ่อโยมแม่ ที่ป่วยจนไม่สามารถดูแลตัวเองได้ เป็นประจำทุกวัน วางแผนสึกหวั่นสังคมครหา


    เรื่องราวพระยอดกตัญญู บวชเรียนมาเป็นเวลานาน 5 ปีแล้ว แต่ทนดูพ่อแม่ลำบากไม่ไหวจึงตัดสินใจทำนาเลี้ยงบุพการีไม่ให้เป็นภาระของสังคม ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าที่บ้านโพธิ์งาม เลขที่ 119 หมู่ 4 ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร มีพระสงฆ์ยอดกตัญญูรูปหนึ่งออกไปไถนา สูบน้ำกลางแสงแดดที่แผดเผา จึงเดินทางไปที่บ้านดังกล่าว

    พบพระสมชาย ฉันทธัมโม อายุ 32 ปี พระลูกวัดโพธิ์งาม ซึ่งบวชมา 5 พรรษาแล้ว กำลังง่วนอยู่กับการทำนา
    พระสมชาย กล่าวว่า อาตมาต้องกลับมาบ้านมาคอยตรวจสอบและดูแลข้าวในนา พร้อมทั้งเพื่อดูแลโยมพ่อ คือ นายถวิล แสงสี อายุ 66 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรควิงเวียนศีรษะอยู่เป็นประจำ และแม่คือ นางน้อย แสงสี อายุ 65 ปี ป่วยเป็นโรคเส้นโลหิตในสมองแตก ทั้งคู่ไม่สามารถทำงานหนักได้
    "โยมพ่อกับโยมแม่ เริ่มป่วยหลังจากที่อาตมาบวชมา 4 พรรษาแล้ว โดยโยมแม่เริ่มป่วยก่อนด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2553 โยมแม่มีอาการหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง จึงสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ แต่หลังจากออกโรงพยาบาลโยมแม่ไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนเคยและมีอาการหลงลืม แม้กระทั่งว่าทำกับข้าวก็ไม่รู้ว่าจะใส่อะไรก่อนหลัง บางครั้งลืมแม้กระทั่งว่ากินข้าวหรือยัง และหลังจากที่แม่ป่วย โยมพ่อก็มาป่วยตามอีกคน อาตมาพยายามรักษาโดยการนำไปโรงพยาบาลทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดก็หาสาเหตุไม่ได้"พระสมชาย กล่าวและว่า
    หลังจากโยมพ่อป่วยอีกคนทำให้ทั้งโยมพ่อและโยมแม่ไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ อาตมาจึงต้องคอยดูแล โดยโยมแม่ช่วงแรกจะอาการหนักเนื่องจากเหมือนกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ต้องคอยอาบน้ำ ป้อนข้าว ส่วนโยมพ่อ ไม่สามารถทำงานหนักได้ อาตมาจึงต้องทำแทน ไม่ว่าจะเป็นการทำนา จำนวน 10 ไร่ ซึ่งเป็นรายได้หลักของครอบครัว โดยจะทำเองบ้างหากไม่ไหวก็ใช้วิธีการจ้างชาวบ้านในการ ไถ หว่านและฉีดยา ส่วนการสูบน้ำ ดูแลข้าว จนเป็นหน้าที่ของอาตมาที่ว่างจากกิจของสงฆ์
    พระสมชาย กล่าวต่อว่า หลังจากพยายามดูแลทั้งโยมพ่อ โยมแม่ มาเกือบปี อาการของโยมยังทรงอยู่ แต่อาการของโยมแม่ดีขึ้น ปัจจุบันสามารถช่วยตัวเอง เช่น อาบน้ำได้แล้ว แต่ยังไม่สามารถทำอาหารเองได้ อาตมาพยายามหัดให้โยมแม่ทำกับข้าวเพื่อให้สามารถกลับมามีความปกติเหมือนเดิม ทำให้ทุกวันนี้ซึ่งในแต่ละวันก่อนออกบิณฑบาตจะกลับบ้านมาทำกับข้าวให้กับโยมพ่อ โยมแม่ คอยเตรียมสำรับกับข้าวไว้ให้ทั้งสองคน จากนั้นก็จะไปทำกิจของสงฆ์ที่วัดซึ่งอยู่ใกล้กับบ้าน สลับกับการมาดูแลโยมพ่อ โยมแม่ และการดูแลนาข้าว ช่วงเย็นจะมาทำกับข้าวให้อีกรอบหนึ่ง แม้ว่าเป็นพระจะไม่ฉันข้าวตอนเย็นก็จะต้องทำกับข้าวเพื่อให้ โยมพ่อ โยมแม่ได้รับประทาน
    พระสมชาย กล่าวด้วยว่า สิ่งที่กังวลก็คือ ความรู้สึกของประชาชนทั่วไปที่มองพระที่ต้องออกมาทำนา แต่หากปล่อยพ่อปล่อยแม่ไว้ตามลำพัง ก็จะกลายเป็นภาระทางสังคม อีกทั้งอาตมาถือว่าพ่อแม่ คือ พระอรหันต์ของลูก ส่วนที่ชาวบ้านอาจจะมองเราทั้งใจที่เป็นกุศลและอกุศล ส่วนคำถามที่ถามว่า ทำไมไม่สึกไปดูแล โยมพ่อ โยมแม่เสียเลย ก็ต้องบอกว่าวางแผนไว้แล้วเหมือนกันว่าจะต้องสึก แม้จะรู้สึกเสียดายต่อสมณเพศที่เลื่อมใสศรัทธา แต่หากจะดูแลต่อไปอย่างนี้แม้ใครไม่ว่าก็คงไม่เหมาะนัก แต่ตามความเชื่อของคนไทย ตอนนี้อาตมารอฤกษ์ที่จะลาสิกขาออกมาเท่านั้นเพราะคนไทยเชื่อถือฤกษ์ยามเป็นเรื่องสำคัญ จากที่สอบถามอาจารย์ผู้รู้บอกว่า ฤกษ์ดีคือการลาสิกขาบท คือ ต้นเดือนพฤษภาคม อาตมาจึงต้องอยู่ดูแล โยมพ่อ โยมแม่ทั้งที่เป็นพระนี้ก่อน ในช่วงระหว่างรอการลาสิกขาบท
    ด้านนางน้อย กล่าวว่า หลังจากป่วยมีปัญหาเรื่องความจำ ทำกับข้าวยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรพยายามนึก 1-3 วันยังนึกไม่ออก ก็มีพระสมชายที่คอยดูแล สงสารลูกพระเหมือนกันแต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะพ่อก็ป่วย แม่ก็ป่วย ทุกวันนี้ตนพยายามทำทุกอย่างที่ทำได้ ด้วยความหวังจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง
    ขณะที่พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า การที่พระสงฆ์ดูแลโยมพ่อ โยมแม่นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ควรสรรเสริญ ครั้งหนึ่งสมัยพุทธกาล หรือสมัยที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัสสรรเสริญพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ดูแลมารดาของตน และทรงยกบิดา มารดา เปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก และทรงอนุญาตให้พระสงฆ์สามารถดูแล บิดา และมารดาได้ การที่พระสมชายดูแลโยมพ่อโยมแม่ จึงเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญและเป็นตัวอย่างของผู้เป็นลูกในการดูแล พ่อ แม่ ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณสูงสุด แต่การที่พระทำนานั้นถือว่าไม่เหมาะสม และไม่ใช่กิจของสงฆ์ อย่างไรก็ตามกรณีนี้ถือว่าเป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณ ซึ่งหลังจากนี้คณะสงจะเข้าไปดูพระสงฆ์ด้วยกันอีกครั้งหลังจากนี้

    ����ʹ��ѭ���ҧἹ�֡������ѧ�����ҷӹ� ���Ѵ�֡ : ��ʹҾ�������ͧ : ���Ƿ�����
     
  2. สังขารไม่เที่ยง

    สังขารไม่เที่ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    5,943
    ค่าพลัง:
    +24,697
    พระสงฆ์ยอดกตัญญู ดูแลพ่อแม่ป่วย-ทำนาแทน

    วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา 16:20 น.
    [​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->[​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->[​IMG]
    <!-- /.images-list-items -->
    <!-- /.images-list-container -->
    <!-- /.images-list-wrapper -->[​IMG] [​IMG] [​IMG]
    <!-- /.slide-container -->
    <!-- /.slide-wrapper -->
    <!-- /.more-img -->

    <!-- /.featured-img -->พระสงฆ์ยอดกตัญญูทำนาแทนพ่อ รับเตรียมสึกต้นพฤษภาคม
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /.content -->
    <!-- /#featured-caption -->วันนี้ (24 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีพระภิกษุยอดกตัญญู สามารถเจียดเวลาไปทดแทนบุญคุณพ่อแม่ด้วยการเลี้ยงดูและทำนาแทน จึงรีบเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเลขที่ 119 หมู่ 4 บ้านโพธิ์งาม ต.ป่ามะคาบ อ.เมือง จ.พิจิตร พบพระสมชาย ฉันทธัมโม อายุ 32 ปี พระลูกวัดโพธิ์งาม ต.ปามะคาบ กำลังง่วนอยู่กับการทำนา โดยเมื่อทราบถึงวัตถุประสงค์ของผู้สื่อข่าว พระสมชาย เล่าว่า บวชมาแล้ว 5 พรรษา ซึ่งช่วงแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร กระทั่งเมื่อปี 2553 นางน้อย แสงสี อายุ 65 ปี โยมแม่เกิดป่วยหนัก เนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก ต้องผ่าตัดถึง 2 ครั้ง และเพียงไม่นานนายถวิล แสงสี อายุ 66 ปี โยมพ่อก็กลับมาล้มป่วยตามไปอีกคน ทำให้ต้องปลีกเวลาว่างจากกิจสงฆ์ มาคอยช่วยดูแลทั้งคู่ ตามหน้าที่ของลูก โดยต้องทำทุกอย่าง เพื่อไม่ให้เป็นภาระของสังคม แม้หลายคนจะเคยถามว่าทำไมไม่สึกก็ได้ชี้แจงไปว่าฤกษ์สึกอยู่ช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้
    ด้าน พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ รองเจ้าคณะจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า การที่พระสงฆ์ดูแลโยมพ่อโยมแม่ ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรสรรเสริญ เพราะครั้งหนึ่งสมัยพุทธกาล สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยตรัสสรรเสริญพระสงฆ์รูปหนึ่งที่ดูแลมารดา และทรงยก บิดา มารดา เปรียบเสมือนพระอรหันต์ของลูก และทรงอนุญาตให้พระสงฆ์สามารถดูแลบิดามารดาได้ การที่พระสมชาย ท่านดูแลโยมพ่อ โยมแม่ จึงเป็นสิ่งที่น่าสรรเสริญ และเป็นตัวอย่างของลูกทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นผู้ที่มีพระคุณสูงสุด แต่การที่พระทำนา ถือว่าไม่เหมาะสม และไม่ใช่กิจของสงฆ์ แต่อย่างไรก็ตามกรณีนี้ถือว่าเป็นการตอบแทนผู้มีพระคุณ.

    พระสงฆ์ยอดกตัญญู ดูแลพ่อแม่ป่วย-ทำนาแทน | เดลินิวส์
     
  3. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    อนุโมทนา สาธุ ครับ
    จิตเช่นนี้ แม้อยู่ในเพศฆราวาส ก็เป็นจิตใจของพระ ครับ
     
  4. ballbeamboy2

    ballbeamboy2 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2011
    โพสต์:
    1,622
    ค่าพลัง:
    +1,618
    นับถือครับพระแบบนี้้ในสมัยพระพุทธเจ้าก็มีครับ พระพุทธเจ้ายังสรรเสริญเลยครับ
     
  5. รัศมีสีทอง

    รัศมีสีทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    129
    ค่าพลัง:
    +391
    คนเราจะไปนิพพานจิตต้องมีความกตัญญูเป็นพื้นฐาน พระพุทธองค์ทรงดำเนินทางนี้มาแล้วครับ ขออนุโมทนาบุญญาบารมีของท่านด้วยครับ ท่านได้ทำสิ่งที่ประเสริฐสุดในชีวิตนี้แล้ว
     
  6. ee56054

    ee56054 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    64
    ค่าพลัง:
    +130
    ตอนบวชก็ กล่าวว่าจะทำนิพพานให้แจ้ง แล้วมามัวไถนาเนี้ยนะ สู้สึกมาเลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ก่อนแล้วค่อยไปบวชใหม่ก็ได้นะ มันไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไ่ม่ใช่กิจของ สมณะ
     
  7. ปุณบพิธ

    ปุณบพิธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มกราคม 2012
    โพสต์:
    1,117
    ค่าพลัง:
    +2,136
    "โยมพ่อกับโยมแม่ เริ่มป่วยหลังจากที่อาตมาบวชมา 4 พรรษาแล้ว โดยโยมแม่เริ่มป่วยก่อนด้วยโรคเส้นโลหิตในสมองแตก เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2553 โยมแม่มีอาการหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดถึง 2 ครั้ง จึงสามารถช่วยชีวิตไว้ได้ แต่หลังจากออกโรงพยาบาลโยมแม่ไม่สามารถทำงานหนักได้เหมือนเคยและมีอาการหลง ลืม แม้กระทั่งว่าทำกับข้าวก็ไม่รู้ว่าจะใส่อะไรก่อนหลัง บางครั้งลืมแม้กระทั่งว่ากินข้าวหรือยัง และหลังจากที่แม่ป่วย โยมพ่อก็มาป่วยตามอีกคน อาตมาพยายามรักษาโดยการนำไปโรงพยาบาลทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัดก็หาสาเหตุ ไม่ได้"พระสมชาย กล่าว
     
  8. โอกระบี่

    โอกระบี่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,477
    ค่าพลัง:
    +1,651
    ความกตัญญูเป็นสมบัติของคนดี ขออนุโมทนาด้วยครับ น่าทราบซึ้งใจจริง ๆ
     
  9. Deetom

    Deetom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    355
    ค่าพลัง:
    +825
    ดีแล้ว ชอบแล้ว อนุโมทนาสาธุครับหลวงพี่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2012
  10. gently

    gently เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +262
    นี้แหละครับ ของจริง คิดว่าสิ่งไหนดี ก็ทำเลย
     
  11. phasusorn

    phasusorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    174
    ค่าพลัง:
    +133
    โมทนาบุญด้วยครับ ความกตัญญูต่อบิดาและมารดา คือสุดยอดของการปฏิบัติ
     
  12. banfh

    banfh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    89
    ค่าพลัง:
    +144
    ผมก็ศาสนิกชนชาวพุทธคนหนึ่ง ขอกราบแสดงความเคารพ นับถือยกยอสรรเสริญท่านกับสิ่งที่ท่านทำครับ ผมว่าท่านได้ทำหนึ่ง ในสิ่งที่สุดยอดแล้ว ผมขอเป็นกำลังใจอีกหนึ่งแรงให้ท่านครับ และจะขอเอาไปเป็นเยี่ยงอย่างในการใช้ชีวิตประจำวันครับ อีกข้อครับท่านอย่าพึ่งสึกครับลองปรึกษาหารือกับพระผู้ใหญ่ก่อน เผื่อท่านมีทางออกที่ดีช่วยเหลือท่านได้ ถ้าไม่ได้อะไรยังไงจริงๆค่อยสึกครับ ขอโมทนาสาธุอย่างสุดซึ้งอีกหนึ่งท่านครับ
     
  13. จิตินันท์

    จิตินันท์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2011
    โพสต์:
    77
    ค่าพลัง:
    +130
    ซึ้งมากๆค่ะ ท่านทำถูกแล้วค่ะ จิตของท่านฝักใฝ่ในพระธรรม แต่ท่านก็ยังต้องทำหน้าที่ต่อพระอรหันต์ในบ้าน ทั้งโลกมนุษย์และภพภูมิที่สูงกว่ามนุษย์จะสรรเสริญท่านเป็นอย่างยิ่ง

    ขออนุโมทนากับท่านด้วยคนค่ะ เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่นักหนาแล้ว สาธุ

    -----------------------------------------
    บุญกุศลใดๆที่เกิดขึ้นกับลูก ลูกขอให้บิดามารดามีส่วนด้วยเสมอ
     
  14. GhostHead

    GhostHead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2011
    โพสต์:
    1,010
    ค่าพลัง:
    +1,878
    หลวงพี่ท่านนี้ ทำสิ่งที่สมควรแล้ว ถูกแล้ว ชอบแล้ว
    ผมขอยกมือท่วมหัว สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทนาด้วยครับ

    บักเษมเผาพระเทียบไม่ได้แม้เพียงละอองสกปรกที่ฝ่าเท้าของหลวงพี่ท่านนี้
     
  15. ธิดารัตน์

    ธิดารัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,939
    ค่าพลัง:
    +4,568
    อนุโมทนาสาธุค่ะจิตใจน่าเลื่อมใสยิ่งนัก
    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  16. อาโลกธรรม

    อาโลกธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    39
    ค่าพลัง:
    +138
    พระสมชาย กล่าวด้วยว่า สิ่งที่กังวลก็คือ ความรู้สึกของประชาชนทั่วไปที่มองพระที่ต้องออกมาทำนา แต่หากปล่อยพ่อปล่อยแม่ไว้ตามลำพัง ก็จะกลายเป็นภาระทางสังคม อีกทั้งอาตมาถือว่าพ่อแม่ คือ พระอรหันต์ของลูก ส่วนที่ชาวบ้านอาจจะมองเราทั้งใจที่เป็นกุศลและอกุศล ส่วนคำถามที่ถามว่า ทำไมไม่สึกไปดูแล โยมพ่อ โยมแม่เสียเลย ก็ต้องบอกว่าวางแผนไว้แล้วเหมือนกันว่าจะต้องสึก แม้จะรู้สึกเสียดายต่อสมณเพศที่เลื่อมใสศรัทธา แต่หากจะดูแลต่อไปอย่างนี้แม้ใครไม่ว่าก็คงไม่เหมาะนัก แต่ตามความเชื่อของคนไทย ตอนนี้อาตมารอฤกษ์ที่จะลาสิกขาออกมาเท่านั้นเพราะคนไทยเชื่อถือฤกษ์ยามเป็นเรื่องสำคัญ จากที่สอบถามอาจารย์ผู้รู้บอกว่า ฤกษ์ดีคือการลาสิกขาบท คือ ต้นเดือนพฤษภาคม อาตมาจึงต้องอยู่ดูแล โยมพ่อ โยมแม่ทั้งที่เป็นพระนี้ก่อน ในช่วงระหว่างรอการลาสิกขาบท

    ท่านที่ให้ความเห็น ตำหนิ พระ กรุณาอ่านให้จบก่อนนะครับ ก่อนจะออกความเห็น อะไร เพราะ จะเป็นการปรามาสความดีของผู้อื่น.. หลวงพี่ ทำดีทำชอบแล้วผมขอ โมทนา สาธุครับ
     
  17. *พลายแก้ว*

    *พลายแก้ว* สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2011
    โพสต์:
    9
    ค่าพลัง:
    +2
    กราบ กราบ กราบ อนุโมทนา .... เห็นแล้วชื่นใจค่ะ
     
  18. ฮาทณัฐพล

    ฮาทณัฐพล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2010
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +253
    เป็นที่น่ายกย่องครับ
    ไม่ต้องอายใคร
     
  19. ๋๋๋Ang-Gurl

    ๋๋๋Ang-Gurl Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2011
    โพสต์:
    18
    ค่าพลัง:
    +28
    เสียดายที่ท่านต้องสึกครับ
     
  20. ลูกพ่อลิงดำ

    ลูกพ่อลิงดำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,427
    ค่าพลัง:
    +13,558
    ในสมัยพุทธกาลก็มีเช่นกันครับ ที่พ่อแม่ ป่วยไม่สบาย และพระท่านเอามาเลี้ยง ป้อนข้าว ป้อนน้ำ เช้ดตัว นำอาหารมาให้ พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญมาก พระองค์ท่านสำเร็จเป็นพระอรหันต์ด้วย
     

แชร์หน้านี้

Loading...