พระยาธรรมมิกราช

จากกระแสที่เป็นข่าว มีผู้คนอยากรู้ว่า..
หลวงตาบุญชื่น คือใคร
ส่องพระ ชาแนล ขอนำเสนอ ประวัติหลวงตาชื่น //
ประวัติ หลวงตาบุญชื่น ปัญญาวุฑโฒ วัดธาตุจำปา บ้านเสาเล้าใหญ่
ตำบล โพนสวรรค์ อำเภอ โพนสวรรค์ จ. นครพนม
พระธุดงค์เดินเท้าเปล่า เชียงราย-นครพนม ละทางโลก ไม่รับปัจจัย
ตามรอยสายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

หลวงตาชื่น เปิดเผยว่า เดิมมีชีวิตพื้นฐานเกิดที่บ้านเสาเล้า ต.โพนสวรรค์
อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม เคยมีชีวิตครอบครัวมาก่อน และต่อสู้สร้างครอบครัว
มาตลอด โดยในช่วงเป็นหนุ่ม หลวงตาเคยเป็นทหารเกณฑ์ และได้รับคัดเลือก
ไปสู้รบในยุคสงครามเวียดนาม ประมาณปี 2512 สังกัดพลกองพันปืนใหญ่
จ.อุดรธานี และเคยผ่านการฝึกรบพิเศษอยู่ในค่ายเป็นเวลา 2 ปี
ก่อนปลดประจำการได้เหรียญทหารผ่านศึก กลับมาสร้างชีวิตครอบครัว
แต่งงานมีลูกทั้งหมด 4 คน จากนั้นเมื่อดูแลบุตรทั้งหมด สร้างครอบครัวหมดแล้ว
จึงขอครอบครัวลาบวช เพราะต้องการหาสัจธรรมของชีวิต อยากเห็นความสงบ
ในชีวิต เพราะชอบศึกษาธรรมะ และชอบศึกษาหลักธรรมคำสอนของหลวงปู่มั่น
จึงเข้าอุปสมบท ตัดทางโลกเข้าสู่ทางธรรมเมื่อปี 2552 ที่วัดบ้านเกิด
จากนั้นได้แสวงบุญเป็นพระสายป่าธรรมยุติ เดินธุดงค์ไปหลายที่ ไม่จำวัด
ทุกปีจะไปจำวัดตามป่าเขา ก่อนนี้ไปจำพรรษาในถ้ำเตียงสิริขันธ์
บนเทือกเขาภูพาน จ.สกลนคร มาต่อเนื่อง 4 ปี

หลวงตาชื่น กล่าวอีกว่า ทุกปี ตั้งแต่ปี 2559 ได้ตั้งมั่นจาริกธรรม
เดินธุดงค์มาจากภาคเหนือ แต่ขาไปขึ้นรถไปกับคณะพระสงฆ์หลายวัด
มาปีนี้ได้ตั้งมั่นเดินทางไปกลับด้วยการธุดงค์จนกลับมาถึงบ้านเกิด
ในระหว่างทางมีญาติโยมนิมนต์ขึ้นรถเพราะสงสาร อายุมาก แต่ตนได้บอกว่า
ตนต้องการบำเพ็ญเพียร แสวงบุญ เดินธุดงค์ตามรอยหลวงปู่มั่น ไม่ขอขึ้นรถ
ไม่ต้องช่วยขนสัมภาระ ขอรับถวายเพียงน้ำเปล่า และไม่กลัวว่าจะเจ็บป่วย
เนื่องจากสละทุกอย่างแม้แต่สังขาร เพราะต้องการเข้าถึงสัจธรรม
และในปีนี้หลังออกพรรษาจะเดินจาริกธุดงค์เหมือนทุกปี สำคัญที่สุดคือ
กิจของสงฆ์จะต้องไม่ขาด มีบิณฑบาต ทำวัดเช้าเย็น สวดมนต์ เจริญภาวนา
และศึกษาธรรมะ หากญาติโยมที่ต้องการสนทนาธรรม ยินดี และจะจำวัดที่
ที่พักสงฆ์ ถึงสิ้นเดือนมกราคม ก่อนจะจาริกธุดงค์ไปตามสถานที่ต่างๆ
เพื่อบำเพ็ญเพียร ถึงร่างกายจะชรา อีกทั้งมีโรคเลือดจาง แต่ไม่ได้กังวล
เพราะสละทุกอย่างแล้ว ปล่อยให้เป็นไปตามสังขาร ตราบใดยังเดินไหว
ยังจะแสวงบุญทุกปี

จากการสอบถาม นางตาล อุ่นเพียรโสม อายุ 66 ปี ชาวบ้านเสาเล้า
และลูกสาวคนโต คือ นางบานเย็น บุพศิริ อายุ 46 ปี ทั้งสองได้เปิดเผยว่า
หลวงตาในช่วงวัยหนุ่ม เป็นคนขยัน มุมานะ อดทน สร้างครอบครัว ต่อสู้เพื่อ
ครอบครัวมาตลอด และชอบทำบุญเป็นชีวิตจิตใจ ที่จำได้เคยบอกครอบครัวเสมอ
พอถึงวัย 60 ปี หลังจากลูกทุกคนมีครอบครัว จะขอลาบวชไปใช้ชีวิตทางธรรม
สละทางโลก ถึงปี 2552 อายุได้ 60 ปี ได้ขอลาครอบครัวไปบวช ซึ่งทุกคน
ไม่ขัดข้อง ขออนุโมทนาบุญกับหลวงตาชื่น เพราะเป็นความตั้งใจถึงแม้ห่วงคิดถึง
แต่ถือว่าเป็นสิ่งที่หลวงตาชอบ ทุกปีตลอดการบวชกว่า 10 ปี จะไม่จำวัดอยู่กับที่
จะไปจาริกธุดงค์ทั่วประเทศตามพระอาจารย์ที่รู้จัก ปกติจะไม่ได้ติดต่อ ไม่มีมือถือ
ไม่มีการติดต่อกลับมา เพราะหลวงตาบอกกับครอบครัวว่า ถ้ายังมีชีวิตอยู่จะเห็น
กลับมา หากทราบข่าวเสียชีวิตหรือเจ็บป่วยค่อยไปดูแล หรือเจ็บป่วยตายในป่า
ขอให้เป็นไปตามธรรมชาติ หากไม่มีคนพบเห็น เพราะสละทางโลกแล้ว
จะเกิดอะไรขึ้นต้องรับได้หมด จนกระทั่งล่าสุด ทางครอบครัวดีใจมากและ
อนุโมทนาบุญกับหลวงตาชื่น หลังเห็นข่าวในโซเชียลว่าพบหลวงตา ยอมรับว่า
ครอบครัวดีใจ ทุกคนน้ำตาไหล สำคัญที่สุดคืออานิสงส์ผลบุญที่หลวงตา
แสวงบุญไว้ จะส่งผลให้ลูกหลานมีความร่วมเย็นเป็นสุข ทุกคนขออนุโมทนาบุญ
กับหลวงตา ซึ่งกลับมาหลวงตาขอจำวัดท้ายหมู่บ้าน มีญาติไปทำที่พักสงฆ์ไว้ให้
มาถึงวันนี้ทุกคนในครอบครัวดีใจที่เห็นหลวงตาได้ตัดสินใจไปสู่เส้นทางธรรม และ
ไม่กลัวถ้าวันที่หลวงตาจากไปจะมาถึง เพราะหลวงตาขอใช้ชีวิตในผ้าเหลือง
ตลอดชีวิต บอกทุกคนว่า ขอตายในผ้าเหลือง.

 

จุดจบผู้นำที่โง่ที่สุด เท่าที่โลกเคยมีมา แต่ไม่มีใครกล้าด่า
แต่ ผู้นำไทย คิดเห็นคุณค่าของ ชีวิตคน มากกว่าเงินทอง
กลับโดนด่าทุกวัน ทั้งๆที่ ตัวเองก็แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี

สรุป ใครโง่กว่ากัน ระหว่าง ผู้นำไทย กับ ผู้นำเมกา

 

วิจารณ์คนอื่นเป็น แต่ วิจารณ์ตนเองไม่เป็น..

วิตกคนอื่นเป็น แต่ วิตกตนเองไม่เป็น..

คงเป็นได้แค่ อริยะนาหญ้าขึ้นรก นั้นละ..

 

ถ้าท่านไม่ถ่วง แต่ช่วยกันผลัก งานของ พญาธรรม ก็คงจะดีกว่านี้
คนเราไม่ได้เก่งทุกแง่มุม จึงต้องฝึกมองมองให้รอบทิศ
แล้วคิดวิเคราะห์เอาเอง เราก็จะช่วยชี้ทางว่า
พระพุทธศาสนา ควรจะดำเนินไปแบบไหน
แล้วทุกคนก็ไปช่วยกันทำงานคนละเล็กละน้อย ตามกำลังของตน
งานใหญ่ๆ ก็จะสำเร็จได้โดยง่าย

 

แก้ไขตนเองก่อน ก่อนจะแนะนำคนอื่น..

ทำของตนเองให้เรียบร้อยก่อน ก่อนจะช่วยคนอื่น..

พระพุทธองค์ก็ทรงทำให้ดูเป็นตัวอย่างแล้ว..

แต่นี่อะไร อริยะปัจเจกขี้เกียจสอนเที่ยวแนะนำคนอื่นมั่วซั่วโดยไม่ย้อนมาดูตัวเอง ไม่ย้อนเข้ามาแก้ไขตนเอง..

 

อาตมาก็เคยเป็นแบบโยมนั้นละ ถึงได้บอกได้..

อาการรั้นไม่ฟังคนอื่น อาตมาก็เคยเป็นมาแล้ว..

และอาตมาก็ได้แก้ไขตนเองในข้อนี้เรียบร้อยแล้ว..

 

อาตมาจะสนับสนุนได้ไงก็มันไม่ตรงตามธรรม..

ถ้าทำตามความเห็นตน ตามทิฏฐิตนโดยไม่ตรงตามธรรม ตามพระวินัย อาตมาก็ขออยู่เฉยๆดีกว่า..

 

เอาคลิปมาโพสต์แนะนำคนอื่นแต่ละคลิป ก็ นะ..

มีแต่อะไรก็ไม่รู้ มีแต่เรื่องโลกๆ ให้หมุนลงทางต่ำทั้งนั้น..

กัลยาโณ โอเค เอย..

พระมหาวรพรต เอย..

อริยะสายร็อคเสพเมถุน เอย..

ดู ซิ ดู มันตรงตามธรรม ตามพระวินัยตรงไหน?

 

ถ้าโยมต้องการต่ออายุพระพุทธศาสนาก็โกนผม ออกบวช ซะ นะ..

ให้คนอื่นทำหน้าที่ อุบาสก ก็แล้วกัน

ทุกวันนี้กุลบุตรในพระพุทธศาสนา ยิ่งน้อยๆอยู่ด้วย..

 

แก้ไขได้ด้วยตนเอง ก็ดีแล้วครับ ทำต่อไปเรื่อยๆ

 

นี่คืองานของพระพุทธศาสนา คือ งานหลัก
ส่วนงานของพระอริยะเจ้า ก็จะแยกย่อยสอนเป็นเรื่องๆ
แยกกันทำหลายๆ บทบาท พร้อมๆกัน
จะต้องแยกแยะให้ได้ว่า เวลาเล่นบทบาทไหน

 

นี่นะถ้าโยมต้องการต่ออายุพระพุทธศาสนา..

อย่าเที่ยวไปแนะนำใครมั่วซั่วตามความเห็นตนเองเลย..

มันเป็นวิบากติดตัวเปล่าๆ..

ถ้าจะให้ดี ให้โยมไปฟัง คิริมานนทสูตร ให้เข้าใจแจ่มแจ้งก่อน ก่อนจะมาแนะนำคนอื่น ก่อนจะมาแนะนำพระสงฆ์องค์เจ้า..

โบราณว่า.."หัวโล้นอยากลำ หัวดำอยากเทศน์"


มัน บ่ แม่น แนว..

 

ถ้าถึงเวลา ก็บวชได้ แต่นี่ยังไม่ถึงเวลา
จะพยายามมากแค่ไหน เค้าก็จะให้ทำอยู่แค่นี้
ทำงานให้หมด จนกว่าจะหมดหน้าที่ แล้วก็จะไปได้ครับ

 

โดนกิเลสดึงไว้น่ะสิโยม..

มัวแต่อ้างเวลา มันใช่ที่ไหนกันโยม..

ชีวิตโยม โยมเลือกเองได้..

อย่ามาอ้างว่ามีหน้าที่ปราบมาร อะไรเลย..

กิเลสหลอกทั้งนั้น..

 

เค้าน่ะใคร?

กิเลสเหรอ?

 

ถ้า พระสงฆ์องค์เจ้า ทำตัวดี ผมก็อนุโมทนา
ถ้าทำตัวไม่ดี ก็ต้องโดนไป ใครที่อยากบวช
ก็จะต้อง ฝึกเตรียมใจให้ได้ ที่จะโดน ชาวบ้านด่า
หากทำอะไรที่ไม่เหมาะแก่ เพศบรรชิต
เป็น พระ ก็จะต้องเผชิญ โลกธรรมแปด ให้ได้

 

เราปราบแต่ มารในใจเรา แค่นั้น
มารภายนอกนั้น เราหลบเอาก็ได้
แต่ มารที่ยิ่งใหญ่ ทั้งเราและท่าน ก็คือ
ทิฏฐิของตัวเอง ปราบไม่ค่อยได้

 

เข้ามาในร่มกาสาวพัสตร์ให้ได้ก่อน แล้วจะรู้..

ไม่ใช่เป็นฆราวาสแล้วไปเย้วๆด่าพระสงฆ์องค์เจ้า..

 

เอาเท่านี้ก่อนละกัน วันนี้มีกิจนิมนต์สวดมาติกา..