พระยาธรรมมิกราช

ส่วนที่ยังคับบัญชาได้นั้นมีอยู่หาใช่ไม่มีคับ
หากเข้าใจไปเสียว่าทุกอย่างล้วนบังคับบัญชาไม่ได้ไปเสียหมดก็หลงไหลตามกิเลสโดยถ่ายเดียว
ก็อดเห็นการทวนกระแสกิเลสเข้ามาดูเหตุ
หากไม่มีการบังคับบัญชาให้หาเหตุว่ากิเลสเกิดขึ้นที่ใด เท่ากับปฏิเสธอริยะสัจสี่คับ

 

ตายหงษ์ !!!

ป่านนี้ ยังตีความคำว่า "บังคับบัญชาไม่ได้" เป็นเรื่อง
เอาช้อนป้อนเข้าปากได้ตรง อยู่หรอฮับ

พระศาสดาตรัสเอง การบรรลุของพระศาสดา
เกิดจาก การบังคับบัญชาไม่ได้

ด้วยเหตุนั้น การจะให้ สาวกบรรลุตาม ก็ไม่ได้
เกิดจากการบังคับบัญชาได้ คือกัน

ทุกรูปนาม จึง ตรัสรู้เองโดยชอบ ทั้งสิ้น

คำว่า บังคับบัญชาได้ มันไม่ใช่ ภาษาลิงประกิต "I can control"

แต่มันหมายถึง "สิ่งใดหากเกิดจากปัจจัย"
สิ่งนั้นถือว่า "บัญชาไม่ได้"

นิพพาน ธาตุ เป็น อสังขตธาตุ ธาตุที่ไม่ได้เกิดจาก ปัจจัย

นิพพาน ธาตุ จึงชื่อว่า พ้นความเกิดจากปัจจัย

หน้าที่ต่อ นิพพาน จึงไม่ใช่ไป ทำนั่น ทำนี้ เอาได้

หน้าที่ต่อ นิพพาน คือ แจ้งในสิ่งที่ มีอยู่แล้ว(แน่ๆ ยืนยันโดย ศาสดา ลป ลต ฯ )

วิธีเข้าไปเห็น จึงเป็น อาการ จำนนต่อสัจจ
ว่า ทุกสิ่งล้วนเกิดจากปัจจัย แม้นกระทั่ง
พยักหน้า ไร้กรม NGOองค์กรอิสระล้วนๆ

คนบางคนในโลก แค่ทำทาน แล้ว เพ่งเห็น
ธรรม อ้าว นี่คือ สิ่งเกิดจากปัจจัย แล้ว เอ๊อะ
ก็ ผั๊วะ บรรลุไปเลย สะเตะ นิ่ม ก็มี ฯลฯ

 

ถ้าสร้างเหตุปัจจัยให้อยู่กับสติและสมาธิ
ได้มากเท่าใด
ก็ย่อมเกิดปัญญาเห็นความจริง
ของสิ่งทั้งหลาย
ที่ปรากฎมากเท่านั้น
ใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่ตนเองจะเสกสรร
ปั้นแต่งทำให้มันเกิด
ขึ้น
มาได้โดยไม่มีเหตุปัจจัย
เพราะความจริงมีกุศล หรืออกุศลวิบาก
ทำงานอยู่เบื้องหลังทั้งนั้น คับ

 

บังคับบัญชาร่างกายให้รู้จักการเสียสละออกไม่ให้ยึดติดสิ่งของภายนอก
บังคับบัญชาให้ร่างกายอยู่ในศีล
บังคับบัญชาจิตใจให้อยู่ในสมาธิ
เมื่อรู้จักการให้ทานเมื่อร่างกายอยู่ในศีล
เมื่อจิตใจเกิดสมาธิพิจารนาสรรพสิ่งต่างๆตามความเป็นจริง จึงเกิดปัญญารู้แจ้งของสรรพสิ่งทั้งปวง นำไปสู่การปล่อยวางหลุดพ้น
กล่าวว่าบังคับบัญชาให้หลุดพ้นนั้นไม่ได้
กล่าวคือให้บังคับบัญชาร่างกายบังคับบัญชาจิตใจ
นำไปสู่ทาน นำไปสู่ศีล นำไปสู่สมาธิจนมีปัญญาพาหลุดพ้นคับ ไม่ใช่บังคับบัญชาให้หลุดพ้น
บังคับบัญชาร่างกายและจิตใจตัวเองคับหาใช่บังคับบัญชาคนอื่นให้หลุดพ้นอย่างที่ท่านเข้าใจ

 

จะพายเรือไปสู่จุดหมายได้ต้องอาศัยกำลัง
และการบังคับทิศทางที่จะไป
เรือไร้การบังคับเท่ากับพายเรือไร้ทิศทาง
ไม่รู้ว่าพายกี่ชาติจะถึงฝั่งจุดหมายปลายทางคับ

 

เป้าหมายแรกคือสิ้นยึดตัวตนให้ผ่านก่อน
ก่อนที่จะไปเอาอะไรที่ไหนอื่นคับ

 

ตาย หงษ์ จิฮับ

เรา พิจารณา เพ่ง ศีล เพ่ง ศีล นะ

จน รู้ชัดว่า ศีล เป็น สิ่งที่เกิดจาก ปัจจัย

เพ่ง สภาวะศีล อันเป็น สิ่งใดสิ่งหนึ่ง อันเกิดจาก ปัจจัย

จนกระทั่ง จิตมันจำนน ว่า กว่านี้ไม่มีอีก

จึง สรุปการเห็น สิ่งใดสิ่งหนึ่ง เกิดขึ้นดับไป ตามปัจจับ

เท่านั้นแหละ เกิดสติ มีสตงัค์ งุดโง งุดโง ได้ครั้งหนึ่ง

เรียกว่า งุดโงๆ เท่านั้น

เพราะ ต้องภาวนา เห็นตามจริงอย่างนั้น จนเกิด
ความจางคลาย ในการ เมา เรื่อง จิก

เกิด วิราคะ(ความจางคลาย) ก็เป็น สิ่งเกิดจากปัจจัย

เป็น แค่ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง ไปอีก

จนวิราคะ เป็น ปัจจัยให้ อ้าว
ความพ้นไปทางนี้ เกิดอย่างนี้

เห็น ความพ้น เป็น สภาวะอันเกิดจาก ปัจจัย
จน................

จน...............

จน............... ก็ เกิด จิกฮวมเล็กใหญ่ใส่ชิ้นสด ผั๊วะ !!!



มรรค มีหนึ่งเดียว มีองค์ประกอบ8

ไม่ใช่ พม่าแทงกบ ชิงสุกก่อนห่าม
อ่านฮ่านอะไรก็เอาไปสรุป เอ๊อะ
งั้นต้องอย่างงั้น อย่างงี้ อุปทานแหลก

 

เป้าหมายแรกคือหาตัวตนให้เจอก่อน
ตัวตนยังหาไม่เห็นยังหาไม่เจอการจะสิ้นยึดตัวตนย่อมเป็นไปไม่ได้
สิ้นยึดตัวตนคือถึงฝั่งแล้วไม่ต้องแบกเรือแบกไม่แบกไม้พายขึ้นฝั่งไปด้วยคับ
เรือคือร่างกายไม้พายคือจิต

 

อยู่ทนหรือทนอยู่กะไม่รู้งานนี้
55ว่าแต่เราอยู่แบบไหนละที่นี้

 

หากไม่มีการบังคับบัญชาบังคับบัญชาไม่ได้
แสดงว่าเกิดมาปุ๊ปบรรลุธรรมเองเลย
แล้วจะมาให้รักษาศีลฝึกสมาธิเพื่อระงับดับกิเลสให้เหนื่อยยากลำบากทำไม
อยู่เฉยๆรอบรรลุเองไม่ดีกว่าหรือ

 

ปุปุชน ต่างกับ มานุดเกิดมาพบพุทธศาสนา ตรงที่

"มีการเห็น"

หากไม่มีการเห็น ก็จะไม่เข้าใจ เรื่อง การแจ้งในสิ่งที่มีอยู่แล้ว

ปุปุชน โดนสัญญาหมายหลอก เวลา ฟังธรรม ก็ ทะลึ่ง สร้าง
สัญญาเข้าไปหมายๆ อย่างนั้น อย่างนี้

ไม่เข้าใจ การเพ่ง การเห็น การแจ้ง สิ่งที่ไม่ต้องสร้าง ปั้นแต่ง

มัวแต่ เอา สตังค์ตา ไปซื้อ ขนมยาย ฮิวววววววส์

 

เค้ากะไม่บอกห้ามทำเหตุเนาะ
แต่เราสร้างผลรอมันจะไม่เห็นผลที่เกิดขึ้นจริงจากเหตุ

 

มีเหตุ ก็ต้องเกิด ผล จิ ฮับ

ห้ามไม่ได้ บังคับบัญชา ไม่ได้

 

อย่าไปคิดอะไรมากหมายเลยผมคิดว่านะ
น่าจะมีแต่พระอรหันต์เท่านั้นที่เห็นจริง

 

มีซะที่ไหน หละ ฮับ อรหันตสาวก เห็นจริง

มีแต่ เห็นตาม แจ้งตาม เท่านั้น

ผู้ที่ตรัสบอก อรหันตสาวก ได้แค่ เห็นตาม
ก็มีแต่ .............................

ติ๊ง จบ

 

ปล เฮีย!! เท่านั้น ที่จะ นั่งรอ นอนรอ
ให้ อรหันตสาวก มาสอนธรรม

 

กล้วยตานี ปลายหวีเหี่ยว

เหลือหวีเดียว ทำกล้วยตากขายซะเลย

 

ยุคนี้พุทธศาสนาเสื่อมไปจากใจคนเป็นอันมาก ขนาดพระเตือนชัย ยังได้เป็นพระครู โยม เอ๊ย..

 

บาตรเหล็กใบใหม่มาแล้วโยมเอ๊ย..

รอถ่านบ่มบาตรอีกสามสี่วัน เดี๋ยวได้โซโล่ต่อ..

รอบนี้ใบละ2500 แต่ งานละเอียด เนียน กว่าเดิมเยอะ..

 

หลักการมันหน้าจะกะจายความร้อนให้ทั่วถึงนะหลวงพี่
เอาสื่อนำความร้อนดีๆไว้ในบาตรหน้าจะโอเครละ