พระราชินีพระราชทานคำขวัญอัญเชิญลงหนังสือวันแม่แห่งชาติ

ในห้อง 'ข่าวในพระราชสำนัก' ตั้งกระทู้โดย paang, 7 สิงหาคม 2009.

  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,325
    [​IMG]

    สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2552 ขณะที่ กรมธนารักษ์ เตรียมจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรสครบ 60 ปี นำทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินจากห้องมั่นคงกว่า 100 ชิ้นจัดแสดง

    เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2552 เพื่ออัญเชิญลงหนังสือวันแม่แห่งชาติปี 2552 ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยจัดจำหน่ายในงานวันแม่แห่งชาติ วันที่ 12 สิงหาคม 2552 ที่สวนอัมพร ความว่า

    แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้าง เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่
    ขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม
    ภายในหนังสือมีรายละเอียดของแม่ดีเด่น ประจำปี 2552 รวมทั้งยังสามารถสั่งซื้อได้จากส่วนประชาสัมพันธ์ สภาสังคมสงเคราะห์ฯ พร้อมกันนี้ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จแทนพระองค์ไปทรงเป็นประธานเปิดงานและประทานรางวัลแก่แม่ดีเด่นประจำปีนี้อีกด้วย

    ขณะที่กรมธนารักษ์ กระทรวงการคลัง เตรียมจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรส ธนารักษ์ร่วมใจ เทิดไท้พระบารมี โดยเมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน นพ.พฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แถลงว่า เนื่องด้วยปี 2553 เป็นปีแห่งมหามงคลในโอกาส 60 ปีแห่งพิธีบรมราชาภิเษก และราชาภิเษกสมรส ดังนั้นเพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติ และเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่มีพระราชดำริและพระราชกรณียกิจเพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุขแก่พสกนิกรชาวไทยให้ดำรงชีวิตอย่างร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา กรมธนารักษ์จึงได้กำหนดจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี พิธีบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรส ขึ้นในวันที่ 13-16 สิงหาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

    ภายในงานจะจัดให้มีการแสดงนิทรรศการและกิจกรรมมากมาย โดยแบ่งเป็น 6 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 ธนารักษ์ร่วมใจเทิดไท้พระบารมี จัดแสดงภาพและคำบรรยายเกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรส รวมถึงบอกเล่าประวัติ บทบาท และภารกิจของกรมธนารักษ์ โซนที่ 2 ทรัพย์สินมีค่า คู่ฟ้าภูมิสยาม นำเสนอพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จัดแสดงทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินที่ใช้ในพิธีบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรส อาทิ จั่นหมาก จั่นมะพร้าว (เป็นเครื่องประกอบในพระราชพิธี ซึ่งมีความหมายเป็นมงคลที่แสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ ความเจริญรุ่งเรือง และมีทรัพย์ศฤงคาร) หีบพระศรีทองคำลงยา (หีบใส่หมาก) รัดพระองค์และปั้นเหน่ง (เข็มขัดและหัวเข็มขัด) เป็นต้น รวมทั้งแสดงกรรมวิธีการสร้างทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินแบบโบราณ และจัดแสดงวิวัฒนาการเงินตราไทย

    โซนที่ 3 โรงกษาปณ์ จัดแสดงประวัติโรงกษาปณ์จากอดีตถึงปัจจุบัน และจัดแสดงเครื่องราชอิสริยยศ และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้นสูง และเงินตราโบราณ รวมถึงเงินพดด้วงสมัยอยุธยา ซึ่งมีขนาดเล็กที่สุดในโลกน้ำหนักเพียง 0.2 กรัม และเงินตราที่หาชมได้ยาก โซนที่ 4 ราชพัสดุ เป็นการจัดแสดงที่ราชพัสดุเพื่อสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งมีการแสดงโฉนดที่ดินโฉนดที่ 1 และหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงฉบับที่ 1 ของประเทศไทย ในโซนนี้ยังเปิดให้บริการสอบถามราคาประเมินที่ดิน สิ่งปลูกสร้างและอาคารชุด ที่จะรู้ผลได้ภายใน 1 นาที

    โซนที่ 5 เป็นโซนจำหน่ายผลิตเหรียญและจ่ายแลกเหรียญกษาปณ์หายากกว่า 83 รายการ และโซนที่ 6 กิจกรรมส่วนกลาง เป็นการเปิดเวทีเสวนาให้ความรู้จากผู้รู้ในสาขาต่างๆ อาทิ เรื่องพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรส เรื่องบทบาทของกรมธนารักษ์กับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง เรื่องการใช้ที่ราชพัสดุตามแนวทางพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง เป็นต้น

    นายเทวัญ วิชิตะกุล อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวว่า เหตุผลหลักของการจัดงานครั้งนี้คือ การเฉลิมพระเกียรติ 60 ปี ในโอกาสบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรส โดยจุดประสงค์หลักของงานก็เพื่อเผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และเผยแพร่พระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

    "กรมธนารักษ์เป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ได้จัดงานนี้ขึ้นโดยการนำทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินที่เกี่ยวข้องกับ 2 งานพระราชพิธีสำคัญนี้มาจัดแสดงให้ประชาชนชาวไทยได้ชม เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ซึ่งทรัพย์สินที่นำมาจัดแสดงเหล่านี้ยังไม่เคยนำไปจัดแสดงที่ใดมาก่อน โดยปกติจะถูกเก็บรักษาไว้ในพระบรมมหาราชวัง อาทิ เงินตราโบราณ เงินพดด้วงสมัยทวารวดี สมัยฟูนัน สมัยสุโขทัย และสมัยอยุธยา เพื่อแสดงพระราชอิสริยยศพร้อมด้วยทรัพย์สินมีค่าอื่นๆ อีกมากมาย" นายเทวัญ ให้รายละเอียด

    ด้าน น.ส.พจณี พรหมโรจน์ ผู้อำนวยการสำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน กล่าวว่า ทรัพย์สินทุกชิ้นที่นำมาจัดแสดงนั้น ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชาติ ที่จัดสร้างขึ้นด้วยงบประมาณของแผ่นดิน และทุกชิ้นล้วนมีความเกี่ยวเนื่องกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งทรัพย์สินที่พระมหากษัตริย์พระราชทานแก่ข้าราชบริพาร และขุนนางชั้นสูง เพื่อตอบแทนในการทำคุณงามความดี ซึ่งจะต้องส่งคืนเมื่อพ้นตำแหน่งตามวาระ ทุกชิ้นที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ได้ผ่านการใช้งานจริงมาแล้วทั้งสิ้น

    "ทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดินถูกเก็บรักษาอยู่ที่ห้องมั่นคง ของกรมพระคลังมหาสมบัติ จนเมื่อปี 2476 ถูกยุบรวมเป็นส่วนหนึ่งของกรมธนารักษ์ ซึ่งห้องมั่นคงของกรมพระคลังมหาสมบัติปัจจุบันคือ ห้องมั่นคงของสำนักทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน ซึ่งมีทรัพย์สินมากกว่า 9 หมื่นชิ้น โดยงานนี้เลือกเฉพาะที่สำคัญๆ และอยู่ในสภาพดี มาจัดแสดงกว่า 100 ชิ้น" น.ส.พจณี กล่าว

    ทั้งนี้ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติบรมราชาภิเษกและราชาภิเษกสมรส ธนารักษ์ร่วมใจ เทิดไท้พระบารมี เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมฟรีระหว่างวันที่ 13-16 สิงหาคมนี้ ตั้งแต่ 10.00-20.00 น. บริเวณห้องบอลรูม และฮอลล์เอ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยได้รับพระกรุณาจากพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ เสด็จไปทรงเป็นประธานเปิดนิทรรศการดังกล่าวในวันที่ 13 สิงหาคม เวลา 10.00 น.







    ที่มา คมชัดลึก
    <SCRIPT src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/test_domain.js"></SCRIPT><SCRIPT src="http://pagead2.googlesyndication.com/pagead/render_ads.js"></SCRIPT><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT><IFRAME name=google_ads_frame marginWidth=0 marginHeight=0 src="http://googleads.g.doubleclick.net/pagead/ads?dt=1249609690156&output=html&format=undefinedxundefined&correlator=1249609690171&ea=0&frm=1&ga_vid=1128080045.1249262435&ga_sid=1249605509&ga_hid=382597381&ga_fc=true&flash=10.0.22.87&w=-1&h=-1&u_h=768&u_w=1024&u_ah=738&u_aw=1024&u_cd=32&u_tz=420&u_his=20&u_java=true&ifi=1&dtd=109" frameBorder=0 scrolling=no allowTransparency></IFRAME><SCRIPT>google_protectAndRun("render_ads.js::google_render_ad", google_handleError, google_render_ad);</SCRIPT>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2009
  2. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,487
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ราชินีพระราชทานคำขวัญวันแม่ ทรงย้ำให้ “ลูกไทยรักแผ่นดินแม่”


    [​IMG]

    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>6 สิงหาคม 2552 21:15 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาพระราชทานคำขวัญวันแม่ อัญเชิญลงหนังสือวันแม่ของสภาสังคมสงเคราะห์ ทรงย้ำให้ “ลูกไทยรักแผ่นดินแม่ เป็นไทยแท้มิใช่แต่ในนาม” ขณะที่ “อภิสิทธิ์” มอบรางวัลประกาศเกียรติคุณ ปลุกขวัญสร้างคนดี-ผลงานเด่น ย้ำต้องสร้างแรงจูงใจส่งเสริมคนให้ทำดีมากขึ้น

    วันนี้ (6 ส.ค.) สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานคำขวัญวันแม่แห่งชาติ ปี 2552 เพื่ออัญเชิญลงหนังสือวันแม่แห่งชาติปี 2552 ของสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ความว่า “แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้าง เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่ ขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม”

    วันเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบโล่เกียรติคุณแก่บุคคล หน่วยงานและโครงการดีเด่นของชาติ ครั้งที่ 19 ประจำปี 2551 จำนวน 8 ราย จัดโดย สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี

    พ.ท.กมล ประจวบเหมาะ ประธานอนุกรรมการคัดเลือกและเผยแพร่ผลงานดีเด่นของชาติ กล่าวว่า คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการคัดเลือกและเผยแพร่ผลงานดีเด่นของชาติ เพื่อทำหน้าที่พิจารณา คัดเลือกบุคคล หน่วยงานและโครงการต่างๆ ทั่วประเทศ ที่มีผลงานดีเด่นเป็นประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติโดยส่วนรวม แล้วนำมาประกาศเกียรติคุณยกย่องเชิดชู เพื่อเป็นการส่งเสริมและให้กำลังใจ อีกทั้งเพื่อให้ผลงานเป็นที่ปรากฏต่อสังคม โดยมุ่งหวังให้บุคคลและหน่วยงานต่างๆ ได้ยึดถือปฏิบัติเป็นแบบอย่าง ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการได้เริ่มทำการคัดเลือกบุคคลฯ มาตั้งแต่ปี 2527 มีผู้ได้รับรางวัลไปแล้วรวม 187 ราย และในปี 2551 อีก 8 ราย รวมทั้งสิ้น 195 ราย

    ประเภทบุคคลดีเด่นของชาติ มีจำนวน 4 ราย คือ 1) สาขาพัฒนาสังคม ได้แก่ ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ 2) สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ด้านวิศวกรรมการคำนวณ) ได้แก่ ศาสตราจารย์ ดร.ปราโมทย์ เดชะอำไพ 3) สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ด้านจักษุวิทยา) ได้แก่ นายแพทย์ปานเนตร ปางพุฒิพงศ์ และ 4) สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย ได้แก่ นายวีรธรรม ตระกูลเงินไทย

    ประเภทหน่วยงานดีเด่นของชาติ มีจำนวน 3 ราย คือ 1) สาขาพัฒนาเศรษฐกิจ ได้แก่ บริษัท ชุมพรคาบาน่า จำกัด 2) สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ได้แก่ บริษัท ไอ.ที.ซี (1993) จำกัด 3) สาขาเผยแพร่เกียรติภูมิของไทย ได้แก่ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์ มหาวิทยาลัยมหิดล

    ประเภทโครงการดีเด่นของชาติ มีจำนวน 1 ราย คือ สาขาพัฒนาสังคม ได้แก่ โครงการรักษ์ช้าง สร้างป่า พัฒนาคน ของมูลนิธิหมู่บ้านช้าง การบินไทยสุรินทร์

    นายกฯ กล่าวว่า ปัจจัยหนึ่งที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้า คือ การที่สังคมมีบุคคล หน่วยงานที่ได้ประกอบคุณงามความดี เสียสลละ และทุ่มเทการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น เพื่อสร้างสรรค์คุณประโยชน์ต่อส่วนรวม และมีโครงการที่เป็นประโยชน์จำนวนมาก ทั้งนี้ จึงจำเป็นต้องให้กำลังใจแก่คนที่ทำดี เพื่อให้มีคนที่ทำงานเพื่อส่วนรวมมากขึ้น แม้ทราบดีว่าคนที่ทำดีส่วนใหญ่มักทำดีด้วยใจ และไม่ได้ต้องการผลตอบแทน แต่การยกย่องส่งเสริมคนดีอย่างเป็นรูปธรรมถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่จะเป็นแรงจูงใจทำให้คนทำความดีได้มีพลังที่จะทำดีกันมากขึ้น

    “เป็นเรื่องน่าเสียดายที่สังคมไทยยังไม่มีกระบวนการส่งเสริมให้คนทำความดีที่มีความเข้มแข็ง ส่วนใหญ่จะมอบรางวัลให้แก่ผู้ที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว จึงเห็นว่า ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องควรที่จะร่วมกันพิจารณา เพื่อหาทางทำให้เกิดระบบหรือกระบวนการยกย่องส่งเสริมคนที่ทำความดีให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น” นายกฯ กล่าว

    สำหรับผู้ที่ได้รับการประกาศเกียรติคุณในวันนี้ ถือได้ว่าเป็นบุคคลที่อุทิศทุ่มเทการทำงานในแต่ละสาขาด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละ เป็นการทำงานด้วยจิตใจ เพื่อประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติ และบุคคลอื่นๆ อย่างแท้จริง การทำความดีไม่มีอะไรที่จะเป็นอุปสรรคที่ทำให้คนทำความดีไม่ได้ ทุกคนสามารถทำความดีได้ในทุกที่และทุกเวลา ถ้าทุกคนรักที่จะทำและทำกันด้วยใจ และเชื่อมั่นว่า ทุกคนที่มีความดีทั้งหลายจะดำรงรักษาความดีไว้ได้อย่างยั่งยืนต่อไป

    ทั้งนี้ ในเวลา 16.30น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกว่า 20 คน อาทิ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหมได้เดินทางมาบันทึกเทปคำกล่าวอาเศียรวาทในโอกาส วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่สถานีโทรทัศน์ NBT

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อนายสุเทพพบกับพล.อ.ประวิตร นายสุเทพได้โอบกอดพร้อมทักทายพล.อ.ประวิตรด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม กลบกระแสข่าวที่มีก่อนหน้นานี้ว่าพล.อ.ประวิตรไม่พอใจที่รัฐบาลกดดันให้พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ น้องชายให้เดินทางไปต่างประเทศ ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวกับผู้สื่อข่าว ว่า ไม่ได้มีปัญหากับพล.อ.ประวิตร ยังคุยกันด้วยดี แต่ที่พล.อ.ประวิตรไม่ได้ร่วมงานแถลงข่าวผลงานรัฐบาลเมื่อเช้านี้(6 ส.ค.) เนื่องจากมีภารกิจปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ อย่างไรก็ตาม ทางด้านพล.อ.ประวิตรไม่ยอมให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

    --------------
    http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9520000089492
     
  3. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้าง เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่
    ขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม


    สาธุ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
     
  4. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    คำขวัญวันแม่จากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชินีนาถ
    แผ่นดินนี้ปู่ย่าตายายสร้าง เคยทอดร่างลงถมถิ่นแผ่นดินแม่
    ขอลูกไทยรักษามั่นไม่ผันแปร เป็นไทยแท้มิใช่ไทยแต่ในนาม


    สาธุ ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 สิงหาคม 2009

แชร์หน้านี้

Loading...