พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ต้องมาลุ้นกันครับ ว่าท้ายตลาดจาลบปล่าวครับ หุ หุ
     
  2. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>หมายกำหนดการ พระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ
    http://www.manager.co.th/MetroLife/V...=9510000134598
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>13 พฤศจิกายน 2551 12:05 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=233 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=233> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>วันศุกร์ที่ 14 พ.ย. 51 เวลา 17.30 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินในการบำเพ็ญพระราชกุศลออกพระเมรุ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

    วันเสาร์ที่ 15 พ.ย. 51 เวลา 07.00 น.
    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร และสมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จเชิญพระโกศออกพระเมรุ จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อเคลื่อนริ้วขบวนไปยังพระเมรุท้องสนามหลวง

    เวลา 16.30 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม โปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงจุดเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระศพทรงธรรมที่พระเมรุ และพระราชทานเพลิงพระศพ

    เวลา 22.00 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงเสด็จในการพระราชทานเพลิงพระศพจริง

    วันอาทิตย์ที่ 16 พ.ย. 51 เวลา 08.00 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินเก็บพระอัฐิ ณ พระเมรุท้องสนามหลวง

    วันจันทร์ที่ 17 พ.ย. 51 เวลา 16.30 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาบำเพ็ญพระราชกุศลพระอัฐิ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

    วันอังคารที่ 18 พ.ย. 51 เวลา 10.30 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทเพื่อทรงเลี้ยงพระ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท จากนั้นทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จตามเชิญพระโกศพระอัฐิขึ้นประดิษฐานที่พระวิมานบนพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท

    วันพุธที่ 19 พ.ย. 51 เวลา 16.30 น.
    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เชิญพระสรีรางคารไปยังพระอุโบสถวัดราชบพิธฯ

    เวลา 17.30 น.
    พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จมายังอณุสรณ์สถานรังษีวัฒนา สุสานหลวงวัดราชบพิธสถิตมหาสีมาราม เพื่อทรงบรรจุพระสรีรางคาร ณ อนุสรณ์สถานรังษีวัฒนา

    นอกจากนี้ สำนักพระราชวังจะเปิดให้ประชาชนเข้าถวายบังคมพระศพได้จนถึงวันที่ 13 พ.ย.นี้ ในเวลา 20.00 น. จากนั้นจะปิดการเข้าถวายบังคมพระศพ เพื่อเตรียมงานพระราชพิธีต่อไป

    ************************

    สปน.แจ้งกำหนดการไว้ทุกข์


    สำนักงานปลัดนายกรัฐมนตรี (สปน.) ได้เสนอเรื่องการไว้ทุกข์ในวันพระราชพิธีพระราชทานเพลิงพระศพสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอฯ และขอความร่วมมือดังต่อไปนี้

    1. ขอความร่วมมือให้ประชาชนไว้ทุกข์โดยทั่วกันระหว่างวันที่ 14-16 พ.ย. 51 เป็นเวลา 3 วัน

    2. ขอความร่วมมือสถานบริการต่างๆ ให้งดหรือลดการแสดงเพื่อความบันเทิง

    3. ขอความร่วมมือให้สถานีวิทยุและโทรทัศน์ควบคุมดูแลรายการที่ออกอากาศให้เหมาะสม

    4. ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    ร่วมกิจกรรมด้วยคนครับ

    ....ขอร่วมกิจกรรมด้วยคนครับ...

    ... การให้ธรรมเป็นทาน ย่อมชำนะการให้ทั้งปวง รสแห่งธรรม ย่อมชำนะรสทั้งปวง...(บทความนี้ ขออนุญาต COPY ของคุณSitthiphong มาลงนะครับ)

    เมื่อวานนี้ แม่ไม่สบาย ความดันโหลิตสูงครับ ต้องเข้าห้องฉุกเฉิน ผมนั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงคุณแม่ พอมีโอกาส ผมก็เลยบอกกับคุณแม่ว่า แม่ทำใจให้สบายๆนะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก
    พระพุทธเจ้ากล่าวไว้ว่า กายนี้ ใจนี้ไม่เที่ยง กายนี้ใจนี้เป็นทุกข์ กายนี้ ใจนี้ ควบคุมบังคับบัญชาไม่ได้ มันเป็นของชั่วคราว ในที่สุดไม่ว่าใครก็จะต้องปล่อยร่างกายคืนธรรมชาติเขาไป ไม่มีใครอยู่ได้ยั่งยืนหรอก คุณแม่มองหน้าผม...(อาจจะงงนิดๆๆ) แล้วแม่ก็ยิ้ม คงสังสัยว่าผมพูดอะไร แต่แม่ก็ดีขึ้นครับ เดี๋ยวนี้ความดันลดลงเป็นปกติแล้วครับ...กระผมก็ดีใจน่ะครับ เพราะว่าปกติถ้าพูดเรื่องธรรมะกับคุณพ่อคุณแม่ จะคุยกันยาว(เพราะเห็นไม่ตรงกัน เหมือนกับคุยกันคนละเรื่อง) แต่ครั้งนี้คุณแม่ยอมฟังครับ....
     
  4. narin96 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +28
    ลงคะแนนให้คุณหมอเอกครับ
     
  5. พรสว่าง_2008 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 เมษายน 2008
    โพสต์:
    356
    ค่าพลัง:
    +402
    โหวตคะแนนครับ

    ขอโหวตให้คุณหมอเอก และ ให้กระผมเองด้วยคับ (คงไม่ผิดกติกานะครับ)
     
  6. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    กิจกรรมที่โพสเรื่องของธรรมะ ได้หมดเวลาในวันนี้(ศุกร์ที่ 14 พ.ย.51)เวลา 06.00 น.แล้วครับ

    แต่เนื่องจากรางวัลที่สอง ไม่มีท่านใดเข้าหลักเกณฑ์ แต่เนื่องจากความตั้งใจดีของคุณพรสว่าง และกิจกรรมที่ทำนั้น ถูกใจผมมาก ผมขอมอบรางวัลที่สองให้นะครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
     
  7. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ขอบคุณทั้งสองท่านครับ

    .
     
  8. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ---------------------------------------------------------

    ---------------------------------------------------------


    ---------------------------------------------------------

    ---------------------------------------------------------

    ---------------------------------------------------------

    ---------------------------------------------------------

    ---------------------------------------------------------


    ---------------------------------------------------------


    ผมจะนำกิจกรรมนี้ ไปเป็นส่วนหนึ่งของการให้คะแนนในโครงการธนาคารความดี ในส่วนของการให้คะแนนผมเองครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  9. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ขอเวลาคิดกิจกรรมใหม่หน่อยครับ ว่าจะจัดกิจกรรมใหม่ ประมาณต้นเดือนธันวาคม

    ครั้งหน้านี้ ผมจะนำพระสมเด็จ (ที่สร้างและเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ปี พ.ศ.2411) มามอบให้กับท่านที่ร่วมกิจกรรมทุกๆท่าน

    พระสมเด็จ (ที่สร้างและเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ปี พ.ศ.2411) ชุดนี้เป็นพระสมเด็จที่เจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสีท่านอธิษฐานจิตด้วย และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ท่านอธิษฐานจิตด้วย

    ไม่ใช่พระพิมพ์ที่อยู่ในพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวงปี พ.ศ.2451 แน่นอนครับ

    .
     
  10. :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    เมื่อวานขายไปแล้ว ท้ายตลาดเก็บคืนมาใหม่ วันนี้วางขายไป 50 % รอส่งรถปอเต็กตึ๊งไปรับศพกลับครับ 5555555
     
  11. nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ผมลงแล้วนะครับท่านปาทาน หุ หุ
     
  12. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    10 เคล็ดลับดีๆ กับวิธีเลือกกางเกงยีนส์

    http://hilight.kapook.com/view/30912



    ทำไมผู้หญิงทั่วโลกหลงรักกางเกงยีนส์ ก็เพราะกางเกงยีนส์ช่วยให้ดูเพรียวและเซ็กซี่น่ะสิ แต่การเลือกกางเกงยีนส์ให้เหมาะกับรูปร่างนั้นยากกว่าเลือกบิกินี่ซะอีก นี่คือคู่มือที่จะช่วยให้คุณค้นพบกางเกงยีนส์ในฝัน

    1. เลือกซื้อไซส์เล็กกว่าขนาดจริง 1 เบอร์ อย่าเพิ่งคิดว่าจะฟิตเกินไป เพราะเมื่อใส่ไปสักพัก เนื้อผ้าจะขยายออก 10%​

    2. ถ้าเจอตัวที่ถูกใจซื้อไว้เลย 2 ตัว ตัวแรกตัดให้พอดีข้อเท้า ไว้ใส่กับรองเท้าส้นแบน อีกตัวทิ้งความยาวปลายขาไว้ เพื่อใส่กับรองเท้าส้นสูง ​

    3. เลือกกางเกงยีนส์แบบซิป เพราะใส่ง่ายและแนบกับสรีระมากกว่าแบบกระดุม ​

    4. อย่าลืมเอาเข็มขัดไปด้วย เพื่อลองกางเกงพร้อมกับเข็มขัด จะได้รู้ว่าใส่พอดีและเข้ากันดีหรือไม่ ​

    5. นำไปซักก่อนการแก้ไขใดๆ เพราะหลังจากการซักกางเกงยีนส์อาจหดตัว ทำให้ขนาดเปลี่ยนไป ​

    6. รักษาตะเข็บที่ปลายขาไว้ การตัดขากางเกงแบบต่อปลายตะเข็บเดิม อาจแพงกว่า แต่ก็ช่วยให้กางเกงตัวเก่งของคุณสวยสมบูรณ์แบบ ​

    7. ซักด้วยน้ำเย็นทุกครั้ง เพราะน้ำอุ่นจะทำให้กางเกงยีนส์หดตัว อย่าลืมกลับด้านก่อนซักเพื่อป้องกันสีซีดจาง ​

    8. หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม เพราะสารเคมีอาจทำลายสีของกางเกงให้ซีดจาง ​

    9. อย่ารีดด้วยความร้อนสูง เพราะความร้อนอาจทำให้เนื้อผ้าหดตัว ​

    10. ซักแห้งดีที่สุด เพราะช่วยให้สีของกางเกงยีนส์ยังคงเดิมอยู่เสมอ (โดยเฉพาะสีเข้ม) ​

    Label Lingo 5 ศัพท์ ควรรู้ของกางเกงยีนส์

    1. Rise ความยาวระหว่างเป้ากางเกงถึงขอบเอว เพื่อดูว่า เอวสูงหรือเอวต่ำ ​

    2. Whiskering ลายทางริ้วบนกางเกงยีนส์เพื่ออำพรางจุดด้อยบริเวณสะโพก ​

    3. Inseam รอยตะเข็บด้านข้าง ตั้งแต่เป้าจนถึงปลายขากางเกง ​

    4. Wash สีสันและวิธีการฟอกกางเกงยีนส์ ​

    5. Boot-cut ทรงกางเกงที่เข้ารูป บริเวณสะโพกแล้วค่อยๆ บานออกใต้หัวเข่า​




    ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก


     
  13. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    "อย่ามองในหลวงแล้วน้ำตาไหล แต่ต้องเข้าใจว่าพระองค์ท่านทรงสอนอะไร"
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad01141151&sectionid=0115&day=2008-11-14


    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>"วันนี้มีแต่คนมองในหลวงแล้วปลาบปลื้มน้ำตาไหล แต่น้อยคนที่จะพยายามเข้าใจว่าทรงสอนอะไร" ประโยคนี้ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พูดเมื่อครั้งมาบรรยายในหัวข้อ "เศรษฐกิจพอเพียง" ในการประชุมผู้นำชุมชนทั่วภาคเหนือที่โครงการพัฒนาดอยตุง ซึ่งเป็นการจัดขึ้นร่วมกันระหว่างสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนและคณะกรรมการบริหารโครงการปิดทองหลังพระ

    ดร.สุเมธบอกว่า การพัฒนาของประเทศไทยที่ผ่านมาเป็นการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกับแนวพระราชดำริที่พระเจ้าอยู่หัวทรงให้ไว้ โดยเฉพาะในประเด็นที่ทรงย้ำว่าจะทำสิ่งใดต้องเคารพภูมิสังคม ทั้งภูมิศาสตร์ สังคมและวัฒนธรรม <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>

    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    "ประเทศไทยมีทุนสำคัญทางการเกษตร มีความพร้อมทั้งทรัพยากรธรรมชาติ ทรัพยากรบุคคล แต่กลับละทิ้งไปมุ่งหาอุตสาหกรรม ทั้งที่จะต้องพึ่งพิงทุนจากต่างประเทศ เทคโนโลยีจากต่างประเทศ และผู้บริหารจากต่างประเทศ ดังนั้นจึงเห็นมาแล้วว่าแม้ประเทศไทยจะพัฒนาจนมีการขยายตัวเกิน 10% มาแล้วแต่ไม่สามารถปกป้องเศรษฐกิจจากวิกฤตได้ เปรียบเสมือนบ้านที่ต้องมีเสาที่มั่นคง แต่แนวทางการพัฒนาของเราที่ผ่านมาเสาบ้านของเราเป็นเสาที่ต้องพึ่งคนอื่น ก็ย่อมไม่มั่นคง เมื่อต่างประเทศถอนตัวออกไป เราก็เหลือเพียงทรัพยากรที่เสื่อมโทรม"

    นอกจากนี้ ดร.สุเมธ ยังได้แนะถึงความเข้าใจในการปฏิบัติตามแนวพระราชดำริ เศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะต้องพอเหมาะพอประมาณ ไม่ฝืนธรรมชาติ มีภูมิคุ้มกัน และมีคุณธรรม สามารถนำไปเป็นหลักยึดปฏิบัติได้ในทุกระดับทั้งระดับบุคคลและชุมชน ไม่ว่าจะอยู่ในสังคมไหนก็ตาม

    "ต้องรู้จักตัวเองให้ดีเสียก่อนเป็นสิ่งแรก เพื่อที่จะเดินได้ถูก นี่เป็นสิ่งสำคัญ อย่างในบางมหาวิทยาลัยจะเห็นห้องประชุมติดแอร์เย็นฉ่ำแล้วคนมาประชุมก็ใส่ผ้าพันคอกันหนาวมาด้วย หรือไปดูนิทรรศการเศรษฐกิจพอเพียงที่ไหนก็จะต้องมีแสดงผัก กระท่อม และควายมาแสดงทำนา จนคนเข้าใจว่าเศรษฐกิจพอเพียงต้องเป็นเกษตรและจน"

    ท้ายสุด เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวสรุปว่า จะร่วมกับโครงการปิดทองหลังพระในการส่งเสริมให้ประชาชนนำเอาแนวพระราชดำริไปใช้ในการพัฒนาตนเองและชุมชนทั่วประเทศอย่างจริงจัง
     
  14. :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ผมยังจำได้ว่ามีเพื่อนของเราท่านหนึ่งที่นิยมทำบุญปิดทองหลังพระ ผมได้บันทึกเข้าไปไว้ในธนาคารความดีแล้ว..
     
  15. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    เปิดใจให้กว้าง ประวัติศาสตร์ไม่ได้มีฉบับเดียว เกี่ยวกับ "พระบรมรูปทรงม้า" ร.5
    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra01141151&sectionid=0131&day=2008-11-14

    คอลัมน์ สุวรรณภูมิ สังคมวัฒนธรรม

    โดย ไกรฤกษ์ นานา




    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    จุดประสงค์ของการสร้างพระบรมรูปทรงม้า ก็เพื่อเป็นซุ้มประตูทางเข้าพระราชวังดุสิตที่สร้างขึ้นใหม่
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มาของพระบรมรูปทรงม้าก็ยังเป็นข้อถกเถียงอยู่เสมอๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะว่าประวัติศาสตร์ไทย "ฉบับเก่า" ยังยึดติดอยู่กับคำบอกเล่าของคนรุ่นหนึ่งสู่อีกรุ่นหนึ่ง ที่โยง "การเสด็จประพาสยุโรป พ.ศ.2450" กับ "พระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก พ.ศ.2451" เข้าไว้ด้วยกันโดยบังเอิญ ทั้งๆ ที่พระบรมรูป "มิใช่" เหตุบังเอิญที่ถูกสร้างขึ้น นี่เป็นประเด็นแรกที่สร้างความสับสนเรื่อยมา

    ส่วนประเด็นที่ 2 คือ การที่พระบรมรูปองค์นี้ "มิใช่" ราชานุสาวรีย์องค์แรกประจำรัชกาลนี้ โดยมีหลักฐานที่น่าเชื่อถือดังต่อไปนี้

    ประเด็นแรก : เรื่องแรงบันดาลใจในการสร้าง

    การที่นักประวัติศาสตร์บางส่วนหลับหูหลับตาเขียนว่า แรงดลใจในการสร้าง เกิดจากการที่รัชกาลที่ 5 เสด็จไปทอดพระเนตรอนุสาวรีย์พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ทรงม้า ตั้งอยู่หน้าพระราชวังแวย์ซายส์ในประเทศฝรั่งเศสนั้นเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นและไม่มีหลักฐานยืนยัน ข้อมูลล่าสุดที่สามารถเปิดเผยความลับทั้งหมด บัดนี้พบแล้วว่ามีจริงๆ มันเป็นคำอธิบายที่ซ่อนอยู่ในพระราชหัตถเลขาของรัชกาลที่ 5 ที่ทรงมีถึงเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) บนเรือซักซัน ในขณะที่เสด็จราชดำเนินไปยุโรป ระบุถึงความคิดเรื่องพระบรมรูปทรงม้าเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 15 เมษายน ร.ศ.126 (พ.ศ.2450)

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    (ซ้าย) พระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 จาก ค.ศ.1874 ประดิษฐานอยู่ภายในพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท (วงกลม)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ถึง พระยาสุขุม

    "...หนังสือฉบับนี้มีความมุ่งหมายที่จะอธิบายโทรเลขนั้นให้แจ่มแจ้ง คือ พระยาสุขุมจะนึกได้ว่ามีความคิดอย่างหนึ่ง ซึ่งค้างอยู่ช้านานว่าจะเอาเงินที่ข้าราชการเรี่ยรายในการทำบุญแซยิดอายุครบ 50 อันมีเหลืออยู่นั้น ก่อสร้างซุ้มประตูที่ถนนเบญมาศอันต่อกันกับถนนดวงตะวัน และถนนราชดำเนินนอก เพื่อจะให้เป็นซุ้มประตูสำหรับวังสวนดุสิต ความคิดอันนี้ได้คิดเมื่อครั้งพระยาสุริยาเป็นเสนาบดี มีหน้าที่สามคนร่วมกันคือพระยาสุริยานุวัตร กรมหลวงนริศร กรมดำรงถึงได้วาดอย่างขึ้นดูบ้างแล้ว แต่ก็เลยติดค้างอยู่ตามเคย มาภายหลังพระยาสุริยาคิดเห็นว่าน่าจะหล่อ "พระบรมรูปขี่ม้า" ตั้งบนหลังซุ้มนั้น แต่ไม่มีโอกาสที่จะได้ทำรูป ก็ระงับมาอีก..."

    สยามินทร์(1)

    ข้อมูลใหม่ที่พบนี้ลบล้างความสงสัยที่ค้างคาใจผู้คนมานาน ความจริงที่เก็บงำไว้ถูกเปิดเผยขึ้นในที่สุด เมื่อรัชกาลที่ 5 มีพระราชดำรัสถึงเจ้าพระยายมราชอย่างเงียบๆ ตรัสสั่งงานเกี่ยวกับโครงการใหญ่ส่วนพระองค์ที่ไม่ค่อยมีใครรู้ แต่ดำเนินมานานกว่า 3 ปีแล้ว ในอันที่จะปั้นพระบรมรูปในลักษณะที่ "กำลังทรงม้า" เพื่อทำเป็นซุ้มประตูทางเข้าพระราชวังดุสิตที่สร้างขึ้นใหม่

    อันพระบรมราชวินิจฉัยเดิมมีอยู่ว่า จะทรงใช้เงินบริจาคที่เหลือจากงานพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษาครบ 50 พรรษา ที่รวบรวมได้ 5 ปีก่อนหน้านั้น (พ.ศ.2446) และมิได้เกี่ยวกับงานรัชมังคลาภิเษกที่เตรียมกันนั้นเลย (พ.ศ.2451) จึงเป็นคนละเรื่องกันตั้งแต่ต้น และรู้เฉพาะบุคคลใกล้ชิดที่อยู่ในวงในเพียง 2-3 คนเท่านั้น
    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>
    หนังสือพิมพ์อังกฤษ อ้างหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับหมายรับสั่งจากพระเจ้ากรุงสยาม ให้หล่อพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 ขึ้นเป็นครั้งแรก ในขณะที่รัชกาลที่ 5 มีพระชนมพรรษาเพียง 21 พรรษา (ภาพจาก THE ILLUSTRATED LONDON NEWS, 13 June 1874)


    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    พระบรมรูปขี่ม้าบนหลังซุ้มประตู ที่ลานพระราชวังดุสิตจึงเป็นข้อเท็จจริงที่ไขปริศนามูลเหตุการสร้างที่หักล้างทฤษฎีแห่งความเชื่อที่ไม่มีหลักฐานรองรับออกไปจนหมด

    ประเด็นที่สอง : เรื่องการพิสูจน์เอกลักษณ์

    เท่าที่ผ่านมารายละเอียดจากหนังสือประวัติศาสตร์เล่มเดิมๆ ที่พบในประเทศไทย ให้ข้อมูลที่ชี้นำไปในทางทิศเดียวกันว่า พระบรมรูปทรงม้า ร.5 ณ ลานพระราชวังดุสิต เป็นองค์แรก และองค์เดียวของรัชกาลที่ 5 ที่เคยถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ พ.ศ.2451 (ค.ศ.1908) ฐานข้อมูลนี้ไม่เคยได้รับการตรวจสอบ จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วมานี้

    นิตยสารศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนตุลาคม 2550 รายงานการค้นพบข้อมูลใหม่จาก น.ส.พ.อังกฤษฉบับหนึ่งสมัย พ.ศ.2417 (ค.ศ.1874) เขียนว่ารัชกาลที่ 5 (KING OF SIAM) ได้ทรงมีพระบรมราชโองการให้ห้างฮันต์ แอนด์โรสเกล (MESSRS. HUNT AND ROSKELL) ณ กรุงลอนดอน หล่อพระบรมรูปทรงม้าของพระองค์ขึ้นด้วยวัสดุเงิน (SILVER) ภายหลังการเสด็จฯประพาสเมืองปัตตาเวียและสิงคโปร์ ใน ค.ศ.1871 การเสด็จไปเยือนอาณานิคมของยุโรปเมื่อต้นรัชกาล สร้างแรงบันดาลใจให้กษัตริย์หนุ่มชนมายุเพียง 17 พรรษา เกิดแนวคิดที่จะเลียนแบบการสร้างเมือง และการวางผังเมืองตามวิธีคิดของชาวยุโรป สิ่งแรกๆ ที่ทรงกระทำคือ การตัดถนนและสร้างจัตุรัสกลางเมืองแบบในยุโรป รูปปั้นพระบรมรูปทรงม้า จาก ค.ศ.1874 เป็นขนาดย่อส่วน เพื่อนำเข้าตกแต่งในพระบรมมหาราชวังเป็นตัวอย่าง (2)

    และจากภาพถ่ายเก่าภาพหนึ่ง ถ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5 (ดูภาพประกอบ) ยืนยันว่าพระบรมรูปทรงม้าขนาดย่อส่วน ซึ่งเป็นแบบเดียวกันกับที่ น.ส.พ.อังกฤษโฆษณาไว้ ถูกสร้างขึ้นและนำเข้ามาประดิษฐานอยู่ภายในมุขกระสันด้านตะวันออก ชั้นกลางของพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทจริง หมายความว่าพระบรมรูปทรงม้า ร.5 มีอยู่ในประเทศไทยมากกว่าหนึ่งองค์แล้วตั้งแต่ยังไม่สิ้นรัชกาลที่ 5 ข้อเท็จจริงทั้งหมดนี้ช่วยทำให้ประวัติศาสตร์ดูเข้มข้นและน่าเชื่อถือมากขึ้น ที่สำคัญ เราต้องเปิดใจรับรู้ข้อมูลใหม่ๆ บ้าง

    บรรณานุกรม

    (1) สำเนาพระราชหัตถเลขาส่วนพระองค์ ร.5 ถึงเจ้าพระยายมราช (ปั้น สุขุม) พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ เจ้าพระยายมราช 10 เมษายน พ.ศ.2482

    (2) น.ส.พ. THE ILLUSTRATED LONDON NEWS ฉบับวันที่ 17 มกราคม ค.ศ.1874
     
  16. sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,949
    ผมคิดออกแล้ว สำหรับกิจกรรมที่ผมจะจัดในครั้งต่อไปครับ

    .
     
  17. :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    คุณnewcomer ได้มีเจตนามอบพระพิมพ์จำนวนหนึ่งเพื่อมอบให้กับผู้ได้รับรางวัลธนาคารความดีรางวัลที่ ๑ - ๒ และ ๓ ดังนี้ครับ

    รางวัลที่ ๑ พระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเพชร ๕ องค์+พระสมเด็จองค์ปฐม+พระรอดจากวัดพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ๑ องค์+ภาพหลวงปู่จันทา ถาวโร ๑ ภาพ+พระผงที่หลวงพ่อสิริสร้างบูชาครูบาอาจารย์ จำนวน ๔ องค์






    รางวัลที่ ๒ พระผงศาสดา ญสส. วัดบวรนิเวศวิหาร ๑ องค์+พระรอดจากวัดพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ๑ องค์+ภาพหลวงปู่จันทา ถาวโร ๑ ภาพ+พระผงที่หลวงพ่อสิริสร้างบูชาครูบาอาจารย์ จำนวน ๓ องค์


    รางวัลที่ ๓ พระเสาร์ ๕ พลังจิต ๑ องค์+พระรอดจากวัดพระมหาชินธาตุเจ้าดอยตุง ๑ องค์+ภาพหลวงปู่จันทา ถาวโร ๑ ภาพ+พระผงที่หลวงพ่อสิริสร้างบูชาครูบาอาจารย์ จำนวน ๓ องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • P1010290.JPG
      ขนาดไฟล์:
      226.8 KB
      เปิดดู:
      150
    • P1010291.JPG
      ขนาดไฟล์:
      222.7 KB
      เปิดดู:
      159
    • P1010292.JPG
      ขนาดไฟล์:
      170 KB
      เปิดดู:
      189
    • P1010294.JPG
      ขนาดไฟล์:
      223.2 KB
      เปิดดู:
      181
    • P1010295.JPG
      ขนาดไฟล์:
      276 KB
      เปิดดู:
      154
    • P1010296.JPG
      ขนาดไฟล์:
      258.3 KB
      เปิดดู:
      141
    • P1010297.JPG
      ขนาดไฟล์:
      235.9 KB
      เปิดดู:
      127
    • P1010298.JPG
      ขนาดไฟล์:
      268 KB
      เปิดดู:
      129
    • P1010300.JPG
      ขนาดไฟล์:
      149.5 KB
      เปิดดู:
      139
    • P1010301.JPG
      ขนาดไฟล์:
      159.6 KB
      เปิดดู:
      122
  18. :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
    ภาพพระบรมสารีริกธาตุ สัณฐานเพชรจำนวน ๕ องค์ ผมไม่สามารถถ่ายภาพได้ เพราะมีขนาดองค์ที่ใส และเล็กมาก คุณ newcomer มอบไว้ให้พร้อมผอบบรรจุพระบรมสารีริกธาตุแล้วครับ ขออนุโมทนาด้วยครับ..
     
  19. ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405
    ก็พยายามตามอ่านอยู่เสมอครับ ตอนนี้ไปได้เกือบ 700 หน้าแล้วครับ
    และก็รับปากครับ ว่าจะไม่ขุดขึ้นมาทั้งหมด แต่จริงๆแล้วต่อให้ขุดขึ้นมา ไม่นำมาอธิบาย ผมก็ว่าเป็นเพียงแค่ การทำให้...อยากแล้ว....จากไป เท่านั้นเองครับ เพราะแต่ละโพสนั้น กินความหมายมากมายทีเดียวครับ
    ช่วงนี้จะยุ่งหน่อย ติดภารกิจค่อนข้างมาก อีกทั้งมีปัญหากับการมึนศีรษะพอสมควรจึงเน้นการนั่งสมาธิสวดมนต์มากกว่าครับ อาจจะเห็นว่าไม่ค่อยได้เข้ากระทู้ครับ
     
  20. ake7440 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,528
    ค่าพลัง:
    +405

    <TABLE class=tborder id=post1656956 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 03:24 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175> WebSnow<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1656956", true); </SCRIPT>
    เว็บมาสเตอร์, ผู้ก่อตั้ง (วีระชัย)



    วันที่สมัคร: Apr 2003
    สถานที่: London, England
    อายุ: 33
    ข้อความ: 6,667
    <IF condition="1"><!--############# AWCoding Back-End created by AWNetwork, Inc. ######################################## Version 3.0.8 ##############################--> <!--####################### Awards Postbit Template ########################################## Copyright 2008 all rights reserved ##################-->
    </IF>พลังการให้คะแนน: 50000



    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1656956 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- icon and title -->ปุ่มอนุโมทนาหายไป
    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message -->ปุ่มอนุโมทนาและ feature บางหายไป

    ไม่ต้องตกใจนะครับว่า หายไปไหน แค่ disable ไว้ เนื่องจากวันนี้คนเข้าเว็บเป้นจำวณมาก ทำให้เว็บโหลดช้า

    disable สักระยะ
    เดี่ยวก็กลับมาตามปกเมือ่ถึงเวลาอีันสมควร
    <!-- / message -->
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ท่านปาทานนำมาโพสไว้ครับ
     

แชร์หน้านี้