พระศรีอาริย์เจ้าโลก บทที่ ๓ บูรพนิมิตหรือลางร้ายต่างๆ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย วสุธรรม, 10 ธันวาคม 2018.

  1. วสุธรรม

    วสุธรรม พลังรักอมตะ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    2,323
    ค่าพลัง:
    +8,220
    SriarayaFeature03.jpg

    หนังสือพระศรีอาริย์เจ้าโลก รวบรวมโดยรหัสยญาณ


    6656319333ae805.jpg

    มนุษย์ในยุคปัจจุบันกําลังอาบแสงนานาชนิดแห่ง วิทยาศาสตร์กันอย่างเพลิดเพลินเจริญใจ จึงไม่เฉลียวใจถึงเวลา อวสานของโลก แม้ว่าทางศาสนาจะต้องตะโกนโพนทนาว่า “อะยัง โลโก วินาสสันติ” โลกจะวินาศ โลกจะฉิบหาย เวลาอวสานของ โลกใกล้เข้ามาแล้ว แต่ฝูงมนุษย์ก็หาเชื่อฟังไม่ กลับพากันหาความ สนุกจนมืดมิดปิดตา “ฉันจะสนุกกันในขณะที่โลกกําลังจะแตก อย่างนี้แหละ จะแตกอย่างไรก็แตกไป”

    ผู้เขียนจึงนําบุรพนิมิต หรือลางร้ายต่างๆ ซึ่งแสดงว่าจะมี เหตุการณ์นองเลือดเกิดขึ้นแก่โลกภายหน้า เช่น ลางสัตว์ ลางแสง ประหลาด ลางดินฟ้าอากาศ ตามคัมภีร์ไสยศาสตร์กล่าวไว้ดังนี้ :

    “โคโณ กาโก รัตติ สัทโท สุนะโข กุกกุโภ วะโร นะภาธุโม ปัญญายะติ นานัพภะยัปปัตโตติ” แปลความว่า “วัวและการ้องใน เวลากลางคืนก็ดี, สุนัขและไก่ร้องและกะต๊ากในเวลากลางคืนก็ดี, และบังเกิดเป็นควันกลุ่มขึ้นในอากาศก็ดี, มหาชนจะถึงซึ่งภัยต่างๆ”

    อีกบทหนึ่งว่า :
    “กาโก วัมมิโก กิปิโล กุนโถ ถาปี กะลี จะ อัญญะมัญยัง ปะหะรันตา มะนุสสา ยุทธะการะตาติ” แปลความว่า “กา และปลวก, และนกเอี้ยง, มดดํา, มดแดง ประหารจิกตีกันเป็น กลุ่มๆผิดประหลาดกว่าธรรมดา ก็เป็นนิมิตที่แสดงให้โลกรู้ว่า จะ บังเกิดรบพุ่งชิงชัยกันเป็นโกลาหล

    นิมิตบนอากาศนั้นมี ๔ อย่าง คือ

    ๑. อสุนีบาต ฟ้าผ่าในที่สําคัญๆ เช่น วัดวาอาราม และผ่า ที่ทําการรัฐบาล หรือในที่ประชุมชนปีหนึ่งก็ดี หรือ ๒ ปีก็ดี ถ้าถูก ผู้คนและสัตว์ล้มตาย ท่านว่าร้ายนัก จงเร่งกระทําบุญ เมตตา ภาวนาเถิด

    ๒. กลาบาต ลักษณะเป็นสีแดงจุดสีไฟเทียนเป็นช่วงใหญ่ กลมเท่าผลมะพร้าวทั้งเปลือก ปรากฏทางทิศตะวันออก สว่างโชติ ช่วงไปทางทิศเหนือ แสดงว่าร้ายแรงยิ่งนัก ให้พากันระวังตัว

    ๓. คาหกาบาต ลักษณะดุจแสงอาทิตย์เมื่อใกล้จะอัสดงคต ปรากฏใน ๒ ที่ หรือ ๔ ที่ ตั้งแต่ย่ําค่ําถึง ๑ ทุ่ม ๒ ทุ่ม จะเกิดใน ทิศเดียวหรือ ๒ ทิศก็ตาม จะบังเกิดโรคระบาดอย่างร้ายแรง

    ๔. อุกกาบาต ลักษณะเป็นสีแดงโชติช่วง ยาว ๓ ศอกถึง ๔ ศอก หัวเท่าผลส้มโอ หางเหมือนแสงคบเพลิง ปรากฏทางตะวัน ออกไปสู่ทิศเหนือ ร้ายยิ่งนัก ให้ระมัดระวังตัวจงดี

    ยังมีแสงสว่างอีก ๒ ชนิด คือ

    (๑) ธุมเกตุ

    (๒) ธุมเพลิง

    ๑. ธุมเกตุ ลักษณะเป็นสีดุจควันดอกไม้เพลิง ปรากฏตั้ง แต่สายไปจนถึงเที่ยง ถ้าปรากฏตั้งแต่เที่ยงไป จนถึงบ่ายโมงหรือ ๒ โมงร้ายนัก ตามคัมภีร์ว่า พระเกตุสําแดงเหตุ ให้ระวังตัว

    ๒. ธุมเพลิง มีลักษณะเป็นสี เหมือนกับไฟไหม้บ้าน ปรากฏเป็นหมู่ๆก็ดี หรือหย่อมๆดังจอมปลวก ใน ๓ ทิศ หรือ ๔ ทิศก็ดี ถ้าหากฝูงมนุษย์ตกใจว่าเกิดไฟไหม้ขึ้นที่ไหนแล้วไซร้

    อโห! ท่านจงเร่งเจริญเมตตาภาวนา และกระทําบุญให้ทาน โดยเร็วเถิด อย่าหลงงมงายเลย โลกจะวินาศแล้ว-ฉิบหายแล้ว เพราะเป็นบุรพนิมิตอุบาทว์ที่ร้ายแรง “พระพายเทพเจ้าเอ็นดูแก่โลก จึงสําแดงเหตุให้ประจักษ์แหล่”

    ตามคัมภีร์แห่งไสยศาสตร์นั้น มีเทพเจ้า ๕ พระองค์ สําหรับคอยแสดงเหตุการณ์ต่างๆให้ฝูงมนุษย์สะดุ้งตัวกลัวความ ชั่วร้าย อันจะบังเกิดขึ้นในภายหน้า ทั้งส่วนตัวและส่วนรวม เรียกว่า อุบาทว์ คือ

    (๑) อุบาทว์พระอินทร์

    (๒) อุบาทว์พระเพลิง

    (๓) อุบาทว์พระยม

    (๔) อุบาทว์พระนารายณ์

    (๕) อุบาทว์พระพิรุณ

    (๖) อุบาทว์พระพราย

    (๗) อุบาทว์พระโสม

    (๘) อุบาทว์พระไพรศรพ รวม ๔ องค์ ๘ อุบาทว์

    และว่า “ที่บังเกิดแผ่นดินไหว, ฟ้าผ่า, กลาบาต, อุกกาบาต, คาหกาบาต, น้ําท่วม, ลมพัด, บ้านเมืองพินาศ, ดาวหาง, ผีพุ่งใต้ ก็แต่ละอย่างล้วนเทพเจ้าทั้ง ๘ บันดาลให้เกิด เตือนโลก หาใช่ลมไต้ฝุ่น, หรือปลาอานนท์, หรือแร่ธาตุ, หรือ อะไรมาบันดาลให้โลกสะเทือนสะท้านหวั่นไหวทุกครั้งไปไม่” ผู้อ่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตามเถิดส่วนว่า นิมิตต่างๆมันก็บังเกิดเสมอมา ดังจะได้เขียนตามที่มันเคยเกิดในอดีต เช่น : –

    เมื่อวันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ ที่วัดวังตะวันออก จังหวัดนครศรีธรรมราช มดดํากับมดแดงยึดเขตต้นไม้ฝ่ายละต้น ยกทัพเข้ารบกันต่างฝ่ายก็ล้มตายกันมากๆ และได้เกิดรบกันตั้งแต่พ.ศ. ๒๔๔๐ ก็ครั้งหนึ่งผลัดกันแพ้และชนะทั้งสองคราว เวลาถัด มาถึง พ.ศ. ๒๕๕๔ ญี่ปุ่นก็ยกพลขึ้นบุกปักษ์ใต้ทันที

    เมื่อก่อนไทยต่อไทยจะรบกันเอง (สมัยกบฏบวรเดช) ตั้งแต่โคราชมาถึงดอนเมืองและบางเขน กองทัพกิ้งกือก็ยกพลขึ้น บุกรถไฟใต้โคราช รบกับรถไฟจนต้องมีคนขึ้นไปกวาดทหารกิ้งกือ ลงจากทางรถไฟ เพราะมันถึงกับทําให้รถไฟวิ่งลื่นไปบนรถราง กองทัพกิ้งกือคราวนั้นมีมากเหลือประมาณ มองดูมืดมิดทางรถไฟ ไปหมด นอกจากนี้ กาและนกเอี้ยง นกกิ้งโคลง ก็ชอบจิกตีกันเป็น ฝูง ๆ เป็นเวลาหลายปี จึงเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๒ หนังสือพิมพ์ เกราะเหล็ก ลงข่าววันที่ ๑๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๒ ว่าอุทกภัย บังเกิดทางภาคใต้ฝรั่งเศส คนตาย ๔๐๐ คน บ้านเรือนเสียหาย ประชาชนไม่มีที่อาศัย 90,000 คน และเวลาใกล้ๆกันนั้น มณฑล ชานสีประชาชนจีน คนอดอยากอาหาร และหนาวตายถึง ๒,๒00,000 คน

    เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ ที่ประเทศพม่า แผ่น ดินไหวอย่างน่ากลัว เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๒ แผ่น ดินก็ไหวในกรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๗๖ เวลา ๔.๔๐ น. ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้เกิดแผ่นดินไหวผิดปรกติ ราว ๒ นาที

    เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ที่จึงหวัดตากราว ๓ นาที เฉพาะที่อําเภอระแหง รู้สึกว่าบ้านเรือน กระเทือนเล็กน้อย ทางราชการจังหวัดแม่สอดโทรเลขแจ้งมา ยังกรมโฆษณาการ ตามสําเนาโทรเลขลงวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ.๒๔๗๖ ว่า “เมื่อวันที่ ๒๑ กันยายน เวลา ๒๓ น. แผ่นดินไหวพอ รู้สึกตัวประมาณ ๑ นาที”

    เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๕ เกิดแผ่นดินไหวขึ้น ที่เมืองแอนยูกัน มณฑลลาเลียวนา ประชาชนพากันแตกตื่น พลุกพล่าน โกลาหล เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๔ เวลา ๑๕ น. เศษ เกิดแผ่นดินไหวขึ้นหลายหัวเมืองทางตะวันออกของ อเมริกา กระทําให้ผู้คนแตกตื่นเป็นโกลาหล

    เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๕ แผ่นดินไหวในรัสเซีย บรรดาหมู่บ้านราษฎร ในมณฑลนาคิเซอร์วาน ทรานคอเคเซีย ปรักหักพังลงทุกหลังคาเรือน และในตําบลอื่นๆอีก คนตาย 900 กว่าคน เมื่อวันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๕ เกิดแผ่นดินไหวที่ ย่างกุ้ง ยอดพระเจดีย์ย่างกุ้งหักลงมาต้องเสียเงินค่าปฏิสังขรณ์ถึง 500,000 บาทเศษ ส่วนตึกร้านบ้านเรือนพังทลายไปมากมาย เจริญกรุง ลงข่าวอีกว่า “เกิดแผ่นดินไหวในรัสเซีย คนตายที่เมือง กิวโซ ๒๐๐ คน บาดเจ็บไป ๒๐๕ คน คนตายที่เมืองซิซิวัน ๑๙๒ คน บาดเจ็บไป 500 คน ส่วนตึกร้านบ้านเรือนนั้นฟัง พินาศไปประมาณ ๙๐% วัว, ควาย, เป็ด, ไก่ ล้มตายไปนักต่อนัก รัฐบาลโซเวียต สละเงินช่วยเมธนีภัยครั้งนี้ ๒,000,000 รูเบิล”

    เมืองลักเนาว์ วันที่ ๑๖ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๘๑ อินเดีย ตายด้วยโรคอหิวาต์ ๒๐,000 คน ในภูมิภาคยูไนเตดโปรวินซ์ เมื่อวันศุกร์ ๒๗ มกราคม พ.ศ. ๒๔๘๑ แผ่นดินไหวในประเทศชิลี คนตายรวมทั้งหมด ๓0,000 คน และบาดเจ็บอยู่อีก ๕๐,000 คน

    เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๕ ชาวอินเดียมากกว่า ๔00,000 คน จําต้องอพยพย้ายที่อาศัย เนื่องจากอุทกภัยครั้งใหญ่ โดยน้ําในแม่น้ําสินธุได้ไหลเอ่อขึ้นท่วมท้นตลิ่งทูตจีนในกาจารีคะเนว่า ความเสียหายรวมทั้งสิ้นกว่า ๑๕,000,000 ปอนด์สเตอร์ลิง ๆ แคว้นที่ถูกน้ําท่วม ปรากฏว่าบ้านเรือนถูกทําลาย 5,000 หลัง

    เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๗๔ ที่เมืองโจแฮนเนสเบอร์ก ฝนตกอยู่ ๑๕ นาที น้ําสูง ๑๕ นิ้ว ลูกเห็บเท่ามะพร้าวห้าวตกลง มาถูกคนตาย ๑๔ คน น้ําท่วมตาย ๑๕ คน (ตํานานสุวรรณคดี ทํานายว่าลูกเห็บเท่าลูกฟักจะตก)

    เมื่อก่อนที่ญี่ปุ่นจะก่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ เพียง ๕-๖ เดือน ก็มีแผ่นดินไหวหลายแห่ง คือ เมื่อวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๔ เวลา ๖.๒๐ น. บังเกิดแผ่นดินไหวที่ย่างกุ้งนาน ๒ นาที เมือง ตองอูและปีมานา ก็เกิดแผ่นดินไหวอย่างเดียวกัน เมืองกัลกัตตา แผ่นดินไหว เมื่อเวลา ๕.๕๕ น. มัทราช เวลา ๕.๓๐ น. ได้เกิด การตกใจกันมาก บางคนถึงกับเผ่นหนีออกจากตึก นอกจากนี้ เชียงใหม่ เชียงราย, ลําปาง, แพร่, น่าน แผ่นดินไหวหลายครั้ง

    วาตภัย : เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ เกิดลมร้าย และน้ําท่วมที่ลอสแอนเจลิสสหรัฐอเมริกา เกิดเวลากลางคืน แผ่น ดินถล่มตึกร้านบ้านเรือนพังลงก่อน แล้วเกิดน้ําท่วมตามมาอีก ใน บริเวณเนื้อที่ 50,000 ตารางไมล์ คนตาย ๑๒๔ คน ไม่มีที่อยู่อีก มากกว่า ๑๕,000 คน เสียหายมากกว่า 90,000,000 ปอนด์ พวกดาราภาพยนตร์ได้รับภัยครั้งนี้มากเพราะบ้านเรือนทรัพย์ สมบัติพังทลายมากมาย นับว่าเป็นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์

    เมื่อวันที่ ๕ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๘๖ เวลา ๑๐ น. บังเกิดอสุนีบาตฟาดลงมาโดนโคมไฟฟ้าบนยอดภูเขาทองวัดสระเกศ โคมไฟนั้นแตกกระจาย

    ลมแดงที่เกาะสีชัง : “เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน พ.ศ. ๒๔๗๖ เวลา ๑๗ น. เรียกกันว่า ลมงวงหรือลมแดง พัดมาจากตะวันออก ตรงมาที่เกาะสีชัง อย่างร้ายแรง โรงเรียนและเรือนราษฎร 5 หลัง พังทลาย เรือเป็ด ๕ ลําล่มจมไปหมด ต้นไม้โค่นป่นปี้ โรงตํารวจพัง หลังคาเปิดเปิง”

    เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๔๗๔ บังเกิดลมร้ายขึ้นใน – จังหวัดพระนครและธนบุรี เสียหายราว 50,000 บาท

    ๑. อําเภอบ้านทวาย บ้านเรือนและต้นหมากรากไม้หักโค่น โรงเรียนนักธรรมวัดยานนาวา กระเบื้องหลังคาหลุดแตก ต้น มะขามโค่นทับรถยนต์ที่โรงทําสบู่ข้างวัดราชสิงขรณ์ โกดังของ เอเซียตึกสังกะสีบิน โรงเลื่อยจักรห้างบอเนียวปล่องหัก สะพานหัก ต้นมะขามหักทับเรือน ๑ หลัง โรงไว้แกลบ โรงไฟฟ้าบางคอแหลม กระเบื้องหลังคาบินไป ๒ หลังตลาดมะเพิ่งพังทลาย

    ๒. อําเภอบุคคโล บ้านเรือนพังทลาย ผลหมากรากไม้หัก โค่นพินาศ

    ๓. อําเภอคลองสาน ผลหมากรากไม้ล้มไปหลายร้อยต้น บ้านเรือนพังทลาย เรือยนต์จมไป ๑ ลํา

    ๔. อําเภอปทุมวัน ห้องแถว ๒ ชั้นของจุฬาลงกรณ์สร้าง ใหม่ยังไม่ทันแล้ว รวม ๑๔ ห้องพังตลอด ตึกแถวของมหา วิทยาลัยล้มฟาดลงทับบ้านเรือนใกล้เคียงพินาศ

    เมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ. ๒๔๗๔ เกิดพายุใหญ่และฝนร้ายที่จังหวัดลําปาง พัดมาจากตะวันตกเฉียงเหนือ นานประมาณ ๓ ชั่วโมงเศษ บ้านเรือนพังทลาย สังกะสีบินอย่างน่าหวาดเสียว

    เมื่อพ.ศ. ๒๔๗๒ เกิดลมร้ายขึ้นที่จังหวัดชุมพร อย่างฉกาจฉกรรจ์ กอไผ่ถูกพัดถอนรากขึ้นมาทั้งกอๆ ตลอดจนกอตะไคร้ก็ถอนราก ขึ้นหมดเหมือนกัน รถตู้อยู่บนรางก็ถูกลมพัดวิ่งไปได้ วัว, ควาย, เป็ด, ไก่, หมู, หมา ลมก็พัดกระโชกลงไปนอนดิ้นแด่วๆอย่าง น่าทุเรศ บ้านเรือนและต้นไม้หักโค่น พังทลาย ผู้คนพลเมืองก็ ล้มกลิ้งทูตระเนระนาด

    ส่วนอุทกภัยก็ชอบท่วมบ้านเรือนไม่ขาดสาย เมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๕ ก็ท่วมกรุงเทพฯ อย่างไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๐ ก็ท่วมเชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน อย่างผิดธรรมดา บ้านเรือน ที่ริมแม่ฮ่องสอนถูกน้ําพัดพังทลาย ผู้คนล้มตาย แม้บนเรือนก็เอา เรือเข้าไปได้ อัคคีภัยก็ร้ายแรง ไหม้บ้านเรือนพินาศ ไม่ว่าประเทศ ไทย หรือเทศรายสําคัญที่สุดก็คือ อัคคีภัยในแอตแลนตา เมื่อวันที่ ๗ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๗๙ไหม้ที่โฮเตลไวน์คือฟ ตึกสูง ๑๕ ชั้น มีอายุ มาแล้วถึง ๓๓ ปี มีห้องพัก ๑๙๔ ห้อง ในคืนนั้นมีคนพัก ๒๘๕ คน ถูกไฟเผาตายไป ๑๒๐ คน ป่วยเจ็บ ๘๙ คน เจ้าของโรงแรมชื่อ ดับปลิว, เอฟ. ไวน์อ๊อฟ อายุ ๘๐ ปี ก็ตายไปด้วย ผู้หญิงพนัก งานลิฟท์ (เอลีเวเตอร์) ได้เห็นควันกลุ่มขึ้นในโรงแรม แต่ลิฟต์ใช้การไม่ได้เสียแล้ว ชาวสวรรค์ในโรงแรมนั้นจึงถูกไฟครอกตาย อย่างน่าอเนจอนาถใจ

    เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๔๗๔ นักถ่ายภาพยนตร์ในฟลอริดา ผู้หนึ่งได้เล่าว่า บังเกิดพายุใหญ่ขึ้นในฟลอริดา ในขณะที่ลมพัดต้น ไม้ล้มระเนระนาด บ้านเรือนพังทลาย วัตถุต่างๆถูกลมหอบปลิว ว่อนไปเต็มอากาศ เขาบังเกิดความดีใจและตกใจระคนกัน จึงตั้ง ขาหยั่งถ่ายภาพยนตร์ในทันที แต่กว่าจะถ่ายสําเร็จก็กินเวลานาน ผู้คนพลเมืองหลบหนีเป็นจ้าละหวั่น จนไม่มีใครอยู่ติดเลย รถรา พาหนะหยุดชะงักหมด เขาผู้เดียวขับรถยนต์ฝ่าอันตรายไปทางทิศ เหนือ เขาหยุดเติมน้ํามันอยู่ที่ร้านแห่งหนึ่ง ลมเจ้ากรรมพัดกระหนำมาอีกโครมหนึ่ง เหวี่ยงเอาหลังคาร้านน้ํามันนั้นลงมาทับ รถยนต์มิดหมดทีเดียว เขาคลานออกมาพร้อมด้วยฟิล์มอันมีค่า แล้วจ้างรถยนต์อีกคันหนึ่งเดินทางต่อไป ลมร้ายได้พัดกระโชกเอา รถยนต์คันนั้น ลอยขึ้นไปทั้งคัน แล้วตกกระแทกลงข้างถนน เขา บาดเจ็บสาหัส อุตส่าห์ไปโดยสารรถไฟจนได้ จากนั้นก็ขึ้นเครื่อง บินไปได้ครู่เดียวก็ต้องร่อนลงหลบพายุเขาต้องผจญภัยอยู่ตลอด ๒๔ ชั่วโมง เมื่อเขาถึงนิวยอร์กแล้ว เวลาถัดมาอีก ๒ ชั่วโมง ภาพ ยนตร์ข่าววาตภัยก็ได้ถูกนําออกฉายที่บรอดเวย์ในนครนิวยอร์ก ข่าวสดวาตภัยในฟลอริดาได้ทําความตื่นเต้นให้แก่คนดูอย่างอก สั่นขวัญบิน แต่ทว่าส่วนตัวของเขาเอง ต้องไปนอนเจ็บอยู่ในโรง พยาบาลถึงสองสัปดาห์ อันเนื่องมาจากพายุร้ายดังกล่าวมาแล้ว

    light1.jpg
    ดาวหางและแสงประหลาดก็ชอบกระตุกเส้นประสาท มนุษย์ไม่ค่อยว่างเว้น เมื่อวันที่ ๒๕ กันยายน พ.ศ. ๒๔๘๒ ได้มีผู้ เห็นดาวหางขึ้นที่เหนือกรุงสตอกโฮล์มสวีเดนดวงหนึ่ง มีรัศมีสุก ใสผิดกว่าดาวธรรมดา ๓-๔ เท่า ปรากฏอยู่เพียง ๑๕ นาทีก็หายไป เมื่อวันที่ ๒๔-๒๕ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ได้มีแสงประหลาดพุ่ง มาจากทิศอุดร นักดาราศาสตร์ตะวันตก ให้นามว่า “แสงอุดร”


    แต่นักวิทยาศาสตร์พากันล้ําอึ้งไม่ทราบว่าอะไรกัน ลักษณะเป็น สายรุ้งยาวและมีสีต่างๆ คือ ขาว, เขียว, เหลือง, แดง สลับกันเกิด ในกลางคืน ชาวยุโรป อเมริกัน พากันตกใจ บางประเทศเห็นทุ่ง ไปทางตะวันออก แล้วพร่าไปทางตะวันตก บางพวกเข้าใจว่าเป็น แสงไฟฟ้าที่อยู่ทางขั้วโลกเหนือ บางพวกว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ บาง พวกว่าเป็นนิมิตเหตุร้ายแน่ที่เดียว พอถึง พ.ศ. ๒๔๘๒ เยอรมันก็ โจมตีโปแลนด์ เบลเยี่ยม, ฝรั่งเศส, อังกฤษ, สวิตเซอร์แลนด์, เน เธอร์แลนด์, เดนมาร์ก, สวีเดน, นอรเวย์, รัสเซีย เรียกว่า “สงครามโลกครั้งที่ ๒” เราดีๆนี่เอง

    ส่วนประเทศไทยเมื่อกลางเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๒ ก็มี “กลาบาต” ลอยไปในอากาศในระยะต่ํา จากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ ดวงขนาดใหญ่เท่าผลมะพร้าวมีแสง สว่างเป็นหางยาวสีน้ําเงินเข้ม และมีเสียงลั่นดังเปรียะๆหลายครั้ง ตามทางสันนิษฐานของนักอุตุนิยมวิทยาว่า “ดวงนั้นเป็นผลของ ฟ้าแลบ คือการแผลงกันของไฟฟ้าในบรรยากาศเป็นดวงกลม (Lightning) มากกว่าดาวตกหรืออะไรๆ” พอถึงเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ ญี่ปุ่นก็ตีตะลุยมาจากทิศตะวันออกเฉียงใต้ ทะลุเลยไป ตะวันออกเฉียงเหนือเข้าพม่าเลย ประหนึ่งว่าได้นัดแนะกันไว้กับ ลูกกลาบาตลูกนั้นที่เดียว เป็นอันว่านักอุตุนิยมวิทยาหรือนัก วิทยาศาสตร์จะต้องโต้เถียงกับนักไสยศาสตร์ไปจนโลกแตกแน่ ๆ


    Meteor.jpg
    เมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๑ เวลาเช้าตรู่ มีดาว ใหญ่เท่ากับก้อนหินมหึมา (อุกกาบาต) เรียกกันว่า “แอนตี้รอส” บินไปตกลงในป่าไซบีเรียระหว่างแม่น้ําเยนนิไซกับเมืองตรักแฮนสก์ มีแสงสว่างโชติช่วงและมีการระเบิดสะท้านหวั่นไหว ห่างจากบ้าน ในวาราว ๕๐ ไมล์ และมีหมู่บ้านทัชเคนท์, ทิฟลิส, เออร์กุตสก และเชนา สืบต่อๆกันไป บางคนถึงกับกระเด็นไปจากที่ยืนอยู่นั้นถึง ๒ หลา รถไฟสายทรานไซบีเรีย ซึ่งแล่นอยู่ห่างจุดดาวตกถึง ๔๐๐ ไมล์ พนักงานขับรถต้องหยุดรถขบวนนั้น และเข้าใจว่ารถไฟตก รางเสียแล้ว ชาวบ้านเหล่านั้นได้รับความร้อนจากการระเบิดแทบ ทนไม่ไหว ควันแลกลุ่มไปตลอดยุโรป กระทําให้กลางวันมืดมัว เหมือนกลางคืน การกระเทือนนั้นมีวงกว้างไปโดยรอบถึง ๒,๐๐๐ ไมล์ สัตว์ป่าล้มตายไปนักต่อนัก รัฐบาลรัสเซียจัดคนไปสํารวจถึง ๔ ครั้ง ในครั้งสุดท้ายจึงได้ความว่า “ได้พบลานใหญ่ลานหนึ่ง กว้าง ราว ๓๗ ไมล์ ป่าไม้ในบริเวณนั้นได้ถูกไฟไหม้วอดเป็นเถ้าถ่านไป หมดวัดศูนย์กลางที่ปากหลุมคิดเฉลี่ยถึง ๕๐ หลา ลึกประมาณ ๑๒ ฟิต ขุดลึกลงไปอีก ๓ ฟิต ก็ไม่พบแร่ธาตุอะไรเป็นหลักฐานเลย ป่าไม้ที่เสียหายไปโดยรอบราว ๑,000 ตารางไมล์ นักสํารวจชุด หลังคํานวณว่า “ก้อนแร่ที่ตกนั้น คงมีความเร็วถึงวินาทีละ ๔๕ ไมล์ และมีความหนักประมาณ ๑๒๐ ตัน ถึง ๑๓๐ ตัน”

    ในอลิโซนา สหรัฐอเมริกา ก็เคยมีก้อนแร่ชนิดนี้ไปตก ๑ ครั้ง เป็นหลุมลึก ๕๗๐ ฟิต กว้าง ๓ ใน ๔ ไมล์ บริเวณที่ได้รับความ กระทบกระเทือนเป็นเนื้อที่ถึง ๕๗๐ เอเคอร์ (๑ เอเคอร์ เท่ากับ ๒ ไร่ครึ่ง) ชาวอินเดียนนาวาโจเมื่อได้เห็นก้อนประหลาดที่ไปตกนี้ พากันขนพองสยองเกล้าว่า “พระเจ้าเสด็จลงมาจากแดนสวรรค์ แท้แล้ว”

    เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๔ ก้อนแร่ประหลาดขนาดใหญ่เท่ากับที่ไปตกในไซบีเรีย ก็ได้ลอยผ่านประเทศคานาดาอีก เหมือนกัน เข้าใจกันว่าคงลอยไปตกในมหาสมุทรแน่ๆ ถ้ามันจะ ตกในคานาดาหรือประเทศใดประเทศหนึ่ง หากว่าไม่ใช่ป่าดงพงซัฏ ก็เห็นว่าบ้านเมืองที่แร่ก้อนนั้นไปตก คงฉิบหายไม่แพ้ลูกระเบิด ไฮโดรเย่นแน่ๆ

    เมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๑ ได้มีดาวหาง หรือดาวควันปรากฏ ตลอดไทย, พม่า, เงี้ยว เชื่อกันว่าทางญวน, เขมร ลาวก็คงเห็น เหมือนกัน ภาคเหนือมีผู้เห็นอยู่ ๗ วัน ภาคกลางและกรุงเทพฯ เห็นอยู่ราว ๑ เดือน ยาวประมาณ ๒ วา หัวใหญ่เท่าผลส้มเกลี้ยง ขนาดเล็ก และชี้ไปทางทิศตะวันออก หัวสูงกว่าหางเล็กน้อย

    แม้สงครามโลกจะได้สงบลงแล้ว แต่ลางต่างๆก็หาได้สงบ ลงไม่ กลับยิ่งแสดงเหตุการณ์หนักยิ่งขึ้นไปอีก เช่น เมื่อวันที่ ๓๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ เวลา ๑๗ น. กลาบาต (ไม่ใช่อุกกาบาต) โตกว่าผลมะพร้าวทั้งเปลือก มีแสงสว่างโรจน์ ลอยผ่านจากทิศใต้ ไปทิศเหนือเฉียงไปทางทิศอิสาน ชาวตลาดสุรินทร์มองเห็นกันทั่วไป เห็นอยู่ราว ๑๐ นาทีจึงสุดสายตา ที่อําเภอศรีขรภูมิ และอําเภอ รัตนบุรี ก็เห็นเช่นเดียวกัน ชาวศรีขรภูมิเล่าว่า ได้เห็นในระยะต่ํา ขนาดโตเท่าดวงอาทิตย์ในเวลาสาย ลอยผ่านไปอย่างรวดเร็ว มี ควันสีขาวปรากฏเป็นทางที่ลอยไป แล้วแตกกระจายเป็นควัน ดําๆหายไป แต่ไม่มีเสียงระเบิด

    เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ. ๒๔๙๒ บังเกิดแผ่นดินไหว ครั้งใหญ่ในอิเควเตอร์ คนตายมากที่เมืองอัมมาโตกับเมืองเปลิงเตโอ รวมคนตายถึง ๔,๒๕๑ คน ทรัพย์สินเสียหาย ราว ๒๐ ล้านเหรียญ

    บาดเจ็บถึง ๒๑,000 คน โดยเฉพาะที่เมืองเปลิงเตโอนั้น ได้แปร สภาพเป็นทะเลสาบ บ้านเมืองได้จมหายไปในระดับน้ําอันเวิ้งว้าง มองเห็นยอดโบสถ์โผล่อยู่เหนือน้ํารําไรๆ ทํานองภูเขาไฟวีสุเวียส ระเบิดในอาณาจักรโรมันเมื่อ พ.ศ. ๖๖๒ กระทําให้เมืองปอมเปอี กับเมืองเฮอดูเลเนียมจมอยู่ในเถ้าถ่าน คนตาย ๓๕,000 คน จะ ผิดกันก็แต่คราวนั้นตายด้วยความร้อนแต่คราวนี้ตายด้วยความเย็น

    เหตุการณ์แปลก ๆ เช่น ดินฟ้าอากาศแห้งแล้งและน้ําท่วม ได้บังเกิดแก่บ้านเมืองไม่ขาดสักปี ทั้งในและนอกประเทศทั่วไป เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๙๓ เวลาเช้า ก็ได้เกิดแผ่นดิน ไหวในจังหวัดเชียงใหม่และเชียงรายประมาณ 5 นาที

    เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เวลาบ่าย ขณะที่ท้อง สนามหลวงกําลังตั้งพระเมรุ เพื่อถวายพระเพลิงในหลวงรัชกาลที่ ๙ ก็ได้บังเกิดพายุร้ายขึ้นในกรุงเทพฯ พายุและฝนนั้นพัดมาจากทิศ ตะวันตกเฉียงใต้ ฟ้าคะนองและผ่าลงทันที ผ่าที่สําคัญคือยอดพระ เจดีย์ใหญ่ที่วัดศิริอํามาตย์ข้างคลองหลอดหักลงมายาวประมาณ ๓ วาเศษ ต้นขนุนริมคลองถอนล้มไปต้นหนึ่ง พร้อมนั้นลูกเห็บก็ได้ ตกลงเป็นอันมาก

    ใน พ.ศ. เดียวกันนี้ ได้บังเกิดอัคคีภัยหลายแห่ง เช่น ไหม้ ลําพูน, สงขลา, เพชรบุรี, อุบล, หัวลําโพง, ริมตึก ๗ ชั้น ฯลฯ รายหลังนี้เกิดจากเด็กลูกจีนคนหนึ่งจุดไม้ขีดขึ้นอันเดียวเท่านั้น ก็ ผลาญทรัพย์วอดไปตั้งหลายล้าน ที่เพชรบุรีนับว่าเกิดจากผู้ทุจริต ลอบวางเพลิงเพื่อชิงทรัพย์ ไหม้วอดวายไปทั้งตลาด ประมาณ ทรัพย์ที่เสียหายหลายสิบล้านบาท จนถึงกับอดอยากอาหารและ ไม่มีที่อยู่อาศัยหลายพันคน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 ธันวาคม 2018

แชร์หน้านี้

Loading...