พระสงฆ์ไม่ใช่ตัวตลก

ปัจจุบันมีการนำพระมาปรากฎในละครหรือภาพยนต์หลายเรื่อง ซึ่งส่วนใหญ่บทพระคือตลก อย่างล่าสุดคือละครเรื่องโทน ออกอากาศในช่วงเดือนมิถุนายน-สิงหาคม 2556 ทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 ก็มีการนำนักแสดงตลกมาเล่นบทพระ และแสดงแบบตลกโปกฮาตลอดทั้งเรื่อง
การที่ำนำพระมาเป็นตัวตลกในสื่อต่างๆอย่างต่อเนื่อง ถ้าภาพนี้ฝังติดในใจประชาชนจนแรกคิดถึงพระก็จะนึกถึงตลก เมื่อนั้นพระพุทธศาสนาก็คงเสื่อมทรุดไปมากกว่านี้ จึงมีการร้องเรียนไปทาง กสทช ให้ตรวจสอบและให้ช่อง 7 ออกมาขอโทษต่อคณะสงฆ์และชาวพุทธต่อไป

เอกสารต้นเรื่อง
https://www.facebook.com/profile.php?id=100006486813027

ตัวอย่างเพลงละครเรื่องโทนจาก youtube ดูนาทีที่ 2 ขึ้นไป
[ame=http://www.youtube.com/watch?v=bO9LTIGFMi4]เพลงโทน เพลงประกอบละครโทน - YouTube[/ame]

ขอความกรุณาชาวพุทธช่วยกันคัดค้านไม่ให้มีการนำเอาพระมาเ้ป็นตัวตลกในรายการทีวีหรือสื่อต่างๆต่อไป

 

เห็นด้วย ครับ

พระเป็นทักขิเณโยบุคคล
ไม่ใช่ตลกจำอวด ครับ

ใครทำเรื่องแบบนี้ มีโทษทางจิตวิญญานร้ายแรง
ถึงจะรู้หรือไม่ก็ "โดน" เหมือนๆกัน
ขณะนี้กรรมยังไม่ส่งผล ต่อเมื่อดับชีพไปแล้ว
ทีนี้จะรู้ได้ถึงความเผ็ดร้อนของกรรมนี้

 

คนเราเห็นแก่เงินจนสิ้นคิดแล้ว ไม่รู้จะหากินอย่างไรให้ได้เงินมากๆ
พยายาม เหยียบอะไรก็ได้ ที่ให้ชื่อเสียง เงินทอง โดยไม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร
พระสงฆ์ที่คนพุทธไว้ไหว้
กลับเป็นที่กลายมาทำเป็นตัวตลก เห็นผ้าเหลืองออกมา แล้วขำแทนที่จะรู้สึกว่าเป็นผู้เผยแผ่ศาสนา

คนรับบทก็ทำเป็นอาชีพไม่ได้ไตร่ตรองให้ดี (อาชีพ นักแสดง แม้ไม่บาป แต่เป็นอาชีพที่ควรเลี่ยง)

 

ขอร้องทุกท่านช่วยรับบุญตั้งกระทู้ที่ Pantip หรือเว็บต่างๆเพื่อสร้างกระแสสังคมให้ชาวพุทธช่วยกันปกป้องสถาบันสงฆ์ อนุโมทนาครับ

 

ก็เคยเห็น..มหาสมปองท่านตั้งคณะ..ไปอำเล่นกัน

ในรายการตีสิบ..ก็ไปทำเป็นตัวอย่างให้เขาเห็นก่อนนี่ครับ.

 

อาชีพนักร้องนักแสดงโดยปกตินั้นสร้างบาปแน่นอนอยู่แล้วขอรับ มีกล่าวถึงในพระไตรปิฎกด้วยชื่อว่า"ตาลปุตรสูตร" ถ้านักร้องนักแสดงเหล่านั้นไม่ได้สร้างบุญกุศลใดๆไว้ ตายเมื่อไหร่ลงนรกที่ชื่อว่า"ปหาสยะ"เป็นที่รวมเหล่านักร้องนักแสดงอยู่ในกะทะร้อนๆและเขาเหล่านั้นก็พากันร้องรำ ท่ามกลางเปลวไฟนรก ดูๆก็น่าสงสารอยู่เหมือนกัน แต่ผมว่าก็จริงนะเพราะเขาเหล่านั้นทำให้ผู้ชมมีความกำหนัดเพิ่มราคะจริต ทั้งจากเสียง,รูปที่ได้สัมผัส ผมละอิดหนาระอาใจกับละครบ้านเราจริงๆเลย ตะละเรื่องที่นำเสนอเอามันบันเทิงเริงรมย์ไร้เหตุผล หลายเรื่องไปดูเถอะ พระเอกนางเอกไม่มีอาชีพอะไรเลยแต่มีเงิน ตัวร้ายนางร้ายแหกปากร้องแบบไม่มีเหตุผล ใกล้สระน้ำเนี่ยรู้เลยต้องตกน้ำ บทพระสงฆ์องค์เจ้าจะมีออกมุขตลกเนี่ยผมว่าคนทำคนสร้างกะเอามันอย่างเดียวไม่ได้คิดถึงสังคมสิ่งแวดล้อมที่นับวันมีแต่จะเลวร้ายลงไปทุกทาง แต่ในอีกมุมนึงก็เพราะละครยุคต่างๆนั้นคือบทสะท้อนความจริงในสังคม ถ้าวงการพระสงฆ์บริสุทธิ์และศักดิสิทธิ์สิ่งเหล่านี้ก็อาจจะไม่ได้เห็นก็ได้ แต่คนในวงการสื่อเองก็ไม่น่ามาซ้ำเติมให้จมด้วยการทำเยี่ยงนี้อยู่ดี

 

เห็นกระแสนี้มีมาตั้งนานแล้วนิ ตั้งแต่หนังเรื่อง โกยเถอะโยม อะไรนั้นนะ ไม่ว่าจะเอาพระมาแสดงเป็นตัวตลกหรือไม่ ปกติก็ไม่ค่อยชอบพวกหนังละครอะไรอยู่แล้ว ไม่ได้มีประโยชน์สร้างสรรค์เลย..... แม้แต่หนังฝรั่ง ก็เถอะ ดูทริลเลอร์ ที่ดาราไทยซาร่าห์ มาลากุลไป แสดง หนังฮอริวูดส์เรื่อง12 12 12 รับไม่ได้อย่างแรง และพวกคนที่เป็นดาราก็มีแต่ขายเรื่อง ผิดศีลธรรม และพวกนี้ชอบไปทำศัลยกรรมให้ตนเองดูยั่วยวนไปในทางเพศ ซึ่งน่าเกลียดมากว่า อย่าง อั้ม พัชราภา ซาร่า มาลากุล อะไรพวกนี้

ดิฉันว่าหนังอินเดีย กับทางตะวันออกกลาง อย่างจอร์แดน ดูจะมีคุณภาพที่สุด เคยไปดูละครประเทศจอร์แดนที่บ้านเพื่อนชาวจอร์แดน...... หนังละครทางนั้นทำสวยงามมาก เหมือนเทพนิยาย สีสันเหมือนโฆษณา สปาร์....... ทำเป็นเรื่องในประวัติศาสตร์ ของ วีรบุรุษ มุสลิม ชุดเสื้อผ้าก็สวยมาก ตัวละครพูดเป็นปรัชญา นางเอกก็สวย แบบเรียบร้อยๆ เรื่องก็ไม่มีฉากหวูหว่า ด่าๆ ตบๆตีๆ หรือ เนื้อหากะขละแบบละครไทย

 

ดิฉันว่าหนังอินเดีย กับทางตะวันออกกลาง อย่างจอร์แดน ดูจะมีคุณภาพที่สุด เคยไปดูละครประเทศจอร์แดนที่บ้านเพื่อนชาวจอร์แดน...... หนังละครทางนั้นทำสวยงามมาก เหมือนเทพนิยาย สีสันเหมือนโฆษณา สปาร์....... ทำเป็นเรื่องในประวัติศาสตร์ ของ วีรบุรุษ มุสลิม ชุดเสื้อผ้าก็สวยมาก ตัวละครพูดเป็นปรัชญา นางเอกก็สวย แบบเรียบร้อยๆ เรื่องก็ไม่มีฉากหวูหว่า ด่าๆ ตบๆตีๆ


หนุ่มจอร์แดนหลายคนๆที่เจอมา มันหื่นมากเลยนะ อยากมาเที่ยวพัทยามาก...
ส่วนหนังอินเดีย ที่ต้องดูนั้น ก็มีแต่ร้องเพลงวิ่งไป วิ่งมา...เวลาพระเอกจะเกี้ยวนางเอกทีนึงก็ต้องร้องเพลงไป วิ่งข้ามภูเขาไป 3 ลูก ตกลงว่าทั้งเรื่อง วิ่งไปร้องเพลงไป กว่าจะจบเรื่องก็ข้ามเขาไปได้หลายลูกทีเดียว...แต่เห็นพวกอินเดีย ปากี บังกลาเทศ เขาก็ดูกันอย่างสนุกสนานออกรสออกชาดดี...จะว่าไปเวลาพวกอินเดียมาถามชื่อผม มันก็จะชอบใจว่าชื่อเหมือนฮีโร่ในหนังอินเดีย...นี่ก็ต้องโทษตั่วเฮียนี่แหละ ที่สมัยนั้นดูหนังอินเดียแล้วไปเอาชื่อพระเอกในหนังมาตั้งให้...
ส่วนหนังที่เคยดูแล้วดี มีแฝงคุณธรรม แต่ว่าตอนนี้เอามาสร้างจนภาพพจน์พระเสื่อมเสียไปมากนั้น คือเรื่อง พระจี้กง ... มีฉากพระไปก้มกราบ แล้วจับข้อเท้าผู้หญิง อ้อนวอนขอร้อง ฯลฯ... ต้องเลิกดูไปซะ...ไปหาดูสารคดี ชีวิตสัตว์ หรือเทคโนโลยีต่างๆ สบายใจกว่าเยอะ...

 

ผมไม่เห็นด้วยกับการที่สงฆ์ ออกรายการทีวี เทศ์ แบบติดตลก แล้วบอกว่าเพื่อให้ผู้ชมสนใจธรรมะ
ผมไ่ม่รู้่ว่าผิดวินัยสงฆ์ หรือไม่อย่างไร , ใครเป็นควรเป็นผู้ตรวจสอบ ควบคุม
ฆราวาส ส่วนใหญ่จะเห็นแก่ตัว คิดว่าอย่าไปพูดถึงสงฆ์ เงียบไว้ เดี๋ยวจะบาป ก็เลยเกิดปัญหาใน สถาบันสงฆ์ เหมื่อนที่เห็น ๆ ทุกวันนี้ ครับ

 

เป็นความรู้ใหม่ สำหรับผม ขอบคุณ ครับ

 

มีออกเป็นภาพยนต์ด้วย หลายเรื่อง เช่น เรื่องที่ตัวแสดงแต่งกายเลียบแบบพระสงฆ์ที่อยู่ท้องฟ้าบิน ฯ

 

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหาร
เวฬุวันกลันทกนิวาปสถาน ใกล้กรุงราชคฤห์. ครั้งนั้น พ่อบ้านนักเต้นรำ
นามว่า ตาลบุตร เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคม
พระผู้มีพระภาคเจ้าแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้ทูลถาม
พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์เคยได้ยินคำของ
นักเต้นรำ ผู้เป็นอาจารย์และอาจารย์ก่อน ๆ กล่าวว่า นักเต้นรำคนใด
ทำให้คนหัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง ทำเท็จบ้าง กลางสถานเต้นรำ
กลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหาย
แห่งเทวดาผู้ร่าเริง ในข้อนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างไร. พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสว่า อย่าเลยนายคามณี ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถามข้อนี้
กะเราเลย.

แม้ครั้งที่ ๒ . . . . แม้ครั้งที่ ๓ พ่อบ้านนักเต้นรำนามว่า
ตาลบุตร ก็ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระ-
องค์เคยได้ยินคำของนักเต้นรำ ผู้เป็นอาจารย์และปาจารย์ก่อน ๆ กล่าวว่า
นักเต้นรำคนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง
ในท่ามกลางสถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกาย
ตายไป ย่อมเข้าถึงความเป็นสหายของเทวดาผู้ร่าเริง ในข้อนี้พระผู้มีพระ-
ภาคเจ้าตรัสอย่างไร.

พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนนายคามณี เราห้าม
ท่านไม่ได้แล้วว่า อย่าเลยนายคามณี ขอพักข้อนี้เสียเถิด ท่านอย่าถาม
ข้อนี้กะเราเลย แต่เราจักพยากรณ์ให้ท่าน ดูก่อนนายคามณี เมื่อก่อนสัตว์
ทั้งหลายยังไม่ปราศจากราคะ อันกิเลสเครื่องผูกคือราคะผูกไว้ นักเต้นรำ
รวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งความกำหนัด ในท่ามกลางสถาน
เต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น. เมื่อก่อน
สัตว์ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโทสะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโทสะผูกไว้ นัก-
เต้นรำรวบรวมเข้าไว้ซึ่งธรรมเป็นที่ตั้งแห่งโทสะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ
ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น. เมื่อก่อนสัตว์
ทั้งหลายยังไม่ปราศจากโมหะ อันกิเลสเครื่องผูกคือโมหะผูกไว้ นักเต้นรำ
ย่อมรวบรวมไว้ซึ่งธรรมอันเป็นที่ตั้งแห่งโมหะ ในท่ามกลางสถานเต้นรำ
ในท่ามกลางสถานมหรสพ แก่สัตว์เหล่านั้นมากยิ่งขึ้น นักเต้นรำนั้น
ตนเองก็มัวเมาประมาท ตั้งอยู่ในความประมาท เมื่อแตกกายตายไป ย่อม
บังเกิดในนรกชื่อปหาสะ. อนึ่ง ถ้าเขามีความเห็นอย่างนี้ว่า นักเต้นรำ
คนใดทำให้คนหัวเราะ รื่นเริง ด้วยคำจริงบ้าง คำเท็จบ้าง ในท่ามกลาง
สถานเต้นรำ ในท่ามกลางสถานมหรสพ ผู้นั้นเมื่อแตกกายตายไป ย่อม
เข้าถึงความเป็นสหายแห่งเทวดาชื่อปหาสะ. ความเห็นของเขานั้นเป็นความ
เห็นผิด. ดูก่อนนายคามณี ก็เราย่อมกล่าวคติสองอย่างคือ นรกหรือกำเนิด
สัตว์เดียรัจฉานอย่างใดอย่างหนึ่ง ของบุคคลผู้มีความเห็นผิด

เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอย่างนี้แล้ว พ่อบ้านนักเต้นรำ
นามว่าตาลบุตร ร้องไห้สะอื้น น้ำตาไหล พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า
ดูก่อนนายคามณี เราได้ห้ามท่านแล้วมิใช่หรือว่า อย่าเลย นายคามณี
ขอพักข้อนี้เสียเถิด อย่าถามข้อนี้กะเราเลย.


พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย สฬายตนวรรค เล่ม ๔ ภาค ๒ - หน้าที่ 180- 181
พระไตรปิฎกฉบับมหามกุฏราชวิทยาลัย


แม้แต่ปุถุชนพุทธองค์ท่านยังกล่าวถึงที่ไปไว้เช่นนี้ หากเป็นสมณะในพุทธศาสนา
กระทำเสียเองแล้ว ผมก็คงไม่อยากคิดต่อแล้วครับ

ขอเจริญในธรรมทุกท่านนะครับ

 

ทำกันไปได้...
เริ่มตั้งแต่คนเขียนบท นายทุนอนุมัติ ต่อไปยังโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ผู้จัดละคร นักแสดง ฯลฯ
ไม่มีใครรู้สึกตะขิดตะขวงใจ แสดงไป ฮาไป ระหว่างถ่ายทำ เอาผ้าเหลืองไปทำอะไรบ้างก็ไม่รู้

แค่นั้นยังไม่หนำใจ กลัวจะพากันไปนรกไม่มาก
เอามาฉายออกอากาศให้ประชาชน ตาสีตาสา ลูกเล็กเด็กแดง
ช่วยกันฮาใส่ผ้ากาสาวพัสตร์ อันเป็นธงชัยแห่งพระอรหันต์

เป็นเครื่องนุ่งห่มเพียงหนึ่งเดียว ที่สามารถรองรับกายสังขารของพระพุทธเจ้าได้.

 

อรหันต์ซัมเมอร์ ดูแล้วจะอ๊วก สงสารคนดูใครเห็นดีเห็นงามจะพลอยลงนรกไปด้วย สมมติว่าเริ่มอยากจะนิพพานชาตินี้เป็นชาติแรกแบบเร็วที่สุดด้วยการเป็นอรหันตสาวก ใช้เวลาไปอีก 1 อสงไขยกว่าบารมีจะเต็ม โคตรนานเลยหล่ะเอามาทำเป็นเรื่องล้อเล่นไปได้ ต้องเรียกว่านรกสำหรับตัวร้าย

 

ก็ เริ่มจากหนังเรื่อง หลวงตา ที่แปลงมาจากบทประพันธ์นิยาย แสดงด้วย คุณล้อต๊อก ก็มาตลอดจน ผิดเพี้ยนเป็นไม่แปลก ยันปัจจุบัน

"ศาสนาของตถาคต จะเสื่อมไม่ได้มาจากผู้ใด ก็ลูกของตถาคตนี่เอง ภิกษุ สามเณร อุบาสก อุบาสิกา นี่แลที่จะทำให้ศาสนานี้ เสื่อมลงไป"

 

ลักษณะตัดสินธรรมวินัย ๘ ประการ

มีมาในโครตมีสูตร อังคุตตรนิกาย

พึงรู้ว่าธรรมเหล่านี้ เป็นธรรม เป็นวินัย

เป็นสัตถุศาสน์ (กล่าวคือคำสอนของพระศาสดา)


๑. เป็นไปเพื่อความคลายกำหนัด

๒. เป็นไปเพื่อความไม่ประกอบทุกข์

๓. เป็นไปเพื่อไม่สะสมกองกิเลส

๔. เป็นไปเพื่อความมักน้อย

๕. เป็นไปเพื่อความสันโดษ

๖. เป็นไปเพื่อความไม่คลุกคลี

๗. เป็นไปเพื่อความเพียร

๘. เป็นไปเพื่อความเลี้ยงง่าย


รู้สึกในพระวินัยมีอยู่พวกเล่นตลกคะนอง

ให้ขับออกจากสำนักครับ.

 

5555555555

 

หมายถึงเฉพาะละครของประเทศจอร์แดนคะ ท่าน Raming เคยดูมันทำสีกับฉากชุดสวยมาก ไม่ได้หมายถึงผู้ชายจอร์แดนคะ อันนั้นก็ไม่ทราบเหมือนกัน....... ปกติผู้ชายทางเมืองแขก ดิฉันก็ไม่ค่อยชอบ......เพราะพูดจารัวๆเร็วๆ พูดมาก และโดยมากจมูกจะงุ้มเกิน แต่ก็มีบางคนที่น่ารักๆ ก็เคยเห็น เช่น ชาวเคอร์ดิซ ส่วนใหญ่นิสัยน่ารักพูดจาไร้เดียงสา ซื่อๆดี หรือ ตุรกีบางคนที่คล้ายฝรั่ง
แต่โดยรวมผู้ชายฝรั่งน่ารักกว่า (แต่ก็ไม่ใช่ทุกคน คนมีสักt attoo ก็ไม่ชอบ) ฝรั่ง เวลายิ้มดูอ่อนโยนน่ารักดี วันนี้ไปต่างเมืองมา แหม เจอโดยบังเอิญบนรถไฟ เขาไปเรียนไวโอลีนมา ก็ชวนคุยด้วย

แต่ก็ด้วยความที่นะ มักจะะคิดไม่ถึง ลืมถามเมืองที่อยู่เขา หนุ่มคนนี้น่ารักมาก วันนี้เจอสองคนสไตน์คล้ายๆเพื่อนที่เสียชีวิตของดิฉัน เฮ้อ น่าเสียดาย แต่อย่างว่าคนกำลังบำเพ็ญอรหันต์ .....ดิฉันถือว่า หนุ่มพวกนี้ คือ นางตัณหา ราคา อรดี ที่เราต้องข้ามไปให้ได้ นอกเสียจากว่าถ้าได้รู้ว่ามีปัญญาที่อยากจะหลุดพ้น และคุณธรรมระดับเทพ อย่างเพื่อนที่ตายของดิฉันเท่านั้น ดิฉันจึงจะสนิทด้วย เออ พูดถึงไปต่างเมืองมาถ่ายรูปสวยๆมาเยอะมาก แต่วันนี้เหนื่อยแล้วนั่งรถไฟหลายทอด เดินทั้งวัน ขอเอารูปวิวที่ถ่ายลงวันหลังแล้วกัน


มีข่าวดีมาบอกด้วยคะกำลังคิดว่าจะปลงและตัดทุกสิ่งทุกอย่าง และมาปฏิบัตธรรมเต็มตัวที่เมืองไทยปลายปีนี้

 

รอมานานแล้วครับ ความเจริญจงมีแก่ท่านผู้เป็นต้นเรื่องครับ

 

ใช่ครับ เพราะปัจจุบันสื่อเข้ามามีอิทธิพลเยอะ

เด็กแถวบ้านเดี๋ยวนี้ก็ล้อเลียนพระกัน

สื่อก็ผิด แต่บางที พ่อแม่ก็ผิดเพราะไม่ค่อยมีเวลาอบรม