พระสงฆ์ไม่ใช่ตัวตลก

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย ถิ่นธรรม, 6 สิงหาคม 2013.

  1. nai_Prathom

    nai_Prathom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    190
    ค่าพลัง:
    +694
    อย่างนี้เป็นไง สวมบทพระเล่นตลกทะลึ่ง

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=Ddc8z0gZItM]ตลกประถมบันเทิงศิลป์ ตลกสุดๆ 2 - YouTube[/ame]
     
  2. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414

    ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 208 บัญญัติว่า

    "ผู้ใดแต่งกายหรือใช้เครื่องหมายที่แสดงว่าเป็นภิกษุสามเณร นักพรต หรือนักบวชในศาสนาใด โดยมิชอบ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนเป็นบุคคลเช่นว่านั้น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"

    เมื่อไม่เกรงกลัวบาปกรรม ก็ต้องเอากฎหมายเป็นที่ตั้ง กรณีนี้ต้องทำเรื่องแจ้งไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ดำเนินคดี แต่ขอเวลาปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อน รับรองจะดำเนินการให้ถึงที่สุดแน่
     
  3. itipiso

    itipiso เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +2,485
    ...ปรามาสพระ อยากโง่ก็ปล่อยลงนรกไปครับ ยังไม่เข็ดก็จงลงไป อีกไม่นานคงได้ลงนรกสมใจล่ะ
     
  4. ธรรมแท้ว่าง

    ธรรมแท้ว่าง กายเบาใจเบา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2011
    โพสต์:
    12,293
    ค่าพลัง:
    +12,622
    เห็นด้วยอย่างยิ่ง!!!
    พยามารเข้าสิงจึงจะกล้าทำ!!!
     
  5. มรรค 8 ประการ

    มรรค 8 ประการ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    884
    ค่าพลัง:
    +2,641
    ผมขอสนับสนุนอีกหนึ่งเสียงครับ อย่านำพระสงฆ์มาแสดงเลยครับ ถ้าจะแสดงในการน้อมนำคนเข้าหาธรรมะ น่าสนับสนุนที่สุดครับ
     
  6. noawarat pakdee

    noawarat pakdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +682
    เคยอ่านเจอเหมือนกัน ว่านักแสดง ดาราภาพยนตร์ เมื่อตายไปจะได้ลงนรกเพราะการแสดงคือการสมมุติ ทุกอย่างสมมติขึ้นมา แต่งเติมบ้างแต่ก็อยู่ในข่ายผิดศีล ข้อที่ 4 มุสา อยากถามความเห็นท่านอื่นบ้าง ท่านว่าอย่างไรค่ะ ช่วยแชร์ให้ฟังด้วยค่ะ
     
  7. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    กรณีนี้มันมี 2 ระดับครับ คือ ศีล และ ธรรม
    ไม่ผิดศีลแต่อาจผิดธรรมได้ การแสดงจะถือว่าผิดศีลข้อ 4 ก็ยังไม่อาจกล่าวได้เต็มที่นัก ลองดูองค์แห่งศีลก่อน ศีลข้อมุสาต้องประกอบด้วยองค์ 4 ประการจึงจะถือว่าผิดศีล ได้แก่
    1. เรื่องไม่จริง
    2. มีจิตคิดจะพูดให้ผิดไปจากความจริง
    3. พยายามที่จะพูดให้ผิดไปจากความจริง
    4. คนฟังเข้าใจความที่พูดนั้น
    การแสดงไม่เข้าข่ายมุสาแค่เฉียดๆ เพราะผู้แสดงไม่มีเจตนาจะมุสาหลอกลวงใคร เพียงคิดว่าเป็นอาชีพ ในส่วนของเจตนาจึงไม่เต็มส่วน ส่วนคนชมก็รู้อยู่ว่าไม่ใช่เรื่องจริง จึงยังไม่ผิดศีล แต่ก็เฉียดๆ
    แต่ว่าทำไมการแสดงจึงถือว่ามีโทษหนัก ก็เพราะว่าผิดธรรม เนื่องจากทำให้ทั้งผู้แสดงและผู้ชมไกลต่อหนทางนิพพานมากขึ้น ใจที่ใกล้ต่อนิพพานจะต้องใส สะอาด สว่าง และสงบ แต่การแสดงส่วนใหญ่ชักนำให้กิเลสฟูขึ้นทั้งราะ โทสะ และโมหะ มีน้อยที่แสดงเพื่อสลัดกิเลสออกไปซึ่งเป็นบุญเช่นละครธรรมะ แล้วบุญหรือบาปเกิดที่ใจ ถ้าใจใสก็เป็นกุศล ถ้าใจเศร้าหมองก็เป็นอกุศล การแสดงเป็นเหตุให้ใจขุ่น จึงเป็นปัจจัยแห่งความงอกงามแห่งอกุศลที่มีอยู่เป็นอย่างดีเหมือนรดน้ำบนหญ้าฉะนั้น ดังนั้นการชมการละเล่นจึงจัดเป็นข้อห้ามในศีล 8 เพราะว่าทำให้คุณภาพใจถดถอย ไม่เหมาะกับการทำภาวนา ใครที่ดูหนังดูละครทุกวัน ยากที่จะทำภาวนาให้ได้ผล เป็นการปิดกั้นนิพพานชั่วคราว ด้วยเหตุนี้โทษจึงมาก ยิ่งทำให้คนจำนวนมากหลงไปกับกิเลส โทษก็สะสมมากไปตามจำนวนผู้ชม บาปจึงมากเป็นทวีคูณ
     
  8. upanya

    upanya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2006
    โพสต์:
    900
    ค่าพลัง:
    +1,035
    ขอฝากเรื่องนี้คุณถิ่นธรรมไว้อีกเรื่องด้วยครับ
    เรื่องรูปเคารพศาสนาอื่นที่ถูกเอาไปไว้ในโบสถ์ครับ
    ผมอยากร้องเรียนแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร
    ถ้าไปตั้งเวบเพจรับร้องเรียนเหมือนคุณปวีณาก็ดีเลยครับ

    รูปนี้พบที่ วัดภูมรินกุฎีทอง อัมพวา สมุทรสงครามครับ

    จะเคารพกราบไหว้กันอย่างไรก็ไม่ได้ว่า แต่มันควรหรือเอามาไว้ในโบสถ์
    ในเขตพุทธาวาส
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537
    พระพุทธศาสนาจะตั้งมั่นหรือจะเสื่อมจากจิตใจพุทธบริษัท ก็เพราะพุทธบริษัทเองนั้นแหละ
    นายทุนไม่ออกทุนสร้าง ผู้กำกับไม่รับกำกับ ดาราไม่รับแสดง เจ้าของสถานีไม่รับออกอากาศ ด้วยสำนึกถึงความสูงส่ง ความน่าเคารพกราบไหว้ และพระคุณของพระพุทธศาสนาต่อชาติและประชาชนไทย ไหนเลยจะมีภาพอันแสดงถึงความเนรคุณต่อพระพุทธศาสนาออกอากาศมาได้ นี่ไม่รู้จักความสูงต่ำ ไม่รู้จักอะไรควรไม่ควร
    ผู้ชมก็เช่นกัน ถ้าร่วมใจกันไม่ชมภาพยนต์ละครกาลกิณีประเภทนี้ แล้วยิ่งถ้าแสดงพลังกระแสต่อต้าน หน้าไหนในวงการบันเทิงจะกล้าสร้างกล้าผลิต

    เวลามีคนต่างชาติ ต่างศาสนา มาแสดงภาพลักษณ์ล้อเลียน ดูหมิ่น เหยียบหยามพระพุทธศาสนาทีละก็ทำจะเป็นจะตายประท้วงๆๆๆๆ แต่พอพุทธบริษัทกระทำเนรคุณย่ำยีพระพุทธศาสนาของตัวเองละเฉยกัน หรือพุทธบริษัททำเองได้ไม่เป็นไรงั้นหรือ

    พุทธบริษัทเองไม่เคารพและแสดงออกถึงความเหยียบย่ำต่อพระรัตนตรัยเองแล้ว จะให้ใครหน้าไหนเขาเคารพศรัทธาด้วยเล่า แน่จริงลองเล่นกับบุคลากรของศาสนาอื่นเขาดูไหมเล่าออกอากาศไม่เกิน 3 วันได้เจอ car bomb ได้เจอประชุมสหบาทากันระนาว

    ชาติ พระพุทธศาสนา พระมหากษัตริย์ ไม่ใช่ของล้อเล่น ไม่ใช่เพื่อนเล่น
    อย่ามาตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จประเภทผิดไปแล้วรู้เท่าไม่ถึงการณ์ด้วยนะ เพราะก่อนเปิดกล้องเห็นมีการตั้งพิธีบายศรีบวงสรวงกันทุกเรื่องทุกที แสดงว่ารู้อยู่เต็มอกว่าล่วงเกินแต่กูจะทำ เงินสำคัญกว่า ทำเงินให้กูได้เป็นพอ
    ผู้ชมก็อย่าเพียงเห็นแก่ความบันเทิง มุขตลกในเมืองไทยมีเยอะแยะมากมาย ไม่ต้องเอาพระรัตนตรัยมาล้อเลียน

    นอกจากเรื่องพระสงฆ์องค์เจ้าแล้ว รายการประเภทอื่นที่ไปซื้อไปลอกเขามาก็เหมือนกัน ดูความเหมาะสมเหมาะควรกับจิตใจและวัฒนธรรมอันดีงามของชาติไทยและคนไทยด้วย ไม่ใช่จะต้องแสดงออกร่ำไปว่าฉันหัวนอกหัวสมัยใหม่ จะเอามาก็เอาสิ่งที่ดีงามมาใช้ให้เหมาะสมกับความเป็นไทย
    อย่างรายการที่เอาผู้หญิงมายืนดาหน้ากัน 20 คน มาให้โฆษณาประชาสัมพันธ์ตัวเองให้ผู้ชายเลือกไปทำพันธุ์ เอากูไปทำเมียเถอะ กูมีทีเด็ดนะรับรองไม่ผิดหวัง เอากูนะเอากูไปที มันงามนักเหรอสำหรับกุลสตรีไทย แล้วก็แสดงออกอย่างเต็มที่มั่นใจเตรียมมาทั้งวลีเด็ด ท่าทางยั่วยวน รักนวลสงวนตัวบ้าง ก็เข้าใจอยู่ผู้หญิงเราก้อยากมีผัวอย่างที่ผู้ชายเขาอยากมีเมีย แต่ผู้หญิงงดงามที่การแสดงออกรู้จักเก็บอาการบ้าง แต่ก็ไม่ได้บอกว่าให้นิ่งเป็นใบ้ เก็บหน้าเก็บตาเก็บคองอเข่า แต่ก็ไม่ใช่ให้ประเภท over extrovert
    นึกถึงเวลาต่อไปมีลูกบ้าง ภูมิใจนำเสนอไหมอะ ลูกๆมานี่มาดูบันทึกรายการที่พ่อกับแม่เก้บไว้นี่ พ่อแกคัดเลือกแม่แกมาแล้วอย่างดีพิถีพิถันนะ แม่ก็เหมือนกันนะลูกกว่าจะให้พ่อแกเลือกแม่ได้ แม่ต้องงัดทั้งแม่ไม้ลูกไม้กลเม็ดเด็ดพรายมาหว่านให้พ่อแกเชื่อว่าแม่มีทีเด็ด เอาแม่มาทำพันธุ์แล้วรับรองไม่ผิดหวังแน่นอน ถ้าพ่อแกไม่ได้เลือกแม่ในวันนั้นรับรองพ่อแกต้องอกแตกตายเสียดายไปทั้งชีวิต (จริงๆตัวแม่เองละจะอกแตกตาย)
    ลูกดูแล้วคงภูมิใจน่าดู

    หรือเหตุการณ์ตรงกันข้าม เผอิญลูกไปบ้านเพื่อน แล้วเพื่อนเปิดบันทึกรายการสมัยที่พ่อเพื่อนไปเลือกแม่พันธุ์จากรายการผู้หญิง 20 คน ดูจบแล้วเพื่อนลูกก็บอกว่า พ่อกูได้ผู้หญิงคนนี้แล้ว แล้วก็ทิ้งไปเรียบร้อยแล้วหวะ พ่อกูบอกไม่ไหวไม่กล้าเอามันมาเป็นแม่ของลูก มันแรดเกินกุลสตรีแต่พ่อกูก็บ่นเสียดายนะ เพราะลีลาเด็ดสะเด่าสุดๆ
    แล้วเผอิญผู้หญิงในรายการที่ว่า เป็นแม่ของลูกเรา 555555 (จินตนาการสูงส่งแบบละครน้ำเน่าไทย)

    พุทธบริษัทให้รักและรักษ์พระพุทธศาสนา
    กุลสตรีไทยให้รักและรักษ์เกียรติลูกผู้หญิงไทย
    สุภาพบุรุษไทยรักและให้เกียรติเพศแม่ตัวเองด้วย

    แล้วความทุเรศ อุบาทว์ กาลกิณี จะได้เสื่อมถอยไปจากวงการบันเทิงไทย
     
  10. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537
    เรื่องมีเทพในวัดเนี่ย เห็นมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อก่อนจะมีรูปเทพเทวาไว้ด้านนอก เช่น บนหน้าบรรณ บานประตูที่เรียกว่าทวารบาล จะไม่นำมาไว้ใน วิหาร โดยเฉพาะในโบสถ์จะไม่นำเทวรูปมาไว้เพราะถือเป็นเขตแดนของพระรัตนตรัย โบสถ์มีไว้สำหรับทำสังฆกรรมเท่านั้น

    คือเทวรูปต่างๆมีไว้ด้านนอกเพื่อเสมือนผู้ดูแลพิทักษ์วัด พิทักษ์พระ และก็ไม่ได้มีมากและยกความสำคัญระดับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของวัด ก็มีบ้างไม่ใช่ไม่มีเลย เช่น วัดศีรษะทองก็จะมี พระอสุรินทราหูไว้ให้กราบบูชา บวงสรวงขอพร แต่จำได้ว่าไม่มีในโบสถ์

    อย่างวัดหลวงเช่น วัดพระแก้ว วัดแจ้ง วัดโพธิ์ ก็จะมีรูปปั้นยักษ์ซึ่งก็แน่นอนจะต้องมีตนหนึ่งแทนท้าวเวสสุวรรณ(ปู่เวส) แต่คนโบราณท่านสร้างไว้เพื่อเป็นลักษณะผู้พิทักษ์ ส่วนใครจะนับถือกราบไหว้ใดๆก็ไม่แปลก ไม่ผิดอะไร

    สมัยนี้เยอะมวกกกกก กระแสที่แรงสุดๆก็พระพิฆเณศ พระแม่กวนอิม ช่วงองค์จตุคามรามเทพกระแสแรงก็มีเพิ่มเข้ามา จนเดี๋ยวนี้ก็จะมีการแข่งขันว่า ใหญ่ที่สุดในโลก บางที่ไม่ใหญ่สุดในโลกก็หาจุดเด่น เช่น เป็นองค์ไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในโลก ล่าสุดก็เริ่มมีพระพุทธรูปแบบปางเทวรูป เศรษฐีนวโกฎิ มี 9 พระพักตร์ ขาดอีกพระพักตร์เดียวก็เท่าทศกัณฐ์

    จะทำ promotion plan ก็ต้องออกแนวไหว้ขอพรให้ร่ำรวย เงินไหลนองทองไหลหลั่ง เศรษฐีพันล้าน โชคลาภมากหลายรวยจนมึน งงๆอยู่ว่ารวยได้ยังไงยังไม่เคยได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในชีวิตเลยแต่ไหว้แล้วรวย ที่แน่ๆแผงพระรวยนำไปก่อนแล้ว 55555555

    แล้วก็จะมีประเภทสมีบักคำเกิดขึ้น ทั้งที่ปรากฏหลักฐานมัดแล้วและยังสามารถเนียนๆไหลลื่นไปได้อยู่

    เอาออกไปจากโบสถ์เถอะ ไม่ว่าจะพระพิฆเณศหรือเทวองค์ไหนๆก็แล้วแต่ แล้วถ้าอยากจะให้ท่านอยู่เป็นสัดส่วนก็ไปแยกสร้างวิหาร ศาลา มณฑปอะไรให้ท่านอยู่เป็นการเฉพาะต่างหากก้ว่ากันไปตามศรัทธา เอาน่าพึ่งพาอาศัยกันไป คนมาไหว้พระไหว้เทวดา หยอดเงินใส่ตู้โยมได้บุญพระได้อิ่ม มีปัจจัยไว้ใช้สอยสิ่งจำเป็น บางท่านก็ยังต้องเรียนหนังสือ ต้องมีค่าเดินทาง ค่าฉันอาหารนอกวัด ค่าตำหรับตาราเรียน

    จะตัดสวาทขาดสัมพันธ์กันไปเลยคงยาก จะมีก็สายวัดป่าอย่างสายหลวงพ่อชา วัดหนองป่าพงและสาขา ที่ยังรักษาแนวทางไว้ได้ดีอยู่

    สาธุ สาธุ สาธุ
     
  11. romancehawk

    romancehawk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    253
    ค่าพลัง:
    +537


    จะมีก็โบสถ์พราหมณ์ฮินดูอย่างวัดเทพมณเฑียรที่มีการประดิษฐานพระพุทธรูปไว้เพียงมุมหนึ่ง ไม่เด่นไม่แตกต่างจากเทวรูปอื่นๆ
    เพราะชาวฮินดูถือว่า พระพุทธเจ้า ตามปุราณะและตำนานต่างๆของพราหมณ์เชื่อกันว่า พระพุทธเจ้าเป็นอีกปางหนึ่งของ พระวิษณุ
    พระพุทธเจ้าในโบสถ์พราหมณ์ฮินดูก็มีศักดิ์ศรีเพียงเทวรูปองค์หนึ่งอันเป็นอวตารปางหนึ่งของพระนารายณ์เท่านั้นเอง ฉะนั้นองค์ประธานในโบสถ์พราหมณ์ฮินดู ก็อาจเป็น พระนารายณ์ พระพรหมณ์ พระศิวะ(ศิวลึงค์) หรือพระแม่ศรีอุมาเทวี แล้วแต่วัดนั้นจะนับถือองค์ใดเป็นใหญ่

    ทีนี้สำหรับวัดพุทธของเรา ก็ขึ้นกับพระภิกษุผู้เป็นอธิการเจ้าวัด ว่าจะจัดการจัดแจงอย่างไร จะไปลดศักดิ์ศรีของพระพุทธเจ้า(พระพุทธรูป)ลงไปทัดเทียมเสมือนหนึ่งแค่เทวรูปองค์หนึ่งของวัดไว้กราบไหว้ขอพรบนบานศาลกล่าวหรือไม่

    ครั้งพุทธกาล กุลบุตรผู้ออกบวชส่วนมากเป็นกุลบุตรผู้มาจาก วรรณกษัตริย์ วรรณพราหมณ์ ลูกเศรษฐีคหบดี ผู้เพียบพร้อมด้วยโภคสมบัติและการศึกษา ออกบวชด้วยเบื่อหน่ายความสุขในกาม เช่น พระยศกุลบุตรเป็นต้น จึงทำให้พระพุทธศาสนาประดิษฐานมั่นคงและเป็นที่เลื่อมใสศรัทธา

    ปัจจุบันผู้ออกบวชส่วนใหญ่ ...............................................
    อนาคตวัดและพระศาสนาก็ฝากไว้ในมือท่านเหล่านี้แหละ
    เราก็ไม่ต้องบ่นมาก ว่าพระเสื่อมอย่างนั้นเสื่อมอย่างนี้ ประพฤตินอกรีตนอกพระวินัย
    คำถามคือแล้วทำไมท่านไม่บวชเสียเองละ บ่นทำไม
    เรียนเก่งไปเรียนแพทย์ วิศวะ แล้วใครละที่ออกบวช
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2013
  12. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,828
    ค่าพลัง:
    +5,414
    โชคดีที่ทาง กสทช กำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ำการกำกับดูแลเนื้อหารายการ... ชาวพุทธท่านใดว่างก็ไปเสนอความคิดเห็นได้ในวันที่ 30 สิงหาคม 2556 ช่วงเช้าที่ รร.รามาการ์เดนส์ แต่ต้องลงทะเบียนก่อน ดูรายละเอียดได้จาก NBTC: หน้าแรก ที่แท็บ ข่าวรับฟังความคิดเห็น
    หรือส่งอีเมล์หรือจดหมายไปที่ กสทช ภายในวันที่ 16 กันยายน 2556
     

แชร์หน้านี้

Loading...