พระสูตรสำคัญจากพระไตรปิฎก

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย sukhawadee, 28 มิถุนายน 2005.

  1. sukhawadee

    sukhawadee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    332
    ค่าพลัง:
    +130
    กาลามสูตร หลักความเชื่อของชาวพุทธ
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]หลักความเชื่อของชาวพุทธ[/font][font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC] [size=-1] พระสูตรนี้ชาวตะวันตกที่หันมาสนใจพระพุทธศาสนารู้จักกันดี เพราะมีเนื้อหา "ท้าทาย" และบ่งบอกเอกลักษณ์[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1]ของความเป็นพุทธ นั่นคือ เน้นบทบาทของปัญญา ก่อนที่จะเชื่อถือปฏิบัติอะไร ให้ใช้ปัญญาพิจารณาให้รอบคอบเสียก่อน[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] พระพุทธเจ้าตรัสแก่ชาวกาลามะ ซึ่งสงสัยว่าจะเชื่ออย่างไรดีว่า[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC] อย่าเพิ่งเชื่อเพราะ:-[/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๑. ฟังตามกันมา[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๒. นับถือสืบๆกันมา[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๓. เป็นข่าวเล่าลือ[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๔. มีการอ้างไว้ในตำรา[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๕. ตรรกะ (โบราณแปลว่า "เดา" แต่หมายถึงเหตุผลทางตรรกะ)[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๖. โดยอนุมาน (คือ สรุปจากข้อเท็จจริงที่ปรากฎ)[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๗. โดยคิดตรองตามอาการที่ปรากฎ[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๘. เพราะเข้ากับความเห็นของตน[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๙. เพราะเห็นรูปลักษณะน่าเชื่อ[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๑๐. เพราะเห็นว่าผู้พูดเป็นครูของตน[/size][/font]

    <CENTER>

    [​IMG]

    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=+2]สีสปาสูตร ธรรมะกำมือเดียว[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC]พุทธทรรศนะ[/font]</CENTER>[font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC] พระพุทธเจ้าตรัสแก่พระสงฆ์ว่า[/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1]"....สิ่งที่เรารู้แล้วมิได้บอกพวกเธอมีมากมาย ดุจใบไม้บนต้นไม้ในป่า แต่สิ่งที่เรารู้แล้วนำมาบอกมาสอนพวกเธอ มีนิดเดียว ดุจใบไม้กำมือเรานี้.... เพราะเหตุใดเราจึงไม่บอก เพราะสิ่งนั้นไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่หลักการใหญ่เพื่อชีวิตอัน ประเสริฐ ไม่เป็นไปเพื่อความเบื่อหน่าย เพื่อคลายความกำหนัด เพื่อความดับ เพื่อความสงบ เพื่อความรู้ยิ่ง เพื่อความตรัสรู้ เพื่อดับกิเลส และกองทุกข์ได้สิ้นเชิง..."[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] "สิ่งที่เรารู้แล้วนำมาบอกมาสอนก็คือ ทุกข์ สาเหตุของทุกข์ ความดับทุกข์ และทางดับทุกข์ ที่นำมาบอกมาสอนก็ เพราะสิ่งนี้เป็นประโยชน์ เป็นหลักการใหญ่เพื่อชีวิตอันประเสริฐ..."[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] พระสูตรนี้สั้นๆ ลึกซึ้ง กินใจ แสดงถึง "พุทธทรรศนะ" ว่า "ความรู้อื่นใดมากมาย ถ้าไม่ใช่รู้เพื่อทำชีวิตให้ดีขึ้น[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1]เพื่อลด ละ เลิก โลภ โกรธ หลง ก็หาใช่ความรู้แท้จริงไม่"[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] รู้มาก ก็ "อวิชชา" มาก แบกทุกข์ไว้มาก[/size][/font]

    <CENTER>[​IMG]

    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=+2]โมคคัลลานสูตร วิธีแก้ง่วง[/size][/font]</CENTER>

    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC] พระพุทธเจ้าทรงแสดงวิธีแก้ง่วงให้พระโมคคัลลานะ ดังนี้[/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๑. นึกหรือคิดเรื่องใดแล้วรู้สึกง่วง ก็ให้นึกคิดเรื่องนั้นให้มากกว่าเดิม แล้วความง่วงจะหาย[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๒. ถ้าไม่หาย ให้ตรึกตรองข้อความหรือเรื่องราวที่ได้ฟังมา หรือเล่าเรียนมาแล้วจะหาย[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๓. ถ้ายังไม่หาย ให้ท่องข้อความ เช่น ตำราที่กำลังอ่านอยู่นั้นๆออกมาดังๆ[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๔. ถ้ายังไม่หาย ให้ยอนหูทั้งสองข้าง[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๕. ถ้ายังไม่หาย ให้ลุกขึ้นเอาน้ำล้างหน้า[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๖. ถ้ายังไม่หาย ให้นึกถึงแสงสว่าง[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๗. ถ้ายังไม่หาย ก็ให้เดินจงกรม คือ ลุกขึ้นเดินกลับไปกลับมาสักพัก[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] ๘. แต่ถ้าลุกเดินแล้วยังง่วงอยู่ แสดงว่าง่วงเต็มที่แล้ว ก็ให้เข้านอนเสีย[/size][/font]
    [font=MS Sans Serif, AngsanaUPC, CordiaUPC][size=-1] พระสูตรนี้ ให้ข้อคิดดี เหมาะกับ นักเรียน นิสิตนักศึกษา และทุกๆคนที่รู้สึกง่วง แต่ยังไม่อยากนอน หรือยังนอนไม่ได้ น่าจะลองนำไปปฏิบัติดูครับ[/size][/font]
     

แชร์หน้านี้

Loading...