พระหายาก | ขุนแผนรุ่นแรกหลวงพ่อตัด,ลิงลมครูบาตั๋น,ขุนแผนระฆังทอง,ลูกอมไหว้ครู56

HTML:

ให้เช่าบูชาพระเครื่องยอดนิยม พร้อมทั้ง Story ต่างๆที่เกิดขึ้นอ่านไปรับข้อมูลไปไม่เช่าไม่เสียหลายครับ

เงื่อนไขการรับประกัน ภายใน 15 วันคืนเงิน 100 % เต็ม
รับประกันความพอใจ 1 วัน

วิธวัช ชัยอิสระเสรี

511-139-2262 กรุงไทยออมทรัพย์ สาขาลำพูน

 

ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา

<h1>ขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา</h1>

ขุนแผนรุ่นแรกพิมพ์แขนอ่อน พระพุทธวิริยากร ( หลวงพ่อตัด ปวโร ) วัดชายนา ปี2547 บล็อกเดียวกันกับพิมพ์ขุนแผนแขนตรง ปี 2546 แต่แก้บล็อกให้มือที่พาดเข่า เฉียงออกด้านข้าง พิมพ์นี้กดพิมพ์ช่วงต้นปี 2547 มีเนื้อดินเนื้อเดียว แต่ต่างกันที่ ( จารมือ )ยันต์ด้านหลังองค์พระแยกเป็นยันต์ต่างๆ เช่น ยันต์ปลายศ๊ล ยันต์นะหน้าทอง ยันต์นะปัดตลอด ยันต์นะปัฐมัง ฯลฯ ซึ่งบางยันต์นั้น ก็ไม่ได้มีการจดบันทึกจำนวนการสร้างเอาว่ามีกี่องค์แต่รวมแล้ว ขุนแผนรุ่นแรกพิมพ์แขนอ่อนนั้น จัดสร้างไว้ทั้งสิ้น ๔,๕๐๐ องค์ แบ่งเป็น ยันต์ต่างๆ - หลังยันต์ปลายศ๊ล มีประมาณ 3500 องค์ - หลังยันต์นะหน้าทอง มีประมาณ 50 องค์ - หลังยันต์นะกระโฟลกทองคำ มีประมาณ 30 องค์ - หลังยันต์นะปัฐมัง(กำเนิด) มีประมาณ 200 องค์ - หลังยันต์นะฤชา มีประมาณ 35 องค์ - หลังยันต์จารพระครูสารธรรมนิเทศ มีประมาณ 30 องค์ องค์นี้จารยันต์ปลายศีล เนื้อดำปิดทองเดิมๆ เด่นมากเรื่องเจรจาค้าขาย ไม่มีในสนามบ่อยๆ หายากน่าใช้น่าสะสมครับ

พระขุนแผนรุ่นแรก หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี ปี พ.ศ.2547 เนื้อดิน พระพักตร์ คม ชัด ลึก หลังจารเปียก ขนาดสูง 6.8 x 3.7 ซ.ม. ไม่เคยผ่านการใช้งาน สวยสมบูรณ์แบบ เรื่องประสบการณ์และความโด่งดังของพระขุนแผนรุ่นแรกนี้เป็นที่ประจักษ์ในวงการนักสะสมพระเครื่องเป็นอย่างดี

โทร 088-4343398

 

ลิงลม ครูบาตั๋น วัดย่าพาย

<h1>ลิงลม ครูบาตั๋น วัดย่าพาย</h1>

<h2>ลิงลมครูบาตั๋น เนื้อผงพุทธคุณ อุดด้วยเทียนชัยและเกศา แปลกและหายากครับ</h2>

<h3>ประวัติครูบาตั๋น วัดย่าพาย สันกำแพง เชียงใหม่</h3>



ครูบาคำตั๋น หรือครูบาบุญตัน วัดย่าพาย รูปเดียวกันครับ ผมเป็นลูกศิษย์ลูกหาท่านเองครับ สมณศักดิ์ของท่าน พระครูพิมลธรรมรัตน์(บุญตัน เตชธมฺโม) ท่านเป็นเจ้าคณะตำบลบวกค้างมาช้านาน จนอายุของท่านมากแล้วปัจจุบัน 88 ปี ท่างคณะสงฆ์ระดับอำเภอจึงให้ท่านได้พักกับภารอันหลังหนาในตำแหน่งเจ้าคณะปกครองระดับตำบลลงไว้ ปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลบวกค้าง และเจ้าอาวาสวัดย่าพาย ถือเป็นพระเถระที่มีพรรษายุกาลอาวุโสที่สุดในแถบอำเภอสันกำแพงและไกล้เคียง ครูบาตั๋นท่านเป็นพระเถระที่สมถะเข้าพบหาง่าย มีเมตตาสูง ใครได้ไปกราบไหว้ท่านก็มักจะประทับใจขออะไรท่านก็ให้ ท่านก็ทำ ในเรื่องวิทยาคมท่านถือว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งในปัจจุบันที่ได้รับนิมนต์เข้าร่วมปลุกเสกพิธีต่างๆ คาถาอาคมของท่านเท่าที่ได้สัมผัสจริงๆ ถ้าเป็นภาษาคำเมืองน่าจะได้คำว่า "เต็มปุ๋ม" ทั้งด้านเมตตา มีทางข้ามทางคงแคล้วคลาดอยู่ด้วย เวลามีคนมาของท่านปลุกเสกพระหรืออธิฐานจิตเดี่ยวท่านมักจะบริกรรมคาถาแบบออกเสียงเหมือนตอนสวดมนต์นานครั้งหนึ่งๆเป็นครึ่งชั่วโมงหรืออาจจะเป็นชั่วโมงๆ คาถาในตัวท่านมากจริงๆ เล่ามาเป็นยืดยาวเอาเป็นว่าลองท่านไปกราบเองที่วัดครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นสิบตาเห็นไม่เท่าได้สัมผัสครับ

สนใจโทรสอบถามได้ครับ 088-4343398

 

ขุนแผนเจดีย์ทอง เนื้อว่านดอกทอง ตะกรุดทองคำ

<h1>ขุนแผนเจดีย์ทอง ตะกรุดทองคำ เนื้อว่านดอกทอง</h1>

<h2>เริ่มต้นของขุนแผนย้อนยุคพิมพ์เล็กแห่งสยามประเทศ</h2>
พระขุนแผนผงพรายกุมารเจดีย์ทอง เป็นพระขุนแผนที่มีการทำพิธีปลุกเสกถึง 31พิธี ปลุกเสกในวันเพ็ญเดือน12 วันลอยกระทงซึ่งตรงกับวันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 (ปีขาล) ใช้มวลสารเก่าของขุนแผนระฆังทองและมีมวลสารอื่นๆเพิ่มเติมอีกมากมายจึงเป็นขุนแผนย้อนยุคอีกรุ่นที่น่าใช้น่าบูชาเป็นอย่างยิ่ง ...

<h3>ข้อมูลพิธีปลุกเสกขุนแผนเจดีย์ทองอย่างคร่าวๆ</h3>
ขุนแผนผงพรายกุมารรุ่นนี้ถือได้ว่าเป็นขุนแผนที่ทำล้อพิมพ์ (ย้อนยุค) ของขุนแผนหลวงปู่ทิม อิสริโก ซึ่งมีราคาเช่าบูชาเรือนแสน เรือนล้านเพราะมีประสบการณ์ที่เรียกได้ว่าเป็น "ตำนาน" สุดยอดเมตตามหานิยมขอได้ไหว้รับอย่างแท้จริง เนื่องจากประสบการณ์ที่เรียกว่าเป็นระดับตำนานทำให้ความต้องการของขุนแผนผงรายกุมารหลวงปู่ทิม เพิ่มขึ้นอย่างมากมายหากจะเทียบกับจำนาวนการสร้างอันแสนน้อยนิด ราคาก็พุ่งทะยานไปไกลจนเกินเอื้อมถึง ของปลอมหรือของเลียนแบบมีมาตั้งแต่ช้านานพัฒนาฝีมือมาตั้งแต่ยุคแรกจนถึงปัจจุบันไม่ต้องบอกนะครับว่าน่ากลัวแค่ไหนหากยังไม่เคยเห็นพระแท้ๆ

พิธีปลุกเสกขุนแผนเจดีย์ทองอย่างคร่าวๆ

หลวงพ่อสิน วัดละหารใหญ่ ปลุกเสกเดี่ยวในฤกษ์มงคล ขณะเสกท้องฟ้าแจ่มใสไม่มีทีท่าฝนตั้งเคล้าแต่อย่างไรเกิดฟ้าคำรามเสียงดัง 3 ครั้ง หลังจากนั้นฝนเริ่มตกโปรยปรายจนกระทั่งเสร็จพิธีเสก และก็นำไปปลุกเสก ณ วัดเนินมหาเชษฐ์ สุพรรณบุรี 12 ธันวาคม พ.ศ.2553

รุ่งขึ้นวันจันทร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ.2553 ปีขาล นำวัตถมงคลไปวางไว้ที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ ของบารมีพระผงสุพรรณและขอบารมีหลวงพ่อโพธิ์ อดีตเจ้าอาวาส วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ พระชัยมงคล เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา

หลังจากนั้นไปกราบรูปปั้น หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นครปฐม และนำวัตถุมงคลไปวางขอบารมีหลวงพ่อแช่ม ขอให้ท่านลงมาทำให้ พระชัยมงคล เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา

หลังจากนั้นไปกราบหลวงพ่อแย้ม วัดสามง่าม จ.นครปฐม ศิษย์เอกหลวงพ่อเต๋ คงทอง ขอให้ท่านเมตตาปลุกเสก หลวงพ่อแย้มปลุกเสกเดี่ยวอยู่นาน ในฤกษ์ "กระทิงวัน"

หลังจากนั้นนำวัตถุมงคลไปวางไว้ที่รูปปั้นหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม ขอบารมีมนต์จินดามณีของหลวงปู่บุญ พระชัยมงคล เจริญพระพุทธมนต์ชัยมงคลคาถา

ต่อมาก็ได้ให้หลวงพ่อเขียน วัดกระทิง เทพเจ้าแห่งเขาคิชกุฎจันทบุรี ปลุกเสกเดี่ยว 16 ธันวาคม พ.ศ.2553, หลวงพ่อจำนงค์ วัดทุ่งตาอิน จันทบุรี ปลุกเสกเดี่ยว 16 ธันวาคม พ.ศ.2553, ปลุกเสก ณ วัดเนินสุทธาวาส ชลบุรี เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม พฃ.ศ.2553 พระปิดตาหลวงพ่อโต วัดเนินสุทธาวาส เป็น 1 ใน 5 เบญจภาคีพระปิดตาชลบุรี

ต่อมาได้ปลุกเสก ณ วัดของหลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม ชัยนาท วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2554ฤกษ์ 06.47-20.42 ทำการมงคลได้สารพัด ฤกษ์ ปลอดภัยไม่มีอัปสรรคขัดขวาง ทาษี-10 ทลิทโทฤกษ์ พร้อมปลุกเสก ณ วัดไผ่ล้อม (อารามหลวง) จันทบุรี ปลุกเสกตั้งแต่ 1 ทุ่ม - จนถึงรุ่งอรุณ (พระพื้นที่เสกต่อจาก 7 อาจารย์จนถึงรุ่งอรุณ),ปลุกเสก ณ วัดน้ำคู้เก่า จ.ระยอง

วันที่ 7 เมษายน พ.ศ.2554 เวลาฤกษ์ 19.45-22.41 น.ทำการมงคลได้สารพัด ฤกษ์ อำมฤคชัย ทาษี ภูมิปาโลฤกษ์ และปลุกเสก ณ วัดวังสรรพรส(หลวงพ่อคง สุวัณโณ) จ.จันทบุรี วันที่ 8 เมษายน รายนามพระเกจิ 9 คณาจารย์ในเขตจันทบุรี ,ปลุกเสกในฤกษ์"เสาร์ 5" ณ วัดท่านพ่อสุ่น วัดปากน้ำแหลมสิงห์ จันทบุรี วันที่เสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ.2554, ปลุกเสกเดี่ยว จาก อาจารย์พจน์ วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด

วันพฤหัสบดีที่ 28 เมษายน พ.ศ.2554 ฤกษ์ ปลอด-ศุภะ-เพชฌฆาตฤกษ์ ท่านว่า "พระเสกมาดีแล้วจะเสกอะไรอีก" ต่อมาที่วันที่ 29 กรกฏาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกเดี่ยวจาก หลวงพ่อนวล วัดไสหร้า จ.นครศรีธรรมราช ณ วัดคีรีกันทร์ เวลาปลุกเสก 9.39-10.25 น.เพชรฆาตฤกษ์

วันที่ 29 กรกฏาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกเดี่ยวจาก หลวงพ่อเอื้อม ณ วัดบางเนียน จ.นครศรีธรรมราช เวลาเสก 15.06 น. เพชฌฆาตฤกษ์ วันที่ 30 กรกฏาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกหมู่ ในถ้ำฉัตรทัณฑ์บรรพต ณ วัดเขาอ้อ จ.พัทลุง โดยศิษย์เขาอ้อเจ้าอาวาสทุกวัดของจังหวัดพัทลุง,ปลุกเสกหมู่ ณ ค่ายตากสิน จันทบุรี,พิธีพุทธาภิเษกพระพิชัยสงคราม (ปลุกเสกข้ามวันข้ามคืน 12-13สิงหาคม 2554 จุดเทียนชัย 23.25 น.- 10.43) หนุนดวงชะตามิให้ตกต่ำตามตำราพิชัยสงครามโบราณ ณ วัดโพธิผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา

จากนั้นก็ให้หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา เมตตาปลุกเสกเดี่ยวเวลา 16.14น.-16.29 และให้หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง ศิษย์เอกหลวงปู่ทิม อิสริโก เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้ 5 วัน 5 คืน

หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค จ.อุทัยธานี เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้,หลวงปู่สมบุญ ปิยธัมโม วัดลำพันบอง อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี เมตตาปลุกเสกเดี่ยวให้ 3 คืน หลวงพ่อเฉลิม เขมทัสสี, ณ วัดละหารไร่ จ.ระยอง ในวันเสาร์ ที่ 1 ตุลาคม 2554, ณ วัดโคกอู่ทอง จ.ปราจีนบุรี, วัดละหารไร่ พิธีปลุกเสกพระบูชาปูนปั้น รุ่น "จันทร์เพ็ญ เจดีย์ทอง" วันศุกร์ที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2554 พิธีปลุกเสกใหญ่ และ พิธีปลุกเสกมหามนต์ชินบัญชร, ต่อมาที่หลวงพ่อหวล วัดพุทไธศวรรย์ พระนครศรีอยุธยา เมตตาปลุกเสกเดี่ยว, หลวงปู่เร่ง วัดดงแขวน จ.อุทัยธานี เมตตาปลุกเสกเดี่ยว เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ.2554 , หลวงพ่อทวน วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท,หลวงปู่นะ วัดหนองบัว, และสุดท้ายที่ หลวงปู่นาม วัดน้อยชมภู่ จ.สุพรรณบุรี เมตตาปลุกเสกเดี่ยว

สนใจโทรสอบถามราคาได้ครับ

 

พระปิดตาครูบาจันต๊ะรุ่น 2

<h1>พระปิดตาครูบาจันต๊ะรุ่น 2</h1>

<h2>ประวัติของครูบาจันต๊ะ อนาวิโล</h2>


พระ อธิการจันต๊ะ อนาวิโล( ครูบาจันต๊ะ )เกิดเมื่อวันจันทร์ที่ 28ก.พ.2468 ที่ตำบลหนองช้างคืน อ.เมือง จ.ลำพูน เมื่อเยาว์วัยได้มาเป็นลูกศิษย์วัดหนองช้างคืนเพื่อศึกษาเล่าเรียนจากครูบา อาจารย์หลายท่าน เมื่อมีอายุได้ 12ปีได้บรรพชา จนเมื่อท่านอายุได้ 20 ปีท่านก็ได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 5มิ.ย.2487 ท่านได้เล่าเรียนธรรมจนสอบธรรมสนามหลวงแผนกธรรม ชั้นโท พ.ศ. 2494 หลังจากนั้นท่านได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองช้างคืนเมื่อ พ.ศ.2520 ท่านได้ปฏิบัติหน้าที่เจ้าอาวาสและได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้น เป็นตามลำดับ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างศาลาการเปรียญ กุฏิสงฆ์ บูรณะอุโบสถ ท่านมีความเมตตาธรรมสูง มีความสามารถพิเศษในด้านการเทศน์ธรรมมหาชาติ กัณฑ์มัทรี และได้รับการยกย่องเป็นอย่างสูงว่าเป็นเกจิอาจารย์ในด้านเครื่องลางของขลัง วัตถุมงคล คาถาอาคมและยันต์ต่างๆเป็นต้น จนเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป ในปี 2537 และปี 2542 ท่านได้สร้างพระเครื่องครั้งใหญ่ขึ้นโดยเป็นเนื้อผงพุทธคุณ ได้แก่ พิมพ์ขุนแผน ขุนช้าง สังขจาย ล.ป.ทวด กลีบบัว และปิดตา วัตถุมงคลรุ่นนี้ต่อมาภายหลังได้รับความนิยมของในพื้นที่มาก โดยมีความโดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม ค้าขาย โชคลาภ และแคล้วคลาดปลอดภัย โดยเฉพาะขุนแผนและขุนช้างนั้นได้รับการยอมรับเป็นอย่างสูงในเรื่องเมตตาและ มหาเสน่ห์โชคลาภ



<h3>มวลสารการสร้างพระปิดตา</h3>

พระปิดตาครูบาจันต๊ะรุ่น 2 สีน้ำตาลฝั่งตะกรุดโรยพลอยฝั่งชิ้นส่วนสมเด็จวัดบวรฯ ใส่เส้นเกศาครูบาอินวัดฟ้าหลั่ง จำนวน 176 องค์

พระผงหลวงพ่อแดงและผงตะไบพระหลวงพ่อแดงวัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี เกสรดอกไม้ 108 ว่านต่าง ๆ กาฝากขนุน การฝากมะรุม กาฝากชมพู่ ผงหลวงพ่อทองดำวัดท่าทอง จ.อุตรดิตถ์ ผงเผ่าใบลานเก่าวัดหนองช้างคืน ผงหลวงพ่อเกษมสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ด้ายมงคลหลวงพ่อเกษม ผงพระวัดห้วยทรายใต้ จ.เพชรบุรี อิฐ-กระเบื้องเก่าวัดหนองช้างคืน น้ำมนต์วัดพระสงฆ์ น้ำมนต์หลวงพ่อเกษมสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง น้ำมนต์วัดหนองช้างคืน ปูนเปลือกหอย ว่านเถาหลง กาฝากพุททรา พลอยพระธาตุจอมทอง เกศาครูบาจันต๊ะวัดหนองช้างคืน ชานหมากพ่อแก่ แร่ร่องระกำเพชรบุรี

ได้เข้าพิธีพุทธาพิเษกโดย หลวงพ่อทองดำ พร้อมพระ “ รุ่นเจ้าคุณนิมานโกวิท ” วัดท่าทอง ต.วังกะพี้ อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2542 ตรงกับวันแรม 13 ค่ำ เดือน 11 เวลา 14.09 น. หลวงปู่ทิมวัดพระขาว จ.อยุธยา เป็นผู้ดับเทียนชัย และครูบาจันต๊ะ อาวิโล วัดหนองช้างคืน ได้ทำการปลุกเสกเดี่ยวอีกครั้งหนึ่งในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2542

สภาพสวยๆแบบนี้หาไม่ง่ายครับ มีร้อยกว่าองค์จากคนทั้งประเทศ ขุนแผนของท่านผมมั่นใจอย่างยิ่งว่าราคาคงจะตามของหลวงปู่ทิมไปอย่างแน่นอนครับ

 

ขุนแผนระฆังทอง ตะกรุดทองคำ สวยแชมป์

<h1>ขุนแผนระฆังทอง ตะกรุดทองคำ สวยแชมป์</h1>

<h2>ประวัติอย่างคร่าวๆของขุนแผนระฆังทอง</h2>
ขุนแผนผงพรายกุมารย้อนยุครุ่นระฆังทอง หรือเรียกสั้นๆว่าขุนแผนระฆังทอง ด้านหนึ่งเป็นพระนูนปางสมาธิ พร้อมเส้นสายลายกนกสวยงดงาม และอีกด้วยก็มีคาถาและยันต์ ในส่วนของการสร้างนั้น หลายๆคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นการสร้างแบบที่ไม่เคยเจอมาก่อนซึ่งเป็นการสร้างที่สมบูรณ์แบบมากๆ และมีความเข้มขลัง ศักดิ์สิทธิ์ และมีอิทธิฤทธิสูงมากจนแทบจะอธิบายไม่ได้ จนหลายๆคนก็ร่วมอนุโมทนาบุญกันอย่างเต็มที่ จนหลายๆคนก็ร่วมอนุโมทนาบุญกันอย่างเต็มที่ โดยการส้รางพระขุนแผนระฆังทองรุ่นนี้ ได้เป็นการสร้างที่จะมาทดแทนรุ่นเก่าๆของหลวงปู่ทิมอีกด้วย พรายกุมารที่ลงมาประจุในองค์พระของรุ่นนี้เชื่อกันว่าจะโชคดีในหลายๆเรื่องเพราะมีพรายกุมารที่อยู่ในองค์พระ จะคอยช่วยท่านในเรื่องต่างๆได้ ให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย และพระชุดนี้ประกอบไปด้วยมวลสารดีเยี่ยม พร้อมปลุกเสกจากพระระดับสูง ไม่ว่าจะเป็นหลวงปู่บัว หลวงปู่นาม หลวงพ่อสาครและหลวงพ่อสิน รวมทั้งพระเกจิเก่งๆ อีกหลายรูป ซึ่งได้ร่วมกันปลุกเสกจนกลายเป็นพระเครื่องย้อนยุคที่มีประสบการณ์สูงมากๆ

<h3>มวลสารของขุนแผนระฆังทอง</h3>
ในด้านของมวลสารต่างๆนั้นก็มีมากกว่า 10ชนิดแน่นอน ซึ่งมีทั้งผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม จาก 3 ลูกศิษย์ พร้อมน้ำพระพุทธมนต์ที่สรงพระเขี้ยวแก้วจากศรีลังกา และน้ำมนต์เดือนเพ็ญที่สรงรูปปั้นหลวงปู่ทิมในคืนลอยกระทง ,ผงจินดามณีหลวงพ่อเจือ รวมถึงข้าวตอกพระร่วง และยังมีผงจากผงจากพระหลวงพ่อคง วัดวังสรรพรสอีกด้วย และที่สำคัญได้มีส่วนผสมจากน้ำมันพระเจ้าตาก และผงว่านดอกทอง , ผงหลวงพ่อรวย วัดตะโก และผงเถ้าอังคารหลวงปู่ทิมที่เป็นสิ่งสำคัญที่สุด นอกจากนั้นแล้วก็ยังมี ผงพรายหลวงพ่อแย้ม ,ผงหลวงพ่อมี , ผงว่านมงคล 108, ผงหลวงพ่อเกษม, ผงหลวงพ่อสุ่น วัดแหลมสิงห์ และยังมีสิ่งวิเศษไม่ว่าจะ แร่วิเศษ ของทนสิทธ์ต่าง ๆ นำมาตำป่นรวมกัน และ ผงวิเศษเขาอ้อ ขุนพันธรักษ์ราชเดช และที่ยิ่งไปกว่านั้นได้ใช้ผงจากพระพุทธรูปในพระอุโบสถหลังเก่าของวัดละหารไร่มาเป็นตัวผสม , ผงดินในถ้ำขุนแผน เมืองกาญจนบุรี และสุดท้ายคือ น้ำมนต์ในวิหารหลวงปู่ทิม

 

หนุมานมหาปราบ หลวงพ่อสาคร เนื้อทองแดงเถื่อน

<h1>หนุมานมหาปราบ หลวงพ่อสาคร เนื้อทองแดงเถื่อน</h1>

<h2>ปฐมบทแห่งนักรบวานรของไทย</h2>
หนุมานเป็นลิงเผือก(กายสีขาว) มีลักษณะพิเศษคือ มีเขี้ยวอยู่กลางเพดานปาก มีกุณฑลขนเพชร สามารถแผลฤทธิ์ให้มี ๔ หน้า ๘ มือ และหาวเป็นดาวเป็นเดือนได้ ใช้ ตรีเพชร (สามง่าม) เป็นอาวุธประจำตัว (จะใช้เมื่อรบกับยักษ์ตัวสำคัญๆ) มีความเก่งกล้ามาก สามารถแปลงกาย หายตัวได้ ทั้งยังอยู่ยงคงกระพันแม้ถูกอาวุธของศัตรูทำร้ายจนตาย เมื่อมีลมพัดก็จะฟื้นขึ้นได้อีก

พระหนุมาน เป็นเทพลิงที่มีความสามารถในการเรียนรู้ ว่องไว ถือกำเนิดจากนางอัญจนา ราชินีลิง หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่กำเนิดโดยเทพเจ้า เป็นผู้ช่วย พระวิษณุ เมื่อครั้งอวตารเป็น พระราม สามารถเหาะได้ เนื่องจากพระบิดาคือ พระวายุ เทพแห่งลม กำเนิดของหนุมานสลับซับซ้อน กล่าวกันว่าพระบิดาของพระราม ได้จัดพิธีเพื่อของโอรส โดยให้มเหสีทั้งสามเสวยขนมองค์ละ ๑ ชิ้น นางไกษเกษี ซึ่งอ่อนชันษาที่สุด ได้รับขนมเป็นองค์สุดท้าย พระนางไม่ชอบขนมนี้ และเมินพระพักตร์นกเหยี่ยวเล็กจึงบินมาคว้าไป มันบินไปในป่า และพบ นางอัญจนา ซึ่งถูกสาปให้เป็นลิง กำลังสวดวิงวินขอบุตรอยู่ ดังนั้นนกเหยี่ยวจึงปล่อยขนม พระวายุก็พัดพาขนมไปตกที่มือของนาง จากนั้น พระศิวะ จึงปรากฎร่างต่อหน้านางและให้นางกินขนม เมื่อนางกิน จึงตั้งครรภ์หนุมานขึ้น ทันทีที่หนุมานเกิดก็มีอาการหิวทันที มารดาจึงไม่พอใจหนุมานนัก ครั้นเมื่อหนุมานเห็นดวงอาทิตย์คิดว่าเป็นผลไม้ จึงกระโดดตามไป ดวงอาทิตย์เคลื่อนหนี หนุมาน ก็ไล่ตามไปไกลจนถึงสวรรค์ของ พระอินทร์ พระอินทร์ทรงใช้วัชระขว้างใส่ขากรรไกรหนุมาน ทำให้หนุมาน หล่นลงมาบนโลก พระวายุ บิดาของหนุมานจึงแก้แค้นให้ โดยเข้าไปสิงอยู่ในร่างของเหล่าเทพเจ้า ทำให้เกิดอาการจุกเสียด พระอินทร์จึงต้องขอขมาพระวายุ และให้พรว่าหนุมานจะเป็นอมตะ (บางคัมภีร์ว่าพระรามให้พรหนุมานให้เป็นอมตะ)

ด้วยเหตุนี้พระหนุมานจึงเป็นพระเครื่องชนิดหนึ่งของเมืองไทยที่เน้นทางด้านอยู่ยงคงกระพัน ขอพรให้มีความกล้าหาญปราบศัตรูพ่าย อีกทั้งยังแฝงไปด้วยเมตตามหานิยมตามตำนานที่พระหนุมานมีเมียมากนั่นเอง

<h3>การจัดสร้าง ปลุกเสกหนุมานของหลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ</h3>

เริ่มจากการนำชนวนโลหะศักดิ์สิทธิ์และแผ่นจารอักขระเลขยันต์ตามสูตรมาหลอมละลายเพื่อเทออกมาเป็นรูปหนุมาน ขั้นตอนที่สองจะเป็นพิธีกรรมชุบตัวหนุมานตามมาด้วยพิธีการอุดก้นหนุมานด้วยการนำเอาผงพุทธคุณ ผงน้ำมันมาผสมกับสีผึ้งเพื่อใช้อุดและแน่นอนครับที่จะขาดเสียมิได้คือผงพรายกุมาร ที่จะต้องกระโดดเข้ามามีเอี่ยวด้วยเสมอผู้เฒ่าผู้แก่ในละแวกวัดหนองกรับที่ยังมีชีวิตและอยู่ทันร่วมยุคสมัยเดียวกับหลวงปู่ทิมได้เล่าให้ผมฟังว่าครั้งหนึ่งในระหว่างที่เขานั่งสนทนากับหลวงปู่ทิม หลวงปู่เคยกล่าวออกมาว่าท่านกำลังรอเด็กที่เกิดใน วันสาม เดือนสาม ปีสาม เพื่อที่จะถ่ายทอดวิชาให้เป็นที่เชื่อกันว่าบุคคลใดก็ตามที่เกิด วันอังคาร เดือนสาม ปีขาล ซึ่งตรงกับ ดวงกำเนิดของหนุมาน จะเป็นผู้ที่มีตบะเดชะและได้โฉลกกับการปลุกเสกหนุมานเป็นอย่างยิ่งปัจจุบันเด็กน้อยที่หลวงปู่ทิมเฝ้ารอ ได้ก้าวเข้ามาเป็นหลวงพ่อในดวงใจของหลายต่อหลายคนในปัจจุบันนี้ จะว่าไปแล้วเรื่องนี้คงต้องยกย่องในความเก่งกล้าของหลวงปู่ทิม เพราะลูกศิษย์ของท่านที่ชื่อ หลวงพ่อสาคร มนุญโญ นี่แหละครับที่เกิด วันสาม เดือนสาม ปีสามในส่วนของพิธีกรรมปลุกเสกนั้นหลวงพ่อบอกว่า ท่านต้องนำหนุมานทั้งหมดมาตั้งไว้บนกองศาสตราวุธ อันได้แก่ พระแสงของ้าว หอกใบพาย หอกสามง่าม หอกคฑาเทพ ไม้คมแฝก ขวาน มีด หน้าไม้ ธนู ปืน ฯลฯ

โดยหลวงพ่อท่านจะทำการปลุกเสกแบบนี้ให้ครบ ๕ เสาร์ ๕ อังคาร ครบถ้วนตามตำราครับ แต่ในวันที่พวกเราไปวัด หนุมานเหล่านี้ยังคงนอนรอ อยู่ในพระอุโบสถของวัดหนองกรับครับเป็น การรอเพื่อ รอฤกษ์ของพิธีกรรมชุบตัวหนุมานครับ
สำหรับขั้นตอนในการชุบตัวหนุมานหลวงพ่อเล่าว่าท่านได้นำเอาว่านยาต่างๆมาบดเป็นผง เช่น ว่านหนุมานประสานกาย ว่านหนุมานนั่งแท่น ว่านนิลพัท ว่านเพชรคง ว่านเพชรกลับ ว่านทรหด ว่านเฒ่าหนังแห้ง ว่านห้าร้อยนาง ว่านไชยมงคลว่านมหาเมฆ ว่านดาบนารายณ์ ว่านปราบสมุทร ว่านมหาปราบ ว่านสบู่เลือด ว่านฤาษีผสม ว่านนางคุ้ม ว่านหอกโมกขศักดิ์ ว่านเถาวัลย์หลง ว่านมหาหงษ์ ว่านขุนแผน ว่านพระเจ้าห้าพระองค์ ว่านมเหศวร ว่านจูงนาง ว่านอึ่ง ว่านนางคำ ว่านช้างประสมโขลง ว่านมหาเสน่ห์ ว่านสาลิกา ว่านพัดโบก ว่านพญากาสัก ฯลฯ ใบไม้รู้นอนทั้ง ๗ ชนิด ดังนี้ ใบมหาระงับ ใบผักกะเฉด ใบกระทืบยอด หญ้าใต้ใบ ใบชุมเห็ด ใบสมิ แคขาว (ทั้งนี้เพื่อถือเป็นเคล็ดของความไม่รู้จักนอน ไม่รู้จักตายเหมือนหนุมาน) ว่านยาต่างๆและใบไม้รู้นอนทั้ง ๗ ชนิดเมื่อนำมาบดเป็นผงแล้ว จึงนำมาผสมกับน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อใช้สำหรับ ชุบตัวหนุมาน

พูดถึงพิธีกรรมชุบตัวกันก่อนพิธีกรรมชุบตัวมีมานานแล้วครับถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คงต้องอ้างเรื่องราวในรามเกียรติ์ ตอน อินทรชิตออกศึก ที่ว่าทศกรรฐ์เมื่อรู้ว่ากุมภกรรณตายก็โกรธแค้นและสั่งให้อินทรชิตไปแก้แค้น ฝ่ายพระรามก็ส่งให้พระลักษณ์ไปรบแทนสงครามตัวแทนที่เกิดขึ้นไม่ปรากฏผลแพ้ชนะในวันเดียว ทั้งพระลักษณ์และอินทรชิต จึงได้นัดหมายมารบกันใหม่ในวันรุ่งขึ้น ก่อนจะถึงวันเสียงปืนแตกนี่แหละครับ อินทรชิตได้แอบไปทำพิธี ชุบศรนาคบาศ ที่เขาอากาศ ครับ...พิธีชุบเหมือนกัน ต่างกันแค่สิ่งนำลงไปชุบ การชุบตัวหนุมานของวัดหนองกรับ ถูกกำหนดขึ้นในวันเสาร์ที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๕๒ ณ พระอุโบสถ วัดหนองกรับ พิธีนี้มีชื่อว่า ชุบตัวหนุมานด้วยศรนารายณ์

จะเห็นได้ว่าการปลุกเสกหนุมานนั้นมีความสลับซับซ้อนมากๆหากจะปลุกเสกอย่างรู้จริงต้องหาผู้จริงด้วยครับ

สนใจบูชาโทรสอบถาม

 

ลูกอมไหว้ครู 56

<h1>ลูกอมไหว้ครู 2556</h1>

ลูกอมย้อนยุคหลวงปู่ทิม อิสริโก รุ่นไหว้ครูออกปี 2556 จัดสร้างอย่างเข้มขลังตามแบบฉบับหลวงปู่ทิมอิสริโกทุกประการ อีกหนึ่งทางเลือกของผู้ที่ศรัทธาในหลวงปู่และต้องการได้ผงพรายกุมารมาบูชาแต่ไม่มีทุนทรัพย์มาก

<h2>ประวัติผงพรายกุมารอย่างคร่าวๆ</h2>

หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ “ ผู้ที่มีวิชาคาถาอาคมขอเสนอตัวรับอาสาสนองพระคุณหลวงปู่ทิม ไปนำ กะโหลกพรายกุมาร วัตถุอาถรรพ์สำคัญยิ่ง มาเพื่อสร้างปลุกเสกเป็น ผงพรายกุมารมหาภูติ ระหว่างทางที่จะไปนำ กะโหลกพรายกุมารนั้น ก็ต้องพบกับอิทธิฤทธิ์ของอาจารย์พรายนายป่าช้า แม่นางพราย และพรายกุมาร จึงทำให้การสร้างผงพรายกุมารมหาภูตินั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เมื่อได้กระโหลกพรายกุมารมาแล้วจึงใส่ห่อผ้าเก็บไว้หลังพระประธานในพระอุโบสถหลังเก่า เป็นระยะเวลาประมาณสามถึงสี่เดือน จนกระโหลกพรายกุมารแห้งสนิทหมดกลิ่นดีแล้ว จึงนำมาโขลกตำให้ละเอียดแล้วผสมกับผงวิเศษสำคัญต่างๆ ที่หลวงปู่ทิมมอบให้มาจนครบทั้งหมดผสมน้ำแช่เกสรบัวทั้งห้า ปั้นเป็นแท่งขนาดใหญ่ แล้วตากแดดไว้ เมื่อได้ฤกษ์งามยามดี จึงจะนำแท่งผงปั้นนี้มาเขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ บนกระดานชนวน กระทำในพระอุโบสถหลังเก่า ท่ามกลางการเจริญพระพุทธมนต์ของพระสงฆ์ ๙ รูป โดยหลวงปู่ทิมอิสริโก เขียนอักขระพระยันต์ต่างๆ ลงบนกระดานชนวนแล้วลบผงก่อนเป็นปฐมฤกษ์ แล้วจึงมอบให้หมอกุหลาบ จ้อยเจริญ เป็นผู้ลงอักขระพระยันต์และลบผงต่อไป

<h3> ทำไมต้องบูชาลูกอมผงพรายกุมาร ? </h3>

ลูกอมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิม เรียกว่าเป็นลูกอมที่มีผงพรายเข้มข้นมากที่สุด และมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร และมีอานุภาพแห่งพรายกุมารมหาภูติแฝงอยู่คอยช่วยเหลือเอื้ออำนวยพร ให้หลายๆคนที่บูชานั้นแคล้วคลาดโชคดี ซึ่งหลวงปู่ทิมได้กล่าวว่าหากได้ผงพรายกุมารมหาภูติผสมใส่ลงไปด้วย พระเครื่องที่สร้างขึ้นนี้จะมีความศักดิ์สิทธิ์มาก เป็นที่ยอมรับกันแล้วว่าลูกอมผงพรายกุมารที่ปลุกเสกโดย หลวงปู่ทิม อิสริโก เป็นสุดยอดเครื่องรางอีกชิ้นหนึ่งที่นิยมมากๆในเมืองไทย

หากจะหาลูกอมผงพรายมาบูชาในปัจจุบัน หากเป็นของดั้งเดิมของหลวงปู่ทิมอิสริโก ปฐมบทตำนานพรายกุมารอันลือลั่นของประเทศคงต้องรู้ข้อมูลเบื้องต้นก่อนว่า ลูกอมผงพรายกุมารแบ่งออกเป็นทั้งหมดสามยุค โดยจะลำดับได้ดังนี้

ลูกอมผงพรายกุมารยุคต้น เนื้อค่อนข้างมีมวลสารจัดๆออกสีดำๆ

ลูกอมผงพรายกุมารยุคกลาง จะเป็นบรอนซ์น้ำมัน หรือ เรียกว่าบรอนซ์วานิช

ลูกอมผงพรายกุมารยุคปลาย บรอนซ์ฝุ่น

อันไหนที่นิยมสุดเราบอกได้เลยครับว่าเป็นบรอนซ์ฝุ่นนิยมหรือมาตรฐาน ราคาตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไปตามสภาพครับ เห็นราคาแล้วบางท่านอาจะรับไม่ไหวกับราคานี้หรือบางท่านอาจจะหวาดระแวงของปลอมที่เป็นระดับมหากาฬเลย ดังนั้นเรามีลูกอมยุคใหม่เป็นรุ่นใหม่ที่ใช้มวลสารเดิมๆของหลวงปู่ทิมอิสริโก และ ผงวิเศษนานาชนิดของเกจิทั่วฟ้าเมืองไทย

<h4> ลูกอมผงพรายกุมาร 56 มวลสารและการจัดสร้าง </h4>

ลูกอมผงพรายกุมารรุ่นไหว้ครู 56 ได้จัดสร้างตามตำหรับหลวงปูทิม อิสริโก วัดละหารไร่ ทุกประการ โดยผสมผงพรายกุมาร และมวลสารตลอดจนผงวิเศษ, ผงพุทธคุณที่ได้รับการปลุกเสกและอธิษฐานจากหลวงปู่และของเก่า,ผงเก่าที่เหลือจากการสร้าง “ ขุนแผนพรายกุมาร ” ที่มีชื่อโด่งดังจนทุกวันนี้ทางลูกศิษย์ได้เก็บรักษาไวและยอมเสียสละผงวิเศษผงเก่านำมาผสมลงไปในมวลสารหลายชนิดและยังเอา “ ลูกอม ” รวมทั้ง “ ใบโพธิ์ ” ที่บรรจุในพระบูชาที่หลวงปูบรรจุให้และเปิดฐานพระครูเมื่อปี 55 นำมาผสมลงไปใน ลูกอมรุ่นไหว้ครู 56

มวลสารที่ใช้ผสมทำผงลูกอมผงพรายกุมาร รุ่นไหว้ครู 2556


1. ถ่านที่ใช้ในงานฌาปณากิจ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ปี 2526
2. พรายขาว หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
3. สีผึ้งหลวงตาต๋อง ( สีผึ้งที่ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ท่านหวงมากที่สุด )
4. เกศา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
5. ดินสอพองเสก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
6. ผงกรามช้างน้ำ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
7. สีผึ้งเหลือง สีผึ้งยุคแรก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
8. สีผึงดำ สีผึ้งยุคแรก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
9. ผงที่ใช้อุดก้นพระกริ่งชินบัญชรก้นอุดผง หนุมานก้นอุดผง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
10. ลูกอมหลวงปู่ทิม ที่หลวงปู่ทิมอุดมาในฐานพระ ที่เปิดในวันครอบครู 2555
11. ใบโพธิ์หลวงปู่ทิม ที่หลวงปู่ทิมอุดมาในฐานพระ ที่เปิดในวันครอบครู 2555
12. ผงใบลาน หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
13. ผงวิเศษ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ( ผงที่หลวงปู่แก้วขอหลวงปู่ทิมมาทำพระของท่าน )
14. ผงกะลาไม่มีตา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
15. ผงไม้คันพัดโบก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
16. ผงที่ใช้ทำขุนแผน เนื้อชมพู หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
17. ผงชนวนพระกริ่งชินบัญชร ปี 2517 หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
18. ผงพรายกุมาร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
19. ผงมหาราช หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
20. ผงอิทธิเจ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
21. ผงอิติปิโส หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
22. ผงจินดามณี หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
23. เม็ดยา หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
24. แป้งเสกสัตมาส หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
25. ทรายเสก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
26. ข้าสารดำ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
27. ผงเทพธาโร หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
28. ผงว่านดอกทอง หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
29. ผงบรอนซ์ทอง ปี 2517 หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
30. ผงก้านมะลิ ( ที่ใช้ทำสมเด็จหลวงตาบาง ) หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
31. ทับทิมเสก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
32. ลูกอมไมราพ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
33. ลูกอมผงพรายกุมาร ยุคแรก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
34. พระธาตุ วัดถ้ำเขากวางทอง จ.อุทัยธานี
35. ผงหลวงปู่ศรี วัดอ่างศิลา จ.ชลบุรี
36. แป้งเสก หลวงปู่บุดดา ถาวโร วัดกลางชูศรีเจริญสุข จ.สิงห์บุรี
37. ทรายทองเสก หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
38. ทรายเงินเสก หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ จ.นครราชสีมา
39. ผงกะลาตาเดียว หลวงพ่อนิยม วัดตะเคียนเตี้ย จ.ชลบุรี
40. ผงหลวงปู่มุ่ย วัดดอนไร่ จ.สุพรณบุรี
41. ผงบางขุนพรหม ปี 2500
42. ผงหลวงปู่กาหลง เขี้ยวแก้ว วัดเขาแหลม จ.สระแก้ว
43. ผงหัวเชื้อที่ใช้อุดพระกริ่งชินบัญชร 2556 หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ จ.ระยอง
44. ผงหัวเชื้อที่ใช้อุดพระกริ่งทิมภิรัติ 2556
45. ผงหัวเชื้อที่ใช้ทำขุนแผนเทพนิมิต วัดหนองกรับ 2555
46. ผงหัวเชื้อที่ใช้ทำพระรุ่นเปิดพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัติ 2554
47. รังต่อแตนเสก
48. ลูกอมหลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว จ.สระบุรี
49. พระพุทธกวัก หลวงปู่พรหมมา วัดสวนหินผานางคอย จ.อุบลราชธานี
50. น้ำมันอิ้นเสน่ห์ หลวงปู่ชื่น วัดตาอี
51. น้ำมันเสือ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
52. น้ำมันแม่ทัพ หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า
53. น้ำมันงาดิบ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
54. น้ำมันงาสุก หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
55. น้ำมันมนต์ หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
56. น้ำมันหอม หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่
57. น้ำมันมหาทมึน หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี
58. น้ำมันเสก หลวงพ่อแผน วัดหนองติม จ.สระแก้ว
59. สีผึ้ง หลวงพ่อทาบ วัดกระบกผึ้ง จ.ระยอง
60. สีผึ้ง หลวงพ่อโต วัดเขาชากกระโดน จ.ระยอง
61. สีผึ้ง หลวงพ่อหิน วัดหนองสนม จ.ระยอง
62. สีผึ้ง หลวงพ่อผุด วัดวังเวียน จ.ระยอง
63. สีผึ้ง หลวงพ่อหนิด วัดท่ากง จ.ระยอง
64. สีผึ้ง หลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก จ.ระยอง
65. สีผึ้ง หลวงพ่ออ่ำ วัดวงฆ้อง จ.อยุธยา
66. สีผึ้ง หลวงพ่อวงศ์ วัดบ้านค่าย จ.ระยอง
67. สีผึ้ง หลวงปู่สุข วัดโพธิ์ทรายทอง จ.บุรีรัมย์
68. สีผึ้ง หลวงพ่อปี่ พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
69. สีผึ้ง หลวงพ่ออี๋ สัตหีบ จ.ชลบุรี
70. สีผึ้ง หลวงพ่อเหล็ง วัดโคกเพลาะ จ.ชลบุรี
71. แป้งเสก หลวงพ่อเหล็ง วัดโคกเพลาะ จ.ชลบุรี
72. สีผึ้ง หลวงปู่หงส์ วัดเพชรบุรี จ.สุรินทร์
73. สีผึ้ง หลวงปู่รอด ฐิตวิริโย วัดสันติกาวาส จ.พิษณุโลก
74. สีผึ้ง หลวงปู่ทองฤทธิ์ อุตตาโม วัดป่าฉันทนิมิต
75. สีผึ้ง หลวงปู่ชื่น วัดตาอี จ.บุรีรัมย์
76. สีผึ้ง หลวงปู่ฤทธิ์ รตุนโชโต วัดชลประทานราชดำริ จ.บุรีรัมย์
77. สีผึ้ง หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว จ.สระบุรี
78. สีผึ้ง หลวงพ่อกล้วย วัดหมูดุด จ.จันทบุรี
79. สีผึ้ง หลวงปู่มัง วัดบ้านแพ้ว
80. สีผึ้ง หลวงพ่อคง วัดตะคร้อ จ.นครราชสีมา
81. สีผึ้ง หลวงพ่อโอน วัดโคกเดือ จ.นครสวรรค์
82. สีผึ้ง หลวงพ่อทอง วัดป่ากอ อ.นาหม่อม จ.สงขลา
83. สีผึ้ง หลวงพ่อใย วัดมะขาม จ.จันทบุรี
84. สีผึ้ง หลวงปู่คีย์ วัดศรีลำยอง จ.สุรินทร์
85. สีผึ้ง หลวงพ่อสาย วัดท้องคุ้ง จ.อ่างทอง
86. สีผึ้ง หลวงพ่อฝ้าย วัดมะทาย จ.จันทบุรี
87. สีผึ้ง หลวงพ่อสำลี วัดห้วยยาง จ.ชลบุรี
88. สีผึ้ง หลวงพ่อจี๊ด วัดลาดขวาง จ.ฉะเชิงเทรา
89. สีผึ้ง หลวงพ่อผอง ธมมธีโร วัดพรหมยาม จ.เพชรบูรณ์
90. สีผึ้ง หลวงพ่อแดง วัดห้วยฉลองราษฎร์ จ.อุตรดิตถ์
91. สีผึ้ง หลวงพ่อตาบ วัดมะขามเรียง จ.สระแก้ว
92. สีผึ้ง หลวงปู่เฒ่าแห้ง
93. สีผึ้ง หลวงพ่อลาภ วัดท้ายย่าน จ.อ่างทอง
94. ชานหมาก รวมคณจารย์

ลูกอมหลวงปู่ทิม รุ่นไหว้ครูปี 2556 รุ่นนี้ออกจากพิพิธภัณฑ์บุญญาภิรัต ลูกอมรุ่นนี้มีมวลสารเยอะมากๆทั้งผงพรายกุมาร สีผึ้งของคณาจารย์ต่างๆ อีกทั้งผงวิเศษอื่นๆ ลูกนี้ออกสีดำๆแก่สีผึ้งมากๆ พุทธคุณไม่ต่างจากลูกอมผงพรายกุมารหลวงปู่ทิมยุคแรกที่ราคาแพงจนจับต้องไม่ไหวอีกทั้งมีของปลอมระบาด ใครที่มองหาวัตถุมงคลของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่

1500/ ลูกครับ

 

พระกริ่งหลวงพ่อดาบส สมโน เนื้อนวะโลหะ

<h1>พระกริ่งหลวงปู่ดาบส สุมโณ เนื้อนวะโลหะปี 2531</h1>

หลวงปู่ดาบส สุมโณ ท่านเป็นพระอริยะเจ้า ที่บำเพ็ญพระโพธิญาน บารมีท่านสูงมากๆ ครูบาอาจารย์หลายท่าน ให้ความยกย่อง บางท่านให้ศิษย์ไปกราบไว้ ไปทำบุญ ไปเรียนวิชากับท่าน เช่น หลวงพ่อฤาษีลิงดำ หลวงปู่เกษม เขมโก หลวงปู่ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง หลวงปู่ดู่ วัดสะแก เป็นต้น.. ขนาดหัวใจของท่าน ยังเผาไม่ไหม้ แถมยังแปรสภาพเป็น สีเขียวมรกต อีกด้วย

<h2>ประวัติหลวงพ่อดาบส</h2>

หลวงตาวัชรชัย วัดเขาวงศ์ถ้ำนารายณ์ จ.สระบุรี
เรื่องเล่าจากหลวงตาวัชรชัย

ครั้ง หนึ่ง ตอนบวชได้พรรษา ๒ หลวงตาได้เที่ยวไปพบพระดีเข้าอีกองค์หนึ่งที่จังหวัดเชียงราย คือ หลวงปู่ดาบส สุมโน แห่งสำนักไผ่มรกต ที่กล้าเรียกท่านว่าพระดี ก็เพราะว่าท่านดีต่อหลวงตา และได้มอบความดีให้หลวงตาประมาณไม่ได้และความดีศรีสุขอันนั้นมันเกี่ยวกับ หลวงพ่อฤๅษี ฯ โดยตรงเสียด้วย

ครั้งแรกที่ไปกราบหลวงปู่ดาบส ท่านก็ทักถูกใจเราทันทีว่า
"อยู่กับหลวงพ่อฤๅษี ฯ สอนมโนมยิทธิหรือ?"
"ครับผม"
"อภิญญาสมาบัติที่ทรงอยู่ คล่องดีแล้วใช่ไหม?"

ตอนนี้หลวงตาตกใจ เพราะเข้าใจว่าเรื่องอภิญญาสมาบัติเป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าตัวเองจะยอมรับว่า "ทำได้คล่อง" จึงตอบไปว่า

"ไม่ใช่ขอรับ ผมยังไม่ได้อภิญญา ผมพยายามทำตามที่หลวงพ่อท่านสอน และแนะนำคนอื่นเท่าที่จะนึกได้"

"นั่นแหละ เขาเรียกว่าอภิญญา พระอรหันต์ทั้งหลายท่านก็ใช้อย่างนี้ พระพุทธเจ้าก็ทรงใช้อย่างนี้ ใช้แบบวิธีเหมือนกันแต่ความบริสุทธิ์ไม่เหมือนกัน ความมั่นใจไม่เท่ากัน ใจที่บริสุทธิ์มาก มั่นคงมั่นใจมาก ก็ใช้ได้คล่องแคล่วชัดเจนมาก บริสุทธิ์ถึงที่สุด มั่นคง มั่นใจไม่สงสัย ก็ใช้ได้ถึงที่สุด เป็นเรื่องธรรมดา"

หลวงตาเข้าใจ แต่ยังไม่มั่นใจ

แล้วหลวงปู่ดาบสก็มองหน้าหลวงตา พูดเสียงชัดเจนว่า

"ออกจากวัดท่าซุง มาอยู่ด้วยกันไหม มาหาที่สงบซุ่มปฏิบัติธรรมให้สมใจ สมวาสนาบารมี"

"พอสบายจบกิจแล้วจะได้ตั้งสำนักใหม่ สอนพระกรรมฐานให้มีชื่อลือลั่น ไว้ชื่อครูบาอาจารย์ ว่าเรานี่แหละลูกศิษย์หลวงพ่อฤๅษีฯ"

"...................................."

หลวงตาตกใจ เจ้าประคุณเอ๋ย ความในใจที่อุตริคิดฝังไว้ก้นบึ้งดวงใจไม่เคยเล่าสู่ใคร ไม่เคยถามไถ่แม้แต่หลวงพ่อฤๅษี ฯ คิดซ่อนเร้นไว้กว่า ๑๐ ปี ถึง ๔ ข้อ บัดนี้ได้ถูกหลวงปู่ดาบสไขออกมาไม่มีเหลือ กำลังใจขณะนั้นได้ตอบท่านไปใน ๒ ข้อแรก (และรับรู้ใน ๒ ประการหลัง ซึ่งจะไม่บอกใครจนวันตาย)

"ไม่เอาครับ หลวงปู่ ผมจะไม่ไปไหน ผมจะอยู่กับหลวงพ่อในวัดท่าซุงตลอดไป"

"ดีแล้ว" ท่านยิ้มยืนยันว่า

"ถูกต้องแล้ว อยู่ที่นั่นไม่ต้องไปที่ไหน"

"เรื่องธุดงค์บางองค์ก็ไม่ต้องธุดงค์หรอก การที่พระสงฆ์ท่านออกธุดงค์กันในที่ต่างๆ ก็เอาคำสอนครูบาอาจารย์ที่น้อมรับเอาไปใส่ใจ แล้วก็ประคองใจอันนั้น ไปหาต้นไม้ หาถ้ำ หาที่วิเวกเหมาะกับจิตใจ เอาเป็นที่บำเพ็ญความเพียรพิจารณาธรรมอันนั้นจนได้มรรคได้ผล แล้วก็ต้องกลับไปอยู่กับผู้คนแทนคุณพระศาสนา แต่ที่วัดท่าซุงนะ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง คือ ต้นหลวงพ่อฤๅษี ฯ ร่มรื่น ร่มเงาเย็นสบาย ผลไม้อริยผลก็ออกดอกเต็มต้น ไปนั่งนอนเดินยืนอยู่ใต้ต้นไม้นั้น อย่าจากไปไหน แล้วก็ประคองมือเอื้อมเด็ดผลไม้ มากินให้หวานชื่นใจด้วยความเคารพ ก็จะบรรลุมรรผลได้ในชีวิตนี้"

ลูกหลานเอย..หลวงตาต้องกล้าเขียนต่อ บอกแล้วว่ามันยากที่จะเล่าให้ฟังตามตรง ๆ ที่หลวงปู่พูดถึงหลวงพ่อฤๅษีฯ ว่า

"พระคุณเจ้าองค์นั้นเป็นอรหันต์องค์เอกองค์หนึ่งของโลกในปลายศาสนา ๕๐๐๐ ปี
จะหาใครสอนเสมอเหมือนพระคุณท่านหาไม่ได้แล้ว พระคุณท่านองค์นั้นสอนได้คล้ายพระพุทธเจ้าสอน เพราะท่านปรารถนาพระโพธิญาณ ถ้าท่านไม่ลาพุทธภูมิหักใจเป็นพระอรหันตสาวกเสียก่อน
ท่านเทศน์คราวไร เรา..พวกเรานี้ที่บำเพ็ญบารมีตามท่านมา ก็จะฟังเทศน์จากท่านเพียงครั้งเดียว
ก็จะเป็นพระอรหันต์ตามได้

จำไว้นะ ! กลับไปฟังคำสอนของพระคุณท่าน ฟังเทปของท่าน ดูวีดีโอของท่าน ให้ส่งจิตคิดตามเสียงท่านประหนึ่งว่าเป็นเสียงในใจเรา ก็อาจจะบรรลุมรรคผลได้ตามที่ตัดสินใจ ตามเสียงนั้นเฉพาะหน้า เหมือนฟังจากพระพุทธเจ้านั่นแหละ องค์นี้หาใครสอนได้เสมือนท่านยากนักหนาแล้ว" นี่หลวงตาเล่าให้ฟังตามที่ได้พบเห็นได้ยินมาเฉพาะตัวหลวงตาเอง ท่านใดจะชื่นชมสมใจหรือแหนงหน่าย อึดอัดก็โปรดเป็นไปตามกฎธรรมดา ตามปรารถนาเถิด..

แล้วหลวงตาก็กลับวัด ก่อนลาหลวงปู่กลับ ก็ถ่ายรูปร่วมกับท่านมาภาพหนึ่ง กลับมาถึงก็เล่าให้พี่น้องบรรพชิตและฆราวาสฟังว่า มีหลวงปู่ดาบส แห่งสำนักไผ่มรกต จังหวัดเชียงราย ท่านพูดถึงพ่อเราอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วท่านก็งามนักหนา ทั้งหน้าตามารยาท ถ้าพ่อเราเป็นพระอาทิตย์เต็มองค์ทรงกลด หลวงปู่ดาบสก็งามเหมือนพระจันทร์วันเพ็ญที่ไม่มีเมฆหมอกมาบดบัง แล้วก็เอารูปของท่านออกมาอวดไปทั่ววัด

ก็อวดมาถึงหลวงพี่วิรัช ท่านก็เอาไปเล่าอวดหลวงพ่อพร้อมรูปใบนั้น พ่อเราฟังไป ดูรูปไป ก็ส่งรูปคืนให้หลวงพี่วิรัช พร้อมกับพูดลอย ๆ ออกมาว่า

"เออ.. ๒๐ ปีแล้วซีนะ"

หลวงพี่วิรัชก็กลับมาบอกคืนหลวงตาว่า คงเป็นเพื่อนหลวงพ่อ ไม่ได้พบกัน ๒๐ ปีกระมัง

พอตอนเย็น ไปทำวัตรเย็นและปฏิบัติกรรมฐาน หลวงพี่อนันต์ เรียกหลวงตาเข้าไปหาแล้วบอกว่า

"หลวงพ่อให้บอกท่านว่า พระเจ้าของรูปนั้นได้อรหันต์มา ๒๐ ปีแล้ว"

 

สุดยอดแห่งเมตตามหานิยมแห่งเมืองเหนือ

<h1>ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ อนาวิโล วัดหนองช้างคืน จ ลำพูน</h1>

คงไม่มีขุนแผนรุ่นไหนแห่งเมืองล้านนาที่จะเป็นสุดยอดของขุนแผนอีกแล้ว ทั้งด้านมวลสาร รูปลักษณ์ และ เกจิที่ปลุกเสก ประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือจนได้รับความนิยมทั้งประเทศ ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ

<h2> ปฐมบทการจัดสร้างขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ </h2>
ขออ้างอิงบทความจากบล็อก ร้านพระเครื่องไม้มงคล อ ต้นไม้มงคล

ขุนแผนครูบาจันต๊ะ(รุ่นแรก) ออกปีพ.ศ.2537 มีส่วนผสมผงสมเด็จหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐและ

ผงพรายกมารของปู่ทิมที่ลูกศิตษ์เก็บไว้นำผสมกับ พระคง พระเปิม ที่หักด้วย คุณวิเศษไปทาง

ด้านเมตตา มหานิยม องค์ที่แต้มแดงเอาไปให้หลวงพ่อคูณเสกเพิ่มอีกที่ครับคนสร้างเป็นคนเอา

ไปให้ หลวงปู่เองครับ ถือเป็นขุนแผนแห่งเมืองเหนือครับ ใครมีไว้ใช้บอกสุดยอดมากเลยครับ

สาวรักสาวหลงครับ และพุทธคุณที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในหมู่นักเล่นพระเชียงใหม่

ลำพูน จำนวนสร้างชัดเจน และมีจำกัด ปัจจุบันเริ่มหายากแล้ว เพราะคนพากันหัน

มาเก็บกันมากขึ้น พระขุนแผนมีจำนวนการสร้างทั้งหมดเพียง 6,337 องค์เท่านั้น (รวมทุกสี)

ด้านหลังองค์พระมีทั้งปั้มตราวัด จาร และไม่มีตราวัดครับ ปี2544 ก่อนที่ครูบาจะมรณภาพได้





ขุนแผนรุ่นแรกครูบาจันต๊ะ มีหลายสี และ เนื้อหลากหลายโซน ปัจจุบันหายากมากๆของปลอมทำเลียนแบบได้เหมือนจนน่ากลัวดังนั้นเช่าหาต้องระวังกันนิดนึงครับ

ขุนแผนครูบาจันต๊ะรุ่นแรก ขุนแผนครูบาจันต๊ะ อนาวิโล สร้างขึ้นเมื่อปี 2537

โดยคุณเมี้ยน เปียผ่องเป็นผู้ถวาย ลักษณะของพระขุนแผนเป็นทรงนั่งประทับมารวิชัย ในซุ้มเรือนแก้ว ลักษณะรูปห้าเหลี่ยม แบ่งแยกทั้งหมดได้ 4 พิมพ์ อันได้แก่ พิมพ์เกศสั้น พิมพ์ตาโปน พิมพ์ขอบตก และ พิมพ์หูติ่ง แบ่งแยกสีทั้งหมดได้ 5 สี คือ ขาว แดง เหลือง เขียว ( สีทหาร ) และดำครับ สำหรับสีขาวและสีเขียวทหาร สร้างน้อยที่สุด สีขาวเป็นสีเดิมของเนื้อมวลสารที่นำมาสร้างพระขุนแผนรุ่นแรก แต่พอกดพิมพ์พระได้ไม่มาก เกิดการเลอะและเปื้อนของเนื้อพระ ทำให้แลดูแล้วไม่สวยงาม จึงมีการเปลี่ยนสีของมวลสารพระให้หลากหลายขึ้น ได้แก่สีเหลืองซึ่งใช้สีผสมอาหารและผงขมิ้นบดผสมลงไป จากนั้นจึงเปลี่ยนมาทำสีแดงซึ่งใช้สีผสมอาหารผสมกับผงกระเบื้องโบสถ์ มาตำให้ละเอียดแล้วผสมลงไป พอกดพระขุนแผนได้จำนวนมากพอแล้วปรากฏว่ามวลสารที่ใช้กดนั้นเหลือน้อยมาก จึงมีการเผาใบลานผสมลงไปกลายเป็นสีดำครับ ซึ่งถ้าครกใดผสมผงใบลานน้อยเนื้อพระก็จะออกเป็นสีเขียวทหาร หรือเทาครับ โดยวัตถุประสงค์ในการสร้างนั้นก็เพื่อสมทบทุนในการสร้างศาลาหลังใหม่ ถ้าทำบุญไม่ว่าจะมากหรือ น้อยก็ได้แค่คนละองค์เท่านั้นครับ

จำนวนในการสร้างพระขุนแผนนั้นประมาณ 6,000 องค์เศษ พอถวายให้ท่านครูบาแล้ว ก็จัดการแบ่งพระออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกถวายให้ท่านครูบาประมาณ 4,000 องค์ ส่วนที่สองได้นำไปถวายให้วัดที่ภาคกลาง ซึ่งไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าวัดอะไร แต่สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นวัดที่ จ.เพชรบุรี และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ อีก 2,000 องค์ โดยการที่ถวายให้ครูบาจันต๊ะ อนาวิโล 4,000 องค์นั้น ท่านครูบาจันต๊ะได้นำออกมาให้ประชาชนร่วมทำบุญได้ประมาณ 3,000 องค์เท่านั้น ส่วนพระที่ยังเหลือได้เก็บไว้ในลังกระดาษ และบาตรในกุฏิของพระเลขาของวัด จากนั้นได้เกิดไฟไหม้กุฏิขึ้น โดยมีการขนย้ายของมีค่าและพระเครื่องอย่างชุลมุน ทำให้พระส่วนหนึ่งที่อยู่ในบาตร กระเด็นตกพื้นลอดช่องไม้กระดานที่พื้น ตกลงไปในใต้ถุนกุฏิ อีกส่วนหนึ่งได้ถูกไฟใหม้หมด เมื่อไฟมอดดับลงได้พบว่า ได้มีพระส่วนหนึ่งตกอยู่ใต้ถุนกุฏิ และเปียกน้ำเนื่องจากการดับไฟ จึงมีการนำพระที่เก็บได้นี้ไปทิ้งไว้บริเวณกอไม้ไผ่หลังวัด ซึ่งเมื่อหลังจากที่ครูบาท่านได้มรณะภาพแล้ว ได้มีการรื้อกอไม้ไผ่หลังวัดเพื่อจะจัดบริเวณเพื่อประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพ ได้พบพระขุนแผนชุดนี้ ซึ่งพบว่าเนื้อของพระนั้นเกิดการผุกร่อนผิวลอกและบางองค์มีคราบราดำคล้ายคราบกรุเกิดขึ้น โดยจำนวนที่พบนั้นประมาณ 100 องค์เท่านั้น จึงมีการเรียกพระชุดนี้ว่า กรุกอไม้ไผ่

 

หนุมานมหาปราบ หลวงพ่อสาคร เนื้อทองแดงเถื่อน (2)

หนุมานมหาปราบจัดสร้างตามตำราหลวงปู่ทิม อิสริโก ตนนี้เป็นเนื้อทองแดงเถื่อน ปัจจุบันหายากยิ่ง ประสบการณ์เพียบครับ

 

ขุนแผนรุ่นสอง ครูบาจันต๊๊ะ สวยมาก

ขุนแผนครูบาจันต๊ะรุ่น 2 สภาพสวยพระตึงคมกริบ สนใจโทรสอบถามได้ครับ

 

ลูกอมไหว้ครู 56 สภาพสวย

ลูกอมไหว้ครู 56 มวลสารเก่าของหลวงปู่ทิมเยอะมากๆ ทั้งสีผึ้งเกจิคณาจารย์ทั้งประเทศ

 

ขุนแผนแสนแสบ ตะกรุดทองคำ สวยแชมป์

<h1>ขุนแผนแสนแสบ ตะกรุดทองคำ สวยแชมป์</h1>

ขุนแผนแสนแสบ จัดสร้างโดยมูลนิธิหลวงปู่ทิม ถอดพิมพ์จากขุนแผนบล็อกแรกของหลวงปู่ทิม อิสริโก มวลสารอาถรรพ์นานาชนิด (มากกว่า 20 ชนิด)

 

พรายแรงๆ ขุนแผนพรทิพย์

สาระกับพระเครื่องพรีเมี่ยม: พรายแรงๆ ขุนแผนพรทิพย์