พระอมิตาภะพุทธเจ้า

ขอรบกวนถามผู้รู้ครับว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าคือพระพุทธเจ้าองค์ไหนครับ

 

คือตอนแรกผมก็เข้าใจเหมือนที่พี่บอกอะครับ
แต่เหมือนว่าตอนหลังผมได้ยินมาว่าพระอมิตาภะพุทธเจ้าเป็นตำนานของฝ่ายมหายาน จริงๆแล้วพระอมิตาภะพุทธเจ้าคือองค์เดียวกับพระสมณโคดมของเราอะครับ ผมจึงรู้สึกสับสนไม่ทราบว่าความเข้าใจตอนแรกหรือตอนหลังถูกอะครับ

เลยอยากถามพี่นพกานต์ว่าที่พี่บอกผมนี่แน่ใจไหมครับ

 

ขอรบกวนถามอีกคำถามครับ เจ้าแม่กวนอิมกับพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ท่านคือองค์เดียวกันไหมครับ แล้วท่านเป็นใครครับ ท่านปรารถนาอะไรครับ

 

ขอบคุณมากครับ คุณนักรบเงา

 

สมัยก่อน ตอนที่ผมลดอาหาร เพื่อจะลดความอ้วน
ทีนี้ตามสูตรลดน้ำหนัก เราจะกินอะไรไม่ได้ นอกจากอาหารเหลวตามที่สูตรเขากำหนดให้มา
ซึ่งมันคือน้ำผลไม้ชนิดหนึ่งกับดื่มน้ำชาและน้ำเปล่า
อดแบบนี้เดือนหนึ่ง แล้วก็เลิกหนึ่งอาทิตย์ แล้วก็อดต่ออีกเดือนหนึ่ง
ทีนี้เวลาที่ไปให้คนเห็นผีดูว่ามีเทพองค์ไหนมารักษาไหม
เขาบอกว่าเจ้าแม่กวนอิม(เขาไม่รู้เรื่องนี้ เพราะตอนที่เราไปพบเขาครั้งแรก
เราก็อดอาหารมาเกือบครบสองเดือนอยู่แล้ว และเราไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง)
ก็นับว่าประหลาดมาก เราจึงมีความเข้าใจว่า ถ้าถือศีลกินเจ ไม่กินเนื้อสัตว์
เจ้าแม่กวนอิมคงจะมาปกป้องรักษา
แต่ต่อมา เรากลับมากินอาหารตามปกติ(กินเนื้อสัตว์)
เมื่อกลับมาให้เขาดู ก็ปรากฏว่า เจ้าแม่กวนอิมไม่อยู่แล้ว แต่เป็นเทพองค์อื่น

 

เอาตามประวัติศาสตร์จริงๆ พระพุทธเจ้ามีองค์เดียวเท่านั้นครับ

ส่วนเรื่องในพระไตรปิฎกฉบับฝั่งหินยาน เป็นหลักฐานว่าพระพุทธเจ้าท่านกล่าวถึงพระพุทธเจ้าในอดีตและอนาคตด้วย (ซึ่งมีความพิศดารเกี่ยวกับมิติกาลเวลาที่อาจไม่ได้มีการอธิบายเอาไว้)

ก็ด้วยความพิศดารเกี่ยวกับมิติกาลเวลานั้นแหละ เป็นสิ่งที่ไม่ได้อธิบายกันได้ง่ายๆ นอกจาก ญาณ หรือการหยั่งรู้พิเศษ (เฉพาะบุคคลที่มีซึ่งก็น้อยคน)

แล้วประกอบกับฝั่งพราหมณ์ สร้างสิ่งที่คนอินเดีย ก็พูดเองว่า ไม่อาจนับว่าเป็นประวัติศาสตร์ที่มีหลักฐานได้ แต่เรื่องปุรากลายเป็นวรรณกรรมทางศาสนา แต่อิงอยู่บนพื้นฐานที่ชาวบ้าน (อินเดียยุคนั้น) เชื่อว่า วรรณกรรมนั้นจริง เป็นเรื่องจริง

พระราม พระกฤษณะ ตัวตนจริง ผนวกเข้ากับพรหมและเทพดั้งเดิมเข้าด้วยกัน ก็กลายเป็น ปรมาตมัน

มันเป็นคำตอบ ที่ตอบคำถามทางอภิปรัชญา ซึ่งพระพุทธองค์ท่านไม่ได้ตรัสตอบตามจริตที่คนอยากเชื่อ เพราะพระองค์ตรัสสอนตามจริง ซึ่งมันฝืนความคิดเชื่อของคน ที่เชื่อว่า ต้องมีผู้สร้างอยู่ หรือมีสิ่งที่มาก่อนอยู่

เป็นเวลาเป็นพันปีที่มีการถกเรื่อง อภิปรัชญา แต่ศาสนาพุทธตอนนั้น ถูกมองโดยคนทั่วไปและนักคิดในยุคนั้นว่า ไม่สามารถตอบคำถามที่ชัดเจน (ตรงจริตคนได้) พวกเค้าเหล่านั้นคิดไปว่า พระไม่ยอมตอบคำถามและปกปิด จนถึงข้อกล่าวหาว่า ไม่อาจตอบข้อโต้แย้งที่ลากเอาคนในฝ่ายพุทธเข้าไปสู่วังวน อภิปรัชญา ออกห่างจาก คำสอนของพระพุทธองค์

แม้กระทั่งคนพุทธเองบางคน ยังอาจนึกคิดว่า พระพุทธองค์ทรงสัพพัญญููแต่เหตุใดสอนเฉพาะเรื่องในกำมือเท่านั้น นั้น สำหรับคนทั่วไปยิ่งง่ายต่อการยุให้หลงผิดไปว่า มีสิ่งที่เป็นความจริงที่พระพุทธเจ้าไม่บอกอยู่

แต่เค้ากับบอกได้(โดยผ่านกระบวนการนำสิ่งที่ดีงามในพุทธศาสนาไปเป็นของตัวเอง แบบเกลื่อนกล่นดุจคำที่ว่า อะไรๆ ก็ปรากฎในมหาภารตะนี้ (นักปราชญ์ท่านนั้นเล่นผูกรวมเรื่องต่างๆ ที่ชาวบ้าน(อินเดียรับฟังกันเป็นวัฒนธรรมว่า เป็นจริง)

และในการนี้ ในมหาวิทยาลัยทางพุทธก็มีฝ่ายหนึ่งที่เห็นว่า เพื่อเข้าถึงชาวบ้าน (แบบอินเดีย) พระสามารถสอนสัจจะ แบบที่ชาวบ้านรับได้ เพราะถ้าชาวบ้านยังติดเรื่องอภิปรัชญา(ไม่เหมือนตอนพุทธกาลที่พระพุทธองค์ยังอยู่) แล้วผลักไสคำสอนพุทธศาสนาไปด้วย จะยิ่งร้ายกว่า เพราะชาวบ้านเชื่อในวรรณกรรมทางศาสนาของพราหมณ์ที่ครอบไปกับวัฒนธรรมของเค้าไปแล้ว

ทางพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน จึงมีแนวคิดประดุจดั่งเรื่อง องค์หญิงเมี่ยวซ่าน เจ้าแม่กวนอิม กับโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ซึ่งผูกรวมกันจนเป็นตำนานเดียวกันได้ ไปในทำนองของพระกฤษณะ หรือพระตรีมูรติ

-----

ในทางปฏิบัติ การประจักษ์ทางจิต จะเป็นตัวชี้วัด

แม้ในทางมหายานเอง เมื่อเข้าถึงระดับที่สูง อาศัยเพียงอ่านตำราวรรณกรรมทางศาสนาที่ไม่มีประวัติศาสตร์โลกตามจริงรับรอง คำสอนในตำราและเรื่องราวจะชักนำคนผู้นั้น สู่คำสอนทางศาสนาพุทธที่แท้จริง

-----

หลวงพ่อจรัญท่านเคยกล่าวว่า เห็นไปก็ถามว่าเจ้าแม่กวนอิม แต่อ่านจนจบจึงทราบว่า เป็นเทพธิดามาดูแลแทนเสมือนเป็นเจ้าแม่กวนอิมมาดูแลคนปฏิบัติ ในเรื่องที่อ่าน ไม่ได้แจ้งว่า ตกลงเจ้าแม่กวนอิมมีจริงหรือไม่

ความจริงเรื่องทำนองนี้ ปรากฎในพระไตรปิฏก เมื่อมีคนหนึ่งเหาะไปถามหาพระผู้สร้างจนทั่วจักรวาล มาพบพระพรหม ท่านแอบกระซิบว่า แปลง่ายว่า ท่านถูกคนอื่นยกเป็นพระเจ้า และท่านก็รับสมอ้างไปตามนั้น แล้วไล่ให้ไปถามพระพุทธเจ้า ซึ่งคำสอนหลังจากนั้น คือ คำสอนโดยแท้ของพระพุทธองค์

เมื่อพันปีก่อน เรื่องทำนองนี้ได้เกิดขึ้น โลกทางจิต พระมหาโพธิสัตว์ย่อมไม่อาจปล่อยให้สัตว์โลกหลงไปตามความเชื่อที่ผิด แต่สัตว์โลกที่หลงผิดก็อยู่ในข่ายที่ต้องโปรดเสมอมา พระโพธิสัตว์ทั้งหลายจึงเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง และสัมผัสได้ ไม่ใช่เรื่องแต่ง(แต่มันขาดหลักฐานประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน)

ส่วนพระอมิตาภะ นั้น ขอให้ศึกษาอ่านจริงๆ

ผมสรุปให้เบื้องต้นว่า คือ พระพุทธเจ้า นั้นแหละ แต่เป็นส่วนของคุณของพระพุทธเจ้า และผมยืนยันว่า ผู้อบรมจิตย่อมสัมผัสได้โดยทางปัญญา หรือด้วยญาณปัญญาในระดับใดก็ได้ที่ถึงระดับ

 

เรื่อง อธิษฐานขอขนสัตว์จากนรกให้หมดก่อน

ในกรณีนี้ เราจะปรักปรำ คนที่เขียน "โว÷"
แบบนี้ว่า ไม่รู้จัก ปฐมฌาณ ไม่เคยฝึก
ไม่เคยหัด

อีกทั้งไม่เคยเหน สุญญตา อันมีปัจจัยคือ ตัณหา
รำงับ หรือ เพราะตัณหารำงับจึงว่างจาก
อัตตวาทุปาทาน สำคัญว่ามี สัตว์

ถ้าเคยสัมผัสปฐมฌาณ จะเหนตัณหา ราคะดับ
อย่างถูกต้อง

เมื่อเหนถูกต้อง จะเหนทันทีว่า ขันธ์5 ไม่ได้
อยู่ในอานัติ การปรารภว่า จะบงการขันธ์5
ตน ให้ไปรื้อขนอุปทานขันธ์ภายนอก จึงเปน
เรื่อง เสพยาบ้า แล้วยังซดเหล้าตาม

อมิตาภะ คืออะไร

อมิตาภะ คือ วัฒนธรรมบางอย่าง ที่จักพรรดิ์จีน
บางองค์ บางวงษ์ เลือกใช้แทนลัทธิเต๋า ขงจื้อ

มันเปนวัฒนธรรมประเทศ ที่เราจะไม่ไปก้าว
ล่วง เพราะจะเกิดปัญหาความมั่นคงได้

รูปปั้น สิ่งเคารพ ทุกอย่าง ที่ชุมชนใดอาสัย
กราบไหว้ เปนจารีต เปนการปกครอง การ
ก้าวล่วงจะหมายถึง ก่อสงคราม

ดังนั้น สิ่งเคารพใดมีในชุมชนใด พระพุทธองค์
จะห้ามทำลาย และให้คงไว้ ที่ยังไม่มีก้ให้มี

แต่........

แต่บัณฑิตแท้ๆ จะกำหนดรู้ การสิ้นอุปทานขันธ์
จะมีอย่างไร ไม่มีอย่างไร


อมิตาภะ อมิตาดา กวนอิม จะอะไรก้แล้วแต่
ล้วนมี ตถาคต ในนั้น

คือเอามาระลึกเหนธรรม คือ ความไม่เที่ยง
เปนทุกข์ และ อนัตตา

ถ้าไประลึกเปนธรรมเที่ยง จะเกิดอาการ ไกลวัลย์
ธรรม ที่กระเดียดไปทาง ศาสนาอื่น ไม่ใช่พุทธะ


ปล.ลิง ปฐมฌาณในที่นี้ หมายเอา สมถะวิปัสสนา

ไม่ใช่ สมถะ นอกแนวซึ่งจะตรงกันข้าม คือ เสริม
อัตตากูเก่ง เจอเส้น

 

ถ้าจะ ให้อินเทรนด์ ตอนนี้ก็จะเป็นเรื่อง " ถวายข้าวพระพุทธ ปากน้ำ+คลองสาม+ทั่วเทศ"

วิธีการแก้การจาบจ้วง หรือ บิดเบือน อริยสัจจ4 ให้กลายเป็นเรื่อง รถเข้าพิพิธภัณฑ์
เงินเข้ากระเป๋า โคเดินไปหนองโพให้เขารีดนม"สด"

รัฐบาลยุคนี้ เป็น มวยทางธรรม คือ จะไม่เอา กฏหมายเข้าไปจับ

แต่จะค่อยๆให้ มีการกล่าวถึง สัจจ อย่างไร ธรรมวาที อย่างไร อธรรมวาที
ซึ่ง เราจะไม่ปฏิเสธการทำบุญกับ อธรรมวาที เพราะว่า ลำพัง เทเศษอาหาร
ลงในลำลางน้ำครำ ยังได้อานิสงค์มาก ประสาอะไรกับการทำบุญกับ มนุษย์ทุศีล

เมื่อสาธุชน สนใจพิจารณา หมั่นสดับ อย่างไร ธรรมวาที อย่างไรอธรรมวาที
การใส่ใจเฝ้นหาธรรม ที่เป็น ธรรมวาที จะเกิด

เมื่อเกิดขึ้นมากๆเข้า พวก อธรรมวาที จะค่อยๆ ละอาย แล้ว ลาสิกขาไปเอง

ถ้าเราสามารถทำให้ การแพ้สงคราม (การลาสิกขาไปเอง ของ อธรรมวาที) เกิดขึ้น
จะเป็น การชนะสงครามพระแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ชนิด ถ้ารัฐบาลยิ้มให้ อธรรมวาที
กลุ่มอื่น จะรีบ ลาสิกขาทันที

สงครามพระ จะมีวันจบ ชาววิไล จะเกิดขึ้น

 

ก็น่าแปลกดีนะ ที่ทุกวันนี้ การปฏิบัติธรรมส่วนใหญ่ กลับไปอยู่ฝั่งฆราวาส
มีผู้ได้ญาณ ได้ฌาน ที่มีชื่อเสียง
ฆราวาสบางคน มาเขียนหนังสือธรรมะขาย เขียนวิธีปฏิบัติวิปัสสนา
แต่พระกลับเรียนทางโลก
คล้ายๆกับพระจะแพ้โยม ในเรื่องความสนใจในการปฏิบัติธรรม
กลายเป็นทัพพีไม่รู้รสแกง

 

จะว่าแปลกก็แปลกนะ ครูบาอาจารย์บางท่าน สอน ห้ามถวายข้าวพระพุทธ
ท่านว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้ฉัน แต่พวกผีมันมากินกัน
แต่ถวายดอกไม้ธูปเทียน ท่านไม่ห้าม
ทีนี้ สมมุติว่า การถวายเงินพระพุทธ ได้บุญไหม
เผื่อบุญ ส่งผลเป็นเงินเป็นทอง